![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/Spotify-leaks-lossless-almost-ready.jpg)
ใครที่ชื่นชอบการฟังเพลง โดยเฉพาะคนที่เน้นในเรื่องของคุณภาพเสียงโดยเฉพาะจะต้องรู้จักกับเสียงในรูปแบบ Lossless หรือเสียงที่เป็นการบีบอัดไฟล์แต่ไม่โดนลดทอนความละเอียดแต่อย่างใด ซึ่งก็จะทำให้คุณภาพเสียงดีกว่าไฟล์แบบ Lossy ที่เป็นไฟล์พื้นฐานของแอปสตรีมมิ่งส่วนใหญ่นั่นเอง
ล่าสุดหลังจากที่ทางแอปสตรีมมิ่งยอดนิยมอย่าง Spotify ได้เคยออกมาพูดถึงการฟังเพลงระดับ Hi-Fi ที่จะรองรับความละเอียดเสียงแบบ Lossless มากว่า 3 ปีแล้วและเงียบหายไปนาน ล่าสุดมีภาพหลุดของแอปที่คาดว่าจะเป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่มีการโปรโมทในส่วนของฟีเจอร์ Lossless นี้รวมถึงรายละเอียดบางอย่างให้เราได้เห็นกันแล้วด้วย
![](https://duet-cdn.vox-cdn.com/thumbor/0x0:1920x1300/1080x731/filters:focal(960x650:961x651):format(webp)/cdn.vox-cdn.com/uploads/chorus_asset/file/25431443/Spotify_Lossless_UI_side_window.jpg)
โดยในส่วนของตัวเลือก Streaming Quality นั้นจะมีการเพิ่มตัวเลือกใหม่เข้ามา ก็คือ Lossless ที่เขีบนไว้ว่าจะรองรับความละเอียดเสียงสูงสุดที่ 24-bit/44.1 kHz ไฟล์ FLAC โดยจะมี Bitrate สูงสุดที่ 1,411-2,117 kbps ใช้ Internet ที่ 15.9 MB/min จากเดิมสูงสุดที่แบบ Very High จะมี Bitrate ที่ 320 kbps ใช้ Internet 2 MB/min ซึ่งถือว่าจะมีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นกว่าอย่างชัดเจนแน่นอน แต่ก็ต้องแลกกับการจะใช้ Internet ที่มากขึ้นกว่าตามไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีการระบุให้เห็นว่าจะมีระบบตรวจสอบด้วยว่าอุปกรณ์กับ Internet ที่ใช้รองรับ Lossless หรือไม่ มีระบบให้โหลด Lossless ไว้ฟังแบบ Offline ได้ รวมถึงมีแจ้งเตือนผู้ใช้ด้วยว่าหูฟัง Bluetooth ส่วนใหญ่จะไม่รองรับฟีเจอร์ Lossless ต้องใช้หูฟังแบบสายหรือสตรีมมิ่งผ่านฟีเจอร์ Spotify Connect นั่นเอง
![](https://duet-cdn.vox-cdn.com/thumbor/0x0:1920x1300/1080x731/filters:focal(960x650:961x651):format(webp)/cdn.vox-cdn.com/uploads/chorus_asset/file/25431444/Spotify_Lossless_UI_banner.jpg)
ก็เอาเป็นว่าแม้ว่าเจ้าอื่นจะมีไปนานแล้ว ส่วน Spotify เพิ่งจะมา (แบบทางการก็ยังไม่มานะ) ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ให้ผู้ใช้งานอย่างเราๆ มีตัวเลือกที่มากขึ้น ตอนนี้ก็ได้แต่รอแล้วว่า Spotify จะเปิดตัวฟีเจอร์ Lossless นี้อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่กันแน่ แต่คาดว่าในเร็วๆ นี้แล้วหละครับ
ที่มา : theverge