Sound – เสียง
ความพิเศษที่ทำให้รุ่นพรีเมียมอย่าง E6T และ G6T โดดเด่นกว่า C6T อย่างเห็นได้ชัด คือ การออกแบบระบบเสียงบริเวณฐาน ถึงแม้จำนวนแชนเนลตัวขับเสียงตามสเป็กของ C6T จะมากกว่า E6T ก็จริง (C6T = 4.0-channel vs E6T = 2.2-channel) แต่มิได้มีนัยสำคัญใดๆ ในแง่การส่งเสริมคุณภาพเสียง หากจะให้ความสำคัญสู้มุ่งเป้าไปที่ซับวูฟเฟอร์ในรุ่น E6T/G6T จะส่งผลในแง่การเพิ่มอรรถรสการรับฟังดนตรีและรับชมภาพยนตร์ได้มากกว่า…
น้ำหนักเสียงอาจเป็นจุดอ่อนของลำโพงทีวีหลายๆ รุ่น แต่มิใช่กับ E6T ปริมาณเบสนั้นเกินตัว รายละเอียดเสียงก็กระจ่างชัดเจนดีไม่คลุมเครือ ซึ่งเป็นผลจากการจัดวางตัวขับเสียงให้มีทิศทางยิงออกไปด้านหน้าทีวี เสียงจึงตรงเข้าหาผู้ฟัง ความเพี้ยนต่ำ เหตุนี้การอัพเกรดเพิ่มเติมลำโพงซาวด์บาร์สำหรับทีวีรุ่นนี้จึงอาจไม่มีความจำเป็น ถ้าจะให้ทิ้งขาดคงต้องมองไปที่ลำโพงโฮมเธียเตอร์แล้วแหละ
ข้อสังเกต: ขนาดทีวีที่ใหญ่ขึ้น ส่งผลให้คุณภาพเสียงดีขึ้น ทั้งนี้เพราะปริมาตรส่วนที่ทำหน้าที่เป็นตู้ลำโพง (และอาจรวมไปถึงตัวขับเสียงในบางรุ่น) มีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ซึ่งผลลัพธ์ในประเด็นนี้เป็นไปในทางเดียวกันทั้งรุ่น C6T และ E6T
ถอดรหัสเสียง Dolby Digital และ DTS จากภาพยนตร์ได้ในตัวเสียด้วย
Conclusion – สรุป
หลายท่านอาจมีความสงสัยว่า หากเทียบประสิทธิภาพกันแล้ว รุ่น E6T กับ C6T แตกต่างกันเพียงใด คำตอบคือ ด้านคุณภาพของภาพนั้นแทบจะไม่ต่างกันเลยครับ ดังนั้นหากชอบดีไซน์แบบจอโค้งจะเลือก C6T แทนได้โดยไม่ต้องกังวลว่าคุณภาพของภาพจะลดทอนลง กระนั้นหากคำนึงถึงคุณภาพเสียงและดีไซน์ที่ดูพรีเมียม อย่างไรเสีย E6T ย่อมโดดเด่นกว่า โดยเฉพาะเรื่องเสียงนี่ชัดเจนตั้งแต่วินาทีแรกที่ฟังเทียบกันเลย
จุดเด่นของ LG 65E6T
– แบ่งแยกโหมดภาพที่ให้ความเที่ยงตรงสูง คือ ISF Expert ออกเป็น 2 แบบ เหมาะสำหรับการใช้งานกลางวัน (สภาพสู้แสง) และกลางคืน (หรือในห้องมืด/คุมแสง) จึงเอื้อต่อการใช้งานมากขึ้น ให้ความยืดหยุ่นสูง นอกจากนี้ยังสามารถปรับตั้งค่าภาพโดยละเอียดตามมาตรฐาน ISF ยังผลลัพธ์ที่เที่ยงตรงยอดเยี่ยมเข้าขั้นเพอร์เฟ็กต์
– ได้การรับรองมาตรฐาน UHD Premium, ขอบเขตสีกว้างขวางครอบคลุมมากกว่า 95% ของ DCI-P3, Black Level โดดเด่นดำสนิท ตามสไตล์ OLED TV
– รองรับ HDR ครบครันทั้ง 2 มาตรฐาน คือ Dolby Vision HDR และ HDR10
– มีระบบ TruMotion ซึ่งเมื่อปรับแต่งเอง สามารถบาลานซ์ในส่วนของการเพิ่มความต่อเนื่องไหลลื่น (ประมวลผลแทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหว) และเพิ่มความคมชัด (ลดอาการ Motion Blur) ได้โดดเด่น เกิดปัญหา artifacts รบกวนน้อย ไปจนถึงไม่มีเลย (ขึ้นอยู่กับการให้น้ำหนัก)
– ระบบเสียงมีศักยภาพเทียบเท่า Soundbar ใช้การได้ดีทั้งดูหนัง-ฟังเพลง
– WebOS 3.0 อินเทอร์เฟสสดใสน่าใช้ ตอบสนองรวดเร็วขึ้น, มี Wi-Fi Built-in เพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อรับชมสตรีมมิ่งคอนเทนต์, ฟังก์ชั่น Smart TV ควบคุมผ่าน Magic Remote สะดวกดี
จุดด้อยของ LG 65E6T
– ความเที่ยงตรงของสีสันในโหมด ISF Expert ลดทอนความขลังลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเจนฯ ก่อน โดยดุลสีจะติดเขียวเหลืองอยู่นิดๆ แต่สามารถปรับแก้ได้ในขั้นตอนปรับภาพละเอียด
– ABL (Auto Brightness Limiter) ส่งผลให้การใช้งานในสภาพสู้แสงของ OLED TV ดูไม่เจิดจ้าจะแจ้งมากเท่ากับ LED TV ทว่าในแง่ของคอนทราสต์นั้นชดเชยด้วยระดับ Black Level ที่ดำสนิท ไร้ซึ่งอาการแสงลอดแสงรั่วใดๆ
– อัตราการใช้พลังงานสูงกว่า 4K/UHD LED TV ที่มีขนาดจอภาพเท่ากัน อยู่เล็กน้อย
– น้ำหนักค่อนข้างมาก และตำแหน่งติดตั้งลำโพงแนบชิดกับชั้นวางทำให้การสอดมือในขั้นตอนการยกเคลื่อนย้ายทำได้ลำบาก
คะแนน
คะแนน LG 65E6T 4K/UHD OLED TV
8.9
หมายเหตุ : มาตรฐานคะแนนปี 2016
ราคา LG 65E6T 4K/UHD OLED TV 249,990 บาท