12 Jul 2014
Review

นายใหญ่มาเอง !!! รีวิว LG 60LA8600 Cinema 3D Smart TV ลูกเล่นแพรวพราว


  • lcdtvthailand

ทดสอบความดำและการแสดงรายละเอียดในที่มืด
LED Plus คือชื่อเรียก Edge LED with Local Dimming ของ LG หากท่านรับชมหนังในห้องที่มืดหน่อย ขอแนะนำให้เปิด LED Local Dimming เป็นระดับ “Low” มันจะ “เร่งและหรี่” หลอดไฟสอดคล้องกับ “ฉากมืด-สว่าง” แบบพอดีๆ (ระดับ Low ให้ความสมดุลดีที่สุด) จากการทดสอบหฤโหดจากฉากพระจันทร์ในคืนมืดของ Pioneer การแสดงความดำสงัดของ LA8600 อยู่ในระดับปานกลางเฉกเช่นกับตัว LA6910 และ LA7400 ที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ กล่าวคือดีกว่า LED ที่ไม่มี Local Dimming ทุกตัว แต่ก็ยังไม่เนี่ยนกิ๊กถึงขนาด LED ที่มี Local Dimming ตัวท็อปของค่ายญี่ปุ่น ส่วนการแสดงรายละเอียดในที่มืดอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างดี ทดสอบกับฉากใบหน้าของตาลุงบรูซ วิลลิซ ก็แทบไม่ต้องใช้ฟีเจอร์ปรับภาพตัวอื่นช่วยยกรายละเอียดขึ้นมาเลย

หากดูหนังที่มีฉากมืดๆเยอะในห้องมืดๆ แนะนำเปิด LED Local Dimming เป็น Low
รายละเอียดในที่มืดหรือ Shadow Detail ก็แสดงได้ดีปานกลาง 
ฟีเจอร์ Dynamic Contrast อย่าเผลอได้แตะ พอเปิดปุ๊บรายละเอียดจมกลืนหายปั๊บ T T

ทดสอบภาพ 3 มิติกันบ้าง เริ่มจากหยิบแว่น 3D Polarized ซึ่ง LG ใจดีแถมมาให้ตั้ง 4 อันมาสวมใส่ น้ำหนักเบา ใส่สบาย ไร้การกระพริบใดๆทั้งสิ้น ตอกย้ำความเป็น “จ้าวป่า” ด้วยผลวิจัยที่ว่าการที่เราจะดูภาพ 3 มิติอันดับแรกเลยคือผู้ชมต้อง “ดูได้” ก่อนในที่นี้หมายถึงแว่นตาสวมใส่สบาย ไม่มีสิ่งรบกวนสายตา ไม่มีกระพริบ ดูได้ทุกสภาพแสงทุกสภาพห้อง ดูพร้อมกันได้หลายคนและที่สำคัญต้องดูได้นานๆด้วย แล้วหลังจากนั้นค่อยไปให้ความสำคัญกับปัจจัยอื่นๆเช่นความละเอียดของภาพหรือความถูกต้องของแสงสีเป็นต้น จึงไม่แปลกที่เทคโนโลยี 3 มิติของ LG สามารถ “กุมความได้เปรียบ” เหนือเทคโนโลยี 3D แบบอื่นในแง่ของการใช้งานจริง

3D แบบ Passive หัวใจหลักคือ “การดูได้และดูสบาย” ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ทดสอบจากหนังที่ดูประจำอย่าง Resident Evil : After Life แบบ 3D ไม่ปรุงแต่งฟีเจอร์เพิ่มระดับความลึก-ลอยใดๆทั้งสิ้น มิติภาพอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากเหมือนเดิม ฉากที่นางเอกอลิซกระโดดตีลังกาเอาดาบกระซวกท้องกองทัพ Umbrella มิติภาพกระแทกตา..สะเด่าได้ใจตามคาด ทว่าด้วยความใหญ่ของทีวีระดับ 60″ หากรับชมใกล้ๆเช่น 1.5-2 เมตร ภาพจะไม่ได้คมชัดมากดั่งใจหวังนัก เนื่องด้วยข้อจำกัดของการแบ่งเส้นเลขคู่เลขคี่ของ 3D แบบ Passive ซึ่งจะทอน Resolution ลงไปกว่าครึ่ง ระยะที่เหมาะสมที่ผมค่อนข้างแนะนำคือ 2.5 ถึง 3 เมตรขึ้นไป จะให้ความสมดุลทั้งมิติภาพและความคมชัด โดยส่วนตัวผมคิดว่า 3D แบบ Passive ความละเอียดหน้าจอ Full HD น่าจะเหมาะสมกับขนาดหน้าจอไม่เกิน 55″ ถ้าจอใหญ่กว่านั้นอย่างเช่น 60″ 65″ 84″ ความละเอียดหน้าจอควรจะต้องอัพเกรดเป็น Ultra HD 4K มากกว่า เหมือนที่ตัว 84LM9600 3D Ultra HD TV ทำไว้ได้ดีมาก (เป็น 3D TV ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยดูมา) เปลี่ยนมาดูคอนเทนต์ 3D จากแผ่นทดสอบของ LG เองซึ่งบันทึกมาดีมาก จากเรื่อง Legend of Flight หัวเครื่องบินภาพมีมิติลอยเคว้งออกมาจนแทบจะเอามือยื่นไปจับได้ ก็สร้างความประทับใจให้กับทีมงานที่ร่วมทดสอบแบบอมยิ้มมุมปาก จึงสรุปว่าหากเป็นขนาดใหญ่ถึง 60″ ให้มีระยะห่างในการรับชมไกลขึ้นมาหน่อย แล้วทุกอย่างจะดีเองจ้า

ฉากที่อลิซกระโดดใช้ดาบคู่กระซวกศัตรูยังสะเด่าเหมือนเดิมเลือดพุ่งปรี๊ดๆๆๆเลย

เสียง

คุณภาพเสียงเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามแต่ก็มักมองข้ามเวลาพิจารณาซื้อทีวี ย้อนไปเรื่องพื้นฐานซักนิดนึงคือเมื่อดูทีวีเราเสพภาพผ่านดวงตาและเสพเสียงผ่านรูหูจึงครบองค์ประกอบของการเสพความสุขจากทีวีซักเครื่อง (ยกเว้นว่าท่านใช้ชุดเครื่องเสียงแยก) เจ้า LG LA8600 เองให้ลำโพงมาแบบ 2.1 Channel กำลังขับ 12+12 Watts จุดเด่นมีวูฟเฟอร์มาให้ 1 ลูกด้านหลัง โหมดเสียงสำเร็จรูปก็มีให้เลือกหลายแบบรวมถึงระบบจำลองเสียงรอบทิศทางอย่าง Virtual Surround 

ทดสอบจากการดูหนังเรื่อง Harry Potter : Deadly Hallows Part 2 ฉากลูกไฟบรรลัยกัลป์พุ่งไล่ล่าพระเอกของเรามันจะเฟี๊ยวฟ้าวมากในฉากนี้ น้ำหนักเสียงอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก เบสเป็นลูกกำลังพอเหมาะกับขนาดวูฟเฟอร์ที่ติดมาให้ด้านหลัง ให้ความสดอิ่มก้าวข้ามความแห้งเหือดของทีวีจอ Slim ที่ให้ดอกลำโพงแบบ Slim ไปอย่างหมดจด ส่วนมิติเสียงอยู่ในเกณฑ์ยอดเยี่ยมเช่นกันฉากลูกไฟพุ่งจาซ้ายไปขวา / หน้าไปหลัง ให้ความรู้สึกวนรอบได้ในระดับน้องๆลำโพง Soundbar ในระดับเริ่มต้น หรือแม้กระทั่งฉากแท่งเหล็กที่ตกลงมาเป็นห่าฝนกระแทกกับโล่ห์และชุดเกราะเหล็กในหนังเรื่อง Snow White and The Huntsman ซึ่งปกติหากดูกับทีวีที่มีคุณภาพเสียงแย่ๆฉากนี้จะกัดหูจนฟังไม่ได้เลย แต่ลำโพง LA8600 ก็จัดได้ว่า “เอาอยู่” ในระดับที่น่าพอใจเลยแหละ บอกตามตรงปีนี้ทั้งรุ่น LA6910, LA7400 และ LA8600 ยกระดับมาตรฐานลำโพงของทีวีจาก 2-3 ปีที่แล้วขึ้นไปสู่อีกระดับ ! 

ฉากลูกไฟบรรลัยกัลป์ในหนัง Harry Potter เร่ง Volume เต็ม Max ที่ 100
อาการพร่ามีนิดเดียว แต่เสียงซ่าๆแตกๆนี่แทบไม่มีเลย