Game Mode – การเล่นเกม
มาถึงจุดที่ผมถนัดและเชี่ยวชาญมากที่สุดในรีวิวนี้ก็คือการทดสอบเล่นเกมนั่นเอง ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า LG 48C1 รุ่นนี้ก็ยังเป็นทีวีที่มีฟีเจอร์การใช้งานที่รองรับการใช้งานกับเครื่องเกมทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น PS5, Xbox Series X รวมไปถึง PC สามารถนำมาเล่นกับทีวีรุ่นนี้ และดึงประสิทธิภาพออกมาจากน่าประทับใจ ทั้งการรองรับความละเอียดภาพ 4K@120Hz และเทคโนโลยี VRR ( Variable Refresh Rate ) ทั้ง 2 รูปแบบไม่ว่าจะเป็น G-SYNC Compatible และ FreeSync Premium

นอกจากนี้ LG OLED48C1 ยังรองรับ ALLM (Auto Low Latency Mode) เมื่อเราเปิดใช้งานเครื่องเกมตัวทีวีจะเข้าสู่ Game Mode ให้แบบอัตโนมัติซึ่งจะส่งผลให้การตอนสนองในการเล่นเกมของเรานั้นดียิ่งขึ้น โดยค่า Input Lag ที่ทางทีมงานวัดได้อยู่ที่ 12.4 ms สำหรับการใช้งานแบบ 4K@60Hz
พิเศษในปีนี้ทาง LG ได้ใส่โหมดภาพใหม่ล่าสุดเข้ามาคือ Game Optimizer เป็นหมวดหมู่สำหรับใช้ในการตั้งค่าเล่นเกมโดยเฉพาะ เราต้องเชื่อมต่อเครื่องเกมเข้าไปก่อน ถึงจะสามารถปรับตั้งค่าภาพภายในเกมผ่านหน้าต่างนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น Black Stabilizer ที่ช่วยเพิ่มความสว่างของจุดที่มืดหรือดำจมภายในเกมให้มองเห็นจัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความได้เปรียบสำหรับเกมแนวผีหรือ Survivel Horror ต่างๆ เป็นฟังก์ชันที่สามารถประยุกต์ใช้กับการเล่นเกมได้จริง และเรายังสามารถเปิดฟังก์ชัน FreeSync หรือ G-SYNC ได้ที่หน้าต่างนี้ได้อีกด้วยครับ



ส่วนใครที่เน้นใช้งาน LG 48C1 รุ่นนี้กับการเล่นเกมเป็นหลักแนะนำให้ปรับ HDR Tone Mapping เป็น HGiG ไว้ด้วยจะช่วยให้การแสดงผล HDR จากเครื่องเกมนั้นทำได้ดียิ่งขึ้น และสุดท้ายถือว่าเป็นฟังก์ชันที่ช่วยให้การตอบสนองของทีวีจากเดิมที่ว่าทำได้เร็วอยู่แล้วนั้น เร็วขึ้นไปได้อีกคือ Prevent Input Delay (Input Lag) ยังไงก็ลองเปิดใช้งานกันดู ถือว่ารุ่นใหม่นี้มีอะไรให้ปรับใช้ได้เยอะมาก


Sound – เสียง
จากสเปคเบื้องต้นที่ได้บอกก่อนหน้านี้ LG 48C1 นั้นมีกำลังขับลำโพงอยู่ที่ 40 watts 2.2 ch คุณภาพ และเนื้อเสียงที่ได้ถือว่าน่าประทับใจ เนื้อเสียงมีน้ำหนัก เบสไม่หนาจนเกินไป เสียงกลางเวลารับชมภาพยนตร์หรือรายการทีวีที่มีบทสนทนาพูดเยอะๆ นั้นถ่ายทอดออกมาได้ชัดเจน หากใครต้องการอัพเกรดคุณภาพเสียงที่ดีกว่านี้ จำเป็นต้องมองหาลำโพงหรือซาวด์บาร์ที่อยู่ในระดับกลางค่อนสูงขึ้นไปถึงจะได้คุณภาพของเสียงที่ดีกว่าลำโพงที่ติดมากับทีวี

LG 48C1 สามารถรองรับการถอดรหัสเสียง Dolby Atmos ผ่าน eARC ได้ที่ช่อง HDMI 2 โดยเราสามารถเข้าไปเปิดการใช้ได้ผ่านเมนู Sound > Advanced Setting > eARC Support

โหมดเสียงสำหรับ 48C1 ถือว่ามีหลากหลายมาก โดยในปีนี้ มีการเพิ่มโหมดเสียงสำหรับเกมโดยเฉพาะมาให้ด้วยคือ AI Game Sound จะช่วยเพิ่มความแผ่กว้างของทิศทางของเสียงภายในเกมให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะอยู่ในเมนู Game Optimizer

Conclusion – สรุป
ถือว่า LG 48C1 ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการทีวีที่มีขนาดกำลังพอกับชั้นวาง หรือโต๊ะของเรา จัดเป็นทีวีที่ให้ภาพดำสนิท และสีสันที่โดดเด่น ตามแบบฉบับของทีวี OLED อีกทั้งยังรองรับความละเอียดภาพแบบ 4K@120Hz จัดเต็มไปด้วยฟังก์ชันสำหรับคอเกมไม่ว่าจะเป็นการรองรับ VRR ทุกรูปแบบ และสุดท้ายคือรองรับมาตรฐานภาพ และเสียงในปัจจุบันได้แบบครบถ้วน ผมเชื่อว่าไม่น่ามีเหตุผลไหนที่จะไม่เลือก LG 48C1 ตัวนี้ครับ

ข้อดีของ LG OLED48C1
1. เป็นทีวีขนาด 48” ที่มีมาตรฐานภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอีก 1 รุ่น
2. มี HDMI 2.1 ทั้ง 4 ช่อง รองรับ 4K@120Hz HDR, Variable Refresh Rate (VRR), Auto Low Latency Mode (ALLM) และ eARC 1 ช่อง
3. โหมดภาพ Filmmaker Mode สมดุลสีใกล้เคียงมาตรฐาน แกะกล่องใช้ได้เลย
4. ลำโพงเนื้อเสียงดี ใช้แทนซาวด์บาร์รุ่นเริ่มต้นได้
5. Magic Remote จับถนัดมือมากขึ้น และมีปุ่มช๊อตคัทต์แอปฯ เยอะขึ้น
ข้อเสียของ LG OLED48C1
1. การใช้งานเป็นมอนิเตอร์ ต้องระวังเรื่องการเปิดภาพนิ่งค้างเป็นเวลานาน
2. ไม่มีช่อง AV In แล้ว
3. Google Assistant ยังไม่สามารถใช้งานได้ในเวลานี้ต้องรอเฟิร์มแวร์อัปเดตในอนาคต
คะแนน
คะแนน
8.7
หมายเหตุ : มาตรฐานคะแนนปี 2021
ราคาเปิดตัว LG OLED48C1
48″ 49,990 บาท
55″ 74,990 บาท
65″ 109,990 บาท
77″ 149,990 บาท