![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/S20Ultra_OG2.jpg)
ปี 2020 ดูจะเป็นนิมิตหมายการมาถึงของเทคโนโลยี 8K อย่างเป็นทางการ เพราะนอกจากจะเป็นมาตรฐานที่ใช้ในการถ่ายทอดสด Tokyo Olympic 2020 แล้ว เราจะได้เห็น 8K TV รุ่นใหม่เพิ่มเติมอีกหลายรุ่นหลายยี่ห้อ แต่ที่เรียกเสียงฮือฮาเป็นพิเศษเวลานี้ เห็นจะเป็น Smartphone ที่สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K ได้ !
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samsung_Galaxy_S20_Series-1024x683.jpg)
Smartphone รุ่นแรกที่ได้รับการอัพเกรดเพิ่มเติมความสามารถถ่ายวิดีโอ 8K คือ Samsung Galaxy S20 Series นั่นเอง แบ่งรุ่นย่อยทั้งหมด 3 รุ่น มีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกันเล็กน้อย ที่เห็นได้ชัดภายนอกได้แก่ตัวเลือกสีของบอดี้ ขนาดหน้าจอ และคุณสมบัติของกล้อง แต่ทั้งหมดมีความสามารถถ่ายวิดีโอ 8K ได้
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-38-1024x664.jpg)
Galaxy S20 Ultra 5G คือรุ่นที่ทีมงานจะทำการรีวิวครั้งนี้ ถือเป็นรุ่นท็อป ใช้จอ Dynamic AMOLED 2X ขนาดใหญ่ถึง “6.9 นิ้ว” ความละเอียด 3200 x 1440 (Quad HD+, 511 ppi) พร้อม HDR10+ Certified และ 120Hz Refresh Rate สีของบอดี้มีให้เลือก 2 แบบ คือ Cosmic Black และ Cosmic Gray
ดีไซน์
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-29-1024x683.jpg)
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-37-1024x707.jpg)
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-36-1024x683.jpg)
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-13-1024x671.jpg)
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-9-1-1024x679.jpg)
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-14-1024x686.jpg)
ภาพ
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-15-1024x665.jpg)
จุดเด่นของ S20 Series ทุกรุ่น ใช้จอ Dynamic AMOLED 2X ที่นอกจากสีสดสวย รายละเอียดคมชัด สีดำที่ดำสนิทลึกเข้มแล้ว ยังให้การตอบสนองรวดเร็วระดับ 120Hz อย่างไรก็ดีเมื่อปรับตัวเลือกเป็น High refresh rate (120Hz) ความละเอียดการแสดงผลจะถูกปรับลดลงเป็น FHD+ (2400 x 1080) โดยอัตโนมัติ
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra_resolution-683x1024.jpg)
แม้ว่า S20 Ultra 5G จะมาพร้อมแบ็ตเตอรี่ความจุสูงถึง 5000mAh แต่กรณีที่ต้องการยืดเวลาใช้งานให้นานขึ้นอีก สามารถปรับลดความละเอียดของการแสดงผลลงได้ กำหนดได้ 3 ค่า คือ HD+ (1600 x 720) จะประหยัดพลังงานที่สุด, FHD+ (2400 x 1080) และสุดท้ายคือ WQHD+ (3200 x 1440 Native Resolution)
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-34-1024x656.jpg)
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-39-1024x683.jpg)
ปัจจุบันเกมมือถือทยอยรองรับเฟรมเรต 120FPS จำนวนมากขึ้นเพื่อตอบรับความสามารถของ Smartphone ยุคใหม่ หนึ่งในนั้น คือเกม InJustice 2 ซึ่งผลการเล่นกับ S20 Ultra 5G ให้ภาพเคลื่อนไหวต่อเนื่องบนจอ 120Hz แท้ๆ เป็นประสบการณ์ที่เหนือกว่าการเล่นบนจอ 60Hz ทั่วไปแบบรู้สึกได้ชัด
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samsung_S20_Ultra_5G_Vivid-1024x514.jpg)
ความยอดเยี่ยมของ Dynamic AMOLED 2X ในรุ่น S20 Ultra 5G ไม่ได้มีแค่เรื่องจอใหญ่ และรีเฟรชเรต 120Hz ในแง่สีสันถือว่าโดดเด่นเกินใคร หากปรับโหมดภาพเป็น Vivid จะให้ขอบเขตสีที่กว้างกว่า 100% DCI-P3 ! และยังครอบคลุม Adobe RGB 95.7% เลยทีเดียว หากอิงมาตรฐาน Rec.2020 จะอยู่ที่ 78.1% ในส่วนของค่าความผิดเพี้ยนสี (DCI-P3 Average dE) 4.62 ถือว่าเริ่มต้นมาแววดีเลยทีเดียว
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samsung_S20_Ultra_5G_Natural-1024x514.jpg)
แต่ถ้าต้องการสีสันที่เทียบเคียงมาตรฐานอ้างอิงแบบ sRGB/Rec.709 การเลือกโหมดภาพ Natural ก็นับว่าโดดเด่น ทั้งในแง่ของขอบเขตสี และความเที่ยงตรงของสมดุลสี ค่าความผิดเพี้ยนสี (sRGB Average dE) 2.83 ดีมาก สำหรับค่าเดิมๆ จากโรงงาน
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samsung_S20_Ultra_5G_Vivid-calibrated-1024x514.jpg)
S20 Ultra 5G รองรับการปรับภาพชดเชยความเที่ยงตรงในส่วนของสมดุลแสงขาว (White Balance) แต่จะดำเนินการได้เฉพาะกับโหมดภาพ Vivid เท่านั้น… โดยเป็นการปรับในแบบ 1-point เหมือน Smartphone ของ Samsung รุ่นอื่นๆ แต่ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าพอใจไม่น้อย สมดุลแสงขาวที่ดีขึ้นส่งผลให้ค่าความผิดเพี้ยนสี (DCI-P3 Average dE) ต่ำลงเหลือ 3.94 (จากเดิม 4.62)
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-22-1024x680.jpg)
หน้าจออัตราส่วน 2.22:1 ใกล้เคียงมาตรฐานจอภาพยนตร์ Widescreen Cinemascope 2.35:1 มาก การรับชมจะปรากฏแถบดำบริเวณส่วนบนและล่างเล็กน้อยมาก เมื่อบวกกับขนาดจอที่ใหญ่ถึง 6.9 นิ้ว จึงดูภาพยนตร์ได้ “เต็มตา” กว่ามาตรฐานจอ Smartphone ทั่วไป
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-19-1024x683.jpg)
หน้าจออัตราส่วน 2.22:1 ใกล้เคียงมาตรฐานจอภาพยนตร์ Widescreen Cinemascope 2.35:1 มาก การรับชมจะปรากฏแถบดำบริเวณส่วนบนและล่างเล็กน้อยมาก เมื่อบวกกับขนาดจอที่ใหญ่ถึง 6.9 นิ้ว จึงดูภาพยนตร์ได้ “เต็มตา” กว่ามาตรฐานจอ Smartphone ทั่วไป
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-27-1024x683.jpg)
ความเที่ยงตรงของสมดุลสี บวกกับสีสันที่สดใสแบบ Wide Color Gamut (100% DCI-P3) และการถ่ายทอดระดับความสว่าง (Peak Brightness) ที่สูงถึง 1162 nits ! ย่อมส่งอานิสงส์โดยตรงกับการรับชม High Dydamic Range (HDR) Contents ภาพดูเจิดจรัสเตะตาดีมาก
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra_hdr10plus-1-683x1024.jpg)
การรับชม HDR Contents ด้วย S20 Ultra 5G มีหลายทางเลือก ไม่ว่าผู้ใช้จะดาวน์โหลดคลิป HDR Video จากอินเทอร์เน็ต หรือจะถ่าย HDR Video โดยใช้กล้องหลักของ S20 ด้วยตัวเองก็ได้ รองรับถึงมาตรฐาน HDR10+ เลยทีเดียว ซึ่งการเปิดรับชมผลลัพธ์บนจอ HDR10+ Certified ของ S20 Ultra 5G ย่อมจะได้ศักยภาพที่ดี
หมายเหตุ: ตัวเลือกการบันทึกวิดีโอแบบ HDR10+ ของ S20 Ultra 5G จะไม่สามารถเปิดใช้งานร่วมกับการถ่ายวิดีโอ 8K
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-31-1024x658.jpg)
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra_youtube2-683x1024.jpg)
YouTube ก็แสดงผลแบบ HDR ได้เช่นกัน ในส่วนของความละเอียดสูงสุดที่รองรับ คือ 1440p60 (ต้องปรับความละเอียดการแสดงผลของหน้าจอ S20 Ultra 5G เป็น WQHD+ ก่อน อาจต้องรีสตาร์ทหลังจากปรับความละเอียด 1 ครั้ง)
เพิ่มเติม
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra_camera-1024x683.jpg)
อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ S20 Ultra 5G คือ ความสามารถของกล้อง โดยกล้องหลังมีถึง 4 ชุด (รวม DepthVision Camera) ให้มุมรับภาพที่หลากหลาย ใช้งานได้ยืดหยุ่น โดยกล้องหลัก (Wide-angle) รองรับความละเอียดสูงสุดถึง 108MP ในส่วนของกล้องหน้าเองก็ไม่ธรรมดา รองรับความละเอียดสูงสุด 40MP พร้อมระบบโฟกัสแบบ PDAF ทั้งคู่
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/ezgif-1-1fcb20906342-1024x768.gif)
กล้องหลักแบบ Wide-angle (1.0x) จะให้คุณภาพของภาพดีที่สุดจากทั้งคุณภาพ Optic ของเลนส์ และยังรองรับโหมดถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงถึง 108MP ด้วย กระนั้นกล้องและเลนส์แบบ Ultra Wide (0.5x) ความละเอียด 12MP ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ขาดไม่ได้ เพราะให้มุมรับภาพที่กว้างมาก เชื่อว่าน่าจะได้ใช้ประโยชน์บ่อยครั้ง
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samsung_Galaxy_S20_Ultra_zoom2.gif)
ไม่ใช่แค่ช่วงเลนส์มุมกว้างที่มีประโยชน์ ในส่วนของ Telephoto ความละเอียดสูงสุด 48MP ก็เพิ่มความอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น ที่ระยะซูมมากกว่า 10x ขึ้นไป คุณภาพของภาพจะเริ่มลดทอนลงเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นการใช้ซอฟต์แวร์ช่วยขยายเพิ่มรายละเอียด แต่น่าจะใช้ประโยชน์ได้ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องถ่ายจากระยะไกลมากๆ
ความสามารถด้านการถ่ายวิดีโอของ S20 Ultra 5G นอกจากรองรับความละเอียด 4K/1080p 60Hz พร้อม HDR10+ แล้ว ที่น่าจับตาเป็นพิเศษ คือ รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 8K (7680 x 4320 24Hz) ด้วย ถึงแม้ด้วยข้อจำกัดของขนาดเซ็นเซอร์ Smartphone มีขนาดเล็กว่าเซ็นเซอร์ของกล้องวิดีโอ 8K ที่ใช้งานในสตูดิโอระดับโปรอยู่พอสมควร คุณภาพของวิดีโอที่ได้จึงยังเป็นรองอยู่บ้าง แต่นับว่าเป็นการประเดิมเปิดโอกาสเข้าถึงมาตรฐาน 8K สำหรับผู้ใช้งานตามบ้าน
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samsung_Galaxy_S20_Ultra_8K_crop.gif)
การถ่ายวิดีโอ 8K ด้วย S20 Ultra 5G จะพบว่ามุมรับภาพแคบลงเมื่อเทียบกับตอนถ่าย 4K อันเนื่องมาจากระบบทำการ Crop Sensor เพื่อลดทอน Workload ของโปรเซสเซอร์นั่นเอง แนวทางนี้เพิ่มโอกาสที่จะเห็นสัญญาณรบกวนในภาพบ้าง การถ่ายวิดีโอ 8K จึงเหมาะกับที่สว่างมากกว่าจะใช้ถ่ายในที่แสงน้อย และควรจะใช้ร่วมกับขาตั้งหรือกิมบอล เนื่องจากไม่สามารถเปิดใช้ระบบกันสั่น (Stabilization) เมื่อถ่าย 8K ได้
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra_pro-1024x461.jpg)
การถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ ด้วย S20 Ultra 5G สามารถเปิดใช้งาน Pro Mode ได้ ช่วยให้การกำหนดตั้งค่ากล้องแบบ Manual ทำได้ยืดหยุ่น อาทิ ชดเชยแสง (EV) ปรับ ISO ความเร็วชัตเตอร์ ระยะโฟกัส ฯลฯ แต่น่าเสียดายที่ Pro Mode ไม่สามารถสลับไปใช้กล้อง Ultra-wide และ Telephoto ได้ อีกทั้ง Pro Mode ก็ไม่รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K ด้วย แต่คงไม่เป็นปัญหาเนื่องจากระบบ Auto ก็นับว่าให้ผลลัพธ์ได้ดี ในส่วนของการถ่ายภาพนิ่งจะมีระบบ AI ช่วยในการปรับแต่งสีภาพให้อัตโนมัติ
หมายเหตุ: กรณีที่ต้องการเซฟภาพนิ่งแบบ RAW File เพื่อนำไปแต่งภาพเพิ่มเติมภายหลัง จะทำได้เมื่อเปิดใช้ Pro Mode เท่านั้น ทั้งนี้ภาพต้นฉบับจาก RAW File (.DNG) ที่ได้ จะมี Resolution เท่ากับ 12MP
สรุป
![](https://www.lcdtvthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Samung_Galaxy_S20_Ultra-28-1-1024x696.jpg)
Samsung Galaxy S20 Series ปฏิวัติวงการด้วยการเป็น Smartphone เครื่องแรกที่ถ่ายวิดีโอระดับ 8K ได้ และสามารถเล่นไฟล์วิดีโอ 8K 24-30 fps และส่งสัญญาณภาพแบบไร้สาย (Smart View) ไปรับชมกับ 8K TV ได้ ถือเป็นการตอบรับกระแส 8K ที่กำลังจะเปิดตัว TV และจำนวนความหลากหลายของคอนเทนต์ที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นในปีนี้
ราคา Samsung Galaxy S20 Ultra 5G : 39,900 บาท