ภาพ
อย่างที่เกริ่นไปเมื่อซักครู่ว่าคุณภาพของภาพของ Sony LCD TV 32 BX350 อาจจะมิได้มีอะไรแปลกพิสดารมากนัก เพราะเป็นตัวราคาประหยัด เน้นการใช้งานพื้นฐานเป็นหลัก จึงขอกล่าวถึงสเป็คด้านภาพแบบคร่าวๆเริ่มจากใช้ชิพประมวลผล BRAVIA Engine 3 มีลูกเล่นการปรับภาพเสริมอย่าง Live Colour และ Advanced Contrast Enhancer ช่วยยกระดับคุณภาพของภาพให้ดีขึ้นอีกระดับ มี Eco Mode (Power saving) เป็นโหมดประหยัดไฟ และที่สำคัญมีโหมดภาพสำเร็จรูปที่ใช้งานง่ายอย่างโหมด Scene ที่รวมรวมโหมดภาพในแบบต่างๆให้สอดคล้องกับประเภทรายการที่รับชมอยู่ จึงค่อนข้างเหมาะกับ “มือใหม่ LCD” เป็นอย่างมาก
Picture Mode :: โหมดภาพ
โหมดภาพจากโรงงานที่ให้มามี 3 โหมดด้วยกันได้แก่ Vivid / Standard / Custom ซึ่งโหมดที่ผมใช้เลือกรับชมจริงก็คือ Standard เอาไว้รับชมในตอนกลางวัน มีสีสันที่สดสว่างพอใช้ได้ มิได้ติดหยาบกร้านแบบโหมด Vivid ซึ่งเป็นโหมดสว่างสดใสที่สุด จึงเหมาะสมกับไว้ใช้เปิดโชว์เพื่อขายทีวีมากกว่าการนำมารับชมในบ้านกันแบบจริงจัง อุณหภูมิสีจะมีค่าเป็นกลาง คือไม่อุ่นไม่เย็น เน้นดูฟรีทีวีหรือหนัง Blu-ray / HD / DVD ทั่วไป ในขณะที่โหมด Custom จะออกแนวนวลสบายตา ไม่คมและไม่ได้เน้นจัดจ้าน อาจจะสว่างไม่มาก อุณหภูมิสีจะออกไปแนวโทนอุ่นเฉกเช่นโรงหนัง แนะนำสำหรับการรับชมช่วงกลางคืนหรือปิดไฟมืดสลัวๆ
Scene :: โหมดภาพและเสียงสำเร็จรูป
ปุ่ม Scene เป็น “ปุ่มลัด” (Hot Key) จะอยู่บนบริเวณล่างปุ่ม Home สีฟ้าๆ ของรีโมทคอนโทรล จัดได้ว่าเป็น “ปุ่มวิเศษ” สำหรับนักเล่นมือใหม่ เพราะจะรวมรวมโหมดภาพและเสียงที่สอดคล้องกับประเภทรายการ อาทิเช่น โหมด Photo / Cinema / Game / Sports / Graphics (สำหรับต่อคอมพิวเตอร์) เช่นหากเรากำลังรับชมรายการกีฬาอย่างฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอยู่ อยากจะปรับภาพและเสียงให้ได้บรรยายกาศความเป็นกีฬามากขึ้น วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการใช้ปุ่ม Scene นี่แหละครับพี่น้อง ให้เลือกไปที่ Sports เลย ไม่ต้องเสียเวลางมโข่งปรับค่าภาพต่างๆให้งงงวย ขอแนะนำอย่างยิ่งหากต่อเล่นกับเครื่องเกมส์ ก็ให้ปรับ Scene ไปที่ Game สีสันกำลังดี สบายตา ป้องกัน Input lag รวมถึงการต่อใช้จอทีวีเป็นมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์ ก็ให้ปรับ Scene ไปที่ Graphics เพื่อให้ตัวอักษรคมชัด ไม่เรืองขึ้นขอบวุ้นและมีระดับความสว่างที่พอเหมาะช่วยถนอมสายตา
ทดสอบคุณภาพของภาพ
อย่างที่ได้เกริ่นเอาไว้ในตอนแรกคือผมได้แผ่นหนังมาใหม่ 2 เรื่อง ได้แก่ Law Abiding Citizen นำแสดงโดย เจอร์ราร์ด บัทเลอร์ และ Source Code นำแสดงโดยเจค จิเลียนฮาน โดยหนังทั้ง 2 เรื่องนี้ผมมีโอกาสได้ดูที่ True Vision และ ดูที่โรงหนัง ตามลำดับ เลยขอมาดูกับ LCD TV อีกซักรอบครับ เพราะผมยกให้ทั้งคู่เป็นหนังในดวงใจของผม เริ่มจากเรื่อง Law Abiding Citizen เรื่องราวของสามีซึ่งมีมันสมองสุดอัจฉริยะเรื่องการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งครอบครัวของเขาได้แก่ภรรยาและลูกถูกฆาตรกรสังหารอย่างเหี้ยมโหด 10 ปีให้หลังฆาตกรก็พ้นโทษออกจากคุก ซึ่งจริงๆน่าโดนประหารไปตั้งแต่แรก แต่เนื่องจากช่องโหว่ของกฎหมายและการทำงานไม่เต็มสูบของทนายความ จึงทำให้โดนเพียงแค่โทษจำคุกเท่านั้น โดยผมเน้นไปที่ฉากพระเอกของเรื่องวางแผนไล่สังหารผู้มีส่วนร่วมกับการฆาตกรรมนี้ แนวภาพออกเป็นแนวนุ่มนวล ออกแนวสบายตา สีสันไม่ได้สดจ้าจ้านหรือโดดเด้งแบบทีวีระดับราคาแพง หากอยากเพิ่มความความจัดจ้านก็สามารถเพิ่มค่า Picture (Contrast) หรือ Live Colour เพื่อความสดของภาพอีกซักเล็กน้อย รายละเอียดหรือดีเทลของภาพอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง รวมถึงรายละเอียดในที่มืด ซึ่งโทนภาพแนว Soft Tone แบบนี้อาจจะสื่อเข้าถึงอามรณ์อันแท้จริงของหนังได้บ้างในระดับนึง แต่ก็ยังไม่ถึงกับเต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนรุ่นใหญ่กว่าอย่าง CX520 / EX520 ของปี 2011 จึงถือว่าคุณภาพของภาพยังเป็นรองรุ่นที่ราคาสูงกว่าแบบสังเกตได้ เป็นไปตามตามกลยุทธ์การแบ่งเกรดสินค้าทีวีของ Sony หรือที่ศัพท์ทางการตลาดเรียกว่า Product Segmentation จึงมิได้แปลกใจเสียเท่าไหร่นัก
ในขณะที่เรื่อง Source Code เกี่ยวกับทหารซึ่งร่างกายได้ตายไปแล้ว เหลือแต่เพียงเซลล์สมองอันน้อยนิด ถูกจำลองให้ทำภารกิจ “ล่าฝัน” แต่อย่าเข้าใจผิดว่าเป็น Academy Fantasia นะครับ แต่เป็นการจำลองให้ไปอยู่ในร่างของผู้ชายอีกคนเพื่อคอยสืบหาผู้ก่อการร้ายที่วางแผนระเบิดขบวนรถไฟ และเขาก็จะมีเวลาเพียงแค่ 8 นาทีเท่านั้นก่อรถไฟจะระเบิด หากเขาทำไม่สำเร็จก็จะถูกให้ “ทำซ้ำ” ภารกิจแบบนี้ไปเรื่อยๆ ใบหน้าในโหมดภาพอย่าง Custom => Cinema ให้ความเป็นธรรมชาติสูง รายละเอียดบนใบหน้าอาทิเช่นรูขุมขน สิว ไฝ ฝ้า สามารถถ่ายทอดออกมาได้น่าพอใจระดับนึง แต่ก็ไม่ถึงขนาดระเอียดยิบทุกอณู อย่าลืมว่าเจ้า 32BX350 มีความละเอียด 1366 x 768 แบบ HD Ready เท่านั้น มิเช่น Full HD 1920 x 1080 แต่อย่างใด เรื่องภาพเคลื่อนไหวใช้คำว่าสูสีกับทีวีราคาระดับเดียวกันคือสามารถป้องกัน Ghost ได้ดีปานกลาง มิได้มีร่องรอยของ “เงาตามหลัง” ปรกฏให้เห็นอย่างเด่นชัดในฉากที่ตัวละครหรือวัตถุเคลื่อนไหวเร็วๆแต่อย่างใด