กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียวฉันใด บ้านของท่านย่อมใช้เวลามากกว่าสองวันแน่ๆด้วยเหตุนี้กว่าจะมาเป็นบ้านแต่ละหลังจะต้องผ่านขั้นตอนหลายแบบทั้งๆที่เกี่ยวกับลูกค้าและก็กลุ่มผู้ออกแบบ ด้วยเหตุผลดังกล่าวเพื่อเป็นหลักสำหรับในการให้บริการของนักออกแบบในการปฎิบัตวิชาชีพ และก็เพื่อแก้ปัญหาข้อโต้เถียงระหว่างเจ้าของงานรวมทั้งคนเขียนแบบ สัมพันธ์นักออกแบบไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ระบุวิธีการบริการขั้นต้นของสถาปนิกกับงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสารประกอบที่ลูกค้าพึงได้รับตามมารตราฐานในแต่ละแนวทางการทำงานเพื่อให้ลูกค้าหรือผู้ว่าจ้างใช้เป็นแถวทางพื้นฐานก่อนตกลงดำเนินการหรือใช้เป็น checklist ตรวจดูงานที่ท่านจะได้รับขณะที่กำลังทำงานโดยสามารถแบ่งได้เป็น 6 ขั้นตอนดังต่อไปนี้ครับผม

1. การวางเค้าเรื่องการออกแบบและก็การออกแบบร่างขั้นต้น
เป็นอันดับแรกของดำเนินการดีไซน์ เพื่อหาบทสรุปลักษณะสถาปัตยกรรมเบื้องต้นจากข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้ามาใช้ระบุเป็นแถวคิดหลักสำหรับการออกแบบ (Design Concept)แล้วก็ปรับปรุงมาเป็นแบบร่างซึ่งบ่งบอกถึงรูปร่างขนาด ความเกี่ยวพันทางองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม แล้วก็อุปกรณ์โดยสังเขป ในขั้นตอนนี้คนเขียนแบบจะเรียนข้อมูลตามข้อมูลที่เจ้าภาพให้ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับ บทบัญญัติทางกฎหมายที่เกี่ยวกับแผนการแล้วก็จัดวางเค้าโครงการออกแบบพร้อมทั้งดีไซน์ร่างขั้นต้เพื่อเสนอต่อเจ้าของ โดยเอกสารที่จะพรีเซนเทชั่นจะมี

- แบบร่างแผนผังรอบๆแสดงความเกี่ยวเนื่องของออกแบบอาคาร หรือกรุ๊ปออกแบบอาคารกับรอบๆข้างเคียง
- แบบร่างตัวออกแบบอาคารประกอบด้วยแบบแปลนออกแบบอาคารคร่าวๆทุกชั้น รูปด้านและรูปตัดออกแบบอาคารโดยสังเขป
- เอกสารต้องอื่น ประกอบการพินิจประมาณราคาค่าก่อสร้างเบื้อต้นตามขั้นตอนนี้

2. การออกแบบร่างคราวสุดท้าย
เป็นแนวทางการพัฒนางานออกแบบให้สอดคล้องกับความจำเป็น หรือข้อมูลที่เปลี่ยนระหว่างการเสนอแบบ เพื่อเสนอต่อลูกค้าหรือเจ้าภาพให้ตรงตามความจำเป็นมราที่สุดขอรับ สถาปนิกจะใช้ข้อมูลที่ได้ับอนุมัติเตียนจากการออกแบบร่างขั้นต้นข้อที่ 1 เพื่อใช้สำหรับการออกแบบร่างคราวสุดท้าย พรีเซ็นท์เจ้าของงานถัดไป เอกสารที่คนเขียนแบบเสนอให้ผู้ครอบครองเห็นดีเห็นชอบและก็ขอนุมัว่ากล่าวตามขั้นตอนนี้มี
- แบบร่างผังรอบๆแสดงความเกี่ยวพันของออกแบบอาคาร หรือกรุ๊ปของออกแบบอาคารใกล้กัน ตลอดจนความสำพันธ์ของระบบสาธารณูปโภคใกล้เคียงที่จำเป็นต้อง
- แบบร่างตัวออกแบบอาคารประกอบด้วยเนื้อหาของแบบแปลนทุกชั้น รูปตั้ง รูปตัด แล้วก็แบบอื่นเท่าที่จำเป็น
- แบบร่างแสดงระบบวิศวกรรมทุกสาขาที่เกี่ยวข้องกับงาน
- เนื้อหาอุปกรณ์แล้วก็เครื่องใช้ไม้สอยที่จะใช้สำหรับแผนการนี้โดยสังเขป
- เอกสารอื่นๆที่จำเป็นเพื่อประกอบกิจการไตร่ตรอง
- ประมาณราคาก่อสร้างตามขั้นตอนลำดับที่สองที่มีเนื้อหามากยิ่งขึ้น


3. การพัฒนาแบบก่อสร้าง รวมทั้งเอกสารสำหรับขออนุญาติและ การก่อสร้าง
หลังจากดีไซน์ร่างขั้นตอนสุดท้าย ได้รับอนุมัติจากเจ้าของเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของงานแล้วคนเขียนแบบจะทำเนื้อหาเพื่อเป็นเอกสารประกอบกิจการขออนุญาติก่อสร้าง โดยแบบดังที่กล่าวมาแล้วจะไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบปฎิบัติ กฎเกณฑ์แคว้น รวมทั้งองค์กรณ์แคว้นควบคุม พร้อมทั้งมีรายละเอียดก่อสร้าง รายการประกอบแบบ( Construction specification) และเอกสารเสริมเติมอย่างเพียงพอ เพื่อการก่อสร้างดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบยิ่งกว่านั้นแบบดังที่กล่าวถึงมาแล้วนี้ยังใช้ประกอบเป็นเอกสารประกวดราคา แล้วก็การตกลงจ้างผู้รับเหมาอีกด้วย เอกสารที่คนเขียนแบบจะส่งให้แก่ลูกค้าค้างมขั้นตอนนี้ประกอบด้วย
- แบบสถาปัตยกรรม (สำหรับขออนุญาติก่อสร้าง) ประกอบด้วย
- แบบแสดงผังบริเวณ รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคข้างนอกออกแบบอาคาร
- แบบแสดงแปลนทุกชั้น
- แบบแสดงรูปด้าน 4 ด้น
- แบบแสดงรูปตัดอย่างต่ำ 2 รูป
- แบบแสดงเนื้อหา และก็แบบขยาต่างๆที่จำเป็นต้อง
- แบบวิศวกรรมองค์ประกอบและพร้อมเนื้อหา และรายการคำนวณ(สำหรับขออนุญาติก่อสร้าง)
- แบบวิศวกรรมสาขาอื่นๆท่เกี่ยวข้องหรือสาขาที่ตกลงกัน พร้อมเอกสรที่จำเป็น
- รายการประกอบแบบก่อสร้างทุกงาน (งานสถาปัตยกรรมรวมทั้งวิศวระบบต่างๆ) อย่างละเอียด
- ประมาณราคากลางค่าก่อสร้างดยละเอียด

4.การประกวดราคารวมทั้งการคัดสรรผู้รับเหมา
สถาปนิกจะให้ความร่วมมือสำหรับในการประกวดราคาดังนี้
- จัดทำประมาณการราคากึ่งกลางค่าก่อสร้าง (ถ้าหากทำตกลงไว้ล่วงหน้า)
- จัดทำเอกสารประกวดราคา (แม้ทำตกลงไว้ล่วงหน้า)
- ให้คำแนะนำสำหรับเพื่อการตรวจสอบใบเสนอราคาของลูกจ้างก่อสร้าง
- ให้คำแนะนำในการเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง
- จัดเรียมเอกสารข้อตกลง

5.การก่อสร้าง
นักออกแบบจะให้ความร่วมมือสำหรับการก่อสร้างเพื่อการก่อสร้างดำเนินไปตามความจำเป็นสำหรับในการดีไซน์ และก็ตามเอกสารข้อตกลงดังนี้
- ตรวจทานการปฎิบัติงานของลูกจ้างก่อสร้างในสถานที่ก่อสร้างเป็นครั้งคราว และก็รายงานให้ลูกค้าทราบ ในแขนณ๊ที่ต้อง
- ให้คำปรึกษาแก่ผู้รบจ้างก่อสร้าง เพื่อให้การก่อสร้างดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย
- ให้คำปรึกษา และแนะนำแก่ผู้ควบคุมงานของลูกค้า เพื่องานก่อสร้างดำเนินไปตามความมั่นหมายสำหรับการวางแบบรวมทั้งเอกสารสัญญา
- ให้ข้อมูลเพิ่มเติมตามสิ่งที่มีความต้องการ
- ตรวจรวมทั้งอนุมัติแบบใช้งานแล้วก็วัสดุอุปกรณ์ แบบอย่างที่ผู้รับจ้างก่อสร้างพรีเซนเทชั่น

6.การมอบเอกสาร
คนเขียนแบบจะส่งมอบเอกสารตามข้อ 3 โดยมอบเป็นแบบแปลนปริมาณ 10 ชุด แล้วก็เอกสารรายการประกอบแบบจำนวน 10 ชุด ให้ลูกค้าประกอบการใช้งาน ตัวอย่างเช่น ขออนุญาติ ประมูลราคาก่อสร้าง แต่ว่าในกรณีที่เจ้าของงานต้องการเอกสารมากว่าที่กำหนด สถาปนิกจะเบิกค่าใช้สอยสำหรับในการจัดทำเอกสารเพิ่มจากลูกค้าครับ

7. งานที่ไม่ครอบคลุมค่าบริการ
นอกจากงานแบบดังกล่าวแล้ว ยังมีงานหนเกี่ยวพันกับการจัดเตรียมและก็การก่อสร้างอื่นๆซึ่งไม่อยู่ในข้อจำกัดการให้บริการของคนเขียนแบบ แม้กระนั้นแม้ลูกค้าต้องการคนเขียนแบบจะช่วยจัดการให้โดยคิดค่าใช้จ่ายตามจริง หรือเป็นราคาที่ตกลงกันเองระหว่างลูกค้าและก็ลูกจ้างดำเนินงานนั้น ดังเช่นว่า
- การขออนุญาติก่อสร้างต่อทางการ สถาปนิกจะตระเตรียมเอกสารให้ลูกค้าและก็บริการยื่นให้ลูกค้า แต่ค่าธรรมเนียมแล้วก็รายจ่ายอื่นๆเป็ความรับผิดชอบของลูกค้า
- แนวทางการทำหุ่นขนาดใหญ่อย่างละเอียด
- การออกแบบตกแต่ง
- การควบคุมงานก่อสร้าง
- การจัดการการก่อสร้าง
- การรังการปฏิบัติวจสอบที่ดิน หรือหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวพันกับที่ดินหรือทรัพย์สินอื่นๆในที่ดินนั้น
- การเจาะตรวจสอบคุณภาพดินสำหรับเพื่อการรับน้ำหนัก (soil Test)

แนวทางพวกนี้ท่านสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบสัญญาหรือข้อตกลงว่าจ้างนักออกแบบได้ทุกระดับออกแบบอาคาร เพื่อท่านมั่นใจว่าท่านจะได้รับงานและก็บริการจากคนเขียนแบบอย่างไรบ้าง และก็เพื่อความสุขใจระหว่างการทำงานด้วยกันทั้งสองฝ่ายครับผม

ขอบคุณบทความจาก : http://999starthai.com/th/design/

Tags : ออกแบบอาคาร

ในตอนนี้คอมพิวเตอร์ราคาถูกมากมาย แต่สำหรับคนที่งบน้อยจริงๆก็ยังเพียงพอจะมีทางเลือกสำหรับเพื่อการซื้อหาคอมพิวเตอร์มือสองราคาอดออมไว้ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอมพิวเตอร์มือสองจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการนำเข้ามาทำตลาดเยอะพอควรในบ้านพวกเรา
 
 คอมพิวเตอร์มือสองเหล่านี้ประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการผลิตค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ที่พวกเราสั่งประกอบ เนื่องจากได้รับการพิจารณาคุณภาพอย่างดี การออกแบบดีกว่า แข็งแรงกว่า หลายเครื่องเป็นเครื่องโชว์ไม่ได้ใช้งานหนักมากเท่าไรนัก
 
 ตัวอย่าง Fujitsu รุ่น FMV-B8200 เครื่องนี้ ผลิตเมื่อปี 2005 รองรับการใส่แรมได้ 2 Gb แบตเตอรี่ยังอึดได้ 3 ชั่วโมง รองรับการต่อว่าดตั้ง Windows XP/7 และ 8 ปัจจุบัน ส่วนจุดด้วยก็คือ ต้องสำรองเครื่องมือบางตัวไว้ ยกตัวอย่างเช่น ฮาร์ดดิสก์ เพราะเหตุว่าใช้ขนาดเล็ก หายาก การใช้งานเครื่องมือสองแบบนี้ จะต้องสำรองไว้เผื่อเสีย เครื่องนี้รวมราคาซื้อเมื่อสองปีที่แล้วอยู่ที่ 5500 บาท ปัจจุบัน (พ.ค 2556) จากที่เดินตรวจในเซียร์มองเห็นอยู่ราคาราวๆ 3500-4000 ยังมีขายอยู่บ้าง แต่ก็หายาก
 
 นี่แค่ยกตัวอย่างครับ เป็นลู่ทางสำหรับผู้ที่ไม่มีเงินมากสักเท่าไรนัก (แต่ว่าถ้าหากมีเงินมากๆก็ละเลยไปเลย) แต่ว่าอยากได้โน้ตบุ๊คที่ไว้ใจได้ ไว้ใช้งานสักเครื่อง เพราะว่าถ้าเกิดเราเน้นย้ำใช้งานทั่วๆไปเพียงแค่นั้น โน้ตบุ๊คมือสองดีๆเหล่านี้ หาซื้อได้ตั้งแต่ราคาราวๆ 3000 บาทขึ้นไปเพียงเท่านั้น เลือกเฉพาะแบรนด์ดีๆอย่าง IBM, Fujitsu, Toshiba รับประกันไม่เสียอารมณ์แน่นอน
 
 นอกเหนือจากโน้ตบุ๊คมือสองแล้ว คอมพิวเตอร์มือสองก็เช่นเดียวกัน ถ้าเกิดเน้นใช้งานปกติทั่วไป ท่องเน็ต ฟังเพลง พิมพ์รายงาน แช็ต ก็มีคอมพิวเตอร์มือสองราคาเบาๆให้เลือก เสนอแนะให้เลือกโดยเพิ่มแรมอย่างต่ำ 2 Gb ซึ่งโดยมากที่มองเห็นวางขายในเซีร์ยรังสิต เสป็คเท่าที่มองเห็นรองรับการตำหนิดตั้ง Windows 8 ได้สบายๆนั่นก็มีความหมายว่าด้วยงบประมาณที่ 5-6000 บาท รวมทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ได้เครื่องคุณภาพดีกว่าองค์ประกอบแน่ๆ เน้นย้ำแบรนด์ดีๆด้วยเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น Fujitsu, Lenovo, Dell ฯลฯ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : .com/items/17407558]รับซ่อมคอม

ที่มา : .com/items/17407558]https://www.[^_^].com/items/17407558

การวางแผนงานแต่งงาน ของชำร่วยมักเป็นเยี่ยมในสิ่งที่ถูกทิ้งไว้ทำในลำดับท้ายๆและก็กว่าจะถึงเวลาตกลงใจว่าของชำร่วยแบบไหนถึงจะเหมาะกับงานแต่งงานก็ถึงช่วงปลายท้ายที่สุดของงบประมาณของงานสมรสแล้ว คู่สมรสหลายคู่มีแรงกดดันสำหรับในการที่จะเลือกของแจกที่น่าสนใจพอเพียงสำหรับแขกที่มาร่วมงานสมรส และหลายๆคู่ชีวิตก็อยากได้ของแจกที่แปลกใหม่ ไม่ใช่ของที่เคยได้รับมาก่อนซึ่งอาจมองซ้ำๆซากๆน่ารำคาญเกินไปสำหรับงานมงคลสมรสที่เป็นพิเศษของตนเอง
 
 1. หลอดที่สลักใจความ
 
 คู่แต่งงานสามารถสลักชื่อของตัวเองและก็วันเวลาอันแสนพิเศษลงบนหลอดแก้ว ที่แขกสามารถใช้ดูดในงานมงคลสมรสและก็เก็บเอาไว้ใช้หลังจากงานมงคลสมรสได้
 
 2. ภาพล้อเลียน
 
 ภาพล้อเลียนบางทีอาจมองเป็นสิ่งซึ่งสามารถแสดงถึงเอกลักษณ์ของคู่แต่งงานและแขกที่มาร่วมงานได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังบางทีอาจได้เสียงหัวเราะตามมาด้วยภายหลังจากได้เห็นภาพล้อเลียนของตนเองแล้วก็แขกผู้อื่นในงานแล้ว ลองว่าจ้างนักแสดงรวมทั้งจัดให้อยู่ในฝ่ายต้อนรับของงานสำหรับเพื่อการวาดรูปแขกที่มาร่วมงานเพื่อให้แขกสามารถนำภาพล้อเลียนของตนเองกลับไปอยู่บ้านได้หลังจากงานเลี้ยงแต่งงานจบลงดั่งของชำร่วย ซึ่งบางครั้งก็อาจจะส่งผลให้เกิดความชอบใจแล้วก็การกล่าวถึงความซาบซึ้งที่น่าดึงดูดภายหลังจากงานแต่งงานจบลง
 
 3. ป้ายติดกระเป๋า
 
 ของชำร่วยนิดๆหน่อยๆแต่สามารถติดตามการเดินทางของแขกที่มาร่วมงานไปได้ทุกๆที่เมื่อเดินทาง แขกจะสามารถจำงานสมรสได้ตลอดเวลาที่พวกเขาเดินทางพร้อมกระเป๋าแล้วก็ป้ายติดกระเป๋าเหล่านี้ บางทีอาจสั่งป้ายชื่อติดกระเป๋าพวกนี้ในสีแบบเดียวกับสีหลักของงานมงคลสมรสและเขียนชื่อของแขกแต่ละคนชื่อต้นและก็ชื่อสกุลเอาไว้บนป้ายเพื่อสร้างความจดจำและก็ความซาบซึ้งให้กับแขกทุกคนที่มาร่วมงาน
 
 4. เทียน
 
 เทียนเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรคิดถึงในงานสมรสรวมทั้งเป็นสิ่งที่ง่ายสำหรับในการนำกลับไปใช้ที่บ้าน หลังจากเทียนโดนเผาไหม้กระทั่งหมด แก้วที่รองเทียนยังสามารถล้างเก็บรวมทั้งทำเป็นแก้วสำหรับประดับประดาที่ครัวหรือเอารองน้ำก็ได้
 
 5. อาหารหวาน
 
 เพิ่มความหวานให้แขกด้วยการส่งแขกกลับบ้านด้วยอาหารหวานแสนอร่อยเป็นต้นว่า คุ้กกี้ ลูกกวาดนานัปการสี นานาประการรส หรือจะเป็นกล่องใส่ช็อกโกแลตที่งดงามหรือสวยสักกล่อง และอาจเพิ่มเอกลักษณ์ลงไปในกล่องช็อกโกแลตแต่ละกล่องอย่างใส่เสียงของเจ้าบ่าวเจ้าสาวลงไปยกตัวอย่างเช่น "ขอบพระคุณที่มางานสมรสของเรา"
 
 6. น้ำชา
 
 แขกหลายท่านบางทีอาจเคยทราบเกี่ยวกับโต๊ะขนมหวาน แต่ทดลองกลายเป็นโต๊ะน้ำชาเพื่อสุขภาพสำหรับให้แขกนำถุงชากลับบ้านแทน ไม่ว่าจะชาสมุนไพรหรือชาดอกไม้ที่มีสีกับสีของงานสมรสหรือสื่อถึงความเป็นตัวของตัวเองของคู่บ่าวสาว แขกแต่ละคนสามารถผสมชาของตนเองและก็นำถุงชาที่ตนเองอยากได้กลับบ้านไปได้ตามความจำเป็น
 
 7. ไวน์
 
 สำหรับคู่บ่าวสาวที่มีงบประมาณเพียงพออาจทดลองเปิดบาร์ในงานสมรส แล้วนำไวน์มาทำเป็นของฝากสำหรับแขกที่มาร่วมงาน พากเพียรทำให้แขกรู้สึกรื้นเริงรวมทั้งโปรดปราณกับสิ่งที่ได้รับ รวมทั้งอาจเพิ่มการบริการสำหรับแขกที่ต้องพักที่โฮเต็ลภายหลังงานมงคลสมรสจบลงด้วยการวางขวดน้ำส้มในห้องพักเพื่อแขกสามารถดื่มเพิ่มความสดชื่นได้ข้างหลังงานมงคลสมรสในตอนเวลาเช้า
 
 8. เครื่องเพชรพลอย
 
 เครื่องเพชรพลอยตามเทศกาลเป็นสิ่งน่ารักที่สามารถนำไปห้อยถึงที่เหมาะต้นคริสมาสต์หรือตามที่ต่างๆเพื่อเป็นที่ระลึกถึงงานแต่งงานที่สวยของบ่าวสาว และก็อาจจะเป็นผลให้ดูพิเศษขึ้นด้วยการบรรจุเครื่องเพชรพลอยเหล่านี้ลงในกล่องสวยๆสำหรับให้แขกนำกลับบ้าน
 
 9. เครื่องเทศ
 
 ลองเพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ร้ายป้ายสีเชื่อมั่นในตัวเองลงในขวดเครื่องเทศสำหรับทำเป็นของชำร่วยสำหรับงานแต่งงาน โดยอาจบรรจุเครื่องเทศตามฤดูกาลลงในขวดแล้วก็วางแบบขวดที่ใส่อย่างงดงามด้วยการใส่รูปล้อเลียนของคู่รักรวมทั้งคำพรรณนาเกี่ยวกับงานมงคลสมรสลงไปบนขวดเครื่องเทศ
 
 10. ต้นไม้ในกล่อง
 
 สำหรับบ่าวสาวที่รักธรรมชาติ บางทีอาจใส่ต้นไม้ลงในกล่องชุดอุปกรณ์น่ารักเล็กๆที่แขกสามารถนำกลับไปปลูกลงในช่องทางต่างๆรวมทั้งเป็นชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของวันแต่งงานด้วย ชุดเครื่องมือปลูกต้นไม้บางทีอาจแสดงถึงความมั่นใจในตัวเองของบ่าวสาวโดยบางทีอาจวางแบบมานานัปการรูปแบบสำหรับงานแต่งงานและก็เพิ่มความพิเศษเพื่อการจดจำอย่างการใส่รูปถ่ายที่สุขสบายของคู่สมรสลงในลงบนกล่องที่เอาไว้เก็บเครื่องไม้เครื่องมือ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โลโก้แต่งงาน

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.buengboraphet.com/webboard/index.php?topic=230832.new#new

Tags :  งานพิธีต่างๆ

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จด้านในวันเดียวฉันใด บ้านของท่านย่อมใช้เวลามากยิ่งกว่าสองวันแน่ๆด้วยเหตุดังกล่าวกว่าจะมาเป็นบ้านแต่ละข้างหลังจำต้องผ่านขั้นตอนหลายชนิดทั้งๆที่เกี่ยวกับลูกค้ารวมทั้งทีมผู้ออกแบบ ด้วยเหตุดังกล่าวเพื่อเป็นหลักสำหรับการให้บริการของนักออกแบบในการปฎิบัตวิชาชีพ และก็เพื่อแก้ไขปัญหาข้อแม้ระหว่างเจ้าภาพรวมทั้งนักออกแบบ สัมพันธ์คนเขียนแบบสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กำหนดแนวทางการบริการพื้นฐานของคนเขียนแบบกับงานด้านเอกสารประกอบที่ลูกค้าพึงจะได้รับตามมารตราฐานในแต่ละวิธีการทำงานเพื่อลูกค้าหรือผู้ว่าจ้างใช้เป็นแนวทางพื้นฐานก่อนตกลงดำเนินงานหรือใช้เป็น checklist ตรวจดูงานที่ท่านจะได้รับระหว่างที่ทำงานโดยสามารถแบ่งออกเป็น 6 ขั้นตอนดังต่อไปนี้นะครับ

1. การวางโครงเรื่องการออกแบบและก็การออกแบบร่างเบื้องต้น
เป็นขั้นแรกของปฏิบัติงานวางแบบ เพื่อหาผลสรุปลักษณะสถาปัตยกรรมเบื้องต้นจากข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้ามาใช้ระบุเป็นแถวคิดหลักในการดีไซน์ (Design Concept)แล้วก็พัฒนามาเป็นแบบร่างซึ่งชี้ให้เห็นรูปทรงขนาด ความเชื่อมโยงทางส่วนประกอบทางสถาปัตยกรรม และก็อุปกรณ์โดยสังเขป ในกรรมวิธีการนี้สถาปนิกจะเล่าเรียนข้อมูลตามข้อมูลที่เจ้าของงานให้ รวมทั้งเนื้อหาเกี่ยวกับ บทบัญญัติทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโครงงานและก็จัดวางเค้าโครงการออกแบบพร้อมกับออกแบบร่างขั้นต้เพื่อเสนอต่อเจ้าของ โดยเอกสารที่จะเสนอจะประกอบด้วย

- แบบร่างผังบริเวณแสดงความเกี่ยวเนื่องของออกแบบอาคาร หรือกลุ่มออกแบบอาคารกับบริเวณข้างเคียง
- แบบร่างตัวออกแบบอาคารมีแบบแปลนออกแบบอาคารโดยประมาณทุกชั้น รูปด้านรวมทั้งรูปตัดออกแบบอาคารอย่างย่อๆ
- เอกสารจำเป็นต้องอื่น ประกอบการใคร่ครวญประเมินราคาค่าก่อสร้างเบื้อต้นตามขั้นตอนนี้

2. การออกแบบร่างคราวสุดท้าย
เป็นกรรมวิธีการพัฒนางานวางแบบให้สอดคล้องกับสิ่งที่มีความต้องการ หรือข้อมูลที่เปลี่ยนระหว่างการเสนอแบบ เพื่อเสนอต่อลูกค้าหรือเจ้าภาพให้ตรงตามความอยากได้มราที่สุดครับผม นักออกแบบจะใช้ข้อมูลที่ได้ับอนุมัว่ากล่าวจากการออกแบบร่างช่วงต้นข้อที่ 1 เพื่อใช้เพื่อการดีไซน์ร่างครั้งสุดท้าย เสนอเจ้าของงานถัดไป เอกสารที่สถาปนิกเสนอให้เจ้าของเห็นดีเห็นงามและก็ขอนุมัติเตียนตามขั้นตอนนี้มี
- แบบร่างผังรอบๆแสดงความเกี่ยวข้องของออกแบบอาคาร หรือกรุ๊ปของออกแบบอาคารข้างๆ ตลอดจนความสำพันธ์ของระบบสาธารณูปโภคใกล้เคียงที่จำเป็นจะต้อง
- แบบร่างตัวออกแบบอาคารมีรายละเอียดของแบบแปลนทุกชั้น รูปตั้ง รูปตัด และแบบอื่นเท่าที่มีความจำเป็น
- แบบร่างแสดงระบบวิศวกรรมทุกสาขาที่เกี่ยวเนื่องกับงาน
- รายละเอียดสิ่งของรวมทั้งเครื่องใช้ไม้สอยที่จะใช้สำหรับโครงงานนี้อย่างย่อๆ
- เอกสารอื่นๆที่จำเป็นจะต้องเพื่อประกอบกิจการใคร่ครวญ
- ประมาณราคาก่อสร้างตามขั้นตอนลำดับที่สองที่มีรายละเอียดมากยิ่งขึ้น


3. การพัฒนาแบบก่อสร้าง และเอกสารสำหรับขออนุญาติรวมทั้ง การก่อสร้าง
ภายหลังจากดีไซน์ร่างขั้นตอนสุดท้าย ได้รับอนุมัติจากเจ้าของเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของงานแล้วนักออกแบบจะจัดทำเนื้อหาเพื่อเป็นเอกสารประกอบกิจการขออนุญาติก่อสร้าง โดยแบบดังกล่าวข้างต้นจะไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบปฎิบัติ หลักเกณฑ์แคว้น รวมทั้งหน่วยงานณ์แคว้นควบคุม กับมีเนื้อหาก่อสร้าง รายการประกอบแบบ( Construction specification) รวมทั้งเอกสารเพิ่มอีกอย่างเพียงพอ เพื่อการก่อสร้างดำเนินไปอย่างเรียบร้อยนอกเหนือจากนั้นแบบดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนี้ยังคงใช้ประกอบเป็นเอกสารประกวดราคา รวมทั้งการทำสัญญาจ้างผู้รับเหมาอีกด้วย เอกสารที่คนเขียนแบบจะส่งให้แก่ลูกค้าค้างมขั้นตอนนี้มี
- แบบสถาปัตยกรรม (สำหรับขออนุญาติก่อสร้าง) มี
- แบบแสดงแผนผังรอบๆ แล้วก็ระบบสาธารณูปโภคภายนอกออกแบบอาคาร
- แบบแสดงแบบแปลนทุกชั้น
- แบบแสดงรูปด้านทั้ง 4 ด้น
- แบบแสดงรูปตัดอย่างน้อย 2 รูป
- แบบแสดงเนื้อหา และก็แบบขยาต่างๆที่ต้อง
- แบบวิศวกรรมองค์ประกอบรวมทั้งพร้อมเนื้อหา และรายการคำนวณ(สำหรับขออนุญาติก่อสร้าง)
- แบบวิศวกรรมสาขาอื่นๆท่เกี่ยวโยงหรือสาขาที่ตกลงกัน พร้อมเอกสรที่จำเป็น
- รายการประกอบแบบก่อสร้างทุกงาน (งานสถาปัตย์และวิศวระบบต่างๆ) อย่างละเอียด
- คาดการณ์ราคากึ่งกลางค่าก่อสร้างดยละเอียด

4.การประกวดราคาและก็การเลือกเฟ้นผู้รับเหมาทำการก่อสร้าง
นักออกแบบจะร่วมมือสำหรับเพื่อการประกวดราคาดังต่อไปนี้
- ทำคาดการณ์ราคากึ่งกลางค่าก่อสร้าง (หากทำการตกลงไว้ล่วงหน้า)
- ทำเอกสารประกวดราคา (ถ้าหากทำการตกลงไว้ล่วงหน้า)
- ให้คำปรึกษาสำหรับการตรวจตราใบเสนอราคาของผู้รับจ้างก่อสร้าง
- ให้คำปรึกษาในการคัดผู้รับเหมาก่อสร้าง
- จัดเรียมเอกสารข้อตกลง

5.การก่อสร้าง
สถาปนิกจะให้ความร่วมมือในการก่อสร้างเพื่อให้การก่อสร้างดำเนินไปตามความอยากได้สำหรับเพื่อการวางแบบ แล้วก็ตามเอกสารข้อตกลงดังนี้
- ตรวจทานการปฎิบัติงานของผู้รับจ้างก่อสร้างในสถานที่ก่อสร้างเป็นบางโอกาส รวมทั้งรายงานให้ลูกค้ารู้ ในแขนณ๊ที่จำเป็นจะต้อง
- ให้คำปรึกษาแก่ผู้รบจ้างก่อสร้าง เพื่อให้การก่อสร้างดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย
- ให้คำแนะนำ แล้วก็ชี้แนะแก่ผู้ควบคุมงานของลูกค้า เพื่อให้งานก่อสร้างดำเนินไปตามความมุ่งมาดปรารถนาในการออกแบบรวมทั้งเอกสารข้อตกลง
- ให้ข้อมูลอื่นๆตามสิ่งที่มีความต้องการ
- ตรวจแล้วก็อนุมัติแบบใช้งานรวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ แบบอย่างที่ลูกจ้างก่อสร้างเสนอ

6.การส่งมอบเอกสาร
สถาปนิกจะส่งเอกสารตามข้อ 3 โดยมอบเป็นแบบแปลนปริมาณ 10 ชุด และก็เอกสารรายการประกอบแบบจำนวน 10 ชุด ให้ลูกค้าประกอบการใช้งาน ตัวอย่างเช่น ขออนุญาติ ประมูลราคาก่อสร้าง แต่ว่าในเรื่องที่เจ้าภาพอยากเอกสารมากว่าที่ระบุ คนเขียนแบบจะเบิกค่าใช้สอยสำหรับการจัดทำเอกสารเพิ่มเติมจากลูกค้านะครับ

7. งานที่ไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับบริการ
นอกจากงานแบบดังที่ได้กล่าวมาแล้วแล้ว ยังมีงานคราวเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมรวมทั้งการก่อสร้างอื่นๆซึ่งไม่อยู่ในขอบเขตที่จำกัดการให้บริการของคนเขียนแบบ แต่ว่าถ้าเกิดลูกค้าอยากได้คนเขียนแบบจะช่วยจัดการให้โดยคิดค่าใช้สอยตามจริง หรือเป็นราคาที่ตกลงกันเองระหว่างลูกค้าและลูกจ้างดำเนินงานนั้น ยกตัวอย่างเช่น
- การขออนุญาติก่อสร้างต่อทางการ สถาปนิกจะเตรียมเอกสารให้ลูกค้าและบริการยื่นให้ลูกค้า แต่ค่าธรรมเนียมและรายจ่ายอื่นๆเป็ความรับผิดชอบของลูกค้า
- การทำหุ่นจำลองขนาดใหญ่อย่างละเอียด
- การออกแบบตกแต่งภายใน
- การควบคุมการก่อสร้าง
- การจัดการการก่อสร้าง
- การรังวัตรวจสอบที่ดิน หรือหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวข้องกับที่ดินหรือเงินทองอื่นๆในที่ดินนั้น
- การเจาะสำรวจคุณภาพดินสำหรับในการรับน้ำหนัก (soil Test)

แนวทางเหล่านี้ท่านสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบข้อตกลงหรือข้อตกลงจ้างนักออกแบบได้ทุกระดับออกแบบอาคาร เพื่อท่านแน่ใจว่าท่านจะได้รับงานและบริการจากคนเขียนแบบอย่างไรบ้าง แล้วก็เพื่อความไม่รู้สึกกลุ้มใจระหว่างการทำงานร่วมกันทั้งสองฝ่ายครับ

เครดิตบทความจาก : http://999starthai.com/th/design/

Tags : ออกแบบอาคาร

คู่นี้คุ้มที่สุด 680 บาท จัดไปเต็ม!! แต่งหน้าสวย มั่นใจ ง่ายๆ 2 ขั้นตอน.. ทา และ ตบ
เซรั่มรองพื้นชัวร์ เพื่อเพิ่มความเนียน ปกปิด 3 in 1 บำรุงด้วยวิตามินB รองพื้น และกันแดดด้วย SPF 45 PA+++
ตบแป้งชัวร์ เพื่อเพิ่มความเรียบเนียนอีก 1 ระดับ ปกปิด แต่บางเบา คุมมันนานถึง 6-8 ชม. ไม่เยิ้ม ไม่เป็นคราบ กันเหงื่อ กันน้ำได้ดี ที่สำคัญแป้งเป็นสีเนเชอรัลเบส มีเฉดสีเดียว เบอร์เดียว แต่สามารถใช้ได้ทุกสีผิว!!!
ถ้าใช้ไม่ดีจริงไม่แนะนำกลัวโดนด่า
รับสมัครตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
Line : lookked.cc
สอบถามได้ค่ะ
*สั่งของ กดลิ้งค์แอดไลน์
https://line.me/R/ti/p/%40cua7996ehttps://www.facebook.com/shuabylooked
[img width=450,height=300]https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/19756360_1392703697488709_2833526988324598006_n.jpg?oh=935d2b8757daed2c488167f31b6c41b2&oe=5A054D56[/img]
[img width=450,height=675]https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/19657359_1392704730821939_5005904405327965758_n.jpg?oh=8651a410e5322a713b9663d6ea88bdd2&oe=59C7A3DC[/img]

[img width=450,height=450]https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/19601580_1392704737488605_5085095444232420937_n.jpg?oh=c65a1b037262d0f50819b6f888a3a929&oe=59C3F979[/img]

[img width=450,height=437]https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/19642421_1392704797488599_4336745373196594786_n.jpg?oh=de05a4b4f7e801d57da0dc17501b6b11&oe=59C4CEAA[/img]

[img width=450,height=450]https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/19665186_1392710614154684_3223109075322901458_n.jpg?oh=c12f51ed9944ed3b61bb3bd3ea91d648&oe=59C46847[/img]

จากเรื่องแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ วัดแรงสะเทือนได้ 7.0 ริคเตอร์ที่เกิดขึ้นช่วงวันที่ 13 เดือนมกราคม 2553 นำมาซึ่งเรื่องโศกเศร้าครั้งใหญ่ในกรุงปอร์โต แปรงซ์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐเฮว่ากล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวเพียง 15 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวคราวนี้เกิดจากการเลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกในลักษณะการเลื่อนตัวข้างๆระหว่างแผ่นหินแคริบเบียนและแผ่นหินอเมริกาเหนือ ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนตัวในมาตรฐานสูง ทำให้มีโอกาสกำเนิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้เหมือนกันกับรอบๆรอยเลื่อนเกะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย

เมื่อย้อนกลับมาดูเมืองไทยพวกเรา รอยเลื่อนสำคัญที่เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดกลาง 5-6 ริคเตอร์มาแล้วหมายถึงรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี แล้วก็รอยเลื่อนแม่ทา จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น ทำให้อาคารเกิดการสั่นไหวและก็โครงสร้างตึกหลายหลังกำเนิดรอยแตกร้าว

ความเสียหายของตึกพวกนี้ ด้วยเหตุว่าในอดีตก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา กฎหมายตึกไม่ได้บังคับให้มีการออกแบบต้านทานแผ่นดินไหว ในขณะนี้มีข้อบังคับอาคารประกาศเป็นกฎกระทรวงฉบับ พุทธศักราช 2550 ที่บังคับให้ตึกจะต้องวางแบบให้ยับยั้งแผ่นดินไหวได้ โดยแบ่งได้เป็น 3 บริเวณ ตัวอย่างเช่น 1. พื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและก็บริเวณรอบๆ รวม 5 จังหวัด 2. พื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด รวมทั้งภาคตะวันตก รวมทั้ง 3. พื้นที่ในภาคใต้ 7 จังหวัด

ลำดับแรกของการออกแบบอาคารให้ยับยั้งแผ่นดินไหวได้ วิศวกรผู้ออกแบบจะต้องพิจารณารูปแบบของอาคารก่อน โดยการจัดให้ตึกมีลักษณะที่มีคุณภาพในการขัดขวางแผ่นดินไหวที่ดี ดังนี้เพื่อป้องกันไม่ให้องค์ประกอบอาคารมีการบรรลัยในรูปแบบต่างๆ

แผนผังอาคารที่มีการวางส่วนประกอบที่ดี ควรวางตำแหน่งเสาให้มีความสมมาตรในแกนหลักอีกทั้งตามแนวยาวแล้วก็ตามขวางของตึก หากเป็นอาคารสูง ควรมีกำแพงรับแรงเฉือน (Shear wall) จำนวนไม่น้อย วางในตำแหน่งที่กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอตลอดแผนผังอาคาร โดยไม่กระจุกตัวอยู่ในรอบๆเดียว แนวทางการวางแนวฝาผนัง ควรจะหันด้านยาวของผนังให้สามารถรับแรงข้างๆจากแผ่นดินไหวได้ทั้งคู่ทิศทางทั้งตามทางยาวแล้วก็ตามทางขวางของตึก ดังตัว อย่างตึกที่มีการจัดวางตำหน่งเสารวมทั้งกำแพงรับแรงเฉือนที่ดี

ปัญหาที่มักจะเจอในรูปแบบตึกทั่วไปคือ ระดับความสูงของเสาในด้านล่างของอาคารจะมีความสูงมากยิ่งกว่าเสาในชั้นสองขึ้นไป เพราะเหตุว่าสิ่งที่มีความต้องการให้ชั้น ด้านล่างเป็นห้องโถงสารพัดประโยชน์ หรือเป็นพื้นที่จอดรถรวมทั้งมีการวางจำนวนเสาน้อยกว่าในชั้นสูงขึ้นไป เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอย กว้างใหญ่
อาคารรูปแบบนี้ จะมีโอกาสที่จะเกิดการบรรลัยแบบชั้นอ่อนได้เหตุเพราะเสาตึกในชั้นล่างมีความอ่อนตัวต่อการโยกไหวทางด้านข้างได้มากกว่าในชั้นสูงขึ้นไป ประกอบกับแรงแผ่นดินไหวที่ปฏิบัติต่อเสาด้านล่างจะมีค่าสูงมาก

การแก้ปัญหาลักษณะอาคารแบบนี้ บางทีอาจทำได้หลายแนวทาง แม้เป็นการออกแบบอาคารใหม่ บางทีอาจเลือกดังต่อไปนี้

1. ต้องมีการจัดให้ความสูงของเสาชั้นล่างไม่ต่างอะไรจากชั้นสูงขึ้นไปเท่าไรนักการออกแบบที่ดี ควรจัดให้เสาชั้นล่างไม่สูงชะลูดมากกระทั่งทำให้เสาชั้นล่างมีค่าความต้านทานสำหรับในการเคลื่อนตัวข้างๆน้อยกว่าเสาชั้นสองเกิน 80%

2. จัดให้เสาชั้นล่างมีมากมายขึ้น

3. ขยายขนาดหน้าตัดเสาด้านล่างให้ใหญ่ขึ้น

4. เสริมค้ำกระทั่งถึงด้านข้างทางแนวเฉียงเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับในการต่อต้านการเคลื่อนทางด้านข้าง เป็นต้น

หลังจากที่รูปแบบของตึกมีความเหมาะสม ลำดับต่อไปคือการออกแบบความแข็งแรงของส่วนประกอบ อาคารที่ทำหน้าที่หลักในการต่อต้านแรงด้านข้างจากแผ่นดินไหวตัวอย่างเช่น เสา นอกจากจะรับน้ำหนักบรรทุกปกติ ซึ่งเป็นน้ำหนักของตึกรวมทั้งน้ำหนักบรรทุกจรตามการออกแบบทั่วไปแล้ว เสาควรมีกำลังรับน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้นในขณะเกิดแผ่นดินไหว สามารถต่อต้านแรงเชือดจากแรงแผ่นดินไหวที่ปฏิบัติทางข้างๆต่อเสาได้ และก็ต้องมีขนาดหน้าตัดใหญ่พอที่จะไม่เคลื่อนตัวมากมายจนเกินกฎระเบียบในข้อบังคับ ซึ่งกำหนดให้การเคลื่อนที่สัมพัทธ์ระหว่างชั้นไม่เกิน 0.5%

ดังนี้การเคลื่อนที่ของเสาที่มากเหลือเกิน จะทำให้ผนังอาคารมีการแตกร้าวได้ โดยเหตุนั้น เมื่อเทียบขนาดเสากับตึกทั่วๆไปแล้ว เสาอาคารต่อต้านแผ่นดินไหว จะมีขนาดใหญ่กว่า และก็มีปริมาณเหล็กเสริมตามทางยาวของเสามากกว่า เพื่อรับน้ำหนักบรรทุกและการดัดตัวที่มากยิ่งขึ้นและต้านการเคลื่อนที่ทางข้างๆด้วยยิ่งไปกว่านี้ จำนวนเหล็กปลอกในเสาจะต้องเพียงพอสำหรับเพื่อการต้านแรงเชือดอีกด้วย

สิ่งที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งเป็น การจัดเนื้อหาการเสริมเหล็กให้ส่วนประกอบมีความเหนียวเพียงพอสำหรับเพื่อการต่อต้านแรง กระทำแบบไปกลับของแรงแผ่นดินไหว โดยการจัดปริมาณการเสริมเหล็กตามยาวและเหล็กปลอกที่โอบรัดรอบเหล็กเสริมตามทางยาวของเสาและก็คานให้เพียงพอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณใกล้รอยต่อระหว่างเสาและก็คาน เนื่องจากว่ารอบๆนี้ เสาแล้วก็คานมีการดัดตัวในลักษณะไปกลับหลายรอบ เหล็กปลอกในบริเวณนี้จึงจำเป็นต้องจัดวางให้แน่นเป็นพิเศษ แล้วก็การต่อเหล็กเสริมตามยาวจะต่อในรอบๆใกล้รอยต่อของเสาและก็คานมิได้ เนื่องจากแรงแผ่นดินไหว จะทำให้เหล็กเสริมพวกนี้เลื่อนหลุดจากจุดต่อได้ง่าย การเสริมเหล็กให้เสาแล้วก็คานมีความเหนียวยังมีรายละเอียดอีกมากมาย จึงขอกล่าวแต่ว่าโดยสรุปเพียงเท่านี้ก่อน

แม้ว่าอาคารที่ออกแบบตามกฎกระทรวงแผ่นดินไหว พ.ศ. 2550 จะได้มีการนึกถึงแรงแผ่นดินไหวในระดับที่ สูงเพียงพอแล้ว แม้กระนั้นความสามารถของอาคารแต่ละหลัง สำหรับในการต้านแรงแผ่นดินไหวในเหตุ การณ์จริง ยังต่างๆนาๆตามลักษณะ ชนิด และก็รูปแบบของตึกต่างๆถ้าหากอยากรู้ว่า ตึกที่ออกแบบตามกฎกระทรวง พ.ศ. 2550 แต่ละหลังมีความมั่นคงไม่มีอันตรายแค่ไหน ต้องใช้กระบวนการ วิเคราะห์ความประพฤติปฏิบัติในการต้านแรงแผ่นดินไหวของส่วนประกอบอย่างละเอียด.

เครดิตบทความจาก : http://999starthai.com/th/design/

Tags : ออกแบบอาคาร

การออกแบบโรงแรมในตอนนี้ โดยเฉพาะการออกแบบโรงแรมที่เน้นย้ำเพื่อการประหยัดพลังงาน ใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลืองให้ต่ำที่สุด ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและสามารถดีไซน์ให้สนองตอบกับสภาพแวดล้อม ล้วนเป็นการวางแบบอย่างยั่งยืนแทบทั้งหมด ถ้าเกิดผู้ออกแบบหรือผู้ประกอบธุรกิจคำนึงถึงการออกแบบเพื่อความยั่งยืนมั่นคง Sustainable Design ล้วนจะทำให้เป็นการรักษาสภาพแวดล้อมรวมทั้งสามารถประหยัดเงินลงทุนสำหรับเพื่อการจัดแจงการประกอบธุรกิจลงได้มากอย่างยิ่งจริงๆ

เริ่มง่ายๆด้วยการคิดถึงสภาพแวดล้อม ตามสไตล์ อยู่สบายด้วยการออกแบบ การเปิดรับลมโล่งเตียนในกลางวัน ถ้าพื้นที่โฮเต็ลมีวิวทัศนียภาพของธรรมชาติที่งดงาม ตัวอย่างเช่น ขอบเขา ขอบเขื่อนริมแม่น้ำ ริมคลอง หรือแม้กระทั่งหาดทราย สามารถช่วยใชัพลังงานน้อยลงการใช้กระแสไฟฟ้าเพื่อการปรับอากาศ ทั้งยังสามารถวางแบบให้กำเนิดมุมมองที่น่าประทับใจของแขกผู้มาพักได้อีกด้วย

เว้นเสียแต่โหลดพลังงานที่ใช้สำหรับการปรับอากาศแล้ว ยังสามารถใชัพลังงานน้อยลงของการใช้พลังงานเพื่อการส่องสว่างอีกด้วย โดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ไฟฟ้าเพื่อการส่องสว่างเลยเพราะว่าพวกเราเลือกที่จะวางแบบโดยการนำแสงสว่างธรรมชาติเข้ามาใช้งานในตึก การออกแบบซึ่งสามารถได้แสงที่มีประสิทธิภาพ คือ การออกแบบโดยใช้แสงธรรมชาติเข้ามาทางอ้อม Indirect Light อาทิเช่น การสะท้อนของแสงสว่างเข้ามาภายในอาคาร หรือการออกแบบโดยใช้หิ้งแสงสว่างLight Shelf เพื่อเพิ่มแสงเข้ามาด้านในอาคารเป็นแสงสว่างที่มีคุณภาพเพราะเหตุว่าไม่นำความร้อนเข้ามาด้านในอาคาร แต่นำแสงสว่างธรรมชาติเข้ามาเพิ่มความส่องสว่างให้กับอาคารหรือพื้นที่ๆออกแบบ

ส่วนโถงทางเท้า แม้โรงแรมเป็นโรงแรมสไตล์รีสอร์ท พื้นที่ที่วางแบบสำหรับทางเท้าจะเป็นพื้นที่ค่อนข้างจะมากจำเป็นที่จะต้องมีส่วนของหลังคาปกคลุม Cover Way ควรจะวางแบบให้สามารถมีส่วนของหลังคามีช่องแสงบ้าง เพื่อการระบายอากาศ และก็สุขลักษณะความสะอาด ไม่เป็นอันตราย ไม่ชื้นแฉะรวมถึงควรวางแบบให้สามารถใช้งานได้ในหลายๆหน้าที่ หลายๆฟังก์ชัน ตัวอย่างเช่น วางแบบเป็นโถงฟุตบาทแล้วสามารถวางแบบเป็นหลักที่พักคอยนิดหน่อยได้ จะเป็นการดีไซน์ให้สามารถใช้พื้นที่ได้หลากหลาย และก็สามารถดีไซน์ให้สนองตอบการใช้งานได้คุ้มค่า

การออกแบบพื้นที่โถงทางเข้า โถงพักคอย ควรวางแบบให้เตียน โปร่งสบาย อุปกรณ์พื้นผิวสัมผัสในการตกแต่งเน้นย้ำ เพื่อธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน สามารถสร้างความรู้สึกบรรเทาแก่แขกได้เป็นอย่างดี การออกแบบส้วม พื้นที่ใช้งานสาธารณะ ควรวางแบบให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาภายในอาคาร เพื่อสร้างความโปร่ง สบาย รวมทั้งถูกสุขลักษณะ มีการระบายอากาศที่ดี เพราะว่าจะมีความร้อนช่วยเรื่องการฆ่าเชื้อโรคของกลิ่นเหม็นอับที่ไม่พึงประสงค์

การออกแบบห้องพัก ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากที่จำเป็นต้องพิจารณาถึงการออกตัวอย่างยั่งยืน มาเริ่มต้นกันเลยตั้งแต่ส่วนพักผ่อนด้านในห้อง การออกแบบให้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้ม จะมองเห็นได้ว่า การออกตัวอย่างจีรังยั่งยืน จะใช้ทรัพยากรที่ออกแบบได้อย่างคุ้มได้แก่การนำเศษสิ่งของเหลือกินเหลือใช้มาออกแบบตกแต่งส่วนของเครื่องเรือน เพื่อใช้งานได้จริง
ให้สามารถกับโฮเต็ลหรูได้

ส่วนภายนอก อาทิเช่น ส่วนนั่งพักผ่อนนอนเอกเขนก สามารถใช้สิ่งของเหลือใช้มาดีไซน์พื้นที่การใช้งานให้สามารถมีมุมเก๋ๆไว้พักผ่อนดูบรรยากาศได้นอกเหนือจากการดีไซน์ที่คำนึงถึงความยั่งยืนและมั่นคงเพื่ออนาคตแล้ว จะเห็นได้ว่าควรตระหนักถึงการจัดการ หรือการใช้ทรัพยากรอาคารเพื่อการประหยัดพลังงานด้วย เพื่อเป็นการบูรณาการการใช้พลังงานอย่างมีคุณภาพ ตั้งแต่การออกแบบ การจัดการ การใช้อาคาร รวมทั้งการดำรงชีวิตหรือการรักษา ซ่อมบำรุง ล้วนแต่เป็นการบูรณาการเพื่อการออกแบบโรงแรมอย่างยั่งยืนแทบทั้งสิ้น

นักเขียนอยากให้ผู้อ่านทุกคนตระหนักรวมทั้งเห็นจุดสำคัญดูกลับไปยังสภาพแวดล้อมที่เป็นทรัพยากรที่ให้ท่านค่าอย่างไม่มีวันหมด เท่าที่มนุษย์หรือผู้ใช้สร้างสิ่งทดแทนคืนให้กับสภาพแวดล้อมและธรรมชาติ จะเห็นได้ว่า การออกแบบโรงแรมอย่างยั่งยืน คืนความสมดุลให้กับสิ่งแวดล้อม เกิดเรื่องใกล้ตัวที่เราทุกคนควรจะเอาใจใส่และตระหนักถึง เพื่อให้ทรัพยากรที่มีค่าของเรา ก็คือสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบข้างเรา ให้คงอยู่กับเราไปตราบนานเท่านาน ในฉบับหน้า นักเขียนขอยกตัวอย่างผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์เจ๋งๆของเด็กนักศึกษารุ่นใหม่ แนวอีโค เพื่อช่วยออมทรัพยากร แล้วก็สามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจได้จริงๆผลงานใครที่เข้าตา ก็สามารถปรับปรุงต่อสร้างรายได้ ได้มากมายทั้ง รักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยนะคะ

เครดิตบทความจาก : http://999starthai.com/th/home-2/

Tags : ออกแบบโรงแรม

[สถาปนิก] คือบุคคลผู้เกี่ยวข้องในการออกแบบ และ วางแผน ในการก่อสร้าง หรือที่เรียกว่างานสถาปัตยกรรม โดย[สถาปนิก] จะเป็นผู้ที่เข้าใจในมาตรฐานการก่อสร้างของอาคาร เข้าใจถึงหน้าที่ใช้สอยของอาคารนั้น รวมถึงวัสดุที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบของสิ่งก่อสร้างนั้น [สถาปนิก]จำเป็นต้องได้รับการศึกษาทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม ถึงจะสามารถทำงานในวิชาชีพ[สถาปนิก]ได้ ซึ่งคล้ายกับการทำงานในสาขาวิชาชีพอื่น
อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ฉันใฝ่ฝันอยากจะเป็นตั้งแต่เด็ก เพราะฉันเห็นว่ามันเป็นอาชีพที่น่าตื่นเต้น และน่าสนใจมากกว่าการนั่งทำงานบัญชี หรืองานหนังสือธรรมดาๆ และโดยส่วนตัว ฉันเป้นคนชอบวาดรูป และออกแบบ เมื่อได้ลองเรียนวาดรูปแล้วนั้น ก็รู้วาดสิ่งนี้เป้นสิ่งที่ชื่นชอบมากยิ่งขึ้น การวาดรูปเป็นงานท้าทาย และไม่ซ้ำซาก เราต้องออกแบบให้สวยงาม และถูกใจคนอื่นๆนอกจากตนเอง อีกทั้งเมื่อเห็นผลงานของตัวเองออกมาเป็นชิ้นเป็นอันแล้วนั้น ก็ยิ่งน่าชื่นชม และมีความสุขเมื่อลูกค้าชื่นชอบผลงานของเรา มันเหมือนกับได้มอบความสุข ความสบาย ให้ผู้อื่นในรูปแบบของที่อยู่อาศัย
แรงบันดาลใจที่สำคัญของฉัน คือ การที่ได้ศึกษาประวัติของ[สถาปนิก]ชื่อดังคนหนึ่งตอนที่ฉันได้ไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ เขาคือ Frank Lloyd Wright ซึ่งเป็น[สถาปนิก]ชาวอเมริกันชื่อดังในศตวรรษที่20 ผลงานของเขามีเอกลักษณ์อย่างมาก เพราะมีconceptที่อยากจะทำให้อาคารบ้านเรือนผสมผสานไปกับธรรมชาติรอบๆ เช่น The Falling Water เป็นต้น เมื่อได้ศึกษาประวัติและผลงานต่างๆของเขาแล้ว ฉันก็เกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะยิ่งใหญ่ และมีผลงานที่สวยงามเหมือนเขา เพราะมันเหมือนกับได้ทำให้โลกนี้สวยงามขึ้นด้วยสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://999starthai.com/th/design/

Tags : สถาปนิก

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ วัดแรงสะเทือนได้ 7.0 ริคเตอร์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2553 กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดเรื่องโศกเศร้าครั้งใหญ่ในกรุงปอร์โต แปรงซ์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐเฮว่ากล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวเพียง 15 กิโล

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการเลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกในลักษณะการเลื่อนตัวด้านข้างระหว่างแผ่นหินแคริบเบียนรวมทั้งแผ่นหินอเมริกาเหนือ ซึ่งมีอัตราการขับเคลื่อนในหลักเกณฑ์สูง ทำให้มีโอกาสกำเนิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้เช่นเดียวกับรอบๆรอยเลื่อนสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย

เมื่อย้อนกลับมาดูเมืองไทยเรา รอยเลื่อนสำคัญที่เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดกึ่งกลาง 5-6 ริคเตอร์มาแล้ว คือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์รอบๆจังหวัดกาญจนบุรี และรอยเลื่อนแม่ทา จังหวัดเชียงใหม่ ฯลฯ ทำให้ตึกเกิดการสั่นไหวและองค์ประกอบตึกหลายหลังกำเนิดรอยแตกร้าว

ความทรุดโทรมของอาคารกลุ่มนี้ เนื่องมาจากในอดีตกาลที่ผ่านมา กฎหมายอาคารมิได้บังคับให้มีการออกแบบต้านแผ่นดินไหว ขณะนี้มีข้อบังคับตึกประกาศเป็นกฎกระทรวงฉบับ พ.ศ. 2550 ที่บังคับให้อาคารต้องดีไซน์ให้ขัดขวางแผ่นดินไหวได้ โดยแบ่งได้เป็น 3 บริเวณ ยกตัวอย่างเช่น 1. พื้นที่ในเขตจ.กรุงเทพฯแล้วก็ละแวกใกล้เคียง รวม 5 จังหวัด 2. พื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด และภาคตะวันตก และ 3. พื้นที่ในภาคใต้ 7 จังหวัด

อันดับแรกของการออกแบบอาคารให้ต้านทานแผ่นดินไหวได้ วิศวกรผู้ออกแบบจะต้องพินิจรูปแบบของตึกก่อน โดยการจัดให้ตึกมีลักษณะที่มีประสิทธิภาพในการต้านทานแผ่นดินไหวที่ดี ดังนี้เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้ส่วนประกอบตึกมีการฉิบหายในลักษณะต่างๆ

ผังอาคารที่มีการวางส่วนประกอบที่ดี ควรวางตำแหน่งเสาให้มีความสมมาตรในแกนหลักทั้งตามทางยาวแล้วก็ตามทางขวางของอาคาร ถ้าหากเป็นอาคารสูง ควรมีกำแพงรับแรงเฉือน (Shear wall) จำนวนหลายชิ้น วางในตำแหน่งที่กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอตลอดแผนผังตึก โดยไม่กระจุกตัวอยู่ในรอบๆเดียว แนวทางการวางแนวฝาผนัง ควรหันด้านยาวของฝาผนังให้สามารถรับแรงด้านข้างจากแผ่นดินไหวได้ทั้งสองทิศทางทั้งตามยาวและตามขวางของตึก ดังตัว อย่างตึกที่มีการจัดวางตำหน่งเสารวมทั้งกำแพงรับแรงเฉือนที่ดี

ปัญหาที่ชอบเจอในรูปแบบอาคารทั่วๆไปเป็น ระดับความสูงของเสาในชั้นล่างของอาคารจะมีความสูงมากกว่าเสาในชั้นสองขึ้นไป เพราะความอยากให้ชั้น ข้างล่างเป็นห้องโถงอเนกประสงค์ หรือเป็นหลักที่จอดรถและก็มีการวางปริมาณเสาน้อยกว่าในชั้นสูงขึ้นไป เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอย กว้างขวาง
ตึกรูปแบบนี้ จะมีโอกาสที่จะมีการย่อยยับแบบชั้นอ่อนได้ด้วยเหตุว่าเสาตึกในชั้นล่างมีความอ่อนตัวต่อการโยกไหวทางด้านข้างได้มากกว่าในชั้นสูงขึ้นไป ประกอบกับแรงแผ่นดินไหวที่ทำต่อเสาชั้นล่างจะมีค่าสูงมากมาย

การแก้ไขปัญหาลักษณะอาคารแบบนี้ อาจทำได้หลายแนวทาง แม้เป็นการออกแบบอาคารใหม่ บางทีอาจเลือกดังต่อไปนี้

1. จะต้องมีการจัดให้ความสูงของเสาชั้นล่างไม่ได้มีความแตกต่างจากชั้นสูงขึ้นไปเท่าไรนักการออกแบบที่ดี ควรจะจัดให้เสาชั้นล่างไม่สูงชะลูดมากมายจนทำให้เสาด้านล่างมีค่าแรงต้านทานในการเคลื่อนตัวด้านข้างน้อยกว่าเสาชั้นสองเกิน 80%

2. จัดให้เสาด้านล่างมีจำนวนมากขึ้น

3. ขยายขนาดหน้าตัดเสาชั้นล่างให้ใหญ่ขึ้น

4. เสริมค้ำกระทั่งถึงข้างๆทางแนวทแยงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านการขับเคลื่อนทางด้านข้าง ฯลฯ

ภายหลังที่ลักษณะของตึกมีความเหมาะสม ขั้นตอนต่อไปคือการออกแบบความแข็งแรงขององค์ประกอบ อาคารที่ปฏิบัติภารกิจหลักสำหรับการต่อต้านแรงด้านข้างจากแผ่นดินไหวเป็นต้นว่า เสา นอกเหนือจากที่จะรับน้ำหนักบรรทุกปกติ ซึ่งเป็นน้ำหนักของอาคารแล้วก็น้ำหนักบรรทุกจรตามการออกแบบทั่วไปแล้ว เสาจะต้องมีกำลังรับน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้นในขณะกำเนิดแผ่นดินไหว สามารถขัดขวางแรงเฉือนจากแรงแผ่นดินไหวที่ทำทางด้านข้างต่อเสาได้ แล้วก็ควรมีขนาดหน้าตัดใหญ่พอที่จะไม่เคลื่อนมากมายจนกระทั่งเกินข้อกำหนดในข้อบังคับ ซึ่งกำหนดให้การเคลื่อนที่สัมพัทธ์ระหว่างชั้นไม่เกิน 0.5%

ดังนี้การเคลื่อนที่ของเสาที่มากเกินไป จะทำให้ผนังอาคารมีการแตกร้าวได้ โดยเหตุนั้น เมื่อเทียบขนาดเสากับตึกทั่วๆไปแล้ว เสาอาคารยับยั้งแผ่นดินไหว จะมีขนาดใหญ่กว่า และมีปริมาณเหล็กเสริมตามยาวของเสามากกว่า เพื่อรับน้ำหนักบรรทุกและการดัดตัวที่เพิ่มมากขึ้นและต้านการเคลื่อนที่ทางข้างๆด้วยยิ่งกว่านั้น จำนวนเหล็กปลอกในเสาต้องพอเพียงในการขัดขวางแรงเชือดอีกด้วย

สิ่งที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งเป็น การจัดรายละเอียดการเสริมเหล็กให้ส่วนประกอบมีความเหนียวพอเพียงสำหรับในการต้านทานแรง ปฏิบัติแบบไปกลับของแรงแผ่นดินไหว โดยการจัดปริมาณการเสริมเหล็กตามทางยาวและเหล็กปลอกที่โอบกอดรอบเหล็กเสริมตามแนวยาวของเสารวมทั้งคานให้พอเพียง

โดยเฉพาะบริเวณใกล้รอยต่อระหว่างเสาและคาน เนื่องจากบริเวณนี้ เสาและคานมีการดัดตัวในลักษณะไปกลับหลายรอบ เหล็กปลอกในบริเวณนี้จึงต้องจัดวางให้แน่นเป็นพิเศษ และก็การต่อเหล็กเสริมตามยาวจะต่อในบริเวณใกล้รอยต่อของเสารวมทั้งคานมิได้ เนื่องจากว่าแรงแผ่นดินไหว จะมีผลให้เหล็กเสริมเหล่านี้เลื่อนหลุดจากรอยต่อได้ง่าย การเสริมเหล็กให้เสาและคานมีความเหนียวยังมีรายละเอียดอีกมากมาย ก็เลยขอกล่าวแต่ว่าอย่างย่อเพียงเท่านี้ก่อน

แม้ว่าตึกที่ออกแบบตามกฎกระทรวงแผ่นดินไหว พ.ศ. 2550 จะได้มีการนึกถึงแรงแผ่นดินไหวในระดับที่ สูงเพียงพอแล้ว แต่ความรู้ความเข้าใจของตึกแต่ละหลัง สำหรับการต่อต้านแรงแผ่นดินไหวในเหตุ การณ์จริง ยังต่างๆนาๆตามลักษณะ จำพวก และลักษณะของอาคารต่างๆถ้าเกิดต้องการรู้ว่า ตึกที่ดีไซน์ตามกฎกระทรวง พุทธศักราช 2550 แต่ละข้างหลังมีความมั่นคงยั่งยืนไม่มีอันตรายเท่าใด จะต้องใช้กรรมวิธี วิเคราะห์การกระทำสำหรับเพื่อการขัดขวางแรงแผ่นดินไหวของส่วนประกอบอย่างละเอียด.

เครดิตบทความจาก : http://999starthai.com/th/home-2/

Tags : ออกแบบอาคาร