พระพิฆเนศ เป็นมหาเทพผู้ทรงภูมิปัญญายิ่งใหญ่ ช่วยในเรื่องของการขจัดอุปสรรคและอำนวยความสำเร็จในทุกสิ่ง พระพิฆเนศทรงเป็นเทพเจ้าแห่งสากลที่มีผู้เคารพนับถือมากที่สุดองค์หนึ่งในทั่วโลก ซึ่งถือว่าเป็นเทพเจ้าที่มีปรีชาญาณเฉลียวฉลาด มีฤทธานุภาพมาก และทรงคุณธรรม คอยปราบภัยพาลและอภิบาลคนดี อีกทั้งยังเป็นเทพผู้กตัญญูถึงพร้อมด้วยความดีงาม สมควรแก่การสักการบูชาเป็นอย่างยิ่ง

ประวัติพระพิฆเนศ
เป็นเทพในศาสนาพราหมณ์ นับถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ เป็นเทพแห่งปราชญ์ หรือผู้มีปัญญาเป็นเลิศ มีความรอบรู้ในศิลปวิทยาทุกแขนง เป็นเทพแห่งขจัดอุปสรรคความขัดข้อง ลักษณะของพระพิฆเนศ จะมีกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า คชานนท์ มีงาข้างเดียว มีรูปกายเป็นมนุษย์อ้วนเตี้ย หูยาน พระวรกายสีแดง สีขาว สีเหลือง ฯลฯ นุ่งห่มภูษาแดง มี ๔ กร ถือบ่วงบาศ ขอสับช้าง และมีเทพศัสตราวุธอีกหลายชนิด โดยมีพาหนะบริวาร คือ หนู นามว่า มุสิกะ ซึ่งคนไทยถือว่าพระพิฆเนศเป็นที่เคารพสักการะในฐานะองค์บรมครูแห่งศิลปวิทยาการ ๑๘ ประการ ให้เป็นเทพแห่งศิลปะทั้งมวล และเป็นเทพองค์สำคัญในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ

ความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาพระพิฆเนศ
สำหรับผู้ที่นับถือบูชาพระพิฆเนศนั้น โดยส่วนใหญ่จะขอในเรื่องของการทำมาค้าขาย เฉพาะอย่างยิ่งในการเริ่มกิจกรรมใด ๆ เช่น การซื้อพาหนะหรือการเปิดกิจการธุรกิจใหม่ โดยผู้นับถือเชื่อว่าพระพิฆเนศจะช่วยประทานพรให้กิจการทุกอย่างสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี กิจการมีความเจริญรุ่งเรือง และปกป้องจากเคราะห์ร้ายทั้งหลายทั้งปวง

อุปกรณ์ที่ใช้ในการบูชาพระพิฆเนศ
1. เทวรูปพระพิฆเนศที่เราบูชาอยู่
2. ธูปหรือกำยาน นั่นก็เพื่อต้องการถวายกลิ่นหอมแก่เทพ และให้ควันธูปเป็นสื่อนำคำอธิษฐานเราไปสู่เทพ
3. กระถางธูปหรือแท่นวางกำยาน 
4. ประทีป (ดวงไฟ เทียน ตะเกียงน้ำมัน การบูร)
โดยก่อนการบูชาควรตั้งจิตให้เป็นสมาธิในขณะสวดและควรปฏิบัติให้ได้ทุกวัน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตเป็นมาก

ทั้งนี้ หากคุณอยากให้องค์พระพิฆเนศของคุณงามเหมือนวันแรกที่บูชา คุณก็ควรนำองค์พระพิฆเนศนั้นไปเลี่ยมกรอบพระเลี่ยมทองสําเร็จรูป เพื่อให้กรอบพระเลี่ยมทองสําเร็จรูปนั้น เป็นตัวช่วยคุ้มครองความปลอดภัยขององค์พระพิฆเนศ ทำให้องค์พระพิฆเนศไม่กระทบกับสิ่งใดจนเกิดเป็นรอยจนลดความงดงามนั้นลง อีกทั้งกรอบพระเลี่ยมทองสําเร็จรูปยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้องค์พระพิฆเนศดูงดงาม เปล่งประกาย และน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้นอีกด้วย อ่านประวัติพระพิฆเนศกันไปแล้ว ใครสนใจประวัติหลวงปู่ทวด รอติดตามได้เลย

สำหรับใครที่กำลังมีแพลนจะแต่งงานอยู่แล้วหล่ะก็ห้ามพลาด เพราะวันนี้เราจะพามารู้จักดอกไม้ 3 ชนิดคู่งานแต่ง ที่ได้รับความนิยมเอามาประดับงาน หรือใช้เป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวนั้นเองค่ะ ส่วนจะมีดอกอะไรบ้างมาดูกันเลย

1. ดอกกุหลาบ
ดอกแรกเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงนึกถึงดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกแรกเมื่อพูดถึงเรื่องงานแต่งงาน หรือ เรื่องความรัก ดอกไม้ที่ว่านี้ก็ไม่ใช้ดอกอะไรที่ไหนแต่เป็น ดอกกุหลาบนี้เองค่ะ ดอกกุหลาบนั้นถูกใช้เป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความรัก โดยดอกกุหลาบแต่ละสีนั้น็สื่อถึงความรักในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วยค่ะ ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงเลือกใช้ดอกกุหลาบในงานแต่งงาน โดยมักใช้กุหลายสีแดง สีขาว และ สีชมพูนั่นเองค่ะ 

2.  ดอกกล้วยไม้
ดอกกล้วยไม้ก็เป็นพืชพื้นเมืองอีกชนิดหนึ่งของไทยที่หาซื้อได้ง่าย มีหลากหลายสายพันธ์ ทนต่อสภาพอากาศ ดูอ่อนช้อย และมีหลายสีให้เลือก ฉะนั้น ดอกกล้วยไม้จึงเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่นักจัดตกแต่งทั่วโลกนิยมใช้ในการจัดงานแต่งงานเนื่องจากความทน และ ความสวยงามแปลกตาของมัน ทำให้กล้วยไม้จัดเป็นดอกไม้อีกชนิดที่เป็นที่นิยมในงานแต่งงาน และ งานอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ

3. ไฮเดรนเยีย
ดอกไฮเดรนเยีย เป็นดอกไม้ “ตัวแทนความรักความเข้าใจ” นอกจากความหมายที่ลึกซึ้งของดอกไฮเดรนเยียแล้ว ความสวยงาม แปลกตาของดอกก็ยังเป็นที่ชื่นชอบให้หมู่ผู้ปลูกดอกไม้ หรือ แม้กระทั้งคนธรรมดาเห็นก็ต้องตกหลุมรักให้ความงามของไฮเดรนเยีย ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจไปว่าทำไมดอกไฮเดรนเยียกลายเป็นดอกไม้ที่อยู่คู่กับงานแต่งงานนั่นเองค่ะ

เตรียมดอกไม้เรียกร้อยแล้ว สินสอดงานแต่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่จะช่วยเติมเต็มงานหมั้น และ งานแต่งของคุณให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น  แต่อย่างที่เราต่างรู้กันดีดว่า ค่าใช้จ่ายในงานแต่งงานนั้นค่อนข้างสูง ดังนั้นหลาย ๆ คู่จึงเหลือเงินสำหรับเป็นเงินสินสอดงานแต่งเพียงน้อยเดียว แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากคุณเข้ารับบริการจาก ธุรกิจเช่าสินสอดงานแต่ง อย่าง Sinsordforrent ที่ให้บริการทั่วประเทศ