แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - coffeeboy

หน้า: 1 [2]
19

ความคืบหน้ามาตรการแจกเงิน โครงการ "เราชนะ" ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อเยียวยาจากวิกฤติโควิด-19 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ กระทรวงการคลัง ชี้แจงล่าสุด ดังนี้

ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 71,691 ล้านบาท

ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนลงประกาศสินค้าฟรีทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com  ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 107,178 ล้านบาท

ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 11,619 ล้านบาท

มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.5 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 190,488 ล้านบาท

การใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือลงประกาศสินค้าฟรีเป็นพิเศษซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง) ที่ไม่สามารถเดินทางออกจากที่พักอาศัยได้และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 9 เมษายน 2564 ประชาชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2564

โดยผู้ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ จำนวน 7,000 บาท และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ได้ที่ผู้ประกอบการร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2564

แนะวิธีเตรียมตัวก่อนเดินทาง 'สงกรานต์' ป้องกัน 'โควิด-19'
ด่วน! ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 250 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 29,571 ราย
สธ.เผยโควิด-19 วันนี้ ยอดพุ่ง 250 ราย
ตรวจสอบสถานะเราชนะลงทะเบียน และ ตรวจสอบเช็คสิทธิ์เราชนะคนละครึ่ง
ตรวจสอบสิทธิและผลการลงทะเบียนเราชนะ ผ่านระบบอัตโนมัติ
02-111-1144 กด 2 - 24 ชั่วโมง

ตรวจสอบวงเงินสิทธิคงเหลือเราชนะ ผ่านระบบอัตโนมัติ
02-109-2345 กด 3 - 24 ชั่วโมง

คุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิเราชนะ และข้อเสนอแนะโครงการฯ
02-273-9020 ต่อ 3250, 3423, 3424, 3425, 3427, 3429, 3430, 3431, และ 3444 จ - ศ. 8.30-16.30 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการ)

ศูนย์ช่วยเหลือผู้เข้าร่วมโครงการเราชนะ การลงทะเบียน และการใช้งานแอปฯ เป๋าตัง
02-111-1144

การใช้งานสิทธิผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
02-109-2345 จ - ศ. 8.30-17.30 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการ)

ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ สำหรับรายการรับเงินภาครัฐ และการใช้งานแอปฯ ถุงเงิน
02-111-9999 กด 3 - 24 ชั่วโมง

กรณีลงทะเบียนเราชนะ www.เราชนะ.com ปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์แล้วเมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 12 ก.พ. 2564 แต่ยัง ตรวจสอบเช็คสิทธิ์เราชนะ https://rights.เราชนะ.com/ กรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อใช้ในการตรวจสอบสถานะ และ ยื่นขอทบทวนสิทธิเราชนะ https://appeal.เราชนะ.com กรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อใช้ในการขอทบทวนสิทธิ ต้องยินยอมและรับทราบว่า ผลการพิจารณาของกระทรวงการคลังในกระบวนการทบทวนสิทธิถือเป็นที่สุด

กรณีมีปัญหาลงทะเบียน www.เราชนะ.com สอบถามได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0-227-9020 ต่อ 3250, 3423, 3424, 3425, 3427, 3429, 3430, 3431, และ 3444  ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1144 (24 ชั่วโมง)

แหล่งข่าว https://www.personalbanking.club/guestpost

20

ความคืบหน้ามาตรการแจกเงิน โครงการ "เราชนะ" ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อเยียวยาจากวิกฤติโควิด-19 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ กระทรวงการคลัง ชี้แจงล่าสุด ดังนี้

ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 71,691 ล้านบาท

ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนลงประกาศสินค้าฟรีทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com  ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 107,178 ล้านบาท

ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 11,619 ล้านบาท

มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.5 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 190,488 ล้านบาท

การใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือลงประกาศสินค้าฟรีเป็นพิเศษซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง) ที่ไม่สามารถเดินทางออกจากที่พักอาศัยได้และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 9 เมษายน 2564 ประชาชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2564

โดยผู้ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ จำนวน 7,000 บาท และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ได้ที่ผู้ประกอบการร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2564

แนะวิธีเตรียมตัวก่อนเดินทาง 'สงกรานต์' ป้องกัน 'โควิด-19'
ด่วน! ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 250 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 29,571 ราย
สธ.เผยโควิด-19 วันนี้ ยอดพุ่ง 250 ราย
ตรวจสอบสถานะเราชนะลงทะเบียน และ ตรวจสอบเช็คสิทธิ์เราชนะคนละครึ่ง
ตรวจสอบสิทธิและผลการลงทะเบียนเราชนะ ผ่านระบบอัตโนมัติ
02-111-1144 กด 2 - 24 ชั่วโมง

ตรวจสอบวงเงินสิทธิคงเหลือเราชนะ ผ่านระบบอัตโนมัติ
02-109-2345 กด 3 - 24 ชั่วโมง

คุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิเราชนะ และข้อเสนอแนะโครงการฯ
02-273-9020 ต่อ 3250, 3423, 3424, 3425, 3427, 3429, 3430, 3431, และ 3444 จ - ศ. 8.30-16.30 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการ)

ศูนย์ช่วยเหลือผู้เข้าร่วมโครงการเราชนะ การลงทะเบียน และการใช้งานแอปฯ เป๋าตัง
02-111-1144

การใช้งานสิทธิผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
02-109-2345 จ - ศ. 8.30-17.30 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการ)

ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ สำหรับรายการรับเงินภาครัฐ และการใช้งานแอปฯ ถุงเงิน
02-111-9999 กด 3 - 24 ชั่วโมง

กรณีลงทะเบียนเราชนะ www.เราชนะ.com ปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์แล้วเมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 12 ก.พ. 2564 แต่ยัง ตรวจสอบเช็คสิทธิ์เราชนะ https://rights.เราชนะ.com/ กรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อใช้ในการตรวจสอบสถานะ และ ยื่นขอทบทวนสิทธิเราชนะ https://appeal.เราชนะ.com กรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อใช้ในการขอทบทวนสิทธิ ต้องยินยอมและรับทราบว่า ผลการพิจารณาของกระทรวงการคลังในกระบวนการทบทวนสิทธิถือเป็นที่สุด

กรณีมีปัญหาลงทะเบียน www.เราชนะ.com สอบถามได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0-227-9020 ต่อ 3250, 3423, 3424, 3425, 3427, 3429, 3430, 3431, และ 3444  ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1144 (24 ชั่วโมง)

แหล่งข่าว https://www.personalbanking.club/guestpost

21

6 เมษายน 2564 สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เดินหน้าพัฒนาศักยภาพกำลังคนและบุคลากรดิจิทัลต่อเนื่อง ล่าสุด ผ่าน 23 โครงการยกระดับองค์ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะด้านดิจิทัลแก่นักเรียน นักศึกษาระดับอาชีวศึกษา บุคลากรทางการศึกษา ประชาชนทั่วไป บุคคลในกลุ่ม Mid-career และผู้สูงวัย รวมถึงผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา รวมกว่า 23,000 คน เพื่อเตรียมความพร้อมลงประกาศสินค้าฟรีเดินหน้าสู่เศรษฐกิจ-สังคมดิจิทัลในอนาคต

นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดีป้า ให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนและเพิ่มศักยภาพบุคลากรดิจิทัลของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการยกระดับองค์ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแก่ประชาชนในทุกระดับผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ

โดยที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการส่งเสริมและสนับสนุน ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่  5 เมษายน 2564 มีมติเห็นชอบโครงการที่ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านมาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนการพัฒนาศักยภาพกำลังคนและบุคลากรด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (depa Digital Manpower Fund) จำนวน 23 โครงการ โดยมุ่งเน้นการลงประกาศสินค้าฟรียกระดับทักษะดิจิทัลแก่นักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา และนักศึกษาระดับอาชีวศึกษา และในพื้นที่เป้าหมาย บุคลากรทางการศึกษา ประชาชนทั่วไป บุคคลในกลุ่ม Mid-career และผู้สูงวัย รวมถึงผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา รวมกว่า 23,460 คน ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร 23 หน่วยงาน รวมมูลค่าการส่งเสริมกว่า 78 ล้านบาท

สำหรับโครงการที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการส่งเสริมและสนับสนุนในครั้งนี้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่มุ่งเน้นให้ประชาชนและผู้ประกอบการมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามวิสัยทัศน์ของ ดีป้า ที่ต้องการให้คนไทย ‘Think faster and live better’ พร้อมเดินหน้าสู่เศรษฐกิจ-สังคมดิจิทัลในอนาคต

แหล่งข่าว https://www.uvtattooideas.club/guestpost

22

นางฐวิกาญจน์ เตชทวีทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)  พร้อมด้วย ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์  ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นายกันตพร หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน)   ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)  ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ เพื่อยกระดับการเข้าถึงการรักษาของโรงพยาบาลในเครือ BCH  หรือ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน)  อันประกอบด้วย กลุ่มโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล กลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และ กลุ่มโรงพยาบาลการุญเวช นับเป็นการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการและการรักษาที่ดีและมีคุณภาพของโรงพยาบาลในเครือ BCH ผ่านผลิตภัณฑ์ประกันอุบัติเหตุและสุขภาพส่วนบุคคลจากวิริยะประกันภัย

ความร่วมมือกันครั้งนี้สืบเนื่องจาก สถานการณ์ปัจจุบันการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ยังถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต  รวมถึงประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยส่งผลให้ประชาชนต้องการเข้าถึงการบริการทางสุขภาพมากขึ้น ความร่วมมือระหว่าง บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้จะทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการลงประกาศสินค้าฟรีเข้าถึงบริการสุขภาพมากยิ่งขึ้น วิริยะประกันภัยจึงได้พัฒนา ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล แผน Viriyah Care by Kasemrad และ แผนใส่ใจ เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว โดยเริ่มเปิดจำหน่ายให้กับประชาชนที่สนใจตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นมา 

แหล่งข่าว https://xjapan.in.th/guestpost

23

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่ นายสุชาติ ระมาศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) ในโอกาสที่ คาเฟ่ อเมซอน ได้ร่วมขับเคลื่อนนโยบายหวานน้อยสั่งได้ นำร่อง (เฟส 1) ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
 
โดยคาเฟ่ อเมซอน นับเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟสดรายแรกที่ลงประกาศสินค้าฟรีได้รับตราสัญลักษณ์เครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพ และเป็นหนึ่งกำลังสนับสนุนให้คนไทยบริโภคเครื่องดื่มหวานน้อย โดยร่วมนโยบาย “หวานน้อยสั่งได้” กับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ด้วยการใช้ “Sweetness Scale” เป็นตัวขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ซึ่งเริ่มนำร่องที่ร้าน   คาเฟ่ อเมซอน สาขากรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2563 และเริ่มใช้ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2563 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมี “เมนูทางเลือกสุขภาพ” หรือ “Light Menu” ที่เป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่รักสุขภาพอีกด้วย

แหล่งข่าว https://www.thaimobdata.com/guestpost

24

นายปิยะ ประยงค์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ผ่านมาถือว่าบริษัทฯประสบความสำเร็จ จากการเปิดตัวโครงการบ้านหลายแห่ง โดยได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าในแต่ละทำเลอย่างดี สะท้อนถึงดีมานด์ที่อยู่อาศัยที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง  อาทิ บ้านพฤกษา รังสิต อเวนิว และบ้านพฤกษา ลาดกระบัง ฉลองกรุง ซึ่งทั้ง 2 โครงการสามารถทำยอดขายสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 200% และ 118% ตามลำดับ พร้อมกับมีการเปิดทาวน์โฮมระดับลักชัวรี่ พาทิโอ รัชโยธิน เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าระดับบน โดยสามารถปิดการขายในเฟสแรกไปได้อย่างรวดเร็ว   ประกอบกับบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย “Pruksa Free Fest” ที่ผ่านมา ช่วยผลักดัน และสร้างยอดขายจากแคมเปญไปได้มากกว่า 1,600 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 5,300 ล้านบาท จึงส่งผลให้ยอดขายในไตรมาส 1 ของบริษัทรวมประมาณ 7,000 ล้านบาท

สำหรับไตรมาสที่ 2 เพื่อเป็นการสนับสนุนให้คนไทยมีบ้านได้ง่ายขึ้น จึงได้จัดแคมเปญแรงต่อเนื่อง “พฤกษา คุ้ม จบทุกดีล” โดยบริษัทฯ ได้คัดเลือกโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ บนทำเลศักยภาพที่หลากหลายมากถึง 131 โครงการ มาให้ลูกค้าได้เลือกสรร  โดยลูกค้าที่จองตั้งแต่วันนี้  – 30 มิถุนายน 2564 และโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 31 กรกฏาคม 2564 จะได้รับสิทธิพิเศษรับฟรีสูงสุดถึง 3 รายการ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถย้ายเข้าอยู่ได้อย่างรวดเร็ว และลดความกังวลกับภาระต่างๆ ได้นานสูงสุดถึง 3 ปีเลยทีเดียว โดยสิทธิพิเศษที่มอบให้ได้แก่ 

1. อยู่ฟรีสูงสุด 36 เดือน 

2. ฟรีค่าส่วนกลางสูดสุด 36 เดือน และ
3. ฟรีค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ 

นอกจากนี้ยังมีส่วนลดเงินสดลงประกาศสินค้าฟรีเพิ่มเติมให้อีก มูลค่ารวมทั้งหมดสูงถึง 48 ล้านบาททีเดียว ทั้งนี้สิทธิรายละเอียดแต่ละโครงการมีความแตกต่างกัน ลูกค้าที่สนใจสามารถตรวจสอบรายชื่อโครงการที่เข้าร่วมหรือสอบถามข้อมูลได้ที่  pruksa.com หรือ โทร. 1739 แคมเปญที่จัดขึ้นครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่อยากมีบ้าน เพราะเป็นการมอบส่วนลด ที่ให้มากกว่าครั้งไหนๆ พร้อมกันนี้นอกจากจะได้รับสิทธิจากแคมเปญที่พฤกษามอบให้แล้ว ลูกค้าจะยังได้รับการสนับสนุนค่าใช้จากมาตรการรัฐ และอัตราดอกเบี้ยต่ำซึ่งเอื้อต่อการซื้ออสังหาฯด้วย 

โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายจากรายการส่งเสริมการขาย “พฤกษา คุ้ม จบทุกดีล” ไว้ที่ 5,400 ล้านบาท จึงคาดว่ารายการส่งเสริมการขาย  “พฤกษา คุ้ม จบทุกดีล” จะช่วยเร่งการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และจะช่วยกระตุ้นยอดขายช่วงไตรมาส 2/2564 นี้และทำให้ยอดขายทั้งปีที่บริษัทฯ ตั้งไว้ที่ 32,000 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมาย” นายปิยะ กล่าว

แหล่งข่าว https://www.americavoted.com/guestpost

25

5 เม.ย.64 -  ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ประชุมมาตรการดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีข้าราชการตำรวจที่ลงประกาศสินค้าฟรีเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น

พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ได้ประชุมร่วมกับ ผู้กำกับการ(ผกก.) ทั่วประเทศ 1.4 พันกว่าแห่ง รวมหน่วยสนับสนุนต่างๆ อาทิ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตชด. ตำรวจทางหลวง ตำรวจท่องเที่ยว ได้เน้นย้ำเรื่องการกำกับดูแลควบคุมสั่งการของผู้บังคับบัญชาระดับสถานี การเตรียมการในช่วงนี้ คือ อำนวยความสะดวกจราจร และดูแลความปลอดภัย ทั้งคนที่เดินทางออกต่างจังหวัด และคนที่ฝากบ้านไว้กับตำรวจ

โดยที่ผ่านมาได้ออกแผนรองรับสถานการณ์โควิด-19 ที่มาแทรกซ้อน รวมไปถึงบางพื้นที่มีปัญหาลักลอบข้ามแนวชายแดน มีแรงงานต่างด้าวไปอยู่เป็นกลุ่ม เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีสถานบริการ เป็นแหล่งที่คนไปรวมตัวอยู่จำนวนมาก บางพื้นที่มีปัญหาเรื่องการจราจร อุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งวันนี้เป็นการกำชับให้ทำตามแผน ผกก.แต่ละโรงพัก ต้องไปควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของลูกน้อง การเตรียมกำลังพล อุปกรณ์ ออกแผนคำสั่ง จัดคนลงไปปฏิบัติหน้าที่ การกำหนดตัวชี้วัด

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ปีนี้ทางรัฐบาลตั้งเป้าว่าอุบัติเหตุต่างๆ ต้องลดกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลัง 5 เปอร์เซ็น ในขณะเดียวกันเรื่องดูแลความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ยืดอายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบคุมโควิด-19 ไปถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 และมีมาตรการภาพรวมออกมา ตำรวจก็ต้องไปดูมาตรการต่างๆ เช่น เรื่องไม่ให้รวมตัวกันสาดน้ำ ปาร์ตี้โฟม จึงฝากพี่น้องประชาชนว่า เพื่อความปลอดภัยในเรื่องป้องกันการแพร่ระบาดของโรค รัฐบาลก็ขอร้องว่า ไม่ให้มี ต้องไม่มีเรื่องการรวมตัวกันสาดน้ำ แต่เรื่องประเพณีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ อนุญาตให้มีได้ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ซึ่งตำรวจต้องไปร่วมกับหน่วยงานฝ่ายปกครอง อาสาสมัครต่างๆ ไปกวดขันประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ ตักเตือน ไม่ให้มีเหตุพวกนี้ แต่หากยังฝ่าฝืน ก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย

ผบ.ตร. ยังกล่าวถึงเรื่องการจุดตรวจจุดสกัด ว่า เป็นมาตรการที่พยายามออกแบบขึ้นมาเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องที่ผ่านมาในอดีต ตอนนี้ยังอยู่ช่วงทดลอง ปรับแก้ แต่ไม่ว่ามาตรการจะดีแค่ไหน หากคนพยายามหาช่องทุจริต ก็ยากที่จะป้องกันได้ เพราะฉะนั้นถึงเน้นว่า ผกก. สถานีต้องรู้นิสัยลูกน้องตนเอง ว่าใครเป็นแบบไหน แล้วหาวิธีแก้ไข ที่ผ่านมาตำรวจไม่แม่นยำเรื่องข้อกฎหมาย ก็พยายามจะจัดสอบมาตรฐานตำรวจ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ หลายอย่างที่กำลังทำคิดว่าต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ปีนี้ก็หวังว่าจะควบคุมอาชญากรรม และเรื่องความปลอดภัยด้านการจราจรได้ดีขึ้นกว่าเดิม รวมถึงมาตรการควบคุมโควิด-19 ด้วย

ด้านพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า คาดการตัวเลขคนเดินทางออกต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะใกล้เคียงกับปี 2562 ขาออกช่วง 9-11 เมษายน คาดว่าประมาณ 3.5 ล้านคน ขากลับ วันที่ 15-18 เม.ย. ประมาณ 3.7 ล้านคน ทั้งนี้คนเดินทางออกต่างจังหวัดจะมากกว่าช่วงปีใหม่ เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว สำหรับการตั้งจุดตรวจช่วงสงกรานต์ จะเป็นไปตามนโยบาย ตร. คือ มีมาตรฐาน โปรงใส ตรวจสอบฐาน ทั้งนี้จะมีการเสนอตั้งด่านตามมาตรฐาน เฉพาะด่านเมา 1.2 พันจุด และจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร 1.7 พันแห่ง โดย ผบ.ตร. ขยายประเด็นนี้ ว่า เวลาจะตั้งด่านต้องมาลงบันทึกในระบบก่อนทุกครั้ง เวลาลงไปแล้วจะเห็นแต่ละจุดอยู่ตรงไหนบ้าง ทำให้เห็นภาพ ยืนยันว่าจะไม่มีภาพตั้งด่านซ้ำซ้อน หรือเจอด่านทุกๆ 3 กิโลเมตร

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทาง ผบ.ตร. ให้ความสำคัญสนองนโยบายรัฐบาลเรื่องลดอุบัติเหตุ จึงมีโครงการจะให้รางวัลตำรวจแข่งขันกัน ที่ 1-3 ในระดับกองบัญชาการ(บช.) โดยประเมินจากตัวเลขการลดอุบัติเหตุ และรางวัลที่ 1-3 จากจังหวัดที่ไม่มีการตายเกิดขึ้น มอบรางวัลช่วงปลายเดือน เมษายน ในการประชุมบริหารประจำเดือน

ด้านพล.ต.อ.มนู กล่าวว่า โครงการฝากบ้านช่วงสงกรานต์ปีนี้ รับฝาก 10 วัน ตั้งแต่ 9-18 เมษายน ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย เพื่ออำนวยคสามสะดวกไม่ต้องเดินทางมาที่สถานีตำรวจ และคาดว่าจำนวนน่าจะเยอะกว่าช่วงปีใหม่

แหล่งข่าว https://www.americavoted.com/guestpost

หน้า: 1 [2]