แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - deam205

หน้า: 1 ... 248 249 [250] 251 252 ... 266
4483


          เตะไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021-2022 เกมนัดที่ 6 ของหลายๆทีม นั่นเอง ผลงานแต่ละทีมเป็นอย่างไรย้อนไปดูกันอีกครั้ง

          อังคารที่ 5 ต.ค. 2564 เตะ 2 คู่ เจ้าบ้านชนะ 1 เสมอ 1 ทีม โดย ผลงานที่ค่อนข้างเซอร์ไพรซ์เป็น โปลิศเทโรฯ เปิดบ้าน ชนะ ชลบุรีฯ ได้ 2-0 นั่นเอง ก่อนหน้านี้ “มังกรโล่เงิน” ไม่เคยชนะ ชลบุรีฯ ในบ้านตัวเองได้เลย

          นัดนี้ เจนรบ โพธิ์ขี ซัด 2 เม็ด ในน. 8,24  ทำให้ “ฉลามชล” แพ้ 2 เกมติดต่อกัน


          เมืองทองฯ เปิดบ้าน ต้องไล่ตามตีเสมอ หนองบัวฯ 1-1 ทีมเยือน บุกนำก่อนจากจุดโทษ ของ แฮมิลตัน ซัวเรซ น. 4 ก่อนที่ ซาดอร์ มีร์ซาเยฟ จะซัดจุดโทษ ให้ เมืองทองฯ ไม่แพ้ ในน. 14

          เกม 4 คู่พุธที่ 6 ต.ค. 2564 บีจีปทุมฯ แพ้นัดแรกอย่างเร็วในปีนี้หลังปีก่อนไม่แพ้ใครในบ้านตัวเอง โดยเกมนี้เสียท่าให้ สิงห์เชียงรายฯ ไป 0-2 ทีมเยือนได้จาก เฟลิเป้ อโมริม น. 27 , พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล น. 45+ 2 เกมนี้บีจีฯไร้นายทวารมือ 1 อย่าง ฉัตรชัย บุตรพรม ที่ติดโทษแบน จากการได้ใบแดง เกมชนะ ขอนแก่น ยูฯ ไปด้วย

        ทรูแบงค็อกฯ เฉือนชนะ พีที ประจวบฯ 2-1 จาก ปกเกล้า อนันต์ น. 10 , ชนานันท์ ป้อมบุปผา น. 87 ส่วน “ต่อพิฆาต”ได้จาก สหรัฐ ปองสุวรรณ น. 66

ADVERTISEMENT


          ขอนแก่น ยูฯ พลาด 3 แต้มไปในถิ่นเมื่อนำก่อน ในน. 42 จาก อิ๊บสัน เมโล่ แต่ น. 47 อลงกรณ์ จรนาทอง มาโดนใบแดง สุดท้ายเสียท่าโดน นครราชสีมาฯ ตามตีเสมอ ท้ายเกม น. 86 จาก ควาเม่ คาริคารี่

          ส่วน บุรีรัมย์ฯ เปิดบ้าน เฉือนชนะ สมุทรปราการฯ ไปหวุดหวิด 2-1 ได้จาก จุดโทษ ของ ซามูเอล โรช่า  น. 33 , ศุภนัฎฐ์ เหมือนตา น. 79 ส่วน สมุทรปราการฯ ได้จาก เอลิอันโดร คอนซากา น. 43

        อีก 2 คู่ พฤหัสบดีที่ 7 ต.ค. 2564 สุพรรณบุรีฯ ชวด 3 แต้มทั้งที่เปิดบ้านนำก่อน 1-0 จาก สีหนาท สุทธิศักดิ์ น. 17 แต่ครึ่งหลังพลาดท่า โดน กฤษณนนท์ ศรีสุวรรณ ซัดตีเสมอให้ ราชบุรีฯ ได้ 1-1

          อีกคู่ เชียงใหม่ ยูฯ เปิดบ้าน แพ้ การท่าเรือฯ ไป 0-2 “สิงห์เจ้าท่า” ที่รั้งรองฝูงแม้จะมีแต้มเท่ากับ สิงห์เชียงรายฯ แต่ผลต่างประตูพวกเขาดีกว่า นัดนี้ การท่าเรือฯ ได้จาก เนลสัน โบนีลญ่า น. 66 , โกซุลกิ น. 72

4484
Mlive hatyai service ผู้ให้บริการติดตั้งจานดาวเทียมหาดใหญ่ แล้วก็พื้นที่ใกล้เคียงสามารถเรียกใช้บริการเราได้ ซึ่งนอกจากจานรับสัญญาณดาวเทียมแล้วทางร้านยังมี กล้องวงจรปิด กล้องติดรถยนต์ แอร์บ้าน ระบบงานทีวีกล้องวงจรปิดรีสอร์ท คอนโด โฮเต็ล สถานที่ราชการ งานรับเหมาจัดตั้งทางเราก็รับ ทุกงานให้บริการด้วยคณะทำงานมือโปร ที่มีประสบการณ์ดำเนินการมาจำนวนมาก ปกติแล้วจานดาวเทียมก็มีหลายแบบ หลายแบรนด์ให้ได้เลือกใช้งานตามสมควรของสถานที่ ระบบสัญญาณ ทั้งเรื่องราคาเองที่เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเลือกใช้สินค้าเช่นกัน ซึ่งแต่ละแบบก็มีความแตกต่างกันออกไปทั้งยังในข้อดีและข้อเสีย ถ้าหากลูกค้ายังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้แบบไหน ก็สามารถขอคำแนะนำกับทางร้านหรือกลุ่มช่างของเราได้เลย ยินดีให้คำแนะนำและชี้แนะอย่างเต็มกำลัง





บริการติดตั้งกล้องวงจรปิดหาดใหญ่เป็นอีกบริการที่ Mlive ภูมิใจในการนำเสนอไม่แพ้การติดตั้งจานรับสัญญาณดาวเทียมเลยทีเดียว บริการจัดตั้งจานสำหรับรับสัญญาณดาวเทียม กล้องวงจรปิด ในหาดใหญ่รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียง เราดูแลลูกค้าทุกท่านอย่างเต็มใจ งานจัดตั้งของทางพวกเรามีมาก อีกทั้งมีประสบการณ์ในการทำงานจัดตั้งมามากกว่า 15 ปี โดยช่างชำนิชำนาญงานดำเนินงานนำกลุ่มโดยช่างมาร์ค ทีมงานทุกคนพวกเราดูแลลูกค้าอย่างกันเอง ให้บริการดั่งมิตรเสมือนคนภายในครอบครัว มีบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ช่วยเหลือลูกค้าได้เมื่อมีปัญหาตามเงื่อนไขที่กำหนด และมีประกันสินค้าทุกชิ้น เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ มีความมั่นใจในงานด้านการบริการ เพราะพวกเราถือว่าลูกค้าเป็นคนที่มอบโอกาสให้พวกเราได้เติบโต เราจึงใส่ใจในการให้บริการแล้วก็บริการด้วยใจจริง ดุจมิตร เสมือนคนภายในครอบครัว จากประสบการณ์ในการให้บริการก่อนหน้านี้ลูกค้าทุกคนที่เรียกใช้บริการของทางพวกเราต่างมีความพอใจในสินค้าและบริการกันเป็นอย่างมาก ทั้งยังช่วยบอกแบบปากต่อปากในคุณภาพสินค้า ราคา แล้วก็บริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทำให้ฐานลูกค้าของพวกเราเติบโตอย่างต่อเนื่อง





ถ้าหากคนไหนที่กำลังมองหาร้านจานดาวเทียมใกล้ฉัน สำหรับชาวหาดใหญ่ พื้นที่ใกล้เคียง และจังหวัดใกล้เคียงสามารถเรียกใช้บริการพวกเราได้ ไม่ว่างานเล็ก งานใหญ่ งานรับเหมา ทางพวกเรารับหมดให้บริการทุกระดับประทับใจ งานเล็กงานใหญ่พวกเราให้ความใส่ใจกับทุกงาน ทุกงานที่ผ่านมือพวกเราไปจะต้องมีประสิทธิภาพ และสามารถใช้งานได้อย่างเต็มความสามารถเช่นกัน ที่สำคัญในพื้นที่หาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงทางร้านยังมีบริการจัดส่งสินค้าให้ฟรีๆอีกด้วย ผลิตภัณฑ์จากทางร้านค้าทุกชิ้นมีประกันผลิตภัณฑ์ให้ 1 ปี พร้อมกับมีบริการดูแลหลังการขายที่ดีเยี่ยม ช่วยในการแก้ปัญหาระหว่างใช้งาน 1 ปีนี้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่ม ซื้อสินค้าแล้วก็จัดตั้งกับพวกเราการันตีว่าพวกเราดูแลเป็นอย่างดีอย่างแน่นอน ขายแล้วไม่ทิ้ง ขายแล้วยังดูแล เกิดปัญหาเรียกใช้บริการได้ สนใจอยากจัดตั้งจานสำหรับรับสัญญาณดาวเทียม ติดตั้งกล้องวงจรปิดคุณภาพดีทั้งยังบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม สามารถติดต่อและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 099-4812554


4485
ธนาคารทิสโก้ รุกตลาดประกันบำนาญ รับเทรนด์ผู้สูงอายุ ส่ง ‘My Wish Retirement’ ประกันบำนาญตัวท็อป คุ้มครองยาวนานถึงอายุ 99 ปี รับเงินบำนาญสุดปัง 24% ต่อปี

นางกุสุมา ประถมศรีเมฆ ผู้อำนวยการสายประกันภัยธนกิจ ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดตัวประกันบำนาญ ‘My Wish Retirement’ เพื่อช่วยลูกค้าวางแผนการเงินให้มีรายรับที่มั่นคง แน่นอนและเพียงพอต่อการใช้ชีวิตภายหลังเกษียณอายุ ตามสังคมไทยที่เข้าสู่สังคมสูงอายุในปี 2564 โดยมีความโดดเด่นที่ลูกค้าสามารถเลือกรับเงินบำนาญรายปีสูงถึง 24% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หรือรายเดือน เดือนละ 2.025% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และให้ความคุ้มครองยาวนานถึง 99 ปี โดยไม่ต้องตรวจหรือตอบคำถามสุขภาพ

  นางกุสุมา ประถมศรีเมฆ ผู้อำนวยการสายประกันภัยธนกิจ ธนาคา รทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
นางกุสุมา ประถมศรีเมฆ ผู้อำนวยการสายประกันภัยธนกิจ ธนาคา รทิสโก้ จำกัด (มหาชน)

 

ประกันบำนาญ ‘My Wish Retirement’ รับประกันโดยบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จํากัด (มหาชน) สมัครได้ตั้งแต่อายุ 20 - 55 ปี สามารถเลือกระยะเวลาชำระเบี้ยได้ทั้งแบบ 5 ปี 10 ปี หรือชำระถึงอายุ 60 ปี โดยผลประโยชน์ไม่ต่ำกว่าเบี้ยประกันที่จ่ายมาตลอดสัญญา เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 500 บาทต่อเดือน จำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ  50,000 บาทต่อปี ไม่จำกัดจำนวนเงินรับประกันภัยสูงสุด สามารถนำค่าเบี้ยประกันภัยไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 300,000 บาท ตามเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด

 


ทั้งนี้ หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตก่อนวันครบรอบปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยมีอายุครบ 60 ปี ผู้รับประโยชน์หรือทายาทรับเงิน 105% ของเบี้ยประกันภัยสะสมตามจริงหรือมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่า และหากเสียชีวิตในระหว่างรับเงินบำนาญก่อนวันครบรอบปี กรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยมีอายุครบ 99 ปี ผู้รับประโยชน์หรือทายาทรับเงินเท่ากับเบี้ยประกันภัยสะสมตามจริง หักด้วยผลประโยชน์สะสมที่ผู้เอาประกันภัยรับไปแล้ว และหากซื้อประกัน ‘My Wish Retirement’ ผ่านธนาคาร ทิสโก้ ในกรณีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรับผลประโยชน์เพิ่มเติม 100,000 บาท 

 

“ในไตรมาส 4 ธนาคารจะทยอยเปิดตัวประกันบำนาญตัวท็อป ที่มุ่งเน้นสร้างผลประโยชน์รับกับสังคมสูงอายุของไทย โดยในปี 2564 อายุขัยเฉลี่ยของคนไทยอยู่ที่ 75.3 ปี ซึ่งค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 4.4 เดือนต่อปี และมีความเป็นไปได้ว่าคนไทยที่เกิดในปีตั้งแต่ 2559 จะมีอายุขัยเฉลี่ยถึง 100 ปี”

ดังนั้น จึงมีโอกาสเสี่ยงที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหลังการเกษียณที่มีความสำคัญไม่แพ้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ และต้องยอมรับว่าคนไทยส่วนใหญ่มีเงินไม่เพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่ายหลังการเกษียณจนกลายเป็นภาระของลูกหลาน หรือไม่ก็ยังต้องทำงานหนักต่อไป หรือแม้จะเร่งลงทุนหลังเกษียณก็ทำได้ยาก เนื่องจากไม่สามารถลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงเพื่อให้มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้

 

“ประกันบำนาญจึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะสร้างประโยชน์ในระหว่างที่ลูกค้ามีชีวิตอยู่ ทำให้มีรายรับที่สม่ำเสมอ แน่นอนและมั่นคง และคาดว่าจะกลายเป็นเมกะเทรนด์ในการวางแผนเกษียณอายุของคนไทยในอนาคต”นางกุสุมากล่าว

4486


หลังจากทางการญี่ปุ่นได้แก้ไขกฎหมายว่าด้วยการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์เมื่อปลายปี พ.ศ.2562 ส่งผลให้ร้านสะดวกซื้อและร้านค้าปลีกทั่วประเทศต้องงดแจกถุงพลาสติกฟรีให้ลูกค้า ซึ่งถือว่าเป็นการให้ชิมลาง เพื่อให้มีการปรับพฤติกรรมในการใช้ถุงและบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use Plasstic) 

ก่อนที่จะมาเล่นบทโหด โดยการออกกฎหมายบังคับ 1 เมษายน 2565 เมื่อเวลาผ่านไปราว 2 ปี

จากการสำรวจของรัฐบาลญี่ปุ่น พบว่า หลังจากที่กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ (มิถุนายน 2563 เป็นต้นมา) พบว่า ปริมาณการใช้ถุงพลาสติกลดลงอย่างมาก โดยผู้บริโภค 7 ใน 10 คนที่มาร้านสะดวกซื้อจะไม่ซื้อถุงพลาสติก แต่มีการพกพาถุงผ้า หรือนำถุงพลาสติกกลับมาใช้ซ้ำ หรือถือของไปเอง ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากอัตรา 2 ใน 10 คนในช่วงก่อนที่จะมีมาตรการทางกฎหมาย สำหรับอัตราค่าถุงพลาสติกที่ทางร้านจำหน่ายให้กับลูกค้านั้น โดยทั่วไปอยู่ระหว่างใบละ 3-10 เยน หรือราว 0.9-3.1 บาท

มาปีนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเตรียมก้าวไปอีกขั้น คือ การยกร่างกฎหมายเพื่อควบคุมการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวเป็นการเฉพาะ เนื่องจากญี่ปุ่นมีการใช้พลาสติกในปริมาณมหาศาลถึงเกือบ 10 ล้านตันต่อปี และในจำนวนนี้ ประมาณ 1 แสนตันเป็นช้อนส้อมพลาสติกและหลอดพลาสติก

ในเบื้องต้น ได้กำหนดพลาสติก 12 ชนิดที่จะให้องค์กรธุรกิจและประชาชนลดละเลิกใช้ ได้แก่ ช้อนส้อมมีดพลาสติก หลอดพลาสติก แปรงสีฟัน หวีและพลาสติกคลุมผมอาบน้ำ (shower cap) ซึ่งมีการแจกและใช้แบบครั้งเดียวทิ้งในปริมาณมากในกลุ่มโรงแรม กฎหมายจะกำหนดให้ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร โรงแรม ร้านซักรีด ที่มีการใช้พลาสติกเหล่านี้มากกว่า 5 ตันต่อปีจะต้องลดปริมาณการใช้ลง โดยเปลี่ยนไปใช้วัสดุทางเลือกที่ย่อยสลายได้ เช่น กระดาษ ไม้ หรือพลาสติกที่ย่อยสลายได้ที่ได้รับการรับรอง หรือหากยังต้องการใช้พลาสติก ก็ต้องห้ามแจกฟรีให้กับลูกค้า หากองค์กรธุรกิจใดไม่ปฏิบัติตาม อาจมีโทษปรับสูงสุดถึง 5 แสนเยน หรือราว 1.5 แสนบาท

ผู้ค้าปลีกและร้านอาหารในญี่ปุ่นจะต้องลดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง 12 ชนิดภายใต้กฎหมายใหม่ (เครดิตภาพ  BLOOMBERG)
ผู้ค้าปลีกและร้านอาหารในญี่ปุ่นจะต้องลดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง 12 ชนิดภายใต้กฎหมายใหม่ (เครดิตภาพ BLOOMBERG)

สำหรับกฎหมายฉบับใหม่ผ่านโดยสภานิติบัญญัติเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการใช้กระดาษที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพหรือทางเลือกที่ทำจากไม้ในร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และโรงแรม ทางลูกค้าจะต้องถูกเรียกเก็บเงินสำหรับภาชนะหรือหลอดพลาสติก แต่ตัวเลือกกระดาษหรือไม้สามารถแจกจ่ายได้ฟรี โดยรายละเอียดปลีกย่อยของกฎหมาย ซึ่งรวมถึงขอบเขตของธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบ มีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้

ความพยายามในการออกกฎหมายดังกล่าวเป็นผลมาจากแรงกดดันจากนานาชาติในเรื่องการแก้ปัญหามลพิษพลาสติกซึ่งญี่ปุ่นออกตัวช้ากว่าประเทศที่พัฒนาแล้วอื่นๆ และที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นประเทศที่มีการใช้พลาสติกจำนวนมาก แม้ว่าอัตราการแยกขยะเพื่อรีไซเคิลจะสูงถึง 80% แต่แท้จริงแล้ว เกือบ 60% กลับเป็นการนำพลาสติกไปแปลงเป็นพลังงาน (energy recovery) ซึ่งวิธีการนี้ไม่ช่วยให้ญี่ปุ่นลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ อีกทั้งญี่ปุ่นก็ไม่สามารถส่งออกขยะพลาสติกไปรีไซเคิล หรือกำจัดนอกประเทศได้เหมือนในอดีตที่มักส่งไปจีน ดังนั้น ญี่ปุ่นจึงต้องพยายามลดการผลิตและใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวที่ยากต่อการรีไซเคิลลงซึ่งจะช่วยเรื่องการบรรลุเป้าหมาย Net-Zero ภายในปีค.ศ. 2050 ของประเทศอีกด้วย

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาเริ่มเห็นการปรับตัวขององค์กรภาคธุรกิจของญี่ปุ่นในการลดการใช้พลาสติกลง เช่น ร้านสะดวกซื้อมีการปรับบรรจุภัณฑ์เพื่อให้สามารถนำมาใช้ซ้ำได้ทำให้ผู้บริโภคสามารถนำบรรจุภัณฑ์มาคืนและจูงใจโดยให้ส่วนลด สายการบินญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง ANA ได้ปรับมาใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่ทำมาจากชานอ้อยตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งสายการบินคาดหวังว่าจะสามารถลดขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวได้ถึง 317 ตันต่อปี

4487
ข่าวดี Bitkub Investment Centre เปิดให้บริการแล้ว ณ อาคาร Liberty Square ถนนสีลม พบปะกับเพื่อน ๆ นักลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจาก Bitkub แบบตัวต่อตัว ได้แล้ววันนี่้

ปัจจุบัน การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีเริ่มเป็นกระแสที่ผู้คนให้ความสำคัญกันมากขึ้น แต่เนื่องจากคริปโทเคอร์เรนซียังเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ จึงยังมีนักลงทุนจำนวนมากที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือคำปรึกษาในด้านต่าง ๆ

บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ Bitkub เล็งเห็นความสำคัญในจุดนี้ จึงได้จัดสถานที่ให้นักลงทุนสามารถมาแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการลงทุน และรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อที่จะสามารถลงทุนในเทคโนโลยีการเงินแห่งอนาคตได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

 

Bitkub Investment Centre  เปิดให้บริการแล้ว ณ อาคาร Liberty Square ถนนสีลม
Bitkub Investment Centre เปิดให้บริการแล้ว ณ อาคาร Liberty Square ถนนสีลม
 

ที่ Bitkub Investment Centre  มีผู้เชี่ยวชาญจากทีม Digital Asset Strategist (DAS) ที่มีความชำนาญในสินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุน และการใช้งานแอปพลิเคชัน Bitkub โดยเฉพาะ เพื่อคอยให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ให้กับนักลงทุน


นอกจากนี้ Bitkub Investment Centre ยังมีพื้นที่ให้สามารถทำงานหรือเทรด รวมถึง บริการ WiFi ฟรี ห้องประชุม ห้องจัดอบรม มุมสินค้า มุมขนม กาแฟ น้ำดื่ม พร้อมให้บริการทุกท่าน

สำหรับท่านที่มีความกังวลเกี่ยวกับ COVID-19 ที่ Bitkub Investment Centre  มีมาตรการป้องกันเพียบพร้อม ทั้งจุดลงทะเบียนไทยชนะ จุดบริการเจลแอลกอฮอล์ จุดบริการหน้ากากอนามัย นโยบายทำความสะอาดตลอดวัน และจำกัดการให้บริการได้ครั้งละไม่เกิน 5 ท่าน ท่านละไม่เกิน 1 ชั่วโมง 30 นาที (จนกว่าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง)

พบกับ Bitkub Investment Centre ได้แล้ววันนี้ ณ อาคาร Liberty Square ถนนสีลม เปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09:00-18:00 น. (ไม่เปิดให้บริการในวันหยุดนักขัตฤกษ์)

4488

"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
"โชกุน"

ในโลกการเงินดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หรือที่รู้จักในชื่อว่าสกุลเงินดิจิทัล ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายว่าจะเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนมูลค่าที่จะมาทดแทนการใช้เงินสดหรือแม้แต่เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-money) ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันได้หรือไม่ และด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกระจายศูนย์ที่อยู่เบื้องหลังอย่างบล็อกเชน (Blockchain) ที่มีความปลอดภัยและสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้งาน ขณะที่เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยลดบทบาทตัวกลางอย่างสถาบันการเงิน ที่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ธนาคารกลางทั่วโลกจึงหันมาศึกษาความเป็นไปได้ในการนำบล็อกเชนมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพของระบบการชำระเงิน และการออกใช้ Central Bank Digital Currency (CBDC) หรือสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนมูลค่าที่จะเป็นตัวแทนของเงินได้จริงๆ

CBDC ถือเป็น “สกุลเงิน” ในรูปแบบดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง ซึ่งมีคุณสมบัติในการเป็นสื่อกลางเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ สามารถรักษามูลค่า และเป็นหน่วยวัดทางบัญชีได้ ซึ่งต่างจากคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin Ether หรือ Ripple ที่ออกโดยภาคเอกชน และมีมูลค่าผันผวนจากการใช้เพื่อเก็งกำไร จึงไม่เหมาะสำหรับการนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ

CBDC สามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ สำหรับการทำธุรกรรมระหว่างสถาบันการเงิน (Wholesale CBDC) และสำหรับธุรกรรมรายย่อยของภาคธุรกิจและประชาชน (Retail CBDC)

นอกจากประเทศจีนที่ประกาศใช้เงินดิจิทัลหยวนสำหรับประชาชนอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อช่วงต้นปี 2563 ยังมีหลายประเทศที่กำลังเดินหน้าศึกษาและทดลองเรื่องนี้ อาทิ



E-Krona ในสวีเดน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศที่พัฒนา CBDC เป็นประเทศแรกๆเนื่องจากในปี 2018 อัตราการชำระเงินด้วยเงินสดในสวีเดนเหลืออยู่เพียง 13% ซึ่งมูลค่าในตลาด Remittance ของสวีเดนมีมูลค่ามากถึง 16,400 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่า GDP ในประเทศถึง 3.5 เท่า โครงการเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2017 ปัจจุบัน E-Krona มีการทดสอบกับร้านค้าและ End-User เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ในรายงานระบุว่าผู้ใช้งานสามารถทำ Anonymouse payment ได้หากมีมูลค่าไม่ถึง 250 EURO และรองรับระบบ Offline Payment

ธนาคารฝรั่งเศสประกาศเมื่อเดือนมีนาคม 2020 เกี่ยวกับ CBDC ว่าทดสอบการใช้เงินยูโรดิจิทัล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจการใช้งาน CBDC สำหรับ Tokenized Financial Assets แม้ว่าก่อนหน้านี้ธนาคารแห่งประเทศฝรั่งเศสจะเรียกร้องให้มีการสร้างระบบการชำระราคาแบบบล็อกเชนในยุโรป

แอฟริกาใต้ประกาศพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2019 โดยธนาคารกลางแอฟริกาใต้ อ้างถึงคุณสมบัติของ CBDC ที่จะถูกพัฒนาขึ้นว่าจะเป็น Legal tender และจะทำงานร่วมกันกับเงินสดมากกว่าจะมาแทนที่เงินสด และสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร

ธนาคารกลางอังกฤษยังอยู่ในช่วงพิจารณาการสร้าง CBDC แต่ก็มีเอกสารและการอภิปรายในการศึกษาความเสี่ยงและโอกาสในการพัฒนา เพราะแม้อังกฤษยังมีการใช้เงินสดอยู่มากแต่ก็มีแนวโน้มที่ลดลงจนกระทั่งปี 2018 นั้น อัตราการใช้เงินสดเหลืออยู่เพียง 28% เท่านั้น

ล่าสุด สหรัฐฯ ก็ได้ประกาศโครงการ Digital Dollar ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตผู้นำของคณะกรรมการการ Commodity Futures Trading Commission (CFTC) และ Accenture โดยกล่าวว่าจะสร้างให้เสร็จใน 5-10 ปี

ในส่วนของประเทศไทยนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับธนาคารพาณิชย์ 8 แห่งได้ริเริ่ม “โครงการอินทนนท์” ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อศึกษาประสิทธิภาพและความเป็นไปได้ของการใช้ CBDC ในภาคสถาบันการเงิน รวมถึงมีการทดลองการโอนเงินข้ามประเทศร่วมกับธนาคารกลางฮ่องกง ซึ่งผลการทดสอบและองค์ความรู้ในการทำโครงการฯ เป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาเงินสกุลดิจิทัลของไทยในอนาคตที่ต้องให้ความสำคัญต่อเสถียรภาพการเงินและการสร้างนวัตกรรมที่สนับสนุนภาคธุรกิจเอกชน

หลายคนคงจำได้ถึงการเปิดตัว Libra ของเฟซบุ๊กเมื่อกลางปี 2562 ที่ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกตื่นตัวยิ่งขึ้นและเริ่มให้ความสนใจกับการพัฒนา CBDC สำหรับรายย่อยมากขึ้น โดย ธปท.อยู่ระหว่างศึกษา ออกแบบ และพัฒนาระบบต้นแบบ CBDC ร่วมกับภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งเป็นโครงการต่อยอดการพัฒนาจากโครงการอินทนนท์ เพื่อศึกษารูปแบบ ผลกระทบ และข้อจำกัดในการนำ CBDC ไปใช้ในภาคเอกชน โดยเริ่มจากการเชื่อมต่อระบบการบริหารการจัดซื้อและการชำระเงินระหว่างบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) กับคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทาน โดยมีบริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบดังกล่าวร่วมทดสอบ

อย่างไรก็ดี การนำระบบต้นแบบมาปรับใช้จริงในวงกว้างนั้น จำเป็นต้องใช้เวลาศึกษาและพิจารณาผลกระทบในมิติอื่นๆ อย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นข้อกฎหมายเสถียรภาพของระบบความปลอดภัยในการใช้งาน และความพร้อมด้านเทคโนโลยีของผู้ใช้ เป็นต้น

การพัฒนาเงินดิจิทัลสำหรับประชาชนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่และต้องพิจารณาให้รอบด้าน ซึ่งยากที่จะสามารถตอบได้ว่าเมื่อใดเราจะมี CBDC ใช้ เพราะความพร้อมอาจไม่ขึ้นอยู่กับ ธปท. เพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องไปทั้งองคาพยพ ในด้านความพร้อมของภาครัฐและภาคธุรกิจเอกชน รวมถึงมาตรการความปลอดภัยต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในเสถียรภาพระบบการเงิน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำหน้าที่ของธนาคารกลาง

(ที่มา: วารสาร BOT Magazine ฉบับที่ 4/2563)

4489
“โออาร์” ผนึกกองทุน 500 Startups ตั้ง “ออร์ซอน เวนเจอร์ส” ร่วมลงทุนสตาร์ทอัพ เน้นธุรกิจนอนออยล์ ทุ่มเบื้องต้น 1.5 พันล้าน เผยสตาร์ทอัพไทย-จีน ติดต่อขอรับเงือนไข เล็งร่วมลงทุน 20-30 ราย

ธุรกิจ Mobility&Lifestyle เป็น 1 ใน 6 กลุ่มธุรกิจที่กลุ่ม ปตท.ปรับตัววิสัยทัศน์ใหม่ “Powering life with future energy and beyond” โดยธุรกิจ Mobility&Lifestyle จะมี บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เป็นแกนหลัก

การร่วมลงทุนกับกลุ่มสตาร์ทอัพเป็นอีกแนวทางที่จะขับเคลื่อนธุรกิจ Mobility&Lifestyle ซึ่งเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์คนเดินทางในอนาคตและตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกไลฟ์สไตล์ เช่น ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม การท่องเที่ยว สุขภาพ รวมถึง Digital Lifestyle

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โออาร์ และกองทุน 500 Startups หรือ 500 TukTuks ได้จัดตั้งกองทุนออร์ซอน เวนเจอร์ส (ORZON Ventures, L.P.) โดยโออาร์ จะร่วมลงทุนเริ่มแรก 25-50 ล้านดอลลาร์หรือ 750-1,500 ล้านบาท 

ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาและสนับสนุนสตาร์ทอัพใหม่ในระดับซีรีย์ A-B ที่ดำเนินธุรกิจในไทยและอาเซียน โดยมุ่งเน้นทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโออาร์ และธุรกิจใหม่ภายใต้ธุรกิจ Mobility & Lifestyle เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและสร้างความเติบโตระยะยาว และสร้างโอกาสในการสร้างธุรกิจ New S-Curve ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะสร้างความแข็งแกร่งและต่อยอดธุรกิจของโออาร์

หาพันธมิตรต่อยอดธุรกิจ

นางสาวจิราพร กล่าวว่า โออาร์จะดำเนินธุรกิจที่สร้างความร่วมมือเพื่อการเติบโตยั่งยืน โดยจะแสวงหาธุรกิจใหม่ต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจให้ก้าวไกลกว่าธุรกิจน้ำมันท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยไม่ได้มองการร่วมมือเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ให้ความสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือกับคนตัวเล็ก ทั้งรูปแบบพันธมิตรทางธุรกิจ การลงทุนในเอสเอ็มอีหรือสตาร์ทอัพ โดยสตาร์ทอัพไทยมีจุดแข็งด้านศักยภาพการใช้เทคโนโลยี มีความสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้เร็ว แต่ขาดความพร้อมด้านกำลังคน ขาดเงินทุน ขาดการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและขาดระบบนิเวศเกื้อหนุน

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาโออาร์ลงทุนกับกลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) บริษัทแม่ของ แฟลช เอ็กซ์เพรส จากการระดมทุนซีรีย์ E โดยการบริหารและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ครอบคลุมถึงการลงทุนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่จะตอบโจทย์ และสร้างความแตกต่างให้แก่ตลาด รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขาย ขยายบริการและสร้างกลยุทธ์ใหม่ 

ทั้งนี้ แฟลช เอ็กซ์เพรส มียอดจัดส่งพัสดุต่อวันสูงสุดร่วม 2 ล้านชิ้น ซึ่งโออาร์ได้เปิดจุดรับส่งพัสดุในแนวคิด "Flash Express Drop Off ส่งง่าย ส่งไว ทั่วไทย ที่ Cafe Amazon” โดยนำร่องเฟสแรก 71 สาขาทั่วประเทศ และขยายไปสาขาอื่นจากปัจจุบันมีคาเฟ่ อเมซอนกว่า 3,000 สาขา ตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคตที่มีไลฟ์สไตล์ปรับตัวสู่โลกออนไลน์มากขึ้น

นอกจากนี้ ร่วมมือกับ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด ซึ่งดำเนินกิจการร้านอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์โอ้กะจู๋ ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องความสดใหม่ของผักที่ปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ และส่งตรงจากฟาร์มผักขนาดใหญ่ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยโออาร์ลงทุนสัดส่วน 20% และได้ตั้งเป้าขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋เพิ่มเติมในสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น 

รวมถึงการจำหน่ายอาหารแบบ Grab&Go ผ่านร้านคาเฟ่ อเมซอนในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และภาคเหนือ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความหลากหลาย และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีไลฟ์สไตล์ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ

หนุนธุรกิจนอนออยล์

ทั้งนี้ การที่โออาร์เริ่มลงทุนกับบริษัทสตาร์อัพทั้งกลุ่มธุรกิจแฟลซและโอ้กะจู๋ ซึ่งครอบคลุมธุรกิจใหม่ของโออาร์ในธุรกิจ Mobility & Lifestyle จึงมั่นใจว่าการจัดตั้งกองทุนออร์ซอน เวนเจอร์ส จะทำให้โออาร์เข้าถึงสตาร์ทอัพที่อยู่ครอบคลุมใน Early Stage ในไทยและอาเซียนได้มากขึ้น โดยผ่านกระบวนการคัดกรองจากทีมผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks ซึ่งมีความชำนาญในการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ 

สำหรับสตาร์ทอัพที่ออร์ซอน เวนเจอร์ส มองหาจะมีทั้งที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับ โออาร์ และธุรกิจใหม่เพื่อตอบโจทย์ของกลุ่มธุรกิจ Mobility & Lifestyle และหากสตาร์ทอัพที่ออร์ซอน เวนเจอร์ส ลงทุนไปเติบโตได้ดีบน OR Ecosystem โออาร์ อาจพิจารณาลงทุนตรงในสตาร์ทอัพ เองอีกทางด้วย

จุดแข็งสตาร์ทอัพหนุนโออาร์

“โออาร์อยากเติบโตอย่างยั่งยืนคู่กับพันธมิตร วันนี้เข้าลงทุนทั้งขนาดกลาง ขนาดใหญ่ รวมถึงสตาร์ทอัพ การดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนเกื้อกูลจากคนไทย จึงอยากเติบโตร่วมกัน ส่วนการทำธุรกิจในมุมของสตาร์ทอัพ มองว่าเป็นคนที่มีกำลัง มีพลังแข็งแกร่ง มีศักยภาพ มีความรวดเร็วของเทคโนโลยี ทันต่อการเปลี่ยนแปลง" 

ส่วนสถานีพีทีที สเตชั่นปัจจุบันคนเข้ามาใช้บริการ 3 ล้านคนต่อวัน โออาร์จึงอยากได้สตาร์ทอัพที่คิดบริการตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่เป็นมากกว่าการมาเติมน้ำมันแต่ให้เป็นจุดนัดพบส่งต่อสินค้าบริการต่อกัน และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โออาร์พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพีทีที สเตชั่น เพื่อเติมเต็มความสุขกว่า 2,000 สาขา ให้ตอบโจทย์ความสุขให้คนที่เข้ามาใช้บริการ

นอกจากนี้ หากบริษัทสตาร์ทอัพ ได้โอกาสจากบริษัทใหญ่ ทั้งเรื่องของเงินทุนและกำลังคนจะขยายธุรกิจให้กับโออาร์ได้ดี โดยโออาร์มีสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น คาเฟ่ อเมซอน ครอบคลุมทั่วประเทศ และมีสาขาอยู่ต่างประเทศอีกกว่า 10 ประเทศในอาเซียนถือเป็นพื้นที่น่าลงทุนที่ไม่ได้อยู่แค่ 60 ล้านคนในไทย แต่มีโอกาสไปถึงไม่ต่ำกว่า 600 ล้านคน 

สตาร์ทอัพไทย-จีนสนร่วมทุน

สำหรับ ออร์ซอน เวนเจอร์สตั้งงบลงทุนเบื้องต้น1,500 ล้านบาท ซึ่งเน้นธุรกิจนอนออยล์มากขึ้น และหากมีสตาร์ทอัพต้องการใช้เงินเพิ่มเติมก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่ ล่าสุดมีสตาร์ทอัพทั้งไทยและจีน ติดต่อขอรับเงื่อนไขจำนวนหนึ่งและกำลังหาข้อสรุป

ทั้งนี้ โออาร์เชื่อว่าศักยภาพความพร้อมของโออาร์ จะช่วยเติมเต็มและสนับสนุนสตาร์ทอัพทั้งด้านเงินทุน การเข้าถึงฐานลูกค้าและระบบนิเวศขนาดใหญ่ของโออาร์ และความช่วยเหลือด้านพื้นฐานอื่นจากผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้สตาร์ทอัพมีสภาพแวดล้อมและทรัพยากรที่เหมาะสม เปรียบเสมือน Sandbox หรือ Playground ขนาดใหญ่ ที่จะเพิ่มโอกาสให้บริษัทสตาร์ทอัพเติบโตได้รวดเร็วและยั่งยืนขึ้น

นอกจากนี้ โออาร์เตรียมวงเงินลงทุนสำหรับเข้าลงทุนธุรกิจอื่น เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของโออาร์ให้กับเศรษฐกิจไทยและส่งเสริมให้ธุรกิจใหม่เติบโตสู่ระดับโลก โดยมีแผนการลงทุน 5 ปีข้างหน้า วงเงิน 75,000 ล้านบาท แบ่งเป็นน้ำมันและอีวี 35% ต่างประเทศ 20% ที่เหลือเป็นธุรกิจ New S-Curve และธุรกิจใหม่

ตั้งเป้าสตาร์ทอัพ30ราย

นายเรืองโรจน์ พูนผล ผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks ซึ่งจะมารับตำแหน่งผู้บริหารของ ออร์ซอน เวนเจอร์ส เปิดเผยว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ทำให้ความฝันนี้ใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นทั้ง โออาร์ และ 500 TukTuks มีเป้าหมายเดียวกัน คือ การสร้างอีโคซิสเต็มที่พร้อมสนับสนุนและผลักดันสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตก้าวกระโดดและสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศ 

สำหรับการร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นการดึงเอาจุดแข็ง 2 ฝ่ายมารวมกัน ทั้งประสบการณ์การลงทุนสตาร์ทอัพ 6 ปีของ 500 TukTuks ที่เป็นนักลงทุนชั้นนำที่ได้ลงทุนในสตาร์ทอัพมากที่สุดในไทย รวมกับโออาร์ที่เป็นผู้นำตลาดค้าปลีกน้ำมันและมี OR Ecosystem ที่แข็งแกร่ง มีความตั้งใจจริงที่จะทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพดังที่เห็นได้จากตัวอย่างความร่วมมือช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลให้เกิด Synergy ในรูปแบบใหม่ที่จะผลักดันสตาร์ทอัพไทย ที่อยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงแบบหักศอก Continuous Disruption ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ในยุคทองของอาเซียนร่วมพลิกโฉมวงการสตาร์ทอัพไทย

“เดือน พ.ย.นี้ ออร์ซอน เวนเจร์ส จะเริ่มลงทุนได้ โดยปีนี้จะใส่เงินลงทุนในสตาร์ทอัพ 1-2 ราย ซึ่งจะเป็นตัวอย่างให้สตาร์ทอัพรายต่อไป เพราะด้วยศักยภาพของสตาร์ทอัพไทยวันนี้มีความพร้อมมาก โดยตั้งเป้าเฟสแรกลงทุนในสตาร์ทอัพ 10-15 ราย จะเน้นสตาร์ทอัพไทยก่อน ขณะนี้มีสตาร์ทอัพเป้าหมายที่อยู่ในการพิจารณาแล้ว 20-30 ราย โดยออร์ซอน เวนเจอร์ส จะให้เงินสนับสนุนสตาร์ทอัพไม่เกิน 50 ล้านบาท ต่อราย และพร้อมใส่เงินเพิ่มอีกถ้ามีศักยภาพไปต่อได้” นายเรืองโรจน์  กล่าว

4490
ปอล ป็อกบา มิดฟิดล์เลือดเฟร้นช์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจที่จะต่อสัญญาใหม่กับ "ผีแดง" โดยเหตุผลสำคัญเพราะทีมคว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาเสริมแกร่ง และทำให้ทีมมีโอกาสประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

           ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส พร้อมที่จะขยายสัญญาฉบับใหม่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แน่นอน โดยเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจแบบนั้นก็เพราะการที่ "ปีศาจแดง" คว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมาสู่ทีม

           มิดฟิลด์แชมป์โลก เหลือสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด จนถึงช่วงซัมเมอร์ ปีหน้าเท่านั้น และก่อนหน้านี้ มิโน่ ไรโอล่า เอเยนต์ของเขาก็มักจะให้สัมภาษณ์ในเชิงที่บอกว่า ป็อกบา อาจจะบอกลาทีมก็ได้ โดยมีทั้ง เรอัล มาดริด, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ ยูเวนตุส ที่ให้ความสนใจในตัวเขา

            ล่าสุด เลกิ๊ป บอกว่า ป็อกบา เลือกแล้วว่าต้องการอยู่กับทีมต่อไป แต่เขาก็อยากได้ค่าเหนื่อยในระดับที่จะทำให้เขาเป็นหนึ่งในคนที่ฟันค่าเหนื่อยเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก เหมือนกัน โดยปัจจุบันดาวเตะชาวฝรั่งเศสรับค่าเหนื่อยอยู่ที่สัปดาห์ละ 290,000 ปอนด์ (ประมาณ 13.34 ล้านบาท)

           อย่างไรก็ตามยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ ป็อกบา ตัดสินใจที่จะอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อไป นั่นก็คือการที่ทีมของกุนซือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา คว้าตัว โรนัลโด้ กลับมาเล่นให้ "เร้ด เดวิลส์" ในช่วงซัมเมอร์นี้

           ทั้งนี้การที่ แมนฯ ยูฯ คว้าตัว สตาร์ชาวโปรตุกีสเจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัย มาร่วมทีม มีโอกาสที่จะทำให้ "ปีศาจแดง" สิ้นสุดการรอคอยในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรก หลังจากที่ไม่ได้สัมผัสมันมานานกว่า 9 ปี

4491
Kiddo Pacific Clearance Sale ลดเยอะ ลดแรง ลดสูงสุด 80%
สินค้าแม่และก็เด็กแบรนด์คุณภาพ มีให้ช้อปครบจบในที่เดียว ถูกขนาดนี้พลาดแล้วพลาดเลย
งานลดราคาสินค้าแม่และก็เด็ก รวมทั้งของเด็กเล่นลิขสิทธิ์แท้แบรนด์ดังมากไม่น้อยเลยทีเดียว
วันที่ 8-11 เดือนตุลาคม 2564
เวลา 10 โมง ถึง 1 ทุ่ม
สถานที่ at The Bright พระราม2
>> https://bit.ly/3uE9nJJ
ดูรายละเอียดคลิก >> https://bit.ly/3FiMTD9




เจอกับผลิตภัณฑ์แบรนด์ดัง ลิขสิทธิ์แท้ Chicco, Graco, Baby Jogger, Recaro, Vtech, LeapFrog, Skip Hop, Playgro, Fisher Price, Iimo, Scoot&Ride, Winfun, Paw Patrol, Peppa Pig, Disney Princess, Disney Baby, Disney Frozen, PJ Masks, Baby Shark, Crayola, Ben10, Batman&DC, Dragon, Toys Story, Cool Maker Go Glam, 4M, Smithsonian, Disney Cars, Disney Tsum Tsum, , Pikmi Pops, Twisty Pets,Power Puff Girls, Blume, Shopkins, Hatchimals, Fortnite, Teamsterz อาทิเช่น รถเข็นเด็ก คาร์ซีท เตียงเด็ก เบาะนอน บูสเตอร์ซีท รถยนต์ขาไถ เก้าอี้ทานข้าว กระเป๋าเด็ก กระเป๋าคุณแม่ ของใช้แม่และก็เด็ก เครื่องนึ่งขวดนม เครื่องอุ่นนม เทอร์โมมิเตอร์ โมบายติดรถเข็น โมบายเด็ก ดรีมไลท์ เพลยิม ของเด็กเล่นเสริมพัฒนาการ ของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ของเล่นราคาไม่แพง ตุ๊กตา นาฬิกาเด็ก ของเล่นสะสม ของเล่นเด็ก DIY ชุดทำเล็บเด็ก ชุดทำผมเด็ก ชุดเครื่องครัว ฟิกเกอร์ ชุดคอสตูมลิขสิทธิ์ ของเล่นเด็กแบรนด์ดัง ของเล่นลดราคา  ลิขสิทธิ์แท้ แล้วก็อื่นๆอีกมากมาย แล้วพบกันนะคะ

รับบัตรเครดิตยอด 1,000 บาทขึ้นไป
สอบถามเพิ่มเติม
• Inbox :m.me/kiddopacific
• Line : https://line.me/R/ti/p/%40kiddopacific
• โทร 02-3002565
www.kiddopacific.com

4492
ทุกวันนี้ คนไทยไม่ใช่แค่ต้องเผชิญกับการรุกคืบของ “ดิจิทัล” ที่แทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันและชีวิตการทำงานเท่านั้น หากแต่เรายังอยู่ท่ามกลางกับสิ่งที่ทำให้เกิด “บิ๊กแบง” นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ซัดซ้ำให้ชีวิตต้องดำเนินต่อไปกับยุคที่เรียกได้ว่าเป็น ดับเบิ้ลดิสรัปชั่น (Double Disruption) พฤติกรรมการใช้ชีวิตเดิมๆ ถูกแทนที่อย่างฉับพลันทันทีด้วย “ชีวิตวิถีใหม่” (New Normal) ที่พึ่งพา “ออนไลน์” มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การทำธุรกรรมทางการเงิน การทำงานแบบ Work From Home การเรียนออนไลน์ หรือแม้แต่กระทั่งการซื้อสินค้าเพื่อใช้อุปโภคบริโภค และไม่ใช่แค่ “คนไทย” เท่านั้นที่ต้องปรับตัว แต่แบรนด์ต่างๆ ก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างและแสวงหาช่องทางการเข้าถึง “ลูกค้า” ให้ได้ไวและครอบคลุมที่สุด

เรายิ่งเห็นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในวันที่โควิดเข้ามาแผลงอิทธิฤทธิ์ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว 2 ปี ที่ผ่านมา พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไทยและธุรกิจต่างๆ เปลี่ยนไปจากเดิม ผลพวงการล็อกดาวน์ทำให้คนทำมาหากินไปจนกระทั่งถึงแบรนด์ใหญ่ต่างหาลู่ทางใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนธุรกิจโดยอาศัยช่องทางทรงพลังอย่าง “ออนไลน์” มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับผู้บริโภคที่คุ้นชินกับการสั่งและซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ เพราะสะดวก ง่าย รวดเร็ว สามารถทำทุกอย่างผ่านมือถือ โดยจากข้อมูลของ Thailand Digital Outlook ระยะที่ 3 ที่สำรวจระหว่างเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2564 พบว่า คนไทยซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้น 76.6% จากปีก่อนอยู่ที่ 37.7% ยิ่งเป็นการชี้ชัดให้เห็นว่าช่องทางออนไลน์ จากเดิมที่เป็นทางเลือกกลับกลายเป็น “ทางหลัก” โดยอีกหนึ่งช่องทางมีมาแรงและได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดดจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย นั่นคือ อีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) ทั้งนี้จากข้อมูลของ KKP Research โดยกลุ่มการเงินเกียรนาคินภัทร นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจไว้ว่า อีคอมเมิร์ซในปี 2563 ที่ผ่านมา ขยายตัวสูงถึงกว่า 80% โดยในส่วนของปี 2564 ได้คาดการณ์ว่าหลังโควิด-19 จะขยายตัวเฉลี่ย 20% ต่อปีตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้า และจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 3 แสนล้านบาท เป็น 7.5 แสนล้านบาทในปี 2568 หรือคิดเป็น 16% ของตลาดค้าปลีกรวม


 

เหนือสิ่งอื่นใด การจะประสบความสำเร็จทางช่องทางออนไลน์ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ การมองหา “พาร์ทเนอร์” ที่มีความชำนาญเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการติดอาวุธในสมรภูมิการค้า โดย ช้อปปี้ (Shopee) ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ถือพันธมิตรอีคอมเมิร์ซที่สำคัญที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย ด้วยความโดดเด่นของ E-commerce Ecosystem ที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Shopee Mall ที่นอกจากจะเป็นศูนย์การค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ที่เป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้บริโภคแล้ว Shope Mall ยังเพียบพร้อมด้วยเครื่องมือทางการตลาดที่ทันสมัย มีฐานข้อมูลเชิงลึก (Insight) ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถวางแผนและกำหนดกลยุทธ์ในการสร้างการรับรู้ ออกแบบกิจกรรมที่หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย สร้างปฏิสัมพันธ์ในระยาวผ่าน Loyalty program หรือนำเสนอ Loyalty privilege ต่างๆ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ได้แบบไร้รอยต่อ รวมไปถึงการส่งมอบ Personalized Experience ให้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังมีแคมเปญการตลาดและส่งเสริมการขายตลอดทั้งปี ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่อทั้งการซื้อซ้ำหรือซื้ออย่างต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้าเก่า และยังสามารถสร้างยอดขายเพิ่มเติมจากการขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ (Prospect) ได้อีกด้วย


 
ADVERTISEMENT


เพื่อเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ช้อปปี้ ได้นำเสนอตัวอย่างความสำเร็จจาก 4 แบรนด์ชั้นนำ ที่สามารถทำยอดขายและยอดติดตามร้านค้าอย่างเป็นทางการบน Shopee Mall ที่พร้อมเปิดเผยกลเม็ดและทีเด็ดทางธุรกิจเพื่อพิชิตเป้าหมายด้วยอีคอมเมิร์ซ


แบรนด์ใหญ่ ยิ่งต้องขยับไว ใช้วิสัยทัศน์ ปรับแผนธุรกิจ รับทุกความท้าทาย

เริ่มต้นที่ ยูนิลีเวอร์ (Unilever) ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค ที่มีสินค้าในกลุ่ม FMCG ซึ่งเป็นตลาดที่มีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปรับแผนลุยออนไลน์อย่างเต็มขั้น โดย นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย และภาคพื้นอาเซียน ได้เปิดเผยว่า “เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายสำคัญที่จะนำมาพาแบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคในทุกๆ ที่ และส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งและบริการที่เหนือระดับให้กับผู้บริโภคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ยูนิลีเวอร์เล็งเห็นถึงศักยภาพของอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มที่จะสามารถเข้ามาเป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน จึงได้เดินหน้าแผนงานโดยเริ่มนำสินค้าเข้ามาวางขายบน Shopee Mall และทำงานร่วมกับช้อปปี้อย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่แปลกใหม่และทันสมัย”


 
“เราสามารถกล่าวได้ว่าเต็มภาคภูมิว่า ยูนิลีเวอร์ เป็นแบรนด์แรกที่กล้าและเริ่มบุกเบิกการทำแคมเปญการตลาดในรูปแบบ Collaboration โดยเริ่มต้นด้วยแคมเปญ Unilever x Shopee Super Brand Day ซึ่งเป็นครั้งแรกบน Shopee Mall ในปี 2561 โดยได้กระแสตอบรับที่ดีเกินเป้าหมายด้วยยอดขายที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 250 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ จากความสำเร็จในครั้งนั้น ทำให้เราได้เพิ่มกำลังในการทำกลยุทธ์บนอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น จวบจนถึงปัจจุบันที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาด ยูนิลีเวอร์ ยังคงเป็นแบรนด์ชั้นนำที่สามารถเข้าถึงและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ และอาหาร ให้ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย สะดวกสบาย และปลอดภัย ในทุกที่ทุกเวลา ซึ่งตอกย้ำต่อเป้าหมายหลักของยูนิลีเวอร์ ที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยในทุกๆ ด้าน เราจึงได้ใช้ประโยชน์จากระบบดิจิทัลในการเพิ่มขีดความสามารถ พร้อมเดินหน้าตามพันธกิจที่ต้องการส่งมอบผลิตภัณฑ์ แบรนด์ และบริการชั้นนำ ที่จะสามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเหล่าผู้บริโภคได้ในทุกๆ วัน”


“เชื่อ” และ “ใช้” Data สรรหากิจกรรมความบันเทิงกระตุ้นการรับรู้บนโลกออนไลน์


 
อีกหนึ่งแบรนด์ที่ปรับตัวไวและพร้อมเปิดมุมมองการตลาดแบบ 360 องศา และยกระดับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านสู่อีกขั้น นั่นคือ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (Index Living Mall) นำโดย นายเอกฤทธิ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการ สายบริหารธุรกิจออนไลน์ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) บอกเล่าเรื่องราวการนำพาสินค้าที่มีมูลค่าสูงสู่สมรภูมิอีคอมเมิร์ซให้ฟังว่า “เรามองว่า แพลตฟอร์มนี้เปรียบเสมือนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่นอกจากจะเป็นศูนย์กลางรวบรวมสินค้าทั่วประเทศมาไว้ในจุดเดียวกันแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมเหล่านักช้อปที่กว้างขวางอีกด้วย โดยตั้งแต่ที่เราได้เข้ามาเปิดร้านออฟฟิเชียลสโตร์บน Shopee Mall สามารถเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น และทำให้ผู้บริโภคกล้าที่จะซื้อสินค้าที่ต้องใช้ข้อมูลในการตัดสินใจซื้อสูง (High Involvement) ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นจากการที่ Shopee Mall สามารถการันตีผู้ใช้งานว่าจะได้รับสินค้าแท้ 100% จากแบรนด์ดัง ส่งผลให้ผู้ใช้งานเชื่อมั่น ในสินค้าและบริการของเรา” 


“และจากการทำงานร่วมกันกับ ช้อปปี้ เรายังได้นำ Data และ Insights มาปรับรูปแบบการตลาดให้ตอบโจทย์ Personalized Marketing เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคแต่ละคนมากที่สุด รวมไปถึงการใช้เครื่องมือทางการตลาดที่ออกแบบมาให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และอยู่ในความสนใจของผู้บริโภค อาทิ Shopee Live, Shopee Feed, และ Shopee Games ที่ช่วยปรับเปลี่ยนรูปแบบการช้อปปิ้งออนไลน์จากเดิมที่ เข้ามาซื้อขายแล้วออกไป มาเป็นประสบการณ์การเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัดระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค จนสามารถช่วยผลักดันให้ Index Living Mall สามารถจับกับกระแสการเติบโตบนโลกออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยยอดขาย ที่พุ่งสูงกว่าเดิมถึง 2 เท่า ในช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมา”

 
เวทีแจ้งเกิดสำหรับโลคอลแบรนด์ เทียบชั้นแบรนด์ระดับโลกได้ด้วยกลยุทธ์เอ็กซ์คลูซีฟ

ต่อด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านโลคอลแบรนด์อย่าง SMARTHOME ที่นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในโลคอลแบรนด์ที่ฉายแสงและเติบโตอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดย นายธวัช มานะวงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท สเต็ป ฟอร์เวิร์ด กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย SMARTHOME แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตอบสนองรูปแบบชีวิตแนวใหม่ กล่าวถึงการเข้ามาทำตลาดและใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซในการสร้างแบรนด์ว่า “จุดขายที่สำคัญของ SMARTHOME ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาดก็คือ การเน้นย้ำเรื่องสินค้าที่มีคุณภาพ ที่มาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้ และการรับประกันสินค้าถึง 3 ปี ซึ่งนับเป็น pain point สำคัญในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าจำนวนมาก ไม่เพียงเท่านี้สินค้าของแบรนด์ SMARTHOME ยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ซึ่งนับเป็นมูลค่าเพิ่มในฐานะเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งภายในบ้าน และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ทันต่อความต้องการ ให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายยิ่งขึ้น และด้วยจิตวิญญาณความกล้าของเราไม่ว่าจะเป็นทีมผู้บริหารไปจนถึงพนักงานทุกคน เราจึงไม่หยุดที่จะพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมไปถึงการพัฒนาช่องทางการขายให้สอดคล้องกับเทรนด์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่องทางออนไลน์”


 
“โดย Shopee Mall ถือเป็นแพลตฟอร์มแรกที่ SMARTHOME ได้เริ่มมาทำตลาดออนไลน์อย่างจริงจังเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ซึ่งในขณะนั้นช่องทางออนไลน์ถือเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับผู้บริโภคชาวไทย แต่ด้วยการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทีมงานช้อปปี้ที่มีความรู้ความชำนาญ จึงทำให้ SMARTHOME เป็นที่รู้จักและสามารถเติบโตด้านยอดขายได้อย่างก้าวกระโดด และยิ่งในช่วงสถานการณ์โรคระบาดในช่วง 2 ปีมานี้ ทำให้ช่องทางการขายออนไลน์กลายเป็นช่องทางที่คนเข้าถึงสินค้าของเรามากขึ้น การได้เข้ามามีหน้าร้านบน Shopee Mall เป็นส่วนสำคัญในการสร้างยอดขาย และสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการสร้างแคมเปญที่แปลกใหม่ และการนำเสนอสินค้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยเปิดตัวและจำหน่ายสินค้าโมเดลเอ็กซ์คลูซีฟที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ Shopee Mall เท่านั้น ซึ่งช่วยสร้างกระแสความนิยมในสินค้าของเราได้เป็นอย่างดี และเกิดเป็นเทรนด์ที่คนให้ความสนใจอย่าง สินค้าในกลุ่มหม้อทอดไร้น้ำมัน ที่เรามีมากกว่า 10 รุ่นที่ขายบน Shopee Mall เท่านั้น ทั้งนี้ในแง่ของยอดขายในปัจจุบันเรามีสัดส่วนยอดขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์คิดเป็น 50% ของยอดขายบริษัททั้งหมด โดยหนึ่งในปัจจัยสู่ความสำเร็จนี้ส่วนหนึ่งมาจากความร่วมมือที่มีความเชี่ยวชาญในอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มอย่างช้อปปี้ บน Shopee Mall”

มากกว่าแค่ยอดขาย รวมพลังร่วมสร้าง Digital Mindset ยกระดับองค์กรให้โตอย่างยั่งยืน

ปิดท้ายด้วยแบรนด์ชั้นนำของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านในเมืองไทยอย่างเอสบี โดย นางธัญญรักข์ ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ ได้ให้มุมมองต่อการเข้ามาเป็นพันธมิตรกับ Shopee Mall ว่า “เราถือเป็นหนึ่งองค์กรที่มีความยืดหยุ่นสูงและพร้อมในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที การที่เราได้พันธมิตรอย่าง ช้อปปี้ ด้วยการเข้ามาเปิดร้านค้าบน Shopee Mall ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงความสมบูรณ์และครบวงจรของ E-Commerce Ecosystem ที่ประกอบด้วยปัจจัยที่มีความหลากหลาย ระบบหลังบ้านของช้อปปี้มีความเพียบพร้อมและมีเครื่องมือที่น่าสนใจใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Shopee Chat ที่ทำให้แบรนด์สามารถพูดคุย ตอบข้อสงสัย และยังสามารถให้ข้อมูลสินค้าได้ในทันที และยังรวมไปถึงคำแนะนำของทีมงานที่มีความชำนาญ

4493


เอ็กโก กรุ๊ป ได้รับคัดเลือกเป็น “หุ้นยั่งยืน ปี 2564” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ประเภทกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร สะท้อนภาพองค์กรให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้หลัก ESG พร้อมประกาศเป้าหมายมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050

วันที่ 6 ตุลาคม 2564 บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ได้รับคัดเลือกเป็น “หุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI)” ประจำปี 2564 ประเภทกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนให้เห็นว่าเอ็กโก กรุ๊ป ตระหนักและให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างความเติบโตทางธุรกิจ ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส ตรวจสอบได้ ควบคู่กับพันธกิจในการเป็นพลเมืองที่ดีด้วยการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมอย่างเกื้อกูล (Environment, Social and Governance – ESG) เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้ ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวว่า การได้รับคัดเลือกเป็นหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 สะท้อนให้เห็นว่าเอ็กโก กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 เอ็กโก กรุ๊ป สามารถปรับการทำงานเป็นแบบ New Normal จนดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ตลอดจนดูแลสุขภาพพนักงานและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ด้านสาธารณสุขของหน่วยงานต่างๆ เพื่อดูแลผู้มีส่วนได้เสียในภาวะวิกฤตอย่างรอบด้าน

นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ได้ประกาศเป้าหมายมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเราในการเป็นบริษัทไทยชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม

อย่างไรก็ตาม บริษัทในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2564 แสดงให้เห็นถึงการมีแนวทางการบริหารจัดการภาวะวิกฤตที่ครอบคลุมถึงการรับมือสถานการณ์โควิด-19 อย่างชัดเจน รวมถึงแสดงพัฒนาการด้านสิ่งแวดล้อมที่โดดเด่น ด้วยการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

ทั้งนี้ รายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI คัดเลือกจาก บจ. ที่เข้าร่วมตอบแบบประเมินความยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยตัวชี้วัดครอบคลุมมิติเศรษฐกิจ (รวมบรรษัทภิบาล) สังคม และสิ่งแวดล้อม และตัวชี้วัดตามลักษณะของธุรกิจในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งตัวชี้วัดเหล่านี้สอดคล้องกับประเด็นที่ผู้ลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจและเป็นประเด็นที่ภาคธุรกิจสามารถใช้ศักยภาพเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมได้

นอกจากนี้ รายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI จะถูกนำมาใช้เป็นเกณฑ์คัดเลือกดัชนี SETTHSI เพื่อส่งเสริมการลงทุนในหุ้นยั่งยืน ที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ซึ่งดัชนี SETTHSI มีการทบทวนทุกครึ่งปี

4494


ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตปราการหลังทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ออกโรงเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วถึงการคาดหมายทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ไปครองมากที่สุด

     ก่อนหน้านี้ คอมเมนเตเตอร์คนดังระบุว่า เชลซี มีโอกาสครองแชมป์ลีกเมืองผู้ดีมากกว่าทุกทีมเนื่องจาก โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ชาวเมืองไส้กรอกสร้างผลานได้อย่างน่าประทับใจ

     อย่างไรก็ดี หลังจบเกมบิ๊กแมตช์ที่ แมนฯ ซิตี้ บุกไปเสมอกับ ลิเวอร์พูล อย่างสุดมันส์ 2-2 อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษก็จัดแจงเปลี่ยนทีมตัวเต็งซะใหม่ทันทีด้วยมั่นใจว่า เรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะป้องกันโทรฟี่ได้สำเร็จ

     "สี่จากห้าเกมแรกของซีซั่น ผมนั่งดูและคิดว่า เชลซี เป็นทีมที่ยากแก่การเอาชนะ" ริโอ เฟอร์ดินานด์ เผยมุมมอง

     "ถัดมาในอีกสามจากสี่เกมหลัง ผมคิดว่า แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่ยากแก่การเอาชนะ พวกเขามองดูน่าประทับใจอย่างแรงในการดวลกับทีมยักษ์ใหญ่ด้วยกัน"

     "พวกเขาคุมเกมเหนือ เชลซี ในนัดที่ออกไปเยือนเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว พวกเขาเหนือกว่า ลิเวอร์พูล ในครึ่งแรกของวันอาทิตย์ และน่าจะคว้าชัยชนะออกไปได้"

ADVERTISEMENT


     "พวกเขาผิดหวังกันนิดหน่อยจากผลเสมอ 2-2 แต่พวกเขามองดูน่าประทับใจแบบสุดๆสำหรับผม พวกเขาแลดูน่ายำเกรงมากในตอนนี้"

     "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาครองเกมได้มากถึง 99% ปัญหาคือพวกเขาจะส่ง.เข้าประตูได้หรือเปล่า แต่หากทุกอย่างลงตัว ผมคิดว่าพวกเขาเป็นทีมที่ยากแก่การเอาชนะ"

     อดีตสตาร์ทีม ผีแดง ตบท้ายถึงคู่ปรับร่วมเมืองว่า "แมนฯ ซิตี้ มีประสบการณ์ และมีนักเตะชั้นเชิงสูง ดูเหมือนว่าพวกเขาในทีมทุกคนจะเล่นได้เข้ากันในทุกๆแท็คติก"

     อนึ่ง แมนฯ ซิตี้ มีคิวเปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ เบิร์นลีย์ หลังผ่านพ้นโปรแกรมของทีมชาติ ขณะที่ เชลซี จะทำศึก ลอนดอนดาร์บี้แม็ตช์ ด้วยการบุกไปฟัดกับ เบรนท์ฟอร์ด ส่วน ลิเวอร์พูล จะออกนอกบ้านไปโม่เกือกกับ วัตฟอร์ด

4495
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย ครม.เห็นชอบหลักการจ้างงานแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จำเป็น รวม 5,000 อัตรา เป็นระยะเวลา 1 ปี กรอบวงเงิน 4,335 ล้านบาท เพื่อช่วยงานโควิด-19 ทั้งการตรวจหาเชื้อ ดูแลรักษาพยาบาล และการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เป็นวาระแห่งชาติ

วันนี้ (5 ต.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามโครงการจ้างแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ และสายงานบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จำเป็น เพื่อรองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 5,000 อัตรา ระยะเวลาการจ้างไม่เกิน 1 ปีกรอบวงเงินรวม 4,335 ล้านบาท แบ่งเป็น แพทย์ 504 อัตรา พยาบาลวิชาชีพ 3,945 อัตรา นักวิชาการสาธารณสุขและบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จำเป็น รวมกัน 551 อัตรา โดยมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณากำหนดจำนวนกรอบอัตรากำลังที่จะจ้างงานภายใต้โครงการให้เป็นไปตามความเหมาะสมจำเป็น และสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในแต่ละพื้นที่ และใช้ค่าใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายงบกลาง ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ การจ้างแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ และสายงานบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จำเป็น เป็นกรณีพิเศษ 1 ปีนี้ เพื่อรองรับภารกิจการดำเนินงานในช่วงโควิด 19 ทั้งการตรวจหาเชื้อโควิด 19 การดูแลรักษา และการฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด 19 ด้วยวัคซีน มีเป้าหมายฉีดครบ 2 เข็มให้ได้ครอบคลุมร้อยละ 70 ในสิ้นปี 2564 ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายได้ นอกจากความพร้อมทั้งสถานที่ วัสดุอุปกรณ์การบริการจัดการที่รวดเร็ว ยังต้องมีความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ต้องปฏิบัติงานทั้งในเวลาและนอกเวลาราชการ ซึ่งเป็นภารกิจนอกเหนือจากการปฏิบัติงานประจำ ต้องใช้บุคลากรจำนวนมากจึงเห็นควรพิจารณาการจ้างงานเพิ่มและจัดหาค่าตอบแทน

4496
ค่าเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะ 32.27 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 14 เดือน เหตุยอดติดเชื้อโควิดพุ่ง ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 7 เดือนติด

รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าผ่านแนว 32.00 บาทต่อดอลลาร์ ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 14 เดือนที่ 32.27 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาททยอยอ่อนค่าลงท่ามกลางความกังวลต่อการควบคุมสถานการณ์โควิดในประเทศ ประกอบกับมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดไทยที่บันทึกยอดขาดดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน 
ขณะที่เงินดอลลาร์ ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด อาทิ ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน มิ.ย. จนทำให้ปิดตลาดเงินบาทในวันศุกร์ (2 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.19 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 31.77 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 มิ.ย.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (5-9 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.90-32.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 และการฉีดวัคซีนทั้งในและต่างประเทศ 

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนี PMI/ ISM ภาคบริการเดือน มิ.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือน พ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 15-16 มิ.ย. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคบริการเดือน มิ.ย. ของจีน ยูโรโซน และอังกฤษ และตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ของจีนด้วยเช่นกัน  ... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/economic/854022/

4497

“เซ็นทารา” รุกเปิดโรงแรมแบรนด์ “เซ็นทารา มิราจ” แห่งแรกในตะวันออกกลาง “เซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ” ชูธีมการผจญภัยในตำนานของไทยและอาหรับ ตั้งอยู่บนเกาะเดียรา พร้อมห้องพักให้บริการจำนวน 607 ห้อง และความบันเทิงสำหรับครอบครัว

นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า เครือเซ็นทารารุกรุกขยายโรงแรมอย่างต่อเนื่อง ประกาศเปิด “เซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ” อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 14 ต.ค.2564 พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกสู่รีสอร์ทหรูริมทะเลที่ได้รับการออกแบบภายใต้ธีมการผจญภัยในตำนานของไทยและอาหรับ มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิงสำหรับครอบครัวอย่างเต็มรูปแบบ

เซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ เป็นการร่วมทุนระหว่างโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา และนาคีล บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ชั้นนำในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการปาล์ม จูไมราห์ หมู่เกาะมหัศจรรย์รูปทรงต้นปาล์มที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อเรื่องโรงแรมหรู ตึกอพาร์ตเมนต์มีระดับ และร้านอาหารนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นบริษัทผู้พัฒนาโครงการเกาะเดียรา ซึ่งเป็นเมืองใหม่ริมชายทะเลอีกด้วยเช่นกัน

รีสอร์ทหรูริมทะเลแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะเดียรา มองเห็นวิวอันสวยงามของอ่าวเปอร์เซียอย่างชัดเจน โดยอยู่ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติดูไบเพียง 30 นาที และอยู่ใกล้กับ Souk Al Marfa ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ที่เป็นแหล่งรวมร้านค้าปลีกและร้านอาหารชื่อดังมากมาย เซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ มีห้องพักและห้องสวีทให้ บริการจำนวน 607 ห้อง เริ่มตั้งแต่ประเภทห้องซูพีเรียร์ ห้องแฟมิลี่ ห้องมิราจ ไปจนถึง ห้องมิราจจูเนียร์ และห้องมิราจสวีทแบบ 2 ห้องนอน โดยมีขนาดห้องให้เลือกสรรอย่างหลายหลาก ตั้งแต่ขนาด 32 ไปจนถึง 95 ตารางเมตร ที่มาพร้อมวิวเมืองดูไบหรือวิวทะเลอันเงียบสงบ

แบรนด์เซ็นทารา มิราจ เป็นแบรนด์ธีมรีสอร์ทสำหรับครอบครัวที่โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์อันเป็นเอกลักษณ์ โดยเซ็นทารา มิราจ เป็นรีสอร์ทที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าครอบครัว และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใหญ่และเด็กอย่างครบครัน อาทิ สวนน้ำ คิดส์คลับ แคนดี้สปา ซึ่งเป็นสปาในธีมร้านขนมหวานที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ รวมถึงมิราจ แฟมิลี่เลาจน์ และคลับเลาจน์สำหรับทุกครอบครัว โดยห้องพักประเภทต่างๆ ยังได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงกลุ่มลูกค้าครอบครัวเป็นหลักด้วยตัวเลือกเตียงที่หลากหลายยิ่งขึ้น อาทิ เตียง 2 ชั้น สำหรับเด็กนอนได้ 2 คน

“เซ็นทารา” ปักธงดูไบ เปิด “เซ็นทารา มิราจ” แห่งแรกในตะวันออกกลาง

รีสอร์ทริมทะเลสำหรับครอบครัวแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิงสำหรับเด็กอย่างเต็มรูปแบบ อาทิ สวนน้ำที่มาพร้อมสระทะเลสาบจำลอง สระน้ำวนเลซี่ริเวอร์ โซนเครื่องเล่นน้ำสำหรับเด็ก สไลเดอร์ และหน้าผาจำลอง ที่มาพร้อมลานอาบแดดที่รายล้อมไปด้วยต้นปาล์มเรียงราย อีกทั้งยังสามารถเดินเชื่อมไปยังชายหาด เพื่อเล่นน้ำทะเล ชมวิวทะเล และเพลิดเพลินกับกีฬาทางน้ำมากมายได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังสามารถเพลิดเพลินกับความบันเทิงมากมายภายในรีสอร์ทได้อย่างสนุกสนาน อาทิ คิดส์คลับ สำหรับเด็ก 3 ช่วงอายุ โซนเครื่องเล่นกลางแจ้ง และแคนดี้สปา ซึ่งเป็นสปาในธีมร้านขนมหวานที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ ในขณะเดียวกัน ผู้ใหญ่ก็ยังสามารถผ่อนคลายไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้ อาทิ ห้องฟิตเนส และสปาเซ็นวารี

แขกผู้เข้าพักสามารถสัมผัสประสบการณ์อาหารเลิศรสและการพบปะสังสรรค์ได้ที่รีสอร์ทแห่งนี้ ด้วยตัวเลือกห้องอาหารถึง 9 แห่ง อาทิ ห้องอาหารสวนบัว ที่ให้บริการอาหารเอเชียรสชาติดั้งเดิมจานโปรด ห้องอาหารอูโนมาส ที่นำเสนอหลากหลายเมนูอาหารปิ้งย่างสไตล์อาร์เจนติน่า เสริ์ฟพร้อมไวน์ชั้นดี ห้องอาหารแซนด์ ที่ให้บริการอาหารทะเลสดและเนื้อคุณภาพชั้นเยี่ยม รวมถึงเวฟส์พูลบาร์ และคาเฟ่ซิงก์ ที่นำเสนอเครื่องดื่มและอาหารว่างทานง่ายเมนูต่างๆ และห้องอาหารชีชบนชั้นดาดฟ้าที่ให้บริการอาหารปิ้งย่างสไตล์เลบานอน พร้อมเลานจ์ชิชาที่ให้บริการเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งและแอลกอฮอล์ นอกจากนั้น รีสอร์ทแห่งนี้ยังมีพื้นที่ให้ลูกค้าสามารถจัดงานอีเว้นท์ได้ทั้งโซนภายในและภายนอกอีกด้วยเช่นกัน

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวเซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ ในตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ พร้อมถ่ายทอดการบริการด้วยไมตรีจิตแบบไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของเซ็นทาราสู่ระดับสากล” นายธีระยุทธกล่าว “แบรนด์เซ็นทารา มิราจ เป็นแบรนด์ธีมรีสอร์ทสำหรับครอบครัวที่มีคอนเซ็ปต์เฉพาะตัวอันโดดเด่น และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภค การขยายความสำเร็จของแบรนด์เซ็นทารา มิราจ สู่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญทางธุรกิจของเราในปี 2564 ต่อจากการเปิดให้บริการเซ็นทารา มิราจ รีสอร์ท มุยเน่ ในเวียดนาม และเซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย ในไทย”

โอมาร์ คูรี (Omar Khoory) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสินทรัพย์ บริษัท นาคีล กล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรกับเครือโรงแรมระดับโลกอย่างโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาคอนเซ็ปต์การท่องเที่ยวใหม่ในดูไบของบริษัทฯ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่โรงแรมชั้นนำยอดนิยมในไทยอย่างเซ็นทาราเลือกดูไบในการขยายฐานธุรกิจและลงทุนครั้งสำคัญในการพัฒนาเซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ ร่วมกับเราบนเกาะเดียราแห่งนี้

เซบาสเตียน ชีค (Sebastien Scheeg) ผู้จัดการทั่วไป เซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ กล่าวว่า เซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกสู่รีสอร์ทแห่งการผจญภัยในตำนานของไทยและอาหรับแห่งนี้ ดูไบถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าค้นหา ประกอบกับสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบของรีสอร์ทแห่งนี้ที่มีทั้งชายหาดอันสวยงามและสวนน้ำมหัศจรรย์ เราเชื่อว่ารีสอร์ทแห่งนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนอันโปรดปรานของทุกครอบครัวที่ได้มาเยือน

ทั้งนี้เซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ เป็นโรงแรมแห่งแรกของเซ็นทาราในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโรงแรม แบรนด์เซ็นทารา มิราจ แห่งที่ 3 ของโลก ต่อจากเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา ภายใต้ธีมเดอะลอสต์​เวิลด์ ที่ลูกค้าชาวไทยชื่นชอบเป็นอย่างมาก และเซ็นทารา มิราจ รีสอร์ท มุยเน่ ในเวียดนาม ภายใต้ธีมการเดินเรือและการผจญภัยทางท้องทะเล ซึ่งเปิดให้บริการไปเมื่อไม่นานมานี้ในปีนี้

เซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ ตั้งอยู่บนเกาะเดียรา ซึ่งเป็นเมืองริมทะเลใกล้ชายฝั่งดูไบแห่งใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อปรับโฉมเขตเดียราเก่าสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว การค้า กิจกรรมสันทนาการ และความบันเทิงระดับโลก เกาะเดียราตั้งอยู่บนย่านที่เก่าแก่ที่สุดของดูไบและยังเป็นศูนย์กลางการค้าที่เก่าแก่ที่สุดของดูไบอีกด้วย โดยเกาะเดียราอยู่ห่างจากดูไบ 40 กิโลเมตร และ 21 กิโลเมตร จากชายฝั่งดูไบ

4498


วงการกีฬาความเร็วของประเทศจีน กำลังจะได้บันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่หลังมีรายงานว่ากำลังจะมีนักขับสัญชาติจีนคนแรก ที่ได้เข้าไปโลดแล่นในฐานะนักขับตัวหลักของศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2022

บรรดาทีมแข่งในศึก ฟอร์มูล่า วัน ทยอยประกาศรายชื่อนักแข่งที่จะลงสนามขับเคี่ยวแย่งแชมป์ในฤดูกาลถัดไปกันเกือบครบแล้ว ขาดเพียง อัลฟ่า โรมิโอ ทีมแข่งสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่ยังมองหานักแข่งอีกรายมาเสริมทีม

ก่อนหน้านี้ อัลฟ่า โรมิโอ วางตัว วอล์ตเตรี บ็อตทาส นักขับจอมฝีมือจากฟินแลนด์ นั่งเก้าอี้นักแข่งเบอร์ 1 แต่ยังขาดคู่หูซึ่งมีแนวโน้มว่าทีมแข่งจากแดนนาฬิกา กำลังมองหานักแข่งหน้าใหม่และที่นั่งอาจเป็นของ โจ กวนยู หนุ่มน้อยดาวรุ่งจากแดนมังกร

โจ กวนยู วัย 22 ปี โลดแล่นอยู่ในศึก ฟอร์มูล่า ทู ฤดูกาลปัจจุบันให้กับทีม ยูเอ็นไอ เวอร์ตัวซี เรซซิ่ง มีผลงานน่าประทับใจขึ้นโพเดียมแชมป์ 2 สนามที่บาห์เรน กับ อังกฤษ จนตอนนี้มีคะแนนสะสมอยู่ 142 แต้ม เป็นอันดับ 2 ของตารางชิงแชมป์โลกฝั่งนักขับ โดยยังเหลืออีก 2 สนามให้ขับเคี่ยวเพื่อลุ้นซิวแชมป์โลก

กวนยู เป็นเด็กปั้นของทีมอัลปีน ซึ่งส่งทีมลงแข่ง ฟอร์มูล่า วัน แต่เพราะต้นสังกัดมีสองนักแข่งตัวจริงทั้ง เฟร์นานโด อลอนโซ่ กับ เอสเตบัน โอคอน จับจองไว้แล้ว ทำให้ อัลฟ่า โรมิโอ ที่เห็นผลงานของ กวนยู แล้วชื่นชอบ สนใจทาบทามมาขับแทน อันโตนิโอ โจวินาซซี ที่ขับไป 15 สนาม เก็บได้แค่แต้มเดียว และแนวโน้มจะถูกปล่อยตัวจากทีมหลังจบฤดูกาล

หากดีลนี้สำเร็จ โจ กวนยู จะได้ชื่อว่าเป็นนักแข่งชาวจีนคนแรกที่ได้ลงขับขี่ศึก ฟอร์มูล่า วัน แบบเต็มฤดูกาล โดยก่อนหน้านี้มีเพียง หม่า กิงฮัว นักแข่งชาวจีนอีกคนที่เคยสัมผัสพวงมาลัย เอฟวัน เพียงแค่รอบฝึกซ้อมเมื่อปี 2012-2013 กับทีม เอชอาร์ที และ เคเตอร์แฮม เท่านั้น
 

4499
ที่ดินแบ่งขายราคาถูกตำบลหนองดินแดง-เมืองนครปฐม, ที่ดินอำเภอเมืองนครปฐมเหมาะปลูกบ้าน, ที่ดินนครปฐมกู้สร้างบ้านได้สูง,  ทำเลดี ต.หนองดินแดง อ.เมือง จ.นครปฐม ถูกกว่าใกล้เคียง

ที่ดินแบ่งขายราคาถูกตำบลหนองดินแดง-เมืองนครปฐม, ที่ดินอำเภอเมืองนครปฐมเหมาะปลูกบ้าน, ที่ดินนครปฐมกู้สร้างบ้านได้สูง,   ทีดินใกล้ถนนเพชรเกษมเพียง2กิโล ถูกกว่าใกล้เคียง เพียง ตรวละ 5000 บ ที่ดินสวยเหมาะปลูกบ้านใกล้ตัวเมืองนครปฐม กู้สร้างบ้านได้สูง ได้เต็ม เครดิต
   ที่ดินอำเภอเมืองนครปฐมเหมาะปลูกบ้าน ที่ดินสวยเหมาะปลูกบ้านใกล้ตัวเมืองนครปฐม ทีดินใกล้ถนนเพชรเกษมเพียง2กิโล
 ที่ดินนครปฐมกู้สร้างบ้านได้สูง  ทำเลดีมาก ใกล้ถนนเพชรเกษมเพียง2กิโล  ถูกกว่าใกล้เคียง เพียง ตรวละ 5000 บ ขายที่ดินสวยเหมาะปลูกบ้านใกล้ตัวเมืองนครปฐม ต.หนองดินแดง อ.เมือง จ.นครปฐม เหมาะปลูกบ้าน กู้สร้างบ้านได้สูง ได้เต็ม เครดิต

 ที่ดินแบ่งขายราคาถูกตำบลหนองดินแดง-เมืองนครปฐม ใกล้ถ.เพชรเกษมเพียง 2 กิโลที่ดินสวยถมแล้ว พร้อมปลูกบ้านได้เลยจ้า ที่ดินทำเลดีนครปฐม  มาอีกแล้ว  กู้สร้างบ้านได้สูง ได้เต็ม เครดิต
ขายที่ดินจัดสรรแบ่งขายนครปฐม ที่ดินสวยเหมาะปลูกบ้านใกล้ตัวเมืองนครปฐม ทีดินใกล้ถนนเพชรเกษมเพียง2กิโล
ที่ดินนครปฐม เรื่มต้น 5,000 ต่อ ตรว. ที่ดินทำเลดีนครปฐม มาอีกแล้ว ที่ดินสวยถมแล้ว พร้อมปลูกบ้านได้เลยจ้า ทีดินใกล้ถนนเพชรเกษมเพียง2กิโล   ที่ดินติดถนนลาดยาง ด้านหน้าแปลงติดคลองชลประทาน ระบบสาธารณูปโภค น่ำไฟ สะดวก
เริ่มต้นที่100ต.ร.ว ด้านหน้า 100ตรว 550,000 B – ด้านหลัง100ตรว 500,000 B

ที่ดินชุมชนดี สถานที่ใกล้เคียง
ขายถูกที่ดินสวยเหมาะปลูกบ้านใกล้ตัวเมืองนครปฐม เพียง7 ก.ม ใกล้โรงเรียนบ้านไร่ต้นสําโรง 1.5 กม ห่างแม็คโคร4 กม ห่างโกล.เฮ้าส์ 2.5ก.ม และ ใกล้กับ ศาลากลางจังหวัดนครปฐมแห่งใหม่ , ยูนิแลนด์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ, The PITCH Golf And Yoga

ขายที่ดินจัดสรรแบ่งขายนครปฐม ที่ดินสวยเหมาะปลูกบ้านใกล้ตัวเมืองนครปฐม ทีดินใกล้ถนนเพชรเกษมเพียง2กิโล
ทำเลที่ตั้ง ต.หนองดินแดง อ.เมือง จ.นครปฐม

สนใจ สอบถาม
นัดลงพื้นที่และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วลัยพร 098-2225262 และ Line : mar0982225262

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://teediin.com/?p=140

คำค้น
ขายที่ดินจัดสรรนครปฐมถูกกว่าใกล้เคียง, ที่ดินสวยเหมาะปลูกบ้านใกล้ตัวเมืองนครปฐม, ที่ดินแบ่งขายราคาถูกตำบลหนองดินแดง-เมืองนครปฐม, ที่ดินอำเภอเมืองนครปฐมเหมาะปลูกบ้าน, ที่ดินนครปฐมกู้สร้างบ้านได้สูง, ขายที่ดินนครปฐมกู้สร้างบ้านได้เต็ม

4500
ผู้หญิงควรทานข้าวกล้องออแกนิกน้ำตาลต่ำ Low GI ข้าวอร่อยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ข้าวสุรินทร์ 100%
 การปลูกข้าวอินทรีย์  นาข้าวอินทรีย์  ส่งเสริม ผลิตข้าวอินทรีย์  รูปภาพสำหรับข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ …..ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวorganic )
        การรับประทาน “#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ ข้าวเพื่อสุขภาพสุรินทร์ ” ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  “#ข้าวกล้องออร์แกนิค”  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.  ข้าวกล้องมะลินิลออร์แกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.   ข้าวกล้องหอมมะลินิลสุขภาพ, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.    ข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์  , ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์  , ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ข้าวสุขภาพปะกาอำปึล, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7.  ข้าวผกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9. ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิคคือ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ “ข้าวกล้องออร์แกนิค”  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ “ข้าวกล้องออร์แกนิก”  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ข้าวอินทรีย์หอมมะลิ
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวเกษตรอินทรีย์หอมมะลิ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิปลอดสารพิษ
3.ข้าวปะกาอำปึล  ข้าวสุขภาพผกาอำปึล(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวสุขภาพผสมหลายสายพันธุ์สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงปลอดสารพิษ 6.  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลินิล
7.  ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์  ข้าวสุไรซ์เบอร์รี่ขภาพ

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

หน้า: 1 ... 248 249 [250] 251 252 ... 266