แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Ailie662

หน้า: 1 ... 250 251 [252] 253 254 ... 261
4519


​วันนี้ (3 ก.ย.) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมสำหรับพื้นที่ ประจำปีงบประมาณ 2565 ณ ห้องประชุมกำธร สุวรรณกิจ ชั้น 1 อาคาร 1 กรมอนามัย และผ่านระบบออนไลน์ Webex Meeting ว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเกิดวิกฤตการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างมาก ปี 2565 จึงเป็นความท้าทายของกระทรวงสาธารณสุขที่จะวางแผนการทำงานให้เกิดวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมตามบทบาทภารกิจของกรมอนามัย โดยมุ่งเน้นจัดการสุขภาพใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1) การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ สร้างกระบวนการให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลความรู้ ด้วยการจัดบรรยากาศหรือสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อประชาชนเพื่อพัฒนาทักษะและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งในปีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขโดย กรมอนามัยได้พัฒนาแพลตฟอร์มก้าวท้าใจ ส่งผลให้มีผู้เข้าร่วมโครงการในปี 2564 จำนวน 3,266,430 คน และในปี 2565 มุ่งเน้นให้จังหวัดสนับสนุนให้ประชาชนเข้าร่วมมากขึ้น โดยมุ่งเจาะไปทุกหน่วยงาน องค์กร เช่น โรงงาน สถานประกอบการ โรงเรียน ชุมชน เป็นต้น 2) การส่งเสริมสุขภาพกลุ่มวัย เน้นให้ประชาชนเข้าถึงบริการส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดอุปสรรคในการจัดบริการปกติ เช่น ปิดศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน หรือปิดแผนกของหน่วยบริการสาธารณสุข ดังนั้น ในปี 2565 จำเป็นต้องออกแบบบริการใหม่ให้ทุกกลุ่มวัยเข้าถึงบริการโดยง่าย สะดวก ทั้งเชิงรุกในพื้นที่ หรือใช้ดิจิตัลเทคโนโลยี เพื่อลดความเสี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น การฝากครรภ์คุณภาพและฉีดวัคซีน การส่งเสริมการเล่นและพัฒนาการเด็ก สุขภาพช่องปาก เป็นต้น



“ประเด็นสุดท้าย คือ 3) การจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ถือเป็นมาตรการสำคัญในการจัดการภาวะคุกคามสุขภาพประชาชน โดยให้ทุกจังหวัดเน้นเรื่องการควบคุม กำกับ โดยเฉพาะการให้อำนาจเจ้าพนักงานของรัฐตามกฎหมาย เพื่อไปกำกับมาตรฐาน เช่น มาตรฐานตลาด เนื่องจากตลาดหลายแห่งไม่ได้ดำเนินการตามมาตรฐาน จึงเป็นเหตุให้เกิด การระบาดของโควิด-19 ขึ้น หรือกิจการประเภทอื่นๆ ก็เช่นกัน ที่สร้างเหตุรำคาญ จำเป็นต้องควบคุมกำกับอย่างเข้มงวด โดยในปีหน้าจะเน้นเรื่องอาหารปลอดภัย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประชาชน รวมถึงต่อยอดทางเศรษฐกิจในด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะร้านอาหาร Street food ตลาดสด และตลาดนัด ดังนั้น การขับเคลื่อนประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์และนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี มีระบบสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ และเกิดการขับเคลื่อนทางสังคมและเศรษฐกิจ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้บริหารระดับจังหวัด ในการแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติของบุคลากรสาธารณสุข ในพื้นที่ และส่งมอบบริการที่มีคุณค่าสู่ประชาชน เกิดความมั่นคงทางสุขภาพ ซึ่งผลสำเร็จตามเป้าหมายจะไม่สามารถเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมได้ หากขาดการบูรณาการและผนึกกำลังเครือข่ายการดำเนินงาน โดยเฉพาะสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ที่ถือได้ว่าเป็นเครือข่ายในพื้นที่ที่มีความใกล้ชิด เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้สำเร็จ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยในฐานะกลไกหลักระดับชาติในการขับเคลื่อนระบบส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม ตามกรอบทิศทางและแผนปฏิบัติการ ในปีงบประมาณ 2565 ที่มุ่งเน้นการพัฒนายกระดับสุขภาพกลุ่มวัย และสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ ซึ่งเชื่อมโยงและ สอดรับกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จำนวน 12 แผน และแผนปฏิรูปประเทศ จำนวน 2 ประเด็น 4 Big Rocks โดยกรมอนามัยได้รับมอบหมายเป็นเจ้าภาพหลักของแผนแม่บทฯ ในประเด็นการเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี เป้าหมาย คือ การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาวะ และประเด็นการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต เป้าหมายคือเด็กเกิดอย่างมีคุณภาพ มีพัฒนาการสมวัย สามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงการปฏิรูประบบบริการสุขภาพผู้สูงอายุด้านการบริบาลดูแลรักษาที่บ้าน/ชุมชน และระบบสนับสนุนการเตรียมตัวของประชาชนในการเป็นผู้สูงอายุในอนาคตด้วย

4520


ช้อปปี้ (Shopee) กระตุ้นอีคอมเมิร์ซไทยด้วยการจับมือวีซ่า (Visa) ขยายบริการการชำระเงินดิจิทัล เปิดตัวโครงการ “Shopee x Visa : Sellers Grow Ruay Beyond” ร่วมมือ 5 ปีเพื่อปลดล็อกศักยภาพร้านค้าเอสเอ็มอี เปิดทางร้านค้ามีองค์ความรู้ และเครื่องมือทางการตลาดที่ครบวงจร พร้อมผลักดันร้านค้ารายย่อยเติบโตด้วยการรับชำระด้วยบัตรเครติด/เดบิตแบบไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า

น.ส.สุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ ประเทศไทย กล่าวว่า ช้อปปี้ ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไต้หวัน บริษัทมีพันธกิจสำคัญที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นด้วยอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ที่เปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดสำคัญที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยความเข้าใจถึงสถานการณ์ในปัจจุบันที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินธุรกิจท่ามกลางความท้าทาย ช้อปปี้จึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรคนสำคัญอย่าง วีซ่า ตามแผนกลยุทธ์ 5 ปี ในโครงการ ‘Shopee x Visa : Sellers Grow Beyond’ โตไกลไปด้วยกัน

“โครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือเหล่าผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงโอกาส องค์ความรู้ เครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ ตลอดจนทรัพยากรที่จำเป็น ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีในการเริ่มต้นที่มหกรรมชอปปิ้งสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคกับแคมเปญ Shopee 9.9 Super Shopping Day เพื่อปลดล็อกศักยภาพในการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ไปพร้อมกับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศและอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด”

โครงการ “Shopee x Visa : Sellers Grow Beyond’ จะเปิดให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทยเข้าร่วมโครงการเข้าถึงทรัพยากรที่จะเป็นในการเปิดร้าน และการทำให้การค้าขายออนไลน์เป็นเรื่องง่าย เช่น ส่วนลดในการฝึกอบรมจาก Shopee University และการเปิดรับการชำระเงินในรูปแบดิจิทัล ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2564 ที่ https://shopee.co.th/m/visa-sellers-grow-beyond

นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การแพร่ระบาดในครั้งนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อและขายสินค้าของคนในประเทศไทยและทั่วโลก เทรนด์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนคือการเปลี่ยนผ่านสู่การค้าในรูปแบบดิจิทัล จากการศึกษาล่าสุดเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปีของวีซ่า (Visa Consumer Payment Attitudes Study) ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์บนสมาร์ทโฟนทุกๆ 2 วัน หรือเฉลี่ย 14 ครั้งในหนึ่งเดือน

“นี่เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้เรารู้สึกดีใจที่ได้ร่วมกับช้อปปี้ในการให้กำเนิดโครงการ ‘Seller Grow Beyond’ โดยเป็นหนึ่งในโครงการจากแผนความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะเวลา 5 ปีระหว่างวีซ่าและช้อปปี้อีก โดยโครงการนี้จะช่วยให้ผู้ขายออนไลน์เข้าถึงเครื่องมือ และทรัพยากรใหม่ๆ ที่จำเป็นในการทำการค้าในรูปแบบดิจิทัล เพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงาน และท้ายที่สุดเข้าใจและใช้ประโยชน์จากเทรนด์การค้าปัจจุบันที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายในหลากหลายเจเนอเรชันและเซกเมนต์ต่างอยู่บนโลกออนไลน์”

โครงการ ‘Shopee x Visa : Sellers Grow Beyond’ โตไกลไปด้วยกัน ถูกริเริ่มขึ้นเพื่อลดความยุ่งยากในการเริ่มธุรกิจบนแพลตฟอร์มช้อปปี้สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ด้วยการเปิดโอกาสให้เข้าถึงแหล่งทรัพยากรที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจบนโลกอีคอมเมิร์ซได้อย่างครบวงจรและสะดวกสบาย

ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์หลักคือ Incentive Package เพื่อช่วยให้การเริ่มธุรกิจออนไลน์ของผู้ประกอบการรายย่อยบนแพลตฟอร์มช้อปปี้เป็นไปได้อย่างคล่องตัวและดึงดูดความสนใจจากนักชอปได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะได้การสนับสนุนจากช้อปปี้ในรูปแบบของโค้ดส่วนลด 30% ไม่มีขั้นต่ำ สูงสุด 50 บาทต่อคำสั่งซื้อ สำหรับการจัดโปรโมชันฉลองเปิดร้าน

อีกสิทธิประโยชน์คือ Payment System โดยร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการยังสามารถเปิดรับช่องทางการชำระเงินด้วยบัตรเครติด/เดบิต ได้อย่างง่ายดายและปราศจากค่าธรรมเนียมแรกเข้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินแบบไร้เงินสด ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน โดยร้านค้าสามารถเลือกเข้าร่วมรายการผ่อนชำระเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายได้อีกด้วย

สิทธิประโยชน์ยังรวมถึง Workshop & Knowledge เนื่องจากองค์ความรู้เป็นทรัพยากรที่จำเป็นในการยกระดับขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ และสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในโลกอีคอมเมิร์ซ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจึงจะได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการขายสินค้า รวมถึงการทำการตลาดออนไลน์บนแพลตฟอร์มช้อปปี้จาก Shopee University รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กชอปที่จะจัดขึ้นเพื่อให้ความรู้ และถ่ายทอดเทคนิคการขายสินค้าออนไลน์ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้ร้านค้าสำหรับมหกรรมอีคอมเมิร์ซในช่วงปลายปี

ความร่วมมือระหว่างวีซ่า และช้อปปี้ เป็นการดำเนินงานภายใต้แผนความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ 5 ปี ที่มีจุดมุ่งหมายในการยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยและในภูมิภาคนี้ โดยเมื่อปีก่อนทั้ง 2 พันธมิตรได้ริเริ่มแคมเปญเพื่อส่งมอบประสบการณ์การชอปปิ้งออนไลน์ที่คุ้มค่า สะดวกสบาย และปลอดภัยให้แก่เหล่าผู้ใช้งานทุกคน ผ่านการนำเสนอทางเลือกในการชำระเงินวีซ่า ที่รวดเร็ว ง่าย และปลอดภัย ให้แก่ผู้ใช้งานช้อปปี้ทุกคน รวมไปถึงการส่งมอบประสบการณ์การชอปปิ้งที่เหนือระดับผ่านการเปิดตัวบัตรเครดิต ‘กสิกรไทย-ช้อปปี้ วีซ่า แพลทินัม การ์ด เชื่อมมิติทุกการชอป’ ในปีที่ผ่านมา

4521


นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า แม้การคลายล็อกดาวน์จะเป็นสัญญาณบวกของภาคธุรกิจ แต่มีปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดของโควิดที่ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะยุติลงอย่างไร กระทบต่อความมั่นใจของผู้ซื้อที่อยู่อาศัย รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว กำลังซื้อผู้บริโภคซบเซา ขณะที่สถาบันการเงินยังเข้มงวดในการให้สินเชื่อ มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูง

รวมถึง ตัวเลขลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ (Walk in) ก็ยังไม่ดีขึ้น แม้จะมีการใช้ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้นสามารถช่วยได้ระดับหนึ่ง ที่สำคัญลูกค้าที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน คอนโดมิเนียมยังต้องการมาดูโครงการด้วยตนเอง ไม่ใช่ดูผ่านออนไลน์แล้วจะตัดสินใจซื้อ 100% ทันที

"สิ่งที่กังวลช่วงเวลานี้ คือภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ดีและไม่มีความชัดเจนว่าจะดีขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ ปัญหาโควิดยังไม่รู้ว่าจะไปอย่างไรต่อ จะวนกลับมาระลอก 5 ระลอก 6 หรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ ส่งผลต่อความไม่เชื่อมั่นที่สะสมตัวอยู่ ทำให้คนกลัวไม่กล้าจับจ่ายเพราะไม่อยากสร้างหนี้ ชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย รวมทั้งสินค้าต่าง ๆ ยิ่งความไม่สงบทางการเมือง คนรู้สึกไม่มั่นใจ ทำให้ชะลอการซื้อเพื่อลงทุน รอดูสถานการณ์ (wait and see) หากเป็นเช่นนี้ตลาดอสังหาฯ ซบเซา"

ความกังวลหลัก 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ โรคระบาด และการเมือง เป็นตัวแปรต่อการปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาฯ ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายนี้ ทั้งการจัดโปรโมชั่น พร้อมปรับแผนการลงทุนใหม่ ระมัดระวังการขยายธุรกิจ สังเกตได้ว่า มีการเปิดตัวโครงการใหม่น้อยลงจนถึงไม่มี ส่วนใหญ่เน้นระบายสต็อกเก่า

“หนทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาทุกภาคส่วนต้องพยายามทำให้ภาครวมของเศรษฐกิจดีขึ้น เพราะอสังหาฯ เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของภาคเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจรวมไม่ฟื้น อสังหาฯ ไม่สามารถฟื้นตัวเองได้”


สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปีนี้ ประเมินว่าตลาดคอนโดมิเนียมตัวเลข “ติดลบ” ไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อน ส่วนบ้านจัดสรร คาดการณ์ติดลบเป็นตัวเลขหลักเดียว ไม่ถึง 10% หากนำตัวเลขสองตลาดนี้มารวมกัน ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ น่าจะติดลบประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปี 2563 อยู่ในสถานการณ์ที่แย่กว่า แต่จะมากหรือน้อยระดับไหนต้องพิจารณาช่วงเวลาที่เหลือ 4 เดือนสุดท้ายนี้ หาก สถานการณ์จะดีขึ้นหรือว่าสถานการณ์จะแย่ลงกว่าเดิม

ทั้งนี้ หากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดไม่เกิดระลอกใหม่ ไม่มีการติดเชื้อจำนวนมาก ไม่มีการปิดแคมป์ก่อสร้าง กระทบต่อตลาด จะทำให้ 4 เดือนจากนี้สถานการณ์จะไม่เลวร้ายมากนัก และไต่ระดับกลับมาอยู่ในภาวะทรงตัว อย่างไรก็ตาม ตลาดบ้านจัดสรร จะยังคงไปได้แต่ตลาดคอนโดมิเนียมยังคงอยู่ในภาวะลำบากต่อเนื่อง

4522


เบนจามิน เมนดี ปราการหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี ถูกปฏิเสธคำขอยื่นประกันตัว ก่อนการสอบสวนคดีข่มขืน แถมเกิดอาการจิตตก เนื่องจากไม่ได้ถูกคุมขังในโซนวีไอพี (VIP)

แนวรับวัย 27 ปี ซึ่งถูกตั้งข้อหาคดีขืนใจ 4 คดี และล่วงละเมิดทางเพศ 1 คดี ได้รับแจ้งจากพัสดี ที่เรือนจำแห่งหนึ่ง ย่านเมอร์ซีย์ไซด์ หลังเดินทางถึงสถานที่ดังกล่าว วันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ส.ค.) จะโดนควบคุมตัวในโซน VP สำหรับนักโทษที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด อาทิ ผิดปกติทางจิต, ติดยาเสพติด, เบี่ยงเบนทางเพศ หรือพิการ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ฟูลแบ็กชาวฝรั่งเศส เข้าใจผิดว่าจะอยู่ในโซน VIP สำหรับผู้ต้องขังที่มีชื่อเสียง และเกิดอาการตกใจ หลังนึกขึ้นได้ว่า ไม่สมควรถูกกักขังในสภาพแวดล้อมเช่นนี้

แหล่งข่าวเผยต่อ 'เดอะ ซัน' แท็บลอยด์หัวดังของอังกฤษ 'ตอน เมนดี มาถึง ผู้คุมนักโทษชี้แจงว่าเขาจะต้องถูกขังในโซน VP (vulnerable prisoners) เพื่อความปลอดภัยของเขาเอง เขารู้สึกหวาดกลัว เมื่อเห็นสภาพห้องขัง และต้องอยู่ร่วมกับนักโทษแบบใด เขาไม่มีความสุข และมันเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายมากสำหรับเขา'

เมนดี ยื่นคำขอประกันตัวอีกครั้ง ที่ศาลเชสเตอร์ คราวน์ ในการพิจารณาแบบปิด ซึ่งกินเวลาประมาณ 50 นาที โดย แบ็กซ้ายดีกรีทีมชาติฝรั่งเศส ไม่ได้มาขึ้นศาล

ผู้ลงบันทึกคำตัดสินระดับอาวุโสของตุลาการ สตีเวน เอเวอเรตต์ ปฏิเสธคำร้อง ตามรายงานของโฆษก

อดีตนักเตะ โอลิมปิก มาร์กเซย และ โมนาโก กระทำผิดข้อหาทำร้ายหญิง 3 คน รวม 1 คน อายุต่ำกว่า 18 ปี ที่บ้านของตัวเอง ตั้งอยู่ในเพรสต์บิวรี แคว้นเชสเชียร์

ความผิดฐานกระทำชำเรา 3 คดี เกิดขึ้นเดือนตุลาคม 2020 และ เมนดี ยังตกเป็นจำเลย คดีล่วงละเมิดทางเพศหญิงคนหนึ่ง ช่วงต้นเดือนมกราคม 2021

เมนดี ซึ่งถูก 'เรือใบสีฟ้า' สั่งแบน เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย มีกำหนดขึ้นศาลเชสเตอร์ คราวน์ วันที่ 10 กันยายน

4523


เจริญโภคภัณฑ์อาหาร” โอนกิจการทั้งหมดของ “ ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง” ให้ “สยามแม็คโคร” ขณะ MAKRO ออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อตอบแทน พร้อมแบ่งหุ้นขาย PO เพิ่มฟลีโฟลท “ ศุภชัย เจียรวนนท์” แจงเพื่อความคล่องแคล่วรวดเร็วเกิดประโยชน์ด้วยเป้าหมายเพื่อนำบริษัทในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของเครือซีพีขยายธุรกิจและแข่งขันกับผู้ประกอบธุรกิจในเวทีระดับโลก โบรกฯมองเป็นบวก

ราคาหุ้น MAKRO หรือบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 43.75 บาทเพิ่มขึ้น 4.17 % หรือ 1.75 บาท ส่วน MAKRO หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ราคาเปิดที่ 67 บาท เพิ่มขึ้น 3.07% หรือ 2 บาท และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาทหรือ0.93% รับข่าวการโอนกิจการในเครือซีพี

CPF โอนกิจการ CPRH ทั้งหมดให้ MAKRO

กอบบุญ ศรีชัย เลขานุการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัททำกาารโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (CPRH) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่บริษัทฯ ถือหุ้นทางอ้อมใน 20.00 % ผ่านบริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด (CPM) ให้แก่บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) (MAKRO) (Entire Business Transfer หรือ EBT) ซึ่งมีมูลค่ารวม 43,589,814,450 บาท

ทั้งนี้ ภายใต้การทำ EBT นั้น เป็นการโอนกิจการของ CPRH ให้แก่ Makro ด้วยวิธีโอนกิจการทั้งหมด รวมถึงหุ้นในบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอป เม้นท์ จำกัด (CPRD)ซึ่ง CPRH ถืออยู่ 99.99% ของทุนจดทะเบียนของ CPRD และทรัพย์สินอื่นของCPRH อาทิ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด โดย Makro จะออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้แก่ CPRH ในจำนวนไม่เกิน 5,010,323,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ0.50 บาท ในราคาเสนอขาย 43.50 บาทต่อหุ้น เพื่อเป็นการชำระค่าตอบแทน

ทั้งนี้ เมื่อการทำ EBT เสร็จสมบูรณ์CPRH จะจดทะเบียนเลิกบริษัทและเริ่มชำระบัญชีโดย CPRH จะโอนทรัพย์สินทั้งหมดของ CPRH รวมถึงหุ้นใน MAKRO ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ CPRH ตามสัดส่วนการถือหุ้น ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นของCPRH ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ถือหุ้นของ CPRH แต่ละรายจะได้รับหุ้นใน MAKRO และมีสัดส่วนการถือหุ้นใน MAKRO

หลังจากนั้น เมื่อ EBT เสร็จสมบูรณ์และ CPRH ได้ส่งมอบหุ้นใน MAKRO ให้แก่ CPM แล้ว CPM มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Mandatory Tender Offer) ของ MAKRO ร่วมกับ CPHH ในราคาหุ้นละ 43.50 บาท โดยที่ CPM จะรับซื้อหุ้นสามัญใน MAKRO เป็นสัดส่วนหนึ่งในสามและ CPH จะรับซื้อหุ้นสามัญใน Makroสัดส่วนสองในสามของจำนวนหุ้นที่มีผู้ตอบรับคำเสนอซื้อในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน MAKRO ดังกล่าวซึ่งจำนวนหุ้นสูงสุดที่ CPM ต้องรับซื้อจากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ครั้งนี้จะมีจำนวนไม่เกิน 110,699,500 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 43.50 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 4,815,428,250 บาท สุดท้ายคือให้ CPM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CPF ขายหุ้นสามัญMAKRO ที่ CPM จะได้รับจากการคืนเงินลงทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นของ CPRH ให้แก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering) 181,600,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 1.85ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจ าหน่ายได้แล้วทั้งหมดของMAKRO Makro ภายหลังจากการทำ EBTและคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 1.63 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MAKRO ภายหลัง PO ของ Makroเสร็จสิ้น พร้อมกับการดำเนินการ PO ของ Makro)

MAKRO เพิ่มทุนตอบแทนค่าหุ้น - ขาย PO

ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร และประธานกรรมการ MAKRO  เผยว่า เครือซีพีตั้งเป้าขยายร้านค้าปลีกและร้านค้าส่งของเครือให้ได้อย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค ซึ่งรวมถึงสาขาของสยามแม็คโคร และศูนย์ค้าปลีกค้าส่งรูปแบบอื่นๆ ในเครือซีพี บริษัทจะต้องตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนำบริษัทในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของเครือซีพีขยายธุรกิจและแข่งขันกับผู้ประกอบธุรกิจในเวทีระดับโลก หากเมื่อมีการปรับโครงสร้างธุรกิจต่างๆ หลังได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้ว จะทำให้สยามแม็คโคร กลายเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

"การปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความคล่องตัวในการตัดสินใจต่างๆ และยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วย ก็คือ จะช่วยทำให้แม็คโคร และโลตัส มีความคล่องแคล่ว รวดเร็ว (Agility) ในการเดินหน้าสู่ความสำเร็จบนเวทีระดับนานาชาติ"  ศุภชัย กล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการ MAKRO เมื่อ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน จากปัจจุบัน 2,400 ล้านบาท เป็น 5,586 ล้านบาท โดยการออกหุ้นใหม่ 6,372,323,500 หุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อแบ่งขายให้ประชาชนทั่วไป 1,362,000,000 หุ้น

"การเพิ่มสัดส่วนที่มากขึ้นให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาร่วมเป็นเจ้าของแม็คโคร โดย MAKRO ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการเป็นเจ้าของบริษัทฯ ให้ประชาชนทั่วไปถึง 2 เท่า จากเดิมสัดส่วนที่ประชาชนทั่วไปร่วมเป็นเจ้าของ MAKRO อยู่ที่ 7% จะเพิ่มเป็นมากกว่า 15% ในขณะที่จำนวนการถือหุ้นของเครือซีพีใน MAKRO จะลดลงจาก 93% เหลือ 85% โดยที่การปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทต่างๆ ครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินการของ MAKRO และบริษัทอื่นๆ ที่ดำเนินการอยู่"

โดย MAKRO จะได้รับโอนกิจการทั้งหมดของดของ บริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้งจำกัด มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 217,949,072,250 บาท ด้วยวิธีโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ซึ่ง MAKRO จะออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ 5,010,323,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขาย 43.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 217,949,072,250 บาท ให้ CPRH เพื่อใช้ชำระเป็นค่าตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมดจากCPRH แทนการชำระด้วยเงินสด (Payment in Kind) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 104.38ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ก่อนการจัดสรรหุ้นเพื่อตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมด

สำหรับ CPRH ประกอบธุรกิจลงทุน (Investment Holding Company) โดยมีทรัพย์สินหลักคือหุ้นในบริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (CPRD) ในสัดส่วน 99.99% ของทุนจดทะเบียนของ CPRD อาทิ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด และ CPRD ถือหุ้น (ก) สัดส่วน 99.99 %ในบริษัท โลตัสส์สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือหุ้นสัดส่วน 99.99 % ในบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้ชื่อ Lotus’s ในประเทศไทย และ (ข) สัดส่วน 100.00% ใน Lotuss Stores (Malaysia) Sdn. Bhd. ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้ชื่อ Lotus’s ในมาเลเซีย

โบรก ฯ มองป็นบวกต่อ CPALL และ CPF

บล. ทิสโก้ มองหลัง CPFโอน Lotus ให้ MAKRO - CPF ซื้อ MAKRO เพิ่ม ทั้งนี้หลังCPF แจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ ถือหุ้นของ Lotus (CPRH) และได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารแล้ว MAKRO จะได้รับธุรกิจทั้งหมด (EBT) ของ Lotus จาก CPALL/CPF/CPH ซึ่งจะได้รับหุ้น MAKRO ใหม่ หลังการทำ EBT CPF จะทำคำเสนอซื้ออหลักทรัพย์ทั้หมด (MTO) ร่วมกับ CPH หลังจากนั้น MAKRO จะออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป ทำให้สัดส่วน Lotus อยู่ที่ 20% ส่วน MAKRO อยู่ที่ 7.34-8.33%

ทั้งนี้  ผู้บริหาร CPF เน้นย้ำประโยชน์ที่ได้รับจาก EBT : คือการขยายแพลตฟอร์มเพื่อรวม b2b และ b2c ,ปรับปรุงสภาพคล่องสำหรับการลงทุนในโลตัส ,เพิ่มผลประโยชน์ผ่าน CPALL และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคการถือ MAKRO – CPF จะเปลี่ยนการถือสัดส่วนโลตัสจาก 20% เป็น 10.21% ผ่าน MAKRO หลัง EBT MTO สามารถ เพิ่มสัดส่วนสูงสุด 1.13% ขณะที่ PO อาจส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้น MAKRO ลดลง 1.85% เมื่อเสร็จสิ้น CPF จะถือหุ้น MAKRO ราว 7.34-8.33%

บล.ทิสโก้ ประเมินไม่มีการระบุถึงกำไร/ขาดทุนที่ชัดเจนจากการขายหุ้น Lotus แต่ผู้บริหารคาดหวังเห็นกำไรเบื้งต้นราว 2.62 พันลบ.(ยอดขาย 4.359หมื่นล้านบาท ด้วยราคา 4.097 หมื่นล้านบาท)หาก EBT, MTO และ PO ได้รับการอนุมัติ บล.ทิสโก้ คาดจะเห็นผลบวกต่อกำไรของ CPF ในระยะสั้นเล็กน้อย กำไรของ MAKRO ดีขึ้น vs.Lotus คาดจะเพิ่มผลกำไรระยะสั้น ส่วนในระยะยาวขึ้นอยู่กับความสามารถในการ synergy แนะนำให้ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 40.00 บาท (SOTP)

บล. เอเซียพลัส จำกัด ประเมินผลกระทบต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง หลังกลุ่มซีพี ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกในเครือ นำ Lotus’s มาอยู่ภายใต้ MAKRO กล่าวคือ CPALL เป็นบวก ผลกระทบการถือหุ้น MAKRO ลดลง เชื่อว่าชดเชยได้จาก MAKRO ที่มีขนาดใหญ่ จากการถือหุ้นใน Lotus’s และมูลค่า (Value) เดิมที่ของ MAKRO ที่จะเพิ่มขึ้นจาก Synergy ร่วมกับ Lotus’s บวกกับยังได้เงินที่จะขายหุ้น MAKRO พร้อมกับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป( PO) ไปลดภาระหนี้สิน ดังนั้น ประเมินสร้างอัพไซต์(Upside) ต่อประมาณการนับจากปี 2565 โดยฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ คงแนะนำ" ซื้อ"

MAKRO เป็นบวกเล็กน้อย แม้มีผลกระทบหลัก คือ Dilution จากการเพิ่มทุน เพื่อรับโอนกิจการจากบริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (CPRH) รวมถึง PO ในระยะถัดไปที่สูง ขณะที่กำไรส่วนชดเชยจาก Lotus’s ระยะสั้นยังถูกหักล้างจากดอกเบี้ยจ่ายที่บริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (CPRD) แต่ภาพระยะยาว ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าดีขึ้นมีนัยยะจาก Synergy การขยายตัวร่วมกันทั้งในรูปแบบเดิม และการเปิดสาขาใหม่ๆ ในต่างประเทศร่วมกัน รวมถึง Omnichannel Platform B2C – B2B ขณะที่ราคาหุ้นระยะสั้นยังน่าจะรักษาระดับใกล้เคียงราคา Tender Offer ที่ 43.50 บาท โดยฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ คงแนะนำ “ซื้อ”

ทั้งนี้ จากการขายหุ้น PO เพิ่มทั้งในส่วนของ MAKRO, CPALL, CPF คาดจะช่วยแก้ปัญหา ฟรีโฟลต(Free Float) ให้ MAKRO และมีโอกาสกลับสู่ SET50 ได้ในระยะถัดไป

CPF เป็นบวก จาก Unlock value จากการลงทุนใน Lotus’s มาเป็น MAKRO แทน ซึ่งมีสภาพคล่องมากขึ้น และหลังจากนั้นจะได้ผลบวกจากการขายหุ้น MAKRO แบบ PO จำนวนไม่เกิน 181.6 ล้านหุ้น หรือ 1.85% ของจำนวนหุ้นของ MAKRO ทั้งหมดภายหลังการโอนกิจการ Lotus’s เพื่อไปลดภาระหนี้สินในอนาคต และ Synergy ในอนาคต จากการขายอาหารสดเข้า MAKRO และ Lotus’s ในไทยเพิ่มขึ้นในระยะยาว และหาก MAKRO และ Lotus’s ขยายธุรกิจในต่างประเทศ เพราะ CPF มีการลงทุนใน 17 ประเทศทั่วโลก จึงสามารถขายอาหารสดระหว่างกันได้ อีกทั้งผลบวกทางอ้อมจากการถือหุ้น CPALL 34.12% ของทุนชำระแล้ว ที่จะได้ผลบวกในระยะยาวเช่นกัน จึงยังแนะนำซื้อ CPF กำหนดราคาเป้าหมาย ปี 2565 เท่ากับ 31 บาท

ทั้งนี้ กระบวนการโอนธุรกิจทั้งหมดจะเสร็จ ต.ค.64 โดยหลังแล้วเสร็จ CPG + CPF จะต้องทำการ Tender offer ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย MAKRO เดิม 332 ล้านหุ้น หุ้นละ 43.5 บาท เท่ากับราคาหุ้น MAKRO ที่ได้มาผ่าน ซึ่งการแลกหุ้นหลังจากนั้น ในส่วนของ MAKRO จะมีการเสนอขายหุ้น PO โดยเป็นหุ้นใหม่ 1.36 พันล้านหุ้น (เพิ่มจากหุ้นที่รวม PP ที่ 9.81 พันล้านหุ้น) โดยปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดราคา PO อีกทั้งจะขายหุ้นของผู้ถือหุ้น MAKRO คือ CPALL และ CPF ออกมาด้วยในช่วง PO ถือเป็นการ Unlock Value MAKRO และ Lotus’s พร้อมกัน รวมถึงเป็นการแก้ไขปัญหา Free Float ของ MAKRO และช่วยให้ได้เงินกลับเข้ามาที่ทั้ง MAKRO, CPALL และ CPF คาดจะไปขยายธุรกิจและลดภาระหนี้

4524
กรมการขนส่งทางบก เตือน!!! ซื้อ-ขายรถทุกครั้งอย่าโอนลอย ควรดำเนินการโอนทางทะเบียนด้วยตนเอง เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เผย!!! มีการนำเทคโนโลยีทันสมัย ตรวจสอบฐานข้อมูลทางทะเบียนรถกับหน่วยงานภาครัฐ Real-time ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบ Web Service เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ

สามารถตรวจเช็คทะเบียนได้ ด้วยวิธีการเช็คต้น ได้ที่
http://xn--42ch4bxaap7c7c1cg2jpa.com/%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%88%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96/
 นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ผู้ที่ต้องการซื้อขายรถมือสองทั้งการซื้อต่อจากบุคคลหรือเต้นท์รถมือสอง ควรดำเนินการโอนทางทะเบียนด้วยตนเอง พร้อมนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งที่รถนั้นจดทะเบียน เพื่อความมั่นใจว่าได้แจ้งเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถในระบบฐานข้อมูลทางทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว ไม่ควรซื้อขายรถด้วยวิธีการโอนลอย โดยเซ็นเอกสารไว้แล้วมาดำเนินการในภายหลัง เนื่องจากอาจก่อปัญหาให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น กรณีผู้ซื้อไม่ดำเนินการชำระภาษีรถประจำปี  รถเกิดอุบัติเหตุ หรือนำรถไปกระทำผิดกฎหมายซึ่งยังคงปรากฏชื่อเจ้าของรถรายเดิมในระบบทะเบียน สร้างปัญหายุ่งยากให้เจ้าของรถรายเดิม  นอกจากนี้การไม่นำรถเข้ามาดำเนินการโอนทางทะเบียนยังทำให้ผู้ซื้อไม่อาจตรวจสอบความถูกต้องของรถได้โดยสมบูรณ์ว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาหรือไม่อีกด้วย ส่วนกรณีที่มีการพบข้อมูลทางทะเบียนรถในใบสั่งไม่ตรงกับข้อมูลผู้ครอบครองรถในปัจจุบัน ซึ่งอาจเกิดจากการซื้อขายที่ไม่ได้ดำเนินการทางทะเบียนแต่เป็นเพียงการซื้อขายแบบโอนลอยที่ไม่ได้ยื่นขอดำเนินการเปลี่ยนสาระสำคัญทางทะเบียนให้ถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบกด้วยเช่นกัน จึงขอให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการพิทักษ์สิทธิของตนเองด้วยการตรวจสอบรถก่อนการซื้อขายทุกครั้ง โดยควรตรวจสอบแหล่งที่มาของรถพร้อมข้อมูลประกอบก่อนตัดสินใจ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่  31 กรกฎาคม 2560   เป็นต้นมา กรมการขนส่งทางบก นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศพัฒนาต่อยอด เพื่อการเข้าถึงฐานข้อมูลทางทะเบียนรถ    ของกรมการขนส่งทางบกด้วยระบบฐานข้อมูล MDM (Master Data Management) ที่มีความชัดเจนถูกต้องตรวจสอบได้และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เนื่องจากการแก้ไขสาระสำคัญทางทะเบียนรถ ระบบจะดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ครอบครองรถในทันทีที่ได้รับข้อมูลการแก้ไขอีกทั้งยังเชื่อมโยงออนไลน์พร้อมกันทั่วประเทศในทุกระบบงานพร้อมเอกสารประกอบการดำเนินการทุกครั้งที่มีการแก้ไขสาระสำคัญทางทะเบียนรถ ดังนั้นชื่อผู้ครอบครองรถที่ปรากฏในระบบ  จึงตรงกับที่ระบุในเล่มทะเบียนรถ ซึ่งหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลทางทะเบียนรถดังกล่าวสามารถตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนรถโดยตรงกับฐานข้อมูล MDM (Master Data Management) ของกรมการขนส่งทางบกได้แบบออนไลน์ Real-time ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบ Web Service ซึ่งแสดงรายละเอียดข้อมูลทางทะเบียนรถและสาระสำคัญต่างๆ เป็นปัจจุบันเช่นเดียวกับที่กรมการขนส่งทางบกนำไปใช้ในการดำเนินการทางทะเบียนให้กับประชาชน  ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อการนำฐานข้อมูลทางทะเบียนรถที่เป็นปัจจุบันดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ทางราชการต่อไป

4525


ถึงจะสู้ศึกผ่านปัญหามาทุกวิกฤติ คู่รักจอมทรหด บอย-อนุวัฒน์ และ เจี๊ยบ-พิจิตตรา  ก็ไม่เคยท้อ แถมยังพร้อมช่วยเหลือแบ่งปันให้ผู้อื่นเสมอ ล่าสุดหลังมีประกาศคลายล็อกให้ธุรกิจร้านอาหาร บอย และ เจี๊ยบ ก็พร้อมขานรับปฏิบัติตามทุกนโยบายรัฐ กลับมาเปิดร้านชาบู GOTOKU BY SHABU KING ย่านพุทธมณฑล หลังปิดร้านมากว่า 2 เดือน พร้อมจัดโต๊ะเว้นระยะห่างรักษาความปลอดภัย ไม่มีเครื่องปรับอากาศ นั่งได้ 75% มีเครื่องปรับอากาศ 50% และยังคงให้ล้อรถพุ่มพวง หรือ รถกับข้าวบอยเจี๊ยบ หมุนต่อไปเพื่อช่วยเหลือสังคมที่ยังคงได้รับความเดือดร้อนจากโควิด - 19 ที่ตอนนี้ทำมาแล้วเข้าเดือนที่ 4 แล้ว

บอย : เราก็พยายามประคองซึ่งกันและกันให้ได้นานที่สุด เราก็บอกกับน้องๆว่าตอนนี้ถ้าเรายังไหวกันอยู่เราก็จะดูแลพวกเค้าโดยที่ไม่ลดเงินเดือนเขา เป็นเหมือนครอบครัว เป็นเรื่องของการดูแลซึ่งกันและกันมาตลอดไม่ว่าจะกี่วิกฤต

เจี๊ยบ : และอย่างที่รู้คือในวิกฤตครั้งนี้เราก็ได้ทำรถกับข้าวบอยเจี๊ยบ เพื่อกระจายความช่วยเหลือไปเป็นวงกว้างตามชุมชนต่างๆด้วย เรารู้สึกว่าเราได้มาในส่วนของกำลังใจที่เวลาเราให้แล้วเรารู้สึกเป็นพลังที่ดีมากๆ ถึงแม้ว่ามันจะขาดทุนในส่วนของเงินไปก็ตาม แต่ที่ได้มาเป็นเรื่องราวที่ดีๆกลับมา

บอย : ครั้งนี้รถกับข้าวบอยเจี๊ยบ คู่ค้าที่เราสั่งผักสั่งวัตถุดิบกับเค้า บางครั้งเขามาถึงเขาก็เอาของวางที่ร้านแล้วก็บอกว่าไม่คิดเงิน บางคนก็เอาข้าวมาให้ เอาอาหารแห้งมาให้ ทุกวันนี้ก็ยังมีเข้ามาเรื่อยๆ เลยรู้สึกว่าถึงแม้มันจะขาดทุนตรงที่เป็นรายได้ไปแต่มันได้กำไรในเรื่องของความสุข เราทั้งคู่ และ พนักงานทุกคนที่อยู่ก็ยินดีที่จะส่งกำลังใจกลับไปให้ทุกคนในรูปแบบรถกับข้าวบอยเจี๊ยบครับ

ถาม เรื่องงานตัวเองต้องพักนานขนาดไหน?

บอย : เพลงตอนนี้ ต้องกลับไปเริ่มเรียนร้องใหม่เลยครับ (หัวเราะ) ยาวๆครับ ไม่เคยหยุดงานนานขนาดนี้ พี่ๆน้องๆนักร้องก็คงเหมือนๆกัน ถ้าถามถึงแผนสอง ผมเชื่อว่าเดี๋ยวสถานการณ์มันจะพาให้เราคิดออกเองว่าเราควรจะไปต่อยังไง

เจี๊ยบ : ละครน่าจะรอดูมาตรการการผ่อนคลายว่าจะเริ่มกลับมาถ่ายทำกันได้เมื่อไหร่ ทุกกองก็คงต้องรัดกุมมากขึ้นค่ะ  แต่ส่วนใครที่ท้องหิวตอนนี้ไม่ต้องรอแล้วนะคะ เพราะตอนนี้ ร้านชาบู GOTOKU ของเราเปิดให้นั่งได้แล้วถ้าหิวคิดถึงเรางมาหาเราได้นะคะ ร้านเปิดแล้ว ยินดีบริการทั้งทานในร้าน และ delivery 02-441-9911, 06-1396-9784   หรือ Line: @gotoku59

4526
ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิ 100% สุรินทร์ 

ข้าวฮอร์  ข้าวกล้องหอมมะลิเพื่อสุขภาพ ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%  ข้าวออร์แกนิคส่งทั่วไทย
 ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์   ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์  ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ข้าวหอมสุรินทร์ ข้าวหอมอินทรีย์ คัดพิเศษ 100%
“ข้าวฮอร์ ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์”   ข้าวหอมมะลิออร์แกนิค เป็นผลิตผลจากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ด้วยการปลูกข้าวแบบปลอดสารพิษในทุกขั้นตอน ณ ดินแดนสุรินทร์ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดของประเทศไทย ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งดินและน้ำ เหมาะแก่การปลูกข้าวอินทรีย์คุณภาพสูง ประกอบกับกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การเตรียมพันธุ์ข้าว การหว่าน การดูแลแปลงนา และการเก็บเกี่ยว โดยครอบครัวชาวนาที่มีประสบการณ์และร่ำรวยความสุขจากการทำนาอินทรีย์แบบปลอดสารพิษ เพื่อให้เมล็ดข้าว  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ ที่ได้นั้น มีความหอม นุ่ม อร่อย ดีต่อสุขภาพและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบครัน การมีสุขภาพดี คือ ความสุขที่อยู่ใกล้ตัวเรา นอกจากตนเองแล้ว เราควรแบ่งปันความสุขให้กับคนที่เรารักด้วยข้าวหอมมะลิ   ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิก ขัดสีไม่ขาวเพื่อคงคุณค่าและใยอาหาร มีกลิ่นหอม นุ่ม ตามเอกลักษณ์ของ ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%




 ขายข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ได้รับมาตราฐานเกษตรอินทรีย์ -มีวิตามินและสารอาหารจากข้าวสูง -สะอาด..บริสุทธิ์..จากธรรมชาติ ทุกขั้นตอน"ข้าวอินทรีย์ (  ขายข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์)" ที่ผ่านกระบวนการเพาะปลูก และบำรุงรักษาทุกขั้นตอน ด้วยวิถีของเกษตรอินทรีย์ -ไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนการผลิต"เมล็ดพันธุ์" คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ แต่ละชนิด ด้วยความรัก ใส่ใจ ในรายละเอียดทุกเมล็ด -ด้วยกระบวนการปักดำ..อย่างพิถีพิถันจากธรรมชาติ"พื้นที่เพาะปลูก" ในจังหวัดสุรินทร์ - ทำการเพาะปลูก และควบคุมเองทุกขั้นตอน"แหล่งน้ำ"   ปลูกข้าวหอมมะลิออแกนิคอาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติที่ตกตามฤดูกาล"ปุ๋ยที่ใช้" ไถกลบตอซังหลังเก็บเกี่ยวทุกครั้ง และปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน, -  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ,ปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน"การกำจัดศัตรูพืช" ควบคุมด้วยระบบนิเวศน์หรือใส่สารสกัดจากพืชสมุนไพรแทนการฉีดสารฆ่าแมลง

  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิคที่แท้จริงของเรา
ข้าวฮอร์ (HOR) ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวหอมมะลิออร์แกนิค 
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิก
Facebook : www.facebook.com/Organic.Multi.Grain.Rice/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @ Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.ข้าวหอมสุรินทร์
2.ข้าวกล้องหอมสุรินทร์
3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์)
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์
6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลorganic
7.  กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวหอมมะลิ #ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ #ข้าวหอมมะลิปลอดสาร #ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิก #ข้าวหอมสุรินทร์ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิค
 

 

 

 
 

4527


LALISA’ อัลบั้มเดี่ยวของ “ลิซ่า” จากวง BLACKPINK เกิร์ลกรุ๊ปยอดเยี่ยมที่สุดในวงการ K-POP จะขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ไทยตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. เวลา 16:00 น. เป็นต้นไป BLINK ไทยรอกันได้เลย

อัลบั้มเดี่ยวมีชื่อไตเติ้ลว่า ‘LALISA’ ซึ่งเป็นการใช้ชื่อจริงของสาวลิซ่า ทำให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงความมั่นใจ ความรักและความเชื่อมั่นของเธอ ลิซ่าได้สร้างชื่อเสียงด้วยตัวเองในฐานะศิลปินไอคอนแห่งวงการวัฒนธรรมเกาหลี ถึงเวลาแล้วที่เธอจะแสดงพรสวรรค์และความสามารถใหม่ๆ ทำให้เหล่า BLINK (บลิ๊งค์ ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ตั้งตาตั้งใจรอคอย

            ‘LISA FIRST SINGLE ALBUM LALISA’ ผลงานชิ้นนี้ ลิซ่าได้มีส่วนร่วมในการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบอัลบั้ม, โฟโต้บุ๊ค, โปสการ์ดแบบแรนด้อม, รูปภาพโพลาลอยด์แบบแรนด้อม และอีกมากมาย สำหรับผู้ที่ซื้อในรอบ First Press จะมีโอกาสได้ Rare Golden Photo Card แบบสุ่มและ Rare Golden Ticket ทำให้มีมูลค่าสะสมสูงขึ้น

            ที่พิเศษสุด บ้านเกิดของลิซ่าอย่างประเทศไทย ก็ได้ทางบริษัท Applewood Thailand เป็นช่องทางการจำหน่ายอัลบั้มเดี่ยวของลิซ่าแบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยทาง Applewood Thailand ได้เปิดเผยว่าในช่วงพรีออเดอร์จะมีโฟโต้เซลฟี่ที่ไม่เคยเปิดเผยจำนวนจำกัด และการ์ดข้อความจากลายมือลิซ่า (แบบพิมพ์) นอกจากช่วงเวลาพรีออเดอร์ก็ได้เตรียมของแถมมากมายให้กับแฟนชาวไทยแล้ว และช่วงเวลาพรีออเดอร์ 5 วันแรก จะได้รับส่วนลด 20% อีกด้วย

            FIRST SINGLE ALBUM ‘LALISA’ จะเปิดการจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ไทยตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม เวลา 16:00 น.(เวลาไทย) ที่ www.thaiticketmajor.com เท่านั้น

4528


บริษัท สห ลอว์สัน จำกัด ผู้พัฒนาร้านสะดวกซื้อระดับพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่น “LAWSON 108” (ลอว์สัน108) เปิดสาขาใหม่ในสถานีบริการน้ำมัน “สาขาปั๊มน้ำมันบางจาก วังน้อย กม.71” ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยพื้นที่ให้บริการขนาด 116 ตารางเมตร จำหน่ายสินค้าออริจินัล อาทิ โอเด้ง ของทอด เบนโตะ เบเกอรี่ และสินค้าอื่นๆ มากมาย โดยรองรับผู้ใช้บริการเติมน้ำมัน และผู้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ 

ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้แผนการเปิดสาขาใหม่ของ LAWSON 108 ต้องมีการปรับเปลี่ยนระยะเวลาการเริ่มก่อสร้างออกไป แต่ LAWSON 108 จะยังเดินหน้าต่อไปและวางแผนการเปิดแต่ละสาขาอย่างเหมาะสมต่อไป เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ปัจจุบัน LAWSON 108 ให้บริการในพื้นที่ปั๊มน้ำมันซัสโก้, สถานีรถไฟฟ้า BTS, สถานีรถไฟใต้ดิน MRT, แอร์พอร์ต เรล ลิงก์, สนามบินสุวรรณภูมิ, โรงพยาบาล, ที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และพื้นที่ที่เหมาะสม

จากภาพ: คิมิฮิโกะ ชินากาว่า (ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ และทาคาฮิโระ นิชิวากิ (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท สห ลอว์สัน จำกัด ร่วมพิธีเปิดสาขาใหม่ ร่วมด้วย วีระ ลีลาสุขสวัสดิ์ (ที่ 4 จากขวา) และ ศรีวรรณา ลีลาสุขสวัสดิ์ (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการบริษัท เอสเอสซี ปิโตรเลียม จำกัด และ วรากร โกศลพิศิษฐ์กุล (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการตลาด และ ยศธร อรัญนารถ (ซ้ายสุด) รักษาการผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและพันธมิตรค้าปลีก บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมแสดงความยินดี

4529
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 

4530


หลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศเริ่มปรับตัวลดลง ถือเป็นสัญญาณบวกว่าช่วงพีคได้ผ่านพ้นไปแล้ว

โดยในเฟสแรกนี้ยังให้คงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัดตามเดิม และเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้านในช่วง 21.00-04.00 น. ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ขอความร่วมมือให้เดินทางเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น

สำหรับการผ่อนคลายเริ่มตั้งแต่ร้านอาหาร โดยร้านอาหารที่ไม่ติดแอร์ อยู่นอกอาคาร อากาศถ่ายเทได้ดี สามารถนั่งรับประทานในร้านได้ 75% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด ส่วนร้านอาหารที่เป็นห้องแอร์นั่งได้ 50% และยังคงให้งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน และเปิดให้บริการได้ถึง 20.00 น. แต่มีเงื่อนไขที่คุมเข้มขึ้น เพราะกำนหนดให้ผู้ใช้บริการต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือ ผ่านการตรวจ ATK ไม่เกิน 7 วัน

นอกจากนี้ ไฟเขียวให้เปิดร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านนวดเฉพาะนวดเท้า รวมทั้ง สนามกีฬากลางแจ้ง หรือสนามกีฬาในร่มที่เป็นพื้นที่โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีระบบปรับอากาศ และสวนสาธารณะ เปิดให้บริการไม่เกิน 20.00 น.

ส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้กลับมาเปิดบริการได้ทุกแผนกถึง 20.00 น. แต่บางกิจกรรมยังมีการกำหนดเงื่อนไขในการเข้าใช้บริการ ได้แก่ ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ที่อยู่ในห้าง ให้บริการเฉพาะตัดผมเท่านั้น ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ร้านนวดเปิดได้เฉพาะนวดเท้า คลินิกเสริมความงามเปิดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น

แต่สถาบันกวดวิชา โรงหนัง สวนสนุก สวนน้ำ สปา ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องประชุมห้องจัดเลี้ยงในห้างและศูนย์การค้าต่างๆ ยังไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดบริการในรอบนี้

การผ่อนคลายล็อกดาวน์ของศบค. น่าจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง หลังรอบนี้มีการใช้ยาแรงคุมเข้มล็อกดาวน์กิจกรรมกิจการต่างๆ มานานกว่า 1 เดือน

อย่างศูนยการค้าที่ก่อนหน้านี้ให้เปิดเฉพาะโซนซุปเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น ตามด้วยธนาคารเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ส่วนร้านอาหารยังห้ามนั่งทานในร้านต้องซื้อกลับบ้านเท่านั้น แต่หลังวันที่ 1 ก.ย. นี้ เมื่อคลายล็อกแล้ว ร้านอาหารจะกลับมาเปิดให้นั่งทานได้ น่าจะทำให้บรรยากาศในห้างเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ประชาชนสามารถออกมาชอปปิง เดินเล่น ซื้อของได้ตามปกติ แต่ต้องดูแลป้องกันตัวเองอย่างเข้มงวด การ์ดห้ามตก ขณะที่ภาครัฐออกข้อบังคับที่คุมเข้มขึ้น ทั้งตัวสถานที่ ผู้ให้บริการ รวมทั้งลูกค้าที่จะเข้าไปใช้บริการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดรอบใหม่ขึ้น

สำรวจดูหุ้นศูนย์การค้าของไทยดูจะตอบรับข่าวดี “เปิดห้าง” ราคาหุ้นบวกสดใสหลังมีมติออกมา อย่างบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK เจ้าของเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์, เดอะไนน์ เซ็นเตอร์, พาราไดซ์ พาร์ค, พาราไดซ์ เพลส ปิด 13.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.72% หวังว่าจุดต่ำสุดของธุรกิจได้ผ่านพ้นไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าหลักของ “เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์” ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุดของบริษัท เป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นกว่าที่ธุรกิจจะกลับมาคัมแบ็คอย่างเต็มรูปแบบคงต้องรอการเปิดประเทศ

ส่วนบริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT ปิด 3.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท หรือ 6.21% บวกรับข่าวดีเช่นกัน หลังที่ผ่านมาได้รับผลกระทบหนักจากโควิด-19 จนผลประกอบการปี 2563 พลิกขาดทุน 249.70 ล้านบาท ปีนี้ยังสาหัสครึ่งปีแรกขาดทุนไปแล้ว 271.49 ล้านบาท หลังต้องปิดศูนย์การค้าขวัญใจขาช้อปทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างเดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ และเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ย่านประตูน้ำ

ด้านบริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF ดูจะเป็นหุ้นตัวเดียวในกลุ่มที่ราคาพุ่งติดจรวดสวนทางเพื่อนๆ ในกลุ่ม ล่าสุดปิดที่ 11.80 บาท ถามว่าไม่ได้รับกระทบจากโควิดเหรอ? คงไม่ใช่

แต่ที่พุ่งติดจรวดขึ้นมาทำนิวไฮแบบนี้ เพราะมีสตอรี่เฉพาะตัว หลังกลุ่มบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR และผู้ถือหุ้นใหญ่ ตัดสินใจขายหุ้น 52.15% ให้กับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN มูลค่ารวมกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะบุ๊คเป็นกำไรเข้ามา โดยกระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จวันนี้ (30 ส.ค.)

ส่วน CPN ในฐานะกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย ราคาปรับตัวลงเล็กๆ ปิดที่ 52.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.47% ส่วนหนึ่งนักลงทุนอาจมองว่ายังมีภาระรายจ่ายพิเศษจากดีลซื้อกิจการอยู่ แต่ถ้ามองในพื้นฐานธุรกิจ กูรูหลายๆ สำนักมองไปในทิศทางเดียวกันว่าจุดต่ำสุดน่าจะผ่านพ้นไปแล้ว ครึ่งปีหลังจะเริ่มสดใสขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิดที่ค่อยๆ คลี่คลาย

4531


“ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ยอมรับว่าเสียดายที่เป็นฝ่ายพ่ายคะแนนแบบไม่เอกฉันท์ต่อนักชกรุ่นพี่ “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ในศึก ONE: BATTLEGROUND III เมื่อ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา เผยความพ่ายแพ้นี้เป็นประสบการณ์ชั้นดีที่ทำให้เขารู้ศักยภาพของตนเองในการพัฒนาฝีมือต่อไปเพื่อล่าฝันในการครองบัลลังก์สองรุ่น

ตะวันฉาย ยอมรับว่าไฟต์นี้เป็นความท้าทายของเขาอย่างมากเพราะมีความไม่พร้อมหลายอย่างที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวโดยเฉพาะการต้องแบกน้ำหนักขึ้นไปเกือบ 5 กิโลกรัม เพื่อชกในรุ่นเฟเธอร์เวต (65.9-70.3 กก.) ซึ่งเป็นน้ำหนักธรรมชาติของ สิทธิชัย อยู่แล้ว โดย ตะวันฉาย ยอมรับว่าเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้เขาพลาดท่าไม่สามารถต้านความแข็งแกร่งของนักมวยรุ่นพี่ได้

อย่างไรก็ตาม ตะวันฉาย มองว่าการได้ปะทะฝีมือกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่าง สิทธิชัย เป็นประสบการณ์ชั้นดีที่จะช่วยให้เขาพัฒนาฝีมือในการเจอกับคู่แข่งคนอื่น ๆ บนเวทีระดับโลกเพื่อล่าฝันในการคว้าแชมป์สองรุ่นของตนเองต่อไปในอนาคต

“ผมยอมรับว่าไม่ค่อยพอใจกับผลงานตัวเองเท่าไหร่ครับ แต่ผมก็สู้เต็มที่ไม่มีกั๊กเหมือนกับทุกไฟต์ที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าการทำน้ำหนักขึ้นมาในเวลาจำกัดโดยไม่ได้เตรียมซ้อมมาตั้งแต่แรกมันส่งผลต่อการชกบนเวทีมาก ๆ เลยครับ มันทำให้แรงปะทะและการยืนระยะผมเสียเปรียบพี่เขา (สิทธิชัย) ผมบอกตรง ๆ เลยว่าพี่เขาแข็งแกร่งมาก ผมสู้แรงปะทะไม่ได้และพลาดให้พี่เขาดักทางและเล่นงานได้ในช่วงท้ายเกม”

“ถึงจะแพ้ แต่ผมได้ประสบการณ์ที่ดีกับการได้สู้กับคนที่แข็งแกร่งและมีประสบการณ์ในระดับโลกอย่างพี่เขา ทำให้เรามองเห็นว่าเราพลาดตรงจุดไหนและควรแก้ไขอะไรบ้าง ทั้งในเรื่องเทคนิคการชก การใช้แรงปะทะกับคนที่ชกเวตใหญ่กว่าเรา รวมทั้งการแก้เกมเฉพาะหน้าบนเวทีซึ่งจะช่วยให้ผมพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นต่อไปในครั้งหน้าครับ”

ส่วนเป้าหมายต่อไปบนเวที ONE ตะวันฉาย เผยว่าขอมุ่งมั่นตั้งใจไต่อันดับแรงกิงในรุ่นแบนตัมเวต (61.3 -65.8 กก.) เพื่อคว้าสิทธิ์ท้าชิงกับ “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ให้ได้ความตั้งใจเดิมก่อนแล้วจึงค่อยขยับน้ำหนักตามล่าหาเข็มขัดแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวต (65.9-70.3 กก.) เพื่อโค่นเจ้าบัลลังก์อย่าง “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” เป็นรายต่อไป

4532


หุ้นไทยพุ่งทะลุ 1,600 จุดได้อีกครั้ง โดยต่างชาติแห่ซื้อหุ้น EA กว่า 435 ล้านบาท หลังเดินหน้าลุยธุรกิจ New S-Curve เต็มรูปแบบ ล่าสุดประกาศข่าวดีพร้อมคิกออฟโครงการแบตเตอรี่ลิเทียมเฟสแรกในไตรมาส 3 นี้ ป้อนรถบัสไฟฟ้าที่ประกอบเสร็จกว่า 100 คัน

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (23-27 ส.ค.) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 484,907.61 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ปิดการซื้อขายปลายสัปดาห์ที่ 1,611.20 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.73% จากระดับปิดของสัปดาห์ก่อนที่ 1,553.18 จุด

โดยนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 13,405.07 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 2,568.00 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 8,070.18 ล้านบาท มีเพียงนักลงทุนรายย่อยในประเทศที่ขายสุทธิ 24,043.25 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากพิจารณาการซื้อขายของบัญชี "เอ็นวีดีอาร์" (NVDR) ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนชาวต่างประเทศในการซื้อหุ้นไทย ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 27 ส.ค. พบว่า

10 อันดับหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสูงสุด ได้แก่

EA มูลค่าซื้อสุทธิ 435.09 ล้านบาท   

ADVERTISEMENT


ADVANC มูลค่าซื้อสุทธิ 271.24 ล้านบาท   

JMART มูลค่าซื้อสุทธิ 258.74 ล้านบาท   

PTTGC มูลค่าซื้อสุทธิ 239.34 ล้านบาท   

SCB มูลค่าซื้อสุทธิ 226.19 ล้านบาท   

TISCO มูลค่าซื้อสุทธิ 193.43 ล้านบาท   

BBL มูลค่าซื้อสุทธิ 175.87 ล้านบาท   

IRPC มูลค่าซื้อสุทธิ 162.95 ล้านบาท   

KTC มูลค่าซื้อสุทธิ 118.55 ล้านบาท          

TRUE มูลค่าซื้อสุทธิ 109.72 ล้านบาท   

และ 10 อันดับหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติขายสูงสุด ได้แก่

PSL มูลค่าขายสุทธิ 578.32 ล้านบาท

CPALL มูลค่าขายสุทธิ 240.77 ล้านบาท    

GUNKUL มูลค่าขายสุทธิ 209.35 ล้านบาท

KCE มูลค่าขายสุทธิ 203.39 ล้านบาท

KBANK มูลค่าขายสุทธิ 122.71 ล้านบาท   

GULF มูลค่าขายสุทธิ 118.59 ล้านบาท

TU มูลค่าขายสุทธิ 101.88 ล้านบาท

INTUCH มูลค่าขายสุทธิ 70.50 ล้านบาท   

CBG มูลค่าขายสุทธิ 68.94 ล้านบาท

HMPRO มูลค่าขายสุทธิ 57.13 ล้านบาท

4533


ขุนพลนักเตะคนตาบอดทีมชาติไทย ที่เข้าร่วมแข่งขันพาราลิมปิกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเดิมสนามนัดแรก พ่าย 'กระทิงดุ' สเปน อดีตแชมป์โลก 2 สมัย แบบน่าเจ็บใจ 0-1 ในการแข่งขันฟุต.คนตาบอด กีฬาพาราลิมปิก โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม

โดยทีมนักเตะตาบอดทีมชาติไทย เคยเจอกับ สเปน มาแล้ว 2 นัดในศึกปรีพาราลิมปิก 2020 ก่อนหน้านี้ โดยนัดแรก ไทย ชนะ 3-2 แต่ในนัดที่ 2 ซึ่งเป็นเกมรอบชิงอันดับ 3 ไทยแพ้ 0-1

'โค้ชก้อง' นายก้องเกียรติ ก้องแดนไพร หัวหน้าโค้ชแข้งตาบอดไทย จัดทีม 5 คนแรกลงสนาม ประกอบด้วย พรชัย กสิกรอุดมไพศาล (ผู้รักษาประตู), 'เต๋า' ปัญญาวุฒิ คุพันธ์, กิตติธัช วิมลวรรณ์, กิตติกร บัวดี และประครอง บัวใหญ่

ครึ่งแรก ทั้งสองทีมต่อเกมสู้กันอย่างสนุก แม้แข้งไทยจะเสียเปรียบรูปร่างแต่ใจสู้ นาทีที่ 8 ไทยได้ฟรีคิก กิตติกร บัวดี สับด้วยเท้าซ้าย.เกือบเสียบโคนเสา แต่ผู้รักษาประตูสเปนปัดออกมาได้
นาทีที่ 12 ไทยเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ ปัญญาวุฒิ ได้จังหวะสับไกด้วยเท้าขวาในกรอบเขตโทษแต่นายทวารสเปนปัดออกมาได้อีกครั้ง จบครึ่งแรกยังประตูกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง ไทยเน้นเกมรับแน่นขึ้น หมุนเวียนนักเตะลงสนาม นาที 30 ประคอง ได้ลากไปซัดจากจังหวะฟรีคิก.ไปติดเซฟของนายทวารสเปน ถัดมานาทีเดียว สเปนได้ฟรีคิกแต่ยิงไปติดกำแพงทีมไทย

นาที 33 ไทยฟาวล์ครบตามโควต้าเลยเสียจุดโทษระยะที่ 2 แต่ อดอลโฟ่ โรดริเกรซ ยิงออกไป ถัดมา 2 นาที เซร์คิโอ้ อัลมาร์ ยิงไกลเดือดร้อน พรชัย นายทวารของไทยต้องออกแรงเซฟรอดพ้นการเสียประตูแบบหวุดหวิด

เหลืออีก 5 นาทีจะหมดเวลา ไทยเสียจุดโทษระยะที่ 2 อีกครั้ง แต่ ไกตัน กองหน้าสเปนยิงเฉี่ยวเสาออกไป

เหลือ 3 นาทีจะหมดเวลาไทยเฉียดได้ประตูชัย จากการลากแหวกไปของ กิตติกร บัวดี แต่ล้มตัวยิงไปติดนายทวารสเปน

ขณะเหลือเวลาอีก 44 วินาที ไทยมาเสียจุดโทษระยะที่ 2 และเป็น ไกตัน ยิงแบบฉีดยาเสยเพดานเข้าประตูไปช่วยให้สเปน ออกนำไทย 1-0 และจบเกมด้วยสกอร์นี้

โปรแกรมเตะอีก 2 นัดที่เหลือของทีมฟุต.คนตาบอดไทย วันที่ 30 สิงหาคม พบ โมร็อกโก เวลา 14.30 น. ตามเวลาไทย / วันที่ 31 สิงหาคม ไทย พบ อาร์เจนติน่า เวลา 14.30 น. ตามเวลาไทย

สำหรับฟุต.คนตาบอด พาราลิมปิก โตเกียว 2020 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยจะคัดเอาอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทย อยู่ร่วมกลุ่มบี กับ สเปน, โมร็อกโก และอาร์เจนติน่า ส่วนกลุ่มเอ ประกอบด้วย ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, บราซิล และจีน

ร่วมส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทยสู้ศึก 'พาราลิมปิกเกมส์ 2020' ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม- 5 กันยายน 2564 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผ่าน AIS PLAY และสถานีทีวีกีฬา ทีสปอร์ต (T-SPORTS CHANNEL) ช่องทีวีดิจิตอลหมายเลข7

4534
Zoom Meeting ดารานำชายตัวจริงของแพลตฟอร์มสื่อสารผ่าน ระบบประชุมทางไกล วันนี้เราสามารถเชื่อมต่อทุกการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มต่างๆได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Team, Google Meet, Cisco และอื่นๆ แต่เราก็มักพบว่าผู้ติดต่อของเราส่วนหนึ่งก็จะขอประชุมผ่าน Zoom และวันนี้หลายหน่วยงานและมหาวิทยาลัยต่างๆที่มีการรับสมัคร มีการนัดสัมภาษณ์ผ่าน Zoom หรือส่งการนัดหมายการประชุมเป็น Link สำหรับเข้าประชุมผ่าน zoom meeting มาให้เรา นอกจากนี้ถ้าเรามองในส่วนของงานสัมมนาและ Event ต่างๆ ต้องบอกว่าส่วนมากเลือกจัดผ่านโปรแกรม Zoom Conference วันนี้ถ้าใครยังไม่มีโปรแกรม หรือ Zoom Software อยู่บนอุปกรณ์วันนี้ผมมาชวนให้ติดตั้งไปพร้อมๆกันครับ

คำถาม : ผู้เข้าร่วมหรือผู้เข้ารับการinterviewจำเป็นต้องซื้อ License Zoom ก่อนหรือเปล่า ..?
คำตอบคือ ไม่จำเป็นครับ วันนี้ หลังจากคุณติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สามารถลงสมัครใช้งาน Zoom Free หรือ แพคเกจ Basic ได้เลย ซึ่งคุณสามารถใช้ฟังชั่น Meeting, Chat, Contact, Apps ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถใช้สารพัดฟีเจอร์ที่อยู่ได้ Zoom ได้อีกด้วยในเวอร์ชั่นฟรีนี้

ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ว่ามีการนำ Zoom Meeting ไปใช้เพื่อประโยชน์ในงานสรรหาบุคลากรด้วยการนำเอาคุณลักษณะอันโดดเด่นของ Zoom ไปใช้สัมภาษณ์งานแบบเสมือนจริง ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากสำหรับกิจการค้า ทั้งนี้สามารถประเมินผู้สมัครได้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงผู้มีความสามารถชั้นนำได้จากทั่วโลก ด้วย Zoom Meeting ทำให้หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ สรรหาบุคลากรได้ตามความต้องการตามแผนกำลังคน โดยลดขั้นตอนและกระบวนการต่างๆที่ไม่จำเป็นออกไปได้หลายกรรมวิธี ทั้งการกรอกใบสมัครการแนบเอกสารหลักฐานที่ปัจจุบันทำได้ผ่านทางออนไลน์แทบทั้งสิ้น ส่วนในการสัมภาษณ์และการทำแบบทดสอบต่างๆ สามารถทำได้ผ่าน Zoom Meeting ทั้งสิ้นและสามารถทราบผลคะแนนได้แบบเรียลไทม์ โดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลสามารถกำหนดเวลาและจัดการสัมภาษณ์ผู้สมัครได้อย่างง่ายดาย ผ่าน Zoom ซึ่งสามารถเลือกเวลาได้ตามความหวานคอแร้งของทั้งสองฝ่าย


ติดตามข่าวสารและอัพเดตชีวิตแบบตามติดเทคโนโลยีที่ Zoom ThailandTag : แหล่งที่มา

4535


แคสเปอร์สกี้เผยโมบายมัลแวร์คุกคามองค์กรและพนักงานเพิ่มสูง รับกระแส Remote working ยอดโจมตีไทยพุ่งขึ้นอันดับสองของอาเซียน

ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเผชิญสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 พนักงานจำนวนมากจึงต้องจัดสภาพแวดล้อมสำหรับการทำงานจากระยะไกล แนวโน้มนี้ช่วยให้ประชากรมีความปลอดภัยทางกายภาพมากขึ้น แต่ก็เป็นการเปิดช่องโหว่องค์กรทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน

แคสเปอร์สกี้ บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก ได้ตรวจพบและบล็อกการโจมตีผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านมือถือจำนวน 382,578 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมี 336,680 ครั้ง

แม้ว่าการนำอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ในการทำงานหรือ BYOD จะเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นก่อนสถานการณ์โรคระบาด แต่การใช้งานก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี 2020 เนื่องจากบริษัทต่างๆ ได้ปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเพื่อความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้พนักงานมีบาทบาทในการรักษาความปลอดภัยเน็ตเวิร์กของบริษัทเพิ่มขึ้นเช่นกัน

การสำรวจเรื่อง “How COVID-19 changed the way people work” ของแคสเปอร์สกี้เมื่อปีที่แล้วเปิดเผยว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากกว่าสองในสามกำลังใช้อุปกรณ์ส่วนตัวเพื่อทำงานจากที่บ้าน นอกจากนี้พนักงานยังใช้อุปกรณ์ในการทำงานเพื่อทำกิจกรรมส่วนตัว เช่น ดูวิดีโอและเนื้อหาเพื่อการศึกษา อ่านข่าว และเล่นวิดีโอเกม


ที่น่าสนใจที่สุดคือพนักงาน 33% จาก 6,017 คนที่ตอบแบบสอบถามจากทั่วโลกยอมรับว่าใช้อุปกรณ์สำนักงานเพื่อดูเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นเนื้อหาประเภทหนึ่งที่มักตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์


นายเซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า “คอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการทำงาน แต่อุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนก็ยังใช้เพื่อเข้าถึงอีเมลสำนักงานและระบบที่เกี่ยวข้องกับงานตั้งแต่ก่อนเกิดโรคระบาด การใช้อุปกรณ์การทำงานสำหรับเรื่องส่วนตัวและเข้าถึงความบันเทิงที่อันตราย ถือเป็นวิธีปฏิบัติที่เสี่ยงต่อภัยออนไลน์ ด้วยแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นในสภาพแวดล้อมโฮมออฟฟิศเสมือนจริงนี้ บริษัทต่างๆ ควรทบทวนนโยบาย สิทธิ์การเข้าถึง และการตั้งค่าความปลอดภัยเพื่อบล็อกอาชญากรไซเบอร์ไม่ให้เข้าสู่เน็ตเวิร์กองค์กรผ่านอุปกรณ์ที่ติดมัลแวร์"

มัลแวร์บนมือถือ หรือโมบายมัลแวร์ (mobile malware) หมายถึงซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายซึ่งกำหนดเป้าหมายไปยังอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะ รวมถึงโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และสมาร์ทแกดเจ็ตอื่นๆ แม้ว่ามัลแวร์บนอุปกรณ์พกพาจะไม่เทียบเท่าคอมพิวเตอร์ในแง่ของปริมาณหรือความซับซ้อน แต่ผู้เชี่ยวชาญก็พบมัลแวร์ที่ออกแบบเพื่อใช้กับฟีเจอร์ของสมาร์ทโฟนหรือช่องโหว่ของแท็บเล็ต

โดยเฉพาะ ในยุคของการทำงานจากระยะไกลอย่างต่อเนื่อง มัลแวร์บนอุปกรณ์พกพาสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้แต่ละคน และยังเป็นจุดเริ่มสำหรับการโจมตีแบบกำหนดเป้าหมายต่อนายจ้างของผู้ใช้ได้อีกด้วย

ตั้งแต่ปี 2020 แคสเปอร์สกี้ได้เฝ้าติดตามและบล็อกการโจมตีของมัลแวร์บนอุปกรณ์พกพามากกว่าหนึ่งแสนรายการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อหนึ่งไตรมาส โดยในไตรมาสแรกของปี 2021 มีตัวเลขสูงสุดโดยตรวจพบเหตุการณ์การพยายามโจมตี 205,995 ครั้ง

อินโดนีเซียมีสถิติการโจมตีผ่านมือถือสูงสุดในภูมิภาคช่วงเดือนมกราคม 2020 ถึงมิถุนายน 2021 ตามมาด้วย "ไทย" และ "มาเลเซีย" โดยอินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลกที่ตรวจพบมัลแวร์บนมือถือมากที่สุดในไตรมาสที่สองของปีนี้ รัสเซียและยูเครนอยู่ในอันดับที่หนึ่งและสองตามลำดับ อินเดียอยู่ในอันดับที่ 4 และตุรกีอยู่ในอันดับที่ 5

สำหรับตัวเลขเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่ถูกโจมตีโดยมัลแวร์มือถือ ผู้ใช้ 4.42% ในมาเลเซียตกเป็นเป้าหมายในช่วงครึ่งแรกของปี ตามด้วยประเทศไทย (4.26%) และอินโดนีเซีย (2.95%) สิงคโปร์มีตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน โดยมีผู้ใช้มือถือ 2.83% ที่เกือบติดเชื้อจากภัยคุกคามประเภทนี้ ฟิลิปปินส์ (2.27%) และเวียดนาม (1.13%) มีตัวเลขต่ำสุด

ภัยคุกคามทางมือถือที่พบบ่อยที่สุด 3 รายการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีดังนี้

• Trojan – โทรจันคือโปรแกรมที่เป็นอันตรายซึ่งดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ โทรจันจะลบ บล็อก แก้ไข คัดลอกข้อมูล และขัดขวางประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์หรือเน็ตเวิร์กคอมพิวเตอร์

• Trojan-Downloader – ดาวน์โหลดและติดตั้งเวอร์ชันใหม่ของโปรแกรมที่เป็นอันตราย รวมทั้งโทรจันและ AdWare บนคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ เมื่อดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตแล้ว โปรแกรมจะเปิดทำงานหรือรวมอยู่ในรายการโปรแกรมที่จะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อระบบปฏิบัติการเริ่มทำงาน

• Trojan-Dropper – โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อแอบติดตั้งโปรแกรมที่เป็นอันตรายซึ่งสร้างไว้ในรหัสไปยังคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ โปรแกรมที่เป็นอันตรายประเภทนี้มักจะบันทึกไฟล์ช่วงหนึ่งไปยังไดรฟ์ของเหยื่อ และเปิดใช้งานโดยไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ (หรือการแจ้งเตือนปลอมเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการเก็บ เวอร์ชันระบบปฏิบัติการที่ล้าสมัย ฯลฯ)

'เยียวยาประกันสังคมมาตรา 40' เช็คโอนพร้อมเพย์-ทบทวนสิทธิ์ ยังไม่ได้เงินทำไง?
ด่วน! ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยังตายสูง! พบเสียชีวิต 292 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 17,984 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,535 ราย
เตรียมตัวให้พร้อม "ร้านนวด-เสริมสวย" คลายล็อก 1 ก.ย. นี้
นายเซียง เทียง โยว กล่าวเสริมว่า ทั้งพนักงานและ CIO ในภูมิภาคนี้ต่างยอมรับประโยชน์จากการทำงานจากระยะไกลในปัจจุบันและสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดในอนาคต แต่บริษัทควรพิจารณาประเด็นช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยเช่นกัน

"เทรนด์ BYOD นั้นจะอยู่กับเราอีกนาน บริษัทควรดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเพิ่มการป้องกัน สิ่งสำคัญคือต้องฝึกอบรมพนักงานอย่างสม่ำเสมอ แจ้งเรื่องภัยคุกคามทางออนไลน์ล่าสุด และจัดหาเครื่องมือ เช่น อุปกรณ์ที่เข้ารหัส การป้องกันเครื่องเอ็นด์พอยต์และ VPN สิ่งสำคัญที่สุดคือ สร้างวัฒนธรรมความไว้วางใจและความรับผิดชอบร่วมกันในการรักษาความปลอดภัยขององค์กร”

เคล็ดลับป้องกันเน็ตเวิร์คและอุปกรณ์ จากอาชญากรไซเบอร์ มีดังต่อไปนี้

• ตรวจสอบว่าพนักงานมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำงานจากที่บ้านอย่างปลอดภัย และให้ข้อมูลว่าต้องติดต่อใครหากต้องเผชิญกับปัญหาด้านไอทีหรือความปลอดภัย

• จัดกำหนดการการฝึกอบรมความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานสำหรับพนักงาน ซึ่งสามารถทำได้ทางออนไลน์ให้ครอบคลุมแนวทางปฏิบัติที่จำเป็น เช่น การจัดการบัญชีออนไลน์และรหัสผ่าน การรักษาความปลอดภัยของอีเมล การรักษาความปลอดภัยปลายทาง และการท่องเว็บ โดยแคสเปอร์สกี้ และ Area9 Lyceum ได้เตรียมหลักสูตรฟรีเพื่อช่วยให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้อย่างปลอดภัย 

• ใช้มาตรการป้องกันข้อมูลที่สำคัญ รวมถึงการเปิดใช้การป้องกันด้วยรหัสผ่าน การเข้ารหัสอุปกรณ์ที่ทำงาน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้สำรองข้อมูลไว้เรียบร้อย

• ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน และบริการต่างๆ ได้รับการอัปเดตด้วยแพตช์ล่าสุด

• ติดตั้งซอฟต์แวร์การป้องกันที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เช่น Kaspersky Endpoint Security Cloud บนเครื่องเอ็นด์พอยต์ปลายทางทั้งหมด รวมถึงอุปกรณ์พกพา และเปิดไฟร์วอลล์

• สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลภัยคุกคามล่าสุด (threat intelligence) เพื่อสนับสนุนโซลูชันการป้องกันเพื่อความปลอดภัย

• ตรวจสอบการป้องกันบนอุปกรณ์มือถืออีกครั้ง ตัวอย่างเช่น ควรเปิดใช้ฟีเจอร์การป้องกันการโจรกรรม เช่น ตำแหน่งของอุปกรณ์ระยะไกล การล็อกและการล้างข้อมูล การล็อกหน้าจอ รหัสผ่าน และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยแบบไบโอเมตริก เช่น Face ID หรือ Touch ID ตลอดจนเปิดใช้การควบคุมแอปพลิเคชันเพื่อให้พนักงานใช้เฉพาะแอปพลิเคชันที่ได้รับอนุมัติเท่านั้น

เคล็ดลับสำหรับผู้ใช้และพนักงานในช่วงเวลาที่อยู่บ้าน เพื่ออุดช่องโหว่การโจมตี มีดังต่อไปนี้

• ตรวจสอบว่าเราเตอร์รองรับและทำงานได้อย่างราบรื่นเมื่อส่ง Wi-Fi ไปยังอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกัน แม้ว่าพนักงานหลายคนจะออนไลน์และมีทราฟฟิกหนาแน่น (เช่นกรณีเมื่อใช้การประชุมทางวิดีโอ)

• อัปเดตเราเตอร์เป็นประจำเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น

• ตั้งรหัสผ่านที่รัดกุมสำหรับเราเตอร์และเน็ตเวิร์ก Wi-Fi 

• หากทำได้ ให้ทำงานบนอุปกรณ์ที่นายจ้างให้มาเท่านั้น การใส่ข้อมูลบริษัทลงในอุปกรณ์ส่วนตัวอาจนำไปสู่ปัญหาด้านความปลอดภัยและการรักษาความลับที่อาจเกิดขึ้น

• อย่าเปิดเผยรายละเอียดบัญชีงานแก่ผู้อื่น

• พูดคุยกับทีม IT หรือทีม IT Security ของบริษัทหากมีข้อกังวลหรือปัญหาใดๆ ขณะทำงานจากที่บ้าน

• ปฏิบัติตามกฎของสุขอนามัยทางไซเบอร์ ได้แก่ ใช้รหัสผ่านที่รัดกุมสำหรับทุกบัญชี ห้ามเปิดลิงก์ที่น่าสงสัยจากอีเมลและข้อความ ห้ามติดตั้งซอฟต์แวร์จากตลาดเธิร์ดปาร์ตี้ ตื่นตัวต่อภัยคุกคาม 

4536

อินเตอร์ มิลาน ยักษ์แห่ง va.com/5-เว็บ..ดีที่สุด-pantip/]กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ร้อนแรงต่อเนื่องหลังบุกไปคัมแบ็กยิง เวโรน่า ชนะ 3-1 พร้อมขึ้นครองจ่าฝูง เมื่อคืนวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา

เกมคู่วันศุกร์ เวโรน่า อันดับ 14 ไม่มีแต้ม เจอ อินเตอร์ มิลาน รองจ่าฝูงมี 3 แต้ม เกมนี้ เวโรน่า มี อันโตนิน บารัค กับ มัตเตโอ คานเซลเลรี ยืนหน้า ส่วน 'งูใหญ่' ใช้กองหน้าเป็น เอดิน เชโก้ กับ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ลงซัด

ครึ่งแรก นาที 11 อินเตอร์ เกือบนำ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ เติมมายิงทางซ้ายแต่ ลอเรนโซ่ มอนติโป เซฟทันการ แต่แล้ว นาที 14 เวโรน่า กลับได้เฮก่อน อิวาน อิลิซิช ปั๊มแย่ง.หน้าประตูแล้วชิพ.เข้าไปอย่างสวยงาม 1-0

นาที 23 อินเตอร์ จะตีเสมอจากจังหวะสวน ฮาคาน คัลฮาโนกลู เปิดเข้ามา นิโคโล บาเรลญ่า โหม่งแต่ก็ออกหลัง ถัดมา นาที 41 เวโรน่า อยากได้ลูกสอง มัตเตโอ คานเซลเลรี เงยหน้าแล้วลองยิงซ้ายแต่โด่งออกหลัง จบครึ่งแรก อินเตอร์ ตามหลังแบบเสียฟอร์ม

ครึ่งหลัง นาที 46 อินเตอร์ ตีเสมอสำเร็จ เอดิน เชโก้ โหม่งตั้งย้อยให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ โขกต่อเจ๊า 1-1 จากนั้น นาที 64 เวโรน่า ฮึดอยากได้ประตูนำอีก จานโคโม แม็กนานี สอดขึ้นมาแล้วยิงขวาแต่ไม่เข้ากรอบ

นาที 83 อินเตอร์ แซงนำจนได้ มัตเตโอ ดาร์เมียน สปีดกงล้อไปเปิด.ทางขวาเข้ากบาล เอดิน เชโก้ โขกย้อยเข้าสวยงาม 2-1 และสุดท้ายทดเจ็บ นาที 93 อินเตอร์ ตอกฝาโลง โจอาคิน คอร์เรียอา เติมมาหน้าประตูแล้วยิงไม่เหลือ 3-1 พา อินเตอร์ ขึ้นจ่าฝูง มี 6 แต้มเต็มจาก 2 นัด

หน้า: 1 ... 250 251 [252] 253 254 ... 261