This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
Topics - eracknow
หน้า: [1]
1
« เมื่อ: มีนาคม 03, 2015, 01:42:29 am »
2
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2015, 04:51:03 am »
จิงก้าJinga Juice มาแล้วค่ะ
ราคาจำหน่ายกล่องละ 1,500 บาท
ซื้อ 2 แถม 1 ( ถ้าต้องการ 1 กล่อง ราคาพิเศษ 1,250 บาท )
ติดต่อสั่งซื้อสินค้าหรือสอบถามเพิ่มได้ก่อนได้จ้า
โทร 089-6023132(คุณอ้วน) สินค้าพร้อมส่งจ้า
สอบถามทางไลน์ (Line) ได้ที่นี่ ID suwapat2512
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของร้านได้เลยจ้าhttp://www.siamloveyou.com/store/
ครื่องดื่ม ทุเรียนเทศ หรือ ทุเรียนน้ำผสมกับต้นอ่อนข้าวสาลี ช่วยเรื่องสุขภาพ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จิงก้า จุ๊ยส์ เป็นเครื่องดื่มนำเข้า จากฟิลิปปินส์ซึ่งมีจำหน่ายไปมากกว่า 20ประเทศทั่วโลก และเมืองไทย คือ บริษัท จิงก้า (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งได้ลิขสิทธิ์นำเข้าแต่เพียงผุ้เดียว
เราคือหนึ่งเดียวผู้เดียวเท่านั้นที่นำเข้าสินค้าภายใต้แบรนด์ Jinga Juice อย่างถูกต้องตามกฎหมายของ Jinga Juice Philippines โปรดระวังของลอกเลียนแบบ!!! วิธีการสังเกตสินค้าจริงหรือปลอม เราจะมาบอกเร็ว ๆ นี้........ หากสนใจข้อมูลสินค้า หรือทดลองสินค้า ติดต่อเรา
ทุเรียนน้ำฆ่ามะเร็ง 10,000 เท่าของความแรงมากกว่ายาเคมีบำบัด
ทุเรียนน้ำ...ทุเรียนเทศ...ทุเรียนแขก
ทุเรียนน้ำ มีปลูกประปรายทางภาคอีสานและภาคกลาง มีขายในตลาดชนบท ทุเรียนน้ำหรือทุเรียนเทศ ไม่ใช่พืชจำพวกทุเรียนแต่เป็นน้อยหน่าขนาดยักษ์ที่มีหนามอ่อน ๆ คล้ายทุเรียน มีปลูกมากทางภาคใต้ พม่า ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศแถบร้อนชื้น เพราะชอบฝนชุกมีผลใหญ่ บางครั้งหนักกว่า ๒ กิโลกรัม ผลสุกสีเขียวปนน้ำตาลอ่อน เนื้อหวานอมเปรี้ยวมีวิตามินซีสูง นิยมคั้นน้ำดื่มชุ่มคอ แถบอเมริกากลางใช้ทุเรียนน้ำทำเหล้า เยลลี่ และขนมพื้นบ้าน
" แรงกว่า 10,000 เท่า ฆ่าเซลล์มะเร็งได้มากกว่าการคีโม Chemo เสียอีก"
ผลไม้รสเปรี้ยวหรือผลไม้จากต้นไม้ Graviola(ทุเรียนน้ำ) หรือ (ทุเรียนเทศ)เป็นต้นไม้มหัศจรรย์จากธรรมชาติ ที่เป็นฆาตกรเซลล์โรคมะเร็งได้10,000 เท่าดีกว่าคีโม Chemo
ทำไมพวกเราจึงไม่รู้ถึงเรื่องนี้ ? ...เพราะบริษัทยาขนาดใหญ่ต้องการที่จะทำเงิน หลังจากการต้องทุ่มเทเวลาอยู่นานหลายปีกับการวิจัยที่พยายามที่สังเคราะห์ผลผลิตออกมาเป็นยาเพื่อนำมาขายโดยเฉพาะ
ดังนั้น ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าคุณสามารถช่วยเหลือเพื่อนที่เจ็บป่วยโดยการบอกให้พวกเขารู้ว่าหรือเพียงแค่ดื่มน้ำผลไม้รสเปรี้ยวเป็นประจำเพื่อเป็นการป้องกัน รสชาติก็ไม่เลวมากนักหลังจากเคยชิน
เพราะเป็นผลไม้ตามธรรมชาติโดยสมบูรณ์ และแน่นอนไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย หากคุณมีพื้นที่ดินเหลือว่างอยู่ในบ้านให้ลองปลูกสักหนึ่งต้น ส่วนอื่นๆของต้นไม้นี้ก็มีประโยชน์เช่นกัน
ในครั้งต่อไปถ้าต้องการดื่มน้ำผลไม้ให้ดื่มน้ำผลไม้นี้
ความสนใจอย่างมากเกี่ยวกับต้นไม้นี้ เป็นเพราะผลในการต่อต้านเซลล์มะเร็งเป็นอย่างมาก มันจะมีประสิทธิภาพที่นับจำนวนครั้งได้ตามเงื่อนไขทางการแพทย์ มันมีผลต่อต้านเซลล์เนื้องอก แต่ที่น่าสนใจมากที่สุด ต้นไม้นี้ได้พิสูจน์แล้วว่ารักษาโรคมะเร็งได้ทุกประเภท
นอกเหนือจากการรักษาโรคมะเร็งGraviola มีสเปกตรัม(ขอบเขตการรักษา)กว้างมากเหมือนยาปฏิชีวนะสำหรับรักษาการติดเชื้อ ทั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา มีผลดีกับการกำจัดพยาธิภายในและหนอน ช่วยลดความดันโลหิตสูงและถูกนำมาใช้สำหรับรักษาความผิดปกติจากอาการเครียด ซึมเศร้า และโรคประสาท
การวิจัยแสดงให้เห็นว่า สารสกัดที่ได้จากจากต้นไม้มหัศจรรย์นี้ในขณะนี้และที่อาจเป็นไปได้คือ
* โจมตีเซลล์มะเร็งได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาเป็นผลผลิตตามธรรมชาติทั้งหมด ไม่ก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้อย่างรุนแรง สูญเสียน้ำหนักและเส้นผมหลุดร่วง
* ป้องกันระบบภูมิคุ้มกันและหลีกเลี่ยงการติดเชื้อร้ายแรง
* รู้สึกถึงความแข็งแรงและมีสุขภาพดีมากขึ้น ตลอดช่วงเวลาของการรักษา
* เพิ่มพลังงานชีวิตและปรับปรุงสภาพร่างกายภายนอกของคุณ
แหล่งที่มาของข้อมูลนี้ไม่เพียงแต่น่าประหลาดใจ เพราะข้อมูลมาจากหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตยาในสหรัฐอเมริกาที่ใหญ่ที่สุด จากผลการทดสอบผลไม้นี้ในห้องทดสอบปฏิบัติการมากกว่า 20 แห่ง ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1970(2513) ผลการทดสอบเหล่านั้นเผยผลลัพท์ที่ทำให้นักทดลองต่างต้องตกตะลึงและมึนงงไปตาม ๆ กันเลย สารสกัดจากต้นไม้แสดงให้เห็นว่า
* มีประสิทธิภาพตามที่ต้องการฆ่าเซลล์โรคมะเร็งได้ถึง 12 ชนิด
ได้แก่ ลำไส้ใหญ่ เต้านม ต่อมลูกหมาก มะเร็งปอดและมะเร็งตับอ่อน เป็นต้น
* สารประกอบต้นไม้พิสูจน์ให้เห็นว่ามีฤทธิ์แรงมากกว่า 10,000 เท่าในการลดอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งโตช้าขึ้นเหนือกว่ายาเคมีบำบัด Adriamycin ยารักษาโรคมะเร็งที่ใช้กันอยู่ทั่วไป
* มีอะไรเพิ่มเติมที่แตกต่างจากยาเคมีบำบัด สารสกัดที่คัดเลือกแล้วจาก Graviola มีแต่เพียงเซลล์มะเร็งเท่านั้นที่ถูกฆ่าโดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ทั่วไปของร่างกาย
คุณสมบัติในการต่อต้านเซลล์มะเร็ง ที่น่าประหลาดใจนี้จาก Graviola ทีผ่านการทำการวิจัยอย่างกว้างขวาง
แต่ทำไมพวกเราถึงไม่เคยได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ถ้า Graviola มีประโยชน์จริงตามนี้ ?
เพราะหนึ่งในบริษัทผลิตยายักษ์ใหญ่ที่มียอดขายต่อปีมากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐได้เริ่มต้นค้นหายาสำหรับการรักษาโรคมะเร็งโดยการวิจัยที่มีเป้าหมายรวมศูนย์อยู่ที่ Graviola มีตำนานบอกเล่ามานานแล้วว่าใช้ในการรักษาโรคมาจากชาวบ้านป่าดงดิบอเมซอนส่วนต่าง ๆ ของ Graviola รวมทั้งเปลือก ใบ ราก ผลไม้ และเมล็ดมีการใช้งานมานานหลายศตวรรษแล้วโดยหมอยา และคนพื้นเมืองอินเดียนในละตินอเมริกา ใช้ในการรักษาโรคหัวใจ โรคหืด โรคไข้ข้ออักเสบ โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ
แต่สิ่งที่พบเห็นและที่เป็นอยู่ในตอนนี้คือ มีเอกสารและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งงานวิจัยเกี่ยวกับ Graviola น้อยมาก
เพราะบริษัทยาได้ทุ่มเทเงินและทรัพยากรลงไปในการทดสอบคุณสมบัติการป้องกันรักษามะเร็งจาก Graviola เป็นจำนวนมหาศาล แล้วพบกับเรื่องที่น่าตื่นตะลึงและน่าตกใจว่า ผลการทดสอบคือ Graviola ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าจะเป็นระเบิดไดนาโมในการฆ่าโรคมะเร็ง
บริษัทยาต้องเผชิญหน้ากับปัญหาหนักอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ Graviola เพราะมันเป็นผลผลิตจากธรรมชาติอย่างแท้จริง และภายใต้กฎหมายของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาทำให้ไม่สามารถจดทะเบียนสิทธิบัตรหรือทรัพย์สินทางปัญญา จึงไม่มีทางที่จะทำกำไรอย่างมหาศาลได้จาก Graviola
เรื่องที่มีการเปิดเผยออกมาก็คือ ผลการศึกษาพบว่า Graviola "ใบและลำต้นพบที่มีประสิทธิภาพในการโจมตีและทำลายเซลล์มะเร็ง" แต่กลายเป็นเรื่องปกปิดภายในรายงานที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่เฉพาะภายในหน่วยงานและไม่เคยปล่อยให้ถึงมือประชาชน(ให้ประชาชนรับทราบเรื่องนี้เลย)และที่ค้นพบคือ การเลือกฆ่าเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ที่มากกว่า10,000 เท่าของความแรงมากกว่ายาเคมีบำบัดที่ใช้กันทั่วไปที่ชื่อว่า Adriamycin
ส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดจากรายงานของมหาวิทยาลัยคาทอลิกของเกาหลีใต้ได้รายงานว่า Graviola แสดงให้เห็นถึงการกำหนดเป้าหมายกำจัดเฉพาะเซลล์มะเร็งแยกออกจากเซลล์ทั่วไปของร่างกาย เซลล์ปกติจะไม่ถูกแตะต้อง.....ซึ่งแตกต่างจากยาเคมีบำบัดทั่วไปที่ไม่แยกแยะเป้าหมายเซลล์แต่อย่างใด แต่มีผลอย่างแรงต่อเซลล์อื่นๆ ด้วยเช่นกันทั้งหมด (เช่น กระเพาะอาหาร และเซลล์เส้นผลผม) ทำให้เกิดการทำลายล้างอย่างมากมักจะมีผลข้างเคียงจากอาการคลื่นไส้และผมร่วงในผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ผลการศึกษาที่มหาวิทยาลัย Purdue เมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่าใบจาก Graviola ฆ่าเซลล์มะเร็งภายในร่างกายมนุษย์ได้ถึงหกประเภทและโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีประสิทธิภาพกับต่อมลูกหมาก ตับอ่อน และมะเร็งปอด
ข้อมูลสำคัญ
การกินทุเรียนเทศในสำหรับมะเร็งนั้น กิน จากใบธรรมชาติ แห้งหรือสด โดยนำมาชงเป็นชา
มีการวิจัยออกมาว่าในประเทศที่มีการใช้เมล็ดเป็นยาพื้นเมืองฆ่าพยาธิ พบว่าคนเป็นพาร์คินสัน จงควรเลี่ยงการกินเมล็ด
ในผลทุเรียนน้ำสด1ผล มีสารannonacin 15 milligrams และ1 กระป๋องของ น้ำผลไม้ที่ทำสำเร็จแล้วเพื่อการค้ามี annonacin 36 milligrams annonacin มีความเกี่ยวข้องกับ การเกิดแผลในสมอง ทำให้มีอาการแบบพาร์คินสัน จึงควรหลีกเลี่ยงการกินผลทุเรียนน้ำมากเกินไป
มีการวิจัยยืนยันว่า ในผล,เมล็ดและในรากทุเรียนน้ำ ก็มีสาร ต่อต้านมะเร็งในปริมาณสูงด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจาก พบรายงานว่ามีอัลคาลอยด์ที่เกี่ยวข้องกับการเป็น พาร์คินสัน ดังนั้นจงแนะนำว่าไม่ควรใช้ ผล,เมล็ดและในรากทุเรียนน้ำ เพื่อผลในการรักษามะเร็งในช่วงเวลานี้
คุณสุกัญญา พลธร เป็นมะเร็งลำไส้ ขั้นที่ 4 คุณหมอบอกว่าคุณสุกัญญาอยู่ได้แค่ 2 ปี แต่วันนี้อยู่ได้เกิน 2 ปีแล้ว และสุขภาพแข็งแรงดีขึ้นมากจนเหมือนคนไม่มีโรคร้ายนี้ในร่างกาย ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ํามีนวล เนียนใส ทั้งที่ผ่านการคีโมมาหลายครั้ง แต่ตอนนี้หยุดคีโมและใช้วิธีการรักษาแบบธรรมชาติ ด้วยเครื่องดื่มที่สกัดจากธรรมชาติอย่าง จิงก้า จุ๊ยส์ ค่าตับดีขึ้น ค่ามะเร็งลดลง เบาหวานลดลง ขับถ่ายดีขึ้น และอีกหลายอย่างดีขึ้นตามลำดับ ติดตามชมบทสัมภาษณ์ของคุณสุกัญญาแบบฉบับเต็ม ๆ ได้เร็ว ๆ นี้![](http://upic.me/i/nd/1016925_571763576287674_225348022445503314_n.jpg)
4
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2015, 10:38:50 pm »
5
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2015, 03:21:04 pm »
META LADY (เมต้า เลดี้)
ยาสตรี ตรา เมต้า เลดี้ แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ช่วยชักมดลูกเข้าอู่ บำรุงโหิต ขับน้ำคาวปลา
1 กล่อง บรรจุ 20 แคปซูล ราคาต่อหน่วย (กล่องละ): 550 บาทสนใจสั่งซื้อ ส่งฟรี ems ทั่วประเทศ
หรือสอบถามรายละเอียดเป็นตัวแทนจำหน่ายได้ที่
โทร 0896023132
หรือ ไอดีไลน์ suwapat2512
ส่วนประกอบที่สำคัญ
ว่านชักมดลูก (Curcuma sp.)
ว่านมหาเมฆ (Curcuma aeruginosa Roxb)
โกฐเชียง (Angelica sinensis.)
แก่นฝาง (Caesalpinia sappan L.)
ดอกคำฝอย (Carthamus tinctorius L.)
ไพล (Zingiber montanum)
เทียนดำ (Nigella sativa L.)
โสมเกาหลี (Panax ginseng C.A. May.)
และยาอื่นๆ (Other Ingredient)
คุณสมบัติที่สำคัญ
ช่วยระบบประจำเดือนมาเป็นปกติ
บรรเทาอาการปวดประจำเดือน
ขับน้ำคาวปลาใช้แทนการอยู่ไฟ
บรรเทาปัญหามดลุกย่อน
บรรเทาอาการปวดน่องมดลูก
บรรเทาปัญหากระบังลมตก และปวดหลัง
บรรเทาปัญหามดลูกต่ำ มดลูกโต
ขับสารพิษออกจากร่ายกาย
บรรเทาปัญหาตกขาว มีกลิ่น คัน มีสีขุ่นข้น
ปรับสมดุลอารมณืทางเพศให้เป็นปกติ
บรรเทาอาการมดลูกแห้ง ผู้ที่มีบุตรยาก
ช่วยให้ร่ายกายกระชับทั้งภายในและภายนอก
บรรเทาอาการสตรีวัยทอง ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส
บรรเทาฝ้าเลือด ฝ้าแดด ฝ้าลม ฝ้าจากยาคุม
บรรเทาสิวหัวหนอง อักเสบ ลอความดันโลหิต
ลดน้ำตาลในเลือด บำรุงโลหิต บำรุงร่างกาย
ขับเลือด เลือดดำ ป้องกันมะเร็งปากมดลูก
ส่วนประกอบที่สำคัญ
โสม เป็น สมุนไพรที่จัดว่าเป็นราชาแห่งสมุนไพร ใช้รักษาโรคมานานกว่า 2,000 ปี โสม นิยมใช้ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันโดยประเทศทางตะวันออกเชื่อว่าเป็นยาครอบ จักรวาล โสมมีชื่อเรียกหลายอย่าง เช่น โสมจัน โสมญี่ปุ่น โสมเกาหลี โสมอเมริกา ผักกะโสม โสมไทย โสมดอกแดง และโสมที่นิยมใช้กันมาพันปี คือ โสมเกาหลี หรือโสมอเมริกา ซึ่งเชื่อว่ามีสรรพคุณทางยาอย่างแท้จริง คำว่า Gingseng มาจากภาษาจีนว่า เรนเซ็น (Ren Shen) แปลว่า โสมคน เนื่องจากมีรากอ้วนคล้ายลำตัว มีกิ่งรากแตกแขนงคล้ายแขนขาของคน เป็นพืชที่โตช้าปลูกยาก แต่ให้คุณค่ามหาศาล โสมที่เราคุ้นเคยคือโสมเกาหลี หรือโสมคน โสมได้รับการจัดเข้าเป็นพืชตระกูล Panax ginseng CA Meyer โดยนักพฤกษาศาสตร์ชาวรัสเซียชื่อว่า CA Meyer ในปี 2385 คำว่า Panax มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกแปลว่า "รักษาได้สารพัดโรค" ต่อมาในปี 2503 ได้นำมาตรวจสอบอย่างเป็นระบบโดยบริษัทฟาร์มาตอน เอสเอ จำกัด ในเมืองลูกาโน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อได้ศึกษาคุณสมบัติทางเภสัชวิทยา พิษวิทยา และศึกษาวิจัยโดยนำมาใช้กับคนไข้ พบว่าสารประกอบสำคัญในรากโสมคือจินซีโนไซด์ (ginsenosides) ช่วยให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง โสมเป็นรากของพืชทำให้แห้งอยู่ในตระกูล Araliaceae ในปัจจุบันมีการเพาะปลูกโสมกันทั่วไปทั้งในประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย อินเดีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา โสมมีอยู่ด้วยกันหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์จะมีสรรพคุณแตกต่างกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิอากาศและท้องถิ่น ที่ทำการเพาะปลูก โสมที่มีแหล่งกำเนิดจากเอเซียเรียกว่า Asian ginseng โสมจากประเทศอเมริกาเรียกว่า American ginseng (Panax quinquefolius L.) ให้ผลการรักษาน้อยกว่าโสมจากเอเซีย อีกชนิดหนึ่งคือ Siberian ginseng ส่วนประกอบจะไม่เหมือนสองชนิดแรก โดยให้ผลการรักษาอ่อนสุด โสมไซบีเรียไม่ใช่โสมที่แท้จริงตามสายพันธุ์ของโสม แต่เชื่อว่ามีระบบการทำงานคล้ายโสม โสมเกาหลีมีฤทธิ์อุ่น สรรพคุณเพิ่มเลือดและสมรรถภาพทางเพศ ชาวเกาหลีออกเสียงเรียกว่า "อินซัม" โสมมักเจริญเติบโตในที่ที่มีอากาศหนาวเย็น บริเวณเส้นรุ้งที่ 22-48 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 85-140 องศาตะวันออก ได้แก่ ดินแดนแถบประเทศเกาหลี จีน ญี่ปุ่น ตลอดจนเส้นแวงที่ 70-97 องศาตะวันตก ได้แก่ประเทศสหรัฐอเมริกา พันธุ์ของโสมนั้นมีหลายพันธุ์ ปลูกในหลายประเทศ อาทิ Panex Ginseng เป็นโสมปลูกในเกาหลี Panex quinquefolium ปลูกในอเมริกาเหนือ Panex notoginseng ปลูกมากในจีน Panex trifolius ปลูกมากในแถบอเมริกาตะวันออกเฉียงเหนือ Panex pseudoginseng ปลูกมากในเนปาลและเทือกเขาหิมาลัย Panex japonicus ปลูกมากในญี่ปุ่น
โสมมีทั้งโสมที่ขึ้นอยู่ในป่าตามธรรมชาติ และโสมที่มนุษย์ปลูกขึ้น รากโสมนั้นมีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ ตามตำรายาของสมัยโบราณกล่าวว่า ยิ่งโสมมีลักษณะใกล้เคียงมนุษย์มากเท่าไร ก็แสดงว่าโสมนั้นมีคุณค่ามากและมีราคาแพง โสมป่าจะมีคุณประโยชน์มากกว่าโสมปลูก ชาวบ้านพูดกันว่าโสมป่าที่ขึ้นตามธรรมชาตินั้นมีค่าดังทองคำ ในสมัยโบราณจึงมีการออกป่าเพื่อหาโสมกันมาก ก่อนที่จะออกป่าหาโสมนั้นจะต้องมีการทำพิธีต่างๆ เพื่อให้ร่างกายของพรานโสมมีความบริสุทธิ์ เช่น ชำระล้างร่างกายในธารน้ำเย็นก่อนเข้าป่า ไหว้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้คุ้มครองจากสัตว์ร้ายในป่า และขอให้ได้พบโสมตามที่ต้องการ ในปัจจุบันโสมป่านั้นหายากเต็มที หรืออาจจะสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว ชาวเกาหลีจึงนิยมทำแปลงปลูกโสมเองบริเวณเชิงเขา เวลานั่งรถไปตามชนบทจะเห็นแปลงโสมอยู่มากมาย ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่สวยงามอีกแบบหนึ่ง เกษตรกรจะนำเอาพลาสติกมาขึงแล้วคลุมด้วยหญ้าฟางเป็นหลังคา
โสมเกาหลี : เพิ่มสมรรถภาพการทำงานของร่างกาย
โสมมีคุณสมบัติต่อต้านความเมื่อยล้า ทำให้ร่างกายปลดปล่อยพลังงานมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะทำงานหรือออกกำลังกาย สารพลังงานเอทีพีและกลัยโคเจนที่มีอยู่ในกล้ามเนื้อจะถูกใช้หมดอย่างรวดเร็ว และเกิดกรดแลคติกเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้กล้ามเนื้อเมื่อยล้า สารสกัดจากโสมช่วยให้เซลล์ดูดซึมออกซิเจนเพิ่มขึ้น มีผลทำให้กระบวนการเผาผลาญภายในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ร่างกายปลดปล่อยพลังงานได้มากขึ้น ขณะเดียวกับอัตราการเกิดกรดแลคติกก็จะน้อยลง เนื่องจากได้รับการการสังเคราะห์ให้กลับเป็นกลัยโคเจนใหม่ และมีการสะสมสารเอทีพีรวดเร็วขึ้น อัตราการเกิดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อจึงลดน้อยลงด้วย
สารสกัดจากโสมช่วยปรับอัตราการเต้นของหัวใจให้กลับคืนสู่สภาพปกติรวด เร็วยิ่งขึ้น ร่างกายจึงเหน็ดเหนื่อยช้าลง มีความอดทนต่อการทำงานได้ดีขึ้น
โสมเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคต่าง ๆ มากมายจึงได้รับการพิจารณาให้เป็นสมุนไพรรักษาโรคที่ได้รับความนิยมมากที่ สุดชนิดหนึ่งของโลก ด้วยคุณสมบัติหลายประการ รวมถึงการช่วยให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ตามปกติ และโดยเฉพาะ คุณสมบัติที่โดดเด่น คือ การเพิ่มประสิทธิภาพร่างกายภายใต้สภาวะที่อ่อนเพลีย
โสมมีคุณสมบัติลดความเครียด ช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้ทนต่อภาวะต่างๆ ได้มากขึ้น และยังช่วยลดความเมื่อยล้า โดยกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายสร้างพลังงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น
โสมมีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการสร้างและเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ทำให้นักกีฬามีความทนทานต่อการออกกำลังหนักได้ดีขึ้น และช่วยให้ร่างกายสามารถนำพาออกซิเจนไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โสมเกาหลี : ผลต่อความเครียด
สารสกัดจากโสมมีคุณสมบัติต้านความเครียด โดยฮอร์โมน ACTH จากต่อมใต้สมองจะเป็นตัวควบคุมการหลั่งของฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันและต่อต้านความเครียด โดยเร่งกระบวนการเมตาบอลิสซึมต่างๆ เพื่อปลดปล่อยพลังงานและสารออกมาต้านความเครียด
ช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจ ให้ทนต่อความกดดันจากภายนอก โสมเร่งขบวนการเผาผลาญอาหารต่างๆ เพื่อปลดปล่อยพลังงานออกมาต่อต้านความเครียด
ลดการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียดจากต่อมหมวกไต
ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบในหญิงวัยหมดประจำเดือน
โสมเกาหลี : ผลต่อสมรรถภาพทางเพศ
เชื่อกันว่าโสมมีฤทธิ์เป็นตัวกระตุ้นกำหนัดทางเพศ แต่การวิจัยค้นความด้วยวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่พิสูจน์ว่าโสมไม่ได้มี ฤทธิ์ต่อฮอร์โมนเพศ หากการบำรุงด้วยโสมทำให้สมรรถภาพร่างกายและจิตใจสมบูรณ์แข็งแรง จึงส่งผลให้สมรรถภาพทางเพศมีความสมบูรณ์ขึ้นไปด้วย
เสริมประสิทธิภาพทางเพศในชาย มีงานวิจัยในผู้ป่วยที่มีปัญหาองคชาติไม่แข็งตัว ( Erectile dysfunction ) 45 รายโดยรับประทานโสมเกาหลี ปริมาณ 900 ม.ก. 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลาสองเดือน พบว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในการประเมินอย่างละเอียดทุกด้าน โสมจึงช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย
รักษาโรคสมรรถภาพทางเพศเสื่อม ผลต่อสมรรถภาพทางเพศ ในสมัยโบราณเชื่อกันว่าโสมเป็นตัวกระตุ้นกำหนัดทางเพศ แต่การวิจัยทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่า โสมไม่ได้ทำให้ฮอร์โมนทางเพศเปลี่ยนแปลงเลย การที่โสมช่วยให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น เป็นผลจากคุณสมบัติที่ทำให้สุขภาพจิต และสมรรถภาพทางร่างกายดีขึ้น
ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ
โสมเกาหลี : ผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
สารสกัดจากโสมทำให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินออกมาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดอาการชาตามนิ้วมือและปลายเท้า การเกิดแผลเน่าเปื่อย นอกจากนี้สารจินซีโนไซด์ Rb1 และ Re ยังมีฤทธิ์คล้ายอินซูลิน ช่วยลดขนาดการใช้อินซูลินในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานได้
สารไบโอแอกทีฟในโสมช่วยรักษาเบาหวาน
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ เสริมฤทธิ์ฮอร์โมนอินซูลินในการกำจัดน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย
โสมเกาหลี : ผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน
โสมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ผลการทดลองพบว่าสารสกัดโสมช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้น
ปฏิกริยาตอบสนองของเม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ ดีขึ้น
กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการสร้างสารอินเทอเฟียรอน ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านไวรัส และกระตุ้นการสร้างอินเทอลิวคิน-1
อัตราการทำลายจุลินทรีย์หรืออนุภาคแปลกปลอมต่างๆของเซลล์เม็ดเลือดขาว เพิ่มขึ้น จำนวนเม็ดเลือดขาวเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลทำให้ร่างกายสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อโรค ที่มีสาเหตุจากเชื้อจุลินทรีย์ เชื้อไวรัส เชื้อรา และสารเคมีต่างๆ ตลอดจนการต่อต้านโรคภูมิแพ้ หรือโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันบกพร่องชนิดต่างๆ
โสมเกาหลี : ช่วยเร่งฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วย
จากการศึกษาวิจัยและผลทางคลีนิกพบว่าโสมสามารถต่อต้านโรคและอันตราย จากรังสีรวมถึงสารพิษต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อโรคแทรกซ้อนบางชนิด ช่วยร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดง และเพิ่มสมรรถภาพในการต้านความเครียดซึ่งส่งผลให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น จึงทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวหายเป็นปกติจากอาการป่วยได้เร็วขึ้น
ช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น ช่วยเจริญอาหาร
ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญอาหารได้ดีขึ้น
โสมเกาหลี : ผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง
ในขนาดต่ำจะออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลาง ช่วยให้ตื่นไม่ง่วง ในขนาดสูงออกฤทธิ์กดประสาท ทำให้หลับสนิท ใช้รักษาโรคนอนไม่หลับ สารจินซีโนไซด์ Rg1 จากโสมหรือในสารสกัดโสมจะกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางให้ตื่นตัว แต่จะเป็นการออกฤทธิ์ที่แตกต่างจากยากระตุ้นประสาทจำพวกแอมเฟตามีนหรือโคเคน จึงไม่ทำให้กระทบกระเทือนต่อการนอนหลับตามปกติ ส่วนจินซีโนไซด์ Rb และ Rc จะออกฤทธิ์ระงับประสาท ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด สารสกัดจากโสมจึงมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยเป็นทั้งตัวช่วยให้ประสาทตื่นตัวและระงับผ่อนคลายประสาท
ช่วยการเรียนรู้และความจำ ใช้รักษาโรคความจำเสื่อม
ช่วยลดความเครียด ช่วยลดภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และความเหนื่อยล้าของสมอง
โสมมีผลต่อการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นและการได้ยิน
โสมเกาหลี : ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระในโสมช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ชะลอความชราภาพของเซลล์และอวัยวะต่างๆ
กระบวนการเผาผลาญไขมันของร่างกายเพื่อให้เกิดพลังงาน เป็นสาเหตุทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่สลายตัวจากออกซิเจน อนุมูลอิสระจะทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างให้เสื่อมสลายลงตามกระบวนการของ ความชรา โสมและสารสกัดมาตรฐานโสม สามารถทำลายอนุมูลอิสระของออกซิเจนช่วยให้เนื่อเยื่อเสื่อมสภาพช้าลง ประกอบกับคุณสมบัติเป็นตัวปรับสภาพ "adaptogenic agent ของโสม ทำให้ร่างกายและจิตใจมีความทนทานต่อความกดดัน ส่งผลในการชะลอกระบวนการเสื่อมชราให้ช้าลง และทำให้ร่างกายคงความสดใสเยาว์วัยอยู่ต่อไปได้เนิ่นนานขึ้น
ช่วยลดอาการผิวหนังแห้งและเหี่ยวย่น ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น
โสมเกาหลี : ผลต่อระบบไหลเวียนเลือดและระบบหายใจ
รักษาความดันโลหิตสูง ลดภาวะเส้นเลือดแข็งตัว และลดการจับตัวของเกล็ดเลือดในหลอดเลือด
โสมมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงหัวใจโดยออกฤทธิ์คล้ายกับยา digoxin
ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด ป้องกันภาวะเส้นเลือดอุดตัน
กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกติ ชีพจรเต้นเป็นปกติ
โสมมีสรรพคุณช่วยในเรื่องโรคปอดเรื้อรัง ชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยมาก
โสมเกาหลี : ผลต่อมะเร็ง
ป้องกันการกลายพันธุ์ของเซลล์ปกติไปเป็นเซลล์มะเร็ง หรือเนื้องอก โดยเฉพาะบริเวณกระเพาะอาหารและรังไข่ สารไบโอแอกทีฟในโสมช่วยยับยั้งการเจริญของเนื้องอก
การรับประทานโสมเกาหลีเป็นเวลานานสามารถลดอุบัติการณ์ของมะเร็งตับลงได้ ด้วยฤทธิ์ต้านสารอัลฟาท็อกซินบีและยูรีเทน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในโรคมะเร็งตับ แต่ก็ยังไม่สามารถลดอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งตับจากการดื่มสุราหรือสาเหตุ อื่นได้
โสมช่วยลดอุบัติการณ์หรือโอกาสเป็นมะเร็งบางชนิด ได้แก่ มะเร็งริมฝีปาก ช่องปากและคอ มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งรังไข่ และมะเร็งลำไส้ใหญ่
ลดอัตราการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
ลดอาการข้างเคียงจากการฉายรังสี
โสมเกาหลี : ผลข้างเคียงของโสม
1. ในบางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ กระวนกระวาย นอนไม่หลับ ท้องเดิน ผื่นคันและบวม ประจำเดือนขาด หรือเจ็บเต้านม หากเกิดอาการดังกล่าวควรหยุดรับประทานให้ปรึกษาแพทย์ทันที
2. ผู้ที่รับประทานโสมมานานและปริมาณมากอาจจะเกิดกลุ่มอาการที่ประกอบไปด้วย ความดันโลหิตสูง นอนไม่หลับ มีผื่นและท้องร่วงที่เรียกว่า ginseng abuse syndrome
3. โสมแดงอาจจะเสริมฤทธิ์กับกาแฟ หรือสารที่กระตุ้น
4. แม่ที่รับประทานโสมขณะตั้งครรภ์ เมื่อคลอดลูกอาจจะมีขนมาก
5. โสมมีฮอร์โมนซึ่งทำให้เกิดอาการคัดเต้านม
6. มีรายงานการตรวจพบยาฆ่าแมลงบางชนิดในโสมที่วางจำหน่าย และบางตัวอย่างพบว่ามีปริมาณโสมน้อยกว่าที่ระบุในฉลาก
โสมเกาหลี : พิษวิทยา
การวิจัยทางพิษวิทยาทั้งในเชิงเฉียบพลันและเรื้อรัง ยังไม่ปรากฏรายงานเกี่ยวกับผลข้างเคียงหรือพิษที่เกิดจากการใช้สารสกัด มาตรฐานโสม แม้จะมีการใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ถือว่าการรับประทานโสมหรือสารสกัดมาตรฐาน มีความปลอดภัยสูง
ยาที่ไม่ควรทานร่วมกับโสม ได้แก่ ยาต้านการแข็งตัวของเลือดชื่อ warfarin ยากระตุ้นหัวใจชื่อ digoxin ยาต้านซึมเศร้าชื่อ phenelzine และสุรา อาจมีการรบกวนประจำเดือน อาการเจ็บหน้าอกขณะมีประจำเดือน
ไม่ควรทานโสมกับยาแอสไพริน รวมถึงไม่ควรทานอย่างยิ่งในสตรีตั้งครรภ์และเด็ก คนที่ตับอักเสบพบเอนไซม์ของตับสูงแล้ว หรือตับอักเสบจนตัวเหลืองตาเหลือง หรือตับโต ไม่ควรทานโสม
โสมเป็นของร้อน บางคนทานแล้วก็หงุดหงิด จึงมีคำแนะนำให้ทานร่วมกับใบบัวบก ซึ่งเป็นของเย็น ผู้สูงอายุหลายคนทานโสมกับใบบัวบกเป็นประจำ
โสมเกาหลี : รากโสม เป็นส่วนของต้นพืชโสมที่นำมาใช้ในการบำบัดรักษา รากโสมมีรูปร่างคล้ายคน มีส่วนหัว ลำตัว แขน และขา จึงมีชื่อเรียกในภาษาไทยว่า "โสมคน" หรือที่ชาวจีนเรียกว่า "ยิ่นเซียม" ผลิตภัณฑ์จากรากโสมอาจแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ
โสมชนิดสีขาว ได้มาจากรากโสมที่เก็บเกี่ยวมาสดๆ ล้างทำความสะอาดและตากแดดให้แห้ง รากโสมที่แห้งแล้วจะมีสีเหลืองปนขาว
โสมชนิดสีแดง ทำจากรากชนิดเดียวกับชนิดโสมสีขาว แต่ต่างกันที่วิธีการผลิต คือจะนำเอารากโสมสดที่ล้างทำความสะอาดแล้วมาทำการฆ่าเชื้อโรค โดยการนึ่งด้วยไอน้ำที่อุณหภูมิ 120130 องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน 2-3 ชั่วโมง ทำให้รากโสมเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลปนแดง จากนั้นจึงนำไปตากแดดให้แห้งสนิท
โสมเกาหลี : สารออกฤทธิ์
สารสำคัญในโสมที่พบในรากเป็นสาร saponin ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มจินซีโนไซด์ ginsenoside กลุ่ม panaxoside และกลุ่ม chikusetsusaponin ส่วนประกอบที่สำคัญของโสมคือสารจินซีโนไซด์ ซึ่งจะมีในโสมประมาณร้อยละ 1-2 โดยน้ำหนัก ทั้งนี้ขึ้นกับชนิดของโสม แหล่งที่ปลูก รวมทั้งกระบวนการผลิต พบว่าโสมที่ขายในท้องตลาดบางชนิดแทบจะไม่มีสารจินซีโนไซด์เลย เวลาหาซื้อโสมมาบำรุงร่างกายจึงควรดูส่วนประกอบของโสมคือจินซีโนไซด์เป็น สำคัญ
รากโสมจะได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิผลในการบำบัดรักษา โดยไม่มีข้อโต้แย้งเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลของโสมในด้านการบำรุงรักษาสุขภาพ ในปัจจุบันความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ทำให้สามารถววิเคราะห์และพิสูจน์โสมใน เชิงวิทยาการและเทคโนโลยีได้ เมื่อมีผลการวิเคราะห์และพิสูจน์ ทำให้โสมได้รับความนิยมแพร่หลายและเชื่อถือกันมากยิ่งขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการป้องกันและบำบัดรักษาโรคของโสม โดยไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายหรือมีความเสี่ยงต่อการเสพติดเหมือนสาร เคมีสังเคราะห์อื่นๆ
เมื่อนำเอารากโสมและสารสกัดจากรากโสมมาทำการวิเคราะห์และตรวจพิสุจน์ พบว่าสารสำคัญที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาเป็นสารจำพวก interpene saponins ชนิดต่างๆ ที่มีชื่อเรียกว่าจินซีโนไซด์ Ginsenosides" การวิเคราะห์และตรวจพิสูจน์ทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น High Performance Liquid Chromatography (HPLC), Mass Spectrometry (MS), Nuclear Magnetic Resonance Spectrometry (NMR) เป็นต้น ช่วยให้สามารถแยกและจำแนกสารจินซีโนไซด์จากรากโสมและสารสกัดจากรากโสมได้ อย่างน้อย 22 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาแตกต่างกัน เมื่อนำจินซีโนไซด์ทั้งหมดมาใช้รวมกัน จะมีฤทธิ์เป็นตัวปรับสภาพร่างกายให้มีความสมดุลย์ตามธรรมชาติตามที่ร่างกาย ต้องการ เรียกว่า adaptogenic agent
สารจินซีโนไซด์ชนิดต่างๆที่พบในปัจจุบันนั้น มีสารสำคัญหลักอยู่ด้วยกัน 6 ชนิด คือ Rb1, Rb2, Rc, Rd, Re และ Rg ส่วนที่เหลือเป็นสารฤทธิ์รองคือ Rb3, Ra, Ra1, Ra3, RO, Rg1,Rg2, Rg3, Rh1นอกจากสารจินซีโนไซด์ชนิดต่างๆ แล้วยังพบว่ารากโสมมีสารประกอบที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากกว่าสองร้อย ชนิด ที่สำคัญได้แก่ สเตอรอล น้ำมันหอมระเหย แป้ง น้ำตาล วิตามินชนิดต่างๆ กรดอะมิโน และเป็ปไทด์
สารจินซีโนไซด์เป็นตัวกำหนดคุณค่าของโสม ในโสมต่างพันธุ์หรือแม้แต่ในโสมพันธุ์เดียวกัน แต่ปลูกต่างถิ่น และรากโสมมีอายุไม่เท่ากันจะมีส่วนประกอบของจินซีโนไซด์ต่างกัน และปริมาณจินซีโนไซด์ในแต่ละชนิดก็ไม่เท่ากัน
จินซีโนไซด์ที่สะสมอยู่ต่ามส่วนต่างๆ ของรากโสมมีจำนวนและปริมาณไม่เท่ากัน ในส่วนรากโสมใหญ่หรือส่วนลำตัว มีจินซีโนไซด์รวมทั้งหมดเพียง 1.5% ขณะที่ส่วนรากแขนงและรากฝอย หรือส่วนที่เป็นแขนขา มีอยู่ 3-4% และส่วนหัวมีมากถึง 5-9% คุณค่าของโสมจึงไม่ได้อยู่ที่รูปร่างลักษณะของรากโสม แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนและปริมาณของจินซีโนไซด์ที่มีอยู่ในรากโสม โดยสรรพคุณจะขึ้นอยู่กับจำนวนปริมาณจินซีโนไซด์ ความครบถ้วนของจินซีโนไซด์แต่ละชนิดในอัตราส่วนที่เหมาะสม
โสมเกาหลี : ที่เป็นรูปแบบมาตรฐาน
โสมที่เพาะปลูกตามธรรมชาติจะมีจำนวนจินซีโนไซด์ไม่เท่ากัน และมีปริมาณของจินซีโนไซด์แต่ละชนิดในอัตราส่วนไม่แน่นอน โดยอาจมีการขาดจินซีโนไซด์บางชนิด หรืออาจมีอยู่บ้างในปริมาณที่ไม่เหมาะสม จนไม่สามารถออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาได้ครบถ้วน ปัจจุบันสามารถแยกสารประกอบสำคัญของโสมได้จนครบถ้วนและมากขึ้น การทดลองนำจินซีโนไซด์ทั้ง 22 ชนิดมารวมกันในปริมาณและอัตราส่วนต่างๆกันเพื่อทำการศึกษาและวิจัยเพื่อหา อัตราส่วนที่เหมาะสมและคงที่ เพื่อให้ได้คุณค่าและประโยชน์แก่ร่างกายมากที่สุด ตลอดจนทำการทดสอบสารออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและทดสอบความเป็นพิษ จนปรากฏว่าใช้ได้ผล มีประสิทธิภาพและปลอดภัย จึงได้กำหนดเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งกรรมวิธีนี้เรียกว่าการจัดทำเป็นมาตรฐาน และเรียกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยกระบวนการนี้ว่า สารสกัดมาตรฐานโสม
สรรพคุณว่านชักมดลูก
![](http://upic.me/i/lr/herb_curcuma_xanthorrhiza.jpg)
สรรพคุณว่านชักมดลูก
ตามบันทึกในตำรับยาแผนโบราณได้กล่าวไว้ว่า "ว่านชักมดลูก" มีคุณประโยชน์ และให้ความปลอดภัยในการใช้สำหรับผู้หญิงมากกว่ากวาวเครือ เพราะว่านชักมดลูกมีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อกระชับ เสริมหน้าอก ทำให้ผิวพรรณขาวนวล ลบรอยเหี่ยวย่นได้ แต่ ว่านชักมดลูก มีคุณสมบัติที่พิเศษ คือ ช่วยรักษามดลูกที่ทรุดตัว หรือเรียกว่ามดลูกต่ำให้เข้าที่ นอกจากนี้ยังช่วยกระชับช่องคลอด กระชับหน้าท้องที่หย่อนยานอันเกิดจากการคลอดบุตร ทำให้หน้าท้องดึงเรียบเหมือนสาวๆ และยังช่วยให้ผู้หญิงที่อารมณ์ทางเพศหายไป กลับมามีเหมือนเดิม ว่านชักมดลูก ยังช่วยให้ผู้หญิงที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว จิตใจห่อเหี่ยว อ่อนไหวง่าย โกรธง่ายหายไป ทำให้คึกคักเข้มแข็งขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันมะเร็งปากช่องคลอด หรือภายในมดลูก ช่วยรักษาซีสต์ และเนื้องอกภายในช่องคลอดให้ฝ่อตัว หรือเล็กลงด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการปวดประจำเดือนอย่างได้ผลชะงัก
แต่ทั้งนี้การใช้ ว่านชักมดลูก เพียงอย่างเดียวจะให้สรรพคุณได้ไม่มากเท่าที่ควร ตามตำราโบราณได้ระบุถึงการนำสมุนไพรมาใช้งานว่าต้องปรุงขึ้นตามสูตรยานั้นๆ และจำเป็นต้องอาศัยสมุนไพรอีกหลายชนิดผสมเข้าไป จึงจะช่วยให้ออกฤทธิ์ และได้ผลสูงสุด ซึ่งสรรพคุณของว่านชักมดลูก ที่มีบันทึกตามตำรับยาแผนโบราณเมื่อหลายร้อยปีก่อน ได้ระบุถึงผลการนำมาบำบัดอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายไว้ว่า
ตำรายาไทย :
เหง้า รักษาเลือดออกจากมดลูกหลังคลอด รักษามดลูกอักเสบ แก้ตับอักเสบ แก้ปวดท้อง ขับน้ำดี รักษาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ แก้อาการปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน ตกขาว ขับน้ำคาวปลา แก้ธาตุพิการอาหารไม่ย่อย แก้ริดสีดวงทวาร
หัวตำดองด้วยสุรารับประทานครั้งละไม่เกิน 2 ช้อนโต๊ะ สำหรับคนคลอดบุตรใหม่ ๆ แก้เจ็บปวดมดลูก ทำให้มดลูกเข้าอู่หรือเข้าที่ ไม่อักเสบ ในชายที่เป็นไส้เลื่อน หรือกระษัยกล่อนลงฝักปวดเสียวลูกอัณฑะ อัณฑะแข็งเป็นเส้น เจ็บปวด ใช้หัวฝนกับสุราทาบริเวณที่เจ็บปวด เป็นเวลา 3-4 วัน
1. ว่านชักมดลูกมีความปลอดภัยมากกว่า กวาวเครือขาว และยังช่วยให้ทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น
2. ว่านชักมดลูก ช่วยรักษาอาการมดลูกทรุดตัว หรือมดลูกต่ำไม่เข้าที่
3. มีส่วนช่วยเสริมหรือขยายหน้าอก
4. ว่านชักมดลูก ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ขาวนวล และมีเลือดฝาด
5. มีส่วนช่วยลดเลือนรอยเหี่ยวย่น ฝ้า และรอยดำ
6. ว่านชักมดลูก ช่วยแก้อารมณ์แปรปรวนต่างๆของสตรี เช่น อารมณ์ฉุนเฉียว จิตใจห่อเหี่ยว โกรธง่าย อ่อนไหวง่าย ให้หายไป
7. ว่านชักมดลูกช่วยกระชับหน้าท้องที่หย่อนคล้อยหลังคลอดบุตร
8. ว่านชักมดลูกช่วยกระชับช่องคลอดภายในของสตรี ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น
9. ว่านชักมดลูกช่วยป้องกันโรคมะเร็งปากช่องคลอดหรือในมดลูก
10. ว่านชักมดลูกช่วยรักษาซีสต์หรือเนื้องอกภายในช่องคลอดให้ฝ่อตัวลง
11. ว่านชักมดลูกมีสรรพคุณช่วยดับกลิ่นภายในช่องคลอดของสตรีให้ลดลง หรือหายไป
12. ว่านชักมดลูกช่วยเพิ่มน้ำหล่อลื่นในช่องคลอดของสตรี
13. ว่านชักมดลูกช่วยรักษาอาการหน่วงเสียวของมดลูก หรืออาการเจ็บท้องน้อยเป็นประจำให้ดีขึ้น
14. ว่านชักมดลูกช่วยแก้ปัญหาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติได้
15. ว่านชักมดลูกช่วยรักษาอาการปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน หรืออาการปวดท้องอย่างรุนแรงให้มีอาการดีขึ้น
8
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 08:37:23 pm »
9
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 04:02:45 am »
หน้า: [1]