แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - politede

หน้า: [1]
1
สินค้าจัดส่ง Kerry Express ฟรีทุกออเดอร์ สินค้าสวย ลูกค้ารีวิวเยอะ ไม่ผิดหวัง สินค้าเกรด A ทุกชิ้น มีสินค้าพร้อมส่ง ระยะเวลาจัดส่ง2-3 วัน ได้ของไว ได้ของชัวร์ รับบริการเก็บเงินปลายทาง






สามารถดูลายระเอียดสินค้าและเลือกลายได้ที่ http://carcute.lnwshop.com/

หรือสอบถามได้ทางLine : inumkao

https://www.facebook.com/ผ้าหุ้มเบาะรถยนต์-615938248466008

2
สติ๊กเกอร์ติดรถ แต่งรถ ลายน่ารัก ติดเองได้ง่ายๆ



สนใจสอบถามได้ทางLine : 0851116094

3
[size="22"]
จำหน่ายเมล็ดเจียตรา VG healthyfoods อาหารออแกนิค เพื่อสุขภาพ เกรด พรีเมรี่ยม สินค้ามาจากแหล่ง ประเทศ Mexico


**สินค้าพร้อมส่ง**


ระยะเวลาจัดส่งสินค้า EMS 1-2 วัน

ช่องทางการติดต่อสั่งซื้อแบบเร่งด่วน

Line id : Vghealthyfoods

TEL:   062-459-6163

(สอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง)

 http://vghealthyfood.lnwshop.com/

[/b]

เมล็ดเชียคืออะไร ? ทำไมต้องรับประทาน
[/b]

 
   

เมล็ดเจียหรือเมล็ดเชีย คือ
[/b]

     หลายคนคนอาจเรียกชื่อธัญพืชนี้ว่าเมล็ดเจียหรือเมล็ดเชีย ซึ่งอาหารธัญพืช Superfood อาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากว่าอัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งไฟเบอร์ โอเมก้า3 โอเมก้า6 แคลเซียม และสารต้านอนุมูลอสระ ซึ่งเมล็ดเชียเมื่ออยู่ใยของเหลวจะทำการพองตัวได้ถึง12 เท่า โดยชาวทวีปอเมริกา มักจะทานเมล็ดเชียผสมกับนมหรือชา เพื่อดื่ม เพราะช่วยเพิ่มคุณค่าทางสารอาหาร และยังช่วยต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย เมล็ดเชียมีไฟเบอร์สูง และแคลอรี่ต่ำมีส่วนช่วยในการ[^_^]ได้ดี

 


คุณค่าทางโภชนาการ
[/b]

เมล็ดเชียจัดเป็นธัญพืชที่ทรงคุณค่ามากในเรื่องสารอาหาร
เมล็ดเชียมีโอเมก้า3 มากว่าปลาแซลมอน ซึ่งช่วยบำรุงและพัฒนาสมอง
เมล็ดเชียมีไฟเบอร์สูง และแคลอรี่ต่ำมีส่วนช่วยในการ[^_^]ได้ดี ต้านโรคเบาหวาน
เมล็ดเชียช่วยบำรุงกระดูกไขข้อ เนื่องจากมีปริมาณแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่สูง
เมล็ดเชียเป็นอาหารที่ได้รับการยอมรับจากอเมริกาและทั่วโลกว่าเป็นอาหารซุปเปอร์ฟูด(superfood) เนื่องจากมีคุณค่าทางสารอาหารมากมาย
การรับประทานเมล็ดเชีย มีคุณประโยชน์มากกว่าโทษ
 

ทำไมต้องเลือกเมล็ดเจียตรา VG
[/b]

 

 เราคัดสรรสินค้าคุณภาพ สะอาด ได้มาตราฐาน


วิธีการรับประทาน เมล็ดเชีย
[/b]

 

ในหนึ่งวันเราควรบริโภคเมล็ดเชียกันในปริมาณเท่าไหร่ หลายท่านที่กำลังรับประทานเมล็ดเจียอาจจะยังไม่ทราบเราลองไปดูข้อมูลกันค่ะ

ผู้ที่ต้องการบริโภคเมล็ดเจียเพื่อสุขภาพในการบำรุงหัวใจหรือระบบหลอดเลือด ควรเลือกรับประทานแบบบดละเอียดทุกวันโดยเริ่มจากปริมาณน้อย
สำหรับผู้สูงวัยหรือวัยทำงานควรบริโภคปริมาณ15-20กรีมต่อวัน
เด็กโตอายุระหว่า10-17ขึ้นไปควรบริโภคปริมาร10 กรัมต่อวัน
เด็กอายุต่ำกว่า10ควรบริโภคใรปริมาณน้อยปริมาณไม่เกิน10กรัมต่อวัน
ประโยชน์ด้านโภชนการของเมล็ดเจียต่อ100กรัม จะให้พลังงานประมาณ 486 แคลอรี่ ซึ่งจะแบ่งเป็น

คาร์โบไฮเดรต 42.12 กรัม

เส้นใยอาหาร 34.4 กรัม

ไขมัน 30.74 กรัม

โปรตีน 16.54 กรัม

วิตามิน A B1 ,B2,B3, C,E และ แร่ธาตุต่างๆ

 



เมล็ดเจีย-เมล็ดเชียตรา VG ซื้อได้ที่ไหนบ้าง
[/b]
 


เมล็ดเจียตราVG สามารถสั่งซื้อได้ที่หน้าเวปไซต์ ไลน์ หรือทางโทรศัพท์ (จัดส่งรวดเร็ว)

ร้านกาแฟ & เบเกอร์รี่ ย่านคลองสามวา มีนบุรี อยู่ใกล้สาขาไปรษณีย์ไทย เยื้องซาฟารีเวิร์ด

ผลผึ้งหลวง โครงการหลวง ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต จังหวัดปทุมธานี

ร้านตัวแทนใกล้โรงพยาบาลราชบุรี ท่าชุมพล (ร้านอยู่ฝั่งเดียวกับโรงพยาบาล เยื้องตลาด)

ร้านจำหน่ายเครื่องสำอางค์[^_^]และสมุนไพรไทย ย่านคลองสอง ธัญบุรี (ร้านอยู่ใกล้ๆร้านขายยาศิริเวชและเตียเจริญ)


ราคาจำหน่ายเมล็ดเจีย

1 กิโลกรัม 1100 บาท

450 กรัม ราคา 590 บาท

230 กรัม ราคา 320 บาท

เริ่มต้นดูแลสุขภาพคุณตั้งแต่วันนี้ด้วยการบริโภคเมล็ดเชีย
[/size]

4
เมล็ดเจียทานแล้วช่วยอะไร?


วันนี้ขอแนะนำเรื่องคุณค่าสารอาหารที่คุณจะได้จากเมล็ดเจีย หลายคนที่กำลังรับประทานเมล็ดเจียอาจจะกำลังสงสัยว่าเมล็ดเจียรับประทานเข้าไปแล้วจะมีประโยชน์กับร่างกายอย่างไรบ้าง วันนี้ทางทีม VG ไม่รอช้าที่จะนำคุณประโยชน์ของเมล็ดเจียมาบอกบอกให้ทุกคนทราบกัน

 
จากข้อมูลการวิจัยของสหรัฐอเมริกานั้นเมล็ดเจียถูกขนานนามในเรื่องของสุดยอดแห่งอาหารหรือ Superfood นั่นเอง เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น จากการวิจัยได้มีการค้นพบว่าอาหารธัญพืชเมล็ดเจียนั้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะอุดมไปด้วย ไฟเบอร์ และโอเมก้า3-6 อีกทั้งแคลเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระที่มากกว่าผลเบอร์รี่ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของคำว่าซุปเปอร์ฟูด เพราะมีสารอาหารแร่ธาตุสูงกว่าธัญพืชทั่วไป เมล็ดจียเป็นอาหารของชาวทวีปอเมริกาใต้ เพาะปลูกกันมากในหลายประเทศเช่น เม็กซิโก อเมริกา โบลิเวีย ชิลี เป็นต้น

ที่นี้เรามาดูสรรพคุณหลักๆของเมล็ดเจียกัน ถ้าเรารับประทานธัญพืชชนิดนี้เข้าไปแล้วจะมีประโยชน์กับเราแค่ไหน เมล็ดเจียนั้นมีสรรพคุณในเรื่องของการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย

 

ลดการอักเสบของบาดแผลสด เปื่อยให้หายเร็วยิ่งขึ้น

                ในสารอาหารที่มีอยู่ในตัวเมล็ดเจียที่เราเรียกว่ากรดไขมันโอเมก้า 3นี้แหละค่ะ  ที่จะช่วยให้เราสมานบาดแผลให้หายวันหายคืน ยิ่งถ้าเป็นแผลอักเสบจะช่วยบรรเทาอาการบวม หรืออาการได้ดีเลยทีเดียว

ปรับสมดุลระบบการเต้นของหัวใจ

                โรคหัวใจสมัยนี้ถือว่าเป็นโรคที่อันตรายมาเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียวค่ะ อัตราหรือแนวโน้มของการเต้นของหัวใจที่ปกติ ส่วนใหญ่แล้วก็มาจากการรับประทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเข้าไปมากมาก จนเกิดการสะสมของร่างกายขึ้นนั่นเอง ดังนั้นเราควรเริ่มที่จะดูแลหัวใจของเราตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารหัวใจด้วยการออกกำลังกายหรืออาหารที่มีสรรพคุณช่วยในการบำรุงหัวใจอาหารที่ดี ทำให้มีสุขภาพร่างกายที่ดีที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ

 

บำรุงสมองและและระบบความจำ

                โอเมก้าที่มีอยู่ในเมล็ดเจียนั้นเป็นสารอาหารที่สำคัญมากอย่างหนึ่งที่มีสารอาหารที่ช่วยพัฒนาสมองลดความตึงเครียด และช่วยในเรื่องของความจำ เมื่ออายุมากขึ้นความจำนั้นเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งเข้าสู่ในวัยทำงานและมีการใช้สมองในเรื่องงานมากยิ่งขึ้น คิดมากขึ้น หากไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอจะทำให้เราคิดช้าลง เป็นเพราะเราใช้สมองมากเกินไปจนเกิดอาการล้า และได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ดังนั้นอาหารที่จะช่วยบำรุงสมองเป็นสิ่งจำเป็นที่มองข้ามไม่ได้เลยหล่ะค่ะ

 

เสริมสร้างกระดูก ไขข้อ

                ในขณะเป็นวัยรุ่นเราอาจจะไม่ได้ใส่ใจสุขภาพมากนัก แต่พออายุมากขึ้นเราจะเริ่มมีพัฒนาการที่ช้าลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกระดูก ไขข้อต่าง เราเริ่มจะมีอาการปวดเมื่อย และกล้ามเนื้ออ่อนล้า ส่วนใหญ่จะพบกับผู้ที่นั่งเป็นเวลานานและไม่ค่อยได้ขยับตัว จะมีอาการไขข้อที่กระดูกส่วนหลังและลำคอ ดังนั้นเราจึงต้องมองหาอาหารที่มีแคลเซียมให้กับร่างกายไม่ว่าจะเป็นนมหรือปลา จะช่วยเสริมสร้างแคลเซียมได้เช่นหรือแม้แต่ธัญพืชต่างๆก็มีแคลเซียม เลือกที่เหมาะกับเราและสามารถรับประทานได้โดยไม่ฝืนตัวเอง แต่ต้องอย่าลืมว่าร่างกายคนเราไม่ควรขาดแคลเซียมค่ะ

 

ช่วยระบบขับถ่าย

                หลายคนเลือกรับประทานเมล็ดเจียเพราะสามารถช่วย[^_^]ได้ จริงอยู่ที่เมล็ดเจียที่สารอาหารจำพวกไฟเบอร์อยู่มาก และพองตัวเมื่ออยู่ในของเหลว และสามารถทำให้คุณอิ่มช่วยขณะหรืออิ่มได้ตลอดวันแต่ก็อย่าลืมว่า อาหารหลักยังไงก็สำคัญที่สุดอยู่ดี หากคุณต้องการรับประทานเพื่อ[^_^]แนะนำว่าควรรับประทานควบคู่กับอาหารหลัก เพื่อให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และยังมีชีวิตวีชา  และควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยไม่ควรรับประทานแบบเพียวๆ ไฟเบอร์ที่มีอยู่ในเมล็ดเจียจะช่วยให้คุณพัฒนาระบบการย่อยการขับถ่าย ไม่ทำให้ไขมันเก่าอุดตันอีกด้วยค่ะ

 

 หวังว่าสรรพคุณเบื้องต้นของเมล็ดเจียนี้จะช่วยเป็นทางเลือกหนึ่งว่าเราควรบริโภคเมล็ดเจียหรือไม่นะค่ะ



ที่มา : http://vghealthyfood.lnwshop.com/article/14

เรียบเรียงโดย : VG healthyfoods

5
วันนี้มาเอาใจเพื่อนๆโดยการหาวิธีการลดเซลลูไลท์มาฝากกันค่ะ แต่ละวิธีเพื่อนๆสามารถหาซื้อได้ง่าย ตามมาดูกันเลย


 1.สาหร่าย

การรับประทานสาหร่ายนั้นนอกจะให้คุณค่ามากมายแล้ว การนำสาหร่ายมาขัดบริเวณผิวก็ยังสามารถช่วยลดเซลลูไลท์ด้วยเช่นกันนะคะ สาหร่ายสามารถหาซื้อได้ตามร้านซุปเปอร์มาเกตทั่วไป ถ้าเป็นแผ่นใหญ่ที่ใส่ในต้มจืดก็ได้เช่นกัน  ตัวสาหร่ายจะสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและล้างสารพิษซึ่งจะช่วยลดปรากฎการณ์ของเซลลูไลท์ได้ดีทีเดียวค่ะ ขัดๆถูๆ แล้วพอกทิ้งไว้สัก20-30นาทีค่ะ  วิธีนี้สามารถประหยัดการใช้สาหร่ายผงที่มีราคาแพง นอกจากนี้ยังสามารถผสมกับน้ำผึ้งหรือมะนาวเพื่อสร้างความชุ่มชื่นให้กับผิวเหมือนที่เค้าใช้กันในร้านสปาทั่วไปด้วยค่ะ อย่างไรก็ตามอย่าลืมทดสอบกับสภาพผิวด้วยนะคะว่าแพ้ของพวกนี้หรือไม่


  2. มะเขือเทศ

จากการวิจัยค้นพบว่ามะเขือเทศนั้นมีสารของไลโคปีนอยู่มากมาย สารจากมะเขือเทศนั้นช่วยต้านอนุมูลอิสระและช่วยปกป้องการสลายตัวของคอลลาเจนใต้ผิวหนังจากรังสียูวีอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้มะเขือเทศยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยกำจัดเซลลูไลท์อีกด้วยค่ะ การรับประทานมะเขือเทศสดๆนั้นจะช่วยให้ลดการเกิดใหม่ของเซลลูไลท์ด้วยนะจ๊ะ



  3. น้ำเปล่า

วิธีที่เบสิคที่สุด ง่ายที่สุด และก็ขาดไม่ได้เลยคือน้ำค่ะ การดื่มน้ำวันละ8-10แก้วทุกวันยังคงเป็นวิธีดีที่สุด และได้ผลที่สุดอยู่นั่นเอง เพราะน้ำนั้นเป็นตัวสำคัญที่จะช่วยชะล้างไขมันเก่าๆที่เกาะอยู่ตามร่างกายของเราให้ออกไปง่ายดาย ดังนั้นเราจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอค่ะ หากใครที่ดื่มน้ำน้อยมากลองพายามๆค่อยเพิ่มการดื่มน้ำให้มากขึ้นโดยอาจจะใส่มะนาวหรือน้ำผึ้งหรือใบมิ้นลงไปให้รู้สึกว่ามีรสชาติมากขึ้นนะคะ รับรองว่าเมื่อเซลลูไลท์หายไป ผิวจะค่อยๆเรียบเนียนขึ้นเลยค่ะ


 4. ชาร้อน

ชานั้นเป็นเครื่องดื่มที่สำคัญของชาวจีน เพราะชาวจีนเชื่อชาการดื่มชานั้นสามารถช่วยชะล้างสิ่งต่างๆที่เรารับประทานลงไปได้ในระหว่างวัน จะสังเกตได้ว่าอาหารจีนหลายอย่างนั้นค่อนข้างมันมาเอามากๆ แต่คนจีนส่วนใหญ่ก็มีสุขภาพที่แข็งแรงอายุยืนและปราศจากโรค เพราะเค้าเชื่อว่าการดื่มชาจะช่วยขจัดกลิ่นและไขมันของอาหารเก่าๆที่เราทานเข้าไปไม่ให้ตกค้างในลำไส้ของเรานั่นเอง เพื่อนก็ลองหาดื่มกันดูค่ะ จิบชาร้อนระหว่างวันช่วยให้ผ่อนคลายได้ดีทีเดียวค่ะ


 5. ใยบวม

วิธีการลดเซลลูไลท์อีกวิธีหนึ่งคือการใช้ใยบวบขัดเบาๆ ในขณะที่อาบน้ำ หากใครที่เป็นสิวที่แผ่นหลังแนะนำให้ใช้ใยบวมถูเบาๆวันละ5 นาที  จะเชื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง และช่วยขจัดเซลลูไลท์ได้ดี และช่วยลดรอยแผลเป็นสิวบริเวณแผ่นหลังอีกด้วยค่ะ


  6. เมล็ดธัญพืช

การเติมพลังวันใหม่ด้วยเมล็ดธัญพืช เมล็ดเฟล็กหรือเมล็ดเจีย การรับประทานธัญพืชทุกวันจะช่วยให้ร่างกายมีสารอาหารและสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ดีทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ร้านสปาหลายสถาบันยังมีการนำเมล็ดธัญพืชต่างๆเช่นเมล็ดเจียมาบดละเอียดเพื่อใช้ในการขัดผิวผสมกับครีมขัดผิวทั่วไป เพราะเชื่อว่านอกจากจะช่วยในการขจัดเซลลูไลท์แล้วยังทำทำให้ผิวได้รับสารอาหารโดยตรง ทำให้ผิวเนียนชุ่มชื้นขึ้นค่ะ ลองหาซื้อมาติดบ้านไว้นะคะประโยชน์มากมายจริงๆ


ที่มา : http://vghealthyfood.lnwshop.com/article/13

เรียบเรียงโดย : VG healthyfoods

6
โดยธรรมชาติร่างกายของคนเรานั้นไม่สามารถที่จะขาดสารอาหารได้ แต่คุณทราบหรือไม่ว่าในวันนึงถึงเรารับประทานอาหารเข้าไปมากแค่ไหน ก็อาจไม่ได้ประกันว่าเราจะได้รับสารอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายคนเราต้องการต่อวัน ดังนั้นในการรับประทานอาหารแต่ละมื้อนั้นควรคำนึงถึงสารอาหารที่ควรได้รับด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ต้องการ[^_^] เพราะในช่วงเวลาที่เรา[^_^]มักจะไม่ได้คำนึงถึงสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ถึงแม้ว่าน้ำหนักคุณอาจจะลดแต่ทว่าร่างกายขาดสารอาหารก็อาจทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย

ดังนั้นวันนี้เราจึงมาแนะนำอาหารสำหรับคนที่กำลังอยู่ในช่วง[^_^]นะคะ เพราะอาหารที่จะแนะนำเหล่านี้ทำให้การ[^_^]ของคุณมีประสิทธิภาพโดยไม่ขาดสารอาหาร

1.เม็ดพุทรา

       จากการวิจัยทางแพทย์ถูกค้นพบออกมาแล้วว่าในพุทรานั้นเต็มไปด้วยวิตามินซี แคลเซียมและธาตุเหล็ก สามารถป้องกันโรคกระดูกพรุนและโรคโลหิตจางได้ ซึ่งโรคเหล่านี้จะพบมากในผู้ที่อยู่ในวัยทอง แถมยังช่วยลดคอเรสเตอรอลได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ เม็ดพุทราจึงเป็นอาหารที่สามารถ[^_^]ได้ดี คนจีนมักนิยมนำพุทรามาตากแห้ง และใส่ในโจ๊กรับประทานตอนเช้า เพราะเชื่อว่าสามารถทำให้อิ่มท้องและมีผลในการรักษาโรคนั่นเอง



2.ไข่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายของเรา คนทุกประเทศซึ่งล้วนนิยมรับประทานกันเป็นอาหารหลักนั้นคือไข่ ไข่จัดเป็นอาหารที่มีโปรตีนต่อร่างกาย เราสามารถรับประทานไข่ได้ทุกวัน แต่ไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะไข่มีคอลเลสเตอรอลที่ค่อนข้างสูง แต่อย่างไรก็ตามไข่ยังจัดอยู่หมู่ของอาหาร[^_^]ด้วยนะ เพราะฉนั้นผู้ที่กำลังอยู่ในช่วง[^_^] ควรจัดไข่ไว้ในเมนูด้วย ไม่เลวเลยทีเดียว



3.มะละกอ

มะละกอนั้นเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยในการย่อยและระบบขับถ่าย จึงจัดเป็นอาหารที่ผู้กำลัง[^_^]ต้องทานเป็นอันดับต้นๆ



4.แอปเปิ้ล

คุณทราบหรือไม่นอกจากแอปเปิ้ลจะมีสารต้านอนุมูลอิสระแล้วยังมีผลมากในเรื่องของการ[^_^] สารในแอเปิ้ลสามารถลดอาการท้องผูกได้ด้วย เชื่อกันว่าการทานแอปเปิ้ลอย่างเดียวเป็นเวลา3วันจะช่วยให้หน้าท้องหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ




5.เมล็ดเชียหรือเมล็ดเจีย

สำหรับผู้ที่กำลัง[^_^]หรือมองหาอาหาร[^_^] พลาดไม่ได้เลยที่จะต้องใส่เมนูอาหารเจ้าเม็ดเล็กๆนี้ลงไปด้วยเพราะว่าอาหารที่ทรงคุณค่าทางสารอาหารมากที่สุดในขณะนี้คงหนีไม่พ้นเมล็ดเชีย เมล็ดเชียมีปลูกมากในเม็กซิโก และทวีปอเมริกา เมล็ดเชียนั้นจัดว่าเป็นอาหารหลักของชาวเม็กซิโก หลังจากได้รับการวิจัยจากสถาบันวิจัยในสหรัฐอเมริกา ว่าเมล็ดเชียหรือเมล็ดเจียนั้นถูกขึ้นเป็นอาหารที่ทรงคุณค่าทางโภชนาการ เพราะมีโอเมก้ามากกว่าปลาแซลมอน แคลเซียมมากกว่านม แถมยังจัดเป็นอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน เหมาะแก่ผู้ที่กำลังต้องการ[^_^] หรือต้องการฟื้นฟูร่างกาย เพราะเมล็ดเชียสามารถทำให้อิ่มท้องได้มาก เนื่องจากเมล็ดเชียนั้นสามารถพองในของเหลว จึงช่วยให้อิ่มเร็วและลดอาการอยากอาหาร

ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเมล็ดเชียนั้นมีศักยภาพในการ[^_^]มากเพียงใด ในหลายประเทศเริ่มให้ความสนใจกับเมล็ดเชียและจัดให้เมล็ดเชียอยู่ในส่วนผสมการปรุงอาหารด้วยเช่นกัน รู้อย่างนี้แล้ว เพื่อนๆคงเริ่มมองหากันแล้วหล่ะสิ



5.กระเทียม

ในกระเทียมนั้นมีแคลเซียม และฟอสฟอรัส เหล็ก จัดว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่ามากเพราะสามารถช่วยบรรเทาโรคได้หลายชนิด รวมทั้งยังสามารถลดไขมันส่วนเกินด้วย หลายคนทานกระเทียมทุกวันเพื่อลดคอลเรสเตอรอล หลายคนอาจไม่ชอบกินกระเทียม แต่ขอบอกว่าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังอยาก[^_^]อยู่ละก็ ต้องลองทานดูค่ะ

 



VG HEALTHYFOODS

 http://vghealthyfood.lnwshop.com/article/อาหาร-5-ชนิด-ที่มีผลต่อการ[^_^]

7
เมล็ดเจียเป็นใบที่มีลักษณะงอกแตกหน่อจากพื้นดินคล้ายต้นหญ้าและมาจากต้นตระกลูใบกระเพรา ย้อนไปเมื่อหลาย 10ปี ก่อนในแถบอเมริกา เมล็ดเจียโด่งดั่งมากในโลกออนไลน์เพราะขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารสุขภาพที่สามารถช่วย[^_^]ได้

   หลายคนที่ต้องการเมล็ดเจียเป็นตัวช่วยในการลดอาการหิวและยังเป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการในช่วงเวลาของการไอเดท แต่ในความเป็นจริงเมล็ดเล็กๆเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณ[^_^]ได้จริงหรือก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเมล็ดเจียกันก่อน




อะไรคือเมล็ดเจีย ?


   เมล็ดเจีย chia เป็นเมล็ดพืชกินได้มาจากทะเลทราย ส่วนใหญ่ปลูกกันในประเทศเม็กซิโก และแถบทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการดำรงชีวิตในแบบของชาวมายันต์และแอซเท็ก เมล็ดเจีย "chia"ในความหมายของพวกเค้าคือ ความแข็งแรง จากวัฒนธรรมของพวกเขาทานเมล็ดเหล่านี้เพื่อช่วยเสริมพลังงานให้กับร่างกายนั่นเอง ก่อนที่จะเกิดการวิจัยว่าเมล็ดนี้มีโอไมก้า 3 และ กรดไขมันคาร์โบไฮเดรต โปรตีน เส้นใยอาหาร และแคลเซียม อย่างเข้มข้น

   เมล็ดเจียเป็นอาหารธัญพืชที่สามารถดูดซึมได้โดยไม่ต้องขัดสี (ไม่เหมือน flaxseeds) ซึ่งเมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ สามารถให้สารอาหารดังนี้

เมล็ด 1 ออนซ์ ให้พลังงาน 139 แคลอรี่

โปรตีน 4 กรัม

ไขมัน 9 กรัม

คาร์โบไฮเดรต 12 กรัม

เส้นใย,วิตามิน และ แร่ธาตุต่างๆ 11 กรัม

ด้วยรสชาติและกลิ่นที่อ่อนๆ ของเมล็ดเจียเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งทำให้ เมล็ดเจียถูกนำไปผสมอยู่ในหลายมื้ออาหาร และง่ายต่อการรับประทาน เพราะเพียงแค่โรยบน อาหารจานข้าว โยเกิร์ต ซอส หรือบนจานผักต่างๆ หรือแม้แต่เครื่องดื่ม

 

เมล็ดเจียสามารถช่วยให้คุณ[^_^]ได้จริงหรือไม่

   ในทางทฤษฎี เมล็ด chia จะขยายตัวในท้องของคุณทำให้คุณรู้สึกอิ่ม กินน้อยลง แต่ในกรณีศึกษาของนักวิจัย David Nieman ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยรัฐนอร์แคโลไรนา กลับให้มุมมองอีกด้านหนึ่งว่า ในการบริโภคเมล็ดเจียประมาณ 50 กรัมต่อวัน ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาจไม่ได้ช่วยในการ[^_^]อย่างจริงจัง จากการศึกษาตรวจสอบร่างกายตามหลักวิทยาศาสตร์พบว่าสิ่งที่มีผลอย่างชัดเจนคือระบบของหัวใจที่แข็งแรงขึ้น แต่ไม่พบว่ามีผลกระทบต่อการสูญเสียน้ำหนัก





เราควรรับประทานเมล็ดเจีย (chia seed ) หรือไม่


   ในการวิจัยกรณีศึกษาของคุณ David Nieman ได้ให้ข้อคิดว่า" ในการศึกษานี้เป็นเคสตัวอย่างส่วนหนึ่งเพื่อหาคุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดเจีย เมล็ดเจียเป็นเมล็ดพันธุ์พืชไม่ใช่[^_^] แต่เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ให้ประโยชน์และคุณค่าที่บริสุทธิ์ช่วยบำรุงสุขภาพจากภายในเหมือนกับธัญพืชทั่วไปแต่มีสารอาหารที่มากกว่า" ส่วนในหนังสือ Roizen  กล่าวว่าควรบริโภคเมล็ดเจียปริมาณ20 กรัมต่อวัน เมล็ดเจียมีคุณค่าในการต้านสารอนุมูลอิสระสูงกว่าผลบลูเบอร์รี่

ข้อเสียของเมล็ดเจีย

   จากการการวิจัยมีการเตือนว่า เมล็ดเจียไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้อาหาร จำพวกมัสตาร์ด หรือ งา และผู้ที่มีความดันโลหิตสูง หรือโลหิตจาง ดังนั้นก่อนทานเมล็ดเจียควรศึกษาพื้นฐานสุขภาพของร่างกายด้วยเช่นกัน

   อย่างไรก็ตามการทานเมล็ดเจียให้คำนึงถึงประโยชน์ คุณค่าทางอาหารมากกว่าการ[^_^]จะทำให้คุณได้รับสารอาหารสูงสุดและเพลิดเพลินไปกับการรับประทาน และที่สำคัญการ[^_^]ที่ได้ผลอย่างแท้จริงคือการควบคุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย

แหล่งที่มา : เวป MD

VG HEALTHYFOOD
http://vghealthyfood.lnwshop.com/article/เมล็ดเจียสามารถ[^_^]ได้จริงหรือไม่

8
วันนี้เรามารู้จักกับอาหารธัญพืช 5 ชนิด นี้ว่ามีคุณค่าและให้สารอาหารอย่างไรบ้างกันค่ะ

1. วอลนัต (walnut)

เป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก วอลนัตปริมาณ 50กรัม สามารถให้คุณค่าทางอาหารเมื่อเทียบเท่ากับนม ปริมาณ 500 กรัม หรือไขไก่ 250กรัม

สรรพคุณของวอลนัตนั้นสามารถป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ และช่วยลดระดับคอลเรสเตอรอล เนื่องจากในวอลนัตนั้นอุดมไปด้วยโอเมก้า 3

วิธีการรับประทานวอลนัต ที่กระเทาะจากเปลือกใหม่ๆ ควรรีบรับประทานให้หมด เพราะจะได้รับประโยชน์จากสารอาหารสุงสุด ในการรับประทานวอลนัตนั้น สามารถผสมกับสลัดหรืออาหารว่างได้ หรือสามารถรับประทานเป็นอาหารว่างระหว่างวันได้

จากผลการวิจัยพบว่า การรับประทานวอลนัตหลังอาหารนั้น สามารถลดไขมันอิ่มตัวจากหลอดเลือดหัวใจได้ นอกจากนี้ยังพบว่าวอลนัทนั้นให้คุณค่ามากกว่าน้ำมันมะกอกอีกด้วย วอลนัทนั้นถือเป็นแชมป์อาหารประเภทถั่ว เพราะมีสารอาหารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงกับการเกิดมะเร็งเต้านม

2.โกจิเบอร์รี่ หรือ เก๋ากี้

 หลายคนคงไม่คุ้นกับชื่อเก๋ากี้ เก๋ากี้ก็คือผลโกจิเบอร์รี่ เชื่อกันว่าผลโกจิเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มาจากเทือกเขาหิมาลัย มีกลิ่นหอม และยังมีประดยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

สรรพคุณและประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่ เป็นส่วนประกอบสำคัญของยาจีนแผนโบราณ มานานหลายพันปี และยังเป็นอาหารที่เป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา เพราะเชื่อกันว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก สามารถช่วยชะลอความชรา

ผลโกจิเบอร์รี่ช่วยในเรื่องรักษาภาวะสมดุลของน้ำตาลในเลือด และยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่ถูกทำลายหรือบาดแผลให้หายเร็วขึ้น นอกจากนี้ ชาวจีนยังนำเอาผลโกจิเบอร์ไปตากแห้ง และ นำมาเป็นส่วนผสมหลักของยาอีกด้วย

3. เมล็ดเชีย หรือเมล็ดเจีย

เมล็ดเชียนั้น ถูกจัดว่าเป็นอาหารที่ทรงคุณค่ามากที่สุด เพราะได้ขึ้นชื่อว่าถือว่าเป็นขุมทรัพย์ของแหล่งอาหาร เมล็ดเชียนั้น เป็นอาหารของชาวทวีปอเมริกา นิยมเพาะปลูกมากที่เม็กซิโก และในอเมริกา ประโยชน์และสรรพคุณของเมล็ดเชียถือว่ามีมากมาย จากผลการวิจัยค้นพบว่า เมล็ดเชียมีส่วนช่วยในการ[^_^] ลดคอลเรสเตอรอล และสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ วิธีการทานเมล็ดเชียนั้น สามารถผสมได้ใน สลัด หรืออาหารทั่วไป นอกจากนี้ยังสามารถ ผสมได้ในน้ำดื่มระหว่างวัน เพื่อลดอาการหิว หรืออาการอยากอาหารได้ หากต้องการผสมเป็นน้ำดื่มควรแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15-30นาที เพื่อให้เมล็ดพองตัว แล้วรับประทาน เมล็ดหาซื้อได้ทั่วไปตามศูนย์โอทอป หรือตามซุปเปอร์มาเก๊ตทั่วไป ราคาไม่แพงมาก

4.เมล็ดอัลมอนด์

เป็นอาหารทานเล่นที่คนไทยรู้จักกันดีอยู่แล้ว เมล็ดอัลมอนด์นั้นอุดมไปด้วยแมกนีเซียม โพแทสเซียม และแคลเซียม การทานเมล็ดอัลมอนด์ในปริมาณที่เหมาะสมนั้นช่วยระงับความหิวได้ เพราะเมล็ดอัลมอนด์นั้นช่วยเร่งเมตาบอลิซึมในร่างกาย แต่การรับประทานมากเกินก็อาจทำให้เกิดโรคอ้วนได้เช่นกัน

5.พิทาชิโอ

ถั่วพิสทาชิโอ(Pistachio) เป็นไม้ยืนต้นที่มีต้นกำเนิดในอิหร่าน ซีเรีย เลบานอน ตุรกี อิเดีย  เมล็ดมีเปลือกแข็ง รับประทานได้มีวิตามินเอ เมล็ดสีเขียวถือว่าเป็นเมล็ดที่มีคุณค่ามากกว่าสีอื่นๆ ถั่วพิทาชิโอ มีไขมันต่ำช่วยในการบำรุงหัวใจ และให้ใยอาหารมากกว่าผักโขม ทั้งยังอุดมไปด้วย วิตามิน B-6 ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม

เห็นมั้ยคะว่าอาหารเหล่านี้ ล้วนมีคุณประโยชน์ และคุณค่าทางโชนาการทั้งนั้นเลย อย่างไรก็ตามควรเลือกรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ประโยชน์สูงสุดต่อร่าางกายนะคะ

 


ติดตามบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่

VG HEALTHYFOOD

http://vghealthyfood.lnwshop.com/   

vghealthyfood.gmail.com

9
ทำไมต้องรับประทานเมล็ดเชีย

 เมล็ดเชียจัดว่าเป็นธัญพืชที่มีประโยชน์มากมาย เมื่อเทียบกับธัญพืชในตระกลูเดียวกันถือว่าเมล็ดเชียมีคุณประโยชน์ที่สูงกว่ามาก นอกจากนี้ยังได้ขึ้นชื่อว่ามีส่วนช่วยในการ[^_^] แต่ทว่าเมล็ดเชียไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่นั้น เมล็ดเจียหรือเมล็ดเชียยังสามารถบำรุงร่างกายของเราได้อีกด้วย

หลายคนคงรู้จักประวัติความเป็นมาของเมล็ดเชียกันมาบ้างแล้ว จากบทความทั้งในและต่างประเทศต่างก็กล่าวขานคุณสมบัติของเมล็ดเชียเอาไว้อย่างมากมาย แต่อย่างไรก็ตามเมล็เชียยังมีคุณประโยชน์อื่นอีกมากมาย วันนี้ เรามาทำความรู้จักกับเมล็ดเชียให้รู้ลึกกันไปเลยค่ะ



ประวัติความเป็นมาของเมล็ดเชีย

        จากประวัติอ้างอิงค้นพบว่า เมล็ดเจียเป็นธัญพืชที่มีอายุหลายพันปี ในอาณาจักรทวีปอเมริกา ประชาชนในแถบทวีปนิยมบริโภคธัญพืชนี้เป้นอาหารหลักเหมือนธัญพืชทั่วไปเช่น ถั่ว และข้าวโพดเป็นต้น บ้างก็นำมาผสมเป็นน้ำดื่ม บ้างก็ไว้ใช้ปรุงอาหาร ซึ่งต่างก็เชื่อกันว่าเมล็ดเจียนั้นมีคุณสมบัติช่วยในการบำรุงร่างกาย และบรรเทาโรคต่างๆได้

        ในช่วงอเมริกาตกเป็นเมืองขึ้นของสเปนนั้น ได้ถูกสั่งห้ามปลูกเมล็ดพันธ์นี้ จนได้มีนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิจัยว่าเมล็ดเชียนั้นมีประโยชน์และสรรพคุณอย่างไรบ้าง จึงได้มีการขยายพันธ์ และเาพปลูกต่อเนื่องเรื่อยมา นอกจากนี้แหล่งเพาะปลูกเมล็ดเชียยังมีการปลูกมาในเม็กซิโก และยังถูกจัดให้เป็นอาหารในเม็กซิโกด้วยเช่นกัน

         เมล็ดเจียนั้นเป็นพืชตระกูลเดียวกันกับ ใบกระเพรา หรือ มิ้นต์ ลักษณธคือลำต้นมีความสูง 5-6 ฟุต เป้นพืชที่ให้เมล็ดพันธ์เล็กๆ มีสามสีคือ สีดำ สีขาวงา หรือสีไข่ไก่ และสีน้ำตาล ลักษณธเมล็ดจะมีการแตกลาย
ซึ่งต่างกับเมล็ดแมงลัก เจริญเติบโตได้ดีในในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น จะนิยมปลูกมากใน ทวีปอเมริกา เม็กซิโก โบลิเวีย อาร์เจนตินา กัวเตมาลา ประเทศไทยได้เริ่มมีการเพาะปลูกเมล็ดเชียกันมากขึ้นในจังหวักลำปาง และแถบภาคเหนือ



คุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดเชีย

        จากข้อมูลการวิจัยของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าเมล็ดธัญพืช Superfood เนื่องจากว่าอัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป้นต่อร่างกาย ทั้งไฟเบอร์ โอเมก้า3 โอเมก้า6 แคลเซียม และสารต้านอนุมูลอสระ ซึ่งเมล็ดเชียเมื่ออยู่ใยของเหลวจะทำการพองตัวได้ถึง12 เท่า โดยชาวทวีปอเมริกา มักจะทานเมล็ดเชียผสมกับนมหรือชา เพื่อดื่ม เพราะช่วยเพิ่มคุณค่าทางสารอาหาร และยังช่วยต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

สรพพคุณหลักของเมล็ดเชียที่สำคัญ

เราสามารถรับประทานเมล็ดเชียได้ทุกวัน มาดูกันว่าเมล็ดเชียมีประโยชน์และสรรพคุณอย่างไรบ้าง

สมานบาดแผลให้หายเร็ว

        กรดไขมันที่เรียกว่าโอเมก้า3 ที่มีอยู่เมล็ดเชียตัวนี้ จะช่วยให้ร่างกายสร้างสารโพรสตาแกลนดิน ซึ่งมีสรรพคุณในการลดการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วย ทั้งยังป้องกันบาดแผลติดเชื้ออีกด้วย

บำรุงหัวใจ

       เมล็ดเจียจะช่วยในการปรับสมดุลการไหลเวียนของระบบโลหิตในร่างกายของคนเรา บำรุงให้หัวใจแข็งแรงและยังลดไขมันคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย

บรรเทาอาการเบาหวาน

       เนื่องจากเมล็ดเชียเป็นธัญพืชที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ และยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ จึงมีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของน้ำตาลในเลือดได้

ช่วยพัฒนาสมองและบำรุงความจำ

       เมล็ดเจียนั้นมีโอเมก้าสูงมาก มีคุณประโยชน์ช่วยในการบำรุงสมองและสมองช่วยให้ความจำดี เลือดไหลเวียนสมองเป็นระบบ ช่วยให้มีสมาธิที่ดี ลดการเสี่ยงเป็นดรคความจำสั้น เมล็ดเชียถ้าเทียบกับอาหารปลาแซลมอนแล้วเมล็ดเจียโอเมก้ามากกว่าถึง 9 เท่า

เสริมสร้างโรคกระดูกพรุน

      แร่ธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโปรตีน ในเมล็ดเชียนั้นมีมากกว่านมถึง6เท่า ซึ่งช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและช่วยในการบำรุงไขข้อ กระดูก

ช่วยระบบย่อยและเสริมสร้างเผาผลาญพลังงานในร่างกาย

       เมล็ดเจียนั้น มีไฟเบอร์สูงมาก ทำให้ช่วยในเรื่องระบบการย่อย และการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ดี ทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ และช่วยลดการเกิดกรดในกระเพาะอาหาร หรือแผลในกระเพาะอาหาร

เมล็ดเจียต่างกับเมล็ดแมงลักยังไง

       วิธีการดูเมล็ดพันธ์ 2ชนิดนี้ ถึงแม้ว่าดูผิวเผิน เมล็ดเชียและเมล็ดแมงลักจะเหมือนกันมาก แต่จริงๆแล้วลักษณะภายนอกนั้นต่างกัน เนื่องจากเป็นพันธ์พืชคนละชนิดกัน ลวดลายต่างกัน เมล็ดเชียนั้นจะมีลักษณะเรียวรี มีสีน้ำตาลออกเทา มีลวดลาย แต่เม็ดแมงนั้นจะสีดำค่อนข้างสนิทและไม่มีลวดลาย เมื่อนำไปแช่น้ำจะพบว่าเมล็ดเชียมีลักษณะพองตัวใสๆ ขณะที่เมล็ดแมงลักนั้นจะมีเมือกสีขาว



ในการปริมาฝรของการทานเมล็ดเชียต่อวัน
   
      ผู้ใหญ่ ควรบริโภคประมาณ 15กรัม หรือประมาณ 2 -3 ช้อนโต๊ะต่อวัน; เด็กตั้งแต่ 5-18 ปี ควรบริโภค 2-4 กรัมต่อวัน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ควรบริโภคปริมาณ 1ช้อนโต๊ะต่อวัน

เมล็ดเชีย ซื้อที่ไหน

เมล็ดเชียเป็นอาหารชีวจิต สามารถหาซื้อได้ตามร้านสินค้าโอทอปหรือโครงการหลวงทั่วไป ราคาแยกไปตามน้ำหนัก และเกรดของผลิตภัณฑ์

       อย่างไรก็ตามเมล็ดเชียไม่ได้กินแล้วดีสำหรับทุกคน จากข้อมูลและข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานเมล็ดเชีย ควรพิจารณาเรื่องปัญหาสุขภาพดังต่อไปนี้ด้วย

ผู้ที่แพ้กลูเต้น หรือแพ้อาหารประเภทมัสตาร์ด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเมล็ดเชีย

ผู้เป็นโรคกระเพาะอาหารหรือโรคลำไส้ หรือกรดไหลย้อนควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเมล็ดเชีย เพราะหากกินเข้าไปจะทำให้อาการหนักกว่าเดิม เพราะเส้นใยไฟเบอร์ในเมล็ดเชียจะไปทำการขยายตัว

ผู้ที่แพ้ยาแก้ปวดหรือยาแอสไพรินเพราะจะทำให้หลอดเลือดบางลง

ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตต่ำ

หญิงตั้งรรภ์ไม่ควรบริโภคเมล็ดเชีย เพราะจะทำให้ เพราะมีผลต่อแรงดันเลือด

อย่างไรก็ตามประโยชน์ของการบริโภคเมล็ดเชียมีมากกว่าโทษแน่นอนค่ะ
 

 เริ่มต้นดูแลสุขภาพคุณตั้งแต่วันนี้ด้วยการบริโภคเมล็ดเชีย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงห่างไกลโรคภัยกันค่ะ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม
VG HEALTHYFOOD
http://vghealthyfood.lnwshop.com/

10
ร้าน carcute shop  จำหน่ายของแต่งรถ ผ้าหุ้มเบาะลายการ์ตูนเกาหลี 1ชุด 18ชิ้น สินค้าคุณภาพ ปักลายการ์ตูน 3D คมชัด เหมือนจริง ของแท้จากโรงงาน ขายราคาปลีก-ส่ง ใส่ได้ทั้งรถกะบะ และรถยนต์ทั่วไป แบบ 5ที่นั่ง สินค้าแบบครบชุด มี ผ้าคลุมเบาะรถยนต์ด้านหน้าหลัง 4 ชิ้น, ที่คลุมหัวเบาะ4ชิ้น , เบาะหลัง2 ชิ้น, ที่หุ้มเกียร์1,ที่หุ้มพวงมาลัย1,ที่หุ้มเบรกมือ1,หมอนรองคอ2ชิ้น,ที่หุ้มคาดเข็มขัด 2ชิ้น,ที่หุ้มกระจก1 สินค้าชุดแต่งรถเกาหลีน่ารักพร้อมส่ง ลายสวยไม่ซ้ำใคร

สินค้าจัดส่งEMS ฟรีทุกออเดอร์ สินค้าสวย ลูกค้ารีวิวเยอะ ไม่ผิดหวัง สินค้าเกรด A ทุกชิ้น มีสินค้าพร้อมส่ง ระยะเวลาจัดส่ง2-3 วัน ได้ของไว ได้ของชัวร์ รับบริการเก็บเงินปลายทาง

สามารถดูลายระเอียดสินค้าได้ที่ http://carcute.lnwshop.com/

หรือสอบถามได้ทางLine : Siriwan-k


11
หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักเมล็ดเชียว่าคืออะไร และสามารถ[^_^]ได้อย่างไร ถ้าหากท่านต้องการทราบความเป็นมาของเมล็ดเชียหรือบางคนอาจเรียกว่าเมล็ดเจียเชื่อว่าตอนนี้คงค้นหาอ่านได้ไม่ยาก แต่สำหรับหลายคนที่ลองรับประทานดูแล้วถึงกับต้องยอมรับว่าสรรพคุณของเมล็ดเชียนั้นดีจริงๆ เมล็ดเชียนั้นมีสารอาหารที่ช่วยในการพัฒนาสมองซึ่งเรียกว่าโอเมก้า3 ที่เรารู้จักดีว่ามีอยู่ในจำพวกสัตว์ทะเล นอกจากเมล็ดเชียยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารอีกด้วย

ประสบการณ์ดีดีจากคนต้องการมีสุขภาพที่ดี

"เราเป็นคนนึงที่ทานเมล็ดเชียเพราะกระแสทางอินเตอร์เนต เค้าว่าดีก็ซื้อหามาลองทาน เพราะโดยปกติเมื่อเราเริ่มอายุมากก็อยากจะหาอะไรที่มีประโยชน์กับร่างกายมาทานดู เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบไปหาหมอ แต่ก็รู้ว่าร่างกายเริ่มต้องการอะไรที่มีประโยชน์และต้องการการบำรุง ทั้งเรื่องผิวและภายใน เราเป็นคนชอบปวดเมื่อยตามร่างกาย (เมื่อยขั้นเทพยิ่งกว่าคนแก่อีก )หมุนแขนทีนี่ได้ยินเสียงกระดูกดังก๊อปแก๊ปๆเลยอ่ะ ตอนนี้เรากำลังพยายามฝึกโยคะด้วยตัวเอง มันยากมากอ่ะสำหรับเราเพราะว่าเรารู้สึกว่าเส้นประสาทเราตึงไปทุกส่วนเลยอ่ะ ยืดแทบไม่ได้เลย (จนตัวเราเองกลัวเป็นอัมพาตมากๆเลยอ่ะ ) เราเป็นคนทำงานเยอะมากๆ จนรู้ว่าร่างกายจริงๆมันสำคัญมากอ่ะ เราต้องแข็งแรงเพื่อดูแลคนรอบข้างเรานะ ช่วงไหนรู้สึกว่าอ้วนก็ไม่เคยคิดทานยา[^_^] เพราะแม่เคยขอไว้ เค้าเห็นในข่าวเยอะ เราก็รู้ว่าทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคุมตัวเองให้ให้ดี ก็สามารถ[^_^]ได้แล้ว ทานอะไรก็ได้ที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย ทำให้เราสุขภาพดีขึ้น แข็งแรงขึ้น ไม่ต้องผอมเวอร์หรอก คนเราดูแลตัวเองให้ดูดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว อาหารที่เรากินช่วงนี้มีแต่อาหารเป็นประโยชน์กับร่างกายทั้งนั้น ตอนนี้ผลไม้และพวกซีเรียลสำคัญกับเรามาก อะไรที่ช่วยซ่อมแซมร่างกายเราได้ทานไปเถอะ ดีทั้งนั้นค่ะ ช่วงนี้ทานเมล็ดเชียที่ซื้อมาจากเพื่อน เราว่าดีนะสำหรับเราแต่ต้องดูระยะยาวอ่ะ เราทานแบบใส่น้ำดื่มแบบคนอื่นทานไม่ได้ แต่เราใช้ผสมกับอาหาร และก็โรยกับกาแฟตอนเช้า เราไม่รอให้มันพองตัว แต่ทานเข้าไปเลย ก็โอเคดีค่ะ ไม่มีรสชาติดี"

แล้วเพื่อนๆละคะมีประสบการณ์ดูแลสุขภาพอาหารการกินกันอย่างไรบ้าง มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ดูแลสุขภาพ [^_^]กับเราได้ที่นี่นะค่ะ

KT organicfood team

http://vghealthyfood.lnwshop.com/

12
ทุกๆ 100กรัมของเมล็ดเชียchia seed อุดมไปด้วยวิตามินต่างๆสูงถึง45มิลิกรัม แคลเซียม 631มิลิกรัม ใยอาหาร377 มิลลิกรัม ไขมัน34มิลลิกรัม เมล็ดเชียมีปริมาณแคลเซียมที่อยู่ในนมสูงถึง 5เท่า ฟอสฟอรัสสูงกว่านม 11เท่า เมล็ดเชียนั้นเมื่อเทียบกับข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ตและข้าวโพดแล้ว มีปริมาณแคลเซียมสูงถึง 13 เท่า เลยทีเดียว

เมล็ดเชียนั้นอุดมไปด้วยใยอาหารและความสามารถในการดูดซับน้ำมีมากถึง 10 เท่า ในประโยชน์นี้สามารถทำให้ร่างกายเกิดการสมดุลและป้องกันการขาดน้ำ ในขณะที่ร่างกายสูญเสียน้ำในช่วงการออกกำลังกาย การได้ทดแทนด้วยเมล็ดเชียจะช่วยลดการสูญเสียน้ำได้อย่างดีเยี่ยม

เมล็ดเชียนั้นสามารถทานได้ทั้งเมล็ด เปลือกนอกของเมล็ดเจียนั้นช่วยเพิ่มในการย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปกติแล้วกระเพาะของเราใช้เวลาในการย่อย4-6  การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารมากนั้น จะช่วยให้ระบบการย่อยทำงานได้คล่องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย

เมล็ดเชียเป็นอาหารที่มีน้ำหนักเบา และไม่มรสชาติ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใส่หรือปรุงรสได้ในอาหาร
หลายๆประเภทหรือจะทานโดยตรงก็ได้เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะนำเป็นผสมกับอาหารรับประทานกัน

ในหนึ่งช้อนโต๊ะของเมล็ดเชียนั้นผสมกับน้ำดื่มเพียงหนึ่งแก้วก็จะได้เมล็ดเชียที่ขยายตัวกลายเป็นหรือเยลลี่ได้เลย

ในการที่จะ[^_^]โดยเมล็ดเชียแบบไม่ต้องอดอาหารนั้นสามารถทำได้มั้ย ในเมล็ดเชีย 100กรัม นั้น ให้พลังงาน 490 Kcal หากผสมในอาหารก็จะทำให้อิ่มได้เร็วขึ้น อีกทั้งในเมล็ดเชียยังมีใยอาหารสูง
เมล็ดเชียมีความโดดเด่นในเรื่องโอเมก้า3 ซึ่งสามารถช่วยลดอาการอักเสบ และบรรเทาโรคเบาหวาน โรคหัวใจ นอกจากนนี้ยังช่วยพัฒนาสมอง

ในการรับประทานเมล็ดเชีย สามารถรับประทานได้10-30กรัมต่อวันโดยผสมในน้ำร้อน ซุปหรืออาหารอื่นๆ หรือใช้ในการปรุงอาหาร หากต้องการผสมน้ำดื่มควรรอ15-30นาที เพื่อให้เมล็ดเชียพองตัว


13
ในหลายปีที่ผ่านในยุโรปและอเมริกาเรียกเมล็ดพันธ์เม็ดเล็กๆว่าเป็นเมล็ดมหัศจรรย์ นั่นก็คือเมล็ดเชียหรือเมล็ดเจีย

เมล็ดเจียนั้นเกิดมากในภาคใต้ของเม็กซิโกและกัวเตมาลา และในวันนี้เมล็ดเชียนั้นได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกาว่าเป็นเมล็ดพันธ์พืชที่อุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหาร และมีผู้นิยมบริโภคอย่างแพร่หลาย ในเมล็ดเชียนั้นมีโปรตีนและเส้นใยสูงมากซึ่งเชื่อกันว่ามีส่วนช่วยลดความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดได้ จากผลการวิจัยพบว่าเมล็ดเชียเม็ดเล็กๆนี้ยังสามารถช่วย[^_^]ได้อีกด้วย จึงไม่น่าแปลกอะไรที่เมล็ดเชียจะกลายเป็นสารสกัดตัวใหม่ที่ผู้ที่นิยม[^_^]บริโภคกัน

วิธีการรับประทานเมล็ดเชีย

เมล็ดเชียนั้นโดยตัวมันเองจะไม่มีรสชาติใดๆ และสามารถบริโภคได้โดยตรงเพียงแช่ในน้ำ15-20 นาทีเมล็ดจะพองตัว นอกจากนี้ยังสามารถรับประทานร่วมกับนมถั่วเหลืองเพื่อบริโภคในตอนเช้าได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเมล็ดเชียจะมีประโยชน์มากมาย แต่ในการบริโภคนั้นต้องคำนึงถึงองค์ประกอบอื่นๆด้วยเช่นกัน เพราะบางคนก็ไม่สมควรจะกิน เพราะเมล็ดเชียนั้นง่ายต่อการผลิตก๊าซซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกท้องอืด

หลายคนที่อาจแพ้งา หรือ มัสตาดก็ควรพิจารณาเช่นเดียวกันเนื่องจากเมล็ดเชียเป็นพืชที่มาจากตระกลูใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำก็ควรอ่านสรรคุณของเมล็ดเชียอย่างระเอียด ก่อนรับประทาน

อย่างไรก็ดีเมล็ดเชียไม่ได้ถือว่ามีโทษหรือผลเสียร้ายแรงอะไร ถ้าเทียบกับคุณค่าและคุณประโยขน์มหาศาลที่ได้จากเมล็ดเชีย

เมล็ดเชียซื้อที่ไหน

เมล็ดเชียนั้นสามารถหาซื้อได้ตามร้านซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป



14
คุณรู้หรือไม่เมล็ดเชีย อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ และช่วยในการดูดซึมได้ดี สามารถลดคลอเลสเตอรอลได้ หลังจากการวิจัยในสหัฐออกมาว่าเมล็ดเชียนั้นเป็นอาหารชั้นเลิศที่มีคุณค่าอย่างสุงสุดและยังสามารถช่วย[^_^]อย่างน่าอัศจรรรย์ ก็ทำให้ใครๆแห่กันซื้อเมล็ดเชียตัวนี้แทบเกลี้ยงห้างเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามเมล็ดเชียหาซื้อได้ที่ร้านค้าทั่วไป คุณสมบัติของเมล็ดเชียนั้นมีมากมายจริง ลองอ่านสรรพคุณดูแล้วคุณจะรู้จักกับเมล็ดเชียมากขึ้น เมล็ดเชียนั้นทานง่ายและสามารถใช้ผสมกับอาหารอื่นๆได้อีกด้วย หลายคนนำเอาเมล็ดเชียมาผสมในอาหารจำพวกสลัด หรือของทานเล่น ด้วยคุณประโยนช์ของเมล็ดเชียจนถูกขนานในแถบยุโรปว่าเป็นอาหารชั้นเลิศ เนื่องจากสามารถลดความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดรวมทั้งอาการท้องผูกต่างๆอีกด้วย

จากผลวิจัยในแลปในทุก 100 g. ของเมล็ดเชียมี โอไมก้า 3 สูงถึง 19.3 g. ให้สารอาหารฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมมากกว่านมวัว 4-6เท่า

ติดตามความมหัสจรรย์ของเมล็ดเชียได้ในบทความต่อไปค่ะ


ที่มา: http://urll.us/rkxYXw

15
เมล็ดเจีย (Chia seed) ชื่อทางวิทยาศาสตร์เจีย (Salvia Hispanica L. ) พืชสะระแหน่ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ของเม็กซิโกและกัวเตมาลา Kia คนมักจะเรียกว่าในความเป็นจริงเป็นเมล็ดพันธุ์ของพืช - เมล็ด Kia มันอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 กรดไขมันอาหารที่มีมากที่สุดและมีสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติ เมล็ด Chia มีประวัติกินได้ย้อนหลังไปถึง พ.ศ. 3500 ขณะนี้องค์การอาหารและยาของสหรัฐได้รับการอนุมัติอาหารที่ปลอดภัย แต่ยังสหภาพยุโรปออกกฎหมายขนมปังยืนยันการเพิ่มส่วนผสม



??เมล็ด Chia มักจะพบในขณะนี้ในสหรัฐอเมริกายุโรปและญี่ปุ่น, อาหารสีเขียวตลาดโภชนาการ กฎหมายอาหารสหภาพยุโรปได้ผ่าน Kia เป็นขนมปัง[^_^]; Kia ยังใช้ในสัตว์ปีกและการปรับปรุงพันธุ์ปศุสัตว์การผลิตโอเมก้า 3 เนื้ออุดมนมและไข่ ในทวีปอเมริกาเหนือ, Kia สำหรับนักกีฬาจำนวนมากและแพทย์แนะนำ

เมล็ด Chia มีโอเมก้า 3 เป็นมากที่สุดเท่านั้นโดยไม่ต้องประมวลผลโดยตรงจากอาหารธรรมชาติที่มีความปลอดภัยที่จะกิน เมื่อเทียบกับน้ำมันปลาสูงเมล็ด Chia โอเมก้า 3 กรดไขมันและคอเลสเตอรอลฟรีไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ไม่มีการเพิ่มคุณค่าสารอาหารของสารมลพิษทางทะเล เมื่อเทียบกับ flaxseed เมล็ด Chia ไม่ประกอบด้วยส่วนผสมที่เป็นอันตรายใด ๆ และมีสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติของตัวเองปกป้องคุณภาพของโอเมก้า 3 ซึ่งแตกต่างจากที่เน่าเสียง่าย flaxseed ผลิตสารพิษและกลิ่นไม่พึงประสงค์



โปรตีน: 23.5% (เมล็ด Chia) 

??เมล็ด Chia ที่อุดมไปด้วยโปรตีนสูงกว่าถั่วเหลืองเป็นห้าครั้งปริมาณโปรตีนน้ำนมบริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Chia เมล็ดมีโปรตีน 20 ชนิดของกรดอะมิโนของโปรตีนเต็มคุณภาพบริการชั้นโปรตีนจากพืชหายากมาก

??ตั้งแต่สมัยโบราณก็มีการใช้เป็นทหารและนักกีฬาที่จะเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของอาหารพลังงานสูง

ใยอาหาร: 37.3% (เมล็ด Chia) 

??เมล็ด Chia เป็นอาหารที่มีเส้นใยสูงน้ำความจุผูกพันอำนาจการแลกเปลี่ยนไอออนพลังงานน้ำจะดีกว่า flaxseed, วานิลลา, รำข้าวสาลีและปริมาณสารอาหารค่อนข้างสูง ใยอาหารที่ละลายน้ำคือ 12 เท่าของข้าวสาลีรำเนื้อหาทั้งหมด ได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถเพิ่มความเต็มอิ่มส่งเสริม peristalsis ลำไส้ป้องกันอาการท้องผูก

สารต้านอนุมูลอิสระ: ORAC เป็น 9800 (ORAC สารต้านอนุมูลอิสระของบลูเบอร์รี่ ORAC ของ 2906) 



??นอกเหนือไปจากองค์ประกอบสามัญของสารต้านอนุมูลอิสระ (วิตามิน E, C และเลซิติน) ภายในเมล็ด Chia มีอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากขึ้นในธรรมชาติคือ ต่อต้านริ้วรอยป้องกันโรคต้านมะเร็งที่ต้องการ: กรด caffeic (กรด caffeic) สามารถป้องกันภาวะหลอดเลือด; กรด chlorogenic ( กรด Chlorogenic ) ยับยั้งโรคมะเร็งและการสูญเสียน้ำหนัก; สารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ เช่นเอนไซม์ quercetin (quercetin), เฟอรอล flavonols (เฟอรอล) เป็นต้นนอกจากนี้ยังมีการป้องกันมะเร็ง, การต่อต้านริ้วรอยสารที่ใช้งาน

แร่(ในข้อมูลดังต่อไปนี้คือมก. / 100 กรัมส่วนที่กินได้): 

??แคลเซียม: 714 (เมล็ด Chia), 122 (นม) 

??P: 1067 (เมล็ด Chia), 582 (กุ้ง) 

??โพแทสเซียม: 700 (Kia เมล็ดพันธุ์), 484 (ผักชนิดหนึ่ง, กะหล่ำที่เรียกว่าเป็นสีเขียว) 

??แมกนีเซียม: 390 (เมล็ด Chia), 199 (ถั่วเหลือง) 

??สังกะสี: 3.7 (เมล็ด Chia), 4.7 (เนื้อ) 

??เหล็ก: 16.4 (เมล็ด Chia), 15 ( หมู) 

??โซเดียม: เล็กน้อย หมายเหตุ: ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงและโรคอื่น ๆ ควรลดการบริโภคโซเดียม

ในตลาดสหรัฐ  เมล็ดเจีย (Chia เมล็ดพันธุ์) เรียกว่า อาหารในฝัน ในอดีตที่ผ่านมาจะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมีของยา[^_^]ที่จะระงับการทำงานของระบบประสาทในการควบคุมความอยากอาหารอันตรายที่ดีต่อร่างกายมนุษย์และเมล็ด Chia เป็นธรรมชาติไม่มีผลข้างเคียงไม่เพียง ต่อร่างกาย แต่ยังให้ความหลากหลายของวิตามินและแร่ธาตุ



ประโยชน์ของเมล็ดเชีย

ลดความดันโลหิตสูง กลูโคสในเมล็ดพันธุ์พืช ช่วยให้เอนไซม์ย่อยอาหารคาร์โบไฮเดรตซึ่งจะช่วยลดการแปลงของคาร์โบไฮเดรตกับกระบวนการน้ำตาลซึ่งจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

โรคผิวหนัง: การทดสอบแสดงให้เห็นว่าเมล็ด Chia ช่วยสำหรับผิวแห้งคัน, โรคผิวหนังกลาก, โรคสะเก็ดเงิน ฯลฯ มีบทบาทที่ดีในการบรรเทาผลกระทบที่สามารถส่งเสริมการรักษาแผลที่ผิวหนัง

ระบบขับถ่าย: รายงานการวิจัยเมล็ด Chiaช่วยบรรเทาโรคลำไส้ใหญ่และโรคลำไส้ลำไส้อักเสบ (ชนิดของสาเหตุที่ไม่รู้จักโรคระบบทางเดินอาหารอักเสบ granulomatous) และโรคทางเดินอาหารอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญ เคล็ดลับ: ลำไส้ใหญ่และอื่น ๆ ที่ผู้ป่วยโรคทางเดินอาหารลำไส้อักเสบ ควรเริ่มต้นการรับประทานปริมาณน้อยช้อนชาค่อย ๆ เพิ่ม 2-3 ช้อนชา  Chia เมล็ดพันธุ์เป็นอาหารที่มีเส้นใยสูงสามารถควบคุมลำไส้จนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

สุขภาพสมอง: เมล็ดเชียสามารถช่วยเพิ่มความเข้มข้นในการปรับปรุงภาวะซึมเศร้าออทิสติกและโรคสมาธิสั้น

เมล็ดเชีย
สามารถช่วยเพิ่มพลังงานลดความรู้สึกของความเหนื่อยล้าในชีวิตประจำวัน


เมล็ดเชีย สามารถควบคุมระดับความสมดุลของฮอร์โมน, บรรเทาอาการปวดก่อนมีประจำเดือนผิดปกติของความเครียดหญิงประจำเดือนและวัยหมดประจำเดือน

ช่วย[^_^] ลดภาวะการอยากอาหารอย่างได้ผล



ที่มา: http://urll.us/rkxYXw

16
ผ้าคลุมเบาะรถยนต์นับว่ามีความสำคัญกับรถมาก เนื่องจากเมื่อเราซื้อรถมาเบาะรถยนต์มักจะเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ดังนั้นการเลือกซื้อผ้าคลุมเบาะให้เหมาะกับรถยนต์นับว่าเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ในการตลาดมีผ้าหุ้มเบาะรถยนต์มากมายออกมาราคาถูกแพง ไปตามคุณภาพและเนื้อผ้า หากเบาะรถยนต์ที่ติดมากับรถเป็นหนังแล้วละก็ เรายิ่งต้องหาผ้าคลุมเบาะมาเปลี่ยนเพื่อยืดเวลาการใช้งานของเบาะเดิมให้คงอยู่ได้นาน นอกจากนี้อุปกรณ์แต่งรถยังมีให้เลือกมากมายที่เหมาะกับเบาะรถและรถยนต์ ราคาผ้าหุ้มเบาะก็มีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน สามารถเปลี่ยนได้บ่อยครั้งเมื่อรู้สึกเบื่อ

17
โดยปกติคนรักรถส่วนใหญ่ชอบซื้อ อุปกรณ์แต่งรถของมาแต่งรถให้ดูสวย สะดุดตา ไม่ว่าจะเป็นการแต่งด้วยสติ๊กเกอร์ภายนอกหรือของตกแต่งภายในรถ ผ้าหุ้มเบาะรถยนต์ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่นักแต่งก็ให้ความสำคัญเพราะนอกจากจะเพิ่มสีสันให้กับรถแล้วยังสามารถช่วยยืดอายุของเบาะรถได้อีกด้วย  ดังนั้นการเลือกผ้าหุ้มเบาะที่มีคุณภาพย่อมเป็นสิ่งสำคัญ



ผ้าหุ้มเบาะส่วนใหญ่มักจะผลิตตามต้นทุนของผู้ประกอบการ ดังนั้นอายุการใช้งาน หรือเนื้องานก็จะถดถอยลงไปด้วยเช่นกัน ลักษณะของผ้าหุ้มเบาะที่ผลิตกันทั่วไปหลักๆมีดังนี้

1.ผ้าขนเนื้อนิ่มธรรมดา ชั้นเดียว ผ้าขนชนิดนี้ราคาถูก หาซื้อง่าย อายุการใช้งานสั้น ทำความสะอาดค่อนข้างยาก หาซื้อได้ในท้องตลาดทั่วไป การตัดเย็บไม่ประณีต เนื่องจากใช้ต้นทุนที่ต่ำ

2.ผ้าขนเนื้อนุ่มแบบพิเศษ หรือ ผ้ากำมะหยี่สังเคราะห์ มี 2แบบ แบบยับค่อนข้าง และ แบบ สปริงตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการว่าเลือกวัตถุดิบอะไรมาใช้ผลิต ต้นทุน หรือราคาขายก็ก็จะแตกต่างกันไปด้วย ข้อดีคือ ขนไม่หลุดง่าย และค่อนข้างคืนรูปเร็ว

3.ผ้าตาข่าย ตาเล็ก เป็น เนื้อผ้าที่มีการสปริงในตัว ไม่ยับง่าย ระบายอากาศได้ดี ข้อเสีย เวลาตัดเย็บลายต้องใช้เส้นด้ายและเทคนิคค่อนข้างเยอะ เพราะเนื้อผ้าค่อนข้างสปริงตัว ซึ่งจะเกิดต้นทุนขึ้นด้วย

4. ผ้าตาข่ายลายใหญ่ เป็น เนื้อผ้าสปริงตัว ระบายลม หรืออากาศค่อนข้างดี ทำความสะอาดง่าย เนื้อผ้าชนิดนี้ส่วนใหญ่จะมาจากโซนยุโรป เพราะค่อนข้างใช้กันมามาก คุณภาพถือว่าดีที่สุด

5. แบบผ้าหนัง ซึ่งแบบหนังนี้จะค่อนข้างทน ทำความสะอาดง่าย สวมใส่ได้เนียนเหมือนเบาะรถยนต์ทั่วไป แต่ราคาค่อนข้างจะสูง

ดังนั้น คนรักรถทั้งหลายควรเลือกเนื้อผ้าที่เหมาะสมกับความต้องการของตัวผู้ใช้รถเอง เลือก ของแต่งรถ  ให้เหมาะกับรถของคุณ

หน้า: [1]