หนุ่ม ๆ เตะฟุตบอล ใช้ถุงเท้าไร้กลิ่นสบายใจในทุกสถานการณ์
กีฬาฟุตบอลกับผู้ชายนับว่าเป็นของคู่กัน นอกจากได้ออกกำลังกายแล้วยังเพิ่มเติมความมันส์ กระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างกลุ่มผู้เล่นด้วย ถึงกระนั้นก็ตามหลายครั้งหลังจากที่เตะเสร็จแล้วต้องมีการเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำความสะอาดร่างกาย เมื่อถอดถุงเท้าฟุตบอลปรากฏกลิ่นกระจายวงแตกทำเอาโดนแซวไม่เว้นแต่ละวัน จะดีกว่าหรือไม่ถ้าลองเปลี่ยนมาสวมใส่ “ถุงเท้าไร้กลิ่น” เพื่อให้ทุกสถานการณ์ไร้กังวล
ตอบข้อสงสัย ถุงเท้าไร้กลิ่น คืออะไร
ถุงเท้าไร้กลิ่น คือ นวัตกรรมของถุงเท้าที่ถูกพัฒนาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นเท้าแม้ว่าต้องพบเจอกับเหงื่อ ความชื้น แบคทีเรีย หรือความไม่พึงประสงค์อื่นใดก็ตาม ท่านจึงสามารถจัดเต็มได้กับทุกกิจกรรมได้อย่างมั่นใจโดยเฉพาะใครที่ต้องทำกิจกรรมหนักอย่างเตะฟุตบอลก็หายห่วง

ใช้ถุงเท้าไร้กลิ่นช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีในการเล่นฟุตบอล
จากที่อธิบายไปเบื้องต้นจะเห็นว่าถุงเท้าไร้กลิ่น มีจุดเด่นสำคัญในการทำให้คุณ ๆเท้าไม่เหม็นซึ่งปกติแล้วหนุ่ม ๆ จะรู้กันว่าหลังการเตะฟุตบอลต้องมีการนั่งพักพูดคุย ทำความสะอาดร่างกาย หรืออาจไปปาร์ตี้กันต่อ คงไม่ใช่เรื่องดีนักหากเพื่อนต้องมาสัมผัสกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ของเท้าคุณ และนั่นอาจเป็นรอยร้าวเล็ก ๆ ที่ทำให้คนอื่นไม่ค่อยอยากชวนมาเล่นด้วย มากไปกว่านั้นหากคุณโดนแซว โดนล้อมาก ๆ ก็จะรู้สึกแย่ การแก้ปัญหาด้วยถุงเท้ากันกลิ่นจึงช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดี

แนะนำถุงเท้ากันกลิ่นคุณภาพดีจาก GQ
ทราบแบบนี้แล้วคงทำเอาหนุ่ม ๆ หลายท่านอยากได้ถุงเท้ากันกลิ่นเพื่อทำให้ตนเองเท้าไม่เหม็นกันเป็นแถวแน่ ซึ่งท่านไหนที่กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะเลือกยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำ “ถุงเท้าไร้กลิ่น” จาก GQ รุ่น Sport Day Collection โดดเด่นด้วยการผลิตจากผ้า Supersoft แห้งไว ไม่อับชื้น มาพร้อมกับเทคโนโลยี SmellBlock™ Technology ช่วยในการดูดซับกลิ่นเท้าจากเหงื่อ ไขมัน ความอับชื้น ยับยั้งแบคทีเรียได้แบบ 100% ต่อให้เตะบอลหนักหน่วงเท่าใดถอดออกมาก็ไร้กลิ่น สบายจมูกทั้งกับตนเองและคนรอบข้างอย่างแน่นอน 
มากไปกว่านั้นถุงเท้าฟุตบอลตัวนี้ยังมีเทคโนโลยี GQ Boost Dots ออกแบบปุ่มพิเศษเพื่อช่วยในการยึดเกาะพื้นผิว เพิ่มการทรงตัวและการเล่นฟุตบอลให้ใช้ทักษะของตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ มากไปกว่านั้นยังช่วยลดแรงกระแทกป้องกันการบาดเจ็บได้อีกด้วย มี 2 สไตล์ให้เลือกนั่นคือ Ankle Sock สำหรับคนชอบข้อสั้น และ Crew Sock ของสายจัดแบบเต็มแข้ง
นอกจากจุดสำคัญที่บอกแล้วทราบแบบนี้แล้วไม่ต้องเสียเวลาคิดนาน ลงสนามครั้งต่อไปเลือกใช้ถุงเท้าไร้กลิ่นจาก GQ ถุงเท้าฟุตบอลที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของความกระชับเพื่อเพิ่มฟอร์มขั้นเทพ แต่ยังทำให้เท้าไม่เหม็นเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการเล่นกีฬาด้วย

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
Official Website : https://gqsize.link/SoSps

ถุงเท้าผู้หญิง Mix & Match ไปกับแฟชั่นสุดเก๋เกินบรรยาย
การแต่งกายของสาว ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องของเสื้อผ้า กระโปรง รองเท้า หรือเครื่องประดับเท่านั้น แต่ “ถุงเท้าผู้หญิง” ก็จัดเป็นอีกไอเทมสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความโดดเด่น ดูดีมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นใครที่กำลังต้องการไอเดียการสวมถุงเท้าเพื่อไป Mix & Match กับชุดหรือสไตล์การแต่งตัวของตนเองในแต่ละลุค ตามมาทางนี้เลยการันตีไม่ว่าใครก็ต้องชอบแน่นอน
Mix & Match ถุงเท้าผู้หญิงกับแฟชั่นสุดว้าว
1. สาวสไตล์ Y2K กำลังเป็นกระแสสุด ๆ
การแต่งตัวยุค Y2K กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วงปี 2023 ซึ่งถุงเท้าผู้หญิง
ก็จัดเป็นอีกไอเทมที่ขาดไม่ได้เด็ดขาด ส่วนใหญ่นิยมใส่ถุงเท้าข้อยาวหรือถุงเท้าครึ่งแข้งสีสันสดใส ควบคู่ไปกับเสื้อสายเดี่ยว แขนกุด เอวลอย กางเกงหลวม ๆ หรือกระโปรงสั้นก็จัดว่าดูเท่และมีสไตล์เฉพาะตัวมาก ท่านไหนสายแฟชั่นต้องไม่พลาดกับลุคนี้เด็ดขาด
2. สาวสายลุย ชุดยีน + รองเท้าผ้าใบ
อยากได้ลุคแบบเท่ ๆ ในวันที่เต็มไปด้วยความแอดเวนเจอร์การสวมกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบ มาพร้อมกับถุงเท้าผู้หญิงแบบถุงเท้าข้อสั้นเป็นอีกสไตล์ที่ Mix & Match ได้อย่างลงตัวที่สุด ท่อนบนอาจสวมเป็นเสื้อคลุมยีนเพื่อให้เข้าธีม หรือจะใส่แค่เสื้อเชิ้ตเพิ่มความเป็นทางการ หรือเสื้อยืดให้ดูชิลก็เก๋ไม่แพ้กัน เท่แบบมีระดับไม่ต้องคิดอะไรมากเลย
3. สาวสายหวานกับชุดเดรสกระโปรงพอง
เพิ่มความเป็นสาวหวานให้ดูฉ่ำวาวจนหนุ่มน้อยใหญ่ต้องหลงกับชุดเดรสกระโปรงพอง ซึ่งบางท่านอาจเรียกเป็นกระโปรงทรงฟักทอง หรือ Bubble Hem ก็ให้ความหมายเหมือนกัน ความพิเศษคือตรงชายกระโปรงจะเย็บกลับเข้าไปด้านในแบบชั้นเดียว ชายกระโปรงจึงพองขึ้น สวมกับถุงเท้าข้อสั้นรองเท้าส้นสูง รับรองสายหวานต้องเกิดแน่
4. สาวสายอินดี้กับชุดลายลูกไม้สุดคลาสสิก
อีกไอเดียในการ Mix & Match ชุดกับถุงเท้าผู้หญิงสวย ๆ หากเป็นสายอินดี้ตัวแม่ ไม่แคร์สื่อ ไม่แคร์ใครใด ๆ ทั้งสิ้น ลองสวมชุดลูกไม้สีสันสดใสแล้วใส่ถุงเท้าตาข่ายหรือถุงเท้าแบบบางดูก็ได้ เหมาะกับคนที่อยากเซ็กซี่เพิ่มความหรูหราเล็กน้อย พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูงคู่โปรดของคุณ ๆ งานนี้ความพิเศษไม่ต้องไปหาไหนไกลแล้ว
ซึ่งสาว ๆ คนใดที่กำลังหาถุงเท้าผู้หญิงสักคู่มาพร้อมเทคโนโลยีชั้นยอดช่วยลดกลิ่นเหม็นต้องไม่พลาด SMELLBLOCK™ Socks จาก GQ บอกลากลิ่นด้วยการนำเทคโนโลยี SmellBlock™ Technology สุดพิเศษเข้ามาใช้งาน บล็อกกลิ่นแบบไร้ที่ติ ผ้า Supersoft นุ่มสบาย ระบายอากาศดี แห้งเร็ว พร้อมการถักแบบพิเศษหนา ใส่กับรองเท้าแบบไหนก็ไม่ต้องกลัวเจ็บ ทนทาน ไม่ร่น ไม่ย้วยง่าย มีหลากหลายรุ่นให้ได้เลือก อย่างเช่น
- GQ SMELLBLOCK™ Socks Every Day No Show Collection สวมใส่ได้ทุกวัน เหมาะสำหรับทุกไลฟ์สไตล์
- GQ SMELLBLOCK™ Socks Sport Day Collection สาว ๆ สายสุขภาพใช้งานแล้วไม่ผิดหวัง

ถุงเท้าผู้หญิงพร้อมเป็นอีกไอเทมชั้นยอดในการเพิ่มเติมลุคของสาว ๆ ในสไตล์ที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นสายลุย สายเปรี้ยว สายหวาน หรือไม่ว่าใคร แถมการใส่ถุงเท้ายังช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากรองเท้ากัด การเสียดสีระหว่างเดิน และลดความเมื่อยล้าได้ในระดับหนึ่งด้วย เลือกให้ดีแล้วจับแมตช์กันเลย

กดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://gqsize.link/KCLYjv






 

“เท้าเหม็น” หนึ่งในปัญหากวนใจของทุกเพศทุกวัยมากที่สุดเมื่อต้องสวมรองเท้าหุ้มส้นนาน ๆ แล้วถอดออกมาปรากฏมีกลิ่นไม่พึงประสงค์โชยจนคนรอบข้างรู้สึกได้ หรือบางท่านแม้แค่สวมรองเท้าแตะแต่พอเดินหรือทำกิจกรรมสักพักเริ่มรู้สึกเหนียวเท้าแล้วมีกลิ่นจนรู้สึกเป็นกังวล คำถามคือเท้าเหม็นเกิดจากอะไร แล้ววิธีแก้เท้าเหม็นสามารถทำยังไงได้บ้าง มาหาคำตอบกันเลย
ตอบข้อสงสัยเท้าเหม็น คืออะไร เกิดจากอะไร
ภาวะเท้าเหม็น หรือ โบรโมโดซิส (Bromodosis) คือ ลักษณะของกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาจากเท้าซึ่งสาเหตุสำคัญของปัญหาเท้าเหม็นเกิดจากเท้าเกิดความชื้นในระหว่างที่กำลังทำกิจกรรม ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการอับชื้นอยู่ภายในรองเท้าเป็นเวลานานบวกกับความร้อนภายนอก แบคทีเรียบางชนิดจึงมีการเจริญเติบโต เช่น แบคทีเรียกลุ่ม Brevibacteria ทำหน้าที่ย่อยสลายเซลล์ผิวบริเวณเท้าที่ตายแล้วซึ่งในระหว่างนั้นจะทำการผลิตสารมีเทนไธออล (กลุ่มสารอินทรีย์ชนิดระเหยได้) กลิ่นคล้ายกำมะถัน มีผลกระทบให้เท้าของทุกคนเกิดกลิ่นเหม็นนั่นเอง
ถึงกระนั้นก็ตามสาเหตุของปัญหากลิ่นเท้าเหม็นก็ยังพบเจอได้จากปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ เหงื่อและการระบายอากาศที่ไม่ดีของถุงเท้า รองเท้า กลายเป็นความอับชื้น แบคทีเรียบางกลุ่มเติบโตได้ดี อาทิ Propionibacteria ทำหน้าที่สังเคราะห์กรดโพรพิโอนิก (propionic acid) ที่มีกลิ่นฉุน หรือ Staphylococcus epidermidis ทำหน้าที่สังเคราะห์กรดไอโซวาลิริก (Isovaleric acid) กลิ่นแรงคล้ายชีส ทั้งหมดนี้นำมาซึ่งความไม่พึงประสงค์ของกลิ่นเท้า
วิธีแก้กลิ่นเท้าเหม็น ทำอย่างไรได้บ้าง
สำหรับวิธีแก้เท้าเหม็นมีด้วยกันเยอะมากขึ้นอยู่กับเทคนิคหรือความสะดวกของแต่ละคนในการนำไปปรับใช้งาน ดังเช่น
- ดูแลสุขอนามัยเท้าให้ดี ตัดเล็บสั้น ทำความสะอาดซอกเล็บ ขัดเท้า อย่าทำให้เกิดเล็บขบ
- แช่เท้าในน้ำอุ่นจากนั้นซับจนแห้ง ห้ามให้เปียกชื้น
- การตากรองเท้าในพื้นที่แสงแดดจัดหรือการซักรองเท้าบ่อย ๆ
- เปลี่ยนถุงเท้าที่ใช้งานทุกวัน
- ใช้ผงดับกลิ่นโรยลงไปบริเวณรองเท้าและเท้าก่อนสวมใส่ หรือใช้สเปรย์ระงับกลิ่นเท้า

แนะนำถุงเท้าแก้ปัญหากลิ่นเท้าเหม็นจาก GQ
แต่สำหรับท่านไหนพยายามลองมาหลายวิธีแล้วทว่ายังไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง บวกกับต้องใส่ถุงเท้าแทบตลอดวัน ก็ต้องเปลี่ยนมาใช้ถุงเท้าที่มีนวัตกรรมจัดการกับปัญหาเท้าเหม็นโดยเฉพาะ ซึ่งถุงเท้า GQ เป็นคำตอบที่จะบอกลาความน่ากังวลใจเหล่านี้ออกไปได้เลย มีตัวเลือก 3 สไตล์ ได้แก่
- GQ SMELLBLOCK™ Socks Every Day No Show Collection สวมใส่ได้ทุกวันแบบไม่ต้องกังวลใจ
- GQ SMELLBLOCK™ Socks Sport Day Collection เล่นกีฬามัน ไร้กลิ่นรบกวน รองรับสรีระ
- GQ SMELLBLOCK™ Socks Work Day Collection ระบายอากาศดีเยี่ยม เสริมลุคให้ดูดียิ่งกว่าเคย
ด้วยการมีเทคโนโลยี SmellBlock™ ที่มี Odour Control Technology ดูดซับกลิ่นจากภายนอกแล้วกักเก็บไว้ภายใน บวกกับการใช้เนื้อผ้า Super  soft แห้งเร็ว ไม่เป็นขุยง่าย ช่วยเรื่องการระบายอากาศได้ดีขึ้นกว่าเดิม ยับยั้งแบคทีเรีย 24 ชม. เต็ม จะลุคไหนก็ไม่ใช่ปัญหา วิธีแก้กลิ่นเท้าเหม็นมาแรงแห่งยุค 

กดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://gqsize.link/KCLYjv

“ถุงเท้าข้อสั้น” เป็นอีกตัวเลือกยอดฮิตที่เจอะเจอได้ทั่วไปในการใช้งานสำหรับชีวิตประจำวันทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ด้วยความสะดวกต่อการสวมใส่ เหมาะสมกับทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งนี้ทั้งนั้นปัญหาถุงเท้าย้วย ถุงเท้าขาด และโดยเฉพาะเรื่องกลิ่นเท้าเหม็นเป็นสิ่งรบกวนกันอยู่ตลอด จึงอยากนำเสนอให้รู้จักกับผลิตภัณฑ์ดี ๆ จาก GQ รุ่น GQ Every Day No Show พร้อม 5 เหตุผลที่บอกว่าคุณควรเปลี่ยนมาใช้ทันที

5 เหตุผลที่ควรใช้ “ถุงเท้าข้อสั้น” จาก GQ
1. นวัตกรรมชั้นยอดบอกลาปัญหากลิ่นเหม็น
ไม่ว่าจะเป็นถุงเท้าข้อสั้นผู้หญิงหรือถุงเท้าข้อสั้นผู้ชายก็ตาม GQ มีการใช้เทคโนโลยี SmellBlock™ Technology ดูดซับโมเลกุลกลิ่นเหม็นทำหน้าที่เสมือนแม่เหล็กจัดการกับแบคทีเรีย ไขมัน ความร้อน และความชื้นบริเวณเท้าของคุณได้อย่างไร้ที่ติตลอด 24 ชั่วโมง เลยทีเดียว
2. ใส่สบายเท้าสุด ๆ
ด้วยผ้าที่ใช้ในการผลิตถุงเท้าข้อสั้น GQ เป็นแบบ Supersoft จึงสัมผัสได้ถึงความเย็นสบายในการสวมใส่ แห้งเร็ว ระบายอากาศดีเยี่ยม ไม่ก่อให้เกิดความอับชื้น ใช้วิธีถักแบบพิเศษหนานุ่ม สบายในทุกย่างก้าว ต่อให้ต้องใส่รองเท้าคัทชูหรือรองเท้าผ้าใบตลอดวันก็ไม่รู้สึกอับหรือเหนียวเท้าให้ต้องรำคาญใจใด ๆ ทั้งสิ้น
3. ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
สำหรับหนุ่ม ๆ ที่มองหาถุงเท้าข้อสั้นผู้ชายเพื่อทำกิจกรรมหนักตลอดวันไม่ต้องกังวลใจ ด้วยการเลือกวัสดุอย่างดีของเนื้อผ้าบวกกับเทคโนโลยีการผลิตชั้นสูง ถักทอด้วยเทคนิคพิเศษจึงทำให้ถุงเท้าของ GQ ทนทาน ไม่ร่น ไม่เป็นขุยง่าย ตอบสนองความต้องการได้กับทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตอย่างแท้จริง
4. ไม่ต้องกังวลเรื่องรองเท้ากัดหรือบาดเท้า
หลายท่านเวลาต้องใส่รองเท้าคู่ใหม่มักเจอกับปัญหารองเท้ากัดหรือบาดเท้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณข้อเท้าด้านหลัง นอกจากรู้สึกเจ็บ แสบ เป็นแผล ยังต้องคอยหาปลาสเตอร์มาปิดป้องกัน เสียบุคลิกโดยใช่เหตุ แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้งานถุงเท้าข้อสั้น GQ ทุกความน่ากังวลใจเหล่านี้จะหายไป เนื้อหนาพิเศษ ไม่ร่นง่าย ยืดตึงปิดข้อเท้าตลอดวัน
5. สีสันหลากหลายตามสไตล์ที่ชอบ
นอกจากไม่มีกลิ่นเท้าใด ๆ มากวนใจทำให้การใช้ชีวิตสบายใจมากยิ่งขึ้น จะถอดรองเท้าตอนไหน เมื่อไหร่ ไม่ต้องเขินอาย ถุงเท้าข้อสั้น GQ รุ่น Every Day No Show ยังมีสีสันให้เลือกแบบจุใจตามสไตล์ที่ชื่นชอบ พร้อมแถบซิลิโคน 3 เส้น ป้องกันส้นหลุด เรียกว่าทุกอย่างคิดมาเพื่อคุณอย่างแท้จริง

จากทั้ง 5 เหตุผลคงพอตอบได้ชัดเจนว่าถุงเท้าข้อสั้น SmellBlock™ Socks รุ่น Every Day No Show จาก GQ มีความพิเศษในเรื่องไหนบ้าง เน้นย้ำโดยเฉพาะปัญหากลิ่นเท้าเหม็นที่หลายท่านกำลังประสบพบเจอ แค่หันมาสวมใส่ถุงเท้าข้อสั้นผู้ชายสำหรับหนุ่ม ๆ หรือถุงเท้าข้อสั้นผู้หญิงสำหรับสาว ๆ ก็ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น บอกลากลิ่นรบกวนจมูกทั้งตนเองและคนรอบข้างไปเลย และยังมีตัวเลือกอื่น ๆ น่าสนใจทั้งรุ่น Ankle Collection หุ้มข้อ ไม่กัดส้น และ รุ่น Crew Collection ครึ่งแข้ง ผ้านุ่ม ซับแรงกระแทก ให้ใช้งานอีกด้วย ชอบแบบไหนจัดไปเลย

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://gqsize.link/KCLYjv

ใช่ว่ากางเกงในจะมีแค่สีสันหรือดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้หญิงเท่านั้น แต่สำหรับชายหนุ่มทั้งหลายก็สามารถเลือกทรงกางเกงในชายตามแบบที่ตนเองถูกใจ เพื่อการสวมใส่อันแสนสบาย สร้างความคล่องตัว ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ลองมาทำความรู้จักกับ 6 ทรง 6 สไตล์ กางเกงในชายมีแบบไหนน่าสนใจ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเองมากที่สุด

6 ทรงกางเกงในชาย ชอบแบบไหนเลือกได้เลย
1. ทรง Boxer 
นี่คือทรงของกางเกงชั้นในชายที่ได้รับความนิยมมากสุดแห่งยุคนี้คงไม่ผิดนัก ด้วยจุดเด่นคือ สวมใส่สบาย ไม่รู้สึกอึดอัดเสมือนสวมกางเกงขาสั้นอีกชั้นไว้ด้านใน มีลวดลายสีสันต่าง ๆ ให้เลือกเพียบ แต่ก็ไม่ถึงขั้นใส่แล้วออกเดินไปไหนมาไหนใกล้บ้านได้ และไม่เหมาะสมกับการสวมใส่เพื่อทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวเยอะ
2. ทรง Brief 
นี่คือกางเกงในผู้ชายสไตล์คลาสสิกที่ทุกคนคุ้นเคยดี ไม่ต้องดีไซน์อะไรเยอะ แค่ปิดน้องชายพร้อมสร้างความกระชับให้กับทุกการเคลื่อนไหวก็เพียงพอ มีหลายเนื้อผ้าให้เลือก แนะนำควรสวมใส่ที่รู้สึกสบาย ไม่อึดอัดจนเกินไป
3. ทรง Bikinis 
อีกสไตล์ของทรงกางเกงในชายที่คล้ายกับทรง Brief แต่ช่วงต้นขามีความเว้ามากกว่า จึงเพิ่มความกระชับเหมาะสมกับคนที่ต้องทำกิจกรรมหนัก ๆ หรือเคลื่อนไหวตัวเองตลอด ทว่าก็อย่าลืมเลือกให้พอดีกับน้องชายป้องกันการรัดติ้วจนเกินไปด้วย
4. Tanga / Thong
กางเกงในผู้ชายที่จะมีเนื้อผ้าบริเวณขอบเอว ก้น และตรงเป้า พูดง่าย ๆ คือ เนื้อผ้าตรงช่วงต้นขาจะถูกตัดออกไปจนหมด นิยมใส่สำหรับสายฟิตเนส เล่นกล้าม ต้องการโชว์ความสวยงามของเนื้อกล้ามต้นขา และข้อสำคัญมีความสบายมากแค่เลือกขนาดให้พอดีกับน้องชายก็ตอบโจทย์แล้ว
5. Trunk 
ให้นึกภาพกางเกงในชายทรง Boxer กับ Briefs ผสมกัน คือ ช่วงขายาวกว่าทรงปกติเล็กน้อยแต่ยังคงรัดรูปช่วงต้นขาไว้ ขณะที่ตรงน้องชายก็มีการดีไซน์ให้รัดเป้าเพื่อความโอบกระชับ สามารถทำกิจกรรมได้ตามสะดวก ระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ไม่อึดอัด
6. Jockstrap
ถ้าคิดว่าทรงกางเกงในชาย Tanga หรือ Thong แลดูเซ็กซี่แล้ว เจอทรงนี้เข้าไปยังต้องชิดซ้าย ด้วยเหตุว่าดีไซน์จะคล้ายกันมาก เพียงแค่เอาเนื้อผ้าด้านหลังที่ปิดก้นออกไปอีกส่วน อาจเพิ่มลูกเล่นด้วยการมีทำห่วง 2 ข้างบริเวณสะโพก หรือดีไซน์ตรงเป้าให้คล้ายกระจับนักมวย เหมาะสำหรับหนุ่ม ๆ สายเซ็กซี่ขยี้ใจโดยแท้

เป็นยังไงกันบ้างกับทรงกางเกงในชายแต่ละสไตล์ที่หยิบมานำเสนอกัน หากชอบแบบไหนหรือต้องทำกิจกรรมสไตล์ใดเป็นหลักแค่เลือกให้เหมาะกับตนเอง ที่สำคัญห้ามลืมดูขนาดเพื่อทุกการสวมใส่รู้สึกสบายกาย สบายใจ มีความสุขกับทุกวัน มั่นใจยิ่งกว่าเคย

Official Website : https://gqsize.gqsize.com/v20vz

แม้กางเกงในผู้ชายที่สวมใส่กันจริง ๆ แล้วอาจไม่ได้มีสีสันหรือลวดลายน่ารักอะไรให้เลือกมากมายเหมือนกับของสาว ๆเขา แต่ทราบหรือไม่การที่คุณถูกใจ “สีกางเกงในชาย” แบบไหน หรือนิยมซื้อสีใดมาสวมใส่อยู่ตลอด นั่นถือเป็นอีกวิธีที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของหนุ่ม ๆ ได้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ลองมาดูกันว่ากางเกงในชายสีสันที่คุณชอบสวมใส่ มีความหมายอะไรบ้างนะ
สีกางเกงในชายกับการบ่งบอกความเป็นตัวตนของคุณ
1. สีขาว
นับเป็นสีสุดคลาสสิกที่หนุ่ม ๆ นิยมใส่เป็นอย่างมาก ซึ่งท่านไหนมีความชอบส่วนตัวของการสวมกางเกงในผู้ชายสีนี้บ่งบอกถึงการเป็นคนคิดบวก มองโลกในแง่ดี มีความอ่อนโยนต่อสิ่งรอบตัวรวมถึงเพศตรงข้ามจึงเข้ากับผู้คนได้ง่ายมาก ไลฟ์สไตล์เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่ยึดติด รักสะอาด 
2. สีดำ
สีกางเกงในชายสุดฮิตติดลมบนที่หนุ่ม ๆ จำนวนมากนิยมสวมใส่ไม่แพ้กัน จะบอกนิสัยในเรื่องความหนักแน่น มีความมั่นอกมั่นใจในตนเองสูงมาก ชอบคิดแปลกแหวกแนว เชื่อถือในสิ่งที่ตนเองกำลังทำ บางครั้งจึงอาจถูกมองว่าเป็นคนหัวดื้อ ไม่ค่อยฟังใคร เอาแต่ใจ ดื้อเงียบอยู่เล็กน้อย
3. สีน้ำเงิน / กรมท่า
ใครที่ชอบใส่กางเกงในชายสีนี้จะมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามด้วยอุปนิสัยของความอ่อนโยน ชอบทำเรื่องโรแมนติกกับคนรักหรือคนที่ตนเองแอบชอบบ่อย ๆ เป็นคนรักความเงียบสงบ พึงพอใจกับสิ่งที่ตนเองมีอยู่ตอนนี้ ไม่ขวนขวายเรื่องไกลเกินเอื้อม แต่ถ้าตั้งเป้าหมายแล้วก็พร้อมพุ่งชนจนสุดเหมือนกัน
4. สีเทา
สีกางเกงในชายที่ผสานตัวตนของคนชอบสีขาวกับสีดำเอาไว้ในโทนกลาง ๆ คือ เป็นคนมีความคิดเป็นของตนเอง รักอิสระ เน้นความเรียบง่าย สิ่งไหนที่ทำแล้วรู้สึกยุ่งยากต่อชีวิตหรือทำให้เรื่องวุ่นวายจะขอเดินหนีไปดีกว่า ข้อสำคัญชอบสร้างมิตรภาพกับผู้อื่นมากกว่าสร้างปมทะเลาะเบาะแว้ง
5. สีน้ำตาล
สำหรับคนที่ชอบสวมกางเกงในผู้ชายสีนี้จะมีนิสัยรอบคอบ ความคิดทะเยอทยานภายใต้กระบวนการคิดอันซับซ้อน บางทีอาจดูเข้าใจยากไปบ้างแต่ก็พร้อมมีมุมที่จะสร้างความสนุกสนานให้กับตนเองและคนรอบข้างไม่รู้สึกเครียดเกินไป
6. สีแดง
กางเกงในชายสีสันสุดแสบทรวงที่หนุ่ม ๆ หลายท่านก็แอบหลงรัก บ่งบอกถึงความกระตือรือร้นในชีวิต คิดเร็วทำเร็ว ไม่ชอบการเสียเวลา ไม่แคร์คนรอบข้างที่มองเข้ามา แถมยังชอบหว่านเสน่ห์ให้กับคนใกล้ตัวหรือคนที่ตนเองชอบอยู่บ่อย ๆ ด้วย

เป็นยังไงกันบ้างแต่ละสีกางเกงในชายที่นำมาเล่าสู่กันฟังตรงกับอุปนิสัย หรือตัวตนคุณมากน้อยเพียงใด แต่ไม่ว่าจะใสสีไหนก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเลือกทรง ขนาด ให้เหมาะสำหรับตัวเอง เพื่อความกระชับ สวมใส่ได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

เว็บไซต์ : https://gqsize.gqsize.com/v20vz

ปัญหาผิวหนังในร่มผ้าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครตั้งใจให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ยิ่งถ้าเป็นคุณหนุ่ม ๆ ทั้งหลายคงรู้สึกเพลียใจน่าดูที่น้องชายต้องเจอกับอาการไม่พึงประสงค์ และยังมักทำให้เสียบุคลิกอีกด้วย จะดีกว่าหรือไม่หากมีหนทางในการสวมใส่กางเกงในชายอย่าง กางเกงใน GQ ที่เลื่องลืออย่างมากกับฉายา “กางเกงในไข่เย็น” กางเกงในชายใส่สบายที่ท่านต้องมีติดลิ้นชักบ้านเอาไว้เลย

โรคผิวหนังในร่มผ้า เรื่องไม่พูดเล่นสำหรับคุณผู้ชาย
โรคผิวหนังในร่มผ้าขอย้ำว่าไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และไม่ควรปล่อยผ่านเป็นอันขาด อาการเบื้องต้นที่สังเกตง่าย ๆ คือ รู้สึกคันในร่มผ้าทุกส่วน, คันตรงซอกหว่างขา บริเวณที่คันมักมีผื่นแดง ขอบบวมนูนเป็นวง บางคนมีตุ่มใส่เล็ก ๆ หรือขุยสีขาวร่วมด้วย สามารถขยายออกไปเรื่อย ๆ ได้หากไม่รักษาหรือแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี

สาเหตุเป็นส่วนใหญ่เกิดจากความอับชื้น การหมักหมมของสิ่งสกปรก เชื้อแบคทีเรีย เหงื่อไคลในกิจกรรมที่ผู้ชายอย่างเราต้องพบเจอตลอดวัน บวกกับหลายคนไม่ได้ใส่ใจเรื่องการเลือกกางเกงในผู้ชาย ใส่แบบไหนก็ได้ขอแค่เก็บน้องชายให้อยู่ก็พอ นำมาซึ่งบุคลิกและภาพลักษณ์ไม่ดี แถมยังกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญใจอีกต่างหาก

หยุดปัญหาโรคผิวหนังในร่มผ้า หันมาใช้กางเกงในชายใส่สบาย GQ ดีกว่า
อย่างที่กล่าวไปว่า ต้นเหตุส่วนหนึ่งมาจากการเลือกสวมใส่กางเกงในชายที่ไม่ตอบโจทย์ รัดแน่นมากเกินไป ผลิตจากวัสดุที่หนา ระบายอากาศไม่ดี ส่งผลถึงความอับชื้น มีกลิ่น เกิดการสะสมของเชื้อโรค ดังนั้นจึงขอนำเสนอให้ลองเปลี่ยนมาใช้งาน “กางเกงใน GQ” หรือที่หนุ่ม ๆ ชอบเรียกว่า “กางเกงในไข่เย็น”
กางเกงใน GQ เป็นกางเกงในชายใส่สบาย โดดเด่นด้วยนวัตกรรม GQ Cool Tech ที่เลือกใช้เส้นใยแบบพิเศษรูปแบบตาข่ายช่วยเพิ่มการระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม มีการผสมเจลลงไปบนเนื้อใยผ้า ส่งผลให้คุณผู้ชายทั้งหลายจะรู้สึก “เย็นไข่” ด้วยอุณหภูมิลดลงถึง 2 องศาเซลเซียส แห้งเร็ว กระจายความชื้น จึงไม่รู้สึกคันตลอดวันไปกับ GQ Quick Dry ทำกิจกรรมหนักแค่ไหนไม่รู้สึกแฉะ เหนียว หนัก

มีการออกแบบด้วยชิ้นส่วนผ้าพิเศษเพื่อประคองไข่ให้ลงหลุม อยู่ทรงทั้งวัน ลดการเสียดสีอันเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคผิวหนังในร่มผ้าทั้งแสบ คัน บวม เลือกได้ทั้ง 3 สไตล์ไม่ว่าจะเป็น
- All-day Secure เนื้อผ้าคอตตอน / สแปนเด็กซ์ ทรง Trunk นุ่มสบาย โอบอุ้มน้องชายให้อยู่ทรง ไม่เสียดสีตลอดวัน
- New Normal เนื้อผ้าคอตตอน / สแปนเด็กซ์ ทรง Bikini ทรงคุ้นเคย ผิวสัมผัสนุ่ม สวมใส่สบายกว่า
- Sports เนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์ / สแปนเด็กซ์ ทรง Trunk เนื้อสัมผัสเรียบ ลื่น แห้งเร็วกว่า สบายทั้งตัว
แค่เลือกกางเกงในชายใส่สบายจาก GQ ก็พร้อมกล่าวลาปัญหาโรคผิวหนังในร่มผ้าอันมีสาเหตุจากกางเกงในผู้ชายที่สวมใส่ แถมยังช่วยให้คุณ ๆใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขกับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันอีกด้วย

Official Website : https://gqsize.gqsize.com/v20vz

การออกกำลังกายกับผู้ชายหลาย ๆ คนคือของคู่กัน โดยเฉพาะการออกไปวิ่งทั้งตามสวนสาธารณะ หรือในฟิตเนส ซึ่งไม่ใช่แค่การเตรียมเสื้อผ้า รองเท้าสำหรับการออกกำลังกายเท่านั้น แต่การเลือก “กางเกงในวิ่ง” ที่ดีจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมทั้งก่อน ระหว่าง และหลังทำกิจกรรม ลองมาดูกันว่าหนุ่ม ๆ ทั้งหลายควรเลือกสวมใส่กางเกงในผู้ชายยังไงให้เหมาะสำหรับการวิ่งมากที่สุด
เลือกสวมกางเกงในวิ่งยังไงให้ตอบโจทย์
1. รู้สึกเบาสบาย ไม่อึดอัด
ประการแรกสำหรับใครก็ตามที่มองหากางเกงในชายสำหรับวิ่ง ต้องรู้สึกว่าสวมแล้วเบาสบาย ไม่โอบรัดน้องชายมากเกินไป ก็เพราะว่าจะช่วยให้คุณวิ่งหรือออกกำลังกายอย่างเพลิดเพลิน ไม่อึดอัดจนนำไปสู่ความรำคาญ ไม่สบายตัว แสดงบุคลิกไม่เหมาะสม ไปจนถึงเบื่อกับการวิ่งไปเลยก็มี
2. สังเกตเนื้อผ้าที่ผลิต
ที่จริงแล้วการใช้ผ้าธรรมชาติจะช่วยระบายกลิ่นอับชื้น กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้ดีกว่าผ้าใยสังเคราะห์ และยังไม่เกิดการสะสมของแบคทีเรียอีกต่างหาก ฉะนั้นหากจะสวมกางเกงในวิ่งทั้งทีห้ามลืมสังเกตเนื้อผ้าเพื่อช่วยให้สบายตัวตั้งแต่เริ่มวิ่งไปจนถึงไม่สร้างปัญหาหลังการวิ่งเสร็จ
3. สวมแล้วต้องไม่หลวมหรือคับเกินไป 
ในกรณีที่เลือกใส่กางเกงในผู้ชายเพื่อออกไปวิ่งแล้วคับเกินไปก็อึดอัดและสร้างปัญหาแบบข้อแรก แต่ถ้าเลือกตัวที่หลวมเกินเหตุก็มักรู้สึกไม่สบายใจ วิ่งแล้วไม่รู้สึกถึงการโอบรัดที่ดีของน้องชาย และอาจก่อให้เกิดการเสียดสีระหว่างผิวหนังกับเนื้อผ้ากางเกงใน นำไปสู่การบาดเจ็บอีกต่างหาก
4. ทรงกางเกงในก็ต้องใส่ใจด้วย
แท้จริงแล้วทรงกางเกงในวิ่งก็ไม่ต่างจากกางเกงในชายทั่วไป ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว ดังเช่น ทรง Boxer จะไม่โอบรัดมาก ใส่แล้วสบายตัว ไม่อึดอัด, ทรง Briefs ให้ความคล่องตัวในการวิ่ง เป็นต้น ฉะนั้นเลือกในสไตล์ที่เหมาะสมกับตนเองและรู้สึกถึงความเชื่อมั่นในทุกการเคลื่อนไหวเอาไว้จะดีที่สุด 

มองหากางเกงในวิ่งสำหรับผู้ชายแนะนำกางเกงในไข่เย็น GQ

เมื่อทราบแล้วว่าควรเลือกสวมกางเกงในวิ่งยังไงให้โดนใจ ตอบโจทย์การออกกำลังกายของตัวเองมากที่สุด อีกสิ่งที่อยากแนะนำสำหรับหนุ่ม ๆ สายเฮลตี้ทุกคนนั่นคือ การเลือกใช้ “กางเกงในไข่เย็น” GQ ที่มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดช่วยให้ไข่ของคุณเย็นลงถึง 2 องศาเซลเซียส ด้วยเจลเย็นที่ผสมในเนื้อผ้าส่วนเป้า และมีผ้าตาข่ายในจุดสะสมความร้อนช่องอับ ช่วยให้ระบายอากาศดี แถมยังออกแบบให้โอบรัดกับสรีระน้องชาย ไม่ปลิ้น ไม่เสียดสี ลดการบาดเจ็บ ที่สำคัญแห้งเร็ว ไร้ความอับชื้น จึงไม่รู้สึกเหนียวเหนอะ แฉะ หมักหมมให้รำคาญใจ มีทั้งทรง Briefs และ Boxer เลือกได้ตามชอบ ไม่ว่าจะวิ่งที่ไหนสวมใส่กางเกงในไข่เย็นเอาไว้มั่นใจได้ทุกสถานการณ์ พร้อมช่วยให้มีสุขภาพดียิ่งกว่าเคย 

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ : https://gqsize.gqsize.com/v20vz

สำหรับหนุ่ม ๆ ทุกคนการสวมใส่ “กางเกงในชาย” ถือเป็นเครื่องแต่งกายอีกชนิดที่ขาดไม่ได้เช่นกัน เนื่องมาจากช่วยเสริมบุคลิกของตนเองให้ดูดี แถมยังพาความมั่นใจ ความคล่องตัวในการใช้ชีวิตอีกต่างหาก ด้วยเหตุนี้การดูแลกางเกงในผู้ชายที่ตนเองใส่ประจำจึงสำคัญอย่างมาก เหตุเพราะนอกจากช่วยลดการเกิดโรคภัยกับน้องชายแล้ว ยังสวมใส่ได้ยาวนานไม่ต้องสิ้นเปลืองซื้อใหม่บ่อย ๆ อีกต่างหาก นี่จึงเป็นเคล็ดไม่ลับที่นำมาบอกต่อ

เคล็ดไม่ลับดูแลกางเกงในชาย สวมใส่ยาวนาน
หลักใหญ่ใจความในการดูแลควรเน้นเรื่องการซักและการตากเป็นหลัก หนุ่ม ๆ ทุกคนต้องซักกางเกงในชายที่ตนเองใส่ทุกวัน อย่าใช้งานประเภทกลับด้านใน-ด้านนอกเด็ดขาด ทั้งนี้เพราะนำมาซึ่งสิ่งสกปรก เชื้อโรค ความอับชื้น และโรคต่าง ๆ แต่ทั้งนี้การซักและตากก็มีสิ่งที่ควรรู้ด้วยเช่นกัน
- หากผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ อาทิ ผ้าฝ้าย ควรซักมือ สามารถใช้น้ำอุ่น ผึ่งแดดแรงจัดได้ รวมถึงการรีดด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมก็ไม่มีปัญหา
- หากผลิตจากผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้ากึ่งใยสังเคราะห์ ดังเช่น ผ้าเรยอน, ไลคร่า, ไนล่อน ฯลฯ ซักเครื่องได้แต่ควรใส่ในถุงซัก อุณหภูมิน้ำปกติ ไม่เย็นหรือร้อนเกินไป ผึ่งพื้นที่แดดอ่อน ไม่แนะนำให้รีด
- กรณีสวมใส่กางเกงในสีขาวหรือสีอ่อนต้องแยกซักกับผ้าสีเข้ม ป้องกันสีตกใส่
- การตากควรกลับด้านในออกมาเพื่อไม่ให้ผิวของเนื้อผ้าเสื่อมสภาพเร็วเกินจากการโดนแสงแดดเป็นเวลานานทุกวัน แต่ถ้าเป็นตอนฤดูฝนหรือฝนตกต้องคอยดูราวผ้าหรือพื้นที่การตกไม่ให้โดนละอองฝนด้วย เนื่องมาจากหากกางเกงในผู้ชายมีความชื้นจะทำให้เกิดเชื้อรา
- ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในการซัก ยิ่งถ้าเป็นของมีราคาแพง เพราะว่าส่วนใหญ่จะผ่านขั้นตอนการถักทอแบบพิเศษ เมื่อเจอกับน้ำยาดังกล่าวมักส่งผลให้อุดตัน การระบายความชื้นลดลง 
- ไม่แนะนำให้นำกางเกงในชายไปอบหรือปั่นแห้งในเครื่องอบผ้า ก็เพราะว่าจะทำให้เนื้อผ้าหดตัวเสียรูปทรงง่าย แถมหากเป็นกลุ่มมีสีสันยังมักทำให้สีซีดเร็วอีกด้วย
- กางเกงในผู้ชายที่ซื้อมาใหม่ทุกตัวควรมีการซักก่อนนำไปสวมใส่ทุกครั้ง แม้จะดูสะอาดมากแค่ไหนตอนซื้อมาก็ตาม นั่นเพราะความเป็นจริงยังมีสารเคมีจากกระบวนการผลิตตกค้างอยู่

หากหนุ่ม ๆ ทุกคนทำได้ตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้กางเกงในชายของคุณ ๆสวมใส่ได้ยาวนาน ไม่สิ้นเปลืองต้องซื้อใหม่บ่อย และข้อสำคัญยังเสมือนเป็นการดูแลน้องชายทางอ้อมไปในตัวไม่ให้เจอกับสิ่งสกปรก ความอับชื้น สวมใส่ได้อย่างมั่นใจทุกครั้งและทุกกิจกรรมที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ : https://gqsize.gqsize.com/v20vz