แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 24
109

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ



110
วินแดม แกรนด์ เรสซิเดนซ์ วงศ์อมาตย์ พัทยา (Wyndham Grand Residences Wongamat Pattaya)
ราคา : เริ่มต้น 4,790,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)

จุดเด่น
Wyndham Grand Residences วงศ์อมาตย์ พัทยา “The New Standard of Luxury Resort Living” การใช้ชีวิตแบบรีสอร์ทหรูหราทันสมัย ริมชายหาดวงศ์อมาตย์ พัทยา คอนโดมิเนียมลักชัวรี่ไฮไรซ์ 36 ชั้นพร้อมรูฟท็อป โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบสุดล้ำพร้อม Seaview ทุกยูนิต เติมเต็มไลฟ์สไตล์สุดหรูด้วย Concierge Service บริการระดับโรงแรม 5 ดาว ซึ่งเหมือนมีผู้ช่วยคนพิเศษช่วยจัดการหรือดำเนินธุรกิจสำคัญต่าง ๆ เพื่อประสบการณ์สุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นบริการติดต่อสำรองร้านอาหาร, Chef's Table, บริการจัดแคทเทอริ่ง, จองตั๋วเครื่องบิน, บริการแม่บ้านทำความสะอาด รวมไปถึงบริการซักรี ในส่วนของ Facilities ที่มีมากถึง 7 ชั้น สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์ และรองรับทุกกิจกรรมของผู้พักอาศัยทุกวัยให้ได้สัมผัสถึงประสบการณ์ที่แตกต่าง

รายละเอียดโครงการคอนโดมิเนียม-โปรโมชั่น
ชื่อโครงการ : วินแดม แกรนด์ เรสซิเดนซ์ วงศ์อมาตย์ พัทยา (Wyndham Grand Residences Wongamat Pattaya)
ดูคอนโดราคาใกล้เคียง  ดู ฮาบิแทท กรุ๊ป ทุกโครงการ 
เจ้าของโครงการ : ฮาบิแทท กรุ๊ป
ราคา : เริ่มต้น 4,790,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)
ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

ลักษณะทำเล : คอนโดตากอากาศ, คอนโดริมชายหาด
ความสูงคอนโด : High Rise (9 ชั้นขึ้นไป)
ลักษณะกรรมสิทธิ์ : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
ประเภทห้องที่มี : 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน, 4 ห้องนอน
ขนาดห้องที่มี : ตั้งแต่ 27.00 ถึง 220.00 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด : 3 ไร่ 40.40 ตร.ว.
จำนวนตึก : 1 อาคาร
จำนวนชั้น : 36 ชั้น
จำนวนห้อง : 385 ยูนิต

ที่จอดรถทั้งหมด : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
ค่าบำรุงส่วนกลาง : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
สาธารณูปโภค : สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, ประตู Key Card, อื่นๆ (ล็อบบี้, ห้องจดหมาย, ห้องเล้าจ์นั่งเล่น, บาร์, ออนเซ็น, สนามกอล์ฟจำลอง, ห้องนวด, คิดส์รูม, ทีนคลับ, พื้นที่สำหรับครอบครัว, จุดชมวิว 360 องศา, สกายบาร์, ลานบาร์บีคิว), Sky Lounge, ห้องประชุม
 
โซน : ชลบุรี
ที่ตั้งคอนโดมิเนียม : เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
Google Map | ดูรูปแผนที่
ขนส่งสาธารณะ : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
สถานที่สำคัญใกล้เคียง :
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

The Avenue Pattaya
Central Festival Beach Pattaya
Royal Grand Plaza
King Power Duty Free
Terminal 21 Pattaya
Tesco Lotus
Central Mirana
โรงพยาบาล

Pattaya memorial
Pattaya city Hospital
Pattaya International hospital

คอนโดใหม่ 2024: วินแดม แกรนด์ เรสซิเดนซ์ วงศ์อมาตย์ พัทยา (Wyndham Grand Residences Wongamat Pattaya) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/condo

111
เด็กหลายคนมักจะต้องเคยเข้ารับการถอนฟันน้ำนมตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งหลายคนอาจจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับการรักษาฟันที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะด้วยความเจ็บปวดที่จะต้องเจอในระหว่างการรักษา จึงทำให้เด็กๆอาจจะกลัวการเข้าพบทันตแพทย์ ทำให้ไม่อยากที่เข้ารับการตรวจฟัน และเมื่อปล่อยไว้เป็นเวลานาน ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมามากมาย จนอาจจะรุนแรงถึงขั้นเกิดการสูญเสียฟันไปเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากปัญหาฟันเกิดมีความร้ายแรงถึงขั้นสูญเสียฟันแล้ว ก็อาจจะเกิดปัญหาและผลกระทบต่อฟันบริเวณข้างเคียงได้ และส่งผลต่อฟันซี่อื่นๆ อาจจะทำให้เกิดอาการฟันล้ม ฟันห่าง ฟันซ้อนเกได้ ดังนั้น การดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟัน ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด


นอกจากจะเป็นการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ยังสามารถทำให้เรามีบุคลิกภาพที่ดี มีรอยยิ้มที่สดใสได้ การจัดฟันในเด็ก ไม่แม้แต่เป็นการช่วยส่งเสริมในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน แต่ยังช่วยปรับโครงสร้างของใบหน้าของเด็กให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ช่วยแก่ไขปัญหาในเรื่องของกระดูกขากรรไกรได้ด้วย เรียกว่า ได้ผลการรักษาที่มากกว่าการจัดฟันแน่นอน พ่อแม่ผู้ปกครอง หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า การจัดฟันในเด็กนั้นมีประโยชน์ต่อบุตรหลานของท่านอย่างไรบ้าง ซึ่งวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ว่าสามารถแก้ไขปัญหาฟันในเรื่องใดได้บ้าง เพื่อที่จะได้ช่วยตัดสินใจในการพาบุตรหลานของท่านเข้ามารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก เพื่อแก้ไขปัญหาฟันในระยะยาวได้

 
ต้องอธิบายก่อนว่า ปัญหาของฟันในวัยเด็กนั้น ที่มักจะพบได้บ่อยก็คือ ปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติ ซึ่งการจัดฟันในเด็กสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ปัญหาการสบฟันที่ผิดปกตินั้น คือลักษณะฟันที่มีความเบี่ยงเบนไปจากปกติเท่านั้น ซึ่งอาจจะผิดปกติมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ดังนั้น การมีการสบฟันผิดปกติจึงไม่มีความจำเป็นต้องรักษาทุกกรณี ซึ่งผลของการสบฟันผิดปกติสามารถส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก อาจจะทำให้เกิด โรคฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์ หรือส่งผลต่อสุขภาพทั่วไป เช่น ผลต่อระบบการบดเคี้ยวอาหาร ผลต่อข้อต่อขากรรไกร


นอกจากนี้ การสบฟันผิดปกติยังมีผลต่อสภาวะจิตใจทำให้ขาดความเชื่อมั่นในการเข้าสังคมได้ แต่ในวัยเด็กนั้น การสบฟันที่ผิดปกติ อาจจะก่อให้เกิดฟันผุได้ง่าย เพราะจะสามารถทำความสะอาดได้ยากและอาจจะส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหาร ในด้วยฟันของเด็กนั้น สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 7-15 ปี และสามารถรักษาได้อย่างเต็มที่และได้ผลดีกว่าการจัดฟันตอนโต ดังนั้น ในเรื่องของการสบฟันที่ผิดปกติในเด็ก ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันในเด็ก

 
ต่อมาในเรื่องของฟันห่าง ฟันซ้อนเก ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน เพราะเครื่องมือการจัดฟันนั้น จะช่วยทำให้ฟันเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมและที่ทันตแพทย์ได้วางแผนการรักษาเอาไว้ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องของฟันซ้อนเก ฟันห่าง การเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก ก็จะสามารถแก้ไขได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยไม่ต้องรอให้เข้าสู่ช่วงของวัยรุ่น แต่ในวัยเด็กนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรที่จะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจช่องปากและฟันกับทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อที่จะได้ตรวจช่องปากและฟันอย่างละเอียด


ถ้าหากมีสัญญาณของปัญหาฟัน ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจฟันกับทันตแพทย์ที่คลินิกได้ทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการรักษาอย่างถูกต้องเพื่อที่จะให้บุตรหลานของท่านมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี และยังสามารถช่วยแนะนำวิธีการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันได้ เพื่อที่จะได้ตระหนักถึงเรื่องของการดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี


จัดฟันเด็ก สามารถแก้ไขปัญหาฟันในเรื่องใดได้บ้าง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/

112
รู้จัก Doctor At Home
Doctor at Home คือแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอาการเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ ข้อมูลโรคที่รอบด้าน ทั้งอาการ สาเหตุ วิธีรักษา การป้องกัน ไปจนถึงการดูแลตนเอง อีกทั้งยังรวมข้อมูลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งคัดสรรมาเพื่อผู้ใช้งานของเรา

Doctor at Home โปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
เป็นการตรวจอาการเบื้องต้นแบบ interactive ที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ข้อมูลเบื้องต้นของโรคที่อาจจะเป็น รวมไปถึงวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ โดยโปรแกรมนี้ได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1” ของ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดทำให้ใช้งานได้บนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน LINE

ข้อมูลโรค พร้อมโปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อมูลโรค อาการ สาเหตุ การป้องกันและการรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง โดยเราได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2” โดย รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และข้อมูลโรคที่ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเพิ่มเติมมารวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่หลังจากอ่านข้อมูลโรคแล้ว ท่านยังสามารถตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ว่าท่านมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนั้น ๆ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
มีแล้วอุ่นใจ เจ็บป่วย ช่วยเหลือฉุกเฉิน แค่ Add LINE @DoctorAtHome ให้มาเป็น “หมอประจำบ้าน” คอยดูแลคุณอยู่ใกล้ๆ

ไลน์ ID  :  @DoctorAtHome
เว็บไซด์: https://doctorathome.com/





113
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” ตราเอ็มเมด แพ็ค 7 ซอง/กล่อง

“ออน (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) (ตราเอ็มเมด) เติมพลังให้ชีวิต”
สมองและใจที่ดี มันต้องไปกับร่างกายที่พร้อม
ด้วยภารกิจที่แสนจะหนักหน่วง ใจพร้อมแต่บางทีร่างกายมันไม่พร้อมไปด้วย เหนื่อยล้าเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต
MMED สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกายด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย

ข้อมูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน”
ชื่อผลิตภัณฑ์
: ออน
เลขที่ใบรับแจ้ง
: 13-1-15859-5-1159
ขนาดบรรจุ
: 1 กล่อง (7 ซอง)
วิธีรับประทาน
: รับประทานวันละ 1 ซอง (3 กรัม) เทผลิตภัณฑ์กรอกใส่ปาก เคี้ยวก่อนกลืนและดื่มน้ำตาม
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
: ควบคุมและตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานโดย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ส่วนประกอบสำคัญ
: L-Glutamine (100%) 200 mg.
Coenzyme Q10 (10%) 50 mg.
Goji berry extract 50 mg.
Zinc amino acid chelate (20%) 50 mg.
L-Glutathione (100%) 50 mg.
Blueberry juice powder 50 mg.
Taurine (100%) 20 mg.
Niacinamide (B3) (100%) 20 mg.
Thiamine hydrochloride (B1) 1 mg.
คุณประโยชน์
: กระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกายด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย

ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กล่อง      315    บาท
2 กล่อง      599    บาท
3 กล่อง      859     บาท

สนใจสั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” (ตราเอ็มเมด)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


114
เชื้อร้าย ฝุ่น มลภาวะเปลี่ยนปอดพัง เป็นปอดปัง ตัวช่วยสำคัญ “กระชายพลัส เอ็มเมด”บรรเทาอาการนอนน้อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย

คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ สาร Pandulatin A และสาร Pinostrobin ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสได้ 100%

จากงานวิจัยกระชาย มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชาย 4 ชนิด คือสาร Pinostrobin, Pinicembrin, Panduratin A และ Alpinetin ที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาผู้ป่วย ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้

จากงานวิจัยกระชาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
✅ คุณประโยชน์ของสารสกัดกระชายขาว ที่ช่วยลดและยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ในอากาศได้
✅ เมื่อปอดแข็งแรง การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากลมหายใจเข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย ผลิตเป็นพลังงานให้กับเซลล์
✅ และกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์ จึงส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี เราจึงไม่เหนื่อยหอบง่าย ไม่อ่อนเพลีย
“กระชายพลัส เอ็มเมด” โดยมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อการมีสุขภาพดี ปอดแข็งแรง พร้อมเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่แพร่ระบาด
สุขภาพปอดดี จะวิ่ง จะเดิน จะเวท ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลีย

มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นความสำคัญของ สารสกัดกระชายขาว จึงได้วิจัย พัฒนา และ สกัดสารสำคัญของกระชายขาว ที่มีคุณภาพ
จึงเป็นที่มาของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
ด้วยมาตรฐาน MST Standard จากมหาวิทยาลัยมหิดล จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณทาน กระชายพลัส เอ็มเมดคุณจะได้คุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีคุณภาพ ในการช่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรง ปอดมีสุขภาพดี

ส่วนประกอบสำคัญ
👉 สารสกัดกระชาย 200 มก.
👉 ยีสต์ เบต้า-กลูแคน 70% 100 มก.
👉 แคลเซียม แอสคอร์เบต ไดไฮเดรต (VitC) 60 มก.
👉 วิตามิน บี1, วิตามิน บี6, วิตามิน บี12
1 ขวด บรรจุ 30 แคปซูล (470 มิลลิกรัม/แคปซูล)

ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กระปุก      199    บาท
2 กระปุก      359    บาท
3 กระปุก     499     บาท


เลข อย. 13-1-02954-5-0548
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

ปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ เชื้อโรคในอากาศ อีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
เพื่อการมี สุขภาพดี ปอดแข็งแรง ภูมิต้านทานที่ดี ของคุณและคนที่คุณรัก

สนใจสั่งซื้อ กระชายพลัส เอ็มเมด (กระชายมหิดล)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


115
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: [email protected]
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



116
เมื่อใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่หรือเทศกาลต่างๆ หากท่านไหนที่กำลังมองหา รถกระบะรับจ้างพระราม3 เพื่อทำการขนย้ายที่พัก  ขนย้ายบ้าน ขนย้ายหอ ขนย้ายอพาร์ทเม้น ขนย้ายมอเตอร์ไซต์ ขนย้ายห้อง ขนย้ายสำนักงาน ขนย้ายสินค้าออกบูธ ขนย้ายสินค้าต่างๆ ทางเรายินดีให้บริการตลอดทุกช่วงฤดูกาลจาก รถรับจ้างขนส่ง ไม่ว่าจะเทศกาลไหนๆเราเปิดให้บริการตลอด 24ชม.  มาพร้อมโปร ลดแหลก แจกจริง ตลอดรถเที่ยวขากลับลดถึง 35% แจกของสัมนาคุณสำหรับผู้ที่ใช้บริการรถรับจ้างของเรา  เราจะจัดโปรในช่วงเดือน ธันวาคมไปถึงปลายเดือน ไม่ว่าทุกท่านจะอยู่ในเขตพื้นที่ไหนๆเรามี รถกระบะรับจ้างขนของพระราม3 ให้บริการครอบคลุมในทั่วทุกพื้นที่ในเขตกรุงเทพ


รถรับจ้างพระราม3 มีทั้ง รถกระบะรับจ้างพระราม3 รถสี่ล้อรับจ้างพระราม3 รถสี่ล้อใหญ่รับจ้างพระราม3 รถปิ๊คอัพรับจ้างพระราม3 รถ4ล้อรับจ้างพระราม3 รถรับจ้าง4ล้อพระราม3 รถรับจ้างย้ายบ้านพระราม3 รถขนของพระราม3 และรถอื่นๆ ที่มีหลากหลายขนาดให้เลือกตามความเหมาะสมสำหรับการใช้งานขนย้ายของต่างๆ ด้วยราคาถูกและการบริการที่ดี มาพร้อมบริการคนยกของที่มีความเป็นมืออาชีพทุกท่านต้องการคนยกของกี่คนสามารถระบุกับทางทีมงานได้เลยค่ะหรือต้องการจะให้ทางทีมงานเป็นคนประเมินหน้าให้ว่า ขนาดของทั้งหมดที่จะให้ทีมงานทำการขนย้ายต้องใช้คนโดยประมานเท่าไหร่ เราจะประเมินตามจริง หากลูกค้าท่านใดต้องการจองรถรับจ้างขนของล่วงหน้า สามารถจองกับเราได้ทันทีค่ะโดยการ โทร แจ้งระบุวันเวลา สถานที่ ชนิดของที่จะทำการขนย้ายล่วงหน้าได้ทันทีค่ะ


รถรับจ้างกรุงเทพ วิ่งขนย้ายของทั่วทุกเขต ราคาต่อรองได้ สายชิวมาเลย

สำหรับในช่วงเทศกาลนี้จะมีการขนย้ายของเป็นจำนวนมาก และการจราจรติดขัดแน่นอนเพราะทุกคนต่างพากันกับต่างจังหวัดหรือบ้านเกิดของตัวเองเพื่อไปฉลองงานปีใหม่ หรือต่างพาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่เที่ยวต่างๆ ไม่ว่าทุกท่านจะเดินทางด้วยยานพาหนะตัวเอง หรือ เช่ารถกลับ ทางเราขอให้ทุกท่านเดินทางด้วยความปลอดภัยนะค่ะ

ท่านใดที่ต้องการใช้บริการรถรับจ้างกับทีมงานของเราสามารถติดต่อสอบถามกันเข้ามาได้ตามที่อยู่ ด้วยบริการ รถกระบะรับจ้างพระราม3 บริการด้วยใจ ราคายุติธรรม รับรองว่าไม่ผิดหวังที่ใช้บริการขนส่ง เราอย่างแน่นอน ซึ่งเราบริหารงานและแก้ไขปัญหาในงานขนย้ายให้กับลูกค้ามาอย่างมากมาย อย่างเช่น บริษัท ห้างร้าน บุคคลธรรมดา จะขนย้ายสินค้าอุปโภค บริโภค งานย้ายไซด์งานก่อสร้าง งานขนย้ายสินค้าเกษตร ขนย้ายห้องพัก ขนย้ายบ้าน ย้ายคอนโด และการ รับจ้างขนของพระราม3 อื่นๆอีกมากมายด้วย



ทำไมเราถึงต้องเลือก รถกระบะรับจ้างพระราม3 ที่อยู่ใกล้

สำหรับผู้ใช้บริการ รถสี่ล้อรับจ้างพระราม3 ในหลายท่านที่กำลังจะใช้ รถกระบะรับจ้างพระราม3 หรือใช้รถออกจากอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครต้องเข้าใจก่อนว่าในเขตกรุงเทพมหานครนั้นเป็นเขตพื้นที่ที่มีรถติดเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการขนย้ายของในแต่ละครั้งจึงต้องมีเวลามาพอสมควร ถ้าหากเป็นช่วงระยะเวลาที่มีจราจรครับข้างจะทำให้การขนย้ายสินค้าของเรานั้นล่าช้าออกไปด้วย ถึงแม้ว่าเราจะใช้รถวิ่งบนทางด่วนก็ตาม ดังนั้นการที่เราจะใช้ รถกระบะรับจ้างขนของพระราม3 เราควรที่จะใช้รถที่อยู่ใกล้พื้นที่ โดยเราอาจจะค้นหาด้วยคำว่า รถรับจ้างขนของพระราม3

ซึ่งจะมีตัวเลือกให้เราเลือกอย่างมากมายและรถกระบะรับจ้างพระราม3 จึงต้องอยู่ใกล้เรามากที่สุดและการขนย้ายในแต่ละครั้งจะต้องเผื่อเวลาในการขนย้ายของอย่างน้อย 3ถึง 4 ชั่วโมงเผื่อว่าจะได้ให้รถได้วิ่งเข้าไปถึงหน้างาน ในบางครั้งหากเราได้รถอยู่ในพื้นที่ที่ไกลการจราจรที่ติดขัดจะทำให้งานของเราล่าช้าไปด้วย ซึ่งถ้าหากว่าลูกค้ายังไม่มีความมั่นใจในการใช้รถกระบะรับจ้างหรือไม่มั่นใจว่าผู้ให้บริการรายนั้นจะใช้รถอยู่ในพื้นที่หรือไม่ท่านสามารถติดต่อเข้ามาสอบถามที่ ขนส่ง กับเราได้ซึ่งเรารถขนของจำนวนมากที่อยู่ไกลในเขตและจะไม่ทำให้งานล่าช้าหรือเสียเวลาอย่างแน่นอน



รถรับจ้างขนของกรุงเทพ รถกระบะรับจ้างพระราม3 ย้ายคอนโด ย้ายบ้าน ย้ายหอ อื่นๆ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/2

117

มะเร็งลำไส้เล็ก พบได้ค่อนข้างน้อย พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย พบมากขึ้นตามอายุ อายุเฉลี่ยที่พบประมาณ 60 ปี


สาเหตุ

ยังไม่ทราบแน่ชัด พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งชนิดนี้ ได้แก่

    การสูบบุหรี่และการดื่มสุราจัด
    การกินอาหารที่มีไขมันสัตว์สูง เนื้อแดง เนื้อสัตว์หมักเกลือหรือรมควัน
    การมีประวัติเป็นติ่งเนื้อในลำไส้ชนิดถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ (familial adenomatous polyposis) หรือโรคลำไส้อักเสบ ที่ชื่อว่า โรคครอห์น (Crohn’s disease)
    การมีประวัติเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
    การมีประวัติว่ามีพ่อแม่หรือพี่น้องเป็นมะเร็งทางเดินอาหาร (กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ตับ ถุงน้ำดี) ทางเดินปัสสาวะ (ไต กระเพาะปัสสาวะ) รังไข่ มดลูก สมอง หรือผิวหนังซึ่งเกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางกรรมพันธุ์


อาการ

มีอาการปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดหรือถ่ายดำ ซีด น้ำหนักลด อาจมีอาการปวดท้องรุนแรงและอาเจียนจากภาวะลำไส้อุดกั้น บางรายอาจมีอาการดีซ่านร่วมกับถ่ายอุจจาระสีซีดขาวจากภาวะน้ำดีอุดกั้น หรือคลำได้ก้อนในท้อง


ภาวะแทรกซ้อน

เมื่อก้อนมะเร็งโตขึ้น ทำให้ทางเดินอาหารอุดกั้น (ปวดท้อง อาเจียน) มีเลือดออก (ทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดหรือถ่ายดำ โลหิตจาง)

มะเร็งมักลุกลามไปที่อวัยวะข้างเคียง ในช่องท้อง (ทำให้ปวดท้อง ท้องมาน) ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง แอ่งเหนือไหปลาร้า และในระยะท้ายมักแพร่กระจายผ่านกระแสเลือดไปที่ปอด (เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก), ตับ (เจ็บชายโครงขวา ตาเหลืองตัวเหลือง ท้องมาน), กระดูก (ปวดกระดูก กระดูกพรุน กระดูกหัก ปวดหลัง ไขสันหลังถูกกดทับ) และอาจไปที่สมอง (ปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก เวียนศีรษะ บ้านหมุน เดินเซ แขนขาชาและเป็นอัมพาต ชัก) เกิดภาวะแทรกซ้อนของอวัยวะต่าง ๆ ที่มะเร็งแพร่กระจายไป


การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยเอกซเรย์ลำไส้โดยการกลืนแป้งแบเรียม ตรวจอัลตราซาวนด์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ใช้กล้องส่องตรวจลำไส้และตัดชิ้นเนื้อนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ

หากพบว่าเป็นมะเร็งก็จะทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีต่าง ๆ (เช่น เอกซเรย์, อัลตราซาวนด์, เอกซเรย์คอมพิวเตอร์, การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า-MRI, การตรวจเพทสแกน-PET scan เป็นต้น) เพื่อประเมินว่าเป็นมะเร็งระยะใด


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาด้วยการผ่าตัด บางรายอาจให้เคมีบำบัด และ/หรือรังสีบำบัด ขึ้นกับชนิดของเซลล์มะเร็งและระยะของโรค

ผลการรักษา หากเป็นมะเร็งระยะแรก การรักษาได้ผลดี (มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปีประมาณร้อยละ 85) แต่ถ้าเป็นมะเร็งระยะท้าย การรักษาได้ผลไม่ดี (มีอัตราการรอดชีวิตเกิน 5 ปีประมาณร้อยละ 40)


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดท้องบ่อยหรือปวดท้องรุนแรง, ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดหรือถ่ายดำ, ซีด, ตาเหลืองตัวเหลือง และอุจจาระสีซีดขาว, น้ำหนักลด เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้เล็ก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไม่สบายหรืออาการผิดปกติ เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ชัก แขนขาชาหรืออ่อนแรง ซีด มีเลือดออก ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน เบื่ออาหารมาก กินไม่ได้ ดื่มน้ำไม่ได้ เป็นต้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงจึงไม่อาจหาทางป้องกัน

อย่างไรก็ตาม ก็อาจลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้เล็กด้วยการปฏิบัติ ดังนี้

    ลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันสัตว์สูง เนื้อแดง เนื้อสัตว์หมักเกลือหรือรมควัน
    ไม่สูบบุหรี่
    หลีกเลี่ยงการดื่มสุราจัด

ข้อแนะนำ

1. ผู้ที่มีอาการปวดท้องเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือถ่ายอุจจาระเป็นเลือดหรือถ่ายดำ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด

2. ปัจจุบันมีวิธีบำบัดรักษาโรคมะเร็งใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้โรคหายขาดหรือทุเลา หรือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้ป่วยจึงควรติดต่อรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็ง มีความมานะอดทนต่อผลข้างเคียงของการรักษาที่อาจมีได้ อย่าเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น หากสนใจจะแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี



ตรวจอาการ: มะเร็งลำไส้เล็ก (Small intestine cancer) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/symptom-checker

118
หลังจากที่ กรุงศรี ออโต้ ได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ระยะที่ 3 ตามแนวทางจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำหรับสินเชื่อยานยนต์ทุกประเภท ตามรายละเอียดด้านล่างนี้

1. ลดค่างวดขยายเวลาผ่อน
เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ให้ลูกค้ามีสภาพคล่องมากขึ้น

2. รวมหนี้กับสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อรายย่อย
เพื่อช่วยให้ดอกเบี้ยรวมลดลง ง่ายต่อการผ่อนชำระ

3. ปิดบัญชีก่อนกำหนด สามารถลดดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ 50%
เพื่อช่วยให้ลูกค้าปลดภาระหนี้ได้เร็วขึ้น (เฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อ)


และ 4. พักชำระค่างวดสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรุนแรง
เพื่อช่วยให้เพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกค้า และนำเงินไปใช้จ่ายในช่วงที่ได้รับผลกระทบนี้ได้
ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรุนแรง สามารถแจ้งความประสงค์เพื่อเข้าร่วมมาตรการ "พักชำระค่างวด" ได้ทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์
เชื่อว่า ในปัจจุบันมีทั้งผู้ที่เข้าร่วมมาตรการแล้ว และผู้ที่กำลังตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมมาตรการ "พักชำระค่างวด" นี้ดีหรือไม่? ก่อนอื่น เราลองมาดูวิธีการคำนวณดอกเบี้ยที่เกิดจากการพักชำระค่างวดกันก่อนว่า ดอกเบี้ยดังกล่าวถูกคิดคำนวณอย่างไร และจะทำอย่างไรให้คุ้มที่สุดเมื่อต้องกลับมาจ่ายค่างวดหลังสิ้นสุดการพักชำระ เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ และเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป

กรุงศรี ออโต้ ใช้วิธีการคำนวณดอกเบี้ยช่วงพักชำระค่างวด ตามเกณฑ์และประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวคือ การนำจำนวนเงินของค่างวดช่วงที่พักชำระมา คูณ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective Interest Rate หรือ EIR) ซึ่งระบุในสัญญาปัจจุบันของลูกค้า และ หาร ด้วยจำนวนเดือนต่อปี = (ค่างวดช่วงพักชำระค้างสะสม x EIR) /12

โดยดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในช่วงพักชำระนั้น จะถูกคำนวณสะสม ตั้งแต่วันที่กลับมาชำระค่างวดปกติหลังการพักชำระไปตลอดอายุสัญญา หรือจนกว่าจะปิดบัญชี หรือจนกระทั่งชำระเงินค่างวดที่พักชำระไว้หมด (แล้วแต่กรณีใดเกิดขึ้นก่อน)

ซึ่งเมื่อพ้นระยะเวลาพักชำระแล้ว หากเราสามารถชำระค่างวดเกินกว่ายอดที่เรียกเก็บได้ เงินส่วนที่ชำระเกินจะถูกนำไปตัดชำระค่างวดทีพักชำระเอาไว้ ซึ่งจะทำให้จำนวนเงินค่างวดที่พักชำระและดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นลดลง ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่เกิดจากการพักชำระนั้น จะถูกเรียกเก็บพร้อมค่างวดในงวดสุดท้าย
เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่มากขึ้น เราลองมาดูตัวอย่าง ทั้ง 3 แบบด้านล่างนี้ และพิจารณาถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการกลับมาชำระที่แตกต่างกันไปพร้อมกัน
 

แบบที่ 1 กลับมาจ่ายค่างวดปกติ (ไม่ทบเพิ่ม)

ตัวอย่าง : ค่างวดปกติงวดละ 10,000 บาท เหลือผ่อนอีก 5 เดือน พักชำระค่างวด จำนวน 2 งวด งวดละ 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 6%
คำนวณดอกเบี้ยช่วงพักชำระค่างวด ได้ดังนี้

ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 1 = (10,000 x 6%) /12 = 50 บาท
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 2 = (20,000 x 6%) /12 = 100 บาท
**รวมดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 100 + 50 = 150 บาท
คำนวณดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม หลังการพักชำระค่างวด ได้ดังนี้
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 20 = (20,000 x 6%) /12 = 100 บาท
**ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 100 + 150 = 250 บาท
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 21 = (20,000 x 6%) /12= 100 บาท
**ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 100 + 250 = 350 บาท
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 22 = (20,000 x 6%) /12 = 100 บาท
**ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 100 + 350 = 450 บาท
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 23 = (10,000 x 6%) /12 = 50 บาท
**ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 50 + 450 = 500 บาท
ยอดชำระในงวดสุดท้าย = ค่างวดปกติ + ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 10,000 + 500 = 10,500 บาท


สรุป : การกลับมาจ่ายปกติ (ไม่ทบเงินเพิ่ม) จะทำให้เกิด "ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม" เต็มจำนวน สำหรับจ่ายพร้อมค่างวดในงวดสุดท้าย
 แบบที่ 2 จ่ายทบเพิ่ม เดือนละ 2,000 บาท

ตัวอย่าง : ค่างวดปกติงวดละ 10,000 บาท เหลือผ่อนอีก 5 เดือน พักชำระค่างวด จำนวน 2 งวด งวดละ 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 6%
คำนวณดอกเบี้ยช่วงพักชำระค่างวด ได้ดังนี้

ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 1 = (10,000 x 6%) /12 = 50 บาท
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 2 = (20,000 x 6%) /12 = 100 บาท
**รวมดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 100 + 50 = 150 บาท
คำนวณดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม หลังการพักชำระค่างวด ได้ดังนี้
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 20 = (18,000 x 6%) /12 = 90 บาท
**ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 150 + 90 = 240 บาท
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 21 = (16,000 x 6%) /12 = 80 บาท
**ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 240 + 80 = 320 บาท
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 22 = (14,000 x 6%) /12 = 70 บาท
**ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 70 + 320 = 390 บาท
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 23 = (2,000 x 6%)/12 = 10 บาท
**ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 10 + 390 = 400 บาท
ยอดชำระในงวดสุดท้าย = ค่างวดปกติ + ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 2,000 + 400 = 2,400 บาท


สรุป : การกลับมาจ่ายค่างวด โดยทบเพิ่มอีกเดือนละ 2,000 บาท จะช่วยลดภาระในการจ่าย "ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม" ให้น้อยลงได้
 แบบที่ 3 จ่ายทบเพิ่ม เดือนละ 5,000 บาท

ตัวอย่าง : ค่างวดปกติงวดละ 10,000 บาท เหลือผ่อนอีก 5 เดือน พักชำระค่างวด จำนวน 2 งวด งวดละ 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 6%
คำนวณดอกเบี้ยช่วงพักชำระค่างวด ได้ดังนี้

ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 1 = (10,000 x 6%) /12 = 50 บาท
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 2 = (20,000 x 6%) /12 = 100 บาท
**รวมดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 100 + 50 = 150 บาท
คำนวณดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม หลังการพักชำระค่างวด ได้ดังนี้
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 20 = (15,000 x 6%) /12 = 75 บาท
**ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 150 + 75 = 225 บาท
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 21 = (10,000 x 6%) /12= 50 บาท
**ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 225 + 50 = 275 บาท
ดอกเบี้ยพักชำระงวดที่ 22 = (5,000 x 6%) /12 = 25 บาท
**ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 275 + 25 = 300 บาท
ยอดชำระในงวดสุดท้าย = ค่างวดปกติ + ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม = 5,000 + 300 = 5,300 บาท


สรุป : การกลับมาจ่ายค่างวด โดยทบเพิ่มอีกเดือนละ 5,000 บาท นอกจากจะช่วยลดภาระในการจ่าย "ดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสม" ให้น้อยลงได้แล้ว ยังทำให้ผ่อนหมดเร็วขึ้นอีกด้วย
ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากตัวอย่างทั้ง 3 แบบข้างต้นแล้ว เราพอจะสรุปได้ว่า เมื่อพ้นระยะเวลาพักชำระค่างวดแล้ว หากเรายังสามารถชำระค่างวดในแต่ละเดือนได้เกินกว่ายอดที่เรียกเก็บ (ทบเพิ่ม/โปะ) มากเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้ภาระที่เกิดจากดอกเบี้ยพักชำระค้างสะสมน้อยลงเท่านั้น เรียกว่า ยิ่ง "ทบ" มาก ยิ่งทำให้จ่ายดอกเบี้ยลดลง และค่างวดก็จะหมดไวตามไปด้วย หรือ พูดง่าย ๆ ก็คือ ขยันโปะ หมดไว สบายใจ นั่นเอง


รถแลกเงิน: มาตรการ "พักชำระค่างวด" กับ "กรุงศรี ออโต้" กลับมาจ่ายคืนแบบไหนดี? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/money/article/111512

119
ใครที่ชอบนอนดึกตื่นเช้า จะด้วยภาระหน้าที่การงาน ติดหนังติดละคร นอนดูบอลยามดึก กว่าจะได้ล้มตัวลงนอนก็ปาเข้าไปค่อนคืน แถมยังต้องตื่นแต่เช้ามาผจญกับวันใหม่ ยังไงๆ ก็ต้องง่วงหงาวหาวนอนกันเป็นธรรมดา แถมยังทำให้ไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่าเหมือนกับวันที่พักผ่อนเต็มที่อีกด้วย


และอาหารที่กินเข้าไปก็เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ความสดชื่นกลับมาเยือนอีกครั้ง “108 เคล็ดกิน” ก็มีคำแนะนำสำหรับผู้ที่อยากสดชื่นในยามเช้า เริ่มต้นจากสิ่งที่ไม่ควรกินกันก่อน นั่นคือ อาหารทอด หรืออาหารมัน อาหารเค็มจัด และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะอาหารเหล่านี้จะยิ่งทำให้อาการนอนน้อยแย่ลงไปอีก

ส่วนอาหารที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายก็คือ อาหารพวกผัก ผลไม้ อาหารจำพวกนี้จะมีโครเมียม ที่ช่วยให้รักษาระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย โดยเฉพาะในแอปเปิ้ล กล้วย และมันฝรั่ง

อาหารที่มีวิตามินบี และซี วิตามินบีจะช่วยลดอาการนอนไม่หลับ ช่วยให้สมองผ่อนคลาย และทำให้ประสาทตื่นตัว พบมากในข้าวกล้อง ธัญพืชต่างๆ ไข่ เนื้อสัตว์ เป็นต้น ส่วนวิตามินซี จะช่วยต้านความเหนื่อยล้าของร่างกาย สร้างภูมิต้านทาน พบมากในผักและผลไม้สด และผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าจากความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดด้วย

ควรกินอาหารเบาๆ ย่อยง่ายๆ กระเพาะจะได้ไม่ต้องทำงานหนักมากเกินไป อย่างเช่น กินเนื้อปลา จะได้โปรตีนที่ย่อยง่าย ได้รับไขมันชนิดดี เช่นโอเมก้า 3 ที่จะช่วยบำรุงสมอง สร้างสมาธิและความจำให้ดีขึ้นเวลาอดนอน กินถั่วเมล็ดแห้ง ข้าวซ้อมมือ จมูกข้าวสาลี และธัญพืชต่างๆ นอกจากจะย่อยง่ายแล้ว ก็ยังมีโพแทสเซียมและแมกนีเซียมที่ช่วยบำรุงประสาท และช่วยให้จิตใจแจ่มใสสดชื่น

สุดท้าย ต้องดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อเรียกความสดชื่นให้กลับคืนมา การที่พักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ และอาจเกิดอาการร้อนใน การดื่มน้ำเข้าไปชดเชยให้เพียงพอนั้นจะช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลเข้าสู่ภาวะปกติได้ และกลับมาสดชื่นเหมือนเดิม

แต่ข้อสำคัญ ก็ไม่ควรนอนน้อยเกินไป หรืออดนอนบ่อยๆ เพราะจะทำให้ร่างกายทรุดโทรม หน้าตาไม่ผ่องใส ไม่สดชื่น



นอนดึก-ตื่นเช้า กินอะไรให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

120
เดอะ บลิซ แอท ทเวนตี้ไฟว์ (The Blisz @Twenty-Five)
ราคา : เริ่มต้น 5,490,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)

จุดเด่น
Homeoffice เหมาะสำหรับบ้านที่ทำธุรกิจสามารถทำงานที่บ้าน เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วนเพียง 2 กิโลเมตร ไม่ต้องเสียเวลา เดินทาง ให้คุณได้ใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น คุณสามารถเดินเข้าเมืองได้ทั้งทางด่วน และ สะพานพระราม 3




รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ : เดอะ บลิซ แอท ทเวนตี้ไฟว์ (The Blisz @Twenty-Five)
ดูบ้านราคาใกล้เคียง  ดู วาส อพาร์ทเม้นท์ ทุกโครงการ 
เจ้าของโครงการ : วาส อพาร์ทเม้นท์
ราคา : เริ่มต้น 5,490,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)
 
ประเภทบ้าน : ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome), โฮมออฟฟิศ
ลักษณะทำเล : บ้านใกล้เมือง
พื้นที่โครงการ : 2 ไร่ 2 งาน 78.00 ตร.ว.
จำนวนบ้าน : 28 หลัง
แบบบ้านทั้งหมด : 1 แบบ
เนื้อที่บ้าน : 24 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย : 240.0 ตร.ม.
จำนวนชั้น : 3.5 ชั้น
หน้ากว้าง : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
จำนวนห้องนอน : 3 ห้อง
จำนวนที่จอดรถ : 1 คัน
สาธารณูปโภค : n/a

ขนส่งสาธารณะ : ใกล้ทางด่วน (ทางด่วนเฉลิมมหานคร), ใกล้ถนนสายหลัก (พระราม 2), รถไฟฟ้า ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน สนามกีฬาแห่งชาติ - บางหว้า (สถานีวงเวียนใหญ่ - 5 กม.), ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน สนามกีฬาแห่งชาติ - บางหว้า (สถานีวงเวียนใหญ่ - 5 กม.)รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน สนามกีฬาแห่งชาติ - บางหว้า (สถานีวุฒากาศ - 8 กม.)

สถานที่สำคัญใกล้เคียง :
โฮมโปร
เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2
บิ๊กซี พระราม 2
รพ.บางปะกอก 9
รพ.บางมด
รพ.นครธน
 
โซน : พระราม 2, ดาวคะนอง, บางขุนเทียน
ที่ตั้ง : ถ.พระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ


ทาวน์โฮม เดอะ บลิซ แอท ทเวนตี้ไฟว์ (The Blisz @Twenty-Five) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/house/townhouse-townhome/

121
อาหารและสมุนไพรหลากหลายชนิดที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยบำรุงสมอง ป้องกันและรักษาโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะแปะก๊วย น้ำมันปลา และน้ำมันมะพร้าวที่มีการกล่าวถึงคุณประโยชน์ เป็นอาหารบำรุงสมอง ความคิด ความทรงจำอย่างแพร่หลาย แต่รู้หรือไม่ว่าข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ในทุกวันนี้พูดถึงการรักษาทางเลือกเหล่านี้ว่าอย่างไรบ้าง


อัลไซเมอร์เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะสมองเสื่อม ส่งผลกระทบด้านความคิด ความทรงจำ และการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยอย่างร้ายแรง ปัจจุบันพบว่ามีผู้สูงอายุป่วยด้วยโรคนี้เป็นจำนวนมาก โดยคาดว่าในปี 2573 สถิติผู้ป่วยในไทยจะพุ่งขึ้นสูงถึง 1,117,000 คน ทว่าก็ยังไม่พบแนวทางการรักษาทางการแพทย์ที่จะช่วยให้หายได้ จึงเกิดการตื่นตัวและมีการอ้างถึงการป้องกันและการรักษาทางเลือกโดยใช้สมุนไพรหรืออาหารต่าง ๆ ขึ้นมาจำนวนมาก

แปะก๊วย พืชสมุนไพรยอดนิยมที่กล่าวกันว่ามีสรรพคุณช่วยบำรุงความจำ เสริมสร้างการทำงานของสมอง ป้องกันและชะลออาการของโรคอัลไซเมอร์รวมถึงภาวะสมองเสื่อมทั้งหลาย โดยเชื่อกันว่าแปะก๊วยมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะป้องกันไม่ให้เซลล์สมองถูกทำลาย ช่วยในการทำงานของสารสื่อประสาท รวมทั้งป้องกันการสะสมของอะไมลอยด์ (Amyloid) สารโปรตีนชนิดหนึ่งที่เชื่อว่าอาจไปสร้างความเสียหายต่อเซลล์สมองและเป็น
สาเหตุให้เกิดโรคอัลไซเมอร์

อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยขนาดใหญ่ที่ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างการใช้ยาหลอกกับแปะก๊วยในกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังมีการทำงานของสมองเป็นปกติและกลุ่มที่พบความผิดปกติในการทำงานของสมองเล็กน้อย โดยใช้อาสาสมัครทั้งหมด 3,069 คน อายุตั้งแต่ 72-96 ปี ทดลองรับประทานสารสกัดจากแปะก๊วยเป็นประจำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 120 มิลลิกรัม ผลการศึกษาพบว่าแปะก๊วยไม่สามารถช่วยลดการเกิดโรคอัลไซเมอร์หรือภาวะสมองเสื่อมแต่อย่างใด ซึ่งสอดคล้องกับอีกงานวิจัยหนึ่งที่ทดลองเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากการบริโภคแปะก๊วยเพื่อชะลอการเสื่อมถอยของความทรงจำในผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม โดยแม้จะพบว่าแปะก๊วยมีความปลอดภัยในการใช้ แต่ด้านประสิทธิภาพในการใช้นั้นไม่ดีนักและไม่อาจเชื่อถือได้

การรับประทานแปะก๊วยนั้นถือว่ามีความปลอดภัยกับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่จะต้องรับประทานในปริมาณที่พอดี เป็นเวลาติดต่อกันไม่เกิน 6 เดือน แต่อย่างไรก็ดี การรับประทานแปะก๊วยไม่ได้ปลอดภัยสำหรับทุกคน ผู้ที่ต้องการลองรับประทานมีข้อควรระวังดังต่อไปนี้

    แปะก๊วยอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงให้มีอาการปวดศีรษะ อาหารไม่ย่อย หรือเกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง และในผู้สูงอายุจะเสี่ยงต่อการมีเลือดออกได้
    หญิงตั้งครรภ์ควรระมัดระวังในการใช้ เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการตกเลือดยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับหญิงที่ต้องให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานยืนยันถึงความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์
    แปะก๊วยอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเลือดออก ควรหลีกเลี่ยงการใช้กับผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการออกของเลือด หรือผู้ที่กำลังใช้ยาที่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเลือดออก เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
    การรับประทานสด ๆ หรือปรุงโดยการคั่วเมล็ดอาจมีพิษและอาจเกิดผลข้างเคียงร้ายแรงได้

น้ำมันมะพร้าว อาหารอีกประเภทที่มีการกล่าวถึงประโยชน์ในการรักษาโรคอัลไซเมอร์ ที่มาของความเชื่อนี้เกิดจากการทดลองเกี่ยวกับอาหารทางการแพทย์ชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดสารคีสโตนในร่างกาย พบว่าอาสาสมัครที่รับประทานสามารถทำแบบทดสอบความทรงจำได้ดีขึ้น โดยคาดว่าสารนี้อาจช่วยให้การทำงานของสมองดีขึ้นจากภาวะที่เซลล์สมองของผู้ป่วยอัลไซเมอร์จะสูญเสียความสามารถในการใช้พลังงานจากกลูโคส และด้วยความที่น้ำมันมะพร้าวนั้นเป็นอุดมด้วยกรดคาไพรลิก (Caprylic acid) กรดไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์สายยาวปานกลางที่จะแตกตัวออกเป็นสารคีโตนเมื่อเข้าสู่ร่างกาย จึงถูกนำมาอนุมานว่าจะสามารถช่วยรักษาอัลไซเมอร์ได้เช่นกัน ในราคาที่ไม่แพงและหาซื้อได้ง่ายกว่า

ทั้งนี้ ข้อสรุปดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้ยืนยันได้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะช่วยป้องกันหรือชะลออาการของโรคอัลไซเมอร์ และปัจจุบันยังไม่ปรากฏผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ เกี่ยวกับการใช้น้ำมันมะพร้าวช่วยรักษาผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ มีเพียงรายงานจำนวนเล็กน้อยที่อ้างว่าการเพิ่มน้ำมันมะพร้าวลงในอาหารของผู้ป่วยโรคนี้ช่วยให้อาการดีขึ้น เช่น การศึกษารายกรณีของแพทย์หญิงคนหนึ่งที่ผสมน้ำมันมะพร้าวลงในอาหารให้สามีที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์รับประทาน แล้วพบว่าอาการดีขึ้นและสามารถวาดรูปนาฬิกาได้ถูกต้องกว่าเดิม ซึ่งถือเป็นการทดลองเฉพาะบุคคลที่ยังไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ

การได้รับน้ำมันมะพร้าวในปริมาณปกติที่พบได้จากอาหารที่รับประทานในแต่ละวันนั้นไม่น่าจะมีอันตรายใด ๆ แต่หากต้องการใช้โดยหวังคุณประโยชน์ด้านใด ๆ ก็ควรระมัดระวังในกรณีต่อไปนี้

-    น้ำมันมะพร้าวอาจปลอดภัยสำหรับหญิงมีครรภ์ หญิงที่ให้นมบุตร และเด็ก หากได้รับในปริมาณปกติที่พบได้จากอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน แต่การรับประทานในปริมาณมากกว่าปกติยังไม่มีข้อยืนยันถึงความปลอดภัย ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงข้างต้นจึงไม่ควรรับประทานน้ำมันมะพร้าวเสริม
-    น้ำมันมะพร้าวอาจไปเพิ่มระดับไขมันชนิดไม่ดีในร่างกาย แต่ข้อนี้มีหลักฐานโต้แย้งที่ชี้ว่าแท้จริงแล้วระดับไขมันที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นไขมันชนิดดีที่ส่งผลต่อระดับไขมันเลวโดยรวมเพียงเล็กน้อยหรืออาจไม่มีผลเลย
-    ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าน้ำมันมะพร้าวสามารถทำปฏิกิริยาต่อยารักษาโรคอื่น ๆ หรือไม่ ผู้ใช้จึงควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนใช้ยาใด ๆ หากกำลังรับประทานน้ำมันมะพร้าว
-    การรับประทานยาไซเลียม (Psyllium) จะส่งผลให้ร่างกายลดการดูดซึมไขมันในน้ำมันมะพร้าวได้

น้ำมันปลา [^_^]ที่ประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็นประเภทโอเมก้า 3 ปริมาณสูงชนิด DHA และ EPA ที่ปกติพบได้ในปลา เช่น แมคเคอเรล ทูน่า แซมอน และมีการกล่าวอ้างว่าสารเหล่านี้ที่มีอยู่ในน้ำมันปลาชนิด[^_^]จะช่วยบำรุงสมอง ชะลอความจำเสื่อม และป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้

ด้านคุณประโยชน์ของกรดไขมันโอเมก้า 3 นี้ มีข้อสันนิษฐานว่าเนื่องจาก DHA เป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทในสมอง ประกอบกับทฤษฎีที่ว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม โรคหลอดเลือดและหัวใจ รวมทั้งช่วยส่งเสริมและปกป้องเซลล์ประสาท ส่วนหลักฐานจากการศึกษาวิจัยนั้นพบผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป

งานวิจัยชิ้นหนึ่งศึกษาการใช้[^_^] DHA ช่วยชะลอการเสื่อมถอยด้านการคิดและการทำงานของสมองในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ที่มีอาการในระยะเริ่มต้นจนถึงระยะกลาง โดยให้รับประทาน[^_^]ที่มี DHA วันละ 2 กรัม นาน 18 เดือน ผลปรากฏว่าเมื่อเทียบกับอีกกลุ่มที่รับประทานยาหลอกแล้ว [^_^] DHA ไม่ได้มีส่วนช่วยชะลออาการของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง

ทว่าในงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งมีการทดสอบประสิทธิภาพของการใช้ DHA เพื่อบำรุงการทำงานของสมองในผู้สูงอายุที่มีอาการเสื่อมถอยของสมอง ด้วยการให้รับประทาน DHA 900 มิลลิกรัมทุกวัน เป็นเวลา 24 สัปดาห์ ผลลัพธ์พบว่ากลุ่มที่ได้รับ DHA มีการเรียนรู้และความทรงจำที่ดีขึ้น และมีประโยชน์ในการส่งเสริมสุขภาพการทำงานของสมองในผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ ด้วยผลลัพธ์ที่ไม่สอดคล้องกันของงานวิจัยทั้ง 2 ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายจึงเห็นพ้องกันว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปในอนาคต ขณะที่ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานเพียงพอจะยืนยันคุณสมบัติในการรักษาและป้องกันโรคอัลไซเมอร์ของ DHA หรือกรดไขมันโอเมก้า 3 ชนิดอื่น ๆ ได้ จึงยังไม่มีการแนะนำให้ใช้


อย่างไรก็ตาม หากเลือกรับประทานน้ำมันปลาในรูปแบบ[^_^]ควรต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้ดังนี้

-    ไม่ควรรับประทานเกินกว่าวันละ 3 กรัม เพราะจะเสี่ยงต่อการมีเลือดออก หากต้องการรับประทานในปริมาณที่มากกว่าปกติควรปรึกษาแพทย์เป็นอันดับแรก เพื่อให้ทราบคำแนะนำในการใช้ที่เหมาะสมและปลอดภัย
-    น้ำมันปลาอาจมีผลข้างเคียงทำให้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ หรือท้องเสียได้
-    น้ำมันปลามีกลิ่นคาวรุนแรง จึงอาจทำให้มีกลิ่นคาวปลาในปากหรือลมหายใจมีกลิ่นคาวหลังการรับประทานได้
-    ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการบริโภคน้ำมันปลาที่เป็น[^_^]จะปลอดภัยต่อผู้ที่แพ้ปลาหรือสัตว์น้ำที่มีเปลือกหรือไม่
-    [^_^]โอเมก้า 3 อาจทำให้เลือดหยุดไหลยาก ผู้ที่ใช้ยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาแก้อักเสบกลุ่มเอนเสด (NSAIDs) ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจใช้
-    ยังไม่มีข้อสรุปว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 ที่พบในอาหารทะเลและน้ำมันปลาจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากหรือไม่ ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป


ความปลอดภัยในการใช้การรักษาทางเลือก

ในปัจจุบันยังไม่มีการพิสูจน์ที่ยืนยันว่าสมุนไพร อาหาร หรือ[^_^]ใด ๆ จะช่วยป้องกันหรือรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้อย่างปลอดภัยและได้ผล และการรักษาทางการแพทย์เองก็ไม่มีการแนะนำให้ใช้ ผู้ที่ต้องการลองใช้เป็นทางเลือกควรพูดคุยปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพราะสมุนไพรหรือ[^_^]บางชนิดอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงตามมา มีปฏิกิริยากับยารักษาโรคชนิดอื่น หรือกระทบต่อโรคหรือภาวะใด ๆ ที่เป็นอยู่ได้

สำหรับผู้ที่คิดว่าตัวเองมีปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำหรือคาดว่าจะเกิดภาวะสมองเสื่อม ทางที่ดีที่สุดก็คือการไปพบแพทย์ เช่นเดียวกันหากสงสัยว่าบุคคลใกล้ชิดอาจป่วยด้วยโรคนี้ก็ควรสนับสนุนให้ไปตรวจรักษา และควรมีคนไปเป็นเพื่อนด้วย

ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่ปัญหาด้านความทรงจำที่เผชิญนั้นอาจไม่ได้มีสาเหตุมาจากภาวะสมองเสื่อม แต่อาจเป็นผลมาจากความเครียด ภาวะซึมเศร้า การใช้ยารักษาโรคบางชนิด หรือเกิดจากโรคอื่น ๆ ก็ได้ ซึ่งการไปพบแพทย์จะช่วยให้สามารถวินิจฉัยสาเหตุและรับการรักษาได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด


การรักษาทางการแพทย์ของโรคอัลไซเมอร์

การรักษาโรคอัลไซเมอร์ด้วยวิธีทางการแพทย์แผนปัจจุบันยังคงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด แม้จะทำได้เพียงการใช้ยารักษาและจัดการดูแลเพื่อช่วยบรรเทาอาการด้านความคิดและพฤติกรรม หรือชะลออาการของโรคลงได้บ้าง โดยแนวทางการรักษาโรคอัลไซเมอร์ที่ทำได้ มีดังนี้

-    การวางแผนให้การช่วยเหลือดูแลทั้งทางด้านสุขภาพและด้านสังคม เพื่อให้การรักษาที่ตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยมากที่สุด
-    การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยต่อผู้ป่วย โดยควรปรับสภาพแวดล้อมให้อำนวยต่อการใช้ชีวิตของผู้ป่วย เช่น จัดระเบียบและการติดตั้งอุปกรณ์การช่วยเหลือตามบริเวณบ้าน รวมถึงการสร้างนิสัยให้ผู้ป่วยใช้การคิดหรือการจำน้อยที่สุด เช่น จดบันทึกสิ่งที่ต้องทำ เก็บของจำเป็นไว้ในที่เดียวกันเพื่อไม่ให้เกิดการหลงลืม
-    การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพกายที่แข็งแรงและสุภาพใจที่แจ่มใส เช่น การเดิน การปั่นจักรยานอยู่กับที่ ทั้งนี้ควรมีผู้ดูแลคอยเฝ้าดูเพื่อความปลอดภัยและไม่เกิดการพลัดหลง
-    การรับประทานอาหาร คอยดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและดื่มน้ำอย่างเพียงพอ อาจหาเมนูเสริมเพื่อสุขภาพ เช่น น้ำปั่นผลไม้ผสมโยเกิร์ต และอาจเพิ่มโปรตีนเพื่อการบำรุงด้วยก็ได้
-    การใช้ยา เป็นการช่วยรักษาบางอาการและชะลอการพัฒนาของโรคได้ชั่วคราว ที่มักนำมาใช้คือกลุ่มยาโคลีนเอสเทอเรส (Cholinesterase Inhibitor) เช่น โดนีพีซิล (Donepezil) กาแลนตามีน (Galantamine) และไรวาสติกมีน (Rivastigmine) และบางครั้งก็อาจใช้ยาเมแมนทีน (Memantine) ร่วมรักษากับยากลุ่มนี้ด้วย



อาหารสุขภาพ บำรุงสมอง รักษาอัลไซเมอร์ ชัวร์หรือมั่วนิ่ม ? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

122
การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เป็นนวัตกรรมที่ล้ำหน้ามามากกว่าสมัยก่อน ซึ่งในสมัยก่อน เมื่อเวลาที่เราสูญเสียฟันธรรมชาติไป เราอาจจะใช้การรักษาด้วยใส่ฟันปลอม ซึ่งจะเป็นพลาสติกที่มีรูปร่างคล้ายฟัน แล้วสวมใส่เพื่อทดแทนฟันได้ สามารถรับประทานอาหารได้ปกติ

แต่การใส่ฟันปลอมนั้น ยังมีข้อเสียอีกหลายข้อที่คนที่ใส่ฟันปลอมจะทราบกันดี ก็คือ อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง หรือฟันปลอมอาจจะหลุดได้ง่าย รู้สึกไม่กระชับ และมีราคาที่ไม่สูงมาก แต่มาสมัยนี้ การฝังรากฟันเทียม ถือว่าเป็นที่นิยมมากกว่า เพราะมีการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่า เนื่องจากมีการผ่าตัดและฝังรากฟันเทียมลงไป จึงทำให้ใช้งานได้เหมือนฟันจริงๆ


แต่การฝังรากฟันเทียมก็มีการรักษาในรูปแบบนี้มานานแล้ว แต่เพียงว่า ในสมัยนั้นยังไม่เป็นที่นิยมเหมือนกับสมัยนี้ เพราะว่า ในสมัยก่อนยังไม่มีนวัตกรรมที่ทันสมัยเหมือนสมัยนี้ จึงนิยมใส่ฟันปลอมมากกว่า แถมการฝังรากฟันเทียมยังมีราคาที่ค่อนข้างสูงอีกด้วย แต่มาในสมัยนี้เรามีการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมด้วยระบบดิจิตอล


ซึ่งเป้นการพัฒนาอีกขั้นหนึ่งของวงการทันตกรรม ที่มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการรักษา ทำให้ผลการรักษามีความแม่นยำมากกว่าการฝังรากฟันเทียมแบบเดิม ซึ่งแน่นอนว่า การฝังรากฟันเทียมด้วยระบบดิจิตอลย่อมมีความแตกต่างจากการฝังรากฟันเทียมแบบเดิมๆ ที่มีผลการรักษาที่อาจจะไม่แม่นยำ และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายอีกด้วย รวมไปถึงการพักฟื้นที่ต้องใช้เวลานานพอสมควร


สำหรับข้อแตกต่างของการฝังรากฟันเทียมด้วยระบบดิจิตอล ต่างจากการฝังรากฟันเทียมแบบเดิมอย่างไร ข้อแรกเลย คือ การฝังรากฟันเทียมแบบดิจิตอลจะมีบาดแผลที่ได้จากการผ่าตัดที่เล็กกว่า หายเร็ว ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน มีความแม่นยำกว่าการฝังรากฟันเทียมด้วยมือเปล่า


นอกจากนี้ยังอาการเขียวช้ำที่ลดลง อาการบอบช้ำหลังจากการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมมีน้อยหรือบางกรณีอาจจะไม่มีเลย ซึ่งถือว่าเป็นข้อที่ดีมาๆ รวมไปถึงเวลาในการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมก็รวดเร็วกว่าแบบเดิม มีมาตรฐานที่สูง ไม่ทำลายเส้นประสาทรอบๆฟัน และมีราคาที่ไม่สูงมาก หากเปรียบเทียบกับผลที่ผู้เข้ารับการรักษษจะได้รับแล้ว หากสนใจสามารถเข้าข้อคำแนะนำจากทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่คลีนิค



จัดฟันบางนา: การฝังรากฟันเทียม ด้วยระบบดิจิตอล ต่างจากการฝังรากฟันเทียมแบบเดิมอย่างไร อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/

123
อาหารบำรุงหัวใจมีส่วนสำคัญในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคที่มีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุดเมื่อเทียบกับโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง อาหารบำรุงหัวใจในที่นี้ไม่ได้หมายถึงอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพหัวใจเท่านั้น แต่ควรควบคู่ไปกับการลดอาหารและพฤติกรรมการกินที่ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย

ไม่ว่าที่ผ่านมาจะมีพฤติกรรมการกินแบบไหนก็เริ่มต้นใหม่กับอาหารที่ดีต่อสุขภาพใจได้เสมอมี 6 อาหารบำรุงหัวใจและหลอดเลือดที่ควรเลือกกิน พร้อมเคล็ดลับกินดีหัวใจแข็งแรง โดยไม่ต้องบอกลาอาหารโปรดมาฝากในบทความนี้


อาหารบำรุงหัวใจที่ควรเลือกกิน

1 ผักและผลไม้หลากหลายสีสัน

แหล่งของวิตามิน แร่ธาตุ กากใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดีที่มีส่วนช่วยบำรุงหัวใจ ป้องกันโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคมะเร็งหลายชนิด โดยให้เน้นเลือกกินผักผลไม้ต่างสีสันเพื่อสารอาหารที่หลากหลายครบถ้วน เช่น แครอท ส้ม มะเขือเทศ สตรอว์เบอร์รี่ ผักกาดหอม กีวี ฟักทอง กล้วย

เคล็ดลับ:

    เลือกซื้อผักผลไม้สดหรือที่แช่แข็งเป็นหลัก เพราะยังคงมีคุณค่าทางสารอาหารสูง
    เลือกซื้อผักผลไม้ที่หั่นแล้วหากต้องการประหยัดเวลาและง่ายต่อการหยิบมารับประทาน

    รับประทานผลไม้แช่เย็นเป็นของว่างแทนคุกกี้ เบเกอรี่ หรือขนมที่มีน้ำตาลและแคลอรี่สูง อาจจิ้มดาร์กช็อกโกแลตในปริมาณเล็กน้อยเพื่อให้รับประทานง่ายยิ่งขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงซอส ชีสดิป หรือพริกเกลือที่มีน้ำตาล เกลือ และแคลอรี่สูง
    มีผลไม้ติดตู้เย็น ติดบ้านไว้เสมอ เพื่อกระตุ้นให้หยิบมารับประทานบ่อยๆ
    เลี่ยงผลไม้กระป๋องที่แช่ในน้ำเชื่อม ผลไม้แช่แข็งที่เติมน้ำตาล หรือผักสลัดที่ใส่น้ำสลัดครีมซึ่งมีแคลอรี่สูง


2. ธัญพืชไม่ขัดสี/ธัญพืชเต็มเมล็ด

หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้งที่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว โดนัท เค้ก พาย แครกเกอร์ แล้วทดแทนด้วยธัญพืชโฮลเกรน (Wholegrain) ซึ่งอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และกากใยที่มีประโยชน์ในการลดระดับคอเลสเตอรอล ต้านโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต บัควีท ควินัว ลูกเดือย กราโนล่า เส้นก๋วยเตี๋ยว พาสต้าโฮลวีต


3. โปรตีนจากพืช ปลา และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน

โปรตีนจากเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดง มีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูง จึงควรรับประทานแต่พอดี หันมาเพิ่มโปรตีนจากพืชแทน เช่น ถั่วต่างๆ เต้าหู้ เมล็ดพืช และปลา ซึ่งมีการศึกษาชี้ว่าโปรตีนเหล่านี้มีส่วนช่วยบำรุงและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ นอกจากนี้ เนื้อไก่ เนื้อสัตว์ปีกที่ไม่ติดหนัง และไข่ไก่ก็จัดเป็นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันอิ่มตัวน้อยและเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน

เคล็ดลับ:

    จำกัดการรับประทานเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ เพียง 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์
    เลือกเนื้อที่ไม่ติดมันหรือมีไขมันน้อยที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
    หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน เนื่องจากมีโซเดียมและไขมันสูง รวมถึงเครื่องในสัตว์ต่างๆ ที่มีคอเลสเตอรอลสูง


4. อาหารไขมันดีจากถั่ว มะกอก อะโวคาโด และปลาไขมันสูง

ไขมันดีมีส่วนสำคัญในการช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ป้องกันและต้านโรคหัวใจ อาหารที่อุดมด้วยไขมันดีที่แนะนำให้เลือกกิน ได้แก่ อะโวคาโด มะกอก ถั่วต่างๆ ปลาที่มีไขมันสูง รวมถึงการใช้น้ำมันจากไขมันดีในการประกอบอาหาร เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันคาโนลา เป็นต้น

เคล็ดลับ:

    รับประทานปลาให้หลากหลายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น แซลมอน ทูน่า ปลาจะละเม็ดขาว ปลากะพงขาว ปลาทู ปลาดุก ปลาช่อน ปลาสลิด เป็นต้น
    เลือกใช้น้ำมันจากพืชที่มีไขมันไม่อิ่มตัวในการปรุงอาหาร เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน และเลี่ยงการใช้น้ำมันหรือไขมันจากสัตว์ เช่น มันหมู น้ำมันหมู
    เลี่ยงไขมันทรานส์และอาหารที่มีน้ำมันพืชที่ผ่านการเติมไฮโดรเจนบางส่วน โดยมองหาผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partial hydrogenation) หรือ น้ำมันที่ผ่านการเติมไฮโดรเจน (Hydrogenated oil)
    จำกัดปริมาณไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 7% ของแคลอรี่ทั้งหมดในแต่ละวัน เช่น หากควรได้รับพลังงานวันละ 2000 แคลอรี่ ควรได้รับไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 15 กรัม (ไขมัน 1 กรัม = 9 แคลอรี่)


5. ผลิตภัณฑ์จากนม

จากการศึกษาล่าสุด การรับประทานผลิตภัณฑ์จากนมแบบไขมันเต็มอาจไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจอย่างที่เคยมีการแนะนำ แต่กลับมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะอาหารจากนม เช่น นมจืด โยเกิร์ต และชีส ล้วนเป็นแหล่งของแคลเซียม โปรตีน และแร่ธาตุที่สำคัญ

เคล็ดลับ:

    ควรเลือกนมจืด หรือผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่เติมน้ำตาลจะดีต่อสุขภาพที่สุด
    ผู้ป่วยโรคหัวใจหรือมีระดับคอเลสเตอรอลสูงอาจเลือกรับประทานนม โยเกิร์ต และชีสชนิดไขมันต่ำ เพื่อจำกัดปริมาณไขมันอิ่มตัวที่ได้รับ


6. สมุนไพรและเครื่องเทศ

เครื่องเทศเป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพในกรณีที่อยากเพิ่มรสชาติอาหาร แทนการใช้เกลือหรือซอสที่มีโซเดียมสูงซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง และอาจนำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือดในสมอง

โซเดียมไม่ได้มีอยู่ในเกลือ ซอส และเครื่องปรุงต่างๆ เท่านั้น แต่ยังพบได้มากในอาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และเนื้อแปรรูป เช่น แฮม หมูยอ แหนม กุนเชียง รวมถึงของตากแห้ง ของดอง อาหารที่ผ่านการอบ และขนมกรุบกรอบทั้งหลาย โดยแต่ละวันเราควรได้รับโซเดียมไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัม หรือถ้าจะให้ดีควรจำกัดที่ไม่เกิน 1,500 มิลลิกรัม เพราะจะยิ่งช่วยลดระดับความดันโลหิตได้มากขึ้น
อาหารที่ควรเลี่ยงเพื่อหัวใจแข็งแรง

อาหารที่มีน้ำตาล เกลือ ไขมันอิ่มตัว หรือไขมันสูงต่อไปนี้ล้วนไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องงด 100% แต่ควรเลือกรับประทานเป็นบางครั้ง ในปริมาณแต่น้อย

    เบเกอรี่ต่างๆ เช่น เค้ก พาย ครัวซอง บิสกิต คุกกี้ และขนมที่ผ่านการอบ
    มันฝรั่งทอดกรอบ เยลลี่ ช็อคโกแลต
    เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น นมเปรี้ยว ชานม น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง
    พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ และอาหารฟาสต์ฟู้ด จังก์ฟู้ดทั้งหลาย

สำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ ควรดื่มแต่พอดีในปริมาณที่เหมาะสม โดยผู้หญิงไม่ควรดื่มเกินวันละ 1 หน่วยบริโภค ส่วนผู้ชายไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 หน่วยบริโภค (*ปริมาณต่อ 1 หน่วยบริโภคของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิดอาจต่างกัน สามารถดูจากฉลากโภชนาการข้างขวด)

นอกจากนี้ การรับประทานอาหารประเภทต่างๆ ในปริมาณ​ที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย​ก็สำคัญ​เช่นกัน​ โดยใน 1 จาน ควรเน้นผัก 1/2 ส่วน แป้ง 1/4 ส่วน และโปรตีนอีก 1/4 ส่วน พร้อมทั้งเพิ่มผลไม้ ผลิตภัณฑ์จากนม และไขมันดีในปริมาณเล็กน้อย หากต้องการ[^_^]แนะนำให้ลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ แต่ยังคงเน้นผักผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีนไขมันต่ำ และเพิ่มการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ให้มากกว่าที่ได้รับจากอาหาร



บริการด้านอาหาร: สุดยอดอาหารบำรุงหัวใจ ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/catering-service/

124
วันนี้เราจะขอรวบรวมรีวิวของผู้ใช้ บริการ รถรับจ้างขนของจังหวัดชลบุรี มาให้กับผู้ที่สนใจที่ต้องการอยากจะ ขนย้ายสินค้า ขนย้ายบ้าน ขนย้ายหอพัก ขนส่งสินค้าทั่วไป ย้ายสำนักงาน ย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่งย้ายเครื่องจักรอื่นๆซึ่งในการรวบรวมครั้งนี้เราจะรวบรวมมีส่วนที่ ผู้ที่เข้าไปใช้บริการ รถรับจ้าง แล้วเกิดความประทับใจ ซึ่งแม้แต่ละงานก็จะเป็นงานที่แตกต่างกัน จึงทำให้มีการใช้บริการรถที่ต่างขนาดต่างไซส์กันออกไป ซึ่งเราอยากให้ผู้ที่สนใจที่ต้องการอยากจะขนย้ายของ


และเข้ามาอ่านอย่างน้อยก็จะเป็นความรู้เบื้องต้นก่อนที่ท่านจะตัดสินใจเลือกใช้ บริการรถรับจ้างในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี จะได้มีข้อมูลในการต่อรองราคาหรือแม้กระทั่งข้อมูลในการจัดเรียง สินค้าให้ได้พื้นที่ที่ พอเหมาะ ในการขนย้ายในแต่ละครั้ง เริ่มต้นด้วย

1. บริการรถกระบะรับจ้างชลบุรี ซึ่งๆรีวิวจากคุณเอก เป็นงานขนย้ายหอพัก จากบางแสน ขนย้ายมาที่กรุงเทพฯเขตห้วยขวาง ซึ่งลูกค้าได้ใช้บริการ รถกระบะรับจ้างขนย้ายของในเขตมหาวิทยาลัยบูรพา เป็นการย้ายหอหรือทั่วไปสินค้าที่มีได้แก่ เครื่องซักผ้ามอเตอร์ไซค์ กล่องหนังสือทีวีตู้เย็น และของใช้อื่นๆอีกนิดหน่อย จึงได้ตัดสินใจใช้บริการ รถกระบะรับจ้าง ก็เพียงพอ โดยได้เรียกใช้บริการ ขนส่ง ผลปรากฏว่า การบริการดีมีพนักงานยกของให้ฟรีพูดจาสุภาพ และราคาถือว่าไม่แพง คุณเอกบอกว่า ในช่วงที่จะเข้าไปในกรุงเทพ รถติดมากจึงจำเป็นต้องใช้ทางด่วน แต่ผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของไม่คิดค่าทางด่วนเลย ถือว่าเป็นการให้บริการที่ดีเยี่ยมพอสมควร

2. รถ6ล้อรับจ้างชลบุรี ซึ่งเป็นการรีวิวจากคุณจอย ซึ่งคุณจอยได้ใช้บริการ รถ 6 ล้อรับจ้างพัทยา โดยเป็นการขนย้ายบ้านไปยังจังหวัดเชียงใหม่ สินค้าที่ทำการขนย้ายซึ่งมีได้แก่ ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ 2 ใบ ทีวี 2 เครื่องมอเตอร์ไซค์ 1 คันที่นอน 2 ชุด ตู้เย็น ชุดเครื่องครัว เสื้อผ้า และของใช้ ต่างๆซึ่งได้ทำการขนย้ายของในเขตพื้นที่พัทยาใต้ ขึ้นของในช่วงเวลา 7 โมง 30 นาที เรามีพนักงานไปช่วยยกสินค้าจำนวน 4 คน แล้วก็ออกเดินทางประมาณ 10.00 น วิ่งไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 2 ทุ่มแล้วจอดรอลงของให้กับลูกค้าตอนเช้าวันถัดไปเรื่องจากว่าลูกค้า ไม่สะดวกคนย้ายในเวลากลางคืน เราก็ได้อำนวยความสะดวกให้ ทำให้ลูกค้าซึ่งคุณจอยมีความประทับใจในงานบริการที่ได้ใช้บริการ จากทีมงานรถ 6 ล้อรับจ้าง

3. รถเฮี๊ยบรับจ้างชลบุรี  รีวิวจาก คุณก้อย เนื่องจากคุณก้อยต้องการที่จะ ย้ายต้นไม้ จากตัวเมืองชลบุรี ไปที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งลูกค้าได้มีการเตรียมต้นไม้ใบเรียบร้อยแล้ว รถรับจ้าง ไปถึงหน้างานก็สามารถที่จะยกได้เลยวันนั้นใช้รถเฮี้ยบขนาด 3.5 ตัน ในการขนย้าย ซึ่งก็ เริ่ม เข้าดำเนินการขนย้ายตั้งแต่ช่วง 8.00 น มาถึงฉะเชิงเทราแถวแปดริ้ว เวลา 9.00 น จึงเสร็จเรียบร้อยดี ลูกค้าพูดจาดีอัธยาศัยดีมาก และเราก็บริการงานขนย้ายอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ ทำให้งานนั้นออกมาดี ต้นไม้ไม่เสียหาย

4. รถสิบล้อรับจ้างขนของชลบุรี รอบนี้ลูกค้าได้รีวิวจากคุณ โบว์ เนื่องจากคุณโบว์ต้องการที่จะขนย้ายวัสดุก่อสร้าง จาก อำเภอศรีราชาซึ่งได้ใช้บริการ รถสิบล้อรับจ้างศรีราชา วิ่งไปยัง อำเภอบ้านบึงจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นงานขนย้ายของในตัวจังหวัด สินค้าที่ทำการขนย้ายก็เป็นจำพวกกระเบื้องปูน เหล็ก โดยลูกค้าใช้พนักงานที่ร้านในการขนยกสินค้าเอง เพราะจะต้องมีความชำนาญพอสมควรโดยเฉพาะกระเบื้องจะต้องมีการจัดเรียงที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการเสียหาย

ส่วนทีมงานรถรับจ้างขนของก็จะพยายาม ระมัดระวังในการขับรถมากเป็นพิเศษ ซึ่งต่างจากเสร็จงานลูกค้าให้คำชื่นชมในงานบริการของผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของชลบุรีนี้พอสมควร เนื่องจากว่ารถมาถึงหน้างานก่อนเวลานัด มีการเตรียมพร้อมและทำความสะอาดรถได้เป็นอย่างดี เตรียมอุปกรณ์ผ้าใบคลุมรถที่ไม่ขาดไม่รั่ว จึงทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ


นี่ก็เป็นรีวิวของงานบริการ รถขนของจังหวัดชลบุรี ในบางส่วนซึ่งการบริการทุกท่านบริการทางทีมงานรถรับจ้างจะต้องมีความรับผิดชอบและ มีความซื่อสัตย์ต่อการบริการของตนเองให้ดีที่สุดดังนั้นการที่เราจะเลือกใช้บริการขนของในแต่ละครั้งจะต้องคำนึงว่าผู้ให้บริการรายนั้นมีตัวตนหรือไม่สามารถติดต่อได้รวดเร็วแค่ไหน และก็ต้องมีงานบริการที่ครอบคลุมให้เราได้เลือกใช้รถรับจ้างที่มากมายหลากหลายขนาด เป็นต้น

ในเนื้อหาบทความนี้เราจะพยายามเน้นให้ท่านได้รู้ถึงรายละเอียด และความต้องการที่ท่านควรจะแจ้งต่อผู้ให้บริการ รถรับจ้าง ได้สร้างเพื่อที่ท่านจะได้คำตอบ และการบริการที่ ได้ตรงตามสิ่งที่ เรากำลังจะขน ซึ่งถ้าหากยังติดขัดในเรื่องใดหรือต้องการที่จะสอบถามความรู้เบื้องต้นก่อนการขนย้าย จนกระทั่งราคาค่าขนย้ายที่ควรจะเป็นมาตรฐาน ในการเลือกใช้บริการ รถรับจ้างขนของชลบุรี ในแต่ละครั้งซึ่งเราจะ ให้รายละเอียดเบอร์โทรสำหรับท่านที่สนใจลองโทรเข้าไปเช็คดูก่อน

ซึ่งผู้ให้บริการเจ้าหน้าที่ เขายินดีที่จะให้ข้อมูลก่อนที่ท่านจะตัดสินใจในการเลือกใช้บริการ จึงอยากให้ท่านพิจารณาดูก่อน หรือจะโทรมาถามรายละเอียดราคา ค่าขนย้ายที่เป็นมาตรฐาน




บริการ รถรับจ้างขนของกรุงเทพ รถรับจ้าง จังหวัดชลบุรี ดีหรือป่าว อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/2

125
สุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก เป็นสิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรเอาใจใส่ตั้งแต่ลูกยังเป็นทารก เพราะการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันจะทำให้เด็กมีสุขภาพฟันที่ดี มีฟันที่แข็งแรงไม่เกิดฟันผุ เพราะขณะที่เด็กมีฟันน้ำนม ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดฟันผุได้ง่ายและเด็กในวัยนี้ยังมีพฤติกรรมที่ชอบรับประทานอาหารจุกจิกหรือรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน ลูกอม รวมไปถึงน้ำอัดลม ซึ่งอาหารเหล่านี้ถือว่าเป็นศัตรูกับฟันของเราเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ถ้าหากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ดูแลในเรื่องของโภชนาการของเด็ก ก็อาจจะทำให้เด็กเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันตามมาได้ และเด็กที่อยู่ในช่วงของฟันน้ำนมนั้น พ่อแม่อย่าคิดว่าไม่สำคัญ เพราะฟันน้ำนมของเด็ก ถ้าหากว่าหลุดก่อนเวลาอันควรอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อการขึ้นของฟันแท้ในอนาคตได้ อาจจะทำให้เด็กมีฟันแท้หายนั่นก็คือ ฟันไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อดึงฟันที่หายให้ออกมา ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันในเด็ก ทันตแพทย์จะทำการผ่าตัดและติดตั้งเครื่องมือจัดฟันเพื่อให้ฟันที่ฝังอยู่เคลื่อนตัวออกมา ซึ่งก็ใช้ระยะเวลานานพอสมควร



ดังนั้น ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองไม่อยากให้เด็กมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ควรพาบุตรหลานของท่านเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปีละสองครั้ง เพื่อทำการตรวจช่องปากและฟันว่ามีปัญหาด้านใดบ้าง เพื่อที่จะได้รีบแก้ไขได้ทันเวลา แต่อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะสังเกตพฤติกรรมของเด็กที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับช่องปากและฟันด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมา และในวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เด็กเกิดฝันผุ ซึ่งถือว่าในส่วนนี้พ่อแม่ผู้ปกครองจะมีบทบาทสำคัญในการดูแลมากกว่าทันตแพทย์ ควรที่จะสังเกตอาการเพื่อไม่ให้เด็กเกิดฟันผุจนถึงขั้นสูญเสียฟันและอาจจะต้องเข้ารับการจัดฟันในเด็ก

 
ก่อนอื่นเราจะต้องบอกกก่อนว่า การเกิดฟันผุในเด็กนั้น ถือว่ามีผลกระทบของโรคฟันผุในเด็กมีผลต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพช่องปากในอนาคตได้ การมีฟันน้ำนมผุ เด็กจะปวดฟัน เคี้ยวอาหารไม่ได้ ร่างกายจะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ส่งผลต่อการเจริญเติบโต อีกทั้งอาการปวดฟันยังส่งผลต่อการนอนหลับและการเรียนรู้ สิ่งเหล่านี้ล้วนกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กตัวเล็กๆ สามารถขัดขวางพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์และสติปัญญาได้นั่นเอง สำหรับพฤติกรรมหรือปัจจัยที่ทำให้เด็กเกิดฟันผุ อย่างแรกเลยยคือ อาหารที่เด็กรับประทานเข้าไป ส่วนใหญ่มีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาลอยู่แทบทุกอย่าง ตั้งแต่นม ขนมอบกรอบ ขนมหวาน น้ำอัดลม ซึ่งแป้งและน้ำตาลเหล่านี้จะเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรียที่พร้อมจะทำปฏิกิริยากับน้ำตาลเหล่านี้ให้เป็นกรดที่พร้อมจะทำลายผิวฟันไปทีละนิดจนลุกลามไปเรื่อยๆ   
 

หากไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร และเด็กก็ไม่ได้รับการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันได้ดีเท่าที่ควร รวมไปถึงพฤติกรรมในวัยเด็ก เช่น การที่เด็กนอนหลับคาขวดนม ทำให้น้ำตาลที่อยู่ในนม สามารถเข้าไปทำลายเคลือบฟันของเด็กได้ เพราะคราบจุลินทรีย์จะย่อยน้ำตาลในนมที่ค้างอยู่บนผิวฟัน ทำให้เกิดการสะสมของกรด ละลายผิวฟันเป็นรู นอกจากนี้ การรับประทานขนมตามใจชอบ แล้วไม่ยอมแปรงฟันนั่นเอง ถือเป้นต้นเหตุของการเกิดฟันผุเลย


เพราะฉะนั้น สิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะทำก็คือ ควรฝึกให้เด็กทารกเข้านอนโดยไม่มีนิสัยติดขวดนม ดูแลเรื่องของการรับประทานอาหาร งดขนม อาหารรสหวาน ควรเลือกอาหารว่างที่มีประโยชน์ ให้เด็กบ้วนปากหลังดื่มนม รับประทานขนม หรือหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง ที่สำคัญควรให้เด็กแปรงฟันให้ลูกด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ วันละ 2 ครั้ง และพาเด็กไปพบทันตแพทย์ ตรวจฟันเป็นประจำ เพื่อจะได้รับความรู้และแนวทางปฏิบัติในการดูแลสุขภาพในช่องปากอย่างถูกต้อง


หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดสนใจพาบุตหลานของท่านเข้ารับการตรวจฟัน หรือเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทันตแทพย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมในเด็ก รวมไปถึงมีประสบการณ์ยาวนานด้านการจัดฟัน จึงสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเกิดฟันผุตั้งแต่อายุยังน้อย ลดปัญหาการเกิดความผิดปกติของช่องปากและฟัน เพื่อให้เด็กได้สามารถใช้ชีวิตประจำวันหรือทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างเต็มที่


พฤติกรรมที่ทำให้เด็กเกิดฟันผุ จนอาจต้องเข้ารับการจัดฟันเด็ก อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/

126
เสียวหมี่ Xiaomi-Redmi K60E (8GB/128GB)
Xiaomi Redmi K60E หน้าจอ OLED ขนาด 6.67 นิ้ว กล้องหลัง 3 เลนส์ ความจุแบตเตอรี่ 5,500 mAh รองรับชาร์จไว 67W

รายละเอียดเบื้องต้น
   
ยี่ห้อ-รุ่น           เสียวหมี่ Xiaomi-Redmi K60E (8GB/128GB)
ราคากลาง           -
จำนวนซิม        2 ซิม (Nano Sim)
แบบดีไซน์        จอสัมผัส
สี                  White, Black, Green
   
ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM 850 / 900 / 1800 / 1900)
3G(HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 2100)
4G(1, 3, 4, 5, 8, 18, 19, 26, 34, 38, 39, 40, 41, 42)
5G(1, 3, 5, 8, 28, 38, 41, 77, 78)
   
ขนาด-น้ำหนัก                    ยาว 163.1 x กว้าง 76.2 x หนา 8.5 มม., น้ำหนัก 202 กรัม
ความจุข้อมูลภายใน (ROM)   128 GB
ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด      -
แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ        ความจุแบตเตอรี่ 5,500 mAh

จอแสดงผล
ชนิดจอ               จอสัมผัส (OLED)
ความละเอียด        6.67 นิ้ว, 526 ppi, 1,440 x 3,200 px
   
รายละเอียดอื่น
ระบบปฏิบัติการ Android 12, MIUI 13
ประมวลผลชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 8200
กล้องหลัง 3 เลนส์ เลนส์หลัก 48 MP + เลนส์ ultrawide 8 MP + เลนส์ macro 2 MP
มีระบบเซนเซอร์ Fingerprint (side-mounted), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum
รองรับชาร์จไว 67W

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด
กล้องหลัง (48 Mpx), กล้องหน้า (20 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   
คุณสมบัติ
Auto Focus, Flash
ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)
Octa-core
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
Mali-G610 MC6
   หน่วยความจำ (RAM)
8.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก
Infrared, USB(Type-C 2.0), Bluetooth(5.3), NFC, Wi-Fi(802.11 a/b/g/n/ac/6e, dual-band, Wi-Fi Direct)
   ระบบรับส่งข้อความ
SMS, MMS, EMAIL
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
3G, GPRS, EDGE, WiFi, 4G, 5G
   ระบบ GPS
GPS (L1), GLONASS (G1), BDS (B1I+B1c), GALILEO (E1), QZSS (L1)


มือถือ Xiaomi เสียวหมี่ Xiaomi-Redmi K60E (8GB/128GB) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobilephone/xiaomi/

หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 24