แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 24
163
อาหารงานเลี้ยงเลือกอย่างไรให้เหมาะสม

อาหารงานเลี้ยง หรือเมนูอาหารงานเลี้ยง ควรเลือกแบบไหนดี? คำถามยอดฮิตก่อนเริ่มจัดงานเลี้ยงสักงาน โดยส่วนใหญ่แล้วการเลือกอาหารจัดเลี้ยงในงานใดงานหนึ่งนั้น จะมีความเกี่ยวข้องกับรูปแบบของงานเลี้ยงเป็นหลัก โดยการจัดเลี้ยงถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของงานเลี้ยงทุกรูปแบบเลยก็ว่าได้ ดังนั้นในขณะวางแผนงานในรูปแบบการจัดเลี้ยงต่าง ๆ “เมนูอาหารเลี้ยงและเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับแขกคืออะไร?” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนควรนึกถึงเป็นสิ่งแรก ๆ แล้วการที่จะเลือกอาหารงานเลี้ยงให้ตอบโจทย์รูปแบบงานที่สุด ต้องเลือกอย่างไรบ้าง?


การเลือกอาหารงานเลี้ยงให้ตอบโจทย์รูปแบบงาน

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มธุรกิจจัดงานเลี้ยง หรือกำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารงานเลี้ยงอยู่นั้น ท่านสามารถเลือกอาหารและเครื่องดื่มที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละงานได้ผ่านรูปแบบงานต่าง ๆ   ไม่ว่าจะเป็นอาหารจัดเลี้ยง แบบเซต, โต๊ะจีน, บุฟเฟต์, ค็อกเทล หรือคานาเป้ เป็นต้น ด้วยแนวคิดหรือเทคนิคต่าง ๆ เกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มจากบทความนี้ท่านสามารถนำไปใช้ต่อยอดในธุรกิจเพิ่มเติมได้


อาหารงานเลี้ยงแบบเซต

อาหารจัดเลี้ยงแบบเซต หรือการจัดเลี้ยงแบบอาหารชุด (Banquot) เป็นการจัดเลี้ยงแบบหนึ่งที่จัดเลี้ยงแบบนั่งรับประทานอาหาร โดยอาหารที่นำมาเสิร์ฟนั้นจะเป็นอาหารที่คัดสรรไว้ล่วงหน้าแล้ว งานเลี้ยงประเภทนี้มักจะเหมาะกับงานที่มีความทางการ ส่วนใหญ่จะแบ่งเสิร์ฟเป็น อาหารเรียกน้ำย่อย, อาหารจานหลัก ของหวาน รวมถึงเครื่องดื่ม เป็นต้น

ข้อดีของอาหารงานเลี้ยงแบบเซต

    แขกรู้สึกพิเศษมากขึ้น เพราะได้รับการเสิร์ฟอาหารโดยตรง
    การแบ่งสัดส่วนอาหารสำหรับแขกจะมีความแม่นยำมากขึ้น
    เป็นรูปแบบเมนูอาหารงานเลี้ยงที่กำหนดมาตรฐานของอาหารได้ค่อนข้างแม่นยำ เพราะมีใช้สัดส่วนต่าง ๆ ที่แน่นอน

ตัวอย่างเมนูอาหารแบบเซต

-    ของว่าง หรืออาหารเรียกน้ำย่อย
หมี่กรอบสามรส, ส้มตำผลไม้, ปอเปี๊ยะกุ้ง

-    อาหารจานหลัก
โป๊ะแตก, หมึกผัดไข่เค็ม, กุ้งทอดราดซอสมะขาม

-    ของหวาน
ขนมเปียกปูน, ขนมกล้วย, ขนมฟักทอง

-    เครื่องดื่ม
น้ำใบเตย, น้ำเก๊กฮวย, น้ำอัญชันมะนาว


อาหารงานเลี้ยงโต๊ะจีน

ในปัจจุบันอาหารงานเลี้ยงแบบโต๊ะจีน (Chinese Style) เป็นหนึ่งในรูปแบบของการจัดเลี้ยงที่ได้รับความนิยม ซึ่งจะให้บริการอาหารโดยการเสิร์ฟมาเป็นชุด โดยจะเป็นอาหารจีนทั้งหมด มักจะแบ่งเป็น 3 ชุด ชุดแรกนิยมเป็นของกินเล่น ชุดกลางเป็นข้าวพร้อมกับข้าวที่หลากหลาย ส่วนชุดสุดท้ายคือขนมหวานนั่นเอง

ข้อดีของอาหารงานเลี้ยงโต๊ะจีน

    แขกรู้สึกพิเศษมากขึ้น เพราะได้รับการเสิร์ฟโดยตรง
    สามารถกำหนดค่าใช้จ่ายที่แม่นยำได้ง่ายขึ้น
    จำกัดจำนวนแขกที่มาในงานได้


ตัวอย่างเมนูอาหารโต๊ะจีน

-    ของว่าง หรืออาหารเรียกน้ำย่อย
เกี๊ยวกุ้ง, ออเดิร์ฟ 4 อย่าง, ขนมปังหน้าหมู

-    อาหารจานหลัก
กระเพาะปลาน้ำแดงทรงเครื่อง, ปลาทับทิมสามรส, ข้าวผัดปู

-    ของหวาน
ทับทิมกรอบ, เงาะลอยแก้ว, ผลไม้รวม

-    เครื่องดื่ม
น้ำผลไม้, น้ำอัดลม, น้ำสมุนไพร


อาหารงานเลี้ยงบุฟเฟต์

การจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟต์ (Buffet) เป็นหนึ่งในรูปแบบการจัดเลี้ยงที่สามารถเลี้ยงแขกได้หลากหลายโอกาส ซึ่งเป็นรูปแบบอาหารงานเลี้ยงที่ง่ายและมีความสะดวกในการรับประทาน ทั้งยังสามารถเลือกตักกินเองได้ตามใจชอบ ควรมีอาหารครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ของคาว หวาน หรือเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นรูปแบบอาหารจัดเลี้ยงที่มีความเป็นทางการน้อยกว่าอาหารงานเลี้ยงแบบเซต


ข้อดีของอาหารงานเลี้ยงบุฟเฟต์

    ใช้พนักงานเสิร์ฟไม่มาก
    ไม่ยุ่งยากในการเสิร์ฟอาหาร เพราะเป็นแบบบริการตัวเอง
    ง่ายต่อการรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับอาหาร


ตัวอย่างเมนูอาหารบุฟเฟต์

-    ของว่าง หรืออาหารเรียกน้ำย่อย
หมูโสร่ง, ขนมปังกรอบเนยกระเทียม, คลับแซนด์วิช

-    อาหารจานหลัก
ข้าวผัดรวมมิตร, ปลาทอดกระเทียมพริกไทย, ต้มยำกุ้ง

-    ของหวาน
ซาหริ่ม, สาคูแคนตาลูป, เฉาก๊วย

-    เครื่องดื่ม
กาแฟเย็น, ชาดำเย็น, น้ำมะนาวโซดา


อาหารงานเลี้ยงค็อกเทล หรือคานาเป้

รูปแบบการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล (Cocktail) หรือคานาเป้ (Canape) เรียกได้ว่ากำลังฮิตสุด ๆ ในตอนนี้ เป็นอาหารงานเลี้ยงที่ดูเรียบง่าย หน้าตาหลากหลาย น่ารับประทาน ลักษณะของแต่ละเมนูจะเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ เน้นเป็นอาหารที่ไม่อิ่มท้องจนเกินไป มีการจัดเรียงอาหารอย่างสวยงาม สามารถเดินมาหยิบรับประทานและยืนไปกินไปได้ ส่วนเครื่องดื่มจะมีพนักงานคอยเดินเสิร์ฟรอบ ๆ งาน


ข้อดีของอาหารงานเลี้ยงค็อกเทล หรือคานาเป้

    มีการจับคู่รสชาติวัตถุดิบอาหารที่ลงตัว
    ราคาถูกกว่ารูปแบบการจัดงานเลี้ยงแบบอื่น
    เป็นรูปแบบของอาหารงานเลี้ยงที่สามารถเลี้ยงแขกได้มาก


ตัวอย่างเมนูค็อกเทล หรือคานาเป้

-    ของว่าง หรืออาหารเรียกน้ำย่อย
ทอดมันกุ้ง, เมี่ยงคำ, หมูสะเต๊ะ

-    อาหารจานหลัก
ข้าวอบสับปะรด, เส้นหมี่หมูย่าง, สปาเกตตีคาโบนาล่า

-    ของหวาน
ทาร์ตผลไม้, พานาคอตต้า, บานอฟฟี่

-    เครื่องดื่ม
ช็อกโกแลต, ชาเขียวมะลิ, ม็อกเทลผลไม้


เคล็ดลับสร้างความโดดเด่นให้กับรูปแบบงานเลี้ยง

สำหรับผู้ประกอบธุรกิจจัดเลี้ยงที่ต้องการนำเสนอรูปแบบงานเลี้ยงกับอาหารงานเลี้ยงให้มีความโดดเด่นกว่าผู้ประกอบการธุรกิจจัดเลี้ยงอื่น ๆ สามารถนำเคล็ดลับเหล่านี้มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจจัดเลี้ยงอาหาร เพื่อสร้างเอกลักษณ์และความแตกต่างให้กับบริการจัดเลี้ยงของคุณได้


1. มองหาเทรนด์ใหม่และสิ่งที่น่าสนใจ

คอยติดตามแนวโน้มของเมนูอาหารที่กำลังมา หรือติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับความชอบด้านอาหารในปัจจุบัน จากนั้นพิจารณาว่าสิ่งเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อทำให้งานเลี้ยงของคุณทันสมัยได้อย่างไร แล้วเลือกสรรอาหารให้เหมาะสมประเภทของงานเลี้ยง ซึ่งแน่นอนว่าในปัจจุบันผู้รับประทานอาหารที่ใส่ใจสุขภาพนั้นมีมากขึ้น จึงทำให้ผู้คนเหล่านั้นมองหาตัวเลือกที่สมดุลเมื่อรับประทานอาหาร


2. รวมตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ

อาหารสำหรับงานเลี้ยงไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แต่เพียงอาหารที่รับประทานได้ง่ายเหมือนในอดีตอีกต่อไป เนื่องจากผู้คนจำนวนมากในปัจจุบันเริ่มที่จะมองหาวัตถุดิบที่สดใหม่ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และคุณภาพดีมากยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจจัดเลี้ยงที่ต้องการนำเสนอรูปแบบงานเลี้ยงให้เข้ากับอาหารงานเลี้ยงแต่ละรูปแบบ จึงจำเป็นต้องมี Solutions หรือตัวเลือกที่ช่วยในการควบคุมสัดส่วนต่าง ๆ ในเมนูอาหารเลี้ยงเพื่อรองรับคนกลุ่มนี้


3. ตอบสนองความต้องการอาหารด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย

การเสนอตัวเลือกอาหารที่หลากหลายในงานเลี้ยงรูปแบบต่าง ๆ จะช่วยดึงดูดใจให้แขกที่มาร่วมงานและมีแนวโน้มจะเลือกใช้บริการจัดเลี้ยงของคุณในครั้งต่อๆไป สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจจัดเลี้ยงที่มองหาแหล่งวัตถุดิบชั้นดี สด ใหม่ ในราคาขายส่ง สำหรับการซื้อเพื่อสร้างสรรค์เมนูอาหารงานเลี้ยงที่หลากหลายให้อร่อยครบสูตร


อาหารงานเลี้ยงที่ตอบโจทย์สำหรับงานเลี้ยง จัดเลี้ยงนอกสถานที่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

164
ปัจจุบันมลภาวะทางอากาศเต็มไปด้วยฝุ่นมากมาย หลายบ้านจึงนิยมเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง ‘เครื่องฟอกอากาศ’ มาเป็นตัวช่วยทำให้อากาศสะอาดมากขึ้น แต่อย่าลืมที่จะรู้วิธีใช้เครื่องฟอกอากาศที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อการใช้งานที่คุ้มค่าและรักษาอายุการใช้งานให้ยาวนาน


ฝุ่น PM2.5 ทำร้ายสุขภาพ

ฝุ่น PM2.5 (PM : Particulate Matters) ที่ปกคลุมอากาศในบ้านเรา มีขนาดอนุภาคที่เล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือไมโครเมตร จึงทำให้เรามองไม่เห็นและสูดฝุ่นพิษนี้เข้าไปโดยไม่รู้ตัวในทุก ๆ วัน ผ่านการกรองของขนจมูก เข้าร่างกายไปยังหลอดลม และลงลึกถึงถุงลมปอดและซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยตรง ส่งผลเสียถึงสุขภาพ สามารถสังเกตได้หากวันไหนที่ฝุ่น PM2.5 ในปริมาณสูงมากท้องฟ้าจะเหมือนมีหมอกควัน เพราะแบบนี้ ‘เครื่องฟอกอากาศ’ จึงกลายเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสำคัญในการช่วยกรองอากาศภายในบ้านให้บริสุทธิ์ ดังนั้น มารู้จักวิธีใช้เครื่องฟอกอากาศที่ถูกต้องกันไว้ดีกว่า
วิธีใช้เครื่องฟอกอากาศ ควรเลือกให้เหมาะสม


วิธีใช้เครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสม

1.    เลือกขนาดของเครื่องฟอกอากาศให้พอดีกับห้อง

เครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นมีความสามารถในการกรองฝุ่นได้แตกต่างกัน มีกำลังการทำงานที่ต่างกันเพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ของห้อง ดูว่าห้องที่จะนำเครื่องฟอกอากาศไปใช้งานนั้นมีพื้นที่กี่ตารางเมตร ควรเลือกขนาดเครื่องฟอกอากาศที่มีกำลังมากพอในการกรองฝุ่น แนะนำให้เลือกที่มีกำลังมากกว่าขนาดห้องเล็กน้อย เพื่อป้องกันการทำงานหนัก หากเลือกเครื่องฟอกอากาศไปไว้ในห้องพื้นที่กว้างเกินกว่ากำลังของเครื่องจะทำให้เครื่องทำงานหนักเกินไป และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น รวมถึงประสิทธิภาพการกรองอากาศก็ทำได้ไม่เต็มที่อีกด้วย

ทริกเลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะกับขนาดห้อง ดูที่ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) หรืออัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธ์ให้เหมาะสมกับพื้นที่


2.    เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง

ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ แนะนำให้เลือกเครื่องที่มีแผ่นกรองอากาศ HEPA (High Efficiency Particulate Air Filter) แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง มีความสามารถในการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมาก (Small Particles) หรือ ฝุ่นละออง PM2.5 ได้เป็นอย่างดี รวมถึงกรองเชื้อโรคไวรัส แบคทีเรียต่าง ๆ ที่ปะปนในอากาศได้ นอกจากแผ่นกรองอากาศ HEPA จะมีประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่น กรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้แล้ว ยังสามารถเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศเพื่อไม่ให้ฝุ่นสะสมไว้นานเกินไป


3.    มีเทคโนโลยีและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์

ปัจจุบันเครื่องฟอกกาศมีฟังก์ชันตอบโจทย์ความต้องการอยู่มากมาย เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศควรดูให้เหมาะสมกับความต้องการของเรา เช่น ฟังก์ชันวัดระดับฝุ่นละออง ระบบอัตโนมัติ เลือกโหมดการทำงาน หาอะไหล่เครื่องได้หรือไม่ รวมถึงบริการหลังการขายก็สำคัญเช่นกัน


4.    เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีฉลากเบอร์ 5

ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ช่วยประหยัดไฟในการใช้งานเครื่องฟอกอากาศได้มาก ยิ่งมีจำนวนดาวมากก็ยิ่งประหยัดไฟ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ไขข้อสงสัย ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบเดิมกับแบบใหม่ ประหยัดได้แค่ไหน
วิธีใช้เครื่องฟอกอากาศที่ถูกต้อง


วางเครื่องฟอกอากาศตรงไหนดี

-    ควรวางในพื้นที่ปิด เมื่อห้องปิดสนิทหรือมีอากาศไหลเวียนไม่มากเป็นสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถดึงอากาศภายในห้องมากรองให้สะอาดได้ดี เพราะหากเปิดใช้งานขณะเปิดประตู หน้าต่าง หรือในพื้นที่เปิด ทำให้เครื่องฟอกอากาศต้องดึงอากาศมากรองมากขึ้น ทำงานยิ่งขึ้น อาจเกินกำลังของเครื่องที่จะรับไหว
-    เลือกวางเครื่องฟอกอากาศในจุดที่ถ่ายเทสะดวก หรือตำแหน่งกลางห้อง อากาศหมุนเวียนได้ดี จุดที่ไม่ควรนำเครื่องฟอกอากาศไปวาง ได้แก่ ซอกตู้ ซอกโต๊ะ มุมห้อง ใกล้ผ้าม่าน หรือพวกจุดที่มีฝุ่นสะสม ที่สำคัญควรวางเครื่องฟอกอากาศให้ห่างจากผนังประมาณครึ่งฟุต หรือ 1 ฟุต
-    เครื่องฟอกอากาศและเครื่องปรับอากาศควรอยู่คนละมุม หลักการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งสองชนิดนี้คือการดึงอากาศเข้าไปเหมือนกัน จึงไม่ควรวางไว้ใกล้กันจนเกินไป เพราะจะทำให้แย่งอากาศกันมากกว่ากรองอากาศ อีกทั้งประสิทธิภาพการทำงานก็ยังไม่เต็มที่อีกด้วย แนะนำให้วางเครื่องฟอกอากาศให้อยู่คนละมุมไปเลยจะดีที่สุด


วิธีดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศให้ใช้งานได้นาน ๆ

-    เช็ดทำความสะอาดภายนอกเครื่อง สำหรับชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติก สามารถใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดได้ บริเวณที่ควรดูแลเป็นพิเศษคือ ช่องที่ปล่อยอากาศออกมา ซึ่งฝุ่นสามารถเข้าไปเกาะสะสมจนฟุ้งกระจายได้
-    เปลี่ยนแผ่นกรอง หรือ Filter เมื่อถึงเวลา โดยทั่วไปตัวกรองอากาศจะมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือนไปจนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานว่าบ่อยแค่ไหนหรือพื้นที่มีฝุ่นมลพิษหนาแน่นหรือไม่




บริหารจัดการอาคาร: แนะนำวิธีใช้เครื่องฟอกอากาศให้ถูกต้อง คุ้มค่า ไม่เปลืองไฟ  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/

165
ด้วยการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของจังหวัดขอนแก่น ทำให้ตัวเมืองมีการเติบโตอย่างเร็ว และการบริการ รถรับจ้างจังหวัดขอนแก่น ก็โตตามไปด้วยไม่ว่าจะเป็นงาน รับจ้างขนอง รับจ้างขนย้าย รับจ้างย้ายบ้าน ย้ายหอ ย้ายคอนโด สินค้าอุปโภค บริโภค ด้วย รถรับจ้างขนของจังหวัดขอนแก่น รถกระบะรับจ้างขนของจังหวัดขอนแก่น รถหกล้อรับจ้างจังหวัดขอนแก่น รถสิบล้อรับจ้างขนของจังหวัดขอนแก่น รถเฮียบรับจ้างขนของจังหวัดขอนแก่น รถเทรลเลอร์รับจ้างขนของจังหวัดขอนแก่น เป้นต้น ต่างได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะการที่ลูกค้า ที่ต้องการย้ายของ ก็ยากที่จะสบาย ไม่เหนื่อยในการยกของ สิ่งต่างๆเหล่านี้ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญให้ชีวิตที่ผันเปลี่ยนไปจากเดิม ทำให้ธุรกิจ รถรับจ้าง เกิดการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างน่าภาคภูมิใจ

         
ทุกงานบริการ สุดยอดงานบริการที่นี่เท่านั้นที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าท่านจะไปที่ไหน ขนย้ายอะไร วันไหน ต้องการคนยกสินค้าหรือไม่ แจ้ง รถรับจ้างขนของจังหวัดขอนแก่น เรามาได้เลยเพราะเรามีความพร้อมเรื่องรับจ้างขนย้ายจริงๆ เรียกได้เลยว่าเราคือ ผู้เชี่ยวชาญด้านงานรับจ้างขนของ สำหรับท่านที่ยังไม่เคยติดต่อเข้ามา สามารถเรียกรับบริการพิเศษ ราคาถูก กับเราได้ทุกวันนะครับ


พื้นที่ให้บริการรถรับจ้างขนของขอนแก่น ย้ายบ้าน ของเราในจังหวัดต่างๆ

รถรับจ้างขนของอำเภอเมืองขอนแก่น

 รถรับจ้างขนของอำเภออุบลรัตน์

รถรับจ้างขนของอำเภอเขาสวนกวาง

รถรับจ้างขนของอำเภอโคกโพธิ์ไชย 

รถรับจ้างขนของอำเภอชำสูง           

รถรับจ้างขนของอำเภอแฮด

รถรับจ้างขนของอำเภอชุมแพ

รถรับจ้างขนของอำเภอสีชมพู

รถรับจ้างขนของอำเภอบ้านไผ่

รถรับจ้างขนของอำเภอบ้านฝาง

รถรับจ้างขนของอำเภอเปือยน้อย

รถรับจ้างขนของอำเภอพล

รถรับจ้างขนของอำเภอพระยืน

รถรับจ้างขนของอำเภอภูเวียง

รถรับจ้างขนของอำเภอภูผาม่าน

รถรับจ้างขนของอำเภอมัญจาคีรี

รถรับจ้างขนของอำเภอแวงน้อย

รถรับจ้างขนของอำเภอแวงใหญ่

รถรับจ้างขนของอำเภอหนองสองห้อง

รถรับจ้างขนของอำเภอหนองเรือ

รถรับจ้างขนของอำเภอกระนวน 

รถรับจ้างขนของอำเภอหนองนาคำ

รถรับจ้างขนของอำเภอชนบท

รถรับจ้างขนของอำเภอโนนศิลา

รถรับจ้างขนของอำเภอน้ำพอง


รถรับจ้างจังหวัดขอนแก่น รับจ้างขนของ ย้ายบ้าน หอ รถรับจ้างทั่วไป อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/

166
ความจริงก็คือไม่มีสิ่งแก้อาการเมาค้างหรือแฮงโอเวอร์ได้ผลชะงัด เรื่องนี้เราพูดจริง เพราะมีผลการศึกษาหลายชิ้นยืนยันว่าวิธีแก้อาการเมาค้างที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการไม่ดื่ม (โถ ชีวิต) หรืออะลุ่มอล่วยให้ดื่มได้แต่พอประมาณ เพราะต่อให้ดื่มน้ำเปล่าเป็นลิตรก่อนหรือหลังก็ไม่ช่วย "คนส่วนมากรวมทั้งตัวผมโตขึ้นมาพร้อมความคิดที่ว่าคุณต้องดื่มน้ำปริมาณมากหากดื่มแอลกอฮอล์ ข้อดีคือช่วยลดปริมาณการดื่มสุรา แต่มันไม่ได้ช่วยลดผลกระทบจากการเมาค้าง" กล่าวโดยศาสตราจารย์ Kypros Kypri ประจำ University of Newcastle ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งสอดคล้องกับผลการทดลองล่าสุดของชาวดัตช์ที่ช่วยยืนยันอีกเสียงว่าการดื่มน้ำเปล่าไม่ช่วยอะไร นอกจากชดเชยน้ำที่สูญเสียไปจากการดื่มเหล้า แต่ไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวหรือคลื่นไส้


ดังนั้นหากไม่อยากเมาค้างควรป้องกันแต่เนิ่นๆ  เริ่มจากกินอาหารรองท้อง เอาให้แน่ใจว่ามีคาร์โบไฮเดรตและไขมัน เช่น อาหารตามสั่งสักจานหรือจะพาสต้าก็ไม่ว่ากัน เพื่อชะลอการดูดซึมแอลกอฮอล์ อย่าดื่มปนกันมั่วหรือริผสมผเสองุ่นกับข้าว นักดื่มที่ดีควรแยกให้ออกระหว่างไวน์กับบรั่นดีและเบียร์กับวิสกี้ ดื่มน้ำเปล่าสลับกับเหล้า (อัตราส่วน 1:1 แก้ว) เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์สีเข้มเพราะมีคอนจีเนอร์  (congener) ที่ทำให้เมาค้าง ยิ่งสีเข้มยิ่งมีเยอะ ยิ่งราคาถูกยิ่งมีมากตามไปด้วย แนะเป็นไวน์ขาว ยิน หรือวอดก้า เหล่านี้คือเคล็ดลับที่พอช่วยคุณได้ในกรณีที่ยังไม่เมาขาด แต่หากสติหลุดไปแล้ว ลองสต็อกตู้เย็นด้วยอาหารเหล่านี้ที่แม้ไม่ช่วยให้หายขาด แต่ก็พอบรรเทาไปได้มาก
 

น้ำมะพร้าว

     ใช่ว่าจะดีเฉพาะหลังออกกำลังกาย แต่น้ำมะพร้าวยังแก้เรื่องเมาค้างได้ด้วย เพราะช่วยลดการขาดน้ำ เพิ่มเกลือแร่ มีโพแทสเซียมสูงกว่ากล้วยซึ่งเป็นสารอาหารหลักที่ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น รสชาติอร่อยไม่จืดชืดเหมือนน้ำเปล่าที่กระเดือกไม่ลงเวลาแฮงโอเวอร์จัดๆ แถมยังให้ความหวานที่เป็นประโยชน์กว่าน้ำหวานตั้งเยอะ   


ไข่

     นอกจากจะย่อยง่ายและอ่อนโยนต่อกระเพาะหลังผ่านสงคราม ไข่ยังอุดมด้วยโปรตีนและซิสเทอีนช่วยดับพิษสุรา รวมถึงวิตามินบีลดอาการเมาค้าง แต่หากเมื่อคืนคุณดื่มหนักไปหน่อยซึ่งอาจส่งผลต่อรอบเอว แนะว่าให้กินไข่ขาวมากกว่าไข่แดง สูตรคือไข่ขาว 4 ฟองต่อไข่แดง 2 ฟอง เคียงด้วยหน่อไม้ฝรั่งที่ช่วยเร่งการขจัดแอลกอฮอล์และลดการเสื่อมถอยของเซลล์ในร่างกาย


ซุปมะเขือเทศ

     เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ บอกให้กินน้ำมะเขือเทศผสมเบียร์ แต่ถ้าเป็นวิทยาศาสตร์สมัยใหม่แนะให้คุณเปลี่ยนมาเป็นซุปมะเขือเทศหรือซุปไก่ปรุงรสด้วยเกลือ เพื่อทดแทนน้ำและสารอาหารที่เสียไป ทั้งยังทำให้กระเพาะไม่ว่างหลังการอ้วกมาทั้งคืน สองอย่างนี้มีโพแทสเซียมและโซเดียมที่ช่วยดึงอิเล็กโทรไลต์กลับสู่ร่างกาย อีกทั้งเกลือที่ใส่ไปยังช่วยให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้นและทำให้คุณกระหายน้ำ ถือเป็นการบังคับให้ดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆ 
   
       
กล้วย

     อ่านมาหลายข้อจะเห็นว่าเราพูดถึงโพแทสเซียมบ่อยครั้งก็เพราะมันดีต่อคนเมาจริงๆ แอลกอฮอล์ทำให้คนเราปัสสาวะบ่อยและโพแทสเซียมจะถูกขจัดออกมาทางนั้น ส่งผลให้รู้สึกล้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง ความดันโลหิตขึ้น ซึ่งล้วนเป็นอาการของคนเมาค้าง ในขณะที่กล้วยมีโพแทสเซียมสูง ราคาถูก อยู่ท้อง ย่อยง่าย ทั้งยังปอกกินสะดวกไม่ว่าจะเมาหัวทิ่มขนาดไหน


ชาเขียว

     มากด้วยสารต้านแก่ ชะลออายุเซลล์ ช่วยบำรุงอวัยวะต่างๆ เช่น 'ตับ' ทำให้คุณฟื้นตัวได้เร็วขึ้น หากคุณมีอาการคลื่นไส้พะอืดพะอมรวมอยู่ด้วย ลองเพิ่มโรสแมรี่หรือลาเวนเดอร์อบแห้งลงไป วิธีนี้จะช่วยให้ลดอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้ดีขึ้น


กาแฟ   
 
     ตำราบางเล่มไม่แนะให้ดื่มกาแฟ แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีสิ่งใดเลวร้ายไปกว่าการเมาค้างที่มาพร้อมความ ‘อยาก’ กาแฟ ในกรณีที่คุณเป็นคอกาแฟอยู่แล้ว ดื่มไปเถอะ เพราะกาเฟอีนช่วยขยายหลอดเลือดทำให้อาการปวดหัวตุบๆ ทุเลาลง กระตุ้นการทำงานของสมองให้ตื่นตัว พูดคุยกับคนอื่นรู้เรื่อง แต่หากไม่ดื่ม ลองเปลี่ยนมาเป็นน้ำขิงร้อนๆ ช่วยลดอาการคลื่นไส้และอยากอ้วกอันแสนทรมาน


เครื่องดื่มชูกำลัง

     โดยปกติเราไม่แนะนำให้ดื่มหากไม่ได้ออกกำลังกาย แต่การเมาค้างถือเป็นกรณียกเว้นเพราะเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อต่างๆ ล้วนมีสารจำเป็นต่อการฟื้นตัว เช่น อิเล็กโทรไลต์และน้ำตาล เหมาะสำหรับฟื้นฟูร่างกายหลังดื่มไปหลายแก้ว


สไปรท์

     อึ้งกันไปเมื่อนักวิจัยชาวจีนพบว่าสไปรท์เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแอลกอฮอล์ได้ดีขึ้น เมื่ออาการเมาค้างไม่ได้เกิดจากตับ แต่เป็นผลพวงของสารอะเซทัลดีไฮด์ที่เกิดจากการพยายามสลายแอลกอฮอล์ของตับ เจ้าสไปรท์จะเข้าไปเร่งให้ ALDH หรือสารที่ช่วยขับไล่สารนี้ทำงานได้ดีขึ้น คุณเลยหายเมาค้างได้เร็วขึ้น


8 ตัวช่วยแก้เมาค้าง แก้แฮ้งก์ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

167
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากบัญชีดิจิทัล ทีทีบี มีเซฟ (ttb ME save) รับดอกเบี้ยสูงสุดรวมโบนัส 2.20% ต่อปี มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566  หวังส่งเสริมให้ลูกค้ามีเงินออมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างวินัยทางการเงินเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น
 
นางสาวกนกวรรณ เพชรพิสิฐโชติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์ธุรกรรมธนาคาร ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ล่าสุด คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 2.50% ต่อปี ทีทีบี จึงได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก บัญชี ttb ME save ที่เสนอดอกเบี้ยพร้อมโบนัสสูงสุด เป็น 2.20% ต่อปี โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 นี้ เป็นต้นไป ซึ่งให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปถึง 8.8 เท่า
 
สำหรับอัตราดอกเบี้ยใหม่นี้ บัญชี ttb ME save ที่มียอดเงินฝากน้อยกว่าหรือเท่ากับ 100,000 บาท รับดอกเบี้ยสูงสุดรวมโบนัส 2.20% ต่อปี และยอดเงินฝากในบัญชีมากกว่า 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท รับดอกเบี้ยสูงสุดรวมโบนัส 1.60% ต่อปี ส่วนเงินฝากที่เกิน 1 ล้านบาทขึ้นไป รับดอกเบี้ยสูงสุดรวมโบนัส 1.20% ต่อปี
 
"เป็นเรื่องน่าเสียดายหากปล่อยเงินออมให้อยู่ในบัญชีออมทรัพย์ที่ได้ดอกเบี้ยเพียง 0.25% ต่อปี ซึ่งหากย้ายมาฝากเงินกับบัญชี ttb ME save ผู้ฝากจะได้รับเงินเพิ่มทุกวันด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงสุดรวมโบนัส 2.20% ตั้งแต่บาทแรก โดยไม่ได้กำหนดยอดฝากขั้นต่ำ ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ และยังคงได้รับดอกเบี้ยสูงเหมือนเดิม เพียงออมต่อเนื่องโดยมียอดเงินฝากในบัญชีเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน และสามารถเช็คดอกเบี้ยที่ได้รับเพิ่มขึ้นทุกวันบนแอป ttb touch" นางสาวกนกวรรณ กล่าวเพิ่มเติม


money expo 2038: ทีทีบี ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยบัญชี ttb ME save รับดอกเบี้ยสูงสุด อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/moneyexpo/

168
จัดฟันควรเริ่มที่อายุเท่าไหร่

การจัดฟันสามารถเริ่มได้เมื่ออายุครบ 12 ปีซึ่งฟันแท้ขึ้นครบ หากมีอายุตั้งแต่ 6-12 ปีจะเป็นการจัดฟันเพื่อการป้องกันซึ่งมักรักษาโดยทันตแพทย์เฉพาะทางสำหรับเด็ก และคุณหมอจัดฟันสำหรับเด็ก


อายุมากสามารถจัดฟันได้หรือไม่

ถึงปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถจัดฟันได้ทุกช่วงอายุ แต่ในผู้ที่มีอายุน้อยจะเคลื่อนฟันได้ง่ายกว่า


จัดฟันมีกี่แบบ อะไรบ้าง

การจัดฟันเฉพาะที่นิยมในปัจจุบันอาจแบ่งได้เป็น3กลุ่ม

1.     กลุ่มที่ใส่ Bracket ร่วมกับการใช้ลวดโดยใช้หนังสติกในการยึด Bracket ติดกับลวด แบบนี้ถือว่าเป็นการจัดฟันแบบดั้งเดิมซึ่งก็มีประสิทธิภาพในการจัดฟัน แต่การจัดฟันอาจจะเจ็บหน่อย และเคลื่อนฟันได้ช้าหน่อย และจำเป็นต้องพบทันตแพทย์บ่อยครั้งประมาณเดือนละครั้ง ทั้งนี้เพราะหนังสติกจะลัดลวดกับ Bracket ด้วยแรงเต็มที่และจะหมด Actionค่อนข้างรวดเร็ว  ทำให้เจ็บหน่อยฟันเคลื่อนได้น้อยในการปรับเครื่องมือแต่ละครั้ง และต้องมาพบทันตแพทย์บ่อย

2.    การจัดฟันระบบ Damon การจัดฟันระบบนี้จะเป็นการใช้ Bracket ร่วมกับการใช้ลวดชนิด Long acting ยึดเข้าด้วยกันอย่างหลวมด้วยบานเปิดปิด ทำให้การเคลื่อนฟันมีประสิทธิภาพ เจ็บน้อย และการปรับฟันแต่ละครั้งอยู่ได้นาน ค่อยๆเคลื่อนฟันไปอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่จำเป็นต้องพบทันตแพทย์บ่อย ประมาณ 2 เดือนต่อครั้ง

3.    การจัดฟันระบบ Invisalign  เป็นการจัดฟันที่ไม่ต้องมีเครื่องมือติดในช่องปาก แต่เป็นการใช้เครื่องมือถอดได้ชนิดใส (Clear Aligner) หลายๆชิ้นซึ่งผลิตขึ้นจากการวางแผนการรักษาในคอมพิวเตอร์สามมิติโดยไล่ระดับการเคลื่อนตัวของฟันไปทีละน้อย การจัดฟันจึงเป็นการค่อยๆเปลี่ยนเครื่องมือถอดได้ชนิดใสนี้ไปเรื่อยๆทีละชิ้น จนฟันเคลื่อนที่ไปตามการวางแผนการรักษาจนฟันมีการเรียงตัวที่ดีและสวยงามตามแผนการรักษา


การจัดฟัน เจ็บไหม

การจัดฟันจะก่อให้เกิดความเจ็บได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้ แต่ก็เป็นการเจ็บที่ไม่มากนัก

    การเจ็บจากการปรับเครื่องมือจัดฟันให้ฟันเคลื่อนไปในทิศทางที่ทันตแพทย์ต้องการ ซึ่งจะมีการเจ็บในลักษณะตึงฟัน อย่างไรก็ดีระบบ Damon ที่เราเลือกใช้จะเจ็บน้อยกว่าระบบธรรมดาทั่วไปที่เป็น Bracket แล้วใช้หนังสติ๊กรัดไว้ เพราะจะออกแรงในครั้งเดียวเลย ส่วน Damon จะเป็นลวด Long acting อยู่ใน Slot ของ Bracket ในลักษณะมีบานปิด ทำให้ออกแรงช้าๆ และออกแรงอยู่ได้นานๆทำให้เจ็บน้อยกว่า
    เจ็บจากการระคายเคืองของเครื่องมือจัดฟันในช่องปากซึ่งอยู่นอกตัวฟันทำให้บาดริมฝีปาก หรือ กระพุ้งแก้ม หรือบางครั้งก็มีลวดแทงกระพุ้งแก้ม ซึ่งแก้ไขด้วยการตัดลวดออก หรือใช้ขี้ผึ้งปิดบรเวณเครื่องมือที่ระคายเคือง การเจ็บในลักษณะนี้ก็ไม่มากมายนัก


ระหว่างจัดฟันทานอะไรได้บ้าง

 คนไข้สามารถรับประทานอาหารได้ทุกอย่างแต่ทันตแพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการทานอาหารจำพวกของที่เหนียว หรือมีความแข็ง เช่น หมากฝรั่ง ขนมปังที่มีความแข็ง อาหารที่ต้องใช้การกัดแทะ หากเป็นอาหารที่มีความแข็งควรหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำแล้วค่อยรับประทาน


วิธีการทานสำหรับคนไข้จัดฟัน

การทานอาหารสำหรับคนไข้จัดฟันควรรับประทานอาหารอ่อนๆเช่นข้าวต้ม โจ๊ก น้ำแกงต่างๆ แต่ก็สามารถทานอาหารได้ทุกอย่างเช่นกันเพียงแต่พยายามตัดหรือสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ เวลาทานควรทานคำละน้อยๆ และทานอย่างระมัดระวังเพราะบ้างครั้งในอาหารอาจมีก้อนแข็งๆที่เรานึกไม่ถึง ทำให้เครื่องมือเราหลุดได้ ควรทานอย่างยั้งๆไว้บ้างอย่ากัดเต็มแรงมากเกินไป การทานผลไม้ควรระวังพวกเม็ดแข็งๆควรปอกหรือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆก่อนรับประทาน และสุดท้ายพวกอาหารเหนียวๆกัดไม่ขาดเช่นผัก ปลาหมึก เนื้อเหนียวๆควรหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆก่อนทาน ในช่วงที่มีการปรับเครื่องมือใหม่ๆจะมีอาการปวดตึงฟันให้ทานเบาๆและขอเป็นอาหารอ่อนๆไว้ก่อน หลังจากอาการตึงฟันน้อยลงแล้วจึงทานแข็งขึ้น เหนียวขึ้นได้


จัดฟันให้หน้าเรียวทำได้หรือไม่

จริงๆการจัดฟันไม่ได้มีผลโดยตรงต่อรูปหน้าของคนไข้ แต่ก็ส่งผลต่อรูปหน้าคนไข้ได้เช่นเดียวกัน การจัดฟันมุ่งเน้นให้มีการเรียงตัวของฟัน และการสบฟันที่ดีขึ้น ในการทำดั่งนี้ หากมีการเพิ่มความสูงของใบหน้าส่วนล่าง (Vertical dimension) ของคนไข้ ก็จะทำให้หน้าเรียวขึ้น และหากมีการทำให้ขากรรไกรแคบลงก็จะดูหน้าเรียวขึ้น แต่วัตถุประสงค์หลักคงมุ่งเน้นการจัดฟันให้ฟันอยู่ในลักษณะที่ถูกต้องเป็นหลัก ไม่ใช่คนไข้ทุกคนจะสามารถทำให้หน้าเรียวได้


จัดฟันควรเริ่มที่อายุเท่าไหร่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

169
ข้อสันหลังอักเสบเรื้อรัง (ข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดยึดติด ก็เรียก) คือโรคที่ภาวะการอักเสบของข้อต่อกระดูกสันหลังแบบเรื้อรัง และค่อย ๆ รุนแรงขึ้นจนมีการเชื่อมต่อ (ยึดติด) กันของข้อต่อกระดูก พบได้ประปราย ซึ่งพบได้ในคนทุกวัย แต่จะพบในคนหนุ่มสาว และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

สาเหตุ

ยังไม่ทราบแน่ชัด พบว่ามีความสัมพันธ์กับปฏิกิริยาภูมิต้านตนเองต่อเนื้อเยื่อบริเวณข้อต่อกระดูกต่าง ๆ

สันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ร่วมกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม

อาการ

ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการปวดข้อ โดยเฉพาะปวดหลังหรือบั้นเอว เมื่ออายุประมาณ 20 ปี (ระหว่าง 10-30 ปี) เริ่มปวดเมื่อมีอายุมากกว่า 30 ปีพบได้น้อย

บริเวณที่ปวด เรียงลำดับตามที่พบมาก ได้แก่ บั้นเอว แก้มก้น ทรวงอก หัวเข่า ส้นเท้า หัวไหล่ และข้อมือ ในระยะแรกมักมีอาการปวดเป็นครั้งคราว และดีขึ้นจากการกินยาแก้ปวด ที่เด่นชัดคือ จะปวดหลังมากเวลานอนโดยเฉพาะในช่วงเช้า

บางครั้งจะปวดมากจนต้องตื่นนอน อาจมีอาการหลังแข็ง และดีขึ้นหลังจากได้เคลื่อนไหวร่างกายหรือออกกำลังกาย

บางรายอาจรู้สึกปวดเมื่อยง่ายหลังทำงานหรือเล่นกีฬา

บางรายอาจมีอาการปวดร้าวลงขาแบบรากประสาทถูกกด

ถ้าเป็นรุนแรงอาจมีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซีด

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไปพบแพทย์หลังมีอาการ 6 เดือนถึง 3 ปี อาการจะค่อย ๆ เป็นมากขึ้นในระยะ 10-20 ปี แล้วอาจทุเลาหรือหายไปได้เอง หรืออาจปวดเฉพาะที่บั้นเอวหรือข้อสะโพก แต่บางรายอาการอักเสบอาจลุกลามไปตามข้ออื่น ๆ หรืออวัยวะอื่น ๆ เช่น ม่านตา (iris) หัวใจ ทางเดินอาหาร ปอด เป็นต้น


ภาวะแทรกซ้อน

ข้อต่อสันหลังเชื่อมติดกันจนมีความพิการ คือ หลังโก่ง

ข้อสะโพกติดแข็งจนยืนและเดินไม่ได้

ข้อต่อกระดูกซี่โครงติดแข็ง ทำให้สมรรถภาพปอดลดลง อาจเกิดการติดเชื้อในปอด ปอดอักเสบได้

ข้อขากรรไกรแข็ง ทำให้กลืนลำบาก

ประสาทสันหลังส่วนล่างผิดปกติ เกิดอาการปวดขา ขาอ่อนแรง กลั้นปัสสาวะอุจจาระไม่ได้

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ม่านตาอักเสบ ลิ้นหัวใจเอออร์ติกรั่ว (aortic insufficiency)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งมีสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ในระยะแรกเริ่ม อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

เมื่อเป็นมากขึ้น จะพบอาการกดหรือคลำถูกเจ็บตรงข้อที่ปวด หรือใช้กำปั้นทุบเบา ๆ ตรงกลางหลังจะเจ็บมากขึ้น

อาจตรวจพบว่า ผู้ป่วยก้มงอบั้นเอวลงด้านหน้าได้น้อยกว่าปกติ เรียกว่า การทดสอบแบบโชเบอร์ (Schober test)

การวัดรอบทรวงอกดูการขยายตัวเมื่อหายใจเข้าเต็มที่ จะพบว่าขยายขึ้นได้น้อยกว่าคนปกติ (ขยายได้ต่ำกว่า 5 ซม. ในชายหนุ่ม)

ในรายที่มีอาการรุนแรงและละเลยการรักษาที่ถูกต้องเป็นแรมปีจะมีลักษณะเฉพาะ คือ หลังแข็งทั้งท่อนและโก่ง (kyphosis) ตาไม่สามารถมองตรงไปข้างหน้า บางรายสะโพกแข็งแบบอยู่ในท่านั่ง ทำให้ยืนและเดินไม่ได้

บางรายอาจมีม่านตาอักเสบ คือ มีอาการปวดตาตาแดงร่วมด้วย เรียกว่า กลุ่มอาการไรเตอร์ (Reiter’s syndrome) หรืออาจมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ลิ้นหัวใจเอออร์ติกรั่ว (aortic insufficiency) ซึ่งใช้เครื่องฟังตรวจหัวใจได้ยินเสียงฟู่

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจเลือด ซึ่งจะพบค่าอีเอสอาร์ (ESR) และ C-reactive protein สูงกว่าปกติ

การตรวจเอกซเรย์ และการถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะพบความผิดปกติของข้อต่อสันหลังและข้อต่อสะโพก (sacroiliac joint) ในระยะที่โรคเป็นมากแล้ว


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การบรรเทาอาการปวด อักเสบ และป้องกันความพิการ โดย

1. ให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สตีรอยด์ เช่น ไอบูโพรเฟน นาโพรเซน ถ้าไม่ได้ผลแพทย์จะให้ยากลุ่ม Disease-modifying antirheumatic drugs (DMARDs) เพิ่มเติม เช่น เมโทเทรกเซต (methotrexate), ซัลฟาซาลาซีน (sulfasalazine) เป็นต้น

2. กายภาพบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยคงรูปทรงในท่าตรงให้สามารถยืนและนั่งตรงได้ และรักษามุมการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลัง สะโพก คอ และทรวงอกไว้

3. การผ่าตัดสำหรับระยะท้ายของโรคที่มีการติดแข็งของข้อ เช่น การเปลี่ยนข้อสะโพก การดัดกระดูกเอวที่โก่งโค้งให้ตรง เป็นต้น

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะสามารถช่วยตัวเองได้ ยกเว้นผู้ที่ละเลยการรักษา อาจพบมีความพิการได้ประมาณร้อยละ 10 หากข้อสันหลังและข้อสะโพกยังมีความยืดหยุ่นหลังมีอาการเกิน 10 ปี ก็มักจะปลอดจากความเสี่ยงที่ข้อจะติดแข็ง

ผลการรักษา โรคนี้มักเป็นเรื้อรัง ระยะและความรุนแรงของโรคจะแตกต่างกันไปตามสภาพของแต่ละคน ถ้าได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม และรู้จักดูแลตนเองอย่างเหมาะสม ก็อาจช่วยให้ผู้ป่วยคงสภาพการทำงานของร่างกายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดหลังหรือบั้นเอวเรื้อรัง มีลักษณะปวดมากเวลานอนโดยเฉพาะในช่วงเช้า หรือบางครั้งปวดมากจนต้องตื่นนอน หรือมีอาการหลังแข็ง และดีขึ้นหลังจากได้เคลื่อนไหวร่างกายหรือออกกำลังกาย ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นข้อสันหลังอักเสบเรื้อรัง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หมั่นฝึกทำกายภาพบำบัดด้วยตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ การบริหารเน้นการเหยียดตรงของหลังและคอ
    รักษาอิริยาบถการยืน เดิน นั่ง นอน ให้หลังอยู่ในท่าตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้
    นอนบนที่นอนแข็ง (ไม่ควรใช้หมอนหนุนใต้เข่าเพื่อลดปวดเหมือนโรคปวดหลังทั่วไป) หลีกเลี่ยงการใช้หมอนสูงเพื่อป้องกันมิให้คอโก่งโค้ง
    เมื่อมีอาการปวด อาจใช้ความร้อนช่วย (เช่น อาบน้ำอุ่น ใช้น้ำอุ่นจัด ๆ ประคบ) และบีบนวด
    ผู้ป่วยที่ยังไม่มีอาการข้อติดแข็ง สามารถเล่นกีฬาได้ทุกประเภท ยกเว้นประเภทที่ต้องก้มหลัง เช่น ถีบจักรยาน โบว์ลิ่ง ตีกอล์ฟ เป็นต้น
    ฝึกการหายใจเข้าออกลึก ๆ วันละ 10-20 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วงหลังตื่นนอนตอนเช้า
    งดสูบบุหรี่ เพื่อป้องภาวะแทรกซ้อนของทางเดินหายใจ
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระดำ ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

ควรป้องกันไม่ให้โรคลุกลามโดยการไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาแต่เนิ่น ๆ เมื่อสังเกตว่ามีอาการที่น่าสงสัย

ข้อแนะนำ

โรคนี้ในระยะแรกจะมีอาการปวดเหมือนโรคปวดกล้ามเนื้อหลัง หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน หรือรากประสาทถูกกด ข้อเสื่อม แต่ถ้าพบเป็นเรื้อรังในชายหนุ่ม ซึ่งมีอาการปวดตอนเช้าก่อนตื่นนอน และอาการทุเลาหลังบริหารร่างกาย ก็ควรนึกถึงโรคนี้



ข้อมูลโรค: ข้อสันหลังอักเสบเรื้อรัง (Ankylosing spondylitis) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions

170
การจัดฟันแบบใส Invisalign เป็นรูปแบบการทันตกรรมแบบใหม่ ซึ่งเป็นการจัดฟันที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา และยังได้รับความนิยมในกลุ่มดารา นักแสดง ด้วยความที่สะดวกสบายในการรับประทานและการใช้ชีวิตประจำวัน การจัดฟันแบบใส จึงเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก


เพราะเครื่องมือจัดฟันสามารถถอดออกได้ง่าย และถอดได้ในช่วงที่ผู้เข้ารับการรักษารับประทานอาหารและขณะแปรงฟัน จึงทำให้สะดวก มีความหลากหลายในการรับประทานอาหารอีกด้วย ทั้งยังทำให้มีฟันที่เรียงสวยงามเป็นธรรมชาติในช่วงที่กำลังจัดฟันอยู่ ด้วยเครื่องมือแบบใส ที่สามารถมองเห็นได้ยาก เพราะมีลักษณะที่บางและใสมาก ทำให้ดูไม่ออกว่ากำลังจัดฟัน ถึงแม้ว่าการจัดฟันแบบใส จะเป็นที่นิยม แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในบางเรื่อง เช่นเรื่องของเครื่องมือการจัดฟัน นั่นเอง

เครื่องมือการจัดฟันแบบใส Invisalign ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของการรักษา ด้วยวัสดุที่ทำจากพลาสติกใส และมีลักษณะการทำงานของเครื่องมือ ทำให้การเคลื่อนตัวของฟันยังไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการจัดฟันที่สูง เครื่องมือการจัดฟันแบบใส เป้นเครื่องมือที่ยังใช้แทนเครื่องมือแบบติดแน่นไม่ได้ทั้งหมด

ด้วยความที่เครื่องมือที่ต้องส่งตรงมาจากต่างประเทศ ทันตแพทย์จะไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนตัวของฟันได้ ทำให้บางกรณีเกิดความยุ่งยาก ที่จะทำให้ฟันของผู้เข้ารับการรักษาเรียงสวยงามเป็นธรรมชาติและแม่นยำได้ ถึงแม้ว่าก่อนการรักษาทันตแพทยืจะให้ผู้เข้ารับการรักษาได้ดูการวางแผนการรักษาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่ก็ยังต้องตัดสินใจให้ดีก่อนเข้ารับการรักษา

เพราะฉะนั้น ถ้าเครื่องมือแบบใสไม่เหมาะกับผู้เข้ารับการรักษา หรือรู้สึกว่ามันอาจแพงเกินไป เครื่องมือจัดฟันติดแน่นแบบใส อาจเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจและเหมาะสมกว่า ข้อจำกัดทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องตัดสินใจให้ดี

และทันตแพทย์จะให้คำแนะนำและผลการวินิจฉัยว่า การจัดฟันแบบใส เหมาะสมกับผู้เข้ารับการรักษาหรือไม่ เพื่อให้ผลออกมาเป็นที่พึงพอใจ และทำให้ผู้เข้ารับการรักษาได้ใช้ฟันและช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือหากในอนาคตเทคโนโลยีด้านทันตกรรมอาจจะมีการพัฒนา ทำให้เครื่องมือการจัดฟันแบบใส ไม่มีข้อจำกัดใดๆ และมีประสิทธิภาพมากกว่าปัจจุบัน



ตอบข้อสงสัย ! เครื่องมือ จัดฟันแบบใส ใส่แล้วรู้สึกรำคาญไหม ?

การจัดฟันแบบใส เป็นนวัตกรรมการจัดเรียงฟันในรูปแบบใหม่ ที่เป็นที่นิยมมาก มีเอกลักษณ์ก็คือ สามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันได้ ขณะรับประทานอาหารและขณะแปรงฟัน ซึ่งทำให้สะดวกสบายและมีความหลากหลายในการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังทำให้มองเห็นเครื่องมือการจัดฟันแบบใสได้ยากอีกด้วย

ทำให้ไม่เสียบุคลิกภาพเวลาพูดคุยอีกด้วย เพราะเมื่อใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใสแล้ว ทำให้รู้สึกกระชับเพราะเครื่องมือมีความบาง ใส เป็นแบบครอบตัวฟัน จึงทำให้ไม่รู้สึกระคายเคือง หรือทำให้พูดไม่ชัด และเครื่องมือมีการถอดและใส่ที่ง่าย ไม่ต้องออกแรงในการดึงเครื่องมืออีกด้วย

หลายคนที่กำลังตัดสินใจที่จะเข้ารับการจัดฟันแบบใส มีความกังวลว่า ถ้าสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใส จะเกิดความรำคาญหรือไม่ หรือเกิดการระคายเคืองหรือไม่ ตอบเลยว่า ไม่ เพราะเครื่องมือการจัดฟันแบบใส จะเป็นพอลิเมอร์บางๆ ใสๆ มาใส่ครอบฟันเพื่อปรับโครงสร้าง ตำแหน่ง และการเรียงตัวของฟัน แทนการใส่เหล็กจัดฟันที่เรามักจะเห็นได้ทั่วไป

โดยผู้เข้ารับการรักษาจะต้องใส่ตลอดเวลา เป็นประจำอย่างน้อย 20-22 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งจะมีความสะดวกมากกว่าจึงแทบไม่รู้สึกรำคาญหรือระคายเคืองในช่องปากเลย แม้เวลาทำกิจกรรมต่างๆ เว้นแต่เวลาจะรับประทานอาหารและขณะแปรงฟันผุ้เข้ารับการรักษาจะต้องคอยถอดเครื่องมือออกทุกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีวินัยมากๆในการใส่เครื่องมือจัดฟัน หากละเลยหรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ก็อาจจะทำให้การวางแผนและผลการรักษา เกิดความคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งบางกรณีอาจจะส่งผลให้เกิดความล้มเหลวในการรักษา ทั้งนี้เครื่องมือการจัดฟันแบบใส ไม่ทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกรำคาญ แต่เพียงจะต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมืออย่างต่อเนื่อง

และต้องทำความสะอาดเครื่องมืออย่างถูกวิธีเพื่อไม่ให้เกิดคราบสิ่งสกปรกและการสะสมของเชื้อโรค เพราะอาจจะทำให้ฟันผุ หรือเกิดปัญหาอื่นๆตามมาได้ ทางคลีนิคเรามีทีมทันตแพทย์คอยให้คำแนะนำในเรื่องของการจัดฟันแบบใส หากมีข้อสงสัยหรือต้องการจะเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถปรึกษาทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญได้ที่คลีนิค โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย


ข้อจำกัด ของเครื่องมือจัดฟันใส ! อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

171
ยิ่งใกล้วันเปิดตัวของสุดยอดสมาร์ตโฟนเรือธงอย่าง Samsung Galaxy S24 Series ก็ยิ่งมีข่าวลือ ข่าวหลุดออกมากันมากขึ้นครับ ไม่ว่าจะทั้งด้านดีไซน์ สีต่างๆ ของตัวเครื่อง ด้านกล้องโดยเฉพาะกล้องซูม Telephoto ที่เป็น 1 จุดเด่นของสมาร์ตโฟน Samsung เลย เพราะแบรนด์นี้สามารถถ่ายภาพซูมออกมาได้ค่อนข้างดีมากในตลาดเลย โดยข่าวลือและข่าวหลุดต่างๆ ก็มีข้อมูลมากจากนักวิเคราะห์และสื่อต่างประเทศสำนักต่างๆ ซึ่งข้อมูลก็อาจไม่ได้ถูกต้อง 100% จริงๆ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าเครื่องจริงจะออกมาทิศทางประมาณนี้ครับ สำหรับข้อมูลว่า Samsung Galaxy S24 Series จะมีอะไรใหม่บ้าง ไปดูพร้อมกันได้เลยครับ
 
Galaxy S24 Ultra ดีไซน์ใหม่ พร้อมเฟรมไทเทเนียม
ด้านดีไซน์ของ Samsung Galaxy S24 Series ทั้ง 3 รุ่น ดูรวมๆ แล้ว คล้ายกับรุ่น Samsung Galaxy S23 Series เลยครับ ด้านหลังมีกล้องวางเรียงกันแนวตั้ง ไม่ได้มีส่วนนูนออกมา ให้ลุคแบบมินิมอล แต่ส่วนที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนจะเป็นในรุ่นของ Samsung Galaxy S24 Ultra ครับ ที่จะเปลี่ยนจากจอโค้ง เป็นจอเรียบ ด้านมุมขอบของตัวเครื่องที่เคยโค้งมน ก็จะเป็นทรงเหลี่ยมมากขึ้นในรุ่นนี้ ก็เรียกได้ว่าอาจตามใจแฟนๆ ที่มี Feedback ว่าอยากได้จอเรียบกัน เพราะจะทำให้ติดฟิล์มได้ง่ายกว่า และมือไม่ลั่นไปโดนขอบจอเมื่อใช้งานครับ
 
เป็นภาพหลุดจากแอป X โดยคุณ DavidMa05368498 จากภาพเป็นรุ่น Galaxy S24 Ultra ที่ตัวเครื่องมีทรงเหลี่ยมมากขึ้น ด้านหน้าจอเป็นจอเรียบ ขอบจอบาง และวัสดุเป็นไทเทเนียม

ด้านสีของตัวเครื่อง Samsung Galaxy S24 Series ก็มีหลุดมาเช่นกันครับ โดยพิเศษคือมีตัวท็อป Galaxy S24 Ultra จะมาพร้อมเฟรมตัวเครื่องวัสดุไทเทเนียมด้วย ทำให้มีน้ำหนักที่เบาขึ้น ซึ่งจะมีมาทั้งหมด 4 สี คือ Titanium Black, Titanium Gray, Titanium Violet, and Titanium Yellow
สีตัวเครื่อง Galaxy S24 Ultra


====== สีตัวเครื่อง Galaxy S24 / Galaxy S24+ ======
โดยสีของ Galaxy S24 และ Galaxy S24+ จะมีสีที่เหมือนกับ Galaxy S24 Ultra คือ Onyx Black, Marble Grey, Cobalt Violet, and Amber Yellow ใช้วัสดุอลูมิเนียม ไม่ใช่เฟรมวัสดุไทเทเนียม ซึ่งยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดครับว่าจะใช้เฟรมวัสดุไทเทเนียมเหมือนกันด้วยหรือไม่ครับ


====== สีตัวเครื่องเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy S24 Series ======
และยังมีสีเพิ่มเติมด้วยครับคือ Orange, Light Blue, and Light Green คาดว่าน่าจะเป็นสีที่จำหน่าย Online Exclusive บนเว็บไซต์ของ Samsung ครับ

===== ภาพเปรียบเทียบ =====
Samsung Galaxy S23 Ultra & Galaxy S24 Ultra
เป็นภาพหลุดเปรียบเทียบตัวเครื่องของรุ่น Galaxy S23 Ultra กับ Galaxy S24 Ultra โดยจะเห็นว่าตัวเครื่องของ Galaxy S24 Ultra จะมีทรงเหลี่ยมมากขึ้น และผสมวัสดุไทเทเนียม

ด้านล่าง - ช่องลำโพงเปลี่ยนเป็นแนวยาว, ปากกา S Pen มีทรงแบนขึ้น, ด้านบน
ด้านข้าง - ปุ่มมีความหนาขึ้น
ด้านบน - เพิ่มช่องระบายอากาศด้านบน

====== เทียบหน้าจอ Samsung Galaxy S24 Series =====
เทียบขนาดหน้าจอ ของ Samsung Galaxy S24 Series โดยทั้ง 3 รุ่นจะเป็นจอแบบเรียบ ใช้พาเนล Dynamic AMOLED 2x LTPO
หน้าจอ Galaxy S24 - 6.2 นิ้ว Dynamic AMOLED 2x LTPO ความละเอียด FHD+ Refresh rate 1-120Hz, ความสว่าง 2500nit
หน้าจอ Galaxy S24+ - 6.7 นิ้ว Dynamic AMOLED 2x LTPO ความละเอียด WQHD+ Refresh rate 1-120Hz, ความสว่าง 2500nit
หน้าจอ Galaxy S24Ultra - 6.8 นิ้ว Dynamic AMOLED 2x LTPO ความละเอียด WQHD+ Refresh rate 1-120Hz, ความสว่าง 2500nit

ขนาดตัวเครื่อง

Galaxy S24: 147 × 70.6 × 7.6mm น้ำหนัก 168 กรัม
Galaxy S24+: 158.5 × 75.9 × 7.7mm น้ำหนัก 195 กรัม
Galaxy S24 Ultra: 162.3 × 79 × 8.6mm น้ำหนัก 233 กรัม

Credit: Source 1, Source 2, Source 3, Source 4, Source 5, Source 6, Source 7, Source 8, Source 9, Source 10
ขุมพลังใหม่ Snapdragon 8 Gen 3 และ Exynos 2400

ระดับเรือธงอย่างซีรีส์ S ของ Samsung ก็ต้องแน่นอนว่าต้องเป็นขุมพลังที่แรงที่สุดในตลาดอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy ที่เป็นพาร์เนอร์กับทาง Qualcomm เพื่อพัฒนาชิปรุ่นนี้โดยเฉพาะ แต่เดี๋ยวก่อนครับ เพราะ Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy อาจไม่ได้มาในทุกรุ่นครับ เหมือนกับ Galaxy S23 Series ครับ โดยในภูมิภาคอเมริกาเหนือน่าจะได้ Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy ในทุกรุ่น แต่ในเกาหลีใต้, ยุโรป และอื่นๆ จะได้ Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy เฉพาะในรุ่น S24 Ultra ส่วนรุ่น S24 และ S24+ จะชิปใหม่ Exynos 2400 ครับ

ด้านชิป Exynos 2400 ตัวใหม่มีข้อมูลว่าจะมี CPU ทั้งหมด 10 คอร์ โดยมี Cortex-X4 CPU core 3.1GHz 1 คอร์, Cortex-A720 CPU 2.9GHz 2 คอร์ ,Cortex-A720 CPU 2.6GHz 3 คอร์ ,Cortex-A720 CPU 1.8GHz 4 คอร์ ด้าน GPU จะเป็น Xclipse 940 GPU ส่วนโมเด็มจะเป็น Exynos 5300 รองรับความเร็วดาวน์โหลด 5G สูงสุด 10Gbps และอีปโหลดสูงสุด 3.87Gbps

Samsung Galaxy S24 Series มีความจุ RAM เริ่มต้นที่ 8GB ส่วน ROM เริ่มต้นที่ 1TB
ความจุ Galaxy S24: RAM 8GB + ROM 128/256GB
ความจุ Galaxy S24+: RAM 12GB + ROM 256/512GB
ความจุ Galaxy S24 Ultra: RAM 12GB + ROM 256/512GB/1TB

Credit: Source 1, Source 2

กล้องซูมระยะใหม่?

โดยรุ่น Samsung Galaxy S24 และ Samsung Galaxy S24+ จะเป็น 3 กล้อง เหมือนเดิมคือ กล้องหลักความละเอียด 50MP + กล้อง Ultrawide 12MP + กล้อง Telephoto (3x optical) 10MP และกล้องหน้า 12MP  ส่วน Samsung Galaxy S24 Ultra จะเป็น 4 กล้อง + Laser AF โดยมีกล้องหลักความละเอียดสูง 200MP + กล้อง Ultrawide 12MP แต่กล้องซูม Telephoto มี 2 ข้อมูลจากสื่อนอกครับว่า โดยในตอนแรกมีข้อมูลว่าจะตัดกล้องซูม Telephoto ระยะ 10x ออกแล้วใส่กล้อง ระยะ 5X แทน
 
แต่ล่าสุดในช่วงเดือนธันวาคม 2023 มีข้อมูลมาว่ากล้อง Telephoto ระยะ 10x ความละเอียด 10MP จะยังคงอยู่ แต่จะเปลี่ยนจากกล้องระยะ 3x ความละเอียด 10MP เป็นระยะ 5x ความละเอียด 50MP แทน
 
สเปกกล้อง Samsung Galaxy S24 Ultra
- กล้องหลักความละเอียดสูง 200MP เซ็นเซอร์ ขนาด 1/1.3″, 0.6μm pixel size
- กล้อง Ultrawide เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.55", 1.4μm pixel size
- กล้อง Telephoto ระยะ 3x เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.25″, 0.7μm pixel size
- กล้อง Telephoto ระยะ 5x เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.25″, 0.7μm pixel size

สรุปและวันเปิดตัว
สำหรับใครกำลังที่กำลังจะรอซื้อเจ้า Samsung Galaxy S24 Ultra นี้ก็อดใจรอกันหน่อยนะครับ เพราะมีประกาศวันเปิดตัวมาแล้ววันที่ 17 ม.ค. 2024 นี้ ซึ่งก็น่าจะเปิดให้จอง Pre-Order กัน และก็น่าจะมีโปรโมชันต่างๆ เช่น เพิ่มความจุฟรี และส่วนลดอื่นๆ กันสำหรับคนที่จอง Pre-Order ส่วนวันวางจำหน่ายน่าจะมาช่วงปลายเดือน วันที่ 30 ม.ค. 2024 ครับ
และสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage: Mobile GURU Thailand by CheckRaka.com ได้ครับ
 
ราคาคาดการณ์ Samsung Galaxy S24 Ultra
Samsung Galaxy S24
ความจุ 128GB ราคา 30,900 บาท
ความจุ 256GB ราคา 33,900 บาท
 
Samsung Galaxy S24+
ความจุ 256GB ราคา 37,900 บาท
ความจุ 512GB ราคา 42,900 บาท
 
Samsung Galaxy S24 Ultra
ความจุ 256GB ราคา 43,900 บาท
ความจุ 512GB ราคา 49,900 บาท
ความจุ 1TB ราคา 59,900 บาท
 

mobile expo 2035: สรุปข่าวลือ Samsung Galaxy S24 Series มีอะไรใหม่? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobileexpo/

172
วันนี้เราจะขอรวบรวมรีวิวของผู้ใช้ บริการ รถรับจ้างขนของจังหวัดชลบุรี มาให้กับผู้ที่สนใจที่ต้องการอยากจะ ขนย้ายสินค้า ขนย้ายบ้าน ขนย้ายหอพัก ขนส่งสินค้าทั่วไป ย้ายสำนักงาน ย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่งย้ายเครื่องจักรอื่นๆซึ่งในการรวบรวมครั้งนี้เราจะรวบรวมมีส่วนที่ ผู้ที่เข้าไปใช้บริการ รถรับจ้าง แล้วเกิดความประทับใจ ซึ่งแม้แต่ละงานก็จะเป็นงานที่แตกต่างกัน จึงทำให้มีการใช้บริการรถที่ต่างขนาดต่างไซส์กันออกไป ซึ่งเราอยากให้ผู้ที่สนใจที่ต้องการอยากจะขนย้ายของ

บริการรถกระบะรับจ้างราคาถูก

และเข้ามาอ่านอย่างน้อยก็จะเป็นความรู้เบื้องต้นก่อนที่ท่านจะตัดสินใจเลือกใช้ บริการรถรับจ้างในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี จะได้มีข้อมูลในการต่อรองราคาหรือแม้กระทั่งข้อมูลในการจัดเรียง สินค้าให้ได้พื้นที่ที่ พอเหมาะ ในการขนย้ายในแต่ละครั้ง เริ่มต้นด้วย

1. บริการรถกระบะรับจ้างชลบุรี ซึ่งๆรีวิวจากคุณเอก เป็นงานขนย้ายหอพัก จากบางแสน ขนย้ายมาที่กรุงเทพฯเขตห้วยขวาง ซึ่งลูกค้าได้ใช้บริการ รถกระบะรับจ้างขนย้ายของในเขตมหาวิทยาลัยบูรพา เป็นการย้ายหอหรือทั่วไปสินค้าที่มีได้แก่ เครื่องซักผ้ามอเตอร์ไซค์ กล่องหนังสือทีวีตู้เย็น และของใช้อื่นๆอีกนิดหน่อย จึงได้ตัดสินใจใช้บริการ รถกระบะรับจ้าง ก็เพียงพอ โดยได้เรียกใช้บริการขนส่ง ผลปรากฏว่า การบริการดีมีพนักงานยกของให้ฟรีพูดจาสุภาพ และราคาถือว่าไม่แพง คุณเอกบอกว่า ในช่วงที่จะเข้าไปในกรุงเทพ รถติดมากจึงจำเป็นต้องใช้ทางด่วน แต่ผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของไม่คิดค่าทางด่วนเลย ถือว่าเป็นการให้บริการที่ดีเยี่ยมพอสมควร

2. รถ6ล้อรับจ้างชลบุรี ซึ่งเป็นการรีวิวจากคุณจอย ซึ่งคุณจอยได้ใช้บริการ รถ 6 ล้อรับจ้างพัทยา โดยเป็นการขนย้ายบ้านไปยังจังหวัดเชียงใหม่ สินค้าที่ทำการขนย้ายซึ่งมีได้แก่ ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ 2 ใบ ทีวี 2 เครื่องมอเตอร์ไซค์ 1 คันที่นอน 2 ชุด ตู้เย็น ชุดเครื่องครัว เสื้อผ้า และของใช้ ต่างๆซึ่งได้ทำการขนย้ายของในเขตพื้นที่พัทยาใต้ ขึ้นของในช่วงเวลา 7 โมง 30 นาที เรามีพนักงานไปช่วยยกสินค้าจำนวน 4 คน แล้วก็ออกเดินทางประมาณ 10.00 น วิ่งไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 2 ทุ่มแล้วจอดรอลงของให้กับลูกค้าตอนเช้าวันถัดไปเรื่องจากว่าลูกค้า ไม่สะดวกคนย้ายในเวลากลางคืน เราก็ได้อำนวยความสะดวกให้ ทำให้ลูกค้าซึ่งคุณจอยมีความประทับใจในงานบริการที่ได้ใช้บริการ จากทีมงานรถ 6 ล้อรับจ้าง

3. รถเฮี๊ยบรับจ้างชลบุรี รีวิวจาก คุณก้อย เนื่องจากคุณก้อยต้องการที่จะ ย้ายต้นไม้ จากตัวเมืองชลบุรี ไปที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งลูกค้าได้มีการเตรียมต้นไม้ใบเรียบร้อยแล้ว รถรับจ้าง ไปถึงหน้างานก็สามารถที่จะยกได้เลยวันนั้นใช้รถเฮี้ยบขนาด 3.5 ตัน ในการขนย้าย ซึ่งก็ เริ่ม เข้าดำเนินการขนย้ายตั้งแต่ช่วง 8.00 น มาถึงฉะเชิงเทราแถวแปดริ้ว เวลา 9.00 น จึงเสร็จเรียบร้อยดี ลูกค้าพูดจาดีอัธยาศัยดีมาก และเราก็บริการงานขนย้ายอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ ทำให้งานนั้นออกมาดี ต้นไม้ไม่เสียหาย

4. รถสิบล้อรับจ้างขนของชลบุรี รอบนี้ลูกค้าได้รีวิวจากคุณ โบว์ เนื่องจากคุณโบว์ต้องการที่จะขนย้ายวัสดุก่อสร้าง จาก อำเภอศรีราชาซึ่งได้ใช้บริการ รถสิบล้อรับจ้างศรีราชา วิ่งไปยัง อำเภอบ้านบึงจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นงานขนย้ายของในตัวจังหวัด สินค้าที่ทำการขนย้ายก็เป็นจำพวกกระเบื้องปูน เหล็ก โดยลูกค้าใช้พนักงานที่ร้านในการขนยกสินค้าเอง เพราะจะต้องมีความชำนาญพอสมควรโดยเฉพาะกระเบื้องจะต้องมีการจัดเรียงที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการเสียหาย

ส่วนทีมงานรถรับจ้างขนของก็จะพยายาม ระมัดระวังในการขับรถมากเป็นพิเศษ ซึ่งต่างจากเสร็จงานลูกค้าให้คำชื่นชมในงานบริการของผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของชลบุรีนี้พอสมควร เนื่องจากว่ารถมาถึงหน้างานก่อนเวลานัด มีการเตรียมพร้อมและทำความสะอาดรถได้เป็นอย่างดี เตรียมอุปกรณ์ผ้าใบคลุมรถที่ไม่ขาดไม่รั่ว จึงทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ

นี่ก็เป็นรีวิวของงานบริการ รถขนของจังหวัดชลบุรี ในบางส่วนซึ่งการบริการทุกท่านบริการทางทีมงานรถรับจ้างจะต้องมีความรับผิดชอบและ มีความซื่อสัตย์ต่อการบริการของตนเองให้ดีที่สุดดังนั้นการที่เราจะเลือกใช้บริการขนของในแต่ละครั้งจะต้องคำนึงว่าผู้ให้บริการรายนั้นมีตัวตนหรือไม่สามารถติดต่อได้รวดเร็วแค่ไหน และก็ต้องมีงานบริการที่ครอบคลุมให้เราได้เลือกใช้รถรับจ้างที่มากมายหลากหลายขนาด เป็นต้น

ในเนื้อหาบทความนี้เราจะพยายามเน้นให้ท่านได้รู้ถึงรายละเอียด และความต้องการที่ท่านควรจะแจ้งต่อผู้ให้บริการ รถรับจ้าง ได้สร้างเพื่อที่ท่านจะได้คำตอบ และการบริการที่ ได้ตรงตามสิ่งที่ เรากำลังจะขน ซึ่งถ้าหากยังติดขัดในเรื่องใดหรือต้องการที่จะสอบถามความรู้เบื้องต้นก่อนการขนย้าย จนกระทั่งราคาค่าขนย้ายที่ควรจะเป็นมาตรฐาน ในการเลือกใช้บริการ รถรับจ้างขนของชลบุรี ในแต่ละครั้งซึ่งเราจะ ให้รายละเอียดเบอร์โทรสำหรับท่านที่สนใจลองโทรเข้าไปเช็คดูก่อน

ซึ่งผู้ให้บริการเจ้าหน้าที่ เขายินดีที่จะให้ข้อมูลก่อนที่ท่านจะตัดสินใจในการเลือกใช้บริการ จึงอยากให้ท่านพิจารณาดูก่อน หรือจะโทรมาถามรายละเอียดราคา ค่าขนย้ายที่เป็นมาตรฐาน




บริการ รถรับจ้าง จังหวัดชลบุรี รับจ้างราคาถูก ดีหรือป่าว อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/

173
ปลิง (leech) ชอบอยู่ในน้ำนิ่งตามหนองน้ำหรือลำธาร เมื่อคนลงอาบน้ำหรือล้างหน้าในหนองน้ำหรือลำธาร ตัวปลิงก็จะเข้าไปตามอวัยวะต่าง ๆ เช่น ทวารหนัก ช่องคลอด ท่อปัสสาวะ อาจเข้าตา จมูก ปาก

ปลิงจะเกาะและดูดเลือดจากอวัยวะเหล่านี้ ทำให้มีรอยแผล ซึ่งจะมีเลือดออกและหยุดช้ากว่าปกติ เนื่องจากมันสร้างสารที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว (ชื่อว่า hirudinin) ทำให้มีอาการเลือดออกจากอวัยวะเหล่านี้ เช่น ถ่ายเป็นเลือดสด ๆ ปัสสาวะออกเป็นเลือด เลือดออกทางช่องคลอด


อาการ

ผู้ป่วยมักจะมีประวัติว่าสบายดีตลอดมา แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีอาการเลือดออกตามอวัยวะต่าง ๆ เช่น ถ่ายเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด เลือดออกทางช่องคลอด

มักจะได้ประวัติว่าเกิดขึ้นหลังจากลงแช่น้ำในหนองน้ำหรือลำธาร


ภาวะแทรกซ้อน

ปลิงอาจเข้าทวารหนัก แล้วไชทะลุลำไส้ ทำให้เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (มีอาการปวดท้องรุนแรง) หรือปลิงที่เข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ อาจทำให้เป็นก้อนนิ่วในภายหลังได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการบอกเล่า และการตรวจพบตัวปลิงในอวัยวะ

หากไม่แน่ใจ จะใช้เครื่องมือส่องตรวจดูภายในอวัยวะที่สงสัยว่ามีปลิงเข้า


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าพบตัวปลิงยังอยู่ในอวัยวะก็ให้คีบออก ถ้าพบรอยเลือดออกก็ให้ทำการห้ามเลือด เช่น ใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาดอุดให้แน่น ถ้าไม่แน่ใจว่าตัวปลิงออกหรือยัง โดยเฉพาะปลิงที่เข้าท่อปัสสาวะหรืออวัยวะสืบพันธุ์ ให้สวนล้างด้วยน้ำเกลือที่มีความเข้มข้น เช่น ขนาด 15% หรือ 20%

2. ถ้าเลือดออกไม่หยุด อาจต้องให้เลือด


การดูแลตนเอง

ถ้ามีเลือดออกทางช่องคลอด ถ่ายเป็นเลือด หรือปัสสาวะเป็นเลือด หรือสงสัยปลิงเข้าอวัยวะ ควรปรึกษาแพทย์


การป้องกัน

ถ้าจะลงไปในหนองน้ำหรือลำธาร ควรสวมเสื้อผ้าให้รัดกุม และควรใช้ยาทากันเเมลง (เช่น dimethyl phthalate) ทาตามตัว

ควรระมัดระวังในการดื่มน้ำหรือล้างหน้าตามหนองน้ำหรือลำธาร


ข้อแนะนำ

ผู้ป่วยส่วนมากจะมีอาการไม่รุนแรง มักจะเสียเลือดไม่มาก และเลือดหยุดได้เอง แต่ก็เคยพบว่าปลิงอาจเข้าทวารหนักแล้วไชทะลุลำไส้ ทำให้เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (มีอาการปวดท้องรุนแรง) หรือปลิงที่เข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ อาจทำให้เป็นก้อนนิ่วในภายหลังได้ ดังนั้นหลังจากปลิงเข้าแล้วมีอาการที่ชวนสงสัยว่าจะมีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล




หมอประจำบ้าน: ปลิงเข้าอวัยวะ   อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com

174
อีกหนึ่งมาตรฐานที่ควรรู้เกี่ยวกับสารอาหารที่ต้องได้รับในแต่ละวัน เพื่อไม่ให้การบริโภคที่มากเกินไปและน้อยเกินไป ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารอาหารที่แนะนำให้บริโภคประจำวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป (Thai Recommended Daily Intakes: Thai RDI) เป็นค่าอ้างอิงที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจัดทำขึ้น เพื่อใช้คำนวณและแสดงในฉลากโภชนาการ โดยคิดจากความต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี โดยมีเกณฑ์ ดังนี้

โปรตีน ตามน้ำหนักตัว กรัม (เช่น น้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม ควรได้รับโปรตีนต่อวันคือ 50 กรัม)
ไขมันทั้งหมด น้อยกว่า 65 กรัม
กรดไขมันอิ่มตัว น้อยกว่า 20 กรัม
คอเลสเตอรอล น้อยกว่า 300 มิลลิกรัม
คาร์โบไฮเดรต ทั้งหมด 300 กรัม
ใยอาหาร 25 กรัม
โซเดียม น้อยกว่า 2,400 มิลลิกรัม


หลักเกณฑ์การเติมสารอาหารในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ปริมาณสารอาหารที่ สนง.คณะกรรมการอาหารและยาอนุญาตให้เติม https://www.fda.moph.go.th/sites/food/Permission/4.3.2-RuleAddSomething.pdf


มาตรฐาน

วิตามินที่ละลายได้ในไขมัน 150% RDI
วิตามินที่ละลายได้ในน้ำ 200% RDI
เกลือแร่ทั่วไป 150% RDI
โซเดียม 100% RDI
เหล็ก , สังกะสี 120% RDI
ฟลูออไรด์ และไอโอดีน ต้องเป็นไปตามความเห็นชอบของ สนง.คณะกรรมการอาหารและยา



กระชายสกัด: มาตรฐานสารอาหารที่แนะนำบริโภค  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

175
การเข้ารับการจัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันรูปแบบหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องของของรูปร่างและลักษณะของฟัน ที่มีความผิดปกติ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งการที่เรามีรูปร่างฟันที่ผิดปกติ อาจจะทำให้เราสามารถบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือทำความสะอาดฟันได้ยาก ดังนั้น การแก้ไขปัญหาฟันในเรื่องของรูปร่างฟันนั้น การเข้ารับการจัดฟันจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่การเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้แทบจะทุกกรณี 


แต่ถ้าหากผู้เข้ารับการจัดฟันมีปัญหาฟันที่สามารถแก้ไขได้ยาก ทันตแพทย์อาจจะแนะนำให้ทำการรักษาก่อนที่จะเข้ารับการจัดฟันแบบใส ถึงแม้ว่าการจัดฟันแบบใสจะสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างหลากหลาย แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่อาจจะทำให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่สามารถเข้ารับการจัดฟันแบบใสได้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้เข้ารับการรักษามีปัญหาของโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งกรณีนี้ทันตแพทย์อาจจะให้เข้ารับการรักษาก่อนที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส อย่างที่หลายคนอาจจะเคยทราบกันดีอยู่แล้วว่า การเข้ารับการจัดฟันแบบใส มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมในรูปแบบใหม่เข้ามาช่วยในการรักษา ตั้งแต่ขั้นตอนของการวางแผนการรักษาไปจนถึงขั้นตอนการรักษา


หลายคนอาจจะมีคำถามว่า การเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใสนั้น ทำให้เราสามารถเห็นผลการรักษาล่วงหน้าได้หรือไม่ ต้องอธิบายก่อนว่า การวางแผนการรักษาในการจัดฟันแบบใสนั้น ทันตแพทย์จะทำการวิเคราะห์ปัญหาฟันของเราด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และทำการวางแผนการรักษาด้วยระบบคอมพิวเตอร์ แสดงในรูปแบบของ 3D จึงทำให้เราได้เห็นวิธีการทำงานของเครื่องมือการจัดฟันได้ตลอดจนจัดฟันเสร็จ


ซึ่งวันนี้ทางคลินิก ของเราจะมาพูดถึงผลการรักษาของการจัดฟันแบบใสของแต่ละบุคคลซึ่งทางผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถทราบผลการรักษาล่วงหน้าได้หรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบ สำหรับการจัดฟันแบบใสนั้น เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในการรักษาเรามีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการรักษา จึงทำให้มีผลการรักษาที่แม่นยำ ตามที่ทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาได้วางแผนเอาไว้  และการจัดฟันแบบใสแทบไม่เห็นว่ามีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ และจุดเด่นอีกข้อหนึ่งก็คือ การที่ผู้เข้ารับการรักษาจะสามารถเห็นผลการรักษาล่วงหน้าได้ สามารถเห็นผลการรักษาแบบ step by step ได้เลย  นอกจากนี้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถออกแบบการจัดฟันร่วมกับทันตแพทย์ได้ ดังนั้น การเข้ารับการจัดฟันแบบใส ไม่ใช่ทำได้เพียงแค่ให้เราสามารถมองเห็นผลการรักษาได้ล่วงหน้า แต่ยังทำให้เราสามารถวางแผนการรักษาร่วมกับทันตแพทย์ได้ด้วย จึงทำให้เราสามารถออกแบบรอยยิ้มให้ตัวเองได้ สามารถออกแบบฟันของเราได้ โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้นมา

โดยอาศัยข้อมูลจากผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสทั่วโลก ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถออกแบบรอยยิ้มให้กับตัวเองได้นี่คือ ข้อดีของการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใสอีกอย่างหนึ่ง ถือว่าทำให้เราสามารถพึงพอใจในการรักษาได้ แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย อย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบใส ยังมีผลการรักษาที่แม่นยำ นี่ถือว่าเป็นข้อดีและสาเหตุที่ทำให้การเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใส จึงได้รับความนิยมทั่วโลก เพราะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

สำหรับใครที่สนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรรามีทันตแพทยน์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟัน และยังได้รับการรับรองจากทาง Invisalign จึงมั่นใจได้ว่า คลินิก ของเราจะทำให้เรามีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติได้อย่างแน่นอน ทั้งยังช่วยเสริมสร้างในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันได้อย่างดีอีกด้วย เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น และยังช่วยทำให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างแน่นอน




กาจัดฟันใส ทำให้เราสามารถเห็นผลการรักษาล่วงหน้าได้หรือไม่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

176
สร้างบ้านด้วยวัสดุอะไรดี จะเป็นอิฐมอญ อิฐมวลเบา อิฐบล็อก หรือจะเป็นไม้ดี เรื่องคิดไม่ตกในการเลือกวัสดุ ฉะนั้นก่อนที่จะเลือกว่าจะสร้างบ้านด้วยอะไร เรามาทำความรู้จักกับอิฐมอญ อีกวัสดุพื้นฐานที่คนใช้สร้างบ้านอิฐมอญกัน ว่ามีเรื่องอะไรที่ควรรู้และต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะตัดสินใจสร้างบ้านกันก่อนบ้าง จะได้ไม่มาเสียใจภายหลังที่ลืมคิดถึงข้อเหล่านี้ไป

อิฐมอญคืออะไร

อิฐมอญ หรืออิฐแดง คือวัสดุหนึ่งในการก่อสร้างที่ เราน่าจะเห็นกันบ่อยๆ กับบ้านสไตล์ลอฟท์ ซึ่งเป็นอิฐสี่เหลี่ยมผืนผ้าก้อนสีแดงๆ ที่เอาไว้ใช้เวลาก่อสร้างครับ อิฐมอญนั้นผลิตมาจากการนำดินเหนียว ทราย แกลบ และน้ำ มาผสมกันในอัตราส่วนที่ถูกต้อง แล้วจึงนำไปใส่แบบพิมพ์สี่เหลี่ยม เพื่ออัดให้เป็นก้อนสี่เหลี่ยม หลังจากนั้นจะทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วจึงนำไปเผา เพื่อความคงรูปและแข็งแรง มีจุดเด่นเรื่องทนต่อทุกสภาพอากาศ และราคาถูก

 
ข้อดีของบ้านอิฐมอญ

1. แข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี

ด้วยส่วนผสม วิธีการผลิต และความหนาของอิฐมอญนั่นทำให้อิฐมอญมีความหนาแน่นสูง มีความแข็งแรงทนทานรับน้ำหนักได้ดี  ไม่ว่าจะแขวนโทรทัศน์ หรือแขวนตู้ลอยก็สามารถรับน้ำหนักได้ อีกทั้งยังสามารถทุบ สกัด เจาะ หรือฝังได้ง่ายด้วย


2. มีอายุการใช้งานยาวนาน ทนทานทุกสภาพอากาศ

อิฐมอญมีความทนทานสูง ด้วยวิธีการผลิตที่ใช้วิธีเผาเข้าเตาอบ ประกอบกับส่วนผสมที่ใช้ผลิต ทำให้เนื้ออิฐมอญแน่น ยึดเกาะผิวกันได้ดี มีความคงทนต่อทุกสภาพอากาศ ทั้งแดดและฝน ทำให้บ้านอิฐมอญมีอายุการใช้งานของอิฐมอญนั้นยาวนานเป็นสิบๆ ปีครับ


3. มีราคาถูก

อิฐมอญ เป็นวัสดุก่อสร้างสร้างที่ใช้มาช้านาน ทำให้สามารถผลิตได้ง่าย และหาได้ง่ายๆ ผลิตได้เองในประเทศไทย ทำให้ราคาของอิฐมอญมีราคาไม่แพงมาก ส่งผลให้การสร้างบ้านอิฐมอญมีต้นทุนต่ำในการก่อผนังตามมาด้วยครับ


4. แต่งง่าย เข้ากับบ้านทุกสไตล์

ใครที่ชอบบ้านสไตล์ลอฟท์ บ้านสไตล์วินเทจ หรือบ้านสไตล์คอทเทจ คงชอบใจการก่อสร้างบ้านด้วยผนังอิฐแดง แต่หากคนที่ไม่ได้ต้องการบ้านสไตล์ที่ว่ามาก็สามารถก่อสร้างบ้านอิฐมอญได้นะครับ โดยเราสามารถฉาบปูนทับแล้วตกแต่งเป็นสไตล์อื่นที่ชอบก็ได้


ข้อเสียของบ้านอิฐมอญ


1. อาจทำให้บ้านร้อน

จากวิธีการผลิตอิฐมอญที่ทำให้เนื้อแน่น ยึดเกาะผิวได้ดี จึงส่งผลต่อการระบายอากาศหรือถ่ายเทอากาศได้ค่อนข้างยาก ทำให้บ้านที่ก่อสร้างด้วยอิฐมอญสะสมความร้อนไว้ที่ตัวอิฐได้เยอะ จึงอาจทำให้บ้านร้อน หรือถ้าเปิดเครื่องปรับอากาศ อาจทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักและเปลืองค่าไฟฟ้าได้ เมื่อเทียบกับอิฐมอญเบาที่มีฟองอากาศเยอะ ทำให้ระบายอากาศได้ดีกว่าครับ


2. มีน้ำหนักมาก ขนาดไม่ตายตัว

อิฐมอญ เป็นวัสดุที่ผลิตได้ง่ายๆ ทำได้ไม่ยาก จึงทำให้การผลิตอิฐมอญอาจมีขนาดมาตรฐานที่แตกต่างกันไปตามแต่ละเจ้าครับ


3. ป้องกันเสียงได้ไม่ดี

เพราะอิฐมอญหนึ่งก้อนมีขนาดเล็ก ทำให้ต้องฉาบหรือประกอบต่อกันหลายๆ ก้อน ซึ่งรอยต่อของบ้านอิฐมอญนั้นคือส่วนสำคัญที่ทำให้เสียงเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย ขณะเดียวกันเสียงจากภายในบ้านก็ออกไปนอกบ้านได้เช่นกัน ฉะนั้นยิ่งมีรอยต่อหรือช่องว่างของผนังเยอะก็จะส่งผลต่อการป้องกันเสียงในบ้านได้น้อยลงตามไปด้วยครับ สำหรับวิธีแก้ปัญหาเรื่องเสียงนั้นสามารถทำได้ด้วยการก่ออิฐมอญแบบ 2 ชั้น ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันเรื่องเสียงเข้าบ้านหรือออกนอกบ้านแล้ว ยังช่วยในเรื่องการถ่ายเทความร้อนหรือระบายอากาศด้วยครับ


5 ไอเดียบ้านอิฐมอญกัน

ใครที่คิดภาพไม่ออกว่าบ้านอิฐมอญเป็นแบบไหน เรามาดูไอเดียการสร้างบ้านอิฐมอญกันครับ

1. บ้านสไตล์ลอฟท์ที่ใช้อิฐมอญทั้งหลัง ท่ามกลางต้นไม้นานาชนิด ให้บรรยากาศบ้านในสวน โชว์สีธรรมชาติของอิฐมอญที่ดูมีเสน่ห์ไม่ซ้ำใคร

2. บ้านอิฐมอญที่ทาสีฟ้าทับ จึงไม่เห็นสีอิฐแดงธรรมชาติ แต่ยังโชว์ให้เห็นลักษณะของอิฐในสไตล์ที่ดูโมเดิร์น มีสีสัน ไม่น่าเบื่อ

3. ใครเป็นสายมินิมอลคงจะชอบแบบบ้านสไตล์นี้ เพราะทาสีขาวทับอิฐสีแดง โชว์ให้เห็นเพียงลักษณะของอิฐเท่านั้น พร้อมตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ในสไตล์มินิมอล ทำให้ดูสะอาดและสบายตาเมื่อยู่ในบ้าน

4. บ้านอิฐมอญที่โชว์เนื้ออิฐแค่ผนังฝั่งเดียว แล้วฝั่งอื่นเป็นปูนทับอีกชั้นหรืออาจเป็นวัสดุอื่นในการก่อผนัง ช่วยลดปัญหาบ้านร้อน แถมยังได้บรรยากาศอบอุ่น สุดชิล ดูไม่หนักเป็นอิฐแดงอย่างเดียว

5. ใครที่ชอบผนังอิฐมอญแบบจัดเต้ม นี่เป็นไอเดียที่น่าจะชอบใจ เพราะผนังทุกฝั่งในบ้านให้เป็นอิฐมอญสีธรรมชาติที่ดูไม่เป็นสีเหมือนกันทั้งหมด โชว์เสน่ห์ของสีสันที่แปลกตาและสวยเท่ไม่ซ้ำ


โครงการบ้านโคราช: เรื่องต้องรู้ก่อนเลือกสร้างบ้านอิฐมอญ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://homes-realestate.com/

177
ถ้าหากเราพูดถึงงานเลี้ยง นอกจากบรรยากาศที่สนุกสนานแล้ว ในเรื่องของอาหารการกินก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นเดียวกัน เพราะอาหารเป็นสิ่งที่ต้องคู่กับงานเลี้ยงสังสรรค์เพื่อให้งานเลี้ยงของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและสมบูรณ์แบบมากที่สุด

ในเรื่องของอาหารนั้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่งานเลี้ยงของคุณขาดไม่ได้เลย และอาหารที่จัดมารับรองแขกภายในงานก็ควรจะเลือกเมนูอาหารให้เหมาะสมกับงานเลี้ยง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นงานเลี้ยงรูปแบบของโต๊ะจีน ก็ควรจะเป็นอาหารจานหลัก แต่ถ้างานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์หรืองานเลี้ยงแบบค็อกเทลก็ควรจะเป็นอาหารที่สามารถหยิบตักรับประทานง่าย เพื่อให้แขกภายในงานได้สะดวกสบายในการหยิบตักอาหาร ทั้งยังช่วยจัดระเบียบในงานเลี้ยงของคุณให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น สำหรับเมนูอาหารที่จะนำมาจัดเลี้ยงภายในงานนั้น

เราสามารถประยุกต์เมนุอาหารให้ดูน่ารับประทานและทำให้แขกได้รับประทานได้อย่างสะดวก สามารถเดินรับประทานไปพร้อมกับการเดินพบปะพูดคุยกับแขกท่านอื่นได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของการรับประทานอาหารเลย สำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำเมนูค็อกเทลที่ต้องบอกเลยว่า เป็นเมนูสุดเก๋ที่สามารถนำมาประยุกต์เพื่อให้แขกได้รับประทานอย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือ เมนูค็อกเทลกุ้ง ซึ่งเป็นเมนูสุดเก๋ยอดฮิตที่ไม่ว่างานเลี้ยงไหนๆ ก็ขาดไม่ได้เลย เหมาะสำหรับการทำรับประทานในงานปาร์ตี้ หรืองานเลี้ยงแบบบุฟเฟต์ เพราะมีการจัดเป็นคำ เสิร์ฟพอดีคำ และยังมีหน้าตาที่น่ารับประทานอีกด้วย แถมยังเป็นเมนูเพื่อสุขภาพอีกด้วย

สำหรับเมนูค็อกเทลกุ้งนั้น เป็นเมนูที่สายปาร์ตี้ สายซีฟู้ด ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว สำหรับใครที่ชอบรับประทานกุ้งรับรองว่าต้องชอบและติดใจในรสชาติของเมนูนี้อย่างแน่นอน โดยเมนูค็อกเทลกุ้งนี้ก็มีส่วนผสมและวิธีการทำที่ไม่ยากอย่างที่คิด โดยจะมีส่วนผสมคือ กุ้งทะเลลวกสุก ซอสมะเขือเทศ มายองเนส วู้สเตอร์ซอส มัสตาร์ด เกลือและพริกไทยเล็กน้อย ผักสลัด มะเขือเทศ แตงกวา หรือผักตามใจชอบ เมื่อเราตระเตรียมส่วนผสมต่างๆแล้ว ก็มาถึงวิธีการทำเมนูสุดเก๋นี้ได้เลย โดยเริ่มต้นจาก นำซอสมะเขือเทศ มายองเนส วู้สเตอร์ซอส และ มัสตาร์ด มาผสมกันแล้วใส่เกลือ และพริกไทย เล็กน้อย จากนั้นก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน ต่อมาก็ทำการหั่นผักให้เป็นชิ้นพอคำ แล้วนำกุ้ง และผักที่หั่นไว้แล้วมาจัดใส่แก้วหรือถ้วยใบเล็กๆ หรืออาจจะใช้วิธีการเสียบไม้ก็ได้ เพื่อให้แขกสามารถรับประทานได้ง่าย หยิบตักได้สะดวก ต่อมาก็มาถึงขั้นตอนการราดซอสที่เราได้ผสมไว้ เพียงเท่านี้ เราก็จะได้เมนูค็อกเทลกุ้งสุดเก๋ ที่เรียกว่า มีรสชาติ หน้าตาที่น่ารับประทานแน่นอน ยิ่งถ้านำมารับรองแขกภายในงานเลี้ยง แน่นอนว่า ถูกใจแขกภายในงานมากเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีรสชาติที่ถูกปากสายปาร์ตี้แล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เมนูค็อกเทลกุ้งนี้ เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับการจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์หรือการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล เพราะเป็นเมนูที่สามารถหยิบตักรับประทานได้ง่าย และเป็นเมนูที่เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัยเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามเรามีบริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ด้วยการการันตีจากประสบการณ์อย่างยาวนานของการจัดศูนย์อาหารภายในโรงพยาบาลชั้นนำและโรงงานต่างๆ ทางเรามีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดเลี้ยง พร้อมทั้งยังมีบริการพนักงานเสิร์ฟ ที่มีความเป็นมืออาชีพในการให้บริการ เรียกได้ว่า เราสามารถจัดเลี้ยงได้อย่างครบวงจรเลยทีเดียว โดยทีลูกค้าไม่ต้องตระเตรียมในเรื่องของการจัดงานเอง ไม่ต้องตระเตรียมอาหารเอง และยังสามารถเลือกเมนูอาหารได้ตามใจชอบได้ ทำให้ลูกค้ามีความสะดวกสบาย พร้อมทั้งช่วยในเรื่องของการดูแลเรื่องของการบริการ การจัดสถานที่ ที่ทำให้บรรยากาศงานเลี้ยงของคุณเต็มไปด้วยความสนุกสนาน สามารถจัดงานได้ตามใจลูกค้า เพื่อให้งานเลี้ยงของคุณมีความสมบูรณ์แบบที่สุด และตอบโจทย์มากทีสุด ทำให้เป็นที่ประทับใจแก่แขกภายในงาน หากสนใจที่จะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ งานปาร์ตี้ งานสัมมนา หรือแม้แต่งานฉลองในโอกาสต่างๆ ทางเรายินดีให้บริการ

ค็อกเทลกุ้ง เมนูสุดเก๋ที่งานจัดเลี้ยง การจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ขาดไม่ได้  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

178
ระยะเวลาการสมัคร : สำหรับผู้สมัครตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 66 – 1 ม.ค. 67 (อนุมัติภายใน 29 ก.พ. 67 เท่านั้น)

*เงื่อนไขรายการส่งเสริมการขาย
สำหรับผู้สมัครบัตรหลักรายใหม่ของบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เรดซ์/ลักซ์ ที่ไม่เคยใช้บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน หรือ ยกเลิกบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน มาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน) ที่มีรายได้ประจำ 15,000 บาทขึ้นไป/เดือน ซึ่งสมัครบัตรฯ ผ่านช่องทางออนไลน์ (รวมแอปพลิเคชัน UCHOOSE และ KMA) หรือ ผู้สมัครซึ่งได้แจ้งชื่อและข้อมูลการติดต่อแก่บริษัทฯ ใน www.centralthe1card.com และทำการสมัครบัตรฯ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 31 มกราคม 2567 โดยจะต้องยื่นเอกสารการสมัครภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 และต้องได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เท่านั้น

ผู้สมัครและได้รับอนุมัติภายในระยะเวลาที่กำหนดข้างต้นจะได้รับ กระเป๋าเดินทาง CAGGIONI SCARLET Limited Edition ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 4,990 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมผ่านร้านค้าในเครือเซ็นทรัล 8,000 บาทขึ้นไป ภายใน 45 วัน นับจากวันที่บัตรได้รับการอนุมัติ

ผู้สมัครและได้รับอนุมัติบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เรดซ์ จะได้รับสิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีในปีแรก มูลค่า 500 บาท สำหรับบัตรหลัก และ 250 บาท สำหรับบัตรเสริม (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) สำหรับค่าธรรมเนียมในปีต่อไป สามารถได้รับการยกเว้นได้เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรหลักและบัตรเสริมรวมกัน 100,000 บาทขึ้นไปต่อปี (สะสมจากรอบการเป็นสมาชิกของทุกๆปี)

ผู้สมัครและได้รับอนุมัติบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ลักซ์ จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายปีในปีแรก มูลค่า 4,000 บาท สำหรับบัตรหลัก และ 2,000 บาท สำหรับบัตรเสริม (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) สำหรับค่าธรรมเนียมในปีต่อไป สามารถได้รับการยกเว้นได้เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรหลักและบัตรเสริมรวมกัน 400,000 บาทขึ้นไปต่อปี (สะสมจากรอบการเป็นสมาชิกของทุกๆปี)
ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเสริมจะคำนวณรวมกับบัญชีบัตรหลัก

ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในเครือเซ็นทรัล กรุ๊ป ที่ร่วมรายการ ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี (เฉพาะร้านค้าที่ร่วมรายการ) ท็อปส์, มัทสึคิโยะ ซูเปอร์สปอร์ตและร้านค้าในเครือ CRC Sports ไทวัสดุ, บีเอ็นบี โฮม, ออโต้วัน, โก! ว้าว, เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส  มูจิ ร้านค้าในเครือ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป ร้านอาหารในเครือ เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป โรงแรมและรีสอร์ทในเครือ เซ็นทารา

การคิดยอดใช้จ่ายไม่นับรวมยอดการกดเงินสด, การตัดชำระค่าสาธารณูปโภค และ/หรือการตัดชำระรายเดือนรายปี, ยอดใช้จ่ายที่ถูกยกเลิก, ยอดใช้จ่ายที่มีการคืนสินค้าภายหลัง (VOID), การรูดแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างประเทศผ่านบัตรเครดิต, ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน, การซื้อกองทุนรวม, ค่าเบี้ยประกัน, ค่าธรรมเนียมต่างๆ, ยอดใช้จ่ายในหมวดการเสียภาษี, ยอดใช้จ่ายที่ก่อให้เกิดสิทธิประโยชน์อันได้มาในทางทุจริตไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม หรือเจตนาโดยทุจริตเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากรายการส่งเสริมการขาย, การใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการใช้บัตรเครดิตหรือการกระทำใดที่ผิดกฎหมาย และกรณีภาษีเพื่อการท่องเที่ยว (TAX refund) เป็นต้น

ของสมนาคุณในรายการนี้มอบให้เฉพาะลูกค้าที่สมัครบัตรหลักเท่านั้น
บริษัทฯ จะทำการจัดส่งของสมนาคุณให้แก่สมาชิกบัตรหลักที่ปฏิบัติครบตามเงื่อนไขที่กำหนด ตามที่อยู่ในใบแจ้งยอดบัญชีภายใน 90 วันนับจากวันครบกำหนดการใช้จ่าย 45 วัน

บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ส่งของสมนาคุณให้เฉพาะผู้ที่ยังคงสภาพการเป็นสมาชิกและไม่ผิดนัดชำระ หรือปฏิบัติผิดข้อกำหนดใดๆ ตลอดระยะเวลารายการส่งเสริมการขายนี้ โดยยึดถือข้อมูลที่ปรากฎในระบบของบริษัทฯ เป็นสำคัญ กรุณาเก็บหลักฐานการเข้าร่วมรายการ และเซลล์สลิปไว้ตรวจสอบกรณีจำเป็น
บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเรียกคืนสิทธิประโยชน์ทุกประเภทที่สมาชิกบัตรได้รับจากการใช้จ่ายในรายการ หากตรวจสอบพบภายหลังว่ามีการยกเลิกการทำรายการหรือปฏิเสธการชำระเงินจากรายการใช้จ่ายที่สมาชิกบัตรได้รับสิทธิประโยชน์ไปแล้ว

ของสมนาคุณไม่สามารถโอน เปลี่ยน แลก ทอน เป็นเงินสดได้
พนักงานในเครือกรุงศรีฯ ไม่สามารถเข้าร่วมโปรโมชั่นนี้ได้
รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ ของบริษัทฯ ได้
เงื่อนไขรายการส่งเสริมการขายเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ให้บริการบัตรเครดิตโดย บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด



สมัครบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รับกระเป๋าเดินทาง CAGGIONI มูลค่า 4,990 บาท อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/creditcard/

179
พื้นไม้ลามิเนตใครบอกดูแลยาก วันนี้เรามีวิธีทำความสะอาดพื้นลามิเนตมาฝาก ต่อให้มีคราบสกปรกกำจัดยาก ก็สามารถเช็ดออกได้ง่าย ๆ แบบไม่ทำลายเนื้อไม้ แถมยังทำให้พื้นไม้ลามิเนตกลับมาเงางามอีกด้วย

ไม้ลามิเนต เป็นอีกหนึ่งวัสดุปูพื้นที่หลายคนนิยมใช้ โดยเฉพาะในคอนโด เพราะช่วยทำให้บรรยากาศดูสวยงามและน่าอยู่ แต่ก็กังวลว่าจะดูแลยากหรือเปล่า วันนี้นำวิธีทำความสะอาดพื้นลามิเนตมาฝาก ทั้งการเช็ดถูดูแลประจำวัน รวมถึงเคล็ดลับการกำจัดคราบสกปรกต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวลามิเนตมีรอยขีดข่วน เสียรูปทรง หรือมีรอยด่างดำเป็นคราบ รวมไปถึงการทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนตให้ดูเงางาม เพื่อให้บ้าน ของเราดูสวยอยู่สมอ


วิธีทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนต

          - ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดสิ่งสกปรก เศษผง และเศษขยะอื่น ๆ ให้หมด

          - ใช้ไม้ม็อบผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าชามัวร์จุ่มน้ำผสมน้ำยาถูพื้นและบิดหมาด ถูพื้นไม้ลามิเนตให้ทั่วทั้งหมด จากนั้นให้เช็ดซ้ำด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดความชื้นสะสมในเนื้อไม้และไม่ให้สารที่เคลือบบนพื้นผิวเกิดการลอกร่อนและแยกชั้น

          - ปิดท้ายด้วยการใช้ผ้าขนหนูแห้งเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง บริเวณที่มีคราบน้ำหลงเหลืออยู่

ทั้งนี้หากจะให้ดีควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลพื้นไม้ลามิเนตโดยเฉพาะ จะช่วยรักษาพื้นผิวได้ดีกว่าน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป และทำความสะอาดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง และถ้าบ้านไหนมีสัตว์เลี้ยง ควรตัดเล็บของสัตว์เลี้ยงให้สั้นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน และทำความสะอาดพื้นสัปดาห์ละครั้ง เพื่อรักษาความสะอาดและคุณภาพของพื้นไม้ลามิเนต


วิธีทำความสะอาดพื้นลามิเนต

1. คราบสกปรกทั่วไป

หากเกิดรอยเลอะหรือคราบสกปรกบนพื้นไม้ลามิเนต สิ่งแรกที่ควรทำคือ ใช้ผ้าถูเบา ๆ บริเวณที่มีคราบ แต่ถ้าเลอะมาก ๆ ก็สามารถเพิ่มเป็นผ้าชุบน้ำบิดหมาด เช็ดเบา ๆ ได้เช่นกัน ทั้งนี้ไม่ควรขูดรอยเปื้อนออก เพราะจะทำให้สารเคลือบพื้นผิวหลุดร่อนและพื้นเป็นรอยเสียหายได้


2. คราบฝังแน่น

ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วยตวง เข้าด้วยกันแล้วเทใสลงในขวดสเปรย์ขนาด 1 ลิตร นำไปฉีดบนคราบสกปรก แล้วใช้ผ้าหรือฟองน้ำเช็ดน้ำยาและคราบออกจนสะอาด หากมีคราบสกปรกมากและกระจายเป็นบริเวณกว้าง ให้ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบแล้วบิดหมาดมาทำความสะอาด


3. รอยเลือด

ผสมน้ำยาเช็ดกระจกเล็กน้อยกับน้ำยาทำความสะอาด และใช้ผ้าชุบแล้วบิดหมาด ถูคราบให้สะอาด และใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกครั้ง


4. หมากฝรั่ง

ใช้มีดพลาสติกขูดเบา ๆ เอาหมากฝรั่งออกมาให้ได้มากที่สุด จากนั้นใช้ผ้าชุบอุ่นน้ำบิดหมาด ๆ แล้วเช็กคราบที่เหลือออกให้สะอาด


5. ไวน์ น้ำอัดลม

ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำบิดหมาดเช็ดทำความสะอาดทันทีที่เกิดคราบ


6. หมึกจากปากกาหรือสีเทียน

รีบใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบทันที ในกรณีที่เป็นรอยหมึกฝังแน่น ให้นำผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างหมึกปริมาณเล็กน้อยผสมกับน้ำเปล่า นำมาเช็ดคราบให้สะอาด และเช็ดซ้ำอีกครั้งด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด
 

7. น้ำยาทาเล็บ

ใช้น้ำยาล้างเล็บที่มีส่วนผสมของสารอะซิโตน (Acetone) ผสมกับน้ำสะอาด และเช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ จากนั้นแช่ผ้าในน้ำสะอาดแล้วเช็ดซ้ำอีกครั้ง


8. รอยขีดข่วน

ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำ บิดหมาด และเช็ดรอยออก จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ควรใช้ผ้าหรือแผ่นพลาสติกรองขาตั้งเฟอร์นิเจอร์หากต้องการเปลี่ยนตำแหน่ง


9. จารบี

ใช้ก้อนน้ำแข็งประกบที่รอยเปื้อนจนกว่าจารบีจะแข็งตัว จากนั้นใช้มีดพลาสติกขูดเบา ๆ จนคราบหลุดออก เสร็จแล้วก็ใช้น้ำยาเช็ดกระจกเช็ดคราบไขมันที่เหลืออยู่บนพื้น และเช็ดใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดซ้ำ



บริการทำความสะอาด: วิธีทำความสะอาดพื้นลามิเนต และคงสภาพให้ผิวไม้เงางามอยู่เสมอ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/soft-services/

180
จัดฟัน คือ การรักษาทางทันตกรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันที่สบกันผิดปกติและเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ให้เรียงตัวได้เป็นระเบียบมากขึ้น การจัดฟันเหามะสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาฟันไม่สวย ฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง ฟันเหยิน ฟันไม่สบกัน

การจัดฟันจะต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควรในรักษา และการเตรียมความพร้อมเป็นวิธีหนึ่งในการทำให้กระบวนการปรับตัวเข้ากับเหล็กจัดฟันใหม่ให้ราบรื่น ตั้งแต่การปรับตัวในการรับประทานอาหารที่เหมาะสมจนถึงการดูแลความสะอาดช่องปากและอุปกรณ์เหล็กจัดฟัน

การเตรียมตัวก่อนจัดฟันมีดังนี้


เข้าพบทันตแพทย์

เพื่อปรึกษาและตรวจสอบสภาพโครงสร้างฟัน เหงือก รากฟัน เพื่อประเมินการรักษาและวางแผนการการจัดฟันให้เหมาะสมกับวัสดุและเครื่องมือที่ใช้ในการจัดฟัน


วางแผนการจัดฟัน

เมื่อเราทราบรายละเอียดที่เหมาะสมกับการจัดฟันแล้ว ทันตแพทย์จะชี้แจงแผนการจัดฟัน ระยะเวลาในการจัดฟัน การเคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟัน รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการรักษา


เตรียมพร้อมสำหรับการจัดฟัน

เริ่มต้นการทำทันตกกรมแรกเลยคือ พิมพ์ฟันหรือสแกนเอ็กซ์เรย์ตรวจรูปหน้า เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างของฟัน ขากรรไกรบนและล่าง ตรวจสอบรายละเอียดปัญหาของฟันและออกแบบการจัดฟันเพื่อให้มีประสิทธภาพมากที่สุด


เคลียร์ช่องปาก

การเคลียร์ช่องปากจะขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละกรณี โดยเบื้องต้นคือการขุดหินปูน ขัดฟัน อุดฟัน และถอนหรือผ่าฟันคุด การเคลียร์ช่องปากจะช่วยป้องกันปัญหาของฟันที่เกิดขึ้นภายหลังของการจัดฟัน


เริ่มต้นจัดฟัน

หลังจากทำการเคลียร์ช่องปากเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถติดเครื่องมือสำหรับการจัดฟันในแต่ละแบบได้เลย


การจัดฟันจะมี 2 รูปแบบ ได้แก่

    การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ หากจัดฟันแบบติดเครื่องมือทันตแพทย์จะนัดพบเพื่อปรับเครื่องมือเป็นระยะๆ ตามชนิดของเครื่องมือ เบื้องต้นการนัดปรับเครื่องมือจะนัดทุกๆ 4 สัปดาห์
    การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ คือการจัดฟันแบบใส ทันตแพทย์จะนัดพบเพื่อรับอุปกรณ์จัดฟันแบบใสพร้อมให้คำอธิบายวิธีการใช้งานและดูแลความสะอาดอย่างถูกต้อง จากนั้นจะนัดเพื่อเข้ารับอุปกรณ์ชุดใหม่ตามที่ทันตแพทย์จัดเตรียมให้


ครบกำหนดการจัดฟัน

เมื่อแผนการจัดฟันครบกำหนดและรูปแบบฟันสมบูรณ์เป็นไปตามแผนการรักษาก็สามารถถอดเครื่องมือจัดฟันและทำการพิมพ์ฟันเพื่อรับรีเทนเนอร์ การใส่รีเทนเนอร์จะต้องใส่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สภาพฟันเรียงตัวสวยงามคงเดิม


เตรียมรับมืออย่างไร เมื่อใส่เครื่องมือจัดฟัน

การใส่เครื่องมือจัดฟันหรือแบร็กเก็ตครั้งแรกอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองของผิวข้างในและรู้สึกไม่เคยชิน หลังจากใส่เครื่องมือ 5 ชั่วโมงแรกอาจจะยังไม่รู้สึกปวด สามารถรับประทานได้ตามปกติและควรเลี่ยงอาหารที่ค่อนข้างมีลักษณะแข็ง เมื่อครบ 1 วันหลังจากใส่เครื่องมือจัดฟันจะมีอาการปวดฟันค่อนข้างมากแต่อยู่ในระดับที่ทนได้ แนะนำให้รับประทานอาหารที่อ่อนนุ่มเพื่อลดการเคลื่อนไหวของฟันและอาการปวดได้ อาการปวดหลังจากใส่เครื่องมือจัดฟันครั้งแรกจะทุเลาและดีขึ้นภายใน 2-3 วันขึ้นอยู่แต่ละโครงสร้างฟันของแต่ละบุคคล


การดูแลรักษาหลังจากจัดฟัน

การดูแลรักษาความสะอาดหลังจัดฟันเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ฟันและเครื่องมือจัดฟันคงอยู่ในสภาพที่ดี โดยเฉพาะหลังจากการจัดฟันแบบดามอนหรือการใช้แบร็กเก็ต


นี่คือบางขั้นตอนสำหรับการดูแลรักษาความสะอาดหลังจัดฟัน

การแปรงฟัน

ควรแปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน โดยใช้แปรงฟันที่มีขนสั้นและอ่อน เพื่อไม่ทำให้ฟันหรือเครื่องมือจัดฟันเสีย แปรงให้สะอาดทั้งด้านด้านบนและด้านล่างของฟัน และอย่าลืมแปรงลิ้นและเครื่องมือจัดฟันด้วย


ใช้ไหมขัดฟัน

การใช้ไหมขัดฟันช่วยในการทำความสะอาดระหว่างฟันและเครื่องมือจัดฟัน สามารถใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำหรือตามคำแนะนำของทันตแพทย์


การดูแลรักษาเครื่องมือจัดฟัน

ถ้าใช้แบร็กเก็ตจะต้องรักษาความสะอาดของมันด้วย ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่เสี่ยงให้เกิดการกระแทกหรือรอยขรุขระบนแบร็กเก็ต และควรรักษาความสะอาดโดยใช้ฟลอสทรีนอย่างน้อยวันละครั้ง
การเข้าพบตามที่ทันตแพทย์นัด

นัดหมอทันตแพทย์ตามตารางที่กำหนดหรือตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อปรับเครื่องมือตามแผนการจัดฟันที่กำหนดไว้


การรับประทานอาหาร

ลดการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีความหวานสูง เพราะอาจทำให้ฟันเสีย และหลีกเลี่ยงอาหารที่เสี่ยงทำให้เครื่องมือหรือแบร็กเก็ตหลุด


จัดฟันครั้งแรก เตรียมตัวอย่างไรดี อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 24