163
ห้องพูดคุยเรื่อง HD Player / Re: ขอความรู้เรื่อง HD Player vs Computer หน่อยครับ
« เมื่อ: มิถุนายน 17, 2011, 10:04:15 pm »
ผมเองเคยทั้งรับประกอบคอม เซ็ตอัพเครื่องเพื่อใช้งานเป็น HTPC จนเลยมาจำหน่ายเครื่อง HD-Player มาแล้ว
ส่วนตัวแล้ว มองทั้ง 2 ระบบนี้มีข้อดี ข้อด้อย แตกต่างกัน มีกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างแตกต่างกันสิ้นเชิง ดังนี้ครับ
HTPC (PC) ข้อดีของระบบนี้ คือการที่เป็นระบบเปิด เราสามารถเลือกชิ้นส่วนอุปกรณ์ได้เองทั้งหมด เลือกซอฟต์แวร์ ต่างได้ ปรับแต่งระบบได้ตามความชอบใจ แต่ส่วนนี้เองก็เป็นเหมือนดาบสองคมครับ ที่การดูแลรักษาเครื่องให้อยู่ในสภาพที่ดี ทำงานได้ถูกต้องปกติ ก็ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจด้านคอมพิวเตอร์ประกอบไปด้วย การอัพเดตซอฟต์แวร์ หรือการดูแลรักษา หรือแม้แต่การเลือกสเปคเครื่อง ล้วนต้องพึ่งความรู้ความเข้าใจเรื่องคอมในระดับหนึ่งครับ (ผิดกับระบบปิดที่เพียงอัพเดตเฟิร์มแวร์เรื่อยๆ ก็เพียงพอแล้ว)
โดยตัวสเปคของเครื่องแล้ว ทั้งความเร็วการประมวลผล ชิปกราฟฟิก หรือแม้แต่ขนาดแรม/รอมต่างๆ เร็วกว่า มากกว่า ดีกว่าระบบปิดอย่าง HD-Player อย่างเทียบไม่ได้เลยครับ - แต่... คุณภาพวัสดุที่ใช้ก็เป็น Computer Grade ไม่ใช่ Home Theater หรือ Audio/Video Grade เหมือนอย่างเครื่องรุ่นแพงๆ ทางฝั่ง HD-Player บางรุ่น โดยเฉพาะคุณภาพของหม้อแปลง Power Supply ของคอมนี่ล่ะ ที่จ่ายกระแสไฟมากกว่า กินกระแสไฟมากกว่า นอกเหนือไปจากความสิ้นเปลืองพลังงานแล้ว ยังส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของภาพ และเสียงที่ HTPC จะทำได้ด้วยครับ (ตัวแปรเรื่องสเปคเครื่องที่ค่อนข้างกว้างของ HTPC ทำให้ผมเลือกที่จะไม่ลงลึก หรือเปรียบมวยกับทาง HD-Player เป็นรุ่นต่อรุ่น ยี่ห้อต่อยี่ห้อนะครับ - ความเห็นส่วนตัวมองว่า ในงบประมาณที่น้อยกว่า HD-Player สามารถให้ภาพที่ไม่ด้อยไปกว่า HTPC ที่ค่าตัวแพงกว่าเกินเท่าตัว หรือมากกว่านั้นได้สบายๆ ครับ)
ถ้าหากคุณมีความถนัดในการใช้งาน และดูแลรักษาคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว มีความต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์จริงๆ จังๆ และรองรับการชมไฟล์ภาพยนตร์คุณภาพสูงไปด้วยผ่านหน้าจอทีวี มีการใช้งานด้วยตัวเองเป็นหลัก ไม่ค่อยมีคนในบ้านร่วมใช้งานด้วย หรืออยู่ช่วยดูแลเขาได้ เปิดให้เขาเล่นได้ หรือสอนทำความเข้าใจผู้ใช้งานคนอื่นๆ ได้ด้วย ก็สามารถเลือกเป็น HTPC ได้ครับ
HD-Player ด้วยระดับราคาเริ่มต้นของเครื่องในยุคนี้ที่ถูกลงไปมาก เลยทำให้คนหันมาเริ่มเล่น หรือจับต้องเครื่อง HD-Player กันได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงความไม่ยุ่งยากในการใช้งาน หรือดูแลรักษาเครื่องที่มากเหมือนคอมพิวเตอร์ เลยทำให้เครื่อง HD-Player น่าจะเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ที่ไม่ถนัดคอมพิวเตอร์ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานความสามารถอื่นๆ ด้านคอมพิวเตอร์มากน้ก และต้องการดูแลรักษาเครื่องของตัวเองได้ง่ายครับ คุณภาพของภาพและเสียงที่ได้ มีความหลากหลายตามระดับราคา/คุณภาพของเครื่องแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้ออยู่พอสมควรครับ
จุดอ่อนของเครื่องประเภทนี้ก็คือ การเป็นระบบปิด การอัพเกรดเครื่องแทบจะทำไม่ได้เลย เวลามีรุ่นใหม่ออกมา รุ่นเก่าก็จะตกรุ่นทันที (ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยเห็นความสำคัญกับประเด็นนี้เท่าไหร่ เพราะมักจะแนะนำลูกค้าว่าให้เลือกสินค้าให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้งานของตัวเอง เลือกให้พอดีกับระบบทีวี เครื่องเสียงที่ใช้งานอยู่ รองรับนามสกุลไฟล์ที่ต้องการนำไปใช้งานให้ครบถ้วน มองไปในอนาคตสัก 1-2 ปีว่ายังมีความครอบคลุมอยู่ ไม่อึดอัดในการใช้งานเครื่องที่กำลังจะเลือก ก็เพียงพอแล้วครับ)
ด้วยการใช้งานที่ง่าย ใครในบ้านก็สามารถใช้งานได้ แค่เปิดเครื่องขึ้นมา หยิบรีโมต ก็เล่นได้เลย ทำให้ยังไงเสียเครื่อง HD-Player ก็น่าจะเป็นที่นิยมกับคนส่วนใหญ่ได้มากกว่าอยู่แล้วครับ
ในส่วนของคุณภาพของภาพและเสียงที่ได้ ระหว่าง HTPC กับ HD-Player องค์ประกอบมันมีเยอะครับ ทั้งเรื่องงบประมาณของตัวเครื่องที่จะนำมาเปรียบเทียบกัน ลักษณะการปรับแต่งโปรแกรมต่างๆ ก็มีผลกับภาพและเสียงโดยตรงด้วยเช่นกัน - ความชอบ รสนิยมส่วนตัวของผู้ใช้งานก็มีผลครับ ค่อนข้างจะเป็นนามธรรมพอสมควร ไม่กล้าจะฟันธงถูก/ผิด ดี/ด้อย จริงๆ ครับ ถึงจะมีโอกาสเซ็ตอัพ HTPC มาเป็นร้อยกว่าชุด หรือขาย HD-Player มาเป็นร้อยเครื่องแล้วก็ตาม
แนะนำว่าให้เลือกตามงบประมาณ ความเหมาะสมในการใช้งาน และถ้ามีตัวเลือกในใจอยู่แล้ว เป็นไปได้ควรทดลองชมภาพ ฟังเสียงด้วยตัวเองเปรียบเทียบดูดีๆ ครับ จะได้เครื่องที่ถูกใจเรา โดยไม่ต้องยืมตา ยืมหูคนอื่นตัดสินใจแทนครับ (เพราะยังไงซะ คนที่จะใช้งานจริงๆ ก็คือตัวเราเองอยู่ดีครับ)
^_^
ปล. HD-Player ไม่ได้ใช้ระบบ DirectX เหมือนกับในคอมนะครับ กับความละเอียดสี นอกจากดูแหล่งประมวลผลภาพแล้ว ต้องดูแหล่งแสดงผลด้วยครับ TV ปัจจุบันส่วนใหญ่น่าจะรองรับกันที่ 10-12 Bit เท่านั้นนะครับ
ส่วนตัวแล้ว มองทั้ง 2 ระบบนี้มีข้อดี ข้อด้อย แตกต่างกัน มีกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างแตกต่างกันสิ้นเชิง ดังนี้ครับ
HTPC (PC) ข้อดีของระบบนี้ คือการที่เป็นระบบเปิด เราสามารถเลือกชิ้นส่วนอุปกรณ์ได้เองทั้งหมด เลือกซอฟต์แวร์ ต่างได้ ปรับแต่งระบบได้ตามความชอบใจ แต่ส่วนนี้เองก็เป็นเหมือนดาบสองคมครับ ที่การดูแลรักษาเครื่องให้อยู่ในสภาพที่ดี ทำงานได้ถูกต้องปกติ ก็ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจด้านคอมพิวเตอร์ประกอบไปด้วย การอัพเดตซอฟต์แวร์ หรือการดูแลรักษา หรือแม้แต่การเลือกสเปคเครื่อง ล้วนต้องพึ่งความรู้ความเข้าใจเรื่องคอมในระดับหนึ่งครับ (ผิดกับระบบปิดที่เพียงอัพเดตเฟิร์มแวร์เรื่อยๆ ก็เพียงพอแล้ว)
โดยตัวสเปคของเครื่องแล้ว ทั้งความเร็วการประมวลผล ชิปกราฟฟิก หรือแม้แต่ขนาดแรม/รอมต่างๆ เร็วกว่า มากกว่า ดีกว่าระบบปิดอย่าง HD-Player อย่างเทียบไม่ได้เลยครับ - แต่... คุณภาพวัสดุที่ใช้ก็เป็น Computer Grade ไม่ใช่ Home Theater หรือ Audio/Video Grade เหมือนอย่างเครื่องรุ่นแพงๆ ทางฝั่ง HD-Player บางรุ่น โดยเฉพาะคุณภาพของหม้อแปลง Power Supply ของคอมนี่ล่ะ ที่จ่ายกระแสไฟมากกว่า กินกระแสไฟมากกว่า นอกเหนือไปจากความสิ้นเปลืองพลังงานแล้ว ยังส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของภาพ และเสียงที่ HTPC จะทำได้ด้วยครับ (ตัวแปรเรื่องสเปคเครื่องที่ค่อนข้างกว้างของ HTPC ทำให้ผมเลือกที่จะไม่ลงลึก หรือเปรียบมวยกับทาง HD-Player เป็นรุ่นต่อรุ่น ยี่ห้อต่อยี่ห้อนะครับ - ความเห็นส่วนตัวมองว่า ในงบประมาณที่น้อยกว่า HD-Player สามารถให้ภาพที่ไม่ด้อยไปกว่า HTPC ที่ค่าตัวแพงกว่าเกินเท่าตัว หรือมากกว่านั้นได้สบายๆ ครับ)
ถ้าหากคุณมีความถนัดในการใช้งาน และดูแลรักษาคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว มีความต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์จริงๆ จังๆ และรองรับการชมไฟล์ภาพยนตร์คุณภาพสูงไปด้วยผ่านหน้าจอทีวี มีการใช้งานด้วยตัวเองเป็นหลัก ไม่ค่อยมีคนในบ้านร่วมใช้งานด้วย หรืออยู่ช่วยดูแลเขาได้ เปิดให้เขาเล่นได้ หรือสอนทำความเข้าใจผู้ใช้งานคนอื่นๆ ได้ด้วย ก็สามารถเลือกเป็น HTPC ได้ครับ
HD-Player ด้วยระดับราคาเริ่มต้นของเครื่องในยุคนี้ที่ถูกลงไปมาก เลยทำให้คนหันมาเริ่มเล่น หรือจับต้องเครื่อง HD-Player กันได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงความไม่ยุ่งยากในการใช้งาน หรือดูแลรักษาเครื่องที่มากเหมือนคอมพิวเตอร์ เลยทำให้เครื่อง HD-Player น่าจะเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ที่ไม่ถนัดคอมพิวเตอร์ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานความสามารถอื่นๆ ด้านคอมพิวเตอร์มากน้ก และต้องการดูแลรักษาเครื่องของตัวเองได้ง่ายครับ คุณภาพของภาพและเสียงที่ได้ มีความหลากหลายตามระดับราคา/คุณภาพของเครื่องแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้ออยู่พอสมควรครับ
จุดอ่อนของเครื่องประเภทนี้ก็คือ การเป็นระบบปิด การอัพเกรดเครื่องแทบจะทำไม่ได้เลย เวลามีรุ่นใหม่ออกมา รุ่นเก่าก็จะตกรุ่นทันที (ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยเห็นความสำคัญกับประเด็นนี้เท่าไหร่ เพราะมักจะแนะนำลูกค้าว่าให้เลือกสินค้าให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้งานของตัวเอง เลือกให้พอดีกับระบบทีวี เครื่องเสียงที่ใช้งานอยู่ รองรับนามสกุลไฟล์ที่ต้องการนำไปใช้งานให้ครบถ้วน มองไปในอนาคตสัก 1-2 ปีว่ายังมีความครอบคลุมอยู่ ไม่อึดอัดในการใช้งานเครื่องที่กำลังจะเลือก ก็เพียงพอแล้วครับ)
ด้วยการใช้งานที่ง่าย ใครในบ้านก็สามารถใช้งานได้ แค่เปิดเครื่องขึ้นมา หยิบรีโมต ก็เล่นได้เลย ทำให้ยังไงเสียเครื่อง HD-Player ก็น่าจะเป็นที่นิยมกับคนส่วนใหญ่ได้มากกว่าอยู่แล้วครับ
ในส่วนของคุณภาพของภาพและเสียงที่ได้ ระหว่าง HTPC กับ HD-Player องค์ประกอบมันมีเยอะครับ ทั้งเรื่องงบประมาณของตัวเครื่องที่จะนำมาเปรียบเทียบกัน ลักษณะการปรับแต่งโปรแกรมต่างๆ ก็มีผลกับภาพและเสียงโดยตรงด้วยเช่นกัน - ความชอบ รสนิยมส่วนตัวของผู้ใช้งานก็มีผลครับ ค่อนข้างจะเป็นนามธรรมพอสมควร ไม่กล้าจะฟันธงถูก/ผิด ดี/ด้อย จริงๆ ครับ ถึงจะมีโอกาสเซ็ตอัพ HTPC มาเป็นร้อยกว่าชุด หรือขาย HD-Player มาเป็นร้อยเครื่องแล้วก็ตาม
แนะนำว่าให้เลือกตามงบประมาณ ความเหมาะสมในการใช้งาน และถ้ามีตัวเลือกในใจอยู่แล้ว เป็นไปได้ควรทดลองชมภาพ ฟังเสียงด้วยตัวเองเปรียบเทียบดูดีๆ ครับ จะได้เครื่องที่ถูกใจเรา โดยไม่ต้องยืมตา ยืมหูคนอื่นตัดสินใจแทนครับ (เพราะยังไงซะ คนที่จะใช้งานจริงๆ ก็คือตัวเราเองอยู่ดีครับ)
^_^
ปล. HD-Player ไม่ได้ใช้ระบบ DirectX เหมือนกับในคอมนะครับ กับความละเอียดสี นอกจากดูแหล่งประมวลผลภาพแล้ว ต้องดูแหล่งแสดงผลด้วยครับ TV ปัจจุบันส่วนใหญ่น่าจะรองรับกันที่ 10-12 Bit เท่านั้นนะครับ