แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Shopd2

หน้า: 1 ... 915 916 [917] 918 919 ... 923
16489


"มิสทีน" แจ้งด่วนเช้านี้ กรณีเปิดให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์มิสทินสู้โควิด คลิก มิสทีนสู้โควิด.com ระหว่างวันที่ 12 -14 สิงหาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันที่ 12 สิงหาคม ถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2564 เวลา 24.00 น.

เนื่องจากในขณะนี้มีผู้เข้าชมเว็บไซต์จำนวนมาก ส่งผลให้เกิดปัญหาดังกล่าว เลื่อนเปิดลงทะเบียนเวลา 09.00 น. 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เข้าตรวจสอบเว็บไซต์ มิสทีนสู้โควิด.com อีกครั้งเมื่อเวลา 09.20 น. ปรากฎว่าเข้าไม่ได้ คาดว่ามีผู้เข้าใช้บริการจำนวนมาก ทำให้เว็บล่มต่อเนื่อง 


ล่าสุด เมื่อเวลา 11.20 น. มิสทีนแจ้งอีกครั้ง เนื่องจากในขณะนี้มีผู้เข้าชมเว็บไซต์จำนวนมาก ส่งผลให้เกิดปัญหาดังกล่าว ทางทีมงานจึงขอเลื่อนเวลาการลงทะเบียนเป็นเวลา 14.00น.

ทั้งนี้ทุกท่านสามารถลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 14 ส.ค. 64 และสามารถทยอยเข้าลงทะเบียนได้เรื่อยๆขออภัยในความไม่สะดวก

เงื่อนไขการลงทะเบียน

1. เปิดลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย

2. ผู้ได้รับทุน จำนวน 2,000 ทุน จะต้องลงทะเบียน ชื่อ ที่อยู่ จะต้องเป็นชื่อเดียวกันกับชื่อบัญชีธนาคาร

3. ผู้ยื่นความจำนงขอรับทุน ต้องระบุผลกระทบที่ได้รับจากสถานการณ์โควิด 19 เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณามอบทุน

4. หลักเกณฑ์การพิจารณาของคณะกรรมการ จะพิจารณาจากรายละเอียดผลกระทบ ที่ผู้ลงทะเบียนแจ้งเข้ามาที่เว็บไซต์มิสทิสสู้โควิดเท่านั้น โดย “เน้นหลักการช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนมากที่สุด” ซึ่งการพิจารณามอบทุน ให้สิทธิ์การรับทุน 1 ครัวเรือนต่อ 1 ทุน และการพิจารณาของคณะกรรมการมูลนิธิ ถือเป็นที่สิ้นสุด

16490
มาฟัง ดร.สมโชค เดชะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ออสซี่ออยล์ จำกัด ทางรายการ กรุงเทพธุรกิจ ในหัวข้อเรื่อง ออสซี่ออยล์แตกไลน์ ‘น้ำมันแกลลอน’ สู้ศึกโควิด
โอกาสมาถึงแล้ว..คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจลงทุนวันนี้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าในวันข้างหน้าหากสนใจทักแชทได้เลยนะคะ
Aussie oil ผู้เชียวชาญด้านธุรกิจพลังงานที่เราอยากแนะนำให้กับคุณ ...
ปรึกษาหรือสอบถามฟรี
สอบถามรายละเอียดได้ที่ :
Tel : 02-1114-7334  line: @aussieoil
(สามารถติดต่อได้ 9.00 - 17.00 น.)

https://youtu.be/cZRFXCcpzo0

16491


ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไม่เพียงแต่ได้สุดยอดนักเตะเบอร์ 1 ของโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี แบบไม่เสียค่าตัว แต่ชื่อเสียงของเจ้าตัวก็ส่งผลดีให้ยักษ์ใหญ่แห่ง ลีก เอิง ได้แฟนคลับเพิ่มขึ้นแบบอักโขทาง โซเชียล มีเดีย

เพียงแค่วันแรกที่ชูเสื้อเปิดตัว เสื้อหมายเลข 30 ของ เมสซี ในชุดของ เปแอสเช ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจนขาดตลาดภายใน 30 นาที แม้จะไม่ใช่เบอร์ 10 อันเป็นเอกลักษณ์ แต่แฟนๆ ก็อยากครอบครองเสื้อซูเปอร์สตาร์คนนี้ล้นหลาม

ไม่เพียงแค่เสื้อแข่ง มีการเปิดเผยด้วยว่ายอดติดตามทางอินสตาแกรมของ เปแอสเช เดิมทีเคยมีผู้ติดตามอยู่ 19.8 ล้านยูเซอร์ แต่พอแข้งวัย 34 ปี ย้ายสู่ ปาร์ค เดอ แปรงส์ ตัวเลขก็พุ่งขึ้นอีก 20.2 ล้านยูเซอร์ ทำให้ตอนนี้ IG ของทีม มียอดติดตามเกิน 40 ล้านยูเซอร์ไปเรียบร้อย

16492


ช่วงที่ต้องอยู่บ้านเป็นหลักแบบนี้ ร้านอาหารก็ยังไม่สามารถไปนั่งกินได้ เลยได้แต่สั่งอาหารอร่อยๆ มากินกันที่บ้าน ซึ่งแต่ละร้านก็มีบริการเดลิเวอรี่ส่งตรงถึงบ้าน

อย่างถ้าใครนึกถึงอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ ซูชิหลากหลาย ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพ ก็ขอแนะนำแบรนด์ “Kouen” (โคเอ็น) ที่เริ่มจากการเป็นร้านซูชิบาร์เล็กๆ แถวๆ สามย่าน ก่อนจะพัฒนามาเรื่อยๆ จนมาเป็นบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมียม ที่มีแนวคิดการรวบรวมของดีในราคาเหมาะสม และเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ

แต่สำหรับในช่วงที่ยังมานั่งกินที่ร้านไม่ได้ ก็มีการเปิดร้านซูชิน้องใหม่ “Ono Sushi by Kouen Group” (โอโนะ ซูชิ) ที่ให้บริการอาหารญี่ปุ่นในแบบเดลิเวอรี่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในช่วงสถานการณ์แบบนี้ คือ การได้กินของอร่อย มีคุณภาพ และมีให้เลือกหลากหลาย ในราคาที่เอื้อมถึง

ซึ่งที่ร้าน Ono Sushi ปัจจุบันสามารถสั่งได้จากสาขา Cloud Kitchen ดังนี้ สาทร, พระราม 2 ปิ่นเกล้า, รัชดา ซอย 3, ราชพฤกษ์, ศรีนครินทร์, ประชาชื่น, ทองหล่อ, รามคำแหง 118, โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงรามอินทรา และ จุฬา ซอย 12โดยสามารถเลือกบริการเดลิเวอรี่จากแอพลิเคชั่นต่างๆ และเลือกสั่งได้จากสาขาใกล้บ้าน

สำหรับอาหารญี่ปุ่นภายในร้าน มีให้เลือกกว่า 100 เมนู จะมีซูชิประเภทต่างๆ นิกิริ มากิ ซาชิมิ โรล และข้าวหน้าด้งต่างๆ

เริ่มจากประเภทซูชิ (เริ่มต้น ชิ้นละ 10 บาท) เช่น ซูชิหน้าปลาแซลมอน ซูชิหน้าท้องปลาแซลมอน ซูชิหน้าปลาทูน่า อินาริซูชิ ซูชิไข่ปลาแซลมอน ซูชิหน้าปลาไหล ซูชิหน้าหอยเชลล์ ซูชิหน้ากุ้งจัมโบ้ ซูชิเนื้อวากิวซอสเทริยากิ ไข่หวานหน้ากุ้ง เป็นต้น


ประเภทโรล (เริ่มต้น 79 บาท) และ มากิ (เริ่มต้น 39 บาท) ได้แก่ โรลแซลมอนภูเขาไฟ โรลกุ้งเทมปุระ โรลฟูโตมากิ มากิไส้สลัดปูอัดข้าวโพดและแตงกวา มากิไส้อโวคาโด มากิไส้แซลมอน เป็นต้น

และยังมี ดงบุริ หรือข้าวหน้าต่างๆ (เริ่มต้น 109 บาท) ได้แก่ ข้าวหน้าปลาไหล ข้าวหน้าปลาแซลมอน ข้าวหน้าเนื้อริบอายราดซอสสไปซี่ ข้าวหน้าปลาดิบรวม ข้าวหน้าปลาซาบะย่างเกลือ ข้าวหน้าหมูชาชู เป็นต้น

มีเมนูอาหารญี่ปุ่นให้เลือกกินกันแบบหลากหลาย ส่งตรงมาให้อร่อยถึงบ้านกันได้ง่ายๆ และพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี เมื่อสั่ง Delivery ทาง Line Man และชำระด้วยบัตรเครดิตเคทีซี สามารถใช้คะแนนสะสม KTC FOREVER 399 คะแนน แลกค่าจัดส่ง 50 บาท


ร้าน “Ono Sushi by Kouen Group” (โอโนะ ซูชิ) เปิดให้บริการแบบเดลิเวอรี่ ทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น. ดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ONO Sushi โอโนะ ซูชิ / Line@ : @onosushi (https:// lin.ee/wYy2P7k) / IG : onosushi.bkk

16493


จากกรณี ประเด็นร้อนในโซเชียลออนไลน์ เรื่องร่างออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบกึ่งเหมาเข่ง ให้กับคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดหา และบริหารวัคซีนโควิด


ล่าสุด มีการผุดแคมเปญ! คัดค้าน พ​.​ร​.​ก. นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งคนจัดหาวัคซีน  โดยระบุว่า ไม่ต้องอ้างว่าทำเพื่อบุคลากรด่านหน้า ไม่ต้องอ้างคนทำงานเพื่อสอดไส้นิรโทษกรรมให้ตัวเอง 

ขอคัดค้าน พ.ร.ก. นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งให้กับรัฐบาลและคณะผู้จัดหาวัคซีน 



มีการเปิดเผยเอกสารนำเสนอแนวทางปรับปรุงกฎหมายเพื่อเพิ่มความคุ้มครองบุคลากรการแพทย์ในสถานการณ์โควิด ที่ชื่อว่า ‘พระราชกำหนดจำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ….’ ซึ่ง ล่าสุด อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมายืนยันว่าเป็นเอกสารจริง มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ และลดช่องโหว่คนหัวใสฟ้องร้องเอาผิด โดยบอกว่า

“ร่างกฎหมายนี้เป็นการให้ความมั่นใจกับผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ให้คลายความกังวล เช่น การวินิจฉัยโรคและรักษาพยาบาล ก็ต้องทำความมั่นใจว่าเขาจะได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะเรื่องของการฟ้องร้อง หากทำโดยเจตนาสุจริต ศาลก็ไม่เคยลงโทษ เราไม่ต้องการให้บรรดาแพทย์ พยาบาล มีความวิตกกังวลหากถูกฟ้องร้อง แม้จะมั่นใจว่าชนะก็ยังมีความวิตกกังวลระดับหนึ่ง เราต้องการให้แพทย์ พยาบาล มีขวัญกำลังใจเต็มที่ จะได้ทุ่มเทในการรักษาพยาบาล วัคซีนก็ต้องจัดหาเข็มสามเพื่อความปลอดภัยในการไปรักษาคนไข้ มีความกังวลให้น้อยที่สุด สุดท้ายประชาชน คนไข้ก็ได้ประโยชน์” อ่านต่อ
ขอยืนยันว่า ไม่มีใครไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมให้แพทย์พยาบาล บุคลากรสาธารณสุขในฐานะผู้ปฏิบัติงาน แต่จุดที่เป็นปัญหาที่สุดคือ รายละเอียดที่สอดไส้มาในข้อ 7 ที่เหมารวมถึง “บุคคล / คณะบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งหรือมอบหมายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหาหรือบริหารวัคซีน” (ไม่ว่าจะเป็นศบค. ที่ปรึกษา หรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ) 

เราเห็นว่า ‘ด่านหน้าไม่มีความผิด’ แต่ ‘หน้าด้าน’ ที่บริหารประเทศจนทำให้ระบบสาธารณสุขล้มเหลว จนเกิดความสูญเสียจนประชาชนล้มตายกว่า 6 พันคน อันนี้ ต้องรับผิดชอบ หรืออย่างน้อยที่สุดหากเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนจะถูก หรือผิด ศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยเอง ดังนั้น พ.ร.ก ฉบับนี้ไม่ควรได้ไปต่อจนว่าจะถูกปรับแก้ 

ในเวลานี้เราต่างรู้ดีว่า ‘เงียบแล้วอดทน เปลี่ยนประเทศนี้ไม่ได้’ จึงขอเชิญผู้ที่เห็นตรงกันร่วมลงชื่อคัดค้าน และช่วยกันแสดงพลังด้วยการส่งเสียง เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศได้ไปต่อ เมื่อรัฐบาลบริหารงานแบบดิ่งลงเหว เรายิ่งต้องบ่นให้เสียงดังขึ้นไปอีก เสียงของทุกคนมีค่าเสมอ 

"หยุดอ้างว่านี่คือการปกป้องคนทำงาน หยุดอ้างว่านี่คือการให้กำลังใจบุคลากรด่านหน้า เพราะบุคลากรด่านหน้า และอาสาสมัครต่างๆ ทำงานเต็มที่โดยอยู่บนมาตรฐานวิชาชีพอย่างสูงสุดเท่าที่สถานการณ์จะเอื้อให้ทำได้...และพวกท่านทั้งหลายจงหยุดอ้างว่าทั้งหมดเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน แต่พวกท่านจงระลึกว่า เพราะการทำงานของพวกท่านนั่นเองที่นำพาประเทศและการสาธารณสุขให้ดิ่งลงเหวมาจนถึงจุดนี้ และพวกท่านนั่นแหละต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง!" เครือข่าย Nurses Connect

16494


“วัคซีน” ยังคงเป็นประเด็นใหญ่ที่คนไทยให้ความสนใจ ทั้งการจัดหาวัคซีนยี่ห้อต่างๆ เมื่อได้วัคซีนมาแล้วการกระจายแจกจ่ายฉีดให้กับประชาชนมีการจัดสรรอย่างไร และการฉีดให้ประชาชนมีความรวดเร็ว ครอบคลุมแค่ไหน ส่วนการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าเกิดจากอะไร แม้กระทั่งประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนจากนานาประเทศเพื่อนำมาฉีดให้กับ “บุคลากรทางการแพทย์” ซึ่งเป็น “ด่านหน้า” กลับถูก “ทวงถาม” จากบุคคลเหล่านั้น 

การบริหารจัดการวัคซีนของภาครัฐที่ยังไม่ถูกใจประชาชนหลายภาคส่วน เกิดมีข้อกังขามากมาย ล่าสุด วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐอเมริกา จำนวน 1,503,450 โดส เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ แต่กลับมีกระแสข่าวการจับฉลากได้ฉีดวัคซีน จำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรคไม่สอดคล้องกับบุคลากร เป็นต้น  

ทั้งนี้  ผศ.นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนาม​ธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า …

“โดนเทซ้ำซาก….ที่ธรรมศาสตร์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ร่วมต่อสู้โควิด-19มาตั้งแต่มีนาคมปีที่แล้วโดยประกาศจัดตั้งรพ.สนามเป็นแห่งแรกของประเทศ เราได้ร่วมต่อสู้มาทุกระลอก จนปัจจุบัน เรามีรพ.สนาม ที่ดูแลเคสสีเหลืองกว่า400เตียง ที่เตียงเต็มตลอด มีรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติที่ดูเคสสีแดงกว่า100 เตียงซึ่งเตียงก็เต็มตลอด เราตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนที่ฉีดวันละ2-3พันคนต่อวัน มียอดคนฉีดกับเราไปแล้วกว่า1แสนคน มีจัดตั้ง Home isolation ที่มีผู้ป่วยในการดูแลกว่า 1,000 คน

แต่ในวันนี้เราได้รับการจัดวัคซีนไฟเซอร์มาเพียง 60% ของที่ขอไป ทั้งที่ ยอดนี้ลดลงกว่าครึ่งในตอนแรกเพราะฉีดเข็ม3ด้วย Az ไปแล้วเพราะไม่เชื่อใจในการบริหารวัคซีนของรัฐบาล ทั้งที่เราส่งชื่อรายชื่อไปใหม่เป็นบุคลากรด่านหน้าที่จำเป็นต้องได้เท่านั้นตามข้อบ่งชี้ที่กระทรวงกำหนดซึ่งส่วนใหญ่คือแพทย์และพยาบาล……” 




พร้อมกันนี้ นักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยอย่าง “ปิติ ภิรมย์ภักดี” ผู้บริหารและทายาทของเครือบุญรอดบริวเวอรี่ หรือค่ายสิงห์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมภาพประกอบเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน ความว่า..

“ผมว่าจะไม่ลงละนะ แต่สงสารคนไทย

ศบค.พูดโคตรชัดว่าวัคซีนทำให้จำนวนคนตายลดลง

แล้วทำไมถึงเลื่อน ทำไมถึงฉีดไม่ได้ตามเป้า วัคซีนหายไปไหน รักกันมากๆหน่อยสิ

เตือนไว้ก่อนด่ามาจะด่ากลับ หมดความอนทนแล้วเหมือนกัน

ไม่ต้องชื่นชมหรือมาซื้อของบริษัทผม ผมแค่ทำหน้าที่คนไทยคนนึงที่อยากเห็นสิ่งที่ดีขึ้น”

นอกจากนี้ ยังแสดงความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์ครั้งนี้เพื่อเสียสละเป็นกระบอกเสียงให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้านั่นเอง 


“ด่านหน้าต้องจับฉลากเพื่อจะได้ฉีด บางโรงพยาบาลใช้วิธีผสมน้ำเพื่อให้ครบคน ผมขอสละตัวเองเป็นกระบอกเสียงให้พวกเค้าครับ และเมื่อผมเอาจริงคือเอาจริง”

อย่างไรก็ตาม ปิติ ได้ย้ำการโพสต์ข้อความดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทหรือบุคคลอื่นในครอบครัวแต่อย่างใด 

“ผมมาจากครอบครัวใหญ่ครับ ทุกอย่างที่ผมเขียนหรือพูดไป ผมรับผิดชอบตัวเองได้ครับ ไม่เกี่ยวกับบริษัทหรือคนอื่นในครอบครัว”

ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าว มีคนไลก์กว่า 1.7 หมื่นไลก์(Like) แสดงความคิดเห็น(Comment)กว่า 1,000 และแชร์โพสต์ไปแล้วกว่า 1,600 แชร์ (ณ เวลา 09.36 น.) โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยถึงความกล้าในการออกมาแสดงความคิดเห็นท่ามกลางช่วงวิกฤติโรคระบาด เพราะทุกฝ่ายต่างต้องการให้สถานการณ์ดีขึ้น และการบริหารจัดการวัคซีนดี มีประสิทธิภาพ 

16495


นักกีฬาจากประเทศไทยได้สร้างผลงานที่น่าประทับใจในโอลิมปิกปีนี้ โดยมีการใช้แฮชแท็ก #โอลิมปิกเกมส์ และก่อให้เกิดการพูดคุยกว่า 3.8 ล้านครั้งบน Instagram และ Facebook

สำหรับประเทศไทยมีนักกีฬาหญิงคว้าเหรียญทอง และเหรียญทองแดงกลับมาได้ และสิ่งที่น่าสนใจคือการที่นักกีฬาหญิงได้รับความสนใจในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก

โดยตั้งแต่เริ่มการแข่งขันปีนี้นักกีฬาที่มีผู้ติดตาม (Followers) มากที่สุด 3 อันดับแรกเป็นนักกีฬาหญิง นำโดย รัชนก อินทนนท์ (ผู้ติดตามเพิ่มขึ้นประมาณ 1.8 แสนราย) ตามด้วย ‘เทนนิส’ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (ผู้ติดตามเพิ่มขึ้นประมาณ 1.78 แสนราย) และ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (ผู้ติดตามเพิ่มขึ้นประมาณ 74,000 ราย)

รัชนก อินทนนท์ ได้รับ Engagements หรือการมีส่วนร่วมบน Instagram มากกว่า 5 แสนครั้ง ซึ่งมากที่สุดในหมู่ตัวแทนนักกีฬาไทย

ขณะที่ โพสต์บน Facebook โดย เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จัดเป็นโพสต์จากนักกีฬาไทยที่ได้รับ Engagements มากที่สุด (กว่า 223,000 ครั้ง)


สำหรับตัวเลขทั่วโลก พบว่าเหล่านักกีฬามี Followers เพิ่มขึ้นกว่า 75 ล้านราย ส่งผลให้มี Interactions หรือปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ ทั่วโลกกว่า 410 ล้านรายการบน Instagram ตลอดการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการสร้าง Stories มากกว่า 300,000 Stories ซึ่งคงไม่มีใครโดดเด่นเกินกว่า ราอิสซ่า เลอัล (Rayssa Leal) นักกีฬาสัญชาติบราซิล

เมื่อเทียบกับนักกีฬาทุกคนในโอลิมปิกปีนี้ ราอิสซ่า เลอัล มี Followers เพิ่มขึ้นมากที่สุด (5.8 ล้าน) และสร้าง Interactions สูงสุด (18.44 ล้าน) บน Instagram นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของโพสต์ที่เกี่ยวกับโอลิมปิกบน Instagram ที่มียอด Likes สูงสุด (มากกว่า 4 ล้าน Likes) และ Instagram video ที่มียอดวิวสูงสุดระหว่างการแข่งขันอีกด้วย (มากกว่า 11 ล้านวิว)

โพสต์จาก ไท่ ซือ หยิง (Tai Tzu Ying) นักแบดบินตันหญิงจากไต้หวันที่ขอบคุณแรงสนับสนุนจากเหล่าแฟนๆ ของเธอหลังจากจบการแข่งขัน จัดเป็นโพสต์จากนักกีฬาบน Facebook ที่สร้าง Interactions สูงสุดตลอดการแข่งขัน (กว่า 1.3 ล้าน Interactions)

เปิดสถิติที่น่าสนใจจากมหกรรมกีฬาครั้งนี้ 

กีฬาที่ถูกพูดถึงบน Facebook มากที่สุด (ทั่วโลก)

1. กีฬาลู่และลาน

2. ยิมนาสติก

3. เรือพาย

4. มวยสากล

5. ว่ายน้ำ

นักกีฬาที่ได้รับการกล่าวถึง (Mentioned) มากที่สุดบน Facebook (ทั่วโลก)

1. ซิโมน ไบลส์ (Simone Biles)

2. นีราจ โชปรา (Neeraj Chopa)

3. ไฮดีลีน ดิแอซ (Hidilyn Diaz)

4. ซูนิ ลี (Suni Lee)

5. ทอม เดลีย์ (Tom Daley)

ประเทศที่ ‘ส่งเสียงเชียร์ได้ดังที่สุด’ บน Facebook

(จัดอันดับจากจำนวนผู้ใช้งานที่พูดถึงโอลิมปิกบน Facebook)

1. อินเดีย

2. สหรัฐอเมริกา

3. บราซิล

4. ฟิลิปปินส์

5. เม็กซิโก

อิโมจิที่ถูกใช้มากที่สุดบน Facebook (ทั่วโลก)

1. หัวใจ ❤️

2. ปรบมือ

นักกีฬาที่ได้รับการกล่าวถึง (Mentioned) มากที่สุดบน Instagram (ทั่วโลก)

1. นีราจ โชปรา (Neeraj Chopa)

2. ซิโมน ไบลส์ (Simone Biles)

3. ราอิสซ่า เลอัล (Rayssa Leal)

4. เกรย์เซีย โปลี (Greysia Polii)

5. อาปรียานี ราฮายู (Apriyani Rahayu)

Reels ที่เกี่ยวกับโอลิมปิกที่มียอดวิวสูงสุดในช่วงการแข่งขัน 3 อันดับแรก (ทั่วโลก)

1. เลอทีเซีย บูโฟนี่ (Leticia Bufoni) จากบราซิลแข่งสเก็ตบอร์ด

2. เจสสิก้า ฟ๊อกซ์ (Jessica Fox) จากออสเตรเลียยินดีกับเหรียญทอง

3. เจสสิก้า ฟ๊อกซ์ (Jessica Fox) จากออสเตรเลียกล่าวขอบคุณผู้จัดงานและเหล่าอาสาสมัคร

16496


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดตัวโครงการ “ Sustainability in Action ยั่งยืนได้ ด้วยมือเรา” รวมพลังพนักงานทั่วประเทศ มีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม นำร่องกิจกรรมปลูกต้นไม้ และ บริโภคอาหารอย่างรู้คุณค่า ไม่เหลือทิ้ง ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และเดินหน้าสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟในฐานะบริษัทผลิตอาหารและเป็นผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ร่วมสร้างความยั่งยืน โดยดำเนินธุรกิจใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ“ Sustainability in Action ยั่งยืนได้ ด้วยมือเรา” เพื่อให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนไปด้วยกัน ลงมือทำในระดับบุคคล ผ่านกิจกรรม “กล้าจากป่า พนาในเมือง” นำต้นไม้ไปปลูกที่บ้าน และ กิจกรรม “กินเกลี้ยง เลี้ยงโลก” บริโภคอาหารให้หมดจาน ไม่ให้เกิดขยะเหลือทิ้ง สอดรับตามนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs)

"ซีพีเอฟมุ่งหวังว่าความร่วมมือของพนักงานในองค์กร จะเป็นพลังในการส่งต่อโครงการดีๆ จากภายในไปสู่ภายนอก เป็นต้นแบบที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลสำเร็จในระดับของภาคประชาชน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ” นายประสิทธิ์ กล่าว


สำหรับกิจกรรม “กล้าจากป่า พนาในเมือง” (Forest in the City) เป็นโครงการระยะ 5 ปี ( ปี 2564-2568) ที่ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมปลูกต้นไม้ 100,000 ต้น จากต้นกล้าที่เพาะโดยชุมชน เป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมรักษาป่า และเกิดการจ้างงานชุมชนในการเพาะกล้าพันธุ์ไม้ โดยบูรณาการกับโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าของซีพีเอฟ คือ โครงการ ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง จ.ลพบุรี และ โครงการ ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน ซึ่งมีทั้งไม้เศรษฐกิจ อาทิ พะยูง ยางนา พยอม มะค่าโมง แดง ตะเคียนทอง พฤกษ์ และไม้กระถางที่สามารถดักฝุ่น PM 2.5 อาทิ ลิ้นมังกร โกศลแผ่นดินทอง เสน่ห์จันทน์แดง ไทรใบสัก เป็นต้น

ส่วนกิจกรรม “กินเกลี้ยง...เลี้ยงโลก” (Empty Plate…Save the Planet) เป็นโครงการระยะ 5 ปี ที่มีเป้าหมายร่วมลดปริมาณขยะอาหาร 100,000 จาน หรือ 720 กิโลกรัม ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 18,200 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยโครงการฯจัดทำ เพจกินเกลี้ยง เลี้ยงโลก เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับขยะอาหารและการกำจัดอย่างถูกวิธี เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในการลดปริมาณขยะอาหารและขยะสู่หลุมฝังกลบ

นายประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ซีพีเอฟตระหนักดีถึงการทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองที่ดีของประเทศ(Good Corporate Citizen) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้บริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนได้ประกาศความมุ่งมั่นไม่ตัดไม้ทำลายป่า มุ่งสู่เป้าหมายองค์กรคาร์บอนต่ำ สอดรับกลยุทธ์ความยั่งยืนปี 2030 และสนับสนุนเป้าหมาย SDGs 17 ประการ./

16497


เอพี - แม้เริ่มต้นตะกุกตะกัก แต่ตอนนี้จำนวนผู้เข้าโครงการฉีดวัคซีนโควิดของอียูแซงหน้าอเมริกาไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อโครงการใบรับรองสุขภาพที่บังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีนทางอ้อมอาจช่วยให้ยุโรปรอดพ้นจากการระบาดระลอกใหม่ที่อเมริกากำลังเผชิญอยู่ และรอดพ้นจากการล็อกดาวน์ซึ่งเศรษฐกิจอียูไม่สามารถรองรับได้อีกต่อไป

กลางเดือนกุมภาพันธ์ ประชาชนไม่ถึง 4% ใน 27 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ฉีดวัคซีนโควิดอย่างน้อยหนึ่งเข็ม เทียบกับเกือบ 12% ในอเมริกา ทั้งนี้ จากข้อมูลของอาวร์ เวิลด์ อิน ดาตา เว็บไซต์เผยแพร่ข่าวสารทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด แต่ล่าสุด ชาวยุโรปราว 60% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม เทียบกับไม่ถึง 58% ในอเมริกา

ความสำเร็จยิ่งชัดเจนในอิตาลีที่ประชาชนอายุ 12 ปีขึ้นไปถึงราว 63% ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ประกาศว่า อิตาลีฉีดวัคซีนให้ประชาชนต่อ 100 คนมากกว่าในฝรั่งเศส เยอรมนี และอเมริกา

นอกจากนั้น เมื่อวันศุกร์ (6 ส.ค.) ประเทศนี้ยังเริ่มบังคับให้ประชาชนต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม หายป่วยหรือตรวจโควิดได้ผลเป็นลบเมื่อเร็วๆ นี้ หากต้องการเข้าสู่สถานที่สาธารณะในอาคาร ฟิตเนส ดูคอนเสิร์ต ภาพยนตร์ ละคร และไปเที่ยวสถานที่สำคัญ เช่น โคลอสเซียม

ดร.ปีเตอร์ ลีส สมาชิกรัฐสภายุโรปจากเยอรมนี บอกว่า กระบวนการอนุมัติวัคซีนที่ล่าช้าอาจทำให้โครงการฉีดวัคซีนของอียูคืบหน้าช้ากว่าอเมริกาและอังกฤษนานหลายสัปดาห์ในช่วงแรก แต่ตอนนี้กระบวนการดังกล่าวส่งผลดีอย่างชัดเจนในแง่ที่ทำให้ประชาชนมั่นใจและกล้าฉีดวัคซีน อีกทั้งสะท้อนว่า ไม่ใช่แค่ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนในช่วงไม่กี่เดือนแรกเท่านั้น แต่กลยุทธ์ระยะยาวก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน

ตัวอย่างยังปรากฏชัดเจนในสเปนที่เมื่อกลางเดือนเมษายนยังมีประชาชนแค่ 7% ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ขณะที่ตัวเลขของอเมริกาอยู่ที่เกือบ 25% แต่มาถึงตอนนี้ชาวสเปนเกือบ 60% ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ส่วนของอเมริกาเพิ่งได้ 50%

ความพยายามในการฉีดวัคซีนของอียูเริ่มต้นช่วงคริสต์มาสปีที่แล้วพร้อมๆ กับอเมริกา และมีปัญหาในการตอบสนองความต้องการของประชาชนในระยะแรก และกลายเป็นความอับอายทางการเมืองครั้งใหญ่สำหรับเจ้าหน้าที่ยุโรปเมื่อได้เห็นโครงการของอเมริกาและอังกฤษเร่งเครื่องทิ้งห่าง

จิโอวานนา เดอ ไมโญ นักวิชาการอาคันตุกะด้านวิเทศสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ชี้ว่า หนึ่งในอุปสรรคสำคัญของอียูในช่วงแรกคือ การตัดสินใจสั่งซื้อวัคซีนแบบพร้อมกันทั้งกลุ่ม แทนที่จะให้แต่ละชาติสมาชิกสั่งซื้อกันเอง เนื่องจากกลัวว่า ประเทศขนาดเล็กจะไม่สามารถเข้าถึงวัคซีน แต่กลายเป็นว่า ต้องใช้เวลาเจรจากับบริษัทยานานขึ้น

ขณะเดียวกัน อเมริกาแจกจ่ายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ด้วยการรีบเร่งตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ อีกทั้งยังส่งวัคซีนให้ร้านขายยา ซูเปอร์มาร์เกต และสถานที่อื่นๆ จัดการฉีดให้ประชาชน ขณะที่อียูเน้นการฉีดในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลอื่นๆ เท่านั้นในช่วงแรก

นอกจากนั้น ชาติสมาชิกอียูยังมั่นใจเกินไปว่า ผู้ผลิตจะจัดส่งวัคซีนให้ตามกำหนด ผลปรากฏว่า แอสตร้าเซนเนก้าผลิตไม่ทันและจัดส่งให้บางส่วนเท่านั้น ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนตัวนี้ยังทำให้คนไม่กล้าฉีด แต่หลังจากได้วัคซีนไฟเซอร์ล็อตใหญ่ สถานการณ์ก็คลี่คลายอย่างชัดเจน

ในทางกลับกัน โครงการฉีดวัคซีนของอเมริกาคืบหน้าถึงขีดสุดและดิ่งลงจากความลังเลและการต่อต้านอันเป็นผลจากการเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ และความแตกแยกทางการเมือง

ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม อเมริกาฉีดวัคซีนเฉลี่ยวันละไม่ถึง 600,000 โดส จากสถิติสูงสุด 3.4 ล้านโดสในเดือนเมษายน และการระบาดอย่างรุนแรงของสายพันธุ์เดลตาทำให้จำนวนเคสใหม่รายวันในเดือนที่ผ่านมาพุ่งสูงสุดนับจากเดือนกุมภาพันธ์ และผู้ป่วยอาการหนักส่วนใหญ่คือผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

ถึงกระนั้น ใช่ว่าทุกอย่างในอียูราบรื่นทั้งหมด โดยเฉพาะปัญหาความเหลื่อมล้ำ ตัวอย่างเช่น ในเนเธอร์แลนด์นั้นประชากรวัยผู้ใหญ่ 85% ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส แต่ที่บัลแกเรียตัวเลขอยู่ที่เพียงไม่ถึง 20% นอกจากนี้ยังปรากฏสัญญาณว่า โครงการฉีดวัคซีนของยุโรปเริ่มแผ่วลงเช่นกัน

ที่เยอรมนีที่ประชากร 54% ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ทว่า สถิติการฉีดวัคซีนต่อวันกลับลดจากกว่า 1 ล้านเข็มในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ราว 500,000 เข็มในขณะนี้

เจ้าหน้าที่เมืองเบียร์ต้องเริ่มรณรงค์โดยเพิ่มสถานที่ฉีดวัคซีนในเมกะสโตร์ รวมทั้งออกมาตรการจูงใจ เช่น รัฐเทือริงเงินแจกไส้กรอก ขณะที่เบอร์ลินจัดดีเจเปิดเพลงในสถานที่ฉีดในช่วงสุดสัปดาห์เพื่อดึงดูดหนุ่มสาว

เดอ ไมโญเชื่อว่า โครงการใบรับรองสุขภาพแบบอิตาลีจะช่วยให้อียูไม่ต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกับอเมริกาที่โควิดกลับมาระบาดหนัก เพราะเศรษฐกิจยุโรปไม่สามารถรองรับการล็อกดาวน์ได้อีกต่อไป

16498


รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ที่จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้กับประชาชนในราวปีหน้า โดยได้สั่งจองวัคซีน “โนวาแวกซ์” และ “โมเดอนา” เตรียมไว้แล้ว

นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องวัคซีนโควิดของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้เจรจาเพื่อสั่งจองวัคซีนโมเดอนาเพิ่มเติมอีก 50 ล้านโดส และวัคซีนโนวาแวกซ์ 150 ล้านโดส โดยจะส่งมอบในต้นปีหน้า

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังติดตามตัวอย่างของประเทศต่าง ๆ ที่ฉีดวัคซีนกระตุ้นเพิ่มเติมให้ประชาชน เช่น อิสราเอลที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนเยอรมนี สวีเดน และอังกฤษก็เตรียมจะทำเช่นเดียวกันในราวเดือนกันยายน

รัฐบาลญี่ปุ่นจะตัดสินใจว่าจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือไม่ โดยรวบรวมผลการทดลองทางคลินิกในต่างประเทศ ทั้งเรื่องกลุ่มคนที่จำเป็นต้องรับวัคซีนกระตุ้น และการใช้วัคซีนจากต่างบริษัทกับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 ซึ่งในญี่ปุ่นใช้วัคซีนของไฟเซอร์ และโมเดอนาเป็นหลัก



ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนโควิดในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะนี้ผู้สูงอายุราว 80.0% ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว แต่คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน และเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อมากที่สุดในขณะนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มให้กับประชาชนทุกคนได้ภายในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ปีนี้ และกำลังติดตามผลข้างเคียงของวัคซีน รวมทั้งประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์

บริษัทโมเดอนาได้ระบุเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า วัคซีนของตนสามารถคงภูมิคุ้มกันได้ที่ระดับ 93% นาน 6 เดือนหลังฉีดเข็มที่ 2 พร้อมชี้ว่าอาจมีความจำป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อการปกป้องไวรัสกลายพันธุ์หลังจากที่ภูมิคุ้มกันลดน้อยลง

อย่างไรก็ตาม นายทีโดส อัดฮานอม กรีบีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยต่าง ๆ ระงับโครงการฉีดวัคซีนกระตุ้นไว้ก่อนจนถึงสิ้นเดือนกันยายน เพราะผู้คนหลายล้านคนในประเทศกำลังพัฒนายังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว.

16499


ระบบ 'Home isolation' ถูกนำมาใช้ได้ในระยะหนึ่ง มีการปรับหลักเกณฑ์ และระบบ เพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษา รับยาให้ได้เร็วขึ้นเพื่อลดการเสียชีวิต เพิ่มคลินิกเอกชนร่วมดูแล และเพิ่มร้านขายยากระจาย 'Antigen Test Kit' ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น

ผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวที่บ้าน การเตรียมระบบเพื่อรองรับผู้ป่วยในกลุ่มนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อไม่ให้มีผู้ป่วยที่หลุดจากระบบการรักษา และเสียชีวิตในบ้านอย่างที่เป็นมา การให้ยาได้เร็วที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งกรมการแพทย์ ได้ออกประกาศให้ยาฟิวิพิราเวียร์ให้เร็วที่สุดโดยไม่แบ่งว่าเป็นกลุ่มใด

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (3 ส.ค.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเพื่อร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียวที่บ้าน และการตรวจโควิดด้วยชุดตรวจ ATK (Antigen Test Kit) สำหรับคลินิกเอกชนทั่วประเทศเพื่อให้บริการในระบบ Home Isolation และ Community Isolation (HI/CI)

ประสานผู้ป่วยตกค้าง จัดส่งยา เข้าระบบ


โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 6 ส.ค. พบว่าผู้ป่วยในระบบ Home Isolation มีประมาณ 6.3 หมื่นราย นำเข้าระบบแล้วราว 4 หมื่นราย ส่วนอีกประมาณ 2 หมื่นราย อยู่ระหว่างรอการตอบรับจากคลินิก ซึ่งมีคลินิกที่เข้ามาช่วยดูแล ผู้ป่วยโควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 206 แห่ง

“นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี” เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่าผู้ป่วยราว 2 หมื่นรายที่ยังไม่มีคลินิกกดรับเข้าระบบ Home isolation ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 64 เหลืออยู่ราว 1.3 หมื่นราย จะทำการเคลียร์ให้เสร็จภายใน 1-2 วัน เบื้องต้น สปสช. ได้โทรสอบถามผู้ป่วยราว 2,000 ราย มีประมาณครึ่งหนึ่งที่เข้าระบบการรักษาไปแล้ว


เช่น ฮอสพิเทล หรือกลับไปรักษาที่ภูมิลำเนา หากผู้ป่วยเริ่มมีอาการจะส่งยาไป กำลังประสานขอยาไปให้โดยไม่ต้องมีคลินิกกดรับก็ได้ จากเดิมต้องให้คลินิกรับ และให้คลินิกเป็นผู้ส่งยา แต่ตอนนี้ขอว่าหากไม่มีใครรับ เราเป็นคนโทรเองและส่งยาก่อน จนกว่าคลินิกจะกดรับ

ขณะที่กรมการแพทย์ ได้ออกหนังสือมาให้ว่าต่อจากนี้ระหว่างรอสามารถให้ยาก่อนได้ สปสช. มีคอลเซ็นเตอร์ขณะนี้เพิ่มคู่สายเป็น 3,000 คู่สาย และเพิ่มคนรับโทรศัพท์ 800 กว่าคน มีอาสาสมัครมาช่วยเพิ่มเติมในการตามผู้ป่วยที่ค้างอยู่ ธนาคารออมสิน จะส่งมอเตอร์ไซค์เดลิเวอร์รี่ มาช่วยอีกแรง

คลินิกเอกชน ร้านยา เข้าร่วมดูแลผู้ป่วย กระจายชุดตรวจ
นพ.จเด็จ กล่าวว่า สปสช.ให้องค์การเภสัชกรรมจัดหา ATK จำนวน 8.5 ล้านชุดไว้สำหรับใช้ทั่วประเทศใน 1-2 เดือนตอนนี้จึงเตรียมกระบวนการกระจาย ต้องย้ำว่า ATK ให้ประชาชนตรวจเองไม่คิดมูลค่า คนละส่วนกับที่กระจายให้หน่วยบริการตรวจ”

ขณะนี้ มีคลินิกเอกชนที่สนใจเข้าร่วมเพิ่มเติม 23 แห่ง และมีแอพพลิเคชั่นที่ปรึกษาผู้ป่วย 1 แห่ง มีร้านยาที่สนใจเข้ามาเป็นหน่วยกระจาย ATK จำนวน 170 แห่ง เพิ่มเติมจากที่มี 200 แห่ง และมีศูนย์ที่จะช่วยตรวจ ATK ประมาณ 50 แห่ง ในพื้นที่ กทม.ในอนาคตอาจจะมีการพิสูจน์ตัวตนผ่านแอพฯ เป๋าตังค์ รวมถึงส่ง ATK ทางไปรษณีย์ เพราะคนป่วย หรือญาติอาจจะไม่สะดวกเดินทางมารับที่คลินิก กำลังพิจารณาว่าคนหนึ่งอาจจะต้องตรวจ 3-4 ชิ้น ใน 14 วัน

ตรียมระบบส่งต่อ ผู้ป่วย ATK ผลบวก
สำหรับร้านยาที่กระจาย ATK ต้องมีข้อแนะนำ หากผู้ป่วยเจอผลบวกต้องทำอย่างไร เช่น โทรมาที่ร้าน ส่งต่อไปคลินิก หรือ แนะนำการเข้าระบบผ่าน สปสช. หากผลบวกไม่มีอาการสามารถรักษาที่บ้านได้ หรือขอยาที่ร้านขายยาได้ จะง่ายขึ้น เพราะฉะนั้น โมเดลนี้กำลังพยายามดูว่าใช้ได้หรือไม่ หากอาหารหนักต้องมีระบบไปดูแล ขณะนี้ยอดผู้ป่วยกลับภูมิลำเนาตัวเลขรวมทุกภาคส่วนกว่าแสนคน ประสานผ่านสปสช. เฉลี่ยวันละประมาณ 600- 700 ราย

เล็งจัดระบบส่งอาหารผู้ป่วย HI
นพ.จเด็จ กล่าวว่าปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น สปสช.พยายามพัฒนาระบบการทำ Home isolation แต่มีข้อจำกัดเรื่องอาหาร หากได้ร้านอาหารที่ตอนนี้เปิดหน้าร้านไม่ได้ มาช่วยส่งอาหารเดลิเวอร์รี่จะถือว่าดีมาก เป็นการสร้างงานให้กับร้านอาหารอีกทางหนึ่ง เพราะการจัดระบบหากมีกลไกกลางมาเข้าร่วมน่าจะเป็นเรื่องที่ดี เช่น สมาคมภัตตาคารไทย มาจัดระบบได้อย่างนั้นจะดีมาก

“ตอนนี้หากมีผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร มาช่วยเรื่องอาหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์มาช่วยเรื่องอุปกรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก็ทำด้านการแพทย์ จะดีใจมาก ซึ่งหากมีภาคส่วนใดสนใจ ไม่ต้องเปิดหน้าร้านก็ได้ เพียงแค่มีเดลิเวอร์รี่วิ่งไปส่งผู้ป่วย เชื่อว่าสามารถทำได้ เพราะ สปสช. มีงบประมาณอยู่แล้ว จะทำให้การดูแลผู้ป่วยมีประสิทธิภาพขึ้น” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

จัดหา ฟาวิพิราเวียร์ สำรอง
สำหรับแผนการจัดหายา ฟาวิพิราเวียร์ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที 9/2564 เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2564 มีมติเห็นชอบให้เพิ่มรายการยาฟาวิพิราเวียร์ในแผนการจัดหา เพื่อให้เครือข่ายหน่วยบริการด้านยาและเวชภัณฑ์จัดหาเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนในปี 2564 จำนวนไม่เกิน 27 ล้านเม็ด วงเงินไม่เกิน 891 ล้านบาท จากงบค่าบริการโควิด-19 และต่อเนื่องไปปี 2565 รองรับกรณีหน่วยบริการไม่สามารถหายาฟาวิพิราเวียร์ได้เพียงพอ ซึ่ง ครม.อนุมัติงบดำเนินการมา 13,026 ล้านบาท

“เดิมป่วยเราต้องไปเข้า รพ. ฮอสพิเทล รพ.สนาม วันนี้ต้องใช้วิธี Home isolation ขณะนี้เริ่มมีหลายคนที่สมัครใจอยู่บ้าน ขอเอายา โดยเฉพาะคนที่อายุไม่มากเป็นนิมิตรหมายที่ดีว่ากลุ่มที่ไม่เสี่ยงก็สามารถรักษาที่บ้านได้ แทนที่จะไปอยู่ฮอสพิเทล เพราะมีแพทย์ มียา อาหาร แต่ต้องสร้างความมั่นใจว่า หากมีอาการเปลี่ยนแปลง เราพร้อมจะรับเข้าสู่ระบบ”

อย่างไรก็ตามการรับมือกับสถานการณ์ต้องประเมินทุกๆ มาตรการ หาก 2 เดือนแล้วยังไม่สงบ ก็ต้องวางมาตรการเพิ่ม เมื่อผู้ป่วยเยอะขึ้น ต้องยอมรับว่าบริการสาธารณสุข รองรับไม่ไหว รัฐบาลต้องเข้าไปสนับสนุนประชาชนที่ต้องดูแลตัวเองที่บ้าน


สำรองฟาวิพิราเวียร์ 400 ล้านเม็ด
องค์การเภสัชกรรม (จีพีโอ) ปรับแผนเพิ่มการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ รองรับการรักษาที่จ่ายยาเร็วขึ้น เดือนสิงหาคม-กันยายน 2 เดือน 120 ล้านเม็ด ตุลาคม-ธันวาคม 300 ล้านเม็ด และทยอยกระจายสู่หน่วยบริการแม่ข่ายตามการจัดสรรของศูนย์ PHEOC อย่างต่อเนื่อง

“นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์” ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า องค์การฯได้ทำการปรับแผนการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อรองรับการปรับเกณฑ์แนวทางการรักษาใหม่เพื่อจ่ายยาให้ผู้ป่วยเร็วขึ้น ได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่อง โดยจะมีการเพิ่มการสำรองทั้งจากยาที่องค์การฯผลิตเองและจัดหาจากต่างประเทศ โดยเดือนสิงหาคม-กันยายน รวม 2 เดือน จำนวน 120 ล้านเม็ด และเดือนตุลาคม-ธันวาคม เพิ่มอีกเดือนละ100 ล้านเม็ด รวมจำนวน 300 ล้านเม็ด

โดยทั้งนี้จะมีติดตามและประเมินสถานการณ์ความต้องการใช้ใกล้ชิด เพื่อทำการปรับแผนการสำรองให้ทั้งการผลิตเองและจัดหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของการระบาดของโรค โควิด-19 ซึ่งจำนวนยาทั้งหมดในข้างต้นจะมีการทยอยผลิตเองและจัดหาเข้ามาสำรองอย่างต่อเนื่อง


เตรียมยาแรมเดซิเวีย 2 แสนขวด
นอกจากนี้ ในเดือนสิงหาคมได้จัดหา ยาแรมเดซิเวีย (Remdesivir) เป็น 2 แสนขวด และจะพิจารณาจัดหาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เพียงพอตามเกณฑ์การรักษาใหม่ โดยยาเรมเดซิเวียร์นั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาฉีดให้กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด ที่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ผู้มีปัญหาในการดูดซึมยา ผู้ป่วยที่มีอาการปอดบวมอย่างรุนแรง ผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ได้

ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ ทั้งหมดจะมีจัดสรรให้กับหน่วยบริการหรือโรงพยาบาลแม่ข่ายต่างๆ ตามการบริหารจัดการของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) โดยกลุ่มภารกิจสำรองเวชภัณฑ์และส่งกำลังบำรุง ผ่านระบบการบริหารคลังสินค้า หรือ VMI (Vender Management Inventory) ขององค์การเภสัชกรรม และองค์การฯเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งกระจายตามการจัดสรรให้กับหน่วยบริการแม่ข่ายในแต่ละพื้นที่ ซึ่งหลังจากนั้น หน่วยงานแม่ข่ายจะทำการบริหารจัดการและกระจายให้แก่หน่วยบริการลูกข่ายในแต่ละพื้นที่ต่อไป

16500


        เงินในกระเป๋าสั่นเลยทีเดียว เมื่อทางค่าย LG ออกทีวีรุ่นใหม่มากรุบๆ ชื่อรุ่นว่า "LG Stand By Me" ตอบโจทย์สายมินิมอลสุด ตรงที่สามารถเคลื่อนย้ายไปไว้ส่วนต่างๆของบ้านได้ไม่ว่าจะเป็นในครัว ห้องนั่งเลย ห้องนอน เพราะตัวนี้มีล้อเลื่อนได้



        สาวก TikTok น่าจะชอบตรงที่จอสามารถปรับหมุนเป็นแนวตั้งได้เลยทันทีดีงามมาก แถมหน้าจอขนาด 27 นิ้ว  เป็นแบบทัชสกรีน หากลากเครื่องนี้ไปอยู่ในครัวขณะทำอาหาร จะเปิดดูวิธีการทำอาหารจากยูทูปก็ย่อมได้  แต่เด็ดสุดๆ ตรงที่ทีวีเครื่องนี้ สามารถใช้แบบไร้สายได้เลยไม่ต้องยุ่งยากเสียบปลั๊กต่างๆ นาๆ เพราะมีแบตเตอรี่ในตัวเสร็จสรรพ ที่ใช้งานได้นาน 3 ชั่วโมง



บอกสรรพคุณมาขนาดนี้ ราคาน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ตัดสินใจว่าจะฟาดซื้อดีไหม  อดใจไว้ก่อนเพราะทางเกาหลียังไม่บอกราคาแบบเป็นทางการออกมา ที่เกาหลีจะเปิดตัวทีวีรุ่น "LG Stand By Me" เร็วๆ นี้

ระหว่างนี้เข้าไปชมพลางๆ ได้ที่เวปนี้
https:// www.lge.co.kr/tvs/27art10akpl?fbclid=IwAR3-g5oeez6uuOBo9d3OrU3V0fk5SNAepecV6VRdCGQw-TdwL4dUo4j99Z8

16501


อิบรอฮีม เราะอีซี ประธานาธิบดีที่เพิ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของอิหร่าน เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาในประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ (8 ส.ค.) ในขณะที่อิหร่านกำลังเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ยอดผู้ติดเชื้อรายวันทุบสถิติสูงสุดและมีผูู้เสียชีวิตรายใหม่กว่า 500 ราย

ประธานาธิบดีฉีดวัคซีนเข็มแรกวัคซีนซีโอวีอิหร่าน บารากัต (COVIran Barakat) หนึ่งใน 2 วัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ผลิตในท้องถิ่น เมื่อวันอาทิตย์ (8 ส.ค.) ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น พร้อมกับแชร์ภาพที่ผู้นำรายนี้ที่เพิ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กำลังเข้ารับการฉีดวัคซีน

ขณะเดียวกัน โมฮัมหมัด บาเกอร์ กาลิบาฟ ประธานรัฐสภาก็เข้ารับการฉีดวัคซีนเคียงข้างประธานาธิบดีเช่นกัน

การฉีดวัคซีนของบุคคลระดับผู้นำ มีขึ้นในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยในวันอาทิตย์ (8 ส.ค.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอิหร่านรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มอีก 542 ราย สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ทุบสถิติเดิมที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายน ครั้งที่ประเทศแห่งนี้กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกก่อนหน้า

จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ก็ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่เช่นกัน แตะระดับเกือบๆ 40,000 คน

นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น อิหร่านมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมแล้วมากกว่า 4.1 ล้านคน ในนั้นมากกว่า 94,000 คนเสียชีวิต ส่งผลให้พวกเขาติดอันดับ 1 ใน 15 ชาติที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เลวร้ายที่สุดในโลก ขณะเดียวกัน อิหร่านยังเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลางด้วย

ระลอกการแพร่ระบาดในปัจจุบันรุมล้อมอิหร่านมาตั้งแต่เดือนมกราคม และกลายเป็นระลอกการแพร่ระบาดเลวร้ายที่สุดในแง่ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม ทั้งนี้เชื่อกันว่าการแพร่ระบาดหนักหน่วงของระลอกนี้มีความเชื่อมโยงกับตัวกลายพันธุ์เดลตา ที่แพร่เชื้อได้ง่ายมากและพบครั้งแรกในอินเดียในช่วงปลายปี 2020 ก่อนแพร่ระบาดลุกลามไปทั่วโลก

ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อิหร่านอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินวัคซีนผลิตเองภายในประเทศ 2 ตัว แต่มีการผลิตเป็นจำนวนมากเพียงตัวเดียว ซึ่งก็คือซีโอวีอิหร่าน บารากัต แต่ยังไม่เพียงพอ

ส่วนวัคซีนอื่นๆที่ใช้ในอิหร่าน ประกอบด้วยสปุตนิค วี ของรัสเซีย ชิโนฟาร์มของจีน ภารัตของอินเดียและแอสตร้าเซนเนก้า/มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด อ้างอิงจากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขอิหร่าน

(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)

16502
หัวขับวาล์ว Sirca ทุกรุ่นปกติจะเป็นแบบ double acting actuator หรือทำงานด้วย ไป/กลับ ด้วยลม ถ้าเกิดพวกเราต้องการใช้งานแบบ single acting actuator เราสามารถใส่สปริงเข้าไปที่หัวขับได้เลยครับผม โดยสปริงจะเป็นแท่งเล็กๆต่อ 1 ข้างจะสามารถใส่สปริงได้ 1-6 ชิ้นแล้วแต่รุ่น

หัวขับsirca เป็นหัวขับลมคุณภาพสูงจากประเทศ อิตาลี หัวขับลมยี่ห้อ เซอร์ก้า เป็นที่นิยมมากมายในประเทศไทย body aluminium anodize สีทองงดงาม ในรูปจะประกอบกับ limit switch box valve position indicator 2SPDT เป็นแบบ dry contact 2 ชุดนะครับนำสัญญาณไปต่อใช้งานได้เลยครับผม





หัวขับลม sirca นี้มี 2 รุ่น คือ รุ่น AP แล้วก็ รุ่น APM

AP series ที่มีการปรับเพียงครั้งเดียว อนุญาตให้ปรับจังหวะของลูกสูบในตำแหน่งเปิดได้ 90° ± 3° แค่นั้น

ส่วน APM series ที่มีการปรับสองครั้งช่วยทำให้ปรับจังหวะของลูกสูบสำหรับเพื่อการปิดรวมทั้งเปิดได้ ± 5°

การออกแบบชั้นวางลูกสูบคู่และก็ปีกนกสำหรับโครงสร้างที่กะทัดรัด ลูกสูบติดตั้งแบบสมมาตร ดีไซน์กะทัดรัดชิ้นเดียวที่มีตัวกล้องรวมทั้งฝาปิดเหมือนกันสำหรับรุ่น Double Acting รวมทั้ง Spring Return

ตัวอลูมิเนียมอัดขึ้นรูป มีให้เลือกป้องกันการกัดกร่อนสองแบบ ได้แก่ ชุบทองหรือชุบแข็ง ตัวเครื่องทั้งหมดถูกกลึงด้วยเครื่องจักรที่ควบคุมด้วย CNC เพื่อได้คุณภาพแล้วก็ความแม่นยำสูงสุด

ฝาท้ายแล้วก็ลูกสูบทำมาจากอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป ฝาด้านหลังถูกทาสี

ปีกนกทำมาจากโลหะผสมเหล็กชุบนิกเกิล ระบบป้องกันการระเบิดจะป้องกันไม่ให้ก้านหลุดออกจากตัวหัวขับลม

ส่วนประกอบที่เคลื่อนที่ทั้งหมดมีวงแหวนหรือตลับลูกปืนกันการเสียดสีพิเศษ

สปริงทั้งหมดถูกทำขึ้นด้วยระบบห่อหุ้มเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุระหว่างขั้นตอนถอดประกอบของหัวขับลม

ตัวยึดสแตนเลสด้านในและก็ข้างนอกเพื่อความทนทานต่อการกัดกร่อนในระยะยาว





สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านเทคนิค:
ISO 5211, DIN3337 และ VDI / VDE 3845 NAMUR
สำหรับความสามารถในการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์แล้วก็การติดตั้งโซลินอยด์วาล์ว ลิมิตสวิตช์ และก็อุปกรณ์เสริมอื่นๆได้ง่าย
ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร โรงงานเคมี โรงงานฟอกย้อม โรงงานพลาสติก โรงงานน้ำดื่ม น้ำผลไม้ โรงงานยาง อยู่ในส่วนของการเปิดปิดวาล์วน้ำในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆเป็นระบบออโต้ ลดแรงงานคนได้

หัวขับลม sirca มีรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ แล้วก็บริการหลังการขาย มีชิ้นส่วนอะไหล่ให้เปลี่ยนอยู่หลายส่วนเป็นต้นว่า โอริงสำหรับหัวขับลม ฝาหัวด้านหลังสำหรับหัวขับลม สปริงสำหรับหัวขับลม และก็ rack and pinion

สามารถเอามาประกอบ.วาล์วได้อีกหลายรุ่น ตัวอย่างเช่น .วาล์ว2ทาง .วาล์ว 3ทาง .วาล์วหน้าแปลน และก็.วาล์วยูพีวีซี นอกเหนือจากนี้ยังสามารถประกอบกับวาล์วปีกผีเสื้อ (บัตเตอร์ฟลายวาล์ว butterfly valve) ทั้งแบบ wafer type แล้วก็ rug type และก็แบบ flange type.



 
 

16503


ในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ ดวลกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีก ลงเตะกันที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน

ในเกมนี้ เลสเตอร์จัดตัวแบบเอาจริง นำโดยตัวหลักอย่าง "เจมี วาร์ดี" "เจมส์ แมดดิสัน" "อโยเซ เปเรซ" "ยูริ ตีเลอมองส์" และ "ฮาร์วีย์ บาร์นส" ส่วน แมนฯ ซิตี จัดตัวผสมตัวจริงกับสำรอง นำโดย "เฟร์รัน ตอร์เรส" "ริยาด มาห์เรซ" "อิลคาย กุนโดกัน" และใช้ "แซก สเตฟเฟน" เฝ้าเสาประตู

รูปเกมส่วนใหญ่ ทั้งสองทีมเน้นความแน่นอน ไม่มีฝ่ายไหนเปิดเกมบุกเต็มตัว โดยเรือใบสีฟ้าเป็นฝ่ายครอง.ได้ส่วนใหญ่และมีโอกาสทำประตูมากกว่า แต่ส่วนใหญ่ไม่เข้าเป้า ขณะที่เลสเตอร์แม้โอกาสยิงน้อยกว่าแต่ส่องเข้ากรอบแบบได้ลุ้นกว่า


นาที 65 ถึงเวลาที่แฟน.ซิตีรอคอย เมื่อ แจ็ค กรีลิช นักเตะใหม่ที่ย้ายจาก แอสตัน วิลลา ด้วยสถิติค่าตัวสูงสุดในสหราชอาณาจักร 100 ล้านปอนด์ ได้ลงสนามมาแทน ซามูเอล เอโดซี


- แจ็ค กรีลิช ในยูนิฟอร์มแมนฯ ซิตี ลงสนามเป็นตัวสำรอง -


นาที 87 นาธาน อาเก เล่นพลาดหน้าประตูตัวเองเปิดช่องให้ เคเลชี อิเฮียนาโช เข้าปะทะ แล้ว.ไหลมาให้ แพตสัน ดากา โฉบเข้ายิงติดเซฟ แซก สเตฟเฟน

อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินตัดสินใจเป่าฟาวล์ย้อนหลังจังหวะที่อาเกปะทะอิเฮียนาโช และให้จุดโทษแก่เลสเตอร์


จากนั้น อิเฮียนาโช รับหน้าที่สังหารไม่พลาด และกลายเป็นประตูชัยให้เลสเตอร์เฉือนชนะไป 1-0 ทำให้ทัพจิ้งจอกคว้าแชมป์รายการการกุศลนี้เป็นสมัยที่ 2 ต่อจากเมื่อปี 1978 ส่วนแมนฯ ซิตี ยังอยู่ที่ 6 สมัยต่อไป

16505


"ธปท."เผบผลโพล"BSI COVID" ชี้ไทย"ล็อกดาวน์"เข้มทำธุรกิจฟื้นช้า เผยความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกดิ่งเหวเหลือแค่ 16.4 ต่ำกว่า เม.ย.63 คาดคนใช้ชีวิตได้ปกตินในไตรมาสที่ 1 ของปี 65

เมื่อวันที่ 5 ส.ค.64 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลสำรวจเรื่องผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ต่อภาคธุรกิจไทย (BSI COVID) เดือนกรกฎาคม 2564 พบว่า ระดับการฟื้นตัวของธุรกิจในภาพรวมปรับลดลงจากเดือนก่อนในทุกภาคธุรกิจ ตามการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศในวงกว้าง และผลของมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่กลับมาเข้มงวดอีกครั้ง โดยเฉพาะภาคก่อสร้างจากคำสั่งปิดแคมป์คนงานเช่นเดียวกับภาคท่องเที่ยวและภาคการค้า ที่ได้รับผลกระทบจากการจำกัดการเดินทาง การปรับเวลาให้บริการ และห้ามนั่งรับประทานในร้าน ขณะที่ภาคการผลิตยังคงถูกกดดันจากการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ในโรงงาน ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ปัญหาการนำเข้าผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ตลอดจนการปิดโรงงานของคู่ค้าที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน

สำหรับการจ้างงานค่อนข้างทรงตัวทั้งด้านจำนวนแรงงาน และรายได้เฉลี่ย ยกเว้นการจ้างงานในภาคท่องเที่ยวที่ลดลงตามการปิดกิจการชั่วคราว และภาคก่อสร้างที่ปรับลดลงตามกิจกรรมที่หยุดชะงักหลังมีคำสั่งปิดแคมป์ ส่งผลให้แรงงานบางส่วนเคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนา โดยธุรกิจในภาพรวมมีการใช้นโยบายสลับกันมาทำงาน และลดชั่วโมงทำงานเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ขณะที่ธุรกิจบางส่วนเริ่มกลับมาใช้นโยบายลดเงินเดือนเพิ่มเติม โดยเฉพาะภาคที่มิใช่การผลิต

ขณะที่ ในด้านสภาพคล่อง พบว่าธุรกิจส่วนใหญ่มีสภาพคล่องสำรองใกล้เคียงกับเดือนก่อน แต่เริ่มเห็นบางธุรกิจมีสภาพคล่องลดลง โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว และภาคก่อสร้างที่มีสัดส่วนของธุรกิจที่สภาพคล่องไม่เกิน 3 เดือนเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการฟื้นตัวของธุรกิจที่ปรับแย่ลง

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ประเมินว่า ประชาชนจะเริ่มออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านและท่องเที่ยวตามปกติได้ เมื่อมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่น้อยกว่า 50 รายต่อวัน และเกิดได้ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 ขณะที่บางส่วนมองว่า การเร่งฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเพียงพอและทั่วถึงเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่า

นอกจากนี้ ธปท.ยังเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index: RSI) ว่าความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกปรับลดลงมากทั้งภาวะปัจจุบันและอีก 3 เดือนข้างหน้า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดและแผนการกระจายวัคซีนไม่ชัดเจน ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นฯ อยู่ต่ำกว่าเดือน เม.ย.2563 ที่มีการประกาศล็อกดาวน์ครั้งแรกในทุกมิติ

ADVERTISEMENT


โดยดัชนี RSI เดือน ก.ค.และแนวโน้มอีก 3 เดือนข้างหน้า (ส.ค.-ต.ค.) ปรับลดลงมาก และต่ำกว่าเดือน เม.ย.2563 อยู่ที่ 16.4 และ 27.6 ที่มีการการประกาศล็อกดาวน์ครั้งแรกจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น และมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของผู้ประกอบการค้าปลีก ขณะที่แผนการกระจายวัคซีนที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายและประสิทธิภาพของวัคซีน ซ้ำเติมความเปราะบางของความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ

ความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิมปรับลดลงในทุกภาค ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในทุกพื้นที่ เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าที่ปรับลดลง สะท้อนภาวะความยืดเยื้อของสถานการณ์ ความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่จะแย่ลงกว่าเดิม รวมถึงความล่าช้าของการจัดการวัคซึน

ขณะที่ ความเชื่อมั่นทุกประเภทร้านค้าในภาวะปัจจุบันปรับลดลงมากจากเดือนก่อน โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารที่ถูกกระทบโดยตรงจากมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวด

ส่วนความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยอดใช้จ่ายต่อใบเสร็จ (Spending per bill และความถี่ของผู้ใช้บริการ (Frequency) ปรับลดลงมากจากเดือนก่อนและต่ำกว่าช่วงการล็อกดาวน์ครั้งแรก ซึ่งเป็นผลจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวด งดการเดินทาง และลดเวลาเปิดทำการของร้านค้า

นอกจากนี้ พบว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรง ผู้ประกอบการ 90% ประเมินว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคปรับลดลงมากจากเดือนก่อน และไม่เห็นพฤติกรรมเร่งกักตุน แม้จะมีการสั่งปิดห้างฯ และประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวสู่ระดับปกติเลื่อนออกไปเป็นปี 2566 ล่าช้ากว่าที่เคยประเมินไว้อีก 1 ปี

ขณะที่ การประเมินแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากผู้ประกอบการ 61% คาดว่ายอดขายจะลดลงมากกว่า 25% จากการเคอร์ฟิว 53% มีสภาพคล่องไม่เกิน 6 เดือน และ 42% คาดการบริโภคภาคเอกชนไตรมาส 3 ปี 2564 จะกดตัวอย่างน้อย 10% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

16506


นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงมีการแพร่ระบาดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การขับเคลื่อนธุรกิจเวลานี้ ดีเวลลอปเปอร์ต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือการรักษาสภาพคล่อง เพราะหากขาดสภาพคล่อง นั่นหมายถึง หนี้เสีย หรือ NPL (Non-performing Loan) ทันทีเมื่อไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ย เท่ากับเป็นการทำลายอนาคตของดีเวลลอปเปอร์นั้นๆ ฉะนั้นควรเตรียม “กระสุน” หรือสภาพคล่องให้เพียงพอ รองรับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวัสโควิด และมาตรการล็อกดาวน์ที่อาจยืดเยื้อ

ขณะที่ การพัฒนาโครงการแต่ละโครงการจะต้องไปได้ด้วยตนเอง หากเปิดตัวโครงการแล้ว “ขายไม่ได้” จะกลายเป็นตัวฉุดรั้งโครงการอื่นทำให้การบริหารจัดการมีปัญหาตามมา ดังนั้น หากไม่มั่นใจว่าสามารถขายได้จริง อย่ารีบร้อนเปิดตัวโครงการใหม่

พร้อมกันนี้ ต้องเตรียมตัวหาเงินลงทุนใหม่ด้วยการออกหุ้นกู้ใหม่ จากก่อนหน้านี้ออกตราสารหนี้ และทยอยคืนแล้ว จึงต้องหาแหล่งทุน จากสถาบันการเงินต่างๆ

สำหรับ การนำสต็อกบ้านสำเร็จรูปมาทำไฟแนนซ์สต็อกเพื่อนำเงินส่วนนี้มาเป็นเงินทุนหมุนเวียนจะทำให้สภาพคล่องค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องจะดีหรือไม่ดี อยู่ที่จุดเริ่มต้นว่า เงินกู้จำนวนเท่าไร มากแค่ไหน หรือที่เรียกว่า อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity ratio) หรือ D/E ratio ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ควรเกิน 2ต่อ1 บริษัทไหนกู้มากจะมีภาระดอกเบี้ยสูงทุนน้อย บริษัทที่มี D/E ratio น้อยแปลว่าทุนเยอะ ก็จะสามารถฟันผ่าอุปสรรคไปได้

“แนวทางการพัฒนาโครงการปัจจุบัน จะต้องมีการเซอร์เวย์เพื่อสร้างความมั่นใจว่าวิเคราะห์มาอย่างดี เปิดขึ้นมาแล้วขายได้ ไปรอด แต่ถ้าลองทำพรีเซลแล้วขายไม่ได้ก็ต้องปล่อย โดยเฉพาะตึกสูงถ้าเปิดมาแล้วขายไม่ได้ก็ต้องชะลอโครงการไปก่อน เพราะขายได้น้อยกว่าจุดค้มทุนไม่จำเป็นต้องทูซี้ขาย รอจังหวะดีแล้วค่อยเดินหน้าต่อ”


สิ่งสำคัญถัดมา ต้องรักษาความสัมพันธ์กับสถาบันการเงินและคู่ค้าให้ดี หากสถาบันการเงินมีความเชื่อมั่นจะได้รับสินเชื่ออย่างต่อเนื่องสามารถประคับประคองธุรกิจร่วมกันได้ ซึ่งหากผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งล้มย่อมกระทบสถาบันการเงิน เพราะเกิดหนี้เสีย ดังนั้น บริษัทต้องวางแผนให้รัดกุมไม่ให้เกิดต้นทุนโครงการบานปลาย (cost overrun) ในบริษัทที่มีมาตรฐานน่าเชื่อถือ มีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง

“ในวิกฤตินี้ผู้ประกอบการที่แข็งแรงจึงสามารถอยู่รอดได้ ซึ่งเป็นผลมาจากพื้นฐานการเงินที่มั่นคง ความสามารถในการบริหารจัดการที่ดี ขณะที่คู่แข่งต้องชะลอโครงการ เพราะขาดความพร้อม”

นายชาติชาย กล่าวต่อว่า ภาครัฐต้องวางนโยบายช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังเปิดแคมป์ก่อสร้างเพื่อให้ตลาดฟื้นตัวเร็วขึ้น อาทิ ขยายเวลามาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน ค่าจดจำนองสำหรับผู้ซื้อบ้าน ปัจจุบันอยู่ในช่วงที่ลดค่าธรรมเนียมซึ่งมีอายุมาตรการถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 เป็นการช่วยผู้ประกอบการและผู้ซื้อในระดับหนึ่ง

นอกจากนี้ ควรมีมาตรการกระตุ้นอื่นๆ อาทิ ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ การเอายอดเงินผ่อนชำระค่างวดไปลดหย่อนภาษี หรือการผ่อนปรนมาตรการแอลทีวี เพื่อให้ลูกค้าใช้เงินน้อยลงในการซื้อที่อยู่อาศัยที่เป็นบ้านหลังแรกไม่ใช่การซื้อเพื่อเก็งกำไร หรือให้เงินอุดหนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ ซอฟท์โลน เพื่อกระตุ้นตลาด

ทั้งนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่องหลายภาคส่วนสร้างการเติบโตหลายธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรมต้นน้ำอย่าง อิฐ หิน ปูน ทราย เฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งแรงงาน ล้วนเป็นฟันเฟืองเศรษฐกิจ และวาระเร่งด่วน รัฐบาลต้องจัดหาและเร่งการฉีดวัคซีนให้ประชาชนโดยเร็วที่สุดเพื่อช่วยทำให้การติดเชื้อน้อยลง ลดการใช้มาตรการล็อกดาวน์ จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้เร็ว หาก “ช้า” ปัญหาต่างๆ จะยืดเยื้อต่อไป

หน้า: 1 ... 915 916 [917] 918 919 ... 923