แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - hs8jai

หน้า: 1 ... 954 955 [956] 957 958 ... 972
17194
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812

17195


7 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-10 ส.ค. 2564 เป็นรอบ 3 ที่ทาง ‘ทีมแพทย์ชนบท’ ได้บุกกรุง ลงพื้นที่ชุมชนแออัดกทม. และปริมณฑล เพื่อทำการตรวจค้นหาเชิงรุก 'ผู้ติดเชื้อ'โควิด-19

โดยครั้งนี้มีทีมแพทย์ชนบทกว่า 400 คน แบ่งเป็น 40 ทีม กระจายทุกพื้นที่ชุมชนแออัด ซึ่งแต่ละวันจะลงตรวจประมาณ 25-30 จุดในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เฉลี่ยจุดละ  1,000 กว่าคน  ต่อวัน จะเท่ากับวันละ25,000-30,000 ราย

พบ 'ผู้ติดเชื้อโควิด-19' ในทุกพื้นที่ชุมชนกทม.และปริมณฑล
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เล่าว่าการลงพื้นที่ของทีมแพทย์ชนบทรอบที่ 3 นี้  ไม่ได้จำกัดเฉพาะในพื้นที่ชุมชนแออัดกทม.เหมือนที่ผ่านมา แต่ออกปฎิบัติไปยังอำเภอต่างๆ ในปริมณฑลด้วย  ทำให้เห็นสภาพปัญหาที่ประชาชนได้พบเจอ


อย่าง วันพฤหัสบดีที่ 5 ส.ค.2564 ทีมตนและทีมจะนะ ได้ออกไปในอำเภอสามพราน จ.นครปฐม พบว่า มีผู้สูงอายุหลายท่านที่ดูแข็งแรงพอสมควร แต่เมื่อตรวจผล Rapid test กลับเป็นผลบวก และเมื่อตรวจซ้ำด้วย RT-PCT ผลเป็นบวกเช่นกัน  จึงได้จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ และพูดคุยกับญาติ ซึ่งสภาพบ้านผู้สูงอายุ เป็นห้องหลังเล็กๆที่อยู่ร่วมกัน 5-6 คน มีทั้งเด็กและเด็กน้อยที่ติดโควิด-19 ส่วนกลุ่มหนุ่มสาววัยทำงานยังผลเป็นลบและคนเหล่านี้ ยังคงออกไปทำงานข้างนอกทุกวัน

“ปัจจุบันสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นต้องบอกว่าหนักกว่าทุกครั้งที่ลงพื้นที่ตรวจค้นหาเชิงรุก เพราะการลงพื้นที่ชุมชนแออัด โดยเฉพาะในกทม. ลงไปที่ไหนก็พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก จนบางชุมชนกลายเป็นเกิดภูมิคุ้มหมู่จากการติดโควิด-19 ไม่ใช่จากการฉีดวัคซีน” นพ.สุภัทร กล่าว


อีกทั้ง ในชุมชนประมาณ 25-30% จะพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ ยิ่งไปเห็นสภาพครอบครัว ที่ห้องหนึ่งอยู่กันหลายคน ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าทำไมมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ความหวังที่ยอดผู้ป่วยลดลงคงไม่เกิดขึ้น


สมัครผ่อนของ 0% 40 เดือนกับ Citi คลิกเลย


เมืองกรุงบริหารจัดการขั้นล้มเหลว นายกฯก็ไม่สามารถแก้ได้ 
นพ.สุภัทร เล่าต่อว่า เมื่อก่อนเวลาตรวจพบ ผู้ป่วยโควิด-19 จะให้ ยาฟาวิพาราเวียร์ และต้องตอบคำถามผู้ป่วยว่าพวกเขาจะต้องทำยังไงต่อ  จะดูแลตัวเองอย่างไร ถ้าเข้า Home Isolation ใครจะดูแลเขา สภาพบ้านครอบครัวก็ไม่เหมาะสมไม่รู้จะไปรักษาที่ไหน

ทว่า ตอนนี้คำถามเหล่านั้นไม่ค่อยมี หลายคนรู้สภาพปัญหาของประเทศ ว่าไม่มีเตียงรองรับ ไม่มีรพ.ให้เข้า รู้ว่าต้องปฎิบัติตัวอย่างไร จะกักตัวเองอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ คือ การเข้าถึงยา เข้าถึงการรักษาอย่างทันถ่วงที เพราะต่อให้โทรไปหาหน่วยงานรัฐ ก็ต้องรอระบบอยู่ดี


“ภาพรวมโควิด-19 รอบนี้ จะหนักในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ซึ่งในต่างจังหวัด หลายจังหวัด ได้ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้เป็นอย่างดี ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ได้ดี ผิดกับในกทม.และปริมณฑล โดยเฉพาะกทม. การบริหารจัดการเข้าขั้นล้มเหลว ต่อให้ตอนนี้นายกรัฐมนตรี มานั่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์แก้โควิด-19 เฉพาะกิจในกทม.และปริมณฑล ก็ยังไม่สามารถแก้ได้” นพ.สุภัทร กล่าว

กทม.เป็นเอกเทศ ติดขั้นตอนติดระบบ กว่าจะช่วยผู้ป่วยตายก่อน
กทม.เป็นเอกเทศ ทุกคนติดขั้นตอน ติดระบบไปหมด ต่างคนต่างทำงาน ไม่มีการทำงานร่วมกัน ทำให้มีช่องว่างในการทำงานระหว่างกทม.กับหน่วยงานอื่นๆ กว่าจะตรวจคัดกรองเชิงรุก กว่าจะลงพื้นที่จ่ายยาให้แก่ผู้ป่วย กว่าผู้ป่วยจะเข้ารับการรักษาก็ไม่ทันการกลายเป็นทั้งชุมชนแออัดเต็มไปด้วยผู้ป่วยโควิด-19


หลายชุมชนมีคนนอนตายนอกบ้าน เพราะไม่อยากทำให้คนในครอบครัวติดเชื้อ และบางชุมชนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่แบบที่รัฐบาลอยากให้เป็นแต่ไม่ได้เกิดจากการฉีดวัคซีน เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งเราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น

ปัญหาของหลายชุมชนที่พบเจอตอนนี้ ไม่ใช่เป็นปัญหาของประชาชนที่ไม่รู้ว่าจะดูแลตัวเองอย่างไร แต่สิ่งที่พวกเขาประสบพบเจอ คือ สภาพครอบครัว สภาพบ้านที่ไม่เอื้ออำนวยให้ทำตามมาตรการรัฐ  Home Isolation จึง ไม่สามารถเกิดขึ้นได้   หรือเป็นทางเลือกที่ประชาชนไม่ได้เลือก

แนะจัดหาวัคซีน 15ล้านโดสต่อเดือนโควิดรอบนี้ ไทยถึงจะรอด
นพ.สุภัทร กล่าวต่อไปว่าอยากแนะนำให้ทางกทม.เพิ่มรพ.สนาม เพิ่ม Community Isolation เพราะถ้าทุกคนทำ Home Isolation  กักตัวที่บ้านก็จะติดเชื้อกันหมด และควรมีการเพิ่มจุดตรวจคัดกรองให้ทุกจุด ทุกเขต เมื่อพบผู้ติดเชื้อ ทุกคนต้องได้รับยาทันที

โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ตรวจพบว่าติดโควิด-19 หรือมีการสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ควรให้ยาฟาวิพิราเวียร์ทันที ไม่ใช่รอให้ติดเชื้อก่อนแล้วมาให้ เวลานั้นอาจไม่ทันการแล้วพอเจอก็กลายเป็นเสียชีวิตไปแล้ว

 

“ตอนนี้วิธีเดียวที่จะทำให้คนไทย โดยเฉพาะคนกรุงรอด รัฐบาลควรจะจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้ได้เดือนละ 15 ล้านโดส ไม่ใช่ขณะนี้ที่ไม่รู้ว่าวัคซีนมีเท่าใด วัคซีนไปอยู่ที่ไหนหมด เดือนหนึ่งวัคซีนเข้าไม่ถึง 5 ล้านโดส ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่เกิน 2 เดือน จะพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกมาก อาจมีคนตายนับหมื่นราย ดังนั้น ควรมีแผนการจัดหา จัดสรรวัคซีนที่ชัดเจนให้ประชาชนได้รับรู้  เพราะหน้าที่ของรัฐบาลในขณะนี้ คือการจัดหาวัคซีนให้ประชาชนและควรจะหาให้ได้” นพ.สุภัทร กล่าว

'ล็อกดาวน์' ไม่ได้ผล เกิดภูมิคุ้มกันหมู่จากการติดเชื้อไม่ใช่วัคซีน
ล็อกดาวน์ ห้ามทุกคนออกนอกบ้าน ห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหาร ให้ work from home 100% ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด และขอความร่วมมือจากประชาชนอย่างเต็มที่ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวอีกว่ามาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลออกมานั่น


ไม่ว่าจะ ล็อกดาวน์ มาตรการ Home Isolation Community Isolation ตรวจคัดกรอง หรือออกพ.ร.ก.อะไรมาก็ตาม  อาจจะช่วยได้แต่เป็นเสมือนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่า เพราะโควิด-19 เป็นโรคระบาดการหยุดโรคระบาดต้องสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ นั่นคือ ทุกคนต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 การล็อกดาวน์ในวงกว้างตอนนี้เหมือนขี้ช้างจับตั๊กแตก ยอดผู้ป่วยไม่ลด แต่ความเสียหายกระจายเป็นกว้างมาก

“การล็อกดาวน์ ทำได้แต่ควรเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย เช่น ลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุกชุมชนลาดพร้าว พบผู้ติดเชื้อ 15-20% ก็ล็อกดาวน์เฉพาะในชุมชนนั้น แต่การล็อกดาวน์ไม่ใช่การจำกัดการเข้าออก แต่ขอให้ทุกคนตรวจโควิด-19 คนไหนที่ไม่ติดเชื้อให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ ให้ได้รับการดูแล และต้องมีการเยียวยา ชดเชย รายได้ให้แก่พวกเขา  ขณะเดียวกันเมื่อมีการเข้าออกชุมชนต้องมีสแกนชุมชน และจัดตั้งแยกกันตัวในชุมชน” นพ.สุภัทร กล่าว


แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ของไทยมีศักยภาพในการ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนวันละ 5 แสนคน แต่ตอนนี้ไม่มีวัคซีนให้ฉีด อีก 2 เดือนหากคนไทย คนกรุงเทพฯ ไม่ได้ฉีดวัคซีนคาดว่าจะเกิด ภูมิคุ้มกันหมู่ ในชุมชนแออัดจากกทม. แต่เป็นภูมิคุ้มกันหมู่ที่มาจากการติดเชื้อจำนวนมากๆ

17196


นายพูน พานิชพิบูลย์  นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดวันี้(10ส.ค.) ที่ระดับ  33.46 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าสุดในรอบ3ปีครั้งใหม่และอ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.41 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.40-33.55 บาทต่อดอลลาร

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าอยู่จากปัญหาการระบาดของโควิด-19 รวมถึงโมเมนตัมขาขึ้นของเงินดอลลาร์ที่ยังมีอยู่จากท่าทีสนับสนุนการทยอยลดคิวอีในปีนี้ของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด

ขณะเดียวกัน เงินบาทก็อาจเผชิญแรงกดดันจากแรงซื้อดอลลาร์ของฝั่งผู้นำเข้าที่อาจเข้ามาเร่งปิดความเสี่ยงเนื่องจากกังวลว่า เงินบาทอาจจะอ่อนค่าเร็วและแรง

เรามองว่า ในระยะสั้น อาจเห็นเงินบาทอ่อนค่าไปได้ถึง 34 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก หากสถานการณ์การระบาดยังคงเลวร้ายต่อเนื่อง และ เงินดอลลาร์ยังคงมีโมเมนตัมขาขึ้นอยู่ ซึ่งอาจจะหนุนด้วยถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ต่างออกมาสนับสนุนการทยอยลดคิวอีในปีนี้ หรือ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ พลิกกลับมาดีกว่าคาด ในขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะ ยุโรป อาจชะลอตัวลง จากปัญหาการระบาดของ โควิด-19

นอกจากนี้ เรายังมองไม่เห็นโอกาสที่เงินบาทจะพลิกกลับเทรนด์มาแข็งค่าได้ในเร็วนี้ ทำให้ ค่าเงินบาทยังเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้อย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์การระบาดจะเริ่มมีทิศทางดีขึ้น ซึ่งก็อาจจะต้องรอในช่วงต้นเดือนกันยายน


อนึ่งความไม่แน่นอนของสถานการณ์การระบาด โควิด-19 อาจทำให้ทิศทางของเงินบาทยังคงผันผวนอยู่ในระยะสั้น ผู้ประกอบการจึงควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงให้หลากหลายมากขึ้น อาทิ ใช้ Options เพื่อช่วยปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


ขณะที่ผู้เล่นในตลาดการเงินกลับมาอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลปัญหาการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ที่เริ่มกดดันความคาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจ โดยได้สะท้อนผ่านการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งล่าสุดราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้ดิ่งลงกว่า 2.5% สู่ระดับ 69.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ ตลาดการเงินยังถูกกดดันโดยความกังวลว่าเฟดอาจลดการทำคิวอีได้เร็วกว่าคาด หลังบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างทยอยออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนการลดคิวอีภายในปีนี้

อย่างไรก็ดี ในฝั่งตลาดการเงินสหรัฐฯ รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ต่างออกมาดีกว่าคาด ได้ช่วยพยุงตลาดหุ้นไม่ให้ปรับตัวลดลงหนัก โดย ดัชนี Dowjones ปิดลบ -0.30% เช่นเดียวกันกับ ดัชนี S&P500 ที่ปรับตัวลงราว -0.09%

โดยทั้งสองดัชนีต่างเผชิญแรงกดดันของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลดลงหนัก ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินได้ปรับตัวสูงขึ้นช่วยพยุงตลาดไว้ ทั้งนี้ หุ้นเทคฯ ยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ หลังบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ยังทรงตัวใกล้ระดับ 1.30% อีกทั้งผลประกอบการของหุ้นกลุ่มเทคฯก็ยังคงสดใส หนุนให้ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปิดบวก +0.16%

ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX50 ของยุโรป ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +0.06% โดยความกังวลปัญหาการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ก็เริ่มกลับมากดดันหุ้นในกลุ่ม Cyclical มากขึ้น อาทิ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง อย่าง Safran -2.22%, Airbus -1.83% ขณะเดียวกัน หุ้นในกลุ่มเทคฯ ยังช่วยพยุงตลาดไว้ได้บ้าง หลังรายงานผลปะกอบการของหุ้นกลุ่มเทคฯ ออกมาดีต่อเนื่อง Infineon +0.89%, ASML +0.75%

ทางด้านตลาดบอนด์ ผู้เล่นในตลาดบอนด์เริ่มทยอยขายทำกำไรการถือบอนด์ระยะยาวมากขึ้น หลังบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดคิวอีได้ในปีนี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีขึ้นตามคาด ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10ปีสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 4bps สู่ระดับ 1.32% ซึ่งก็ยังคงเป็นระดับที่ต่ำนับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ส่วนในฝั่งตลาดค่าเงิน ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าเฟดที่ออกมาสนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวด อย่าง การทยอยลดคิวอีภายในปีนี้ รวมถึงการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ได้หนุนให้ เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 93 จุด อีกครั้ง กดดันให้ ค่าเงินยูโร (EUR) อ่อนค่าลง สู่ระดับ 1.174 ดอลลาร์ต่อยูโร ส่วนค่าเงินเยน (JPY) ก็อ่อนค่าลงแตะระดับ 110.3 จุด

สำหรับวันนี้ ตลาดจะติดตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป โดยตลาดประเมินว่า การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 อาจส่งผลให้ บรรดานักลงทุนสถาบันและนักวิเคราะห์มีมุมมองที่เป็นลบมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจากปัญหาการระบาดรอบล่าสุดในยุโรปและทั่วโลก ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเยอรมนี (ZEW Sentiment) เดือนสิงหาคม อาจลดลงสู่ระดับ 55 จุด จาก 63.3 จุด ในเดือนก่อน

ส่วนในฝั่งไทย ตลาดจะติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 หลังยอดผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับสูง แต่อาจสถานการณ์การระบาดอาจเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้ หลังยอดการแจกจ่ายวัคซีนสามารถเร่งตัวขึ้นมาก ซึ่งหากรัฐบาลสามารถเร่งการแจกจ่ายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงได้ดีขึ้นต่อเนื่อง จนใกล้ระดับ 5 แสนโดสต่อวัน ก็อาจทำให้สถานการณ์การระบาดเริ่มคลี่คลายลงได้

17199


Jeremy Allaire ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Circle เปิดเผยแผนของบริษัทในบล็อกโพสต์ และ ในบล็อกโพสต์ Allaire โดยยืนยันว่าพวกเขาพร้อมที่จะให้บริการภายใต้กฎระเบียบและการควบคุมอย่างเต็มรูปแบบของธนาคารกลางสหรัฐ กระทรวงการคลังสหรัฐ และหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ

Allaire กล่าวเพิ่มเติมว่า Circle ซึ่งมีมูลค่าตลาดใกล้เคียงกับตลาด 30 พันล้านดอลลาร์ในตลาด crypto ทั้งหมดมีโอกาสและความเสี่ยงมากมาย แต่ตอนนี้เพื่อทำงานภายใต้หน่วยงานควบคุมมาตรฐาน USDC จะสามารถให้อำนาจในระบบเศรษฐกิจที่แท้จริงได้ นั่นหมายความว่าพวกเขาจะไม่ถูกจำกัดอยู่ที่ตลาด crypto เท่านั้นอีกต่อไป

"ด้วยการเพิ่มขึ้นของสกุลเงินดิจิทัล เราได้เห็นฟินเทคมากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และตอนนี้การชำระเงินและแอป crypto มีความต้องการใช้งานเพิ่มมากขึ้น" Circle ได้ประกาศความตั้งใจที่จะเป็นธนาคาร

อย่างไรก็ตามในฐานะธนาคารพาณิชย์แห่งชาติแบบสำรองเต็มรูปแบบ Circle จะไม่ให้ยืมเงินฝากของลูกค้า แต่เงินฝากของลูกค้าทั้งหมดจะได้รับการสนับสนุนจาก USDC และจะสามารถถอนได้ตลอดเวลา

ขณะที่ USDC เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีเสถียรภาพซึ่งผูกติดอยู่กับดอลลาร์สหรัฐฯ และทำงานบนบล็อคเชน (crypto) หลายสกุล รวมถึง Ethereum และ Stellar และขณะนี้มีการหมุนเวียนมากกว่า 27.5 พันล้านดอลลาร์ โดยตอนนี้เชื่อว่า USDC (USD Coin) จะเติบโตเป็นเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ในไม่ช้า

Jeremy Allaire ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Circle กล่าวอีกว่า "เราเชื่อว่าการธนาคารแบบสำรองเต็มรูปแบบซึ่งสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีสกุลเงินดิจิทัล ไม่เพียงแต่จะทำให้ระบบการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ระบบการเงินปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย"

โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2013 Circle ได้เดินหน้าธุรกิจในฟินเท็คในหลายรูปแบบ โดยถือว่าเป็นแอปเริ่มต้น ในฐานะเครือข่ายการชำระเงินแบบ peer-to-peer ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นผู้ให้บริการชำระเงิน และปัจจุบันเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการซื้อขาย crypto ที่โดดเด่นในสหรัฐอเมริกา

ขณะที่ในปี 2018 Circle ซื้อ Poloniex จากบอสตันด้วยเงิน 400 ล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มสถานะให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นชั้นนำในตลาดสกุลเงินดิจิทัล

Circle กล่าวว่าในเวลาที่การเข้าซื้อกิจการทำให้บริษัทสามารถควบคุมตลาดที่บางครั้งปริมาณรายวันสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ซึ่งมีการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลและโทเค็นต่างๆ ประมาณ 70 สกุล

ในบล็อกโพสต์เกี่ยวกับการยื่นฟ้องของ Circle Allaire ยังได้กล่าวถึงประเด็นด้านกฎระเบียบที่กำลังดำเนินอยู่ในสหรัฐอเมริกาว่าจะทำอย่างไรกับกฎระเบียบของสกุลเงินดิจิทัล

Allaire ระบุว่า “การจัดตั้งมาตรฐานการกำกับดูแลระดับชาติสำหรับสกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์มีความสำคัญต่อการเปิดใช้ศักยภาพของสกุลเงินดิจิทัลในเศรษฐกิจที่แท้จริง รวมถึงมาตรฐานสำหรับการจัดการเงินสำรองและองค์ประกอบอื่นๆที่คาบเกี่ยวกัน”

ทั้งนี้คาดว่าการขอใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารในสหรัฐอเมริกาของ Circle อาจใช้เวลาตั้งแต่ 18 เดือนถึง 2 ปีในการตรวจสอบระบบบริหารการเงิน และมาตรฐานความปลอดภัย ตลอดจนการรักษาความปลอดภัยของบัญชีผู้ใช้ ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่จะเห็นธนาคาร Circle ที่เต็มรูปแบบจนถึงอย่างน้อยปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566

17200
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812

17202


กลุ่มบริษัทกัลฟ์ โดยนางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยนายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการฯ ร่วมลงนามสัญญาบำรุงรักษาอุปกรณ์ภายในสถานีไฟฟ้า และระบบสายส่ง 115 เควี และ 22 เควี ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ กฟภ.จะดำเนินงานบำรุงรักษาให้กับโรงไฟฟ้าเอสพีพี (SPP) 19 แห่ง ภายใต้กลุ่มบริษัทกัลฟ์ ส่งผลให้การจำหน่ายไฟฟ้าผ่านสถานีไฟฟ้า และระบบสายส่งไฟฟ้ามีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ มีความมั่นคงและปลอดภัยสูงสุด

นางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่กลุ่มบริษัทกัลฟ์เลือกกฟภ.เข้ามาดำเนินงานบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า SPP 19 แห่ง เนื่องจากกฟภ. ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้บริการงานบำรุงรักษาชั้นนำในธุรกิจอุตสาหกรรมไฟฟ้าในประเทศไทย กลุ่มบริษัทกัลฟ์และกฟภ. เป็นพันธมิตรกันมายาวนานกว่า 20 ปี จึงเชื่อมั่นในทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญสูง การเลือกใช้อุปกรณ์ ชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ ที่ได้มาตรฐาน ทำให้ระบบไฟฟ้ามีสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอ หนุนให้โรงไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าได้ตามแผนตลอดระยะสัญญา

นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า กฟภ. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่กลุ่มบริษัท กัลฟ์มอบความไว้วางใจให้ กฟภ. เป็นผู้ดำเนินงานบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าให้กับโรงไฟฟ้าจำนวน 19 แห่ง กฟภ. พร้อมนำประสบการณ์ และความชำนาญ ในการให้บริการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมความมั่นคงในการจ่ายพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาด้านพลังงานและเศรษฐกิจของประเทศ

 
ทั้งนี้ สัญญามีระยะเวลา 3 ปี ครอบคลุมงานบำรุงรักษาอุปกรณ์ภายในสถานีไฟฟ้า และระบบสายส่ง 115 kV และ 22 kV รวมไปถึงงานบริการฉีดน้ำลูกถ้วยแรงสูงแบบไม่ตัดกระแสไฟฟ้า (Hotline Cleaning Insulator) และการให้บริการซ่อมอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน 24 ช.ม. สำหรับโรงไฟฟ้า SPP 19 แห่งภายใต้กลุ่มบริษัทกัลฟ์ รวมมูลค่างานเป็นวงเงินกว่า 223 ล้านบาท

17203


รอยเตอร์ - กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 9,690 คนในวันอาทิตย์ (8) นับเป็นยอดติดเชื้อรายวันที่สูงเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่พบในวันเสาร์ (7) ที่ 7,334 คน

กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่พบในนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางการระบาด และ จ.บิ่งเซวือง กับ จ.ด่งนาย ที่อยู่ติดกัน

เวียดนามประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดในช่วงปีที่ผ่านมา แต่นับตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. ประเทศเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็วและติดง่ายขึ้น

ประเทศมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 210,405 คน ตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้น และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,397 คน ตามข้อมูลของกระทรวง

เวียดนาม ประเทศที่มีประชากร 98 ล้านคน จนถึงขณะนี้ ได้แจกจ่ายวัคซีนไปแล้วเกือบ 8.9 ล้านโดส แต่มีประชาชนไม่ถึง 900,000 คน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม.

17206


รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยและอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า ทิศทางค่าเงินบาทอาจอ่อนค่าทะลุระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ได้ในช่วงไตรมาสสี่ปีนี้ จากดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีแนวโน้มอาจติดลบในปีนี้ โดยในไตรมาสแรกปี 2564 ดุลบัญชีเงินสะพัดขาดดุลแล้ว 2.6 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าในไตรมาสสองและสามจะยังคงขาดดุลต่อเนื่อง ดุลการค้าเกินดุลลดลง คาดว่าปีนี้ดุลบัญชีเงินทุนมีเงินไหลออกสุทธิไม่ต่ำกว่า 3-4 พันล้านดอลลาร์ โดยมีทั้งการไหลออกของเงินลงทุนโดยตรงและการลงทุนในหลักทรัพย์ในตลาดการเงิน ปีที่แล้วเงินทุนไหลออกสุทธิประมาณ 3.59 พันล้านดอลลาร์ อัตราการค้าปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากราคานำเข้าสินค้าเพิ่มสูงกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาส่งออก

ทางด้านเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทั้งตัวเลขการเพิ่มขึ้นของการจ้างงาน ตัวเลขตำแหน่งงานเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นถึง 943,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานลดลงต่อเนื่อง การกระเตื้องขึ้นของดัชนีภาคการผลิตและการบริการ ดัชนีค้าปลีกและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐอาจทยอยลดวงเงินในการทำ QE ลงในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า           

แม้นการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นภาพสะท้อนของภาวะเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอลงอย่างมาก แต่ผลของการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม จะช่วยกระตุ้นภาคส่งออก การจ้างงานและรายได้จากการท่องเที่ยวหากสามารถเปิดประเทศได้ ผลกระทบในทางลบที่มีต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจและแรงกดดันเงินเฟ้อจะไม่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีกำลังการผลิตส่วนเกินอยู่จำนวนมาก และอัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมยังต่ำอยู่เฉลี่ยอยู่ที่ 66-67% ไม่ว่าพิจารณาปัจจัยทางด้านอุปสงค์หรืออุปทานไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นมาก

ขณะที่การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ในสหรัฐ ยุโรป หรือญี่ปุ่น จะทำให้ธนาคารกลางของประเทศเหล่านี้จะใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำพิเศษไปอีกอย่างน้อยหนึ่งถึงสองปี ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การเร่งตัวของเงินเฟ้อและเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงินบรรเทาลง อัตราดอกเบี้ยจะต่ำไปอีกนาน จึงขอให้ “คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน” ของธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาอย่างจริงจังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เหลือ 0% หรืออย่างน้อยต้องลดลงให้เหลือ 0.10% ในการประชุมครั้งต่อไปเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจที่จะทรุดตัวลงในปลายไตรมาสสามต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2565 หากตัดสินใจช้าจะไม่สามารถประคับประคองเศรษฐกิจได้ทันการณ์ และดูเหมือนว่าประเทศคงจำเป็นต้องมีการล็อกดาวน์อยู่เป็นระยะๆ และคาดว่ามาตรการคลังมีข้อจำกัดจากเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่น่าจะทะลุเพดาน 60% อย่างแน่นอน

ส่วนการปรับลดความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.นี้นั้นจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจและระบบสถาบันการเงินมีเสถียรภาพและมีความมั่นคงมากขึ้น รวมทั้งลดภาระต่อเงินสาธารณะในกรณีเกิดปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินขึ้นในอนาคตหรือธนาคารถูกเพิกถอนใบอนุญาต อัตราขยายตัวของการฝากเงินของประชาชนและกิจการต่างๆ ก็ปรับตัวลงอย่างมากในช่วงวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโควิด-19 คนฝากเงินในระบบสถาบันการเงินที่มีเงินฝากเกิน 1 ล้านบาทในแต่ละธนาคารมีอยู่ประมาณ 2% ของทั้งระบบ 97-98% ของผู้ฝากเงินมีเงินฝากต่ำกว่า 1 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ใช้บริการเงินฝาก e-money มากขึ้นตามลำดับ จึงควรขยายวงเงินฝากให้ครอบคลุมเงินฝาก e-money และควรขยายวงเงินคุ้มครองเงินฝากจาก 1 ล้านเป็น 2-3 ล้านบาทเมื่อบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองวงเงิน 1 ล้านไปเป็นระยะ 1-2 ปีแล้ว เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางการเงินอาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม


นอกจากนี้ เขา มองว่า การขยายเวลาและขยายพื้นที่ล็อกดาวน์ไม่ได้ผลในการลดการติดเชื้อ และจำนวนผู้เสียชีวิตมากนัก ควรเปลี่ยนวิธีการให้ดำเนินชีวิตได้ตามปรกติมากที่สุดและเดินหน้าเปิดประเทศหลังจากระบบสาธารณสุขสามารถรองรับผู้ป่วยหนักได้เต็มที่แล้ว จุดประสงค์ของการล็อกดาวน์ คือ ป้องกันไม่ให้ระบบสาธารณสุขล่มสลาย ไม่ให้จำนวนผู้ป่วยล้นเกินไป เพราะล็อกดาวน์ไม่ได้ทำให้โรคหายไป เราจะต้องอยู่กับโควิด-19 ไปอีกนาน ฉะนั้นเราต้องมีวิธีการจัดการใหม่ คือ อยู่กับมันเหมือนเราอยู่กับโรคไข้หวัดใหญ่ หรือ โรคเอดส์ โดยเน้นให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขเคร่งครัด ฉีดวัคซีนในอัตราเร่งเดือนละ 10 ล้านโดสเป็นอย่างต่ำ หรือ วันละสามแสนสามหมื่นสี่พันโดสเป็นอย่างน้อย เป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ 50 ล้านคน (70% ของประชากร) ได้ฉีดเข็มแรกภายในเดือนตุลาคมก็จะบรรลุผลและเดินหน้าเปิดประเทศได้ รวมทั้งต้องเน้นฉีดกลุ่มคนทำงานที่ต้องสัมผัสกับผู้คนมากๆ ก่อนเพื่อลดการแพร่ระบาด เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ตำรวจ รปภ กลุ่มวินมอเตอร์ไซด์ กลุ่มคนขับรถเมล์ คนขับแท็กซี่ พนักงานบริการต่างๆ เป็นต้น การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันมีต้นทุนที่ถูกกว่าการปล่อยให้คนติดเชื้อแล้วค่อยรักษามาก หากปล่อยให้คนติดเชื้อและอยู่ในระหว่างการรักษาเกิน 400,000 คนในแต่ละช่วงเวลา ต้นทุนทางเศรษฐกิจจะสูงมากและอัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มเฉลี่ยเกิน 200 คนต่อวันได้

การควบคุมการระบาดในระยะนี้ต้องเน้นไปที่มิติความสัมพันธ์ของคนมากกว่าคุมพื้นที่ เช่น คนงานติดเชื้อที่โรงงาน ไม่ใช่เน้นไปคุมพื้นที่โดยรอบโรงงานหรือปิดโรงงาน ต้องเอา “คนติดเชื้อ” ออกมา แล้วให้โรงงานเปิดการทำงานได้ตามปรกติ แล้วเน้นไปควบคุมว่าคนงานติดเชื้อนั้นไปมีปฏิสัมพันธ์กับใครบ้างมากกว่า การดำเนินการแบบนี้จึงไม่ทำให้เศรษฐกิจเสียหายไปมากกว่านี้ สิงคโปร์ ไต้หวัน ก็ทำแบบนี้ นอกจากนี้ยังต้องจัดสรรงบประมาณให้ระบบสาธารณสุขมีความเพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วยหนัก

17208
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812

หน้า: 1 ... 954 955 [956] 957 958 ... 972