แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Ailie662

หน้า: 1 ... 976 977 [978] 979 980 ... 1022
17587

"สงกรานต์ บุญมีเกียรติ" เป่าเมืองทอง-หนองบัว ซิวยอดเยี่ยมไทยลีกแมตช์6 ขณะที่ "กชภูมิ"เชิ้ตดำเชียงใหม่ยู-ท่าเรือที่2, VAR"วรินทร-ศรีสุวรรณ-ชัยฤกษ์-ภูเบศ"

    ทีมงานฟุต.สยามรายวัน ยังคงดำเนินการคัดสรรเฟ้นหาผู้ตัดสินยอดเยี่ยมไทยลีก2021-22 นัดที่ 6 ที่แข่งขันในช่วงกลางสัปดาห์เมื่อวันอังคาร-พุธ-พฤหัสบดีที่ 5-6-7 ต.ค.64 ที่ทำหน้าที่ได้อย่างเถรตรงแบบไร้ข้อครหาต่างๆด้วย

    ผู้ตัดสินเป่ายอดเยี่ยม อันดับ 1 ในศึกไทยลีก2021-22 นัดที่ 6 คือ สงกรานต์ บุญมีเกียรติ ผู้ตัดสินฟีฟ่าฝีมือดีที่ลงทำหน้าที่ในเกมที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด เสมอ หนองบัวพิชญ เอฟซี 1-1 ที่ธันเดอร์โดม สเตเดียม เมื่อวันอังคารที่ 5 ต.ค.64 โดยในเกมดังกล่าวมี 2 จุดโทษเกิดขึ้น โดยจุดโทษแรกเป็นจุดโทษของหนองบัวพิชญ เอฟซี ที่ แฮมิตัน โซอาเรส น.4 ส่วนอีกหนึ่งจุดโทษเป็นของ เมืองทอง ยูไนเต็ด จาก ซาดอร์ มีซาเยฟ น.14 ซึ่งจุดโทษทั้ง 2 ช็อตถือได้ว่าผู้ตัดสินเด็ดขาดมากๆ คว้ารางวัลยอดเยี่ยมในนัดที่ 6 ไปครอง 


    ผู้ตัดสินเป่ายอดเยี่ยม อันดับ 2 คือ กชภูมิ มีศรีเดชา ที่ลงเป่าในเกมที่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด แพ้ การท่าเรือ เอฟซี 0-2 ที่สนามสมโภชเชียงใหม่700ปี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ต.ค.64 โดยภาพรวมถือได้ว่าตัดสินได้ตามมาตรฐาน โดยเฉพาะจังหวะ น.39 ที่การท่าเรือ เอฟซี โวยว่าน่าจะได้จุดโทษ วรวุฒิ นามเวช แนวรับของทีมการท่าเรือโดนดึงในกรอบเขตโทษ แต่ขอผู้ตัดสินไปดูจอ VAR ก็เป็นจังหวะที่ไม่ได้เจตนาทำฟาวล์ของผู้เล่นเชียงใหม่ ยูไนเต็ดแต่อย่างใด 

    ผู้ตัดสิน VAR ยอดเยี่ยม อันดับ 1 ในศึกไทยลีก2021-22 นัดที่ 6 คือคู่ของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด เสมอ นครราชสีมา มาสด้า 1-1 ที่สนาม อบจ.ขอนแก่น เมื่อวันพุธที่ 6 ต.ค.64 โดยมี "วรินทร สัสดี และ ศรีสุวรรณ บุญนำ" ทำหน้าที่ โดยช็อตแจ้งเกิดในเกมดังกล่าว คือ 3 จังหวะที่เกิดขึ้นกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด จาก 2 ช็อตที่เจ้าบ้านได้ประตูไปแล้ว แต่ถูกสัญญาณวีเออาร์จับล้ำหน้าไปก่อน รวมถึงต้นครึ่งหลังที่ อลงกรณ์ จรนาทอง ของขอนแก่น ยูไนเต็ดที่ไปย่ำใส่ ออมาดู ออตทาร่า จนเป็นใบแดงในท้ายที่สุดด้วย 

    ผู้ตัดสิน VAR ยอดเยี่ยม อันดับ 2 คือคู่ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด เสมอ หนองบัวพิชญ เอฟซี 1-1 ที่มี "ชัยฤกษ์ งามสม และ ภูเบศ เหล็กผา" ซึ่งทั้งคู่ถือว่ามีการแจ้งส่งสัญญาณ VAR ให้กับผู้ตัดสินในสนามกับช็อตจุดโทษช็อตที่ 2 ที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ใน น.14 ซึ่งถือว่าค่อนข้างชัดเจนมากๆอยู่แล้วว่าต้องเป็นจุดโทษ

17588
ลูกอมพระแม่ธรณี

จัดสร้างจากดินใต้ฐานพระแม่ธรณี ผงมหาจักรพรรดิ และมวลสารอื่น ๆ ช่วยในเรื่องการขายบ้าน ขายที่ดิน

17589
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 

17593
บล.ดีบีเอส ประเมินเฟดปรับลดวงเงินคิวอีเร็วนี้ และใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำถึงไตรมาส3/65 ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยฟื้นจากกระจายวัคซีน-ทยอยเปิดเมือง หนุนดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ที่ 1,695จุด และปี 65 แตะ1,848จุด พร้อมเตือนระเบิดเวลา 12 ปัจจัยเสี่ยงต้องจับตา

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส จัดสัมมนาออนไลน์ DBSV Quarterly Review 4Q21  หัวข้อ "ส่งพลังวัคซีน ฝ่าด่าน QE สู่ดัชนี 1700" เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 

นางอาภาภรณ์  แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในโค้งสุดท้ายของปี 2564 ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าสิ้นปีนี้ดัชนีจะแตะ 1695 จุด และปีหน้าอยู่ที่ระดับ 1848 จุด โดยอิงราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น หรือ P/E อยู่ที่ 19.3 เท่า

ปัจจัยที่สนับสนุนมาจากตัวเลขการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มส่งสัญญาณบวก โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (ส.ค.-ก.ย.64)  นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิกลับเข้ามาเป็นครั้งแรกของปี 2564  โดยในเดือนสิงหาคมมียอดซื้อสุทธิ 5,584 ล้านบาท และเดือน ก.ย.มียอดซื้อสุทธิ 1,0803 ล้านบาท แต่โดยรวมทั้งปีแล้วต่างชาติขายสุทธิ 79,172 ล้านบาท

ขณะเดียวกันแม้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟดมีแผนที่จะลดวงเงิน QE ลงในเร็วๆนี้ และอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มกลับเป็นทิศทางขาขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2565 ซึ่งเร็วกว่าคาดการณ์เดิม...แต่การที่เฟดพยายามบริหารการให้ข้อมูลที่ดี จะช่วยให้นักลงทุนไม่ตระหนกมาก นอกจากนั้นการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภค  การลงทุน และภาคท่องเที่ยวของไทย รวมถึงการส่งออกที่ยังคงดีต่อเนื่อง จะช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย และทำให้ตลาดหุ้นในปี 2565 สามารถขยับขึ้นต่อได้

บล.ดีบีเอส มั่นใจหุ้นไทยปีหน้าสดใส ดัชนีทะยาน 1,848 จุด

นางอาภาภรณ์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ได้ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ปี 2564 จะเติบโตได้ไม่มาก คือ  0.7% แต่การเร่งกระจายวัคซีน จะทำให้ GDP ปีหน้าฟื้นตัวโต 3.9% ส่วนปัจจัยเสี่ยงในประเทศที่น่าเป็นห่วงและต้องจับตาอย่างใกล้ชิดถือเป็น ระเบิดเวลา 12  ปัจจัยเสี่ยง ประกอบด้วย 1. วิกฤตโรคระบาด 2. การชะลอตัวของเศรษฐกิจ 3. วิกฤตคนตกงาน  4. การขยายตัวของคนจน  5. วิกฤตการเมือง  6. วิกฤตทหาร  7. วิกฤตความเชื่อในสังคมไทย  8. ระเบิดรัฐธรรมนูญ  9. วิกฤตจากภายนอก (สงครามการค้า การเมือง การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ/การออกมาตรการใหม่ๆ ของประเทศขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐ จีน ยุโรป)  10. ความเปลี่ยนแปลงของอากาศ 11.  วิกฤตภาพลักษณ์ และ 12. วิกฤตศรัทธา

สำหรับคำแนะนำ เน้นเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีและมี ESGเนื่องจากเป็นหุ้นที่มีการเติบโตยั่งยืน  ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ และมีต้นทุนเงินลงทุน (Cost of Capital) ที่ต่ำกว่า  รวมทั้งหุ้นมีความผันผวนน้อยกว่าในระยะยาว ซึ่งหุ้นที่อยู่ในดัชนีหุ้นยั่งยืนและเราเลือกเป็นหุ้นเด่นในไตรมาส 4/64 ประกอบด้วย BDMS – ธีมเปิดเมืองและสังคมสูงวัย, KBANK – ธีมดิจิตอล แบงค์กิ้ง, GPSC - ธีมแบตเตอรี่และพลังงานทางเลือก, PTTEP – ธีมเปิดเมือง อุปสงค์น้ำมันสูงในช่วงฤดูหนาว และเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว, และ HFT – ธีมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

 

 


ด้านนายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา  ผู้อํานวยการอาวุโส  ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวถึง หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้ประโยชน์จากการที่ประเทศไทยมีความคืบหน้าเรื่องการฉีดวัคซีน  ลดการระบาด และติดเชื้อลดลง  ทำให้ภาครัฐออกโครงการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ เช่น โครงการ “เราเที่ยว ด้วยกันเฟส 3” , “ทัวร์เที่ยวไทย” และเริ่มเข้าสู่ไฮซีซันท่องเที่ยว  ฝ่ายวิจัยของบริษัทแนะนำ  ให้เลือกลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวเร็ว เช่น  MINT  , AOT , CPN , HMPRO , BTS

ขณะที่นายธนวัฒน์  ปัจฉิมกุล ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า  เศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปมีแนวโน้มกลับมาขยายตัว ซึ่งจะกระตุ้นเงินเฟ้อ ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เริ่มลดการผ่อนคลาย แต่แนวโน้มดอกเบี้ยยังคงต่ำมาก  ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนยังคงมองหาผลตอบแทนส่วนเพิ่ม ประกอบกับสภาพคล่องที่สูงก็เป็นปัจจัยหนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่อไป 

สำหรับในมุมมองบล.ดีบีเอสฯ  ตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วจะ outperform ตลาดเกิดใหม่ในช่วงที่เฟดลดการผ่อนคลาย ในขณะที่การเติบโตเศรษฐกิจโลกที่แผ่วลง จะส่งให้นักลงทุนโยกเข้าลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการเติบโต(growth) จึงแนะนำธีมการลงทุน เน้นการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตดีจากการเร่งลงทุนด้านวิจัย และพัฒนารวมทั้งขยายกำลังการผลิต โดยกลุ่มเทคโนโลยีมีการลงทุนเพิ่มมากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ จากที่เคยมีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 12% ของยอดลงทุนรวมทุกอุตสาหกรรมในปี 2551 ก็ได้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาที่ 18% ปีนี้ 

อย่างไรก็ตามนักลงทุนจะต้องตระหนักถึงปัจจัยความเสี่ยงจากความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน, การเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐบาล, เทคโนโลยี, สภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม, การลงทุนในอุตสาหกรรมเฉพาะมีความเสี่ยงสูงกว่าตลาดโดยรวม

 

นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์  ผู้ช่วยผู้อํานวยการ ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า  ในช่วงที่มีความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อสูง หลังจากที่สินทรัพย์ทางการเงินมีการปรับฐานในเรื่องเงินเฟ้อแล้ว การจัดสรรสินทรัพย์ทางการเงินรอบใหม่ ถ้าเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางดี จะทําให้มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่ม SET50 แต่จะมีแรงขายตราสารหนี้  แต่ถ้าแนวโน้มเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง จะมีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มทองคำและมีแรงขายตราสารหนี้ โดยภาพรวมตราสารหนี้เป็นลบทั้ง 2 สถานการณ์ในช่วงเงินเฟ้อสูง

สำหรับแนวโน้ม SET50 ทองคํา และค่าเงินบาท  ตามทิศทางเทคนิค SET50 ติดแนวต้าน 1000/1050 แกว่งตัวในกรอบ กรอบล่าง 900-880 ถ้าหลุดแนวกรอบล่างมีโอกาสปรับตัวลงยาว  ส่วนทองคําเริ่มมีโอกาสกลับมาสร้างฐานเพื่อปรับตัวขึ้น  ขณะที่ค่าเงินบาท หากยังไม่หลุดต่ำกว่า 33.50/33.30  ยังเป็นการแกว่งตัวเพื่ออ่อนค่า

17594

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. 64 ปรับตัวดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนจากการคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้มีการจับจ่ายและท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่เจอกดดันจากน้ำท่วมและน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยยังลดต่อเนื่อง เหตุกังวลโควิด-19 น้ำท่วม น้ำมันแพง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน ก.ย. 2564 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ เป็นการปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2564 โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ที่ 41.4 เพิ่มจาก 39.69 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 25.5 เพิ่มจาก 24.3 ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตอยู่ที่ 48.9 เพิ่มจาก 46.7 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเท่ากับ 35.5 ปรับตัวจาก 33.8 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวมอยู่ที่ 37.8 เพิ่มจาก 36.3 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 50.8 เพิ่มจาก 48.6

ปัจจัยที่ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น มาจาก ศบค.ได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 29 จังหวัดที่ครอบคลุมขนาดเศรษฐกิจประมาณ 80% ของจีดีพีไทย ส่งผลให้ประชาชนและภาคธุรกิจมีการจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวมากขึ้น และน่าจะดีกว่านี้หากไม่มีสถานการณ์น้ำท่วมและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นเกิน 30 บาทต่อลิตร ที่ส่งผลทางจิตวิทยาในเชิงลบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นไม่มากนัก โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสถานการณ์ปัจจุบัน

ทั้งนี้ ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ ที่ระดับ 100 แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคต เพราะมีความกังวลในวิกฤตโควิด-19 ในประเทศและทั่วโลก ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานมีโอกาสฟื้นตัวได้ช้า ซึ่งจะทำให้รายได้ในอนาคตของผู้บริโภคมีความไม่แน่นอนสูง รวมทั้งยังมีความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่เป็นตัวกดดันความเชื่อมั่น

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศคลี่คลาย ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน จำนวนผู้เสียชีวิต และมีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น โดยที่ไม่มีการแพร่ระบาดอีก และรัฐบาลมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์เพิ่มขึ้น มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคตได้ และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัว 1-1.5% ได้

สำหรับผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือน ก.ย. 2564 อยู่ที่ระดับ 19.4 ลดจาก 19.8 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 33 เดือน และปรับตัวลดลงในทุกภาคต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 เพราะมีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งปัจจุบันและอนาคต ผลกระทบจากน้ำท่วมที่สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร ความกังวลต่อเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาค่าครองชีพสูง และราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น โดยผู้ประกอบการขอให้รัฐบาลผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เร่งจัดหาวัคซีนมาฉีดให้เพียงพอ เปิดประเทศแบบมีมาตรการที่รัดกุม และเตรียมแผนรับมือน้ำและกักเก็บน้ำให้สมดุล

17595
 สืบสานศิลปหัตถกรรมไทย ด้านช่างสิบหมู่ ในลักษณะของงานประณีตศิลป์ เครื่องโลหะ
เครื่องสูง ฉัตร ฉัตรโลหะ  เครื่องทรงพระ เรือสุพรรณหงส์จำลอง เน้นความปราณีต สวยสดงดงาม
อันทรงคุณค่าให้เคียงคู่กับพื้นปฐพีไทยตลอดไป

บริการของเรา

รับทำฉัตรยอดเจดีย์ ทุกจำพวก ทุกขนาด เน้นย้ำความแข็งแรง งดงาม ของลวดลาย รูปทรง ทางศิลป์ไทยที่ตกทอดกันมา พร้อมตอบโจทย์ทุกปัญหาโทรมา มรดกช่าง





รับทำพระประธาน
รับทำฉัตรพระบูชา
รับออกแบบลวดลาย รูปทรง ทำด้วย วัสดุ ทอง เงิน นาค ทองแดงทองสัมฤทธิ์ กะไหล่ทอง ปิดทองคำเปลวแบบโบราณ ตามลักษณะ ขนชนิดและก็ขนาดขององค์พระประธาน พระบูชา และก็ให้คำปรึกษาโดยอาจารย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

รับทำเครื่องทรงพระ ทุกหมวดหมู่ทุกขนาด ทำด้วยวัสดุทอง เงิน นาค ทองแดงกะไหล่ทองเน้นย้ำความงดงามปราณีต ของผลงาน สลักดุนลวดลายตามลักษณะงานโบราณ ที่ทำสืบทอดกันมาตามยุคตามสมัยจากข้อมูลเดิมของศิลป์ประเภทนั้นๆ

รับทำ เครื่องทรงพระฤดูร้อน
รับทำ เครื่องทรงพระฤดูร้อน
รับทำ เครื่องพระฤดูหนาว





รับทำเรือสุพรรณหงส์จำลองทำด้วยวัสดุโลหะ ลงรักปิดทอง เขียนสี

รับทำเครื่องทองสลักดุน ลวดลาย

รับทำ พานรองสลักดุน ลวดลาย

รับเลี่ยมหอยสังข์ พร้อมพานมันสี สลับดึนลวดลาย



 
 

17596
ลูกอมพระแม่ธรณี

จัดสร้างจากดินใต้ฐานพระแม่ธรณี ผงมหาจักรพรรดิ และมวลสารอื่น ๆ ช่วยในเรื่องการขายบ้าน ขายที่ดิน

17600
ผู้หญิงควรทานข้าวกล้องออแกนิกน้ำตาลต่ำ Low GI ข้าวอร่อยสำหรับคุณแม่ตั้งท้อง ข้าวสุรินทร์ 100%
 โครงการข้าวอินทรีย์  เส้นทางผลิตข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ส่งเสริม ผลิตข้าวอินทรีย์  ข้าวออร์แกนิคไทยมีราคาแพง

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ …..ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค (ข้าวเพื่อสุขภาพ)
        การรับประทาน “#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ ข้าวออแกนิคคือ ” ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  “#ข้าวกล้องออร์แกนิค”  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1. ข้าวมะลินิลออแกนิก, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคสำหรับทารก, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.   ข้าวหอมมะลิออแกนิคสำหรับทารก, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิสุขภาพ, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ขายข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ข้าวผกาอำปึลออแกนิคคือ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.  ข้าวหอมมะลิแดงออร์แกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9. ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ “ข้าวกล้องออร์แกนิค”  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ “ข้าวกล้องออร์แกนิก”  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ปลูกข้าวหอมมะลิออแกนิค
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวอินทรีย์หอมมะลิ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์
3.ข้าวปะกาอำปึล  ข้าวผกาอำปึลเพื่อสุขภาพ (ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสารพิษจังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค 6. ข้าวกล้องหอมมะลินิลเพื่อสุขภาพ
7. ข้าวไรซ์เบอรี่เพื่อสุขภาพ   ข้าวไรซ์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

17601
ลูกอมพระแม่ธรณี

จัดสร้างจากดินใต้ฐานพระแม่ธรณี ผงมหาจักรพรรดิ และมวลสารอื่น ๆ ช่วยในเรื่องการขายบ้าน ขายที่ดิน

17602
ในขณะที่การแข่งขันพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เริ่มซาลง ล่าสุดวงการยาเริ่มกลับมาฝุ่นตลบอีกครั้ง เมื่อบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการหลายรายต่างเริ่มทดลองยาต้านไวรัสโรคโควิด-19 แบบเม็ดในระดับการวิจัยทางคลินิก หรือการทดลองในมนุษย์ พร้อมตั้งเป้าวางจำหน่ายทั่วโลกในปี 2565 แบบพร้อมเพรียงกัน หวังชิงตอบโจทย์ความต้องการวิธีการรับมือไวรัสที่ง่าย รวดเร็วและราคาถูกกว่าการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่คาดว่าจะบูมขึ้นในช่วงถัดไปของการระบาด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นอกจาก “เมอร์ค” (Merck) และ “ริดจ์แบ็ก ไบโอเทราพิวติกส์” (Ridgeback Biotherapeutics) ที่เพิ่งประกาศความสำเร็จในการทดลองเฟส 3 ของยาเม็ด “โมลนูพิราเวียร์” (molnupiravir) ว่าสามารถรักษาอาการป่วย และลดการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้ถึง 50%

แม้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการทดลองนี้จะยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ และยังไม่เผยแพร่ต่อสาธารณชน แต่บริษัทเตรียมขออนุญาตองค์กรอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ เพื่อนำมาใช้ในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงเดินสายการผลิตยาตัวนี้จำนวนมากถึง 10 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2564 นี้แล้ว

ผู้เล่นรายใหญ่ในวงการยารายอื่น ๆ เช่น “ไฟเซอร์” และ “โรช” (Roche) รวมไปถึงบริษัทยาสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง “ชิโอโนกิ” (Shionogi) และ “ชูไก” (Chugai) ต่างเริ่มการทดลองยาเม็ดต้านไวรัสโรคโควิด-19 ในสูตรของตนเองด้วยเช่นกัน


โดยไฟเซอร์อยู่ระหว่างพัฒนาและทดลองยา 2 สูตร ทั้งแบบเม็ดสำหรับทาน และแบบฉีดทางเส้นเลือดดำ ซึ่งอาศัยการต่อยอดจากโนว์ฮาวการพัฒนายารักษาโรคติดเชื้อในทางเดินหายใจแบบรุนแรงเฉียบพลัน หรือโรคซาร์ส (SARS) ที่เริ่มระบาดในประเทศจีน เมื่อปี 2545 โดยยาทั้ง 2 ตัวนี้มุ่งใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเพียงเล็กน้อย หรือปานกลางในระดับที่ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นหลัก

คาดว่าข้อมูลการทดลองทางคลินิกจากการทดลองของไฟเซอร์จะได้รับการเผยแพร่ต่อสาธารณชนในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคมที่จะถึงนี้ ส่วนตัวยาจะพร้อมใช้งานจริงในช่วงต้นปีหน้า

ด้านบริษัทยาสัญชาติญี่ปุ่นนั้นเลือกโฟกัสการพัฒนายาแบบทานเป็นหลัก โดยชิโอโนกิเริ่มทดลองทางระยะที่ 1 ไปเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา และเตรียมทดลองทางคลินิกแบบกลุ่มใหญ่ก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อให้ทันตามเป้าหมายที่จะนำยาตัวนี้ออกวางจำหน่ายในปี 2565 ไปในทิศทางเดียวกับชูไก บริษัทในเครือของโรช ที่ซื้อสิทธิ์การพัฒนาและทำตลาดยาต้านไวรัสโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่น มาจากบริษัทแม่ ซึ่งตั้งเป้าให้ยาของตนพร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกภายในปี 2565 เช่นกัน

ขณะเดียวกัน คาดว่านอกจากญี่ปุ่นจะเป็นผู้พัฒนาและผลิตยาแล้ว ยังจะเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับยารักษาโรคโควิด-19 อีกด้วย เนื่องจากระบบอนุญาตให้ใช้ยาและการรักษาแบบฉุกเฉินโดยไม่ต้องผ่านการรับของหน่วยงานอาหารและยาของญี่ปุ่นนั้น มีฟาสต์แทร็กสำหรับยาและการรักษาที่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ฉุกเฉินในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และอื่น ๆ โดยจะใช้เวลาตรวจสอบเพียง 2 เดือน


ดังนั้น หากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ อนุญาตให้ใช้ยาต้านไวรัสของเมอร์ค หรือไฟเซอร์ ภายในสิ้นปีนี้ ยาดังกล่าวจะสามารถจำหน่ายและใช้งานภายในญี่ปุ่นตามไปด้วย ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงต้นปี 2565

ทั้งนี้ ความต้องการตัวเลือกใหม่ ๆ ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่รวดเร็วและราคาจับต้องได้มีอยู่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการรักษาในปัจจุบัน อาทิ แอนติบอดี้ค็อกเทลนั้นมีความเสี่ยงสูง และต้องใช้การให้ทางหลอดเลือดเท่านั้น อีกทั้งยังใช้เวลาค่อนข้างนานมาก เพราะการรับยา 1 รอบต้องใช้เวลาถึง 3-4 ชั่วโมง

ส่วนยาโรนาพรีวี (Ronapreve) ที่พัฒนาโดยบริษัทรีเจเนอรอล ฟาร์มาซูติคัล และโรช นั้นก็มีราคาสูงถึงโดสละ 2,100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7 หมื่นบาทเลยทีเดียว ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างจำกัด แตกต่างจากยาแบบทานอย่างทามิฟลู (Tamiflu) ซึ่งผู้ป่วยสามารถรับไปทานเองได้ที่บ้าน

นอกจากนี้ ยาต้านไวรัสนั้นทำงานโดยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส จึงมีโอกาสสูงที่จะใช้ได้ผลกับเชื้อกลายพันธุ์หลายตัวโดยไม่ต้องพัฒนาเป็นสูตรเฉพาะแบบวัคซีน และยังผลิตได้ง่าย อาศัยเพียงโรงงานและเครื่องจักรผลิตยาที่มีอยู่แล้ว ทำให้มีต้นทุนเพียง 1 ใน 10 ของการผลิตแอนติบอดี้ค็อกเทลเท่านั้น

ดร.ลีอานา เวน อดีตกรรมาธิการสาธารณสุขของรัฐบัลติมอร์ สหรัฐอเมริกา อธิบายว่า การมียาต้านไวรัสในรูปแบบเม็ด ผู้ป่วยสามารถใช้ได้เองนั้นจะลดภาระของระบบสาธารณสุขลงได้อย่างมหาศาล

การเร่งพัฒนายาต้านไวรัสแบบเม็ดนี้น่าจะทำให้ผู้คนทั่วโลกสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้รวดเร็วขึ้น พร้อมสร้างความคึกคักให้กับวงการยาไปด้วย

หน้า: 1 ... 976 977 [978] 979 980 ... 1022