แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - rayamkit

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 29
22
คงมีสาวๆหลายคนที่ต้องเจอะเจอกับปัญหาต้นแขนใหญ่ที่คอย รังควานอยู่เป็นประจำ ไม่มั่นใจในการใส่เสื้อโชว์แขน วันนี้เรามีวิธีลดต้นแขนหลายวิธีมาฝากคุณสาวๆคะ แต่เรามารู้ถึงต้นสายปลายเหตุที่ต้นแขนใหญ่นั่นมาจากอะไรกันก่อนกว่าดีกว่า เหตุผลใหญ่ ๆ 2 ต้นเหตุที่ทำให้ต้นแขนใหญ่ คือ
1.ต้นแขนที่ใหญ่จากการทำงาน อย่างหนักโดยการออกแรงยกของ แบกของหรือทำงานโดยใช้แรงงานมาก ถ้าจับดูที่ต้นแขนจะรู้สึกตึงมือแน่น ก็เพราะว่ามีแต่กล้ามเนื้อ สำหรับวิธีลดต้นแขนที่ใหญ่เนื่องจากการทำงานหนักนี้ ต้องแก้ปัญหาที่วิธีการทำงานคือ ต้อง[^_^]หรือปริมาณงานที่ต้องทำงานให้ลดลง จึงจะเป็นวิธีช่วยลดต้นแขนในเรื่องนี้ได้
2.ต้นแขนที่ใหญ่จากการสะสมของไขมันบริเวณต้นแขน ถ้าใช้มือจับดูจะรู้สึกว่าต้นแขนนั้นใหญ่แต่ตัวแต่ไม่มีความแข็งแรงและความแน่นของ กล้ามเนื้อ จะนุ่นนิ่ม เหลว เพราะเป็นไขมันที่เก็บอยู่บริเวณต้นแขนนั่นเอง วิธีลดต้นแขนในกรณีนี้ต้องใช้วิธีการบริหารร่างกายโดย บริหารร่างกายเบา ๆ ไม่ต้องเน้นหนักที่ความหนักเบา แต่ให้มุ่งเน้นที่ความถี่คือบริหารร่างกายให้บ่อยครั้งเข้าไว้
ซึ่งสาวๆเป็นส่วนใหญ่มีปัญหาต้นแขนใหญ่เนื่องมาจากการสั่งสมของไขมันบริเวณต้นแขน เราจึงแนะวิธีลดต้นแขนดังต่อไปนี้
1.เวทเทรนนิ่ง จับดัมเบลล์หนึ่งกก. หรือขวดน้ำหนึ่งลิตรมาทำตามนี้
-นั่งหรือยืนถือดัมเบลล์ในระดับศีรษะ ข้อศอกทั้งคู่งอราว 90 องศา แล้วค่อย ๆ ออกกำลังยกดัมเบลล์ขึ้นให้สุดแขน หันอุ้งมือออกไปข้างหน้า ไม่แอ่นหลังและไม่ก้ม
-นั่งหรือยืนตัวตรง มือข้างหนึ่งถือดัมเบลล์ไว้ด้านหลังศีรษะ โดยงอข้อศอกไว้ จากนั้น ค่อย ๆ ออกกำลังยืดแขนให้ชี้ตรงขึ้นเพดาน สลับข้างซ้าย-ขวา
-นั่งตรงขอบเก้าอี้ถือเวทหรือขวดน้ำที่มีสัดส่วนพอเหมาะมือ แล้วก้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อยใช้มือซ้ายยันเข่าเพื่อพยุงตัว ส่วนข้อศอกขวายึดไว้กับเข่าขวาด้านในยกเวทหรือขวดน้ำเข้าหาไหล่ทำสัก 20 ครั้ง สลับกันทั้งสองข้าง
-ถือขวดน้ำข้างละใบไว้ที่ระดับบั้นท้ายค่อย ๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัว แล้วเหวี่ยงไปด้านหลัง วนเป็นรูปวงกลมทำโดยประมาณ 10 รอบ แล้วเปลี่ยนสลับข้าง
-ยืนกางขาให้พอเหมาะกับหัวไหล่ 2 ข้าง แล้วถือดัมเบลล์ (หรือขวดน้ำ) แบบหงายมือวางแนบทิ้งกับลำตัว แล้วเกร็งแขน ยกดัมเบลล์ ในท่าพับศอกขึ้นมาชิดหัวไหล่ ค่อยๆทำช้าๆ ขึ้นๆ ลงๆ สลับซ้ายขวา วันละ 20 ครั้ง
-ยืนกางขาพอดีกับหัวไหล่ ในมือถือดัมเบลล์ทั้งมือซ้ายและมือขวาอย่างละอัน โดยถือแบบคว่ำมือวางชิดกับลำตัว จากนั้นให้เกร็งแขนแล้วยกดัมเบลล์ขึ้นมาโดยไม่งอแขน ยกขึ้นมาให้ขนานกับพื้นในระดับที่พอดีกับหัวไหล่ ค่อยๆทำขึ้นๆ ลงๆ วันละ 20 ครั้ง
-ยืนกางขาพอโดยประมาณ ย่อเข่าเพียงเล็กน้อย แล้วใช้มือทั้งสองข้างจับดัมเบลล์ 1 อัน ค่อยๆ ชูขึ้นเหนือหัว เหยียดแขนทั้งสองให้ตรงค้างไว้ครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆพับแขนลงข้างหลังให้เป็นรูปตัว L คว่ำ ขั้นตอนนี้ ควรจับให้แน่นเพื่อป้องกันอันตราย ทำวันละ 20 ครั้ง
2.ใช้ฮูลาฮูปที่มีขายทั่ว ๆไปเอามาใช้หมุนไปรอบ ๆ แขนแทนที่จะเป็นเอว เริ่มจากต้นแขนแล้วไล่ลงไปจนถึงข้อมือเปลี่ยนกันซ้าย-ขวา หรือจะทำพร้อมกันสองข้างเลยก็ได้
3.โดดเชือกบ่อยๆช่วยให้แขนเล็กลงได้ ทั้งนี้เพราะตลอดเวลาที่เล่นแขนเราจะเกร็ง แถมมีการหมุนแขนขยับเขยื้อนตลอดเวลาด้วย สักวันละร้อยครั้งไม่นานก็จะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง
4.การชกลมโดยการก้าวเท้าซ้ายหรือขวาไปข้างหน้า ยืนให้มั่นคง แล้วกำหมัดเปล่า ๆ ชกตรงออกไป เวลาชกต้องดูให้ขาข้างที่ชกเหยียดตึง สะโพกบิดตามการชกเล็กน้อย สลับกันซ้าย-ขวา ท่อนแขนและหัวไหล่ก็จะได้สัดส่วนและกระชับขึ้นมากเลยทีเดียว
5.เปลี่ยนแปลงความประพฤติของตัวเอง โดยการควบคุมอาหารการกินควบคู่การออกกำลังกายไปด้วย เราต้องรับประทานอาหารที่มีคุณค่า และลดอาหารประเภททอด ๆ ที่มีไขมันสูง แป้ง น้ำตาลไปเสียบ้าง แล้วเวลาว่างควรจะขยับร่างกายบ่อยโดยการใช้แขนในการทำสิ่งต่างๆ แล้วเกร็งแขนไปในตัว เช่นว่า การยกหนังสือ ยกของที่มีน้ำหนัก เป็นต้น
สารพัดสารพันวิธีลดต้นแขนนี้ลองไปฝึกทำตามกันดูนะค่ะ เพราะเป็น วิธีลดต้นแขน แบบง่าย ๆ สามารถทำเองได้ที่บ้านที่สำคัญเปลืองเวลาไม่มาก และเมื่อคุณมีแขนที่เรียวเล็กสมใจแล้วก็จะได้ใส่เสื้อโชว์แขนได้อย่างมั่นอกมั่นใจกันเลยทีเดียวค่ะ

เครดิต : https://www.minebeauty.com/สารพัดวิธีลดต้นแขน/

Tags : ลดต้นแขน

25
การตั้งครรภ์เดือนที่ 6
"การตั้งครรภ์" ช่วงเดือนที่ 6 คุณพ่อคุณแม่เริ่มที่จะนับวันเวลาที่ลูกจะออกมาสู่โลกภายนอกแล้วนะคะ คุณแม่เองก็เฝ้าฟูมฟักรักษาลูกในครรภ์ อยากเห็นหน้าลูก อยากกอดลูก และช่วงนี้คุณแม่ก็ต้องระแวดระวังการทำงาน การเดินหน การนอนให้มากขึ้นด้วยเหตุว่าท้องเริ่มใหญ่มากและมดลูกขยายใหญ่คุณแม่ต้องรับน้ำหนักจากเจ้าตัวน้อยเพิ่มขึ้น เพราะเช่นนั้นการนั่ง การนอน การเดินก็ควรจะมีการระมัดระวังตัวมากขึ้นนั่นเองค่ะ
พัฒนาการของตัวอ่อนเดือนที่หก
ช่วงเดือนที่ 6 ทารกลืมตาได้ ผิวหนังเริ่มหนาขึ้นเล็กน้อย (แต่ก็ยังแลเห็นเส้นเลือดอยู่ค่ะ) ถุงลมในปอดพัฒนาสมบูรณ์ ทารกเริ่มแยกเสียงได้ ผมและเล็บเท้าจะเริ่มงอก สมองจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ระบบประสาทเริ่มทำงาน ในเด็กหญิงจะเริ่มสร้างไข่ในรังไข่ ลายนิ้วมือนิ้วเท้าเริ่มมองเห็นชัดเจน หน้าตาของทารกชัดเจน แต่ผิวหนังของทารกยังคงบางอยู่จะเห็นเป็นสีออกแดงระเรื่อและดูเหี่ยวย่น เนื่องจากยังมีไขมันมาเก็บตามร่างกาย และต่อมเหงื่อได้มีการพัฒนาขึ้นภายใต้ผิวหนัง
หากคุณแม่คอยสังเกตความเคลื่อนไหวของทารกจะรู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหว หมุนตัว เตะ หรือชก เกิดจากอวัยวะใดของทารก ส่วนที่นูนขึ้นมาตรงหน้าท้องของคุณคือส่วนไหน อาจทำให้คุณสามารถนึกภาพถึงกิจกรรมต่างๆของทารกได้ ส่วนอวัยวะทั้งหมดของทารกสามารถทำงานได้แล้ว ยกเว้นปอด เพราะปอดของทารกตอนนี้ยังเต็มไปด้วยน้ำคร่ำ และยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกจนกว่าถุงลมปอดจะสามารถทำการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้
การแปรเปลี่ยนทางร่างกายของคุณแม่
มดลูกเริ่มมีการหดรัดตัว (ตระเตรียมความพร้อมในการคลอดบุตร)
ตำแหน่งของยอดมดลูกจะอยู่เหนือสะดือขึ้นมาเล็กน้อย
ทารกจะมีการเคลื่อนไหวจนสามารถแยกออกได้ว่าเป็นอวัยวะส่วนใด
จะรู้สึกคัดตึงนมมากขึ้น
เต้านมขยายโตขึ้นเรื่อยๆ
น้ำหนักตัวจะมากขึ้น (ร่างกายมีการสะสมน้ำไว้มาก)
ช่วงนี้คุณแม่อาจจะรู้สึกร้อนอยู่บ่อยๆ
ผิวหนังหน้าท้องอาจจะมีลายแตกมาก การแปรเปลี่ยนทางร่างกายของคุณแม่หน้าท้องมีการขยายออก อย่างรวดเร็ว
เท้าจะบวมเยอะขึ้น
ข้อพึงกระทำตัวของคุณแม่
รับประทานอาหารที่มีคุณค่า (ควรเสริมธาตุเหล็กให้ได้มากที่สุด)
ควรรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง (ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก)
ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว หรือเยอะกว่าเดิม (ดื่มน้ำผลไม้ก่อนนอนด้วยนะคะ)
อาจจะรู้สึกคันหน้าท้องที่ขยายและแตก ควรใช้ครีมบำรุงชโลมบ่อยๆ ลูบเบาๆนะคะ
พักผ่อนให้เพียงพอ
บริหารร่างกายเบาๆ เป็นประจำอย่าหักโหม
ไปพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ตั้งครรภ์ 6 เดือน

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.minebeauty.com/การตั้งครรภ์เดือนที่-6/

Tags : ท้อง 6 เดือน,ตั้งครรภ์ 6 เดือน,ท้อง6 ดือน

27
การตั้งครรภ์เดือนที่ 6
"การตั้งครรภ์" ช่วงเดือนที่ 6 พ่อแม่เริ่มที่จะนับวันเวลาที่ลูกจะออกมาสู่โลกภายนอกแล้วนะคะ คุณแม่เองก็เฝ้าฟูมฟักรักษาลูกในครรภ์ อยากเห็นหน้าลูก อยากกอดลูก และช่วงนี้คุณแม่ก็ต้องระวังระไวการทำงาน การก้าวเดิน การนอนให้มากขึ้นเนื่องจากท้องเริ่มใหญ่มากและมดลูกขยายใหญ่คุณแม่ต้องรับน้ำหนักจากเจ้าตัวน้อยเพิ่มขึ้น เพราะเช่นนั้นการนั่ง การนอน การเดินก็ควรจะมีการระมัดระวังตัวมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ความเจริญของตัวอ่อนเดือนที่หก
ช่วงเดือนที่ 6 ทารกลืมตาได้ ผิวหนังเริ่มหนาขึ้นเล็กน้อย (แต่ก็ยังเห็นเส้นเลือดอยู่ค่ะ) ถุงลมในปอดพัฒนาสมบูรณ์ ทารกเริ่มแยกเสียงได้ ผมและเล็บเท้าจะเริ่มงอก สมองจะเติบโตอย่างเร็ว ระบบประสาทเริ่มทำงาน ในเด็กหญิงจะเริ่มสร้างไข่ในรังไข่ ลายนิ้วมือนิ้วเท้าเริ่มมองเห็นชัด หน้าตาของทารกชัดเจน แต่ผิวหนังของทารกยังคงบางอยู่จะเห็นเป็นสีออกแดงระเรื่อและดูเหี่ยวย่น เนื่องจากยังมีไขมันมาสะสมตามร่างกาย และต่อมเหงื่อได้มีการพัฒนาขึ้นภายใต้ผิวหนัง
ถ้าหากคุณแม่คอยสังเกตการเคลื่อนไหวของทารกจะรู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหว หมุนตัว เตะ หรือชก เกิดจากอวัยวะใดของทารก ส่วนที่นูนขึ้นมาตรงหน้าท้องของคุณคือส่วนไหน อาจทำให้คุณสามารถจินตนาการถึงกิจกรรมต่างๆของทารกได้ ส่วนอวัยวะทั้งหมดของทารกสามารถทำงานได้แล้ว ยกเว้นปอด เนื่องจากปอดของทารกตอนนี้ยังเต็มไปด้วยน้ำคร่ำ และยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกจนกว่าถุงลมปอดจะสามารถทำการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของคุณแม่
มดลูกเริ่มมีการหดรัดตัว (ตระเตรียมความพร้อมในการคลอด)
ตำแหน่งของยอดมดลูกจะอยู่เหนือสะดือขึ้นมานิดหน่อย
ทารกจะมีความเคลื่อนไหวจนสามารถแยกออกได้ว่าเป็นอวัยวะส่วนใด
จะรู้สึกคัดตึงเต้านมมากขึ้น
เต้านมขยายโตขึ้นเรื่อยๆ
น้ำหนักตัวจะมากขึ้น (ร่างกายมีการสะสมน้ำไว้มาก)
ช่วงนี้คุณแม่อาจจะรู้สึกร้อนอยู่บ่อยๆ
ผิวหนังหน้าท้องอาจจะมีลายแตกมาก การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของคุณแม่หน้าท้องมีการขยายออก โดยเร็ว
เท้าจะบวมเพิ่มมากขึ้น
ข้อพึงกระทำตัวของคุณแม่
ทานข้าวที่มีคุณค่า (ควรเสริมธาตุเหล็กให้ได้มากที่สุด)
ควรกินผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง (ช่วยในการดูดซับธาตุเหล็ก)
ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว หรือมากกว่าเดิม (ดื่มน้ำผลไม้ก่อนนอนด้วยนะคะ)
อาจจะรู้สึกคันหน้าท้องที่ขยายและแตก ควรใช้ครีมบำรุงลูบบ่อยๆ ลูบเบาๆนะคะ
พักผ่อนให้พอ
บริหารร่างกายเบาๆ สม่ำเสมออย่าโหม
ไปพบหมอตามนัดแนะทุกครั้ง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ตั้งครรภ์ 6 เดือน

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.minebeauty.com/การตั้งครรภ์เดือนที่-6/

Tags : ท้อง 6 เดือน,ตั้งครรภ์ 6 เดือน

28
การตั้งครรภ์เดือนที่ 6
"การตั้งครรภ์" ช่วงเดือนที่ 6 คุณพ่อคุณแม่เริ่มที่จะนับวันเวลาที่ลูกจะออกมาสู่โลกภายนอกแล้วนะคะ คุณแม่เองก็เฝ้าฟูมฟักลูกในครรภ์ อยากเห็นหน้าลูก อยากกอดลูก และช่วงนี้คุณแม่ก็ต้องระวังระไวการทำงาน การก้าวเดิน การนอนให้มากขึ้นเหตุว่าท้องเริ่มใหญ่มากและมดลูกขยายใหญ่คุณแม่ต้องรับน้ำหนักจากเจ้าตัวน้อยมากขึ้น เพราะฉะนี้การนั่ง การนอน การเดินก็ควรจะมีการระวังตัวมากขึ้นนั่นเองค่ะ
พัฒนาการของตัวอ่อนเดือนที่หก
ช่วงเดือนที่ 6 ทารกลืมตาได้ ผิวหนังเริ่มหนาขึ้นเล็กน้อย (แต่ก็ยังเห็นเส้นโลหิตอยู่ค่ะ) ถุงลมในปอดพัฒนาสมบูรณ์ ทารกเริ่มจำแนกเสียงได้ ผมและเล็บเท้าจะเริ่มงอก สมองจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ระบบประสาทเริ่มทำงาน ในเด็กหญิงจะเริ่มสร้างไข่ในรังไข่ ลายนิ้วมือนิ้วเท้าเริ่มมองเห็นชัดเจน หน้าตาของทารกชัดเจน แต่ผิวหนังของทารกยังคงบางอยู่จะเห็นเป็นสีออกแดงระเรื่อและดูเหี่ยวย่น เนื่องจากยังมีไขมันมาเก็บตามร่างกาย และต่อมเหงื่อได้มีการพัฒนาขึ้นภายใต้ผิวหนัง
ถ้าคุณแม่คอยสังเกตการเคลื่อนไหวของทารกจะรู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหว หมุนตัว เตะ หรือชก เกิดจากอวัยวะใดของทารก ส่วนที่นูนขึ้นมาตรงหน้าท้องของคุณคือส่วนไหน อาจทำให้คุณสามารถนึกคิดถึงกิจกรรมต่างๆของทารกได้ ส่วนอวัยวะทั้งหมดของทารกสามารถทำงานได้แล้ว ยกเว้นปอด เพราะว่าปอดของทารกตอนนี้ยังเต็มไปด้วยน้ำคร่ำ และยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกจนกว่าถุงลมปอดจะสามารถทำการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้
การแปรเปลี่ยนทางร่างกายของคุณแม่
มดลูกเริ่มมีการหดรัดตัว (ตระเตรียมความพร้อมในการคลอดบุตร)
ตำแหน่งของยอดมดลูกจะอยู่เหนือสะดือขึ้นมานิดหน่อย
ทารกจะมีความเคลื่อนไหวจนสามารถแยกออกได้ว่าเป็นอวัยวะส่วนใด
จะรู้สึกคัดตึงหน้าอกมากขึ้น
เต้านมขยายโตขึ้นเรื่อยๆ
น้ำหนักตัวจะมากขึ้น (ร่างกายมีการสั่งสมน้ำไว้มาก)
ช่วงนี้คุณแม่อาจจะรู้สึกร้อนอยู่บ่อยๆ
ผิวหนังหน้าท้องอาจจะมีลายแตกมาก การแปรเปลี่ยนทางร่างกายของคุณแม่หน้าท้องมีการขยายออก อย่างเร็ว
เท้าจะบวมเพิ่มขึ้น
ข้อควรปฏิบัติตัวของคุณแม่
รับประทานข้าวที่มีคุณภาพ (ควรเสริมธาตุเหล็กให้ได้มากที่สุด)
ควรรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง (ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก)
ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว หรือเยอะกว่าเดิม (ดื่มน้ำผลไม้ก่อนนอนด้วยนะคะ)
อาจจะรู้สึกคันหน้าท้องที่ขยายและแตก ควรใช้ครีมบำรุงทาบ่อยๆ ลูบเบาๆนะคะ
พักผ่อนให้พอ
ออกกำลังกายเบาๆ สม่ำเสมออย่าหักโหม
ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ตั้งครรภ์ 6 เดือน

เครดิต : https://www.minebeauty.com/การตั้งครรภ์เดือนที่-6/

Tags : ท้อง6 ดือน

29
การตั้งครรภ์เดือนที่ 6
"การตั้งครรภ์" ช่วงเดือนที่ 6 พ่อแม่เริ่มที่จะนับวันเวลาที่ลูกจะออกมาสู่โลกภายนอกแล้วนะคะ คุณแม่เองก็เฝ้าฟูมฟักลูกในครรภ์ อยากเห็นหน้าลูก อยากกอดลูก และตอนนี้คุณแม่ก็ต้องระแวดระวังการทำงาน การก้าวเดิน การนอนให้เยอะขึ้นทั้งนี้เพราะท้องเริ่มใหญ่มากและมดลูกขยายใหญ่คุณแม่ต้องรับน้ำหนักจากเจ้าตัวน้อยมากขึ้น เหตุฉะนี้การนั่ง การนอน การเดินก็ควรจะมีการระมัดระวังตัวมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ความเจริญของตัวอ่อนเดือนที่หก
ช่วงเดือนที่ 6 ทารกลืมตาได้ ผิวหนังเริ่มหนาขึ้นเล็กน้อย (แต่ก็ยังมองเห็นเส้นเลือดอยู่ค่ะ) ถุงลมในปอดพัฒนาสมบูรณ์ ทารกเริ่มแยกเสียงได้ ผมและเล็บเท้าจะเริ่มงอก สมองจะเจริญเติบโตโดยเร็ว ระบบประสาทเริ่มทำงาน ในเด็กหญิงจะเริ่มสร้างไข่ในรังไข่ ลายนิ้วมือนิ้วเท้าเริ่มเห็นชัดเจน หน้าตาของทารกชัดเจน แต่ผิวหนังของทารกยังคงบางอยู่จะเห็นเป็นสีออกแดงระเรื่อและดูเหี่ยวย่น เนื่องจากยังมีไขมันมาเก็บตามร่างกาย และต่อมเหงื่อได้มีการพัฒนาขึ้นภายใต้ผิวหนัง
ถ้าหากคุณแม่คอยสังเกตความเคลื่อนไหวของทารกจะรู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหว หมุนตัว เตะ หรือชก เกิดจากอวัยวะใดของทารก ส่วนที่นูนขึ้นมาตรงหน้าท้องของคุณคือส่วนไหน อาจทำให้คุณสามารถจินตนาการถึงกิจกรรมต่างๆของทารกได้ ส่วนอวัยวะทั้งหมดของทารกสามารถทำงานได้แล้ว ยกเว้นปอด เหตุว่าปอดของทารกตอนนี้ยังเต็มไปด้วยน้ำคร่ำ และยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกจนกว่าถุงลมปอดจะสามารถทำการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้
การแปรเปลี่ยนทางร่างกายของคุณแม่
มดลูกเริ่มมีการหดรัดตัว (ตระเตรียมความพร้อมในการคลอดบุตร)
ตำแหน่งของยอดมดลูกจะอยู่เหนือสะดือขึ้นมาเล็กน้อย
ทารกจะมีความเคลื่อนไหวจนสามารถแยกออกได้ว่าเป็นอวัยวะส่วนใด
จะรู้สึกคัดตึงหน้าอกมากขึ้น
เต้านมขยายโตขึ้นเรื่อยๆ
น้ำหนักตัวจะเพิ่ม (ร่างกายมีการสะสมน้ำไว้มาก)
ช่วงนี้คุณแม่อาจจะรู้สึกร้อนอยู่บ่อยๆ
ผิวหนังหน้าท้องอาจจะมีลายแตกมาก การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของคุณแม่หน้าท้องมีการขยายออก อย่างรวดเร็ว
เท้าจะบวมมากขึ้น
ข้อพึงปฏิบัติตัวของคุณแม่
ทานอาหารที่มีคุณภาพ (ควรเสริมธาตุเหล็กให้ได้มากที่สุด)
ควรทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง (ช่วยในการดูดซับธาตุเหล็ก)
ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว หรือเยอะกว่าเดิม (ดื่มน้ำผลไม้ก่อนนอนด้วยนะคะ)
อาจจะรู้สึกคันหน้าท้องที่ขยายและแตก ควรใช้ครีมบำรุงทาบ่อยๆ ลูบเบาๆนะคะ
พักผ่อนให้พอ
บริหารร่างกายเบาๆ เป็นประจำอย่าหักโหม
ไปเจอแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ท้อง 6 เดือน

ที่มา : https://www.minebeauty.com/การตั้งครรภ์เดือนที่-6/

Tags : ท้อง 6 เดือน,ตั้งครรภ์ 6 เดือน

30
การตั้งครรภ์เดือนที่ 6
"การตั้งครรภ์" ช่วงเดือนที่ 6 พ่อแม่เริ่มที่จะนับวันเวลาที่ลูกจะออกมาสู่โลกภายนอกแล้วนะคะ คุณแม่เองก็เฝ้าฟูมฟักลูกในครรภ์ อยากเห็นหน้าลูก อยากกอดลูก และช่วงนี้คุณแม่ก็ต้องระวังระไวการทำงาน การก้าวเดิน การนอนให้เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากท้องเริ่มใหญ่มากและมดลูกขยายใหญ่คุณแม่ต้องรับน้ำหนักจากเจ้าตัวน้อยเพิ่มขึ้น ฉะนั้นการนั่ง การนอน การเดินก็ควรจะมีการระวังตัวมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ความเจริญของตัวอ่อนเดือนที่หก
ช่วงเดือนที่ 6 ทารกลืมตาได้ ผิวหนังเริ่มหนาขึ้นเล็กน้อย (แต่ก็ยังสังเกตเห็นเส้นโลหิตอยู่ค่ะ) ถุงลมในปอดพัฒนาสมบูรณ์ ทารกเริ่มแยกเสียงได้ ผมและเล็บเท้าจะเริ่มงอก สมองจะเติบโตอย่างเร็ว ระบบประสาทเริ่มทำงาน ในเด็กหญิงจะเริ่มสร้างไข่ในรังไข่ ลายนิ้วมือนิ้วเท้าเริ่มเห็นชัดเจน หน้าตาของทารกชัดเจน แต่ผิวหนังของทารกยังคงบางอยู่จะเห็นเป็นสีออกแดงระเรื่อและดูเหี่ยวย่น เนื่องจากยังมีไขมันมาสะสมตามร่างกาย และต่อมเหงื่อได้มีการพัฒนาขึ้นภายใต้ผิวหนัง
ถ้าหากคุณแม่คอยสังเกตความเคลื่อนไหวของทารกจะรู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหว หมุนตัว เตะ หรือชก เกิดจากอวัยวะใดของทารก ส่วนที่นูนขึ้นมาตรงหน้าท้องของคุณคือส่วนไหน อาจทำให้คุณสามารถนึกภาพถึงกิจกรรมต่างๆของทารกได้ ส่วนอวัยวะทั้งหมดของทารกสามารถทำงานได้แล้ว ยกเว้นปอด เหตุเพราะปอดของทารกตอนนี้ยังเต็มไปด้วยน้ำคร่ำ และยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกจนกว่าถุงลมปอดจะสามารถทำการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของคุณแม่
มดลูกเริ่มมีการหดรัดตัว (ตระเตรียมความพร้อมในการคลอด)
ตำแหน่งของยอดมดลูกจะอยู่เหนือสะดือขึ้นมานิดหน่อย
ทารกจะมีความเคลื่อนไหวจนสามารถแยกออกได้ว่าเป็นอวัยวะส่วนใด
จะรู้สึกคัดตึงเต้านมมากขึ้น
เต้านมขยายโตขึ้นเรื่อยๆ
น้ำหนักตัวจะมากขึ้น (ร่างกายมีการเก็บน้ำไว้มาก)
ช่วงนี้คุณแม่อาจจะรู้สึกร้อนอยู่บ่อยๆ
ผิวหนังหน้าท้องอาจจะมีลายแตกมาก การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของคุณแม่หน้าท้องมีการขยายออก อย่างเร็ว
เท้าจะบวมเพิ่มมากขึ้น
ข้อพึงกระทำตัวของคุณแม่
กินข้าวที่มีคุณภาพ (ควรเสริมธาตุเหล็กให้ได้มากที่สุด)
ควรบริโภคผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง (ช่วยในการดูดซับธาตุเหล็ก)
ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว หรือเยอะกว่าเดิม (ดื่มน้ำผลไม้ก่อนนอนด้วยนะคะ)
อาจจะรู้สึกคันหน้าท้องที่ขยายและแตก ควรใช้ครีมบำรุงทาบ่อยๆ ลูบเบาๆนะคะ
พักให้พอ
ออกกำลังกายเบาๆ สม่ำเสมออย่าหักโหม
ไปเจอหมอตามนัดทุกครั้ง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ตั้งครรภ์ 6 เดือน

เครดิต : https://www.minebeauty.com/การตั้งครรภ์เดือนที่-6/

Tags : ท้อง 6 เดือน,ท้อง6 ดือน

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 29