แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - wm5398

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 27
19
เกสรผึ้ง คืออะไร และมีสรรพคุณอะไรบ้าง


น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ นั้นคงเป็นสิ่งที่หลายๆท่านต่างชื่นชอบและนิยมรับประทานกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ที่จะมาพูดถึงในวันนี้นั้นเป็นเรื่องของ เกสรผึ้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ใครหลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าสามารถนำมาเพื่อรับประทานหรือใช้สำหรับการแปรรูปอื่นๆได้อีกด้วย

เกสรผึ้ง คือ ?
เกสรผึ้ง (Bee Pollen) คือ ละอองเรณูที่เกิดจากเกสรตัวผู้ของดอกไม้ มีลักษณะคล้ายละอองเม็ดเล็กๆ เหมื่อนฝุ่นแป้ง ซึ่งมีวิธีการในการเก็บโดยผึ้งงานจะนำเกสรติดไว้ที่ปลายขาหลังทั้งสองข้างบริเวณอวัยวะที่เรียกว่า ตะกร้าเก็บเกสร แล้วจึงนำกลับมาเก็บไว้ในรัง เพื่อใช้เป็นอาหารให้สำหรับประชากรในรัง โดยเฉพาะใช้เป็นอาหารให้กับตัวอ่อนผึ้ง เกสรของผึ้งนั้น จะมีสีที่หลากหลายตามชนิดของดอกไม้ ซึ่งเมื่อดอกไม้ยังสดก็จะเป็นสีหนึง และเมื่อช่วงดอกไม้เหี่ยวก็จะเป็นอีกสีหนึ่ง มีตั้งแต่ สีขาว สีเหลือง สีน้ำตาล ไปจนถึงสีดำเป็นต้น นอกจากนี้เกสรของผึ้งยังมีประโยชน์อีกมากมาย โดยสามารถนำมาใช้นำมาทำเป็นยา และสมุนไพรต่างๆ ทั้งยังมีคุณสมบัตินการบำบัด และช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลได้ดี อีกด้วย

ส่วนประกอบของเกสรผึ้ง
ส่วนประกอบของเกสรผึ้ง อุดมไปด้วยธาตุอาหารและประโยชน์ต่างๆมากมาย ดังนี้
         - คาร์โบไฮเดรต 60 %
         - โปรตีน 20 %
         - ไขมัน 7 %
         - น้ำ 7 %
         - เกลือแร่ 6 %

ประโยชน์และวิธีการนำไปใช้
เกสรน้ำผึ้ง ถูกนิยมนำไปแปรรูปได้หลายรูปแบบ เช่น ในรูปเม็ด แคปซูล ทั้งยังสามารถทานได้แบบสดๆ หรือจะนำมาทำให้แห้งเพื่อรักษาอายุของเกสรผึ้งนานอย่างยาวนาน โดยหากพูดถึงประโยชน์ของเกสรน้ำผึ้ง คงแบ่งออกได้เป็น 3 ด้าน ดังนี้'

1.ใช้เป็นยาบำรุง
เกสรผึ้ง มีส่วนประสมหลายอย่างที่มีประโยชน์ตัวเองเพราะฉะนั้นสามารถรับประทานเพื่อบำรุงด้านต่างๆ ดังนี้
          - ช่วยคลายความเหน็ดเหนื่อยและอ่อนเพลีย
          - ทำให้มีความทรงจำและสมาธิดีขึ้น
          - บำรุงผิวหนังให้ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
          - เพิ่มภูมิต้านทาน
          - ช่วยการเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง (เหมาะสำหรับผู้ที่มีโลหิตน้อยหรือโลหิตจาง)
          - บำรุงเส้นผมให้ดกดำและหงอกช้า
          - บำรุงจิตใจสำหรับผู้ที่มีอาการทางจิต ได้รับความกดดันจากความชราหรือซึมเศร้า กลัดกลุ้ม คิดมาก

2.ใช้รับประทาน
เกสรผึ้ง สามารถใช้รับประทานสดๆ ได้ทันที โดยตัวเกสรนั้นถือได้ว่าเป็นอาหารที่ย่อยสลายง่าย และมีส่วนประสมต่างๆที่มีประโยชน์ เหมาะแก่การรับประทานเพื่อดำรงชีวิต และช่วยฟื้นฟูสมดุลของร่างให้สดชื่น กะปรี้กะเปร่า

3.ใช้เป็นสมุนไพร
สมุนไพรทีไ่ด้รับจากเกสรน้ำผึ้ง ช่วยบำบัดและรักษาโลกต่างๆได้ ดังนี้
          - ภูมิแพ้ (แพ้อากาศและฝุ่นละออง)
          - ไมเกรน
          - โพรงจมูกอักเสบหรือไซนัส
          - ความดันโลหิตสูง
          - ไข้หวัดใหญ่
          - รอบเดือนในสตรีไม่ปกติหรือปวดรอบเดือน
          - หืดหอบ
          - ชะลอการตกกระของผิวหนัง
          - ต่อมลูกหมากอักเสบ
          - ปวดแสบปวดร้อนอันเนื่องจากแผลพุพอง
          - ปวดข้อ ปวดกระดูก
          - นอนไม่หลับ
 
อันตรายจากเกสรผึ้งและข้อห้าม
แม้ว่าเกสรผึ้งนั้นจะมีประโยชน์ต่างๆมากมาย แต่ทุกอย่างล้วนมีข้อดีและข้อเสีย ตัวของเกสรผึ้งก็เช่นกัน เหตุเพราะผู้ที่ป่วยเป็นโรคบางชนิด ไม่ควรรับประทานเกสรผึ้งเข้าไป เช่น ผู้ที่แพ้ผลิตภัณฑ์จากผึ้งไม่ควรรับประทานและผู้ที่แพ้ละอองเกสรดอกไม้ไม่ควรรับประทาน เนื่องจากเกสรของผึ้งนั้นไม่ได้เกิดตัวผึ้ง แต่ได้มาจากเกสรตัวผู้ของดอกไม้ชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้ที่แพ้เกสรดอกไม้จึงไม่ควรทาน

ขนาดที่ควรรับประทาน
เกสรผึ้ง สามารถทานได้แบบสดๆ แต่ก็ไม่ควรรับประทานจนมากเกินไป โดยปริมาณที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่ที่แต่ละบุคคล แต่ที่มีนายแพทย์บางท่านแนะนำให้รับประทานปริมาณ 500 มิลลิกรัม 2 ถึง 3 ครั้งต่อวัน หากเป็นแคปซูลแนะนำให้รับประทาน 3-6 เม็ดต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายได้สารอาหารและประโยชน์ต่างๆจากเกสรผึ้ง อย่างครบถ้วน 
https://suwanfarmphueng.com/articles/what-is-kaset-bee/

20
น้ำผึ้งมะนาว เมนูยอดฮิต กับสรรพคุณที่มากมาย


น้ำผึ้งมะนาว เมนูยอดนิยมที่ทุกท่านต่างต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยรสชาติหอมหวาน ถูกปาก รวมไปถึงคุณประโยชน์ต่างๆของตัวน้ำผึ้งมะนาวนี้ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่ในอดีต ยันปัจจุบัน ส่วนสรรพคุณและวิธีการทำอย่างไรนั้นไปดูกันเลย
https://suwanfarmphueng.com/articles/honey-lemon-a-popular-menu/

สรรพคุณ น้ำผึ้งมะนาว
สรรพคุณ ของนำผึ้งมะนาวมีมากมายโดยถูกแบ่งออกได้ ดังนี้
1.แก้อาการไอ
อาการไอ เกิดขึ้นได้กับทุกผู้ ทุกคน ซึ่งหลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าการรักษาการไอนั้นสามารถใช้น้ำผึ้งมะนาวช่วยบรรเทาได้ โดยตัวของน้ำผึ้งนั้นจะเข้าไปช่วยทำให้ลำคอชุ่มชื้น และยังมีสรรพคุณช่วยแก้อาการหวัดได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นหากท่านเกิดอาการไอขึ้นเมื่อไหร่แนะนำให้ดื้มน้ำผึ้งมะนาวทุกครั้ง

2.แก้อาการเจ็บ
การเจ็บคอที่เป็นเหตุมาจากการไอ หรือปัจจัยอื่นๆ ก็สามารถใช้น้ำผึ้งมะนาวช่วยในการบรรเทาอาการเจ็บและยังช่วยให้หายจากอาการเจ็บคอได้ไวยิ่งขึ้น เหตุเพราะตัวน้ำผึ้งมะนาวนั้นมีทั้งวิตามินซี กรดซิตริก และยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสได้ นี่จึงเป็นเหตุให้หากท่านดื้มน้ำผึ้งมะนาวตอนมีอาการเจ็บคือ จะช่วยทำให้บรรเทาอาการเจ็บคือ และทำให้ลำคอมีความชุ่มชื้นอีกด้วย

3.ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร
ตัวของน้ำผึ้งมะนาวนั้นสามารถช่วยปรับสมดุลการทำงานของลำไส้ได้ รวมทั้งยังสามารถช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ได้อีกด้ว นี่จึงเป็นเหตุให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น หากท่านได้ดื่มน้ำผึ้งมะนาวอย่างสม่ำเสมอ

4. แก้ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ตัวมะนาวนั้นมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของลำไสัได้ ถือว่าเป็นยาระบายอ่อนๆ เลยก็ว่าได้ รวมทั้งที่ได้กล่าวมาข้างต้นในเรื่องของน้ำผึ้งมะนาวนั้นช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารได้ดี ซึ่งมันจะช่วยทำให้เกิดอาการท้องผูก ท้องอืดได้ยาก และหากต้องการใช้น้ำผึ้งมะนาวเพื่อระบายท้อง ควรดื่มในช่วงเช้าตื่นนอน และก่อนนอนของทุกวัน

5. ป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
น้ำผึ้งมะนาว ยังสามารถช่วยป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ ซึ่งภาวะของโรคนี้จะเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากตัวของท่อปัสสาวะผู้หญิงนั้นมีขนาดสั้นกว่า รวมทั้งอยู่ใกล้กับทวารหนัก โอกาสติดเชื้อแบคทีเรียจากทวารหนักจึงมีมากกว่าเพศชาย แต่เราสามารถใช้น้ำผึ้งมะนาวเพื่อช่วยป้องกันโรคนี้ได้ ด้วยความสามารถของมะนาวในเการใช้เพื่อเป็นสมุนไพรที่มีโพแทสเซียมสูง ทั้งยังเป็นสารรชีวเคมีตัวนี้ก็มีฤทธิ์ช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะออกไปได้ แถมน้ำผึ้งยังมีสรรพคุณที่ทำหน้าที่เป็นยาปฏิชีวนะ ที่จะทำหน้าที่กำจัดเชื้อแบคทีเรียที่อาจหลงเข้ามาในร่างกายเราได้อีกด้วย

6. ช่วยปลุกความสดชื่นให้ร่างกาย
ด้วยตัวของน้ำผึ้งมะนาว มีรสชาติที่หอมหวานและรสเปรี๊ยวซึ่งหากดื่มในตอนเช้าจะทำให้รู้สึกสดชื่น รวมทั้งตัวของน้ำผึ้งมีฟรุกโตสและกลูโคสที่มาจากธรรมชาติแท้ๆ ร่างกายจะทำการดูดซึมได้ง่าย ทำให้ร่างกายที่อ่อนล้าทำให้กระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้น รวมไปถึงรสชาติความเปรี๊ยวของมะนาวก็เติมเต็มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี

วิธีทำน้ำผึ้งผสมมะนาว
น้ำผึ้งมะนาวสามารถทำได้ด้วยตัวเองและมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากนัก โดยมีขั้นตอนทั้งหมดดังนี้
ส่วนผสม
        - น้ำอุ่น 200 มิลลิลิตร
        - มะนาว ครึ่งลูก
        - น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ
        - เกลือ
        - น้ำแข็ง
วิธีทำ
        1. เริ่มแรกจากการคั้นมะนาวใส่แก้วแยกไว้ก่อน จากนั้นให้เริ่มใส่น้ำผึ้งแล้วคนให้เข้ากัน
        2. ใส่น้ำอุ่นลงเพิ่มเข้าไปในแก้ว ใสเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติเล็กน้อย
        3. เตรียมแก้วใบใหม่และใส่น้ำแข็งไว้ หลังจากนั้นเทน้ำผึ้งมะนาวที่ผสมไว้ตั้งแต่แรกลงไป เป็นอันเสร็จ

ตอนนี้เราก็สามารถทำน้ำผึ้งมะนาวได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ รวมทั้งรู้ถึงสรรพคุณในการดื่มไปแล้ว แต่นอกเหนือจากประโยชน์ที่กล่าวไปข้างต้นน้ำผึ้งยังมีคุณประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย สามารถอ่านสรรพคุณของน้ำผึ้งต่ออีกได้ที่ https://suwanfarmphueng.com/articles/benefits-of-honey/

21
สีของน้ำผึ้ง เป็นอย่างไร?


น้ำผึ้งแท้ เป็นน้ำผึ้งที่เกิดจากมาจากตัวผึ้งโดยไม่มีสิ่งอื่นเจือปน โดยวิธีการพิสูจน์ว่าน้ำผึ้งนั้นแท้ไหมมีอยู่หลากหลายวิธี ซึ่งหากสนใจสามารถอ่านได้ที่ บทความ วิธีตรวจสอบ น้ำผึงแท้ และ เหตุใดน้ำผึ้งจึงไม่มีวันหมดอายุ ? ส่วนท่านที่ทราบถึงวิธีการตรวจสอบน้ำผึ้งแท้อยู่แล้ว หรือผู้ที่ทานน้ำผึ้งเป็นประจำคงเกิดความสงสัยในด้านของสีน้ำผึ้ง ที่มีความแตกต่างกันออกไป บางชนิดก็มีสีน้ำตาลอ่อน บางชนิดเป็นสีน้ำตาลเข้ม และยังมีบางชนิดเป็นสีใสก็ยังมี โดยสาเหตุความต่างของสีน้ำผึ้งนั้นจะเกิดไปมาจากอะไรนั้น หาคำตอบได้ที่บทความด้านล่างนี้

สีของน้ำผึ้ง เป็นอย่างไร?
สีของน้ำผึ้งนั้นเกิดมาจากการที่เมื่อผึ้งไปเก็บน้ำหวานจากดอกไม้มา จะมีอนุเกสรของดอกไม้ติดมากับตัวของน้ำผึ้งด้วย ทำให้ตัวน้ำผึ้งเป็นสีนั้น และยังมีอีกปัจจัยหนึงที่สำคัญสำหรับการเปลี่ยนของสีน้ำผึ้งคือระยะเวลา โดยน้ำผึ้งที่เก็บไว้นานนั้นจะมีสีเข้มขึ้นจนเป็นสีดำ และหากยิ่งเก็บในพื้นที่ร้อนจัดนัก จะยิ่งทำให้ตัวสีของน้ำผึ้งดำเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากตัวความร้อนและแสงแดดนั้นจะเป็นตัวเร่งให้ปฏิกิริยานี้เกิดเร็วขึ้น ด้วยเหตุน้ำควรเก็บน้ำผึ้งไว้ในที่มืดและเย็น แต่ไม่ต้องถึงขั้นใส่ตู้เย็น นอกจากสีของน้ำผึ้งกล่าวมานั้น ยังมีน้ำผึ้งอีกหลากหลายที่ท่านอาจพบเห็นได้ ทั้งสีแดง สีเขียวไปจนกระทั่งสีรุ้งก็เคยมี โดยหลักของสีแปลกๆเหล่านี้ เกิดขึ้นมาจากการที่ผึ้งได้ไปกินน้ำหวานแต่งกลิ่นสีต่างๆ ตามชุมชนมานั่นเอง


ลักษณะของน้ำผึ้งที่ดีนั้นควรมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
          - มีความข้นและหนืดของตัวน้ำผึ้ง จะแสดงให้เห็นว่าตัวน้ำที่ผสมอยู่ในน้ำผึ้งนั้นมีน้อย ทำให้น้ำผึ้งมีความข้นสูง รวมไปถึงคุณภาพของน้ำผึ้งอีกด้วย
          - มีสีของตัวน้ำผึ้งเป็นสีธรรมชาติ โดยสีของน้ำผึ้งที่มาจากธรรมชาตินั้นจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน ถึงน้ำตาลใส ไม่ขุ่นทึบ
          - ตัวน้ำผึ้งมีกลิ่นหอมของดอกไม้ เช่น น้ำผึ้งจากดอกลำใย และน้ำผึ้งจากดอกลิ้นจี่ เป็นต้น
          - น้ำผึ้งต้องปราศจาก กาก ไขผึ้ง หรือเศษของตัวผึ้งปะปนอยู่ในน้ำผึ้ง
          - น้ำผึ้งต้องไม่มีกลิ่นเหม็น บูดเปรี๊ยว และไม่มีฟอง
          - ตัวของน้ำผึ้งต้องไม่ได้รับการใส่สารปรุงแต่งสี กลิ่น รสชาติใดๆลงไปในตัวน้ำผึ้ง
หากตัวของน้ำผึ้งมีลักษณะผ่านตามที่กล่าวไว้ด้านบน นั่นก็แสดงได้เลยว่าน้ำผึ้งนั้นมีคุณภาพสูงอย่างแน่นอน
https://suwanfarmphueng.com/articles/how-is-the-color-of-honey/

22
7 ประโยชน์ทางการแพทย์ จาก น้ำผึ้งแท้


น้ำผึ้งแท้ ที่ผลิตมาจากผึ้งนั้นถูกค้นพบและนำมารับประทานมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ถูกนำมาใช้เพื่อปรุงอาหาร แปรรูปขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมาย เนื่องจากตัวน้ำผึ้งน้ำมีรสชาติที่หอมหวาน ทั้งยังมีประโยชน์ต่างๆในทางการแพทย์อีกด้วย โดยที่จะพูดถึงวันนี้นั้น จะเป็นประโยชน์ในเรื่องของโรคต่างๆที่น้ำผึ้งเข้ามาช่วยรักษาโดยงานวิจัยรองรับ แต่บางวิธีการก็ยังไม่ได้การันตีว่าสามารถใช้ได้จริง หรือมีผลลัพธ์ที่ดีจริงอย่างในงานวิจัย เพราะฉะนั้นหากท่านป่วยเป็นโรคใดก็ตามทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์โดยตรงถึงวิธีแก้ไขปัญหาของโรคที่ท่านเป็ฯ ส่วนในด้านของน้ำผึ้งที่มีบทบาทช่วยการรักษาโรคต่างๆนั้นจะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

7 ประโยชน์ทางการแพทย์ ของ น้ำผึ้งแท้
น้ำผึ้งแท้ ที่ถูกนำมาใช้สอยในทางการแพทย์นั้น จะถูกนำไปใช้กับหลายๆโรค ดังนี้
1.อาการไอ ของเด็กๆ
อาการไอของเด็กอายุ 2 -18 ปั ที่เกิดจากหลายๆปัจจัย ทั้งฝุ่น ละออง ติดเชื้อโรค ซึงไม่ว่าสาเหตุจะเกิดจากปัจจัยใด ก็สามารถใช้น้ำผึ้งเพื่อลดอาการไอได้ เพียงแค้รับประทานน้ำผึ้งแท้ก่อนนอน โดยได้เคยมีการวิจัยยสำรวจประสิทธิภาพของการใช้น้ำผึ้งเปรียบเทียบกับการใช้ยาแก้ไอเดกซ์โทรเมทอร์แฟน (Dextromethorphan) กับเด็กอายุ 2-18 ปีจำนวน 105 คน การทดลองแบ่งออกเป็น 2 วันติดต่อกัน วันแรกคือเมื่อมีอาการแสดงซึ่งจะไม่มีการใช้ยาใดๆ และวันที่ 2 ที่จะให้รับประทานน้ำผึ้งหรือยาแก้ไอรสน้ำผึ้งก่อนนอน ผลออกมาปรากฏว่าผู้ปกครองของเด็กให้คะแนนความพึงพอใจต่อการใช้น้ำผึ้งมากที่สุด โดยได้บอกว่าน้ำผึ้งช่วยลดอาการไอตอนกลางคืน และยังช่วยให้นอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น

2.แผลไหม้
แผลไหม้ ที่ได้รับจากอุบัติเหตุด้านต่างๆจนเกิดให้เป็นแผล สามารถใช้น้ำผึ้งในการช่วยรักษาแลได้ โดยมีงานวิจัยหนึ่งที่ชี้ถึงประโยชน์ข้อนี้ของน้ำผึ้งก็คือ การทดสอบประสิทธิภาพในการรักษาแผลไหม้ของผ้าพันแผลชุบน้ำผึ้งเปรียบเทียบกับยาซิลเวอร์ซัลฟาไดอะซีน (Silver Sulfadiazene) ในคนไข้ที่มีแผลไหม้ระดับที่ 1 และระดับที่ 2 จำนวน 108 ราย ผลปรากฏว่าน้ำผึ้งเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ใช้ยาซิลเวอร์ซัลฟาไดอะซีน แล้วนั้นผ้าพันแผลที่จุ่มน้ำผึ้งช่วยให้แผลปลอดเชื้อได้มากกว่า เพิ่มการสมานของแผลได้ดี ทั้งยังสามารถช่วยลดในเรื่องของการเกิดแผลเป็นนูนได้อีกด้วย
โดยจากการศึกษาข้อมูลจากงานวิจัยทั้งหลายที่สนับสนุนว่าน้ำผึ้งที่เก็บจากพื้นที่ต่างๆนั้น มีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาทั้งแผลไหม้ แผลที่ผิวหนัง แผลกระเพาะอาหาร แผลเรื้อรัง และแผลทั่วไปอื่นๆ ด้วยเหตุที่ว่าคุณสมบัติของตัวน้ำผึ้งนั้นสามารถใช้ในการสมานแพ้ได้ดี ทั้งยังช่วยในกระบวนการกระตุ้นการเติบโตของเนื้อเยื่อ และยังช่วยลดการก่อตัวของแผลเป็น โดยให้เหตุผลว่าว่าตัวน้ำผึ้งนั้นสามารถช่วยลดระดับของสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) รวมทั้งเพิ่มสารไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) ได้ ซึ่งทั้ง 2 สารนี้ ต่างมีบทบาทสำคัญในกระบวนการรักษาแผล ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงไม่แปลกเลยที่จะน้ำผึ้งมาเพื่อช่วยรักแผลไหม้ตามบริเวณต่างๆ

3.เยื่อบุช่องปากอักเสบจากการฉายรังสี
โรคเยื่อบุช่องปากอักเสบ ที่เกิดจากการฉายรังสีนั้นสามารถใช้น้ำผึ้งเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดได้ โดยได้มีงานวิจัยหนึ่งกล่าวไว้ว่า การบริโภคน้ำผึ้ง 20 มิลลิลิตร ต่อวัน หรือการใช้ผ้าก๊อชชุบน้ำผึ้งแล้วนำมาแปะไว้บริเวณแผล จะสามารถช่วยลดอาการเยื่อบุช่องปากอักเสบได้ดี ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ได้นำนักศึกษาจำนวน 28 ราย มาทาน้ำผึ้ง 15 มิลลิลิตรหลังจากการรับการรักษาด้วยรังสีบำบัดทุก 5 ครั้ง ช่วยให้ผลดีต่อผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและลำคอที่มีอาการเยื่อบุช่องปากอักเสบได้เช่นกัน
*แต่ถึงแม้ว่าจะมีการวิจัยจากหลายๆกลุ่ม ก็ควรที่จะอ้างอิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีในปัจจุบัน ซึ่งในเรื่องนี้นั้นยะงมีความน่าเชื่อถือที่ต่ำว่าจะได้ผลจริงไหม ทำให้ยังไม่ได้เกิดการแนะนำหรือถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวาง เพราะฉะนั้นการรักษาที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

4.การผ่าตัดรักษาตา
ช่วงเวลาที่ได้รับการผ่าตัดรักษานั้น มีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อภายในลูกตาหลังการรับผ่าตัดได้ แต่ตัวของน้ำผึ้งนั้นสามารถใช้เพื่อช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ถึงแม้การติดเชื้อนี้จะเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักแต่ก็ร้ายแรงมาก ซึ่งได้มีงานวิจัยหนึง ได้นำคนไข้ทั้งหมด 101 คน มาแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกให้หยอดน้ำตาเทียมที่เป็นสารละลายจากน้ำผึ้ง และอีกกลุ่มหนึงให้ยาหยอดตาออฟลอกซาซิน (Ofloxacin) โดยให้ทำการหยอดตาก่อนรับการผ่าตัดทุกครั้ง วันละ 5 ครั้ง เป็นเวลา 7 วันก่อนผ่าตัด และหลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วหยอดต่อเป็นเวลา 5 วัน โดยได้ผลลัพธ์ว่าเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นไม่ต่างกันมากนัก จึงอาจทำให้เชื่อได้น้ำผึ้งสามารถนำมาป้องกันการติดเชื้อในดวงตาได้ แต่ท้ายสุดแล้วก็ยังเป็ฯเรื่องต้องศึกษาเพิ่มเติมกันต่อไป เพื่อความปลอดภัยของคนไข้และประโยชน์สูงสุดในการรักษา

5.อาการท้องเสีย
อาการท้องเสีย สามารถเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย โดยเหตุที่น้ำผึ้งสามารถช่วยรักษาอาการโรคนี้ได้นั้นเกิดจากการมีงานวิจัยบางงานที่ชี้ให้เห็นถึงคุณประโยชน์ในการรับประทานน้ำผึ้งเพื่อรักษาอาการท้องเสียในทารกและเด็กเล็ก รวมทั้งสามารถใช้ทดแทนน้ำตาลในสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ได้ ซึ่งผลการวิจัยนี้ยังแนะนำว่าน้ำผึ้งสามารถช่วยลดระยะเวลาของอาการท้องเสียที่เกิดขึ้นจากแบคทีเรียได้ รวมทั้งยังยังสามารถใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลในภาวะสูญเสียน้ำได้อีกด้วย แต่ก็ยังมีงานวิจัยอีกหลายๆงานวิจัยที่ชี้ว่าน้ำผึ้งนั้นไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆต่อผู้เป็นโรคท้องเสียเช่นกัน เพราะฉะนั้นว่าไม่ว่าท่านจะป่วยเป็นโรคอะไรควรปรึกษาแพทเพื่อความถูกต้อง และช่วยรักษาอาการของโรคนั้นๆได้มีประสิทธิภาพสูงสุด

6.อาการคัน
อาการคัน เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ใครหลายๆคนรำคาญ โดยไม่รู้ว่าน้ำผึ้งนั้นมีประสิทธิภาพการรักษาอาการคันได้เป็นอย่าง เนื่องจากมีการศึกษาว่าตัวของน้ำผึ้งนั้นมีคุณสมบัติที่สามารถรักษาอาการคัน หรือระคายเคืองต่างๆของผิวหนังได้ดีกว่ายาทาแก้คันอย่างซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) ที่ถูกใช้อยู่ในปัจจุบัน ข้อมูลการศึกษานี้มาจากงานวิจัยที่มีให้ร่วมทดลองจำนวน 31 คน โดยผู้ร่วมทดลองนี้ล้วนเป็นผู้มีอาการคัน ระคายเคืองตามผัวหนัง ข้อพับต่างๆ แล้วจึงนำผู้ร่วมการทดลองแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งใช้การรักษาปกติด้วยขี้ผึ้งซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) และอีกกลุ่มหนึงใช้ครีมน้ำผึ้งในการรักษา โดยให้ใช้ทาลงบนพื้นที่ระคายเคืองหรือคันวันละ 2 ครั้ง นานถึง 21 วัน ผลลัพธ์ออกมาว่าผู่ร่วมการทดลองมีอาการดีขึ้น แทบไม่ต่างกันมากนัก ซึ่งบางคนที่ร่วมทดสอบก็มีความรู้สึกว่าน้ำผึ้งช่วยรักษาอาการคันได้ดีกว่า แต่ถึงแม้จะได้รับการรับประกันอยากจากทดลองนี้แต่ก็ยังไม่มีการนำน้ำผึ้งมาใช้ และยังคงต้องรอการพิสูจน์ทางด้านวิทยาศาสตร์ปัจจุบันก่อน

7.เหงือกอักเสบ
โรคเหงือกอักเสบ ได้มีงานวิจัยว่าการรับประทานน้ำผึ้งชนิดเคี้ยววันละ 3 ครั้ง นาน 21 วัน ช่วยลดคราบหินปูน และการมีเลือดออกที่เหงือกได้ดี โดยการวิจัยครั้งนี้ได้มีผู้ร่วมทดลองจำนวน 30 คน โดยได้มีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งได้รับการรักษาด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่งไร้น้ำตาลที่ไม่พบผลการเปลี่ยนแปลงต่อสุขภาพเหงือกและฟัน และอีกกลุ่มได้รับการรักจากน้ำผึ้งชนิดเคี้ยว ซึ่งกลุ่มนี้มีผลออกมาว่าสามารถช่วยลดอาการเลือดออกที่เหงือก และลดคราบหินปูนได้จริง แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่ได้รับประกันในด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งทำให้ยังไม่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันในปัจจุบันได้
https://suwanfarmphueng.com/articles/7-medical-benefits-from-genuine-honey/

23
วิธีดูน้ำผึ้งแท้ ดูอย่างไร และวิธีตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือปลอม


วิธีดูน้ำผึ้งแท้ ดูอย่างไร และวิธีตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือปลอม เพื่อเป็นประโยชน์และการเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้ที่มีคุณภาพ สำหรับผู้บริโภค เนื่องจากปัจจุบันน้ำผึ้งแท้เป็นของที่หายากและขั้นตอนการเก็บและผลิตค่อนข้างใช้เวลา จึงทำให้มีการนำวัตถุดิบมาผสมกับน้ำผึ้งเพื่อให้ได้ปริมาณเยอะและลักษณะเหมือนน้ำผึ้งแท้ เราจึงต้องมีวิธีการตรวจสอบน้ำผึ้งแท้ด้วยตัวเองกันครับ

วิธีดูน้ำผึ้งแท้ โดยมี 6 วิธี ดังนี้
1. ตรวจสอบด้วยการดูที่ฉลาก
วิธีแรก สามารถทำได้ง่ายๆ โดยเพียงแค่ดูข้างกล่องหรือผลิตภัณฑ์ แล้วให้สังเกตว่ามีการระบุถึงการเพิ่มสสารต่างๆ ลงไปในนั้นไหม หากมีให้ตีความได้เลยว่าน้ำผึ้งขวดนั้นไม่ใช่น้ำผึ้งแท้ 100%
2. ตรวจสอบด้วยการดม การดมกลิ่น ถือเป็นวิธีตรวจสอบอีกอย่างที่ทำได้ง่าย แต่ต้องมีความรู้หรือความคุ้นเคยกับกลิ่นของน้ำผึ้งซักเล็กน้อย เพราะน้ำผึ้งแท้นั้นจะมีกลิ่นหอมหวาน ของน้ำดอกไม้ผสมอยู๋ในตัวกลิ่น ซึ่งสามารถได้กลิ่นที่ชัดเจน แต่หากเป็นน้ำผึ้งปลอม หรือน้ำผึ้งผสมจะได้กลิ่นที่เจือจาง ไปจนกระทั่งไม่ได้กลิ่นเลย
3. ตรวจสอบด้วยการชิม เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้ทันทีและง่าย โดยให้รับประทานน้ำผึ้งหลังจากเวลาที่ท่านอ่อนเพลีย ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ และรอให้เวลาผ่านไปประมาณ 20 – 30 นาที หากเป็นน้ำผึ้งแท้จะรู้สึดสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ต่างกันกับน้ำผึ้งปลอม ที่จะไม่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลยหรือหากเคยทานน้ำผึ้งแท้ และพอจำรสชาติของมันได้ดีนั้น เพียงแค่ชิมก็อาจทำให้รู้ทันทีว่าน้ำผึ้งแท้หรือปลอม เนื่องจากน้ำผึ้งแท้นั้นจะมีรสชาติของกลิ่นดอกไม้ผสมอยู่ ต่างกับน้ำผึ้งปลอมที่มีเพียงรสชาติหวานเท่านั้นเอง
4. ตรวจสอบด้วยการใช้ไฟ โดยวิธีหลังจากนี้จะเริ่มเป็นการตรวจสอบโดยใช้วัสดุ อุปกรณต่างๆมาช่วย ซึ่งวิธีการตรวจสอบโดยใช้ไฟนี้ ให้นำเอาไม้ขีดไฟมาลองจุ่มลงไปในน้ำผึ้ง และเอามาขีดกับข้างกล่อง ให้สังเกตว่าติดไฟหรือเปล่า หากติดไฟแสดงว่าเป็นน้ำผึ้งแท้ แต่หากไม่ติดไฟ หรือหนักไปจนถึงไม้ขีดเปื่อยยุ่ย แสดงว่าเป็นน้ำผึ้งปลอมแน่นอน
5. ตรวจสอบด้วยกระดาษทิชชู่ เริ่มจากให้นำน้ำผึ้งที่ต้องการตรวจสอบ มาหยดลงบนกระทิชชู่ และเริ่มสังเกตว่าน้ำผึ้งที่หยดไปนั้นซึมผ่านกระดาษทิชชู่ไหม หากเป็นน้ำผึ้งแท้จะยังคงรูปไว้อยู๋บนผิวของทิชชู่ แต่หากเป็นน้ำผึ้งปลอมจะซึมลงกระดาษทิชชู่ทันที
6. ตรวจสอบด้วยการเขย่า เป็นวิธีที่ใช้ทดสอบกับน้ำผึ้งที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นขวด ซึ่งวิธีการก็ง่ายเริ่มจากการจับขวดให้แน่นแล้วเขย่าแรงๆ และให้สังเกตดูว่าน้ำผึ้งในขวดเป็นอย่างไร หากเป็นน้ำผึ้งแท้จะมีความหนืด เหนียว และจะทำให้เกิดฟองอากาศขนาดใหญ่ขึ้น แต่หากเป็นน้ำผึ้งปลอมจะเกิดฟองอากาศขนาดเล็ก และยังเกิดรอยแยกชั้นของน้ำตาลกับน้ำผึ้ง ซึ่งหากสังเกตดีๆจะทำให้เราสามารถแยกน้ำผึ้งแท้กับน้ำผึ้งหลอมได้


ลักษณะน้ำผึ้งแท้ มีวิธีดูยังไง
          - น้ำผึ้งแท้ที่ดี สังเกตจากภายนอกจะมีลักษณะข้นหนืด ลองกลับขวดไปมาจะเห็นว่าน้ำผึ้งมีความข้นหนืดและไหลตัวช้า
          - หากมีโอกาสได้ลองชิมก่อนซื้อ รสชาติน้ำผึ้งแท้ที่ดีจะหอมหวานกลิ่นเกสรดอกไม้ ไม่มีรสขมและเปรี้ยว
          - การเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้ควรเลือกซื้อกับฟาร์มผึ้ง/บริษัทที่น่าเชื่อถือ มีใบรับรองอย.,กรมปศุสัตว์,ผลคุณภาพน้ำผึ้งจากLaboratory หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม
          - ไม่ควรเลือกซื้อน้ำผึ้งมีการตกผลึกที่ก้นขวดและสีเข้มเกินไป(เนื่องจากน้ำผึ้งแท้เมื่อเก็บไว้นานจะมีสีเข้มขึ้นตามธรรมชาติ)

ลักษณะน้ำผึ้งปลอม มีวิธีดูยังไง
          - เมื่อเก็บน้ำผึ้งไปสักระยะ จะเกิดการแยกชั้น(ยกเว้นน้ำผึ้งผสมแบะแซ)
          - น้ำผึ้งปลอมเมื่อนำไปแช่ในตู้เย็น จะเกิดการตกผลึกที่มีลักษณะเกร็ดแผ่นสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ
          - รสชาติน้ำผึ้งปลอม จะไม่หอมกลิ่นเกสรดอกไม้แต่จะมีรสชาติหวานเหมือนทานน้ำตาลอย่างเดียวและเมื่อทานผ่านไป 15-20 นาที หากไม่รู้สึกร่างกายกระปรี้กระเปร่าหรือสดชื่น ให้ฟันธงได้เลยว่าเป็นน้ำผึ้งปลอม เพราะน้ำผึ้งแท้เมื่อทานแล้วจะช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย เนื่องจากน้ำผึ้งแท้เป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้ทันที
          - น้ำผึ้งผสมแบะแซ รสชาติกลิ่นน้ำผึ้งธรรมชาติจะจางลง ทำให้ดูออกยาก ปัจจุบันมีการนำแบะแซมาผสมกับน้ำผึ้ง เพราะมีลักษณะสี กลิ่นและรสชาติคล้ายน้ำผึ้งมาก หากเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้ควรเลือกซื้อจากแหล่งน่าเชื่อถือจะดีที่สุด บางคนยังไม่ทราบว่า แบะแซคืออะไร แบะแซ คือ น้ำเชื่อมกลูโคส หรือ กลูโคสไซรัป (Glucose syrup) เป็นสารให้ความหวานชนิดหนึ่ง (Sweetener) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการย่อยโมเลกุลของแป้งให้เล็กลง (Starch hydrolysis) นิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเบเกอรี่

คำถามที่พบบ่อย
1. น้ำผึ้งแท้มดไม่ขึ้นจริงไหม

ตอบ : ไม่เป็นความจริง และยังคงเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ ในความเป็นจริงธรรมชาติของมดตอมแทบทุกอย่างที่เป็นของหวาน และสาเหตุบางครั้งมดไม่ตอมน้ำผึ้งเพราะดอกไม้บางชนิดอาจมีความเป็นกรดบางประเภทสูงหรือกลิ่นดอกไม้บางชนิดที่แรงทำให้มดไม่ตอมนั้นเอง

2. น้ำผึ้งขึ้นราได้ไหม
ตอบ : ไม่เป็นความจริง น้ำผึ้งที่ดีและได้มาตรฐานจะไม่เกิดการขึ้นรา เพราะน้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการยับยั้งจุลินทรีย์ต่างๆและมีความเข้มข้นสูงมาก หากขึ้นราจริงอาจมีสาเหตุมาจากการปนเปื้อนจากที่อื่น เช่น ใช้ช้อนตักที่ไม่สะอาด,มีน้ำผสมลงไปหรือเปิดฝาทิ้งไว้ เป็นต้น

3. น้ำผึ้งแท้ ไม่มีวันหมดอายุจริงหรือไม่
ตอบ : เป็นความจริง หรือที่ไม่เป็นความจริงเกิดจากการเสื่อมเสียหรือเน่าเสียนั้นเกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้
จากการเปลี่ยนแปลงทางเคมี (สารเคมีทำปฎิกิริยากันเอง) และทางชีวภาพ (เน่าบูดเพราะจุลชีพ แบคทีเรีย มีเอนไซม์เข้ามาเกี่ยวข้อง)
ซึ่งกระบวน 2 อย่างนี้ จะไม่มีทางเกิดขึ้นกับน้ำผึ้งแท้ เหตุเพราะตัวน้ำผึ้งมีความเข้มข้นของน้ำตาลและความเป็นกรดสูง จนทำให้แบคทีเรีย และยีสต์ไม่สามารถเติบโตได้ นี่จึงเป็นเหตุว่าทำไมน้ำผึ้งถึงไม่เน่าเสีย คำแนะนำคือควรสั่งน้ำผึ้งทานในปริมาณที่พอเหมาะ อายุของน้ำผึ้งจริงควรเก็บไม่เกิน 2 ปี

4. น้ำผึ้งแท้ เมื่อแช่ตู้เย็นจะตกผลึกจริงหรือไม่
ตอบ : เมื่อนำน้ำผึ้งแช่ตู้เย็นทั้งน้ำผึ้งและน้ำผึ้งปลอมสามารถตกผลึกได้ทั้งสองอย่าง แต่ตกผลึกลักษณะที่แตกต่างกัน จุดสังเกตุหากเป็นน้ำผึ้งแท้เมื่อตกผลึกจะมีลักษณะเหมือนเม็ดทรายเล็กๆ ละเอียดและดูอ่อนนุ่ม
สรุปแล้ว วิธีดูน้ำผึ้งแท้ ดูอย่างไร วิธีตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือปลอมและการตรวจสอบด้วยตัวเองเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ความแม่นยำและได้ผลดีที่สุดคือการนำเข้าห้องทดลอง หรือให้เลือกซื้อน้ำผึ้งจากฟาร์ม/บริษัทที่น่าเชื่อถือ มีใบรับรองที่ได้มาตรฐาน ทางสุวรรณฟาร์มผึ้งที่เป็นเกษตรกรเลี้ยงผึ้ง เรียนรู้เรื่องผึ้ง ผ่านประสบการณ์มากมาย และเข้าใจเรื่องผึ้งอย่างท่องแท้ ทำให้เราได้ผลผลิตจากผึ้งที่มีคุณภาพมากที่สุด ส่งเข้าคัดสรรกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองบัวลำพู ได้รับสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ระดับ 5 ดาว และมีอย.รับรองมาตราฐาน ขอเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภค นอกจากรับประกันว่าผู้บริโภคจะได้น้ำผึ้งแท้ 100% แล้วยังรับประกันความอร่อยของน้ำผึ้งแท้อีกด้วยครับ
https://suwanfarmphueng.com/articles/howto-check-real-honey/

24
6 สูตรน้ำผึ้ง ช่วยบำรุงผิวพรรณ


น้ำผึ้ง นอกจากจะนิยมนำไปรับประทานสดๆ หรือนำไปเพิ่มความหวานให้แก่อาหาร และเครื่องดื่มแล้วนั้น น้ำผึ้งยังสามารถนำมาใช้เพื่อบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้นและยังสามารถช่วยพลัดเซลผิวได้ดีอีกด้วยและนี้เป็นเหตุผลที่ผมจะขอเสนอ 6 สูตร ใช้น้ำผึ้งเพื่อบำรุงผิวพรรณ ให้ดูชุ่มชื้น กระจ่างใส ทั้งยังสามารถลดริ้วรอยต่างๆได้ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
6 สูตรน้ำผึ้ง ช่วยบำรุงผิวพรรณ
น้ำผึ้ง เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ถูกใช้เพื่อความงามมาตั้งแต่สมัยโบราณ และเป็นที่นิยมใช้มาจนถึงปัจจุบัน เนื่องด้วยคุณสมบัติและประโญชน์นั้นมีมากมาย แต่ที่ขอพูดในบทความนี้คงเป็นเรื่องของการดูแลผิวพรรณ ซึ่งน้ำผึ้งที่จะนำมาใช้นั้นควรเป็นน้ำผึ้งแท้ที่ไม่ได้รับการผสมต่างๆ โดยวิธีที่นิยมนำมาใช้บำรุงผิวพรรณนั้นจะนำน้ำผึ้งไปผสมกับสิ่งต่างๆก่อนนำมาใช้งาน ส่วนสูตรน้ำผึ้งที่จะพูดถึงจะมีทั้งหมด 6 สูตร ดังนี้
1.สูตรน้ำผึ้ง ขัดผิวกาย
ช่วยในเรื่องของการพลัดเซลผิวที่หมองคล้ำ และช่วยให้ผิวเนียนขึ้นในทันทีหลังจากทำเสร็จ ทั้งยังส่งผลให้ผิลเนียนนุ่มน่าสัมผัส เรียกได้ว่าเป็นสูตรหน้าเนียนที่สาวๆควรทำ
ส่วนประกอบ
    - น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
    - นมสด 1 ช้อนโต๊ะ
    - น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ
    1. นำน้ำผึงมาผสม ส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน โดยอย่าให้น้ำตาลละลาย เพราตัวน้ำตาลเป็นส่วนสำคัญในการขัดผิว
    2. หลังจากผสมให้เสร็จแล้ว ให้นำมาพอกตามร่างกายที่ต้องการ ทั้งบนใบหน้าและผิวกายต่างๆ เช่น แขน ขา หรือคอ
    3. ในระหว่างที่พอกตามจุดต่างๆเสร็จแล้ว ให้ทำการนวดเบาๆตามส่วนที่พอกไปด้วย เพื่อให้เกิดการขจัดเซลผิวเก่าที่ตายแล้ว
    4. สุดท้ายล้างออกด้วยน้ำสะอาด และนำผ้าสะอาดเช็ตน้ำออกอย่างเบาๆเป็นอันเสรฺจสิ้น แค่นี้ผิวกายของท่านก็จะเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแล้ว
*หากเป็นคนผิวแห้งอาจเติมน้ำมันมะกอกลงไปสัก 2 ช้อนชา เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

2.สูตรน้ำผึ้ง นวดผิวกาย
ผิวกายที่เนียนนุ่ม เป็นสิ่งที่หลายๆท่านต้องการ เพราะจะช่วยให้ผู้ได้สัมผัส รู้สึกถึงความดูและเอาใจใส่ ทั้งยังชวนให้จับต้องอย่างยิ่ง นี่จึงเป็นอีกสูตรที่เหมาะสมสำหรับสาวๆที่ต้องการให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ชวนหลงใหลอย่างยิ่ง
ส่วนประกอบ
    - น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
    - น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
    - นมสด 1 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ
    1. ผสมน้ำผึ้ง เข้ากับส่วนประกอบต่างๆ
    2. ทาส่วนผสมที่ได้มา ลงบนผิวให้ทั่วตามที่ต้องการ
    3. จากนั้นจึงค่อย เริ่มนวดอย่างช้าจนผิวน้ำที่ทาลงไปนั้นซึมเข้าสู่ผิว
    4. หลังจากนวดจนทั่วแล้วนั้น ให้ปล่อยทิ้งไว้ต่อซัก 15 – 30 นาที
    5. สุดท้ายชำรล้างออกด้วยน้ำสะอาด หากทำเป็นประจำ จะชวยให้ผิวนุ่มเนียน ชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

3.สูตรน้ำผึ้ง บำรุงผิวแห้งกร้าน
โดยปกติแล้วลักษณะของคนที่มีผิวแห้ง จะมีลักษณะผิวที่แตกออก ซึ่งทำให้ไม่น่ามองและลดทอนความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้าต่างๆ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะสูตรบำรุงผิวที่ขอแนะนำนี้จะช่วยดึงความมั่นใจ และผิวพรรณที่ชุ่มชื้นของท่านกลับมา
ส่วนประกอบ
    - น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
    - นมสด 1 ช้อนโต๊ะ
    - น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
    - กล้วยหอมบด 1 ถ้อย
ขั้นตอนการทำ
    1. ผสมน้ำผึ้ง เข้ากับส่วนประกอบต่างๆ
    2. กวนส่วนผสมต่างๆให้เข้ากัน จนออกมาเป็นเนื้อครีมสีเดียวกัน
    3. ทาเนื้อครีมที่ได้มาให้ทั่วผิวกาย และนวดเบาๆไปด้วย
    4. หลังจากทำการนวดเสร็จแล้ว ให้ทิ้งไว้ 15 – 30 นาที
    5. สุดท้ายล้างออกด้วยน้ำสะอาดเป็นอันเสร็จ หากทำเป็นประจำจะช่วยลดผิวที่หยาบกร้านได้

4.สูตรน้ำผึ้ง ลบริ้วรอย
ริ้วรอย เป็นตัวปัญหาที่หลายๆท่านต้องเจอกัน ไม่ว่าริ้วรอยจะเกิดมาจากอายุที่สูงขึ้น หรือเกิดจากการไม่ได้ดูแลผิวหน้าที่ดีพอ จนทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรก็ตาม ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป หากท่านนำสูตรน้ำผึ้งนี้ไปใช้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ริ้วรอยต่างนั้นลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนประกอบ
    - น้ำผึ้ง ครึ่งถ้วย
    - ยอดตำลึง ครึ่งถ้วย
    - น้ำมันหอมระเหย (ช่วยลดกลิ่นเหม็นเขียว ของตำลึง)
ขั้นตอนการทำ
    1. เริ่มจากนำยอดตำลึงมาล้างให้สะอาด
    2. หลังจากได้ยอดตำลึงที่สะอาดแล้วนั้น นำไปปั่นรวมกับน้ำผึ้งให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน มีลักษณะเป็นสีเขียว ข้นทั่วทั้งครีม
    3. หยดน้ำมันหอมระเหยลงไปเพื่อดับกลิ่นเหม็นเขียว
    4. นำครีมมาพอกลงทั่วผิวหน้า แล้วนวดเบาๆ
    5. หลังจากนั้นให้ทิ้งไว้สัก 15 – 30 นาที
    6. สุดท้ายล้างออกด้วยน้ำสะอาดเป็นอันเสร็จสิ้น

5.สูตรน้ำผึ้ง ดูแลผิวหลังโดนแดด
ปัญหาแดดแรงในประเทศเรา ที่หลายๆท่านเจออาจทำให้เกิดอาการผิวแห้ง และไหม้จากการถูกเผาได้ หลายๆท่านจึงจำเป็นต้องทาครีมกันแดดต่างๆก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง ซึ่งนั่นอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการรับมือแสงแดดนัก นี่จึงเป็นอีกสูตรหนึงที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่โดนแดดมาให้กลับมานุ่มเนียน ชุ่มชื้นอีกครั้ง
ส่วนประกอบ
    - น้ำผึ้ง 5 ช้อนโต๊ะ
    - นมสด 1 ลิตร
    - น้ำในอ่าง ตามอุณภูมิห้อง
ขั้นตอนการทำ
    1. ผสมน้ำผึ้ง และนมลงไปในอ่างอาบน้ำ
    2. หลังจากผสมเสร็จ ให้ลงไปแช่ในน้ำที่เตรียมไว้ สัก 20 – 30 นาที
    3. ระหว่างที่แช่อยู่ ให้นวดผิวเบาๆ ทั่วทั้งตัว
    4. ออกจากอ่างมาล้างตัวด้วยน้ำสะอาดอีกทีเป็นอันเสร็จ

6.สูตรน้ำผึ้ง พอกหน้า เพิ่มความกระจ่างใส
สูตรสุดท้ายนี้ ขอแนะนำสูตรน้ำผึ้งที่มีคุณสมบัติในการช่วยคึนความสดใสให้ใบหน้า และช่วยลดการหย่อนยานของผิว ทั้งยังทำให้หน้าตึงเนียน น่าสัมผัส ชวนหลงใหล เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สาวๆหลายท่านต้องการ ส่วนจะมีส่วนประกอบ และวิธีอย่างไรนั้นไปดูกันเลย
ส่วนประกอบ
    - น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
    - น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา
    - ฟักทองสุก ครึ่งถ้วย
    - ว่านหางจระเข้ 1 ใบ
ขั้นตอนการทำ
    1. นำฟักทองไปบด หรือปั่นให้ละเอียด
    2. ผสมน้ำผึ้งเข้ากับส่วนประกอบต่างๆ
    3. พอกส่วนผสมต่างๆที่ได้มาทั่วใบหน้า และลำคอ
    4. หลังจากพอกเสร็จ จะเกิดรู้สึกอุ่นที่ใบหน้า ให้เริ่มทำการนวดเบาๆทั่วใบหน้าและลำคอ
    5. หากนวดใบหน้าทั่วแล้ว ปล่อยต่อไว้สัก 15 – 30 นาที
    6. สุดท้ายล้างออกด้วยน้ำสะอาดเป็นอันเสร็จ

6 สูตรน้ำผึ้ง ช่วยบำรุงผิวพรรณ


สรรพคุณน้ำผึ้ง ต่อผิวพรรณ
น้ำผึ้ง ประกอบไปด้วยน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก ทั้งน้ำตาลกลูโคส และฟรุคโตส แต่นอกจากน้ำตาลแล้วนั้นน้ำผึ้งยังประกอบไปด้วยสารประกอบต่าง เช่นสารแอนติออกซิเดนท์ (Antioxidant) หรือที่เรียกว่าสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นยังมีวิตามินชนิดอื่นๆอยู่อีกด้วย โดยผมขอแบ่งสรรพคุณของน้ำผึ้งต่อผิวพรรณ ออกเป็น 3 ชนิด ดังนี้
1.น้ำผึ้ง ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวพรรณ
จะสังเกตได้ว่าน้ำผึ้งถูกนำไปใช้ผสมเข้ากับผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นต่างๆ เช่น คลีนซิ่ง แชมพู คอนดิชันเนอร์เป็นต้น เหตุเพราะน้ำผึ้งที่มาจากธรรมชาติ ไร้การเจือปนนั้นมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวดูอ่อนวัย เพิ่มความเนียนนุ่มน่าสมัผัส ทั้งยังไม่ระคายเคืองผิวหนังอีกด้วย

2.น้ำผึ้ง ช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของแสงแดด
เหตุที่ช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้นั้น เพราะในตัวน้ำผึ้งนั้นมีสารที่เรียกว่า สารแอนตี้ออกซิแดนต์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างที่กล่าวใว้ข้างต้น (Antioxidant) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้สามารถป้องกันผิวจากแสงแดดได้แล้วนั้น ยังสามารถช่วยในการผลัดเซลส์ผิว หรือสร้างเซลส์ผิวหนังใหม่ได้

3.น้ำผึ้ง สามารถยับยั้งแบคทีเรียต่างๆได้
น้ำผึ้ง มีคุณสมบัติที่พิเศษอีกอย่างคือ เป็นสารที่สามารถต่อต้านจุลินทรีย์ และช่วยหยุดยังการเจริญเติบโตของแบคทีเรียต่างๆได้ เหตุเพราะความข้นของน้ำผึ้งสูง และมีปริมาณน้ำที่ต่ำ ซึ่งทำให้เบคทีเรียไม่สามารถรับไนโตรเจนที่เป็นปัจจัยหลักในการเจริญเติมโตได้ จึงสามารถใช้น้ำผึงเพื่อไปยับยั้งการอักเสบของสิว ลอรอยแผลเป้นต่างได้อีกด้วย

นอกจากนี้หากอยากทราบถึง ส่วนประกอบต่างของน้ำผึ้ง สามารถอ่านต่อได้ที่บทความ น้ำผึ้ง คือ ? มีประโยชน์ และส่วนประกอบอะไรบ้าง
https://suwanfarmphueng.com/articles/6-honey-recipes-to-help-nourish-the-skin/

25
น้ำผึ้ง คือ? มีประโยชน์ และส่วนประกอบอะไรบ้าง


น้ำผึ้ง เป็นสิ่งที่ทุกท่านต่างรู้จักกัน หรือบางท่านอาจจะนิยมนำมาใช้ทานอยู๋บ่อยๆ ด้วยรสชาติที่หวานหอม ทั้งยังมีคุณสมบัติอื่นๆมากมาย แน่นอนด้วยคุณสมบัติมากมายเหล่านี้ ท่านอาจจะสงสัยวาน้ำผึ้งมีที่มาอย่างไร และทำไมถึงเป็นนิยมอย่างมาก ทั้งยังมีข้อควรระวังเช่นไรบทความนี้มีคำตอบให้อย่างแน่นอน จะเป็นยังไงบ้างนั้น ไปดูกันเลย

น้ำผึ้ง คือ?
น้ำผึ้ง คือ น้ำหวานที่ได้มาจากรังผึ้ง โดยเริ่มมาจากผึ้งงานได้บินออกไปดูดน้ำหวานจากดอกไม้ และเมื่อดูดเสร็จจะกลับมาคายน้ำหวานที่รัง ต่อไปก็จะเป็นหน้าที่ของผึ้งงานประจำรัง ซึ่งจะทำการรับน้ำหวานต่อด้วยวิธีการใช้ปากต่อปาก แต่น้ำผึ้งส่วนนี้ยังไม่เป็นน้ำผึ้งที่สบบูรณ์ เพราะยังคงมีความชื้นและน้ำในตัวของน้ำหวานมากถึงร้อย 30 เพราะฉะนั้นต่อมาหลังจากรับน้ำหวานเสร็จ ผึ้งงานประจำรังจะนำน้ำหวานนี้ไปเก็บไว้ในหลอดรวงน้ำผึ้ง ก่อนที่จะช่วยกันกระพือปีกใส่ให้เกิดการะระเหายของน้ำหวานจนได้เป็นน้ำผึ้งที่สมบูรณ์

หรือ หากให้อธิบายง่ายๆ น้ำผึ้งก็คือผลผลิตของน้ำหวานจากดอกไม้โดยตัวผึ้งได้นำมาเก็บสะสมไว้ ซึ่งปกติแล้วน้ำผึ้งจะมีกลิ่น รส สี ที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนิดของพืชที่ไปเก็บมาเช่น ดอกส้ม ดอกลำไย และดอกลิ้นจี่ โดยในตัวน้ำผึ้งยังมีส่วนผสมของน้ำตาล และสารประกอบอื่นๆ ทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุผสมอยู่ด้วย นี่จึงเป็นเหตุให้น้ำผึ้งถูกนิยมนำมาใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหาร และเครื่องดื่มมากมาย

น้ำผึ้ง คือ? มีประโยชน์ และส่วนประกอบอะไรบ้าง

ส่วนประกอบของน้ำผึ้ง
น้ำผึ้ง เป็นวัสดุทางธรรมชาติชนิดแรกๆที่ให้ความหวาน และเป็นที่รู้จักหรือใช้งานก่อนน้ำตาลก้อนเสียอีก โดยในตัวของน้ำผึ้งมีน้ำตาลมากถึง 80% ซึ่งจะประกอบไปด้วยน้ำตาลหลากหลายชนิด เช่น กลูโคส ฟรัทโทสเป็นต้น และแน่นอนนอกจากน้ำตาลที่เป็นส่วนประกอบหลักของน้ำผึ้งแล้ว ยังมีแร่ธาตุ หรือวิตามินต่างๆมากมายในอยู่ในตัวน้ำผึ้ง ถึงแม้จะมีในปริมาณน้อยนิดแต่ก็ช่วยให้ประโยชน์ต่อผู้บริโภคได้ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นดูได้จากตารางด้านล่างนี้เลย
ส่วนประกอบ  จำนวน  หน่วย
- พลังงาน   304 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต  82.4  กรัม
- น้ำตาล  82.12  กรัม
- เส้นใย    0.2  กรัม
- ไขมัน  0 กรัม
- โปรตีน  0.3  กรัม
- น้ำ  17.10  มิลลิกรัม
- วิตามินบี 1   0.038  มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3   0.121  มิลลิกรัม
- วิตามินบี 5   0.068  มิลลิกรัม
- วิตามินบี 6   0.024  มิลลิกรัม
- วิตามินบี 9    2  ไมโครกรัม
- วิตามินซี    0.5  มิลลิกรัม
- ธาตุแคลเซียม   6   มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก  0.42  มิลลิกรัม
- ธาตุแมกนีเซียม  2  มิลลิกรัม
- ธาตุฟอสฟอรัส  4  มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม   52 มิลลิกรัม
- ธาตุโซเดียม  4   มิลลิกรัม
- ธาตุสังกะสี   0.22  มิลลิกรัม

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง
แน่นอนหากพูดถึงประโยชน์ของน้ำผึ้งแล้ว หลายๆท่านคงคิดถึงการช่วยให้ความหวานแก่อาหาร และเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่นอกเหนือจากนี้น้ำผึ้งยังถูกนำมาใช้ได้อีกหลากหลายด้าน เช่น นำไปปรุงยา นำไปมาสก์หน้าเป็นต้น เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าประโยชน์ของน้ำผึ้งมีหลากหลาย ผมจึงขอแบ่งเป็น 3 ข้อ ดังนี้
1.ช่วยให้รสหวาน แก่อาหารหรือเครื่องดื่ม
อย่างแรกขอเริ่มที่เรื่องการให้รสหวานของน้ำผึ้ง ที่นิยมใช้กันเป็นหลักเลยก็ว่าได้ เพราะในตัวน้ำผึ้งนั้นมีส่วนผสมของน้ำตาลเป็นหลัก ทั้งกลูโคส และฟรัทโทส นอกจากนี้น้ำผึ้งที่ได้จากธรรมชาติยังมีส่วนผสมอื่นๆที่มีประโยขน์ต่อร่างกายมากมาย บวกเข้ากับรสชาติความหวานหอมจากธรรมชาติ นี่จึงเป็นเหตุให้มีรสชาติหวานที่น้ำตาลชนิดอื่นๆสู้ไม่ได้ และเรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ของตัวน้ำผึ้งเลยก็ว่าได้

2.นำมาใช้เป็นยา หรือส่วนประกอบของยา
เดิมที น้ำผึ้งมีคุณสมบัติทางยาอยู่แล้ว โดยตัวน้ำผึ้งมีความสามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆได้ เหตุเพราะน้ำผึ้งมีความเข้มข้นของน้ำตาลสูง และมีการเจือปนของน้ำน้อย ซึ่งความเข้มข้นนี้เป็นเหตุให้ช่วยกำจัดปริมาณน้ำที่แบคทีเรียใช้ในการเจริญเติบโตได้ นอกจากนี้ตัวน้ำผึ้งยังมีความสามารถเป็นกรดสูง ทั้งยังมีโปรตีนที่ต่ำ จึงทำให้แบคทีเรียไม่ได้รับไนโตรเจนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต นี่ถือเป็นเหตุว่าหากเรานำน้ำผึ้งมาทาที่บาดแผล จะสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดี แถมยังไม่เกิดอาการอักเสบของแผลอีกด้วย
นอกเหนือจากการฆ่าเชื่อแบคทีเรีย หรือช่วยหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคแล้วนั้น น้ำผึ้งยังถูกนำไปใช้เป็นยาชนิดต่างๆ เพื่อช่วยแก้โรคให้แก่ผู้ป่วยอีกมากมายเช่น บรรเทาอาการไอ ลดกรดในกระเพาะ ระงับประสาท โรคนอนไม่หลับเป็นต้น

3.ช่วยส่งเสริมด้านความงาม
นอกจากในเรื่องของการนำน้ำผึ้งไปทำเป็นตัวยา หรือให้ความหวานแก่อาหารชนิดต่างๆแล้วนั้น การนำน้ำผึ้งมาช่วยในเรื่องของความงามก็เป็นอีกสิ่งที่ถูกหยิบมาใช้ เพราะนอกจากคุณสมบัติในการต่อต้านแบคทีเรียต่างๆแล้วนั้น ตัวของน้ำผึ้งยังมีสารที่ให้เกิดความชุ่มชื้นช่วยทำให้ผิวพรรณอ่อนนุ่ม และมีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยป้องกันผิวจากการโดนทำลายของรังสียูวี และยังช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ได้อีกด้วย

4.นำไปแจกจ่ายเป็นของชำร่วย
น้ำผึ้ง นอกจากจะนิยมนำไปทานเล่น หรือนำไปทำเป็นยาต่างๆแล้วนั้น นี่ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกนำมาใช้งาน และนิยมอย่างมาก คือการนำน้ำผึ้งมาแจกจ่ายเป็นของชำร่วยตามงานแต่งต่างๆซึ่งเหตุผลที่นิยมนำน้ำผึ้งมาแจกจ่ายเป็นของชำร่วยนั้น เพราะตัวน้ำผึ้งมีความหมายถึงการอวยพรให้ชีวิตคู่มีแต่ความหอมหวาน ทั้งยังมีราคาที่ไม่แพง แถมยังสามารถนำไปรับประทานหรือเก็บไว้ได้นานอีกด้วย

ข้อควรระวังในการใช้น้ำผึ้ง
ถึงแม้น้ำผึ้งจะมีประโยชน์ต่างๆ มากมาย แต่แน่นอนทุกอย่างย่อมมีผลเสีย และยิ่งหากท่านเป็นกลุ่มคนที่มีอาการแพ้ หรือมีโรคประจำตัวบางชนิดอยู่นั้น หากทานน้ำผึ้งไปแล้วอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย หรืออาการแพ้ขึ้นได้
โดยข้อควรระวังในการกินน้ำผึ้งทั้งหมดจะมี ดังนี้
         - ห้ามให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทาน
         - ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ รับประทาน
         - ไม่ควรผสมลงบนน้ำที่เดือด หรือไม่เกินให้ 40-50 องศา
         - ห้ามรับประทานน้ำผึ้งมากเกิน 10 ช้อนชา
         - คนที่แพ้น้ำผึ้ง และเกสรน้ำผึ้งไม่ควรทาน
https://suwanfarmphueng.com/articles/what-are-the-benefits-of-honey-and-ingredients/

26
องค์ประกอบของน้ำผึ้ง


ทุกคนคงทราบกันดีว่าการดื่ม น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ เป็นประจำนั้นจะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ ช่วยป้องกันโรคต่างๆที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายของเรา ทั้งยังช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกายอีกด้วย การดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ได้มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นการดื่มน้ำผึ้งจึงเป็นทางเลือกสุขภาพของคนที่ดูแลตัวเองเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ บทความนี้เราจะพาท่านมาศึกษาองค์ประกอบของน้ำผึ้งว่าเหตุใดถึงดีต่อสุขภาพของเรามากมายขนาดนี้ ทำไมเราถึงควรดื่มน้ำผึ้ง มาดูกันเลยว่าองค์ประกอบของมันมีอะไรบ้าง
 
น้ำผึ้งประกอบด้วยน้ำตาลที่ดีต่อสุขภาพ
แม้ว่าเราจะรู้กันว่าการทานน้ำตาลหรือใส่น้ำตาลลงในอาหารมากเกินไปไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพมากนัก แต่ทราบหรือไม่ว่าการดื่มน้ำผึ้งได้รับการยกเว้น เพราะไม่ได้ส่งผลเสียใดๆต่อสุขภาพของเรา โดยน้ำผึ้งประกอบด้วยน้ำตาลฟรุกโตสเป็นส่วนใหญ่ที่ดีต่อสุขภาพมากๆ ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดได้ทันที และมีข้อดีคือน้ำตาลประเภทนี้ไม่ได้ไปสะสมเป็นไขมัน ทำให้ทานเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนอย่างแน่นอน ดังนั้นการทานน้ำผึ้งเราจะได้รับน้ำตาลฟรุกโตสที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ไม่ได้ทำให้เราอ้วนขึ้นแต่อย่างใด
 
น้ำผึ้งประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
การดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำจะช่วยให้เราได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย โดยสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในน้ำผึ้งมีส่วนช่วยในการกำจัดของเสียในหลอดเลือด ช่วยให้ระบบเลือดของเราทำงานได้อย่างเป็นปกติ ดีต่อโรคหัวใจและระบบสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย น้ำผึ้งจะดีต่อผู้ป่วยโรคหัวใจอีกด้วย ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดโรคให้กับคนที่มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหัวใจ แนะนำให้ดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำทุกวันเพื่อช่วยให้ระบบโลหิตในร่างกายทำงานอย่างดีที่สุด
 
แหล่งของวิตามินนานาชนิด
น้ำผึ้งมีส่วนประกอบจากวิตามินบี วิตามินอีจากธรรมชาติ โดยวิตามินบีที่ได้จากธรรมชาติจะช่วยให้กระบวนการทำงานของระบบประสาทและสมองในคนเรา โดยยังช่วยลดความตึงเครียดจากการทำงานได้อีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเราดื่มน้ำผึ้งแล้วรู้สึกว่าผ่อนคลายจากความเครียดสะสมในการทำงาน เหมาะสำหรับคนที่ทำงานหนักหรือทำงานที่ต้องเจอกับความเครียดสูง ควรดื่มน้ำผึ้งเพื่อผ่อนคลายความเครียดที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ทั้งวิตามินอีในน้ำผึ้งช่วยในการต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ป้องกันการเกิดออกซิเดชัน ป้องกันการเกิดมะเร็ง ดังนั้นเราจึงควรได้รับวิตามินอีอย่างสม่ำเสมอ โดยทางเลือกธรรมชาติที่ดีนั่นก็คือการรับวิตามินอีจากน้ำผึ้ง ซึ่งหากเราดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำทุกวัน [^_^]ราคาแพงก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย เพราะเราได้รับสารอาหารที่ดีเข้าสู่ร่างกายอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว
 
แหล่งของแร่ธาตุนานาชนิด
น้ำผึ้งจัดว่าเป็นอาหารที่เป็นแหล่งของแร่ธาตุมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนิเซียม เหล็ก และแร่ธาตุชนิดอื่นๆปะปนกันไป โดยแร่ธาตุที่หลากหลายช่วยให้ระบบของร่างกายทำงานได้ดี โดยเฉพาะธาตุเหล็กที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้อย่างมากในการบำรุงเม็ดเลือด มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี การทานน้ำผึ้งอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เราไม่ขาดแร่ธาตุเหล่านี้ ไม่เป็นโรคเม็ดเลือดจาง หากใครที่รู้สึกว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเม็ดเลือดจาง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดและอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอในการสร้างเม็ดเลือด ขอแนะนำให้ดื่มน้ำผึ้งเพื่อเสริมอาหารในการสร้างเม็ดเลือด
 
จากองค์ประกอบของน้ำผึ้งธรรมชาติเบื้องต้น เราได้เห็นสารอาหารที่หลากหลายที่จะช่วยบำรุงร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี โดยองค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรง การดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เราอาจขาดไปในมื้ออาหารหลัก ดังนั้นถือได้ว่าเป็นการทดแทนสารอาหารที่เราอาจพลาดไป นอกจากนี้เรายังสามารถนำน้ำผึ้งมาใช้เป็นยารักษาโรคต่างๆได้อีกด้วย เช่น การใช้เพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับความเครียด ใช้รักษาอาการท้องร่วง รวมทั้งฆ่าเชื้อในกระแสเลือดได้อีกด้วย
https://suwanfarmphueng.com/articles/องค์ประกอบของน้ำผึ้ง/

27
น้ำผึ้งแท้แก้อาการท้องร่วง


คนที่มีอาการท้องร่วงคงทราบดีถึงความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของโรคนี้ เมื่อเป็นแล้วสิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือถ้าเราไม่สามารถรักษาให้หายได้รวดเร็วในเวลาสั้นๆ เราอาจต้องใช้เวลารักษาเยียวยานานถึง 7 วันเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมาสู้กับเชื้อได้ เนื่องจากเมื่อเชื้อเริ่มก่อนตัวขึ้นโดยที่เราปล่อยละเลย ก็จะทำให้เกิดการสะสมและก่อตัวของเชื้อจนไม่สามารถรักษาให้หายจากโรคท้องร่วงได้ง่ายๆ อาการของโรคท้องร่วงเป็นอาการที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำและสารอาหารไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ขาดสารอาหารมาเลี้ยงร่างกาย จึงเกิดภาวะช็อกหมดสติได้ตลอดเวลา ถ้าเริ่มแน่ใจว่าเรามีอาการของโรคท้องร่วงแล้ว สิ่งแรกที่ต้องหยิบขึ้นมากินก็คือ น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ มีตั้งแต่ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ สามารถใช้เพื่อฆ่าเชื้อไปก่อนเลย เนื่องจากโรคท้องร่วงในระยะแรกนั้นมักมีอาการไม่รุนแรง ยังไม่มีการก่อตัวอย่างเชื้อเยอะมาก การดื่มน้ำผึ้งจะช่วยยับยั้งเชื้อไว้ได้ทันเวลา

สารฆ่าเชื้อแบคทีเรียในน้ำผึ้ง
การที่น้ำผึ้งสามารถนำมารักษาโรคท้องร่วงได้นั้น เนื่องจากประกอบด้วยสารฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียและเชื้อโรคชนิดอื่นๆที่อาจเป็นสาเหตุของอาการท้องร่วงได้ ดังนั้นการหยิบน้ำผึ้งขึ้นมาดื่มเพื่อรักษาโรคท้องร่วงจึงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางในการรักษาโรคท้องร่วงให้อาการของเราทุเลาลง โดยจากงานวิจัยต่างๆพบว่าผู้ที่ดื่มน้ำผึ้งเพื่อรักษาโรคท้องร่วงนั้นมีแนวโน้มที่จะหายจากโรคได้เร็วกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มน้ำผึ้งเลย นั่นหมายความว่าการดื่มน้ำผึ้งเข้าไปในร่างกาย จะทำให้ลำไส้ของเราได้รับการฆ่าเชื้อ เชื้อโรคไม่สามารถอาศัยอยู่ในร่างกายได้ ดังนั้นผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการของโรคท้องเสียอย่าลืมที่จะดื่มน้ำผึ้งตั้งแต่วันที่รู้สึกว่าอาการนั้นเริ่มมาแล้ว แล้วให้ดื่มติดต่อกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะมั่นใจว่าหายจากอาการท้องเสีย

แหล่งของสารอาหารที่สำคัญ
คนที่เป็นโรคท้องร่วงหรือท้องเสียติดต่อกันหลายวัน คงทราบดีว่าไม่สามารถรับประทานอาหารได้ดีเท่าคนปกตินัก เพราะกระเพาะอาหารและลำไส้ต่างก็ทำงานผันผวนไปหมด ทำให้เบื่อและไม่อยากรับประทานอาหาร ดังนั้นคนที่เจอกับอาการเช่นนี้จะต้องได้รับเกลือแร่เสริมและหาแหล่งอาหารมาเสริมให้ร่างกายได้รับสารอาหารอยู่บ้าง ซึ่งน้ำผึ้งเป็นแหล่งพลังงานที่ดีมากๆที่แนะนำให้ดื่มเมื่อเราเบื่ออาหาร เพราะน้ำผึ้งเป็นยาเจริญอาหารชั้นดี ที่ไม่เพียงประกอบด้วยน้ำตาลเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารประเภทวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ดังนั้นการที่เรารับประทานอาหารยากเมื่อมีอาการท้องเสีย สามารถรับสารอาหารจากการดื่มน้ำผึ้งเข้าไปทดแทนได้เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอยู่ตลอด แม้เราจะไม่สามารถรับประทานข้าวหรืออาหารมื้อหลักได้

วิธีใช้น้ำผึ้งสำหรับคนท้องเสียติดต่อกันหลายวัน
สิ่งที่คนท้องเสียหรือมีอาการท้องร่วงติดต่อกันหลาย ทราบกันไหมว่าร่างกายของเราจะต้องเสียน้ำไปตลอดเวลาและเสียสารอาหารไปกับการขับถ่ายเกือบทั้งหมด ร่างกายแทบไม่สามารถใช้สารอาหารที่ได้จากอาหารที่เรารับประทานได้เลย ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือการดื่มน้ำสม่ำเสมอ และต้องมีการได้รับอาหารที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทันที ไม่ใช่อาหารที่ต้องผ่านกระบวนการย่อยหลายขั้นตอนจนไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นน้ำผึ้งเป็นแหล่งของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างกายของเราสามารถนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยใดๆ เหมาะอย่างยิ่งสำคัญคนท้องเสียที่ต้องได้รับการเสริมอาหาร ซึ่งวิตามินและแร่ธาตุในน้ำผึ้งจะเข้ามาทดแทนสารอาหารที่เราเสียไป ดังนั้นสิ่งที่เราต้องมีหลักๆเมื่อเกิดอาการท้องร่วงนั่นก็คือน้ำและน้ำผึ้งเพื่อให้ร่างกายของเราได้รับน้ำและสารอาหารอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตามเมื่อเรารู้ตัวว่ามีอาการท้องร่วงนั้น เมื่อเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเกิดอาการดังกล่าวติดต่อกันนานเกินไป ก็อาจทำให้เกิดภาวะช็อกและเป็นอันตรายได้ตลอดเวลา เราจึงต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์เพื่อให้หมอดูอาการร่วมด้วย เพราะภาวะท้องเสียนั้นแม้จะสามารถเยียวยาโดยการทานน้ำผึ้งเพื่อให้อาการดีขึ้นได้ ยังต้องมีการฆ่าเชื้อด้วยวิธีทางการแพทย์ด้วย เพราะโรคดังกล่าวอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและเสียชีวิตได้ตลอดเวลา
https://suwanfarmphueng.com/articles/honey-for-cure-diarrhea/

28
รวมวิธีนำน้ำผึ้งมาใช้ภายนอก


น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ล้วนเป็นทั้งอาหารและยาดีให้เราสามารถนำไปใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ซึ่งสารให้ความหวานชนิดนี้มีประโยชน์อย่างมากในการนำมาใช้รักษาโรคต่างๆ ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายๆครอบครัวได้ซื้อน้ำผึ้งเก็บไว้เพื่อใช้ยามจำเป็นและดื่มกินเพื่อสุขภาพที่ดีของคนในครอบครัว แน่นอนว่าการดื่มน้ำผึ้งนั้นนอกจากจะช่วยให้สุขภาพเราดีแล้ว เรายังสามารถใช้ภายนอกให้เกิดประโยชน์ได้อีกด้วย สำหรับบทความนี้เราได้รวบรวมการนำน้ำผึ้งไปใช้ภายนอกมาดูกันเลยว่าใช้อย่างไรได้บ้าง

การนำน้ำผึ้งมารักษาการติดเชื้อรา
ร่างกายตามผิวหนังของเราสามารถเกิดโรคเรื้อรัง เป็นโรคผิวหนังที่เกิดเชื้อราได้ถ้าเราไม่ได้ดูแลรักษาความสะอาดให้ดี แต่หากเราติดโรคเชื้อรามาแล้วไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เราจะต้องรีบหาทางรักษาเพราะถ้าเราปล่อยเอาไว้ อาการเชื้อราจะติดเชื้อลุกลามไปยังผิวหนังของเราและเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาจไม่สามารถหายได้ด้วยการรักษาเข้าแพทย์ผิวหนัง แต่หากบ้านของเรามีน้ำผึ้งเก็บไว้ เราก็สามารถรักษาได้แต่เนิ่นๆโดยไม่ต้องไปพบแพทย์ผิวหนังเพราะอาการขั้นแรกไม่ได้รุนแรง การใช้น้ำผึ้งทาตรงบริเวณที่ติดเชื้อรานั้นจะช่วยระงับการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี เพราะในน้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารต้านเชื้อแบคทีเรียและสารต้านเชื้อรา ดังนั้นการติดเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังระยะแรกๆจะสามารถรักษาให้หายได้อย่างรวดเร็วโดยการใช้น้ำผึ้งจากธรรมชาติทาลงบนแผล

การนำน้ำผึ้งมาใช้ในการรักษาบาดแผลบนร่างกาย
นอกจากเราจะเอามารักษาอาการติดเชื้อราบนผิวหนังให้หายดีได้แล้ว เรายังสามารถใช้น้ำผึ้งมารักษาแผลสดของเราได้อีกด้วย เนื่องจากน้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยสมานแผล ทำให้แผลสดหายเร็วยิ่งขึ้น โดยการทำงานของน้ำผึ้งเมื่อเรานำไปทาบนแผลสดคือจะเข้าไปฆ่าเชื้อโรคที่เข้ามาตอมบาดแผลสดของเรา เนื่องจากแผลสดโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีเชื้อโรคมาเกาะอาศัยเพราะเป็นแหล่งอาหารชั้นดีสำหรับเชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ หากเราไม่ได้รักษาให้หาย เชื้อโรคเหล่านั้นจะรวมตัวกันก่อตัวบนแผลของเรา ทำให้เกิดหนองบนแผลได้ในที่สุด ดังนั้นทางที่ดีที่สุดในการรักษาบาดแผลนั่นก็คือการหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อโรคมาเกาะตามแผลตั้งแต่ต้นด้วยการทาน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติเพื่อฆ่าเชื้อโรค โดยให้ทาเพิ่มเรื่อยๆทุกวันจนกว่าแผลของเราจะเริ่มแห้งลง น้ำผึ้งไม่เพียงจะช่วยให้แผลของเรามีเชื้อโรคมาก่อตัวเท่านั้น แต่น้ำผึ้งยังช่วยสมานแผลของเราให้หายเร็วขึ้น และลดโอกาสการเกิดแผลเป็นได้เป็นอย่างดี

การใช้น้ำผึ้งพอกหน้า
ไม่เพียงนำมาใช้เป็นตัวยาทางธรรมชาติเท่านั้น แต่น้ำผึ้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดีในด้านความงามอีกด้วย โดยการนำน้ำผึ้งมาพอกหน้าจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าของเรายิ่งขึ้นโดยไม่ต้องเสียเงินไปซื้อเครื่องสำอางราคาแพง เนื่องจากน้ำผึ้งจัดเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้า ช่วยป้องกันการเกิดรอยตีนกา รอยเหยี่ยวย่นบนใบหน้าของเราได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดสิวอีกด้วย เพราะน้ำผึ้งจะฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวบนใบหน้าของเราได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่เพียงการใช้น้ำผึ้งสดในการพอกหน้าแบบเพียวๆจะให้ผลดีเท่านั้น แต่เรายังสามารถผสมน้ำผึ้งเข้ากับส่วนผสมอื่นๆเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย อาทิเช่น การผสมน้ำผึ้งกับขมิ้นเพื่อช่วยในการลบเลือนจุดด่างดำบนใบหน้า ผสมน้ำผึ้งกับผงอบเชยเพื่อช่วยในการรักษาสิวซึ่งสูตรนี้ได้ผลมากๆ

น้ำผึ้งไม่เพียงแต่สามารถนำมาใช้ภายนอกให้ได้ผลดีเท่านั้น การใช้น้ำผึ้งในการรักษาโรคยังเป็นที่นิยมกันมายาวนานตั้งแต่ในอดีต เพราะนอกจากเราจะนำมาฆ่าเชื้อโรคตามผิวหนังได้แล้ว ยังช่วยฆ่าเชื้อโรคที่กระแสเลือดได้อีกด้วย สำหรับครอบครัวใดมีผู้ป่วยโรคเบาหวาน ขอแนะนำให้ใช้น้ำผึ้งแทนการปรุงอาหารด้วยน้ำตาล เพราะการดื่มน้ำผึ้งแต่พอเหมาะในแต่ละวันไม่ได้ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นและยังช่วยรักษาโดยปรับลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเทคนิคในการใช้วัตถุปรุงอาหารที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพของเรา
https://suwanfarmphueng.com/articles/รวมวิธีนำน้ำผึ้งมาใช้ภ/

29
บำบัดโรคไมเกรนด้วยน้ำผึ้ง


อย่างที่เราทราบกันดีว่า น้ำผึ้ง นั้นดีต่อสุขภาพของเราหลายประการมากๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ก็เป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น โดยทั่วไปมีหลายคนที่รักสุขภาพก็จะดื่มกินน้ำผึ้งเพื่อเติมสารอาหารให้กับร่างกายกันอยู่แล้ว เนื่องจากน้ำผึ้งเป็นแหล่งของสารอาหารชั้นดีจากธรรมชาติ ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อ[^_^]ที่ใช้สารอาหารสังเคราะห์ในการผลิต เพราะไม่ได้มีอะไรการันตีได้ว่าสารอาหารสังเคราะห์จะดีกับร่างกายของเราจริง แต่สารอาหารจากธรรมชาติแน่นอนว่านอกจากจะไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายของเราได้นำสารอาหารไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้นในเมื่อเราสามารถหาซื้อน้ำผึ้งซึ่งเป็นแหล่งของสารอาหารชั้นดีสำหรับสุขภาพของเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องทาน[^_^]เข้าไปในร่างกาย

ปัจจุบันเราสามารถใช้น้ำผึ้งธรรมชาติมาบำบัดโรคไมเกรนได้แล้ว ซึ่งช่วยให้ลดยาหมอลง ทำให้โรคไมเกรนมีอาการทุเลาลงโดยที่เราไม่ต้องพึ่งพายาหมอมากเกินไปจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ นั่นคนที่ป่วยเป็นไมเกรนจึงขอแนะนำให้ดื่มน้ำผึ้งแท้เป็นประจำเพื่อช่วยทุเลาอาการของโรคโดยที่ไม่ต้องไปพึ่งพายาหมอที่ทำลายสุขภาพของเรา โดยทั่วไปแล้วเราก็ทราบกันดีใช่ไหมว่าการใช้ยาหมอนั้นแท้จริงแล้วไม่ใช่การรักษาที่ถูกวิธี แต่การทานยาเหล่านั้นเป็นเพียงการให้สารเคมีกับร่างกาย ช่วยให้ร่างกายลดความเจ็บปวดไปเท่านั้นเอง หรือเป็นการรับยาแก้อาการปวดเมื่อมีอาการ ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายของเราหายจากโรคได้จริงๆเลย ดังนั้นการรักษาที่ถูกวิธีควรเป็นวิธีการบำบัดด้วยธรรมชาติ ไม่ใช่การใช้ยาเพื่อแก้อาการปวดเป็นครั้งคราว หากจะเน้นใช้ยาแก้ปวดไปตลอดเราก็ไม่มีวันหายจากไมเกรน

ปริมาณน้ำผึ้งที่เหมาะสมสำหรับการดื่มเพื่อรักษาโรคไมเกรนมักจะอยู่ที่ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน ก็เพียงพอที่จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายของเราดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี น้ำผึ้งประกอบด้วยวิตามินบีที่ช่วยลดความเครียด และน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวจากน้ำผึ้งที่สามารถดูดซึมเข้าเส้นเลือดได้อย่างรวดเร็วก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เราอารมณ์ดีอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะใช้น้ำผึ้งในการรักษาโรคไมเกรนเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ย่อมคุ้มค่า เพราะไม่ใช่เพียงเพื่อดื่มในการรักษาอาการปวดทรมานชั่วคราว แต่การดื่มน้ำผึ้งรักษาไมเกรนจะช่วยให้เราเห็นผลในระยะยาว ช่วยให้เห็นอาการที่ทุเลาลงไปเรื่อยๆ ไม่เพียงต่อการใช้ในการรักษาโรคไมเกรนเท่านั้นที่จะเห็นผลได้ดี แต่ยังใช้ในการรักษาโรคเบาหวานและโรคหัวใจได้อีกด้วย เนื่องจากการดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำติดต่อกันทุกวันได้มีงานวิจัยตีพิมพ์มายืนยันแล้วว่าการดื่มน้ำผึ้งนั้นดีต่อสุขภาพ ไม่ไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น แถมยังช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ดีอีกด้วย ดังนั้นผู้ดื่มน้ำผึ้งเพื่อรักษาไมเกรนจะได้ผลพลอยได้อีกหลายประการไม่ว่าจะเป็นการป้องกันโรคหัวใจ ทั้งช่วยป้องกันโรคเบาหวานไปพร้อมๆกัน ถือว่าเป็นแหล่งพลังงานบริสุทธิ์ที่หาได้ง่าย

ทางเลือกอื่นๆในการรักษาโรคไมเกรนให้หายได้ หากท่านไม่สามารถหาทานน้ำผึ้งธรรมชาติได้ก็ยังมีทางเลือกที่ดีจากธรรมชาติที่จะช่วยรักษาโรคไมเกรนได้เช่นกัน การทานผักผลไม้จากธรรมชาติ รวมทั้งการทานปลาเนื้อมันเพื่อเสริมไขมันดีจากปลา การทานกาแฟและธัญพืชยังช่วยในการบำบัดรักษาไมเกรนเช่นกัน ดังนั้นถ้าหากเราไม่สามารถหาดื่มน้ำผึ้งจากธรรมชาติได้ ก็อย่าลืมใส่ใจในเรื่องของอาหารการกินเป็นหลัก เพราะนอกจากความเครียดแล้ว อาหารการกินนั้นสำคัญมากๆที่จะช่วยให้เราหายจากความเจ็บปวดทรมานของโรคนี้ได้

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยโรคไมเกรนหลายคนที่มีอาการปวดหัวข้างเดียวมักไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและทำการรักษากับโรงพยาบาลหรือคลินิกหมอ จึงไม่สามารถทราบได้ว่าเราควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทใดบ้างที่ไม่ดีต่อสุขภาพของผู้ป่วยโรคนี้ โดยทั่วไปอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงนั่นก็คืออาหารประเภททอดหรืออาหารมันๆที่มีส่วนประกอบของน้ำมันมากเกินไป นอกจากนี้ยังต้องหลีกเลี่ยงเครื่องปรุงอาหารที่มีผงชูรส ผลไม้จำพวกส้ม นมและช็อกโกเล็ตเพื่อไม่ให้อาการกำเริบขึ้นได้ง่าย พยายามออกไปออกกำลังกายในที่สาธารณะและหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตในสถานการณ์ที่เคร่งเครียดเกินไป
https://suwanfarmphueng.com/articles/บำบัดโรคไมเกรนด้วยน้ำผ/

30
แนะนำทำแฟรนไชส์จากสูตรเครื่องดื่มน้ำผึ้ง


ทุกคนทราบดีว่าสูตรอาหารที่ทำให้ติดปากและชวนชิมได้นั้น เชฟคนดังมักใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพดี โดยวัตถุปรุงแต่งอาหารที่มีคุณภาพดีและได้รับความนิยมมากนั่นก็คือ น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ก็ต่างเป็นที่นิยมทั้งนั้น เนื่องจากเป็นแหล่งของความหวานธรรมชาติที่มีรสชาติหวานกลมกล่อมชวนรับประทาน ช่วยให้ผู้บริโภคติดปากกับอาหารที่ปรุงเสร็จ ทำให้ผู้บริโภคย่อมกลับมาซื้ออาหารจากร้านนั้นอย่างแน่นอน ดังนั้นสำหรับบทความนี้เหมาะสำหรับคนที่กำลังคิดว่าอยากเปิดร้านอาหารหรือแฟรนไชส์เครื่องดื่มจากน้ำผึ้งแท้ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีไปยังผู้บริโภค เป็นการใส่ใจทั้งสุขภาพและรสชาติอาหารให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งดีๆจากการซื้อเครื่องดื่มของเรา

แฟรนไชส์เครื่องดื่มสมุนไพร
สำหรับแฟรนไชส์แรกที่เราอยากแนะนำท่านนั่นก็คือการทำแฟรนไชส์สมุนไพร ซึ่งโดยปกติแล้วการทำแฟรนไชส์สมุนไพรนั้นจะเน้นกลุ่มเป้าหมายหรือคนที่จะมาซื้อน้ำสมุนไพรของเราเป็นกลุ่มคนรักสุขภาพเป็นหลัก ดังนั้นวัตถุดิบในการปรุงอาหารควรเป็นวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพของเราด้วย ขอแนะนำให้ใช้น้ำผึ้งแทนการใช้น้ำตาลเพื่อปรุงเครื่องดื่ม เนื่องจากเครื่องดื่มที่ปรุงด้วยน้ำผึ้งนั้นมีผลดีต่อสุขภาพไม่เป็นผลเสียเหมือนกับการใช้น้ำตาลในการปรุง หากเราทำแบบนี้เราจะได้ผู้บริโภคที่รักสุขภาพอย่างแท้จริง เพราะผู้บริโภคที่รักสุขภาพส่วนใหญ่นั้นมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการเลือกวัตถุดิบการปรุงอาหารอยู่แล้ว เรามักได้ยินเวลาสั่งเครื่องดื่ม ผู้บริโภคหลายท่านเลือกสั่งเครื่องดื่มโดยการบอกว่าขอหวานน้อย เพราะทราบว่าการชงเครื่องดื่มที่มีรสหวานด้วยน้ำตาลไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพเท่าไหร่นัก แต่การที่เราได้รับความหวานที่มาจากน้ำผึ้งแท้นั้นนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังได้รสชาติหวานอร่อยกว่าปกติอีกด้วย ดังนั้นเครื่องดื่มสมุนไพรที่อยากได้กลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพอย่างแท้จริง ขอแนะนำให้ใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลเพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ

แฟรนไชส์เครื่องดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว
รู้หรือไม่ว่าแค่เรารู้สูตรการทำน้ำผึ้งผสมมะนาวนั้นก็สามารถเปิดร้านขายเครื่องดื่มได้เช่นกัน และมันไม่ใช่เป็นแค่เทรนด์ใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามาได้รับความนิยม แต่ผู้บริโภคมองเห็นประโยชน์ของน้ำผึ้งผสมมะนาวอย่างแท้จริง หลายคนมักมีปัญหากับเสมหะในลำคอ มีอาการเจ็บคอ พูดไม่ชัด บางคนยิ่งพูดก็ยิ่งเจ็บคอ ทางแก้ที่คนส่วนใหญ่รู้จักนั่นก็คือการดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว เพราะจะช่วยแก้อาการเจ็บคอได้ดีมากๆ ช่วยละลายเสมหะ ทำให้เสียงใสขึ้น จากยิ่งพูดยิ่งเจ็บคอก็จะสามารถพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ยุ่งวุ่นวายกับชีวิต มีงานพันตัว ไม่สามารถชงน้ำผึ้งผสมน้ำมะนาวได้ด้วยตัวเอง การที่เราทำแฟรนไชส์ร้านเครื่องดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาวจะช่วยให้เราได้กลุ่มลูกค้าที่เร่งรีบและมีกำลังซื้อ มีโอกาสที่การขายน้ำผึ้งผสมมะนาวจะไปได้ดีเพราะคนทำงานจะต้องดื่มกันเยอะมากเพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการใช้ชีวิต พวกเขาจะมานั่งพูดเสียงติดๆขัดๆกันก็คงไม่ได้ ต้องแก้ปัญหากันมาก่อน เหตุผลที่น้ำผึ้งผสมมะนาวช่วยแก้อาการเจ็บคอได้ดี และยังใช้ละลายเสมหะได้เพราะว่าในน้ำผึ้งมีสารต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยให้เชื้อแบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตได้ดี พร้อมทั้งน้ำมะนาวเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เสมหะในลำคอของเราละลายออกมา ไม่ติดคอ เหมาะสำหรับคนที่มีเสมหะเหนียวก็สามารถใช้น้ำมะนาวรักษาได้ ดังนั้นสูตรน้ำผึ้งมะนาว จึงเป็นสูตรที่ได้ผลดีมากๆ

นอกจากนี้เรายังสามารถประยุกต์ใช้สูตรเครื่องดื่มเพิ่มเติมเพื่อนำมาจำหน่ายได้อีกด้วย อาทิเช่น สูตรชาเขียวน้ำผึ้งที่ได้รับความนิยมมาสักพัก เนื่องจากชาเขียวถือเป็นแหล่งของกาแฟอีนและสารต้านอนุมูลอิสระนานาชนิด การดื่มชาเขียวไม่เพียงทำให้หายง่วงเท่านั้น แต่ยังดีต่อสุขภาพ ช่วยต้านมะเร็ง ป้องกันการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย แต่การดื่มชาเขียวผสมน้ำตาลนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภค เพราะจะไปเร่งให้ผิวพรรณเสื่อมโทรมและแก่ได้เร็วขึ้น ดังนั้นทางเลือกสุขภาพที่ดีที่สุดก็คือการใช้น้ำผึ้งมาใส่ในเครื่องดื่มแทนการใช้น้ำตาล เพราะน้ำผึ้งไม่มีผลเสียใดๆต่อสุขภาพของเราเลย
https://suwanfarmphueng.com/articles/แนะนำทำแฟรนไชส์จากสูตร/

31
น้ำผึ้งแท้ ยาดีประจำบ้าน


หลายครอบครัวได้เลือกดูแลคนในบ้านด้วยการหายามาไว้ในบ้าน โดยเฉพาะยาสามัญประจำบ้านต่างๆ ซึ่งหากเราไม่ได้พกยาสามัญเอาไว้ใช้ภายในบ้าน ในยามเจ็บป่วยฉุกเฉินก็ไม่สามารถหายาที่ไหนได้และไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แต่อย่างไรก็ตามการใช้ยาหมอนั้นไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่ทุกคนคิด เพราะยาหมอที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันนั้นมีผลต่อระบบในร่างกายของเรา โดยเฉพาะตับ เมื่อเราทานยา ตับจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากเป็นอวัยวะที่ใช้กรองข้อเสียภายในร่างกายของเรา การทานยาจะไปสะสมอยู่ในตับของเรา และยังมีผลต่อไตอีกด้วย เมื่อเราทานยาเข้าไป สุดท้ายแล้วยาทุกอย่างจะไปจบที่ไตและทำให้ไตของเราทำงานหนักเกินไป ดังนั้นขอแนะนำการนำ น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ มาใช้เพื่อดูแลสุขภาพของคนในบ้านทดแทนกรณีต่างๆที่ต้องใช้ยา เพื่อลดการทำงานของตับไตของเรา สำหรับบทความนี้ท่านจะได้ทราบว่าการใช้น้ำผึ้งสามารถดูแลสุขภาพด้านใดของเราได้บ้าง

น้ำผึ้งกับการแก้ไอ
หลายคนที่ป่วยและมีโอกาสไออยู่บ่อยครั้งจึงต้องทานยาหมอเพื่อแก้อาการไอให้ผ่านพ้นไปได้ แม้จะเป็นอาการที่ดูไม่น่ากังวลนัก แต่การไอทำให้เราทรมาน อวัยวะภายในได้รับการกระทบกระเทือน คนที่ไม่เป็นอาการนี้ก็ไม่ทราบ เมื่อเราไอหนักขึ้นก็จะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดเมื่อไอ เนื่องจากระบบภายในของร่างกายได้รับการกระทบกระเทือนมากขึ้นเรื่อยๆ การใช้ยาแก้ไอก็ไม่ได้เป็นผลดีมากนัก เนื่องจากยาแก้ไอโดยทั่วไปจะทำให้ไตของเราทำงานหนัก เพราะประกอบด้วยตัวยาที่ไตจะต้องขับออกจากร่างกาย ดังนั้นทางที่ดีในการรักษาอาการไอคือลองใช้น้ำผึ้งธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะมารักษาอาการไอของเรา เพียงเท่านี้เราก็หายจากอาการไอได้อย่างปลอดภัยแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปซื้อยาแก้ไอที่ไม่ปลอดภัยต่อไตของเรา

น้ำผึ้งกับการรักษาโรคกระเพาะอาหาร
โรคกระเพาะอาหารเป็นโรคที่หลายคนเป็นบ่อยมาก การเกิดแผลในกระเพาะอาหารนั้นเกิดได้ง่าย หากเรารับประทานอาหารที่มีส่วนไปกระตุ้นให้เกิดการทำงานของกระเพาะผิดปกติ จึงต้องมียารักษาแผลกระเพาะเอาไว้ประจำบ้าน แต่ทราบหรือไม่ว่าการใช้น้ำผึ้งสามารถรักษาโรคกระเพาะอาหารได้เช่นกัน โดยการดื่มน้ำผึ้งจะช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารของเราได้เป็นอย่างดี ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น แม้เราจะเจ็บทรมานมานานก็หายได้ ทั้งยังดีกว่ายาหมอตรงที่มีความปลอดภัยสูงอีกด้วย ดังนั้นถ้าปวดท้องหรือเป็นแผลในกระเพาะอาหาร ขอแนะนำให้ดื่มน้ำผึ้งเพียงวันละ 1 ช้อนโต๊ะ ก็จะช่วยให้แผลในกระเพาะอาหารของเราสมานกันและหายเร็วขึ้น ทำให้ไม่ต้องเจ็บปวดทรมานอีกต่อไป

น้ำผึ้งกับการแก้โรคนอนไม่หลับ
สำหรับใครที่อ่านบทความนี้แล้วเป็นโรคนอนไม่หลับอยู่ ท่านไม่จำเป็นต้องไปพึ่งพายานอนหลับอีกต่อไปแล้ว เพราะน้ำผึ้งสามารถเป็นยานอนหลับจากธรรมชาติได้อีกด้วย เพียงดื่มน้ำผึ้งสัก 1 ถึง 2 ช้อนชาก่อนการเข้านอน 15 นาที เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เราหลับได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการดื่มน้ำผึ้งช่วยให้ระบบฮอร์โมนต่างๆในร่างกายเหมาะแก่การพักผ่อน ช่วยส่งเสริมให้เรารู้สึกง่วงและหลับสบายตลอดทั้งคืนโดยที่ไม่สะดุ้งตื่นระหว่างคืน แถมไม่ฝันร้ายอีกด้วย

การใช้รักษาแผล
น้ำผึ้งไม่ได้ดีเฉพาะการนำไปใช้ภายในหรือการดื่มกินเพียงเท่านั้น แต่เรายังสามารถนำน้ำผึ้งมารักษาภายนอกได้อีกด้วย หากเรามีบาดแผลหรือได้รับความบาดเจ็บมีแผลถลอกจากภายนอกก็สามารถใช้น้ำผึ้งทาแผลเพื่อฆ่าเชื้อโรคและเร่งให้เกิดการสมานแผลได้อีกด้วย ช่วยให้แผลหายอย่างรวดเร็ว ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น ไม่เพียงเท่านั้น แผลน้ำร้อนลวกหรือแผลไฟไหม้ก็สามารถใช้น้ำผึ้งทาได้ทันทีเพื่อให้ความชุ่มชื้นและลดโอกาสการเกิดแผลเป็นได้เยอะมาก ดังนั้นการมีน้ำผึ้งไว้ในบ้านสามารถเอามารักษาบาดแผลได้แทนการใช้แอลกอฮอล์ได้เลย ไม่เพียงเท่านี้เรายังเอาน้ำผึ้งมาแก้อาการเป็นลมได้อีกด้วย เพราะน้ำผึ้งจะเปลี่ยนไปสู่พลังงานให้ร่างกายน้ำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้หายจากอาการหน้ามืดเป็นลมได้รวดเร็วมาก จึงถือว่าเป็นยาดีและปลอดภัยต่อร่างกายที่มีใช้มาตั้งแต่อดีต
https://suwanfarmphueng.com/articles/น้ำผึ้งแท้-ยาดีประจำบ้า/

32
ข้อดีของการใช้น้ำผึ้งทำอาหาร


น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ นั้นถือว่าเป็นอาหารจากธรรมชาติที่ให้คุณค่าของสารอาหารเต็มเปี่ยม ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารหลากหลายชนิด ไม่เพียงแต่เป็นอาหารเท่านั้น แต่น้ำผึ้งยังเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติที่จะช่วยให้เรานำไปปรุงอาหารได้อร่อยถูกปากได้อีกด้วย เนื่องด้วยรสชาติของน้ำผึ้งมีความหอมหวานชวนรับประทานมากๆ อาหารที่ทำด้วยน้ำผึ้งจะมีรสชาติที่แตกต่างจากอาหารทั่วไป เรารู้สึกได้ถึงรสชาติที่หวานกลมกล่อม ยิ่งทำยิ่งอร่อย สำหรับร้านค้าที่ทำอาหารขาย ลองใช้น้ำผึ้งเป็นวัตถุดิบแทนน้ำตาล ยิ่งลูกค้าของเราทานอาหารของเราเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้รสชาติติดปาก ถูกอกถูกใจ ทำให้อาหารของเราขายดีอยู่เรื่อยๆ ลูกค้าคนเดิมๆก็จะเข้ามาอุดหนุน แถมบอกต่อเป็นปากต่อปากแบบแน่นอน

ช่วยสร้างรสชาติที่กลมกล่อม
ความหอมหวานจากน้ำผึ้งเมื่อผสมอยู่ในอาหารจะไม่ทำให้อาหารมีรสชาติหวานเลี่ยนเหมือนกับการเติมน้ำตาลลงไปในอาหาร แต่จะให้รสชาติในลักษณะหวานกลมกล่อมชวนรับประทานอย่างมาก ดังนั้นนี่จะเป็นเหตุผลสำคัญที่ร้านอาหารหรือภัตตาคารหรูๆเลือกใช้น้ำผึ้งแทนวัตถุดิบในการปรุงอาหารให้หอมอร่อยถูกใจ เพื่อให้รสชาติที่ได้เป็นรสหวานกลมกล่อมชวนรับประทาน ดังนั้นถ้าอยากให้อาหารที่เราปรุงมีรสชาติสุดพรีเมี่ยม มีความหวานกลมกล่อมกว่าอาหารปกติ ความลับมันอยู่ที่การใช้น้ำผึ้งในการปรุงอาหารนั่นเอง

ปลอดภัยต่อระดับน้ำตาลในเลือด
สิ่งที่น่ากังวลเกี่ยวกับการทำอาหารนั่นก็คือปริมาณน้ำตาลในอาหารบางชนิดที่มีมากเกินไป โดยทั่วไปการเดิมน้ำตาลมากเกินไปจะทำให้อาหารของเรามีองค์ประกอบของน้ำตาลที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การที่น้ำตาลในเลือดสูงจะเป็นสาเหตุของโรคหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจและความดันโลหิตสูง ดังนั้นทางที่ดีคือให้เราเลิกใช้น้ำตาลในการปรุงอาหาร แต่หันมาใช้น้ำผึ้งแทน เนื่องจากการใช้น้ำผึ้งนั้นไม่ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคหัวใจมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงค่อนข้างปลอดภัยต่อการนำไปใช้มากๆ มีการวิจัยอย่างยาวนานเกี่ยวกับการน้ำผึ้งมาใช้ทดแทนน้ำตาลหรือสารให้ความหวานอื่นๆ พบว่าน้ำผึ้งไม่ได้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยสูงขึ้นเหมือนกับน้ำตาล นอกจากนี้การดื่มน้ำผึ้งยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย โดยจากผลการวัดคนที่ได้รับน้ำผึ้ง พบว่าไม่ไปทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น แถมยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอีกด้วย ทั้งที่น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานที่ประกอบด้วยน้ำตาลและพลังงานสูง ด้วยเหตุนี้เราจึงชั่งใจได้ว่าการทำอาหารที่ปรุงด้วยน้ำผึ้งจะมีความปลอดภัยต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

ไม่เป็นสาเหตุของฟันผุ
เราต่างก็ทราบกันดีกว่าสาเหตุหลักของฟันผุนั้นมาจากการทานอาหาร ยิ่งอาหารที่มีรสหวานก็ยิ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการหมักหมมของแบคทีเรียชนิดต่างๆในช่องปาก ทำให้ฟันของเราผุอย่างรวดเร็วและเกิดฟันเสียได้ง่าย แต่ทราบกันหรือไม่ว่าการดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำทุกวัน แม้น้ำผึ้งจะเป็นสารให้ความหวานอีกแบบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฟันของเราผุ เนื่องจากน้ำผึ้งไม่เหมือนน้ำตาลทั่วไปที่เป็นอาหารสำคัญให้แบคทีเรียเจริญเติบโต แต่น้ำผึ้งยังประกอบไปด้วยสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียเหล่านั้นอีกด้วย ทำให้แบคทีเรียในช่องปากที่เป็นสาเหตุของโรคฟันผุไม่สามารถใช้ชีวิตหรือเจริญเติบโตขึ้นได้

ใช้ปริมาณน้อยก็หวานได้
อีกข้อที่การปรุงอาหารควรใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลนั่นก็คือน้ำผึ้งเป็นวัตถุดิบที่มีค่าความหวานมากกว่าน้ำตาลทั่วไปมาก การใช้ประกอบอาหารทดแทนน้ำตาลทั่วไปเราไม่จำเป็นต้องใช้ในปริมาณมากเกินไป ซึ่งใช้ในอัตราส่วนที่น้อยกว่าน้ำตาลทั่วไปด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่ต้องกังวลมากว่าน้ำผึ้งนั้นจะทำให้อาหารจานหลักของเรามีต้นทุนที่สูงขึ้นมากนัก เนื่องจากเราใช้ในปริมาณไม่มาก จึงไม่ได้ทำให้เราต้องจ่ายแพงขึ้นในการซื้อวัตถุมาปรุงอาหาร แต่อย่างไรก็ตามการปรุงอาหารด้วยน้ำผึ้ง แม้จะทำให้เราได้อาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงนั่นก็คือน้ำผึ้งที่เราได้มานั้นเป็นของแท้หรือของปลอม เนื่องจากยังมีการพบน้ำผึ้งปลอมที่ใช้น้ำตาลมาเป็นวัตถุดิบหลักร่วมกับการใช้สารเคมีต่างๆ ซึ่งน้ำผึ้งปลอมไม่ได้ดีต่อสุขภาพมากนัก ดังนั้นทางที่ดีในการซื้อคือให้สั่งจากฟาร์ม
https://suwanfarmphueng.com/articles/ข้อดีของการใช้น้ำผึ้งท/

33
สูตรรักษาริ้วรอยร่องลึกด้วยน้ำผึ้ง


การ ดื่มน้ำผึ้งแท้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ เป็นประจำนั้นทุกคนรู้ว่ามีผลดีต่อสุขภาพมากแค่ไหน เพราะน้ำผึ้งมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายประเภท ช่วยบำรุงให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ ยังเป็นแหล่งของพลังงานที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่มีผลเสียใดๆต่อสุขภาพของเรา การดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำจะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี เพราะน้ำผึ้งประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ แต่ไม่เพียงการดื่มน้ำผึ้งจะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีเพียงเท่านั้น แต่เราก็สามารถนำน้ำผึ้งมาใช้ดูแลสุขภาพภายนอกของเราได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในการรักษาแผล การใช้ด้านความงาม หรือแม้จะเป็นการนำมาผสมเป็นสูตรดูแลใบหน้า ช่วยรักษาริ้วรอยร่องลึกได้อีกด้วย

ปัญหาริ้วรอยร่องลึก
ปัญหาหลักที่คุณผู้หญิงต้องพบเจอเมื่ออายุมากขึ้นนั่นก็คือปัญหาเกี่ยวกับการเกิดริ้วรอยร่องลึก ซึ่งเป็นมากขึ้นเรื่อยๆหากเราไม่เข้ารับการรักษาหรือหาวิธีการดูแลผิวอย่างถูกวิธี ซึ่งท่านทราบหรือไม่ว่าเราสามารถใช้น้ำผึ้งในการรักษาริ้วรอยร่องลึกได้อีกด้วย โดยไม่ต้องเข้ารับการศัลยกรรมใดๆ และไม่ต้องพึ่งพาครีมบำรุงราคาแพงๆราคาหลักหมื่นก็สามารถช่วยเยียวยาร่องลึกของเราในราคาไม่แพงได้เช่นกัน ขอเพียงเราลองศึกษาสูตรจากบทความต่อไปนี้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์

สูตรน้ำผึ้งบริสุทธิ์
เราทราบกันดีว่าน้ำผึ้งนั้นมีคุณสมบัติในการคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวของเราได้เป็นอย่างดี เนื่องจากน้ำผึ้งช่วยไปทดแทนน้ำเลี้ยงผิว ทำให้ผิวของเราได้รับความชุ่มชื้น ลดการเกิดรอยเหยี่ยวย่นบนใบหน้า เมื่อใบหน้าของเราโดยมลพิษสิ่งแวดล้อม มักทำให้ผิวแห้งตึงและเกิดร่องลึกขึ้นได้ ดังนั้นหากท่านไม่สามารถหาส่วนผสมพิเศษใดๆที่สามารถนำมาบำรุงผิวหน้าและรักษาริ้วรอยได้ ขอแนะนำให้ใช้สูตรการรักษาริ้วรอยร่องลึกด้วยน้ำผึ้งแท้บริสุทธิ์ โดยนำมาพอกหน้าหรือทาหน้าบำรุงผิวทุกคืนก่อนนอน พยายามทาหลังจากที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้ารู้สึกไม่ชอบความเหนียมของมัน อาจรอสัก 10 ถึง 20 นาทีแล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาดก็ได้ หรือหากพอทนกับความหนืดของน้ำผึ้งได้ ท่านก็สามารถทาได้นาน โดยอาจจะทิ้งเอาไว้ข้ามคืน พอตื่นเช้ามาก็ค่อยมาเช็ดล้างหรืออาบน้ำทีเดียวเลยก็ได้เช่นกัน เพราะต่อให้เราทิ้งไว้นานก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลข้างเคียงไม่ดีใดๆกับผิวของเรา เนื่องจากน้ำผึ้งมาจากธรรมชาติ ไม่ได้สังเคราะห์มาจากสารเคมีเหมือนเครื่องสำอางประเภทอื่น

สูตรน้ำผึ้งผสมมะนาว
อย่าเพิ่งสับสนกันว่านี่จะเป็นสูตรเครื่องดื่มนะ แต่เราสามารถใช้สูตรน้ำผึ้งมาผสมกับมะนาวเพื่อใช้ภายนอกบำรุงผิวได้เช่นกัน เนื่องจากด้วยการที่น้ำผึ้งมีหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวของเราอยู่แล้ว ดังนั้นการใช้มะนาวผสมกับน้ำผึ้งจะให้ผลดียิ่งขึ้น โดยการใช้น้ำมะนาวจะเป็นตัวที่มีกรดสูง ช่วยกระตุ้นให้ผิวหน้าของเราสร้างคอลลาเจนและเริ่มการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ให้เราสามารถเผยผิวกระจ่างใส เหมาะสำหรับคนที่มีริ้วรอยร่องลึกก็สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการนี้ สูตรนั่นก็คือให้เราใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำมะนาวเพียง 1 ลูก แล้วนำมาพอกหน้าก่อนนอนทุกวัน โดยทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด นอกจากผิวของเราจะได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มเปี่ยมจากน้ำผึ้งแล้ว ยังได้รับการกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังอีกด้วย ทำให้ผิวที่มีแนวโน้มที่จะเหยี่ยวย่นลงไปอีก ได้รับการฟื้นฟูและมีการกระตุ้นให้ผิวดูเด็กขึ้น ช่วยให้ผิวนุ่มขึ้นเมื่อทำเป็นประจำ แต่อย่างไรก็ตามสูตรนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้ชีวิตออกแบบ เพราะอาจทำให้ผิวบาง อ่อนไหวต่อแสงแดดได้ง่าย

สูตรน้ำผึ้งผสมขมิ้น
ไม่ว่าขมิ้นเหลืองหรือขมิ้นสดก็สามารถนำมาบดเพื่อผสมกับน้ำผึ้งได้ โดยใช้ขมิ้นบด 1 ใน 2 ส่วนของน้ำผึ้ง นำขมิ้นที่บดแล้วมาผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันและพอกหน้าได้เลย เพียงเท่านี้ก็จะช่วยฟื้นฟูผิวของเราได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยลบเลือนจุดด่างดำและริ้วรอยได้อีกด้วย เพราะขมิ้นไปกระตุ้นให้เกิดการกระจายตัวของเม็ดสีผิวได้ดี
https://suwanfarmphueng.com/articles/สูตรรักษาริ้วรอยร่องลึ/

34
เพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำผึ้งแท้


การดื่ม น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ นอกจากจะให้ความหวานอร่อยชวนดื่มแล้วยังเป็นการเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายของเราอีกด้วย เนื่องจากน้ำผึ้งประกอบด้วยน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่จะสามารถได้รับการดูดซึมเข้าสู่ระบบเลือดได้ทันที น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติถือเป็นแหล่งอาหารชั้นดีเพราะได้มาจากธรรมชาติ โดยผ่านกระบวนการผลิตจากตัวผึ้งที่ดูดน้ำหวานจากดอกไม้ธรรมชาติมารวมกันในรังผึ้ง โดยตัวผึ้งจะเก็บรวบรวมน้ำหวานที่ได้มาไว้ในรังเป็นระยะเวลานาน เพื่อเก็บรวบรวมให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปใช้ในช่วงฤดูที่ไม่สามารถหาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ได้ ด้วยแหล่งที่มาจากเกสรดอกไม้ทำให้น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติจึงเป็นแหล่งของสารอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย ถือได้ว่าเป็นความหวานที่เปี่ยมด้วยคุณค่าของสารอาหาร การดื่มน้ำผึ้งแท้จึงเป็นทางเลือกในการเสริมอาหารให้กับร่างกาย ป้องกันการขาดสารอาหารได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

การดื่มน้ำผึ้งแท้เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายอย่างไร
ด้วยส่วนประกอบหลักของน้ำผึ้งแท้ที่เราสามารถซื้อมารับประทานได้นั้น โดยทั่วไปมันประกอบไปด้วยน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ให้ร่างกายดูดซึมเข้าไปใช้ได้รวดเร็วมาก โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยหลายขั้นตอนเหมือนน้ำตาลประเภทอื่น ทำให้ได้รับความนิยมในการนำมาดื่มเพื่อช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้นมารวดเร็ว ช่วยคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าวันนี้เราจะทำงานหนักหรือเจอความเหน็ดเหนื่อยมากมายแค่ไหน ลองดื่มน้ำผึ้งแท้สักช้อนเพื่อเติมพลังกลับคืนให้กับร่างกาย เพียงเท่านี้ร่างกายของเราก็จะรู้สึกสดชื่นและสามารถลุกขึ้นมาทำงานได้อีกครั้ง เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำงานอย่างมาก เพราะช่วยให้หายเหนื่อยและทำงานต่อไปได้ทันทีโดยไม่ต้องพักนานเกินไปให้เสียเวลา นอกจากช่วยลดความเหน็ดเหนื่อยและเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายแล้ว น้ำผึ้งแท้ยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย สำหรับใครที่ต้องเจอกับความตึงเครียดในการทำงาน หรือทำงานที่ต้องเจอกับความกดดันสูง ขอแนะนำให้พักเบรกด้วยการดื่มน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติสักช้อน เพราะน้ำผึ้งแท้นั้นประกอบไปด้วยวิตามินบีที่มีประโยชน์สำหรับระบบประสาทและสมอง ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายความเครียดได้ดีและลดความเครียดลงได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากสิ่งสำคัญสำหรับคนที่ทำงานใช้สมองคือจะต้องมีวิธีบำบัดความเครียดเพื่อให้สามารถคิดงานต่อไปได้ การได้รับน้ำผึ้งจากธรรมชาติเป็นแหล่งของวิตามินบีที่มาจากธรรมชาติจริงๆ ไม่ใช่วิตามินบีที่ผ่านการสังเคราะห์จาก[^_^] จึงเป็นการลดความเครียดจากธรรมชาติที่ปลอดภัยจากผลข้างเคียงและสามารถดื่มน้ำผึ้งติดต่อกันได้เป็นประจำไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดโรคแทรกซ้อน เพราะการใช้น้ำผึ้งเป็นวิธีการที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เนื่องจากไม่ไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้นมากเกินไป

การดูดซึมสารอาหารสู่ร่างกาย
อย่างที่ทราบกันว่าน้ำผึ้งประกอบด้วยสารอาหารที่สามารถดูดซึมสู่ร่างกายได้ง่ายและรวดเร็ว จึงถือว่านำมาใช้เป็นยาเพิ่มความสดชื่นได้ เนื่องจากช่วยให้รู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาทันเมื่อดื่มเข้าไปสู่ร่างกาย ซึ่งในน้ำผึ้งนอกจากจะมีน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่เข้าสู่ระบบเลือดได้เร็วแล้ว น้ำผึ้งยังประกอบด้วยวิตามินที่ร่างกายดูดซึมได้รวดเร็วเช่นกัน นี่เป็นสาเหตุที่น้ำผึ้งช่วยให้เราได้ผ่อนคลายความเครียดได้เร็วแม้ดื่มเข้าไปไม่นาน การดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำจึงดีต่อคนทำงานที่ต้องการฟื้นฟูสภาพร่างกายอย่างรวดเร็ว นอกจากน้ำผึ้งจะดูดซึมเข้าร่างกายได้รวดเร็วแล้ว รู้หรือไม่ว่าน้ำผึ้งยังไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพหรือเป็นสาเหตุของโรคใดๆอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ป่วยโรคหัวใจที่หมอสั่งห้ามทานหวานก็สามารถดื่มน้ำผึ้งได้ ช่วยให้ปลอดภัยต่อโรคมากๆ เนื่องจากการดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำไม่ได้ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยจึงมั่นใจได้ว่าการดื่มน้ำผึ้งจะไม่ได้เข้าไปกระตุ้นให้เกิดอาการกำเริบของโรคขึ้นได้ ซึ่งการดื่มน้ำผึ้งนอกจากจะไม่ทำให้เกิดอาการกำเริบของโรคแล้ว ยังเป็นวิธีที่ดีในการรักษาโรคดังกล่าวได้อีกด้วย เนื่องจากมีการวิจัยยืนยันว่าน้ำผึ้งช่วยรักษาโรคหัวใจและโรคเบาหวานอีกด้วย อย่างไรก็ตามขอให้ท่านเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ พยายามสั่งจากฟาร์มผึ้งโดยตรงเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะได้ของแท้ ไม่ใช่ของหลอกขาย
https://suwanfarmphueng.com/articles/เพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำ/

35
[^_^]ผู้สูงอายุ น้ำผึ้งแท้รักษาสารพัดโรค


คนที่มีอายุมากขึ้นคงทราบดีว่ายิ่งเรามีอายุเพิ่มขึ้น ร่างกายก็จะทรุดโทรมลงไปทุกวัน และสุขภาพของเราก็จะย่ำแย่ลงไปด้วยหากเราไม่ได้ดูแลสุขภาพของเราให้ดี เมื่ออายุเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญที่เราจะต้องทราบนั่นก็คือการรับประทานอาหาร เนื่องจากการทานอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เรามีร่างกายแข็งแรงปลอดโรค หรือร่างกายทรุดโทรมอย่างรวดเร็วเพราะรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ร่างกายขาดสารอาหารสำคัญไปเลี้ยงส่วนต่างๆก็ร่างกาย ตอนวัยรุ่นนั้นมักมองไม่เห็นปัญหานี้ชัดเจนมากนัก เนื่องร่างกายของเราไม่ได้ทรุดโทรมไปอย่างรวดเร็ว แต่การที่เราอายุมากขึ้นหรือคนในครอบครัวเข้าสู่วัยสูงอายุ เราจะเห็นปัญหาสุขภาพต่างๆที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนั้นทางที่ดีในการดูแลสุขภาพคือต้องให้ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่เสมอ ผู้สูงอายุจะต้องได้รับ[^_^]ที่ดีต่อสุขภาพ เพราะสารอาหารจากอาหารมื้อหลักไม่เพียงพอ ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถทานอาหารได้หลากหลาย จึงทำให้ร่างกายยิ่งขาดอาหารไปอีก

น้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ถือว่าเป็น[^_^]ที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ เพราะไม่มีผลข้างเคียงในด้านลบต่อสุขภาพของคนที่อายุมากขึ้น น้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายไม่ว่าจะเป็นวิตามินหลากหลายชนิด อาทิเช่น วิตามินอี วิตามินบี รวมทั้งแร่ธาตุจากธรรมชาติที่ใช้ในการบำรุงร่างกายไม่ว่าจะเป็นธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แคลเซียมและธาตุอาหารอย่างอื่นๆ ดังนั้นการที่จะให้ผู้สูงอายุได้รับ[^_^]เหล่านี้จะช่วยให้บำรุงร่างกายให้แข็งแรงขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์ ช่วยทดแทนสารอาหารที่ขาดไป เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถทานอาหารได้หลากหลายประเภท แนะนำให้ดื่มน้ำผึ้งแทนเพื่อช่วยเติมเต็มสารอาหารที่ขาดไปในแต่ละวัน ดังนั้นถ้าท่านไม่อยากไปซื้อ[^_^]ให้กับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในครอบครัว แนะนำให้ใช้น้ำผึ้งแทนเพื่อเสริมอาหารให้กับผู้ใหญ่ในบ้านของเรา เพียงเท่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองเงินไปซื้อผลิตภัณฑ์[^_^]ที่มีราคาแพงแล้ว

ทำไมการดื่มน้ำผึ้งจึงเป็นการเสริมอาหารที่ดี
การดื่มน้ำผึ้งนั้นเหมาะสำหรับผู้สูงอายุมาก เพราะเป็นการเสริมอาหารที่ดี เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นการให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารจากธรรมชาติ ซึ่งไม่เป็นแหล่งอาหารที่มีการปรุงแต่ง ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพต่อผู้สูงอายุ มีการวิจัยเกี่ยวกับน้ำผึ้งแท้ที่ได้มาจากธรรมชาติ พบว่าการดื่มน้ำผึ้งนั้นไม่ได้ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นแต่อย่างใด ทั้งที่จริงแล้วน้ำผึ้งนั้นเป็นแหล่งให้ความหวานและให้พลังงานที่สูงมาก แต่งานวิจัยหลายงานกลับการันตีกันว่าน้ำผึ้งไม่ได้ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของเราเลย นับเป็นสิ่งล้ำค่าที่ประเทศไทยสามารถหาได้ เราเป็นคนไทยสามารถซื้อน้ำผึ้งได้ในราคาถูกกว่าประเทศอื่น เพราะประเทศไทยมีแหล่งที่สามารถหาน้ำผึ้งได้และยังเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยทำรังของตัวผึ้ง ทำให้ได้น้ำผึ้งที่มีราคาถูกกว่าการไปซื้อจากประเทศอื่น

ดื่มน้ำผึ้งอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่
เป็นคำถามที่มีการตั้งแง่ในทางลบกับการดื่มน้ำผึ้งมาเป็นเวลานานว่าการดื่มน้ำผึ้งนั้นมีผลเสียต่อสุขภาพมากน้อยเพียงใด แต่เราก็ยังไม่สามารถยืนยันหรือหาคำตอบจากงานวิจัยใดๆได้เลยว่าการดื่มน้ำผึ้งจะทำให้สุขภาพของเราไม่ดีแต่อย่างใด มีแต่งานวิจัยที่ค้นพบเพียงผลลัพธ์และคุณประโยชน์มากมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความหวานของน้ำผึ้ง จึงสรุปได้ว่าการดื่มน้ำผึ้งไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ไม่ว่าอย่างไรการดื่มน้ำผึ้งยังเป็นการรับพลังงานเข้าสู่ร่างกาย เราจึงดื่มแต่พอเหมาะ ไม่ควรเกินวันละ 10 ช้อนชา เพื่อไม่ให้ร่างกายของเราได้รับพลังงานเข้ามามากเกินไป

ผู้สูงอายุควรดื่มน้ำผึ้งปริมาณเท่าไหร่
ผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลสุขภาพ หรือครอบครัวใดที่มีผู้สูงอายุอยู่นั้น ทางที่ดีในการดื่มน้ำผึ้งให้ปลอดภัยและได้คุณประโยชน์ เพียงให้เราดื่มไม่เกินวันละ 2 ช้อนโต๊ะ เพื่อให้ร่างกายไม่เป็นการรับพลังงานเข้ามามากเกินไป และเป็นการรับสารอาหารเข้าสู่ร่างกายอย่างเพียงพอในแต่ละวัน เพียงเท่านี้เราก็ได้ให้สาร[^_^]จากธรรมชาติจากผู้สูงอายุแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปซื้อของราคาแพงเลย
ผู้สูงอายุ-น้/]https://suwanfarmphueng.com/articles/[^_^]ผู้สูงอายุ-น้/

36
สูตรชงเครื่องดื่มด้วยน้ำผึ้งธรรมชาติ


น้ำผึ้งธรรมชาติ มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ หรือ น้ำผึ้งแท้ดอกสาบเสือ ก็ตามเราไม่เพียงแต่สามารถดื่มน้ำผึ้งเพื่อดูแลสุขภาพของเราให้แข็งแรงได้เท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการประกอบอาหารและชงเครื่องดื่มเพื่อให้เครื่องดื่มของเราดีต่อสุขภาพได้อีกด้วย โดยการดื่มน้ำผึ้งแท้นั้นทุกคนทราบกันดีว่าจะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานที่บริสุทธิ์เนื่องจากไม่ไปเพิ่มระดับน้ำตาลในกระแสเลือดหรือมีการกระตุ้นให้เกิดการสะสมเป็นชั้นไขมันเหมือนกับการทานเครื่องดื่มหรือขนมหวานจากน้ำตาลปกติ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เราได้เห็นร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มที่ใส่ใจต่อสุขภาพของผู้บริโภค เลือกที่จะช่วยน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติมาปรุงอาหารเพื่อให้ผู้บริโภคของพวกเขามีสุขภาพที่ดี ปลอดภัยจากโรค ดังนั้นร้านเครื่องดื่มหรือร้านอาหารใดที่เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดี น้ำผึ้งจากธรรมชาติ จึงเป็นร้านที่น่าอุดหนุนอย่างมาก เพราะเราจะมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย สำหรับบทความนี้เราจะนำสูตรเด็ดในการชงเครื่องดื่มจากน้ำผึ้งธรรมชาติมาฝากกัน เพื่อให้ร้านค้าขายเครื่องดื่มนำไปใช้ประโยชน์ หรือท่านสามารถนำไปชงได้ด้วยตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดีของคนในครอบครัว

สูตรน้ำผึ้งผสมดอกอัญชัน
สูตรนี้มาสามารถนำมาทำน้ำดอกอัญชันที่ใช้สารให้ความหวานจากน้ำผึ้งแท้ธรรมชาติ โดยใช้ดอกอัญชัน 15 ถึง 20 ดอกสำหรับน้ำปริมาณ 500 มิลลิลิตร จากนั้นให้เติมน้ำผึ้งแท้ 2 ช้อนโต๊ะ โดยนำไปคั้นให้เข้ากันและนำมาดื่มกินเพื่อสุขภาพได้เลย น้ำดอกอัญชันนั้นมีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาทและสมอง ช่วยบำรุงรากฟันให้แข็งแรง ทั้งยังนำมารักษาอาการปวดฟันได้อีกด้วย ประโยชน์ของน้ำอัญชันยังช่วยขับปัสสาวะ ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ทั้งยังบำรุงสายตาของเรา ช่วยในเรื่องของการมองเห็นได้เป็นอย่างดี ทำให้สุขภาพดวงตาของเราแข็งแรงไปด้วย รวมไปถึงการดื่มน้ำดอกอัญชันยังทำให้ระบบหายใจของเราเป็นปกติไม่ติดขัด ทำให้ได้รับความนิยมในการนำมารักษาโรคระบบทางเดินหายใจ

สูตรน้ำผึ้งผสมมะนาว
คนที่เป็นหวัดบ่อยๆหรือมีเสมหะเหนียวๆในลำคออยู่เสมอคงรู้จักสูตรน้ำผึ้งผสมมะนาวกันเป็นอย่างดี โดยสูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการละลายเสมหะในลำคอ หรือต้องการแก้อาการเจ็บคอก็สามารถลองใช้สูตรน้ำผึ้งผสมมะนาวดูได้ เนื่องจากเสมหะในลำคอมักเกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรียเป็นเวลานาน ทำให้เสมหะของเราเหนียวข้นขึ้นเรื่อยๆ และไม่สามารถหายใจได้สะดวก แถมยังไม่สามารถพูดได้ชัด บางคนก็จะมีอาการเจ็บคอแถมมาด้วย ทางที่ดีในการรักษาก็คือการดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาวลงไป โดยสูตรทำง่ายมาก เพียงใช้มะนาว 1 ลูก ผสมกับน้ำผึ้ง 3 ช้อนชาในน้ำ 200 มิลลิลิตร เพียงเท่านี้เราก็จะได้น้ำผึ้งผสมน้ำมะนาวที่ช่วยขับเสมหะออกจากร่างกายและแก้อาการเจ็บคอให้เราแล้ว สูตรนี้ยังถือว่าเป็นสูตรที่ใช้กันมายาวนาน เพราะได้ผลจริง ทำให้อาการเจ็บคอหายได้รวดเร็ว เนื่องจากสารยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในน้ำผึ้งมักทำงานได้ดีมากๆ ทำให้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในลำคอ และน้ำมะนาวมีฤทธิ์ในการละลายเสมหะทำให้ร่างกายขับเสมหะได้อย่างรวดเร็ว

สูตรน้ำผึ้งผสมน้ำมะม่วง
รู้หรือไม่ว่าน้ำมะม่วงสูตรเด็ดที่หลายร้านใช้นั้น จะใช้น้ำผึ้งผสมลงไปแทนน้ำตาลเพื่อให้น้ำมะม่วงมีรสชาติหอมหวานของกลิ่นดอกไม้ชวนรับประทาน การดื่มน้ำมะม่วงที่มาจากการผสมน้ำผึ้งแท้ ช่วยให้เราได้ลิ้มรสความเป็นธรรมชาติ ดื่มน้ำมะม่วงรสชาติหอมหวาน ซึ่งสูตรการทำง่ายมาก เพียงเตรียมมะม่วง 1 ลูก มาปอกเปลือกและนำไปปั่นเป็นน้ำออกมา จากนั้นใส่น้ำผึ้ง3 ช้อนชาเพื่อเพิ่มความหอมหวานให้กับมะม่วงของเรา การดื่มมะม่วงนั้นนอกจากจะได้ลิ้มรสความหอมหวานแสนอร่อยแล้ว ยังถือว่าเป็นยาระบายขับลมชั้นดีอีกด้วย ดังนั้นถ้าท่านท้องผูกเป็นเวลานานหรือเริ่มมีอาการท้องไส้ไม่ดี ขอแนะนำให้แก้ด้วยการดื่มน้ำมะม่วงจากน้ำผึ้งแท้เพื่อล้างลำไส้ได้เลย

นอกจากจะมีการคิดสูตรน้ำผึ้งมาผสมในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ดีแล้ว ปัจจุบันการใช้น้ำผึ้งยังเป็นที่นิยมในการทำอาหารอีกด้วย เพราะเมื่อใช้น้ำผึ้งประกอบอาหารมักจะได้อาหารที่มีรสชาติหอมหวานน่าทานมากๆ แถมยังไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย
https://suwanfarmphueng.com/articles/สูตรชงเครื่องดื่มด้วยน/

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 27