แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Prichas

หน้า: 1 ... 1003 1004 [1005] 1006 1007 ... 1027
18075


นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 2 ปี2564 สถานกาณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงกว่าไตรมาสแรกส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่่อง และยังไม่มีความชัดเจนถึงการฟื้นตัวภายในปี 2564 ส่งผลกระทบต่อการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ การขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ และการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องภาพรวมของทั้งประเทศ พบว่าการเพิ่มขึ้นของอุปทานใหม่ลดจำนวนลงมาก ในส่วนของหน่วยที่ได้รับอนุญาตจัดสรรทั่วประเทศ ปี 2564 ยังคงชะลอตัว โดยครึ่งแรกปี 2564 หน่วยที่ได้อนุญาตจัดสรรลดลงอย่างต่อเนื่องจากปี 2563 แนวโน้มลดต่อเนื่องในไตรมาส 3 คาดว่าจะกระเตื้องในไตรมาส4 ปีนี้

แต่อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ความรุนแรงโควิดระลอก3 สู่ระลอก4 ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ลดปริมาณการขอจัดสรรลง สังเกตได้จากไตรมาส 2 ของปีนี้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของช่วงก่อนเกิดโควิด ติดลบ 41.6 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี63 พบว่าหน่วยจัดสรรรายเดือน ติดลบ37 -46 %ระหว่าง เดือนม.ค. - เม.ย. 2564 และเริ่มกระเตื้องขึ้นในเดือนพ.ค. - มิ.ย. 2564 และคาดว่าไตรมาส 4 ปี 2564 จะเริ่มดีขึ้น แต่ทุกไตรมาสจะยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ขณะที่ผู้ประกอบฯจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรที่มีราคาสูงเพื่อรองรับกลุ่มที่มีกำลังซื้อ

โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2564 มีการออกใบอนุญาตจัดสรร30,514 หน่วย ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ทุกไตรมาส ขณะที่ข้อมูลการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดิน 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มซึ่งมีสัดส่วน 89% ของการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั่วประเทศ พบว่า 10 ลำดับแรกของจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม มีอัตราขยายตัวลดลง33.1% โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินจำนวน 14,863 หน่วยขณะที่ช่วงครึ่งแรกปี 2563 มีการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินจำนวน 25,062 หน่วย ลดลง40.7%


ขณะที่ความเคลื่อนไหวด้านการเปิดตัวโครงการใหม่เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล พบว่าเริ่มมีการเปิดตัวโครงการใหม่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ต่อเนื่องจากปี 2562 โดยการชะลอตัวของหน่วยเปิดตัวใหม่ อาจเป็นผลจากยอดขายที่ชะลอตัวและหน่วยเหลือขายสะสมในตลาด

“การแพร่ของโควิด ทำให้กำลังซื้อของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง ในช่วง ไตรมาส 2 ปีนี้มีหน่วยเปิดตัวใหม่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของช่วงก่อนเกิดโควิดระบาดลดลง76.4% และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 หดตัวลง46.2% คาดว่าไตรมาส 3 และไตรมาส 4 อาจจะเริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนหน่วยที่ขายได้ในช่วงที่ผ่านมาโดยเป็นโครงการขนาดกลาง-เล็ก และเน้นการขายโครงการที่มีสต็อกทำให้เปิดโครงการใหม่น้อยลง”


โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2564 ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีโครงการเปิดตัวใหม่ 12,740 หน่วยมูลค่า 66,123 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปี 2563 มีโครงการเปิดตัวใหม่ จำนวน 29,816 หน่วยมูลค่า 137,068 ล้านบาท จำนวนหน่วยปรับตัวลดลง57.3 % ส่วนมูลค่าลดลง51.8 %

นายวิชัย กล่าวว่า ด้านอุปสงค์อสังหาฯชะลอตัวสะท้อนจากการโอนกรรมสิทธิ์ช่วงครึ่งแรกปี 2564 โดยในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ การโอนกรรมสิทธิ์ขยายตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยในไตรมาส 2 ปีนี้ จำนวนหน่วยและมูลค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ติดลบ31.2% และ16.5% ตามลำดับ ทั้งนี้การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศสะสมครึ่งแรกปี 2564 โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์จำนวนทั้งสิ้น 120,023 หน่วย มูลค่า 377,520 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปี 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 168,625 หน่วย มูลค่า 422,870 ล้านบาท จำนวนหน่วยปรับตัวลดลง28.8 % มูลค่าลดลง10.7 % ซึ่งค่าเฉลี่ยจำนวนหน่วยต่อไตรมาส 90,233 หน่วย และมูลค่า 232,859 ล้านบาท

ในช่วงครึ่งแรกปี 2564 การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลมีจำนวน 79,422 หน่วย มูลค่า 284,411 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปี 2563 มีการโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 88,336 หน่วย มูลค่า 270,435 ล้านบาท จำนวนหน่วยลดลง 10.1% ขณะที่มูลค่าเพิ่มขึ้น5.2 % คาดว่าปี 2564 จะมีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ 164,861 หน่วย ลดลงจากปีก่อน 16.2% การโอนกรรมสิทธิ์โครงการบ้านจัดสรรลดลง5.2 % และการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดลดลง27.1 % ด้านมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์คาดว่าปี 2564 จะมีมูลค่า 587,539 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 4.2% มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์โครงการบ้านจัดสรรลดลง0.8 % โครงการอาคารชุดลดลง8.9%

ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้มีการปรับการคาดการณ์ใหม่อีกครั้งภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหม่ โดยประมาณการว่าปี 2564 ภาพรวมการออกใบอนุญาตจัดสรรปี 2564 คาดว่าจะลดลง22.1 % และในปี 2565 จะเพิ่มขึ้น25.2 % ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากฐานปี 2564 ที่มีตัวเลขต่ำ และการจัดสรรจะเข้าสู่ค่าเฉลี่ยของช่วงปกติในปี 2568 ขณะที่แนวโน้มโครงการเปิดตัวใหม่จะลดลงมาอยู่ที่ 43,051 หน่วย ลดลงจากปีก่อน35.0 % ซึ่งเป็นการลดลงของโครงการอาคารชุดมากถึง44.3 % ขณะที่บ้านจัดสรรลดลง27.4 % และในปี 2565 เพิ่มขึ้น 38.5% และการเปิดตัวหน่วยที่อยู่อาศัยใหม่จะเข้าสู่ค่าเฉลี่ยของช่วงปกติในปี 2568 - 2569  ขณะที่ หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ปี 2564 อาจลดลงเหลือเพียง 270,151 หน่วย ลดลงจากปีก่อนที่เคยมีหน่วยโอน358,496 หน่วย หรือลดลง 24.6 %คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2565 และสามารถกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยในภาวะปกติได้ในปี 2570

" ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2564 จะยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับสู่สภาวะสมดุลทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทานมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้านที่อยู่อาศัยจะกลับเข้าสู่ภาวะที่ก่อนเกิดโควิดในปี 2568 – 2570 หรือประมาณ 5-6 ปีข้างหน้า หากรัฐช่วยออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ขยายเพดานลดค่าโอน-จำนองครอบคลุมทุกระดับราคารวม-บ้านมือสอง ฟื้นตลาด แบงก์ชาติปลดล็อกมาตรการแอลทีวี จะช่วยให้สถานการณ์อสังหาฯฟื้นตัวได้เร็วขึ้น"

18076
รังนกเขาหลง  



ตั้งบูชาประจำบ้าน ตั้งบูชาไว้หน้าร้านค้าขาย เรียกโชคเรียกลาภเรียกเงินเรียกทอง ค้าขายดี ส่งเสริมเรื่อง ความรักครอบครัวคู่ครอง 

วิธีบูชา เครื่องบูชาใส่พานประกอบด้วย ดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ เงิน 5 บาท ข้าวสาร 7 เม็ด ธูป 9 ดอก

แล้วอธิษฐาน ขอในสิ่งที่ต้องการ


รังนกเขาหลง เป็นรังนกกายสิทธิ์ ท่านพญาแถนกล่าวว่า มีประวัติเล่าให้ลูกหลานฟังว่า ถ้าใครได้เห็นรังนกเขาหลง คนนั้นมีบุญบารมีสูงส่ง เขาเป็นรังนกกวักเงินกวักทอง หรือไทรเงินไทรทอง ขอพรได้สิบประการ เช่น ที่อยู่เรือนชานเข็ดขวางอยู่ไม่ได้ หรือบ้านนั้นมีทรวงขวางลูกขาวงเมียเจ็บออดๆแอดๆ อยู่อย่างนี้ ถ้ามีรังนกเขาหลงบูชา เจ้าจงเก็บดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ เงิรน 5 บาท ข้าวสาร 7 เม็ด ธูป 9 ดอก แล้วใส่ลงไปในรังนกเขาหลง แล้วจงอธิฐานว่า สาธุฯ สิ่งร้ายๆหรือเสนียดจัญไรรำคาญใจบ่อยๆ ให้ออกไป เมื่อท่านทำอย่างนี้แล้ว ท่านจะสุขสบายทั้งกายใจ เจ้ารังนกกายสิทธิ์ เขาจะกวักเงินกวักทองเข้าเรือนชาน ตัวผู้กงัดเข้า ตัวเมียเก็บไว้ ถ้าใครมีไว้สักการะบูชาคนนั้นมีบุหลาย ถ้าใครมีประจำบ้าน สามารถคุ้มครองบ้านเรือน และประสบลาภบันดาลผลให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขอยู่เป็นทุกทิวาราตรี ของกายสิทธิ์ใครมีบุญก็ได้ไป ไว้บูชาประจำบ้าน ตั้งบูชาไว้หน้าร้าน เรียกเงินเรียกทอง เรื่องมหาเสน่ห์ก็ดี ใครมีแฟนคิดนอกใจ ลองนำไปบูชาดู ของกายสิทธิ์ หายาก เครือเขาหลงที่อยู่ในรังก็ถือว่าเป็นของดี ม้วนเก็บเป็นก้อนบูชาพกใส่กระเป๋าตังค์ ก็เป็นมหาเสน่ห์ โชคลาภ เรียกเงินเรียกทองได้ดี



เครือสาวหลง เครือเขาหลง หรือ เครือเถาหลง คือ ไม้ชนิดเดียวกันที่อยู่ในป่าลึก มีเทวดารักษา ผู้มีวิชาอาคมถึงไปขอตัดเอามาได้ ที่ชื่อ อย่างนี้ก็เพราะว่า ไม้นี้ ถ้าคนหรือสัตว์เผลอไปข้ามเข้าก็จะหลงป่า

แม้แต่นกที่บินผ่านต้นก็จะหลงอยู่ที่ต้นไปไหนไม่ได้ ปละตกลงมาตาย ตรงใต้ต้นเครือเขาหลง นี้จึงเต็มไปด้วยซากสัตว์

ส่วนที่ชื่ออีกชือ ว่าเครือสาวหลงนี้ก็เพราะว่า เครือสาวหลงนี้ถ้าได้ส่วนปลายเครือเล็กๆ จะคล้ายเส้นผมขน เอามาเสียบตรงร่องฟันจะทำให้หญิงหลงงงงวย ครับ

และสมัยก่อนเอาเครือนี้ฝังตรงคอกวัวควายโขมยที่มาโขมยก็จะลักไปไม่ได้

โดยจะหลงอยู่แถวคอกนั้น เครือสาวหลงนี้ เป็นการม้วนตัวของเครือไม้เขาหลง หรือ สาวหลงที่ม้วนเองตามธรรมชาติ ม้วนเป็นบ่วง ที่เรียกว่า บ่วงนาคบาท

ว่านสาวหลงนี้จัดอยู่ในประเภท ว่านเสน่ห์ เมตตามหานิยม บ้านเรือนอาศัยร้านค้าขายใด หากนำมาปลูกไว้จะเป็นศิริมงคลแก่บ้านเรือน ว่านนี้นิยมกันมาแต่โบราณ เป็นว่านที่มีสรรพคุณให้ผลถึงกับปิดบังไม่ยอมแพร่งพรายผู้เป็นเจ้าของนั้น หวงแหนยิ่งนัก ผู้มีว่านนี้อยู่ในครอบครองจะทำให้มีเสน่ห์มหานิยม รากต้นและใบของว่านนี้ ในกระบวนพิธีสร้างพระผงพระเครื่องด้านเสน่ห์มหานิยมแล้วจะขาดว่านนี้ไม่ได้

ในจำนวนผงต่าง ๆ ที่นำมาผสมอยู่ในพระเครื่องจะต้องมีผงของว่านสาวหลงนี้ด้วยเสมอไปนอกจากนั้น เพียงแต่ใครมีราก ใบ กิ่ง ดอก ของว่านนี้พกพาติดตัว เดินทางไปยังทิศทางต่าง ๆ ผู้ที่ได้กลิ่น ว่านถึงกับให้งงงวย หลงใหล ยิ่งนำราก ใบ กิ่ง ดอก ของว่านนั้นมาฝนกับน้ำมันจันทน์ น้ำมันเเก้ว หรือ ผสมกับขี้ผึ้งทาปากด้วยแล้วจะเป็นยอดของขบวนเสน่ห์มหานิยมอีกด้วย นักเลงเจ้าชู้พากันรู้จักมาแต่โบราณกาลส่วนที่ชื่ออีกชือ ว่าเครือสาวหลงนี้ก็เพราะว่า เครือสาวหลงนี้ถ้าได้นำส่วนใดส่วนหนึ่งของเครือเล็กๆ เอามาเสียบตรงร่องฟันจะทำให้หญิงหลงงงงวย

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i1140758172.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.27.2f304edfpNDteq




18079
 5 วัน 5 คอร์ส เรียนออนไลน์ พื้นฐานสู่มือาชีพ


ประกาศๆ แจ้งให้ทราบ ถ้าคุณเป็นแบบนี้อยู่
ไม่มีประสบการณ์เลย
วิกฤตธุรกิจไปต่อไม่ได้
อายุเยอะแล้วกลัวเรียนไม่ทัน
อยากขายออนไลน์เป็น แต่ไม่มีคนสอน
เอาความรู้ไปต่อยอด

>>> 97 บาท <<<
ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว ตอนนี้!!!
เพราะเราออกแบบคอร์สนี้
มาให้สำหรับท่านแล้ว
____________________________
5 วัน 5 วิชา
ที่สามารถพาคุณไปเจอกับโลกใบใหม่
เรียนผ่านมือถือเครื่องเดียว
วัยไหนก็เรียนได้
ปรึกษาได้ตลอด
ดูแลอย่างใกล้ชิด
วันที่ 1 การปรับหน้าโปรไฟล์
วันที่ 2 การสร้างวีดีโอ / รูปให้ดูน่าสนใจ
วันที่ 3 การสร้าง Content
วันที่ 4 การสร้างเพจมืออาชีพ
วันที่ 5 สอนยิงตรงกลุ่ม ยิงถูก ปิดยอดเก่ง
พร้อมวิธีหากลุ่มเป้าหมายแบบตรงเป๊ะ
.
เรียนจบครบทั้ง 5 วัน รับวุฒิบัตรได้ด้วย
ทั้งหมดนี้
เราเก็บค่าคอร์สกับคุณเพียง 97 บาท
ย้ำ!!คุณดูไม่ผิดหรอก 97 บาท
จากราคาปกติ 7,990 บาท
.
จำนวนจำกัด
สิทธิ์ 97 เฉพาะ 100 ท่าน
.
ขอท่านที่สนใจเรียนจริงๆ
เพราะเราก็ตั้งใจสอนให้ท่านจริงๆเช่นกันสนใจติดต่อ โค้ชเอก

โทร 0846623662

line id : teerapat999
รายละเอียดเพิ่มเติม https://teerapat99.iconsalepage.com/

18083
รังนกเขาหลง  



ตั้งบูชาประจำบ้าน ตั้งบูชาไว้หน้าร้านค้าขาย เรียกโชคเรียกลาภเรียกเงินเรียกทอง ค้าขายดี ส่งเสริมเรื่อง ความรักครอบครัวคู่ครอง 

วิธีบูชา เครื่องบูชาใส่พานประกอบด้วย ดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ เงิน 5 บาท ข้าวสาร 7 เม็ด ธูป 9 ดอก

แล้วอธิษฐาน ขอในสิ่งที่ต้องการ


รังนกเขาหลง เป็นรังนกกายสิทธิ์ ท่านพญาแถนกล่าวว่า มีประวัติเล่าให้ลูกหลานฟังว่า ถ้าใครได้เห็นรังนกเขาหลง คนนั้นมีบุญบารมีสูงส่ง เขาเป็นรังนกกวักเงินกวักทอง หรือไทรเงินไทรทอง ขอพรได้สิบประการ เช่น ที่อยู่เรือนชานเข็ดขวางอยู่ไม่ได้ หรือบ้านนั้นมีทรวงขวางลูกขาวงเมียเจ็บออดๆแอดๆ อยู่อย่างนี้ ถ้ามีรังนกเขาหลงบูชา เจ้าจงเก็บดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ เงิรน 5 บาท ข้าวสาร 7 เม็ด ธูป 9 ดอก แล้วใส่ลงไปในรังนกเขาหลง แล้วจงอธิฐานว่า สาธุฯ สิ่งร้ายๆหรือเสนียดจัญไรรำคาญใจบ่อยๆ ให้ออกไป เมื่อท่านทำอย่างนี้แล้ว ท่านจะสุขสบายทั้งกายใจ เจ้ารังนกกายสิทธิ์ เขาจะกวักเงินกวักทองเข้าเรือนชาน ตัวผู้กงัดเข้า ตัวเมียเก็บไว้ ถ้าใครมีไว้สักการะบูชาคนนั้นมีบุหลาย ถ้าใครมีประจำบ้าน สามารถคุ้มครองบ้านเรือน และประสบลาภบันดาลผลให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขอยู่เป็นทุกทิวาราตรี ของกายสิทธิ์ใครมีบุญก็ได้ไป ไว้บูชาประจำบ้าน ตั้งบูชาไว้หน้าร้าน เรียกเงินเรียกทอง เรื่องมหาเสน่ห์ก็ดี ใครมีแฟนคิดนอกใจ ลองนำไปบูชาดู ของกายสิทธิ์ หายาก เครือเขาหลงที่อยู่ในรังก็ถือว่าเป็นของดี ม้วนเก็บเป็นก้อนบูชาพกใส่กระเป๋าตังค์ ก็เป็นมหาเสน่ห์ โชคลาภ เรียกเงินเรียกทองได้ดี



เครือสาวหลง เครือเขาหลง หรือ เครือเถาหลง คือ ไม้ชนิดเดียวกันที่อยู่ในป่าลึก มีเทวดารักษา ผู้มีวิชาอาคมถึงไปขอตัดเอามาได้ ที่ชื่อ อย่างนี้ก็เพราะว่า ไม้นี้ ถ้าคนหรือสัตว์เผลอไปข้ามเข้าก็จะหลงป่า

แม้แต่นกที่บินผ่านต้นก็จะหลงอยู่ที่ต้นไปไหนไม่ได้ ปละตกลงมาตาย ตรงใต้ต้นเครือเขาหลง นี้จึงเต็มไปด้วยซากสัตว์

ส่วนที่ชื่ออีกชือ ว่าเครือสาวหลงนี้ก็เพราะว่า เครือสาวหลงนี้ถ้าได้ส่วนปลายเครือเล็กๆ จะคล้ายเส้นผมขน เอามาเสียบตรงร่องฟันจะทำให้หญิงหลงงงงวย ครับ

และสมัยก่อนเอาเครือนี้ฝังตรงคอกวัวควายโขมยที่มาโขมยก็จะลักไปไม่ได้

โดยจะหลงอยู่แถวคอกนั้น เครือสาวหลงนี้ เป็นการม้วนตัวของเครือไม้เขาหลง หรือ สาวหลงที่ม้วนเองตามธรรมชาติ ม้วนเป็นบ่วง ที่เรียกว่า บ่วงนาคบาท

ว่านสาวหลงนี้จัดอยู่ในประเภท ว่านเสน่ห์ เมตตามหานิยม บ้านเรือนอาศัยร้านค้าขายใด หากนำมาปลูกไว้จะเป็นศิริมงคลแก่บ้านเรือน ว่านนี้นิยมกันมาแต่โบราณ เป็นว่านที่มีสรรพคุณให้ผลถึงกับปิดบังไม่ยอมแพร่งพรายผู้เป็นเจ้าของนั้น หวงแหนยิ่งนัก ผู้มีว่านนี้อยู่ในครอบครองจะทำให้มีเสน่ห์มหานิยม รากต้นและใบของว่านนี้ ในกระบวนพิธีสร้างพระผงพระเครื่องด้านเสน่ห์มหานิยมแล้วจะขาดว่านนี้ไม่ได้

ในจำนวนผงต่าง ๆ ที่นำมาผสมอยู่ในพระเครื่องจะต้องมีผงของว่านสาวหลงนี้ด้วยเสมอไปนอกจากนั้น เพียงแต่ใครมีราก ใบ กิ่ง ดอก ของว่านนี้พกพาติดตัว เดินทางไปยังทิศทางต่าง ๆ ผู้ที่ได้กลิ่น ว่านถึงกับให้งงงวย หลงใหล ยิ่งนำราก ใบ กิ่ง ดอก ของว่านนั้นมาฝนกับน้ำมันจันทน์ น้ำมันเเก้ว หรือ ผสมกับขี้ผึ้งทาปากด้วยแล้วจะเป็นยอดของขบวนเสน่ห์มหานิยมอีกด้วย นักเลงเจ้าชู้พากันรู้จักมาแต่โบราณกาลส่วนที่ชื่ออีกชือ ว่าเครือสาวหลงนี้ก็เพราะว่า เครือสาวหลงนี้ถ้าได้นำส่วนใดส่วนหนึ่งของเครือเล็กๆ เอามาเสียบตรงร่องฟันจะทำให้หญิงหลงงงงวย

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i1140758172.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.27.2f304edfpNDteq




18084


นายสมโภชน์ วัลยะเสวี กรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) APCS เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 499 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนที่ทำได้ 278 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 422.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนอยู่ที่ 18 ล้านบาท

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 956 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 256 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนที่ทำได้ 700 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 271.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนอยู่ที่ 81 ล้านบาท

“ผลการดำเนินงานของบริษัทพลิกมีกำไร อันเป็นผลมาจากธุรกิจผลิตชิ้นส่วน (AUTO) ฟื้นตัวได้แรงจากการปรับประสิทธิภาพควบคุมต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดีมีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นถึง 95.3% เมื่อเทียบจากช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตทำให้กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมากอยู่ที่ 57 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจวิศวกรรมและก่อสร้าง (EPC) และธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบ (WATER) สามารถสร้างอัตราการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ”

กรรมการบริหาร กล่าวอีกว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนมีคำสั่งซื้อกลับเข้ามาจำนวนมาก หลังจากธุรกิจยานยนต์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนธุรกิจวิศวกรรมและก่อสร้างเข้าสู่ช่วง High Season รวมทั้งมีแผนจะยื่นเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบกลับมามีปริมาณการขายน้ำที่เพิ่มขึ้นเกือบ 100% จึงน่าจะยังคงรักษาการเติบโตในระดับที่ดีได้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ควบคุมการบริหารจัดการต้นทุนและการดำเนินการอย่างรอบคอบ ประกอบกับเร่งเพิ่มสัดส่วนธุรกิจที่มีกำไรขั้นต้นสูง จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างมั่นคง และสามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัวไปได้อย่างแน่นอน

18085


ฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA เปิดเผยว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA มีมติประกาศแต่งตั้ง นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) คนแรกของบริษัทฯ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป

สำหรับภารกิจสำคัญจะเน้นในการบริหารโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และ Logistics & Aviation รวมถึงเป็นศูนย์กลางของมหานครการบินภาคตะวันออก ที่สามารถเชื่อมโยงเป็นส่วนขยายของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ต่อเนื่องไปทางภาคตะวันออกได้อย่างสะดวกสบายทันสมัย ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ


นายวีรวัฒน์ มีประวัติการทำงานกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) รวม 23 ปี โดยมีประสบการณ์ด้านการบริหารเครดิต, ด้านธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายบริการ, ด้านการบริหารกลยุทธ์และวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงการบริหารความเสี่ยงขององค์กร ตลอดจนทำหน้าที่ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กสิกรวิชั่น จำกัด มาก่อนที่จะมาร่วมงานกับ UTA

นายวีรวัฒน์ จบการศึกษาปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 ด้านวิศวกรรมระบบควบคุม จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และปริญญาโท MBA Financial Engineering, Sloan School of Management สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

18087


นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี–แลนด์ กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเขตกรุงเทพฯ ตอนใต้ พระราม 2–สมุทรสาคร โซนภาคตะวันออก และโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์ "พอร์โต้ ชิโน่" และจุดแวะพักครบวงจร "พอร์โต้ โก" กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด–19 ส่งผลให้ผู้บริโภควิตกกังวลในเรื่องของความปลอดภัย รวมทั้งการลดกิจกรรมนอกบ้านและมาตรการล็อกดาวน์ เป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายโดยหันมาซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ถือเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการร้านค้า รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าหันมาปรับเปลี่ยนการขายสู่การทำการตลาดออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น

ทั้งนี้จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ระบุว่า มูลค่าการตลาด e-Commerce ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการบนอินเทอร์เน็ต โดยใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเป็นสื่อในการนำเสนอสินค้าและบริการต่างๆ ในประเทศไทยมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยในปี 2563 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 16% และคาดการณ์ว่าปี 2564 จะเพิ่มขึ้นเป็น 18% ปี 2565 เพิ่มขึ้น 20% และปี 2566 จะเพิ่มขึ้นเป็น 22% และความต้องการในการซื้อสินค้าและบริการผ่านทางออนไลน์นั้นจะกลายเป็นช่องทางการซื้อที่สำคัญมากขึ้นสำหรับผู้บริโภค แม้เป็นยุคหลังการแพร่ระบาดของโควิด–19

นายศิริพงษ์ กล่าาว่า บริษัทมองเห็นโอกาสขยายฐานการตลาดในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจค้าออนไลน์ที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดโปรโมชัน "อาคารพาณิชย์ดีที่สุด" ผ่านโครงการ "บ้านดี เดอะมอนเทอเรย์ ศรีราชา–อัสสัมชัญ" ท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่นและสวยงาม บนเนื้อที่รวมประมาณ 11 ไร่ ใจกลางเมืองศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในรูปแบบอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น สไตล์ American Cottage ขนาดที่ดิน 16.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม. กับฟังก์ชัน 1 ร้านค้า 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ภายในโครงการครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งพื้นที่สีเขียวร่มรื่น American Courtyard ขนาดใหญ่ด้านหน้าโครงการ สวนขนาดย่อมกระจายอยู่รอบโครงการ คลับเฮาส์ สระว่ายน้ำ คีย์การ์ดสำหรับเข้า–ออกโครงการ และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV ในราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท* พร้อมเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลังสามารถเข้าอยู่ได้ทันที ไม่ต้องตกแต่งเพิ่ม

"บ้านดี เดอะมอนเทอเรย์ อีกหนึ่งโครงการคุณภาพจากดี–แลนด์ กรุ๊ป ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ใจกลางเมืองศรีราชา การเดินทางสะดวกสบาย สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองชลบุรี–ระยอง–พัทยา หรือจะใช้เส้นทางจากถนนอัสสัมชัญเชื่อมต่อเข้าสู่ถนนสุขุมวิทก็สะดวก โดยอาคารพาณิชย์ในโครงการบ้านดี เดอะมอนเทอเรย์ มีพื้นที่สำหรับขายหน้าร้านและขายออนไลน์ พร้อมฟังก์ชัน 1 ร้านค้า 2 ห้องนอน ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องไลฟ์สดขายของ หรือห้องสต๊อกสินค้า และซื้อ 1 ได้ถึง 2 กับห้องนอนที่พร้อมปล่อยเช่าได้ทันที นอกจากนี้ ยังอยู่ใกล้กับบริษัทขนส่ง อาทิ ไปรษณีย์ไทย เคอรี่ แฟลช และเจแอนด์ที สะดวกต่อการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.49 ล้านบาท ตอบครบทุกความต้องการสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่กำลังองหาอาคารพาณิชย์ที่ดีที่สุดและตอบโจทย์การลงทุนในอนาคตที่คุ้มค่า" นายศิริพงษ์ กล่าว

18090


ยังไม่ฟันธงสำหรับราคาชุดตรวจโควิดด้วยตัวเอง Antigen Test Kit (ATK) ที่เหมาะสมและยังไม่มีมติให้ ATK  เป็นสินค้าควบคุม  หลังจากการประชุมของคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มีนายจุรินท์ ลักษณ์วิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา มีเพียงแต่การตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วยปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นรองประธาน และมีกรรมการประกอบด้วย เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) และผู้บังคับการตำรวจ ปคบ เป็นกรรมการ รวม 11 คน

คณะอนุกรรมการทั้ง 11 คนนี้มีอำนาจหน้าที่ติดตาม วิเคราะห์ สถานการณ์ของ ATK และกำหนดแนวทางมาตรการกำกับดูแลการจำหน่าย ATK ให้เป็นธรรมอีกชั้นหนึ่ง  เท่านั้น โดยนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งนี้จะประชุมหารือเพื่อกำหนดราคาจำหน่ายชุด ATKที่เหมาะสมโดยเร็ว และนำขึ้นเว็บไซต์ของกรมการค้าภายใน เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจก่อนซื้อ

จากข้อมูลปัจจุบันมีบริษัทนำเข้า ATK ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับองค์การอาหารและยาหรือ อย. กระทรวงสาธารณสุข 31 ราย รวม 34 ยี่ห้อ  โดยทางกรมการค้าภายในได้ให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ค้าส่งแจ้งรายละเอียดทั้งกำลังการผลิต จำนวน ปริมาณ ราคาต้นทุน ให้กับกรมการค้าภายใน ล่าสุดมีเพียง10 รายเท่านั้นที่ได้แจ้งมา ส่วน ATK ที่วางขายในร้านขายยามี  9 ราย และ ราคาจำหน่ายที่ผู้นำเข้าแจ้งเป็นราคาแนะนำขายปลีกอยู่ระหว่าง 250-350 บาท  

                


นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดเพดานราคา ATK เนื่องจากแต่ละยี่ห้อก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันทั้งทางเทคนิค วัสดุ ประสิทธิภาพของน้ำยารวมถึงระยะเวลาการแสดงผลการตรวจ  ประกอบกับต้องรอรายละเอียดของต้นทุน กำลังการผลิต จำนวน ปริมาณ เพื่อมาพิจารณาคำนวณราคาที่เหมาะสม เมื่อได้ราคาแล้วทางกรมฯก็จะนำขึ้นประกาศทางเว็ปไซต์ของกรม คาดว่าน่าจะทราบได้ภายสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตามแม้ยังไม่มีราคาที่กำหนด แต่กรมการค้าภายในก็ใช้ พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ที่มีอยู่นั่น คือมาตรา 28 เกี่ยวกับการแสดงหรือปิดป้ายราคาสินค้า และมาตรา 29 เกี่ยวกับการขายเกินราคา ขายเกินราคาที่สมควร และเกิดความปั่นป่วนทางราคาเพื่อดำเนินการกับผู้ขายที่กระทำความผิด

ทั้งนี้ความต้องการ ATK เพื่อตรวจเชื้อเบื้องต้นมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 2 หมื่นราย นอกจากประชาชนแล้วเจ้าของบริษัทหรือโรงงานต่างๆก็ต้องการซื้อ ATK ไปตรวจให้กับพนักงานเพื่อแยกผู้ป่วยและคนปกติออกจากกัน เพื่อป้องกันมีการติดเชื้อไปในวงกว้าง  

ในขณะที่รัฐบาลมอบให้องค์การเภสัชกรรมดำเนินการจัดหาชุดตรวจโควิด-19 แบบ Antigen Test Kit (ATK) ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด ในวงเงินเบื้องต้น 1,014 ล้านบาท เพื่อจัดหาชุดตรวจให้หน่วยบริการนำไปแจกจ่ายกับประชาชนทุกคนทุกสิทธิ ก็ยังต้องชะลอออกไปเนื่องจากยี่ห้อ LEPU ที่ชนะการประมูลนั้นได้ถูกเรียกเก็บสินค้าออกจากตลาดสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 28 พ.ต.2564 ตามคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Food and Drug Administration: FDA) ให้ระงับใช้ชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดทั้ง Antigen Rapid Test Kit และ Antibody Rapid Test Kit ของ Lepu Medical Technology เพราะให้ผลการตรวจที่ไม่แม่นยำ

เมื่อความต้องการสวนทางกับจำนวน ATKที่มีอยู่ทำให้ราคา ATK พุ่งสูงขึ้นเท่าตัว จนสร้างความเดือดร้อนซ้ำเติมกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน  จึงเป็นเรื่องที่กระทวงพาณิชย์จะต้องเร่งดำเนินการเคาะเพดานราคา ATK ที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่เกิดการฉวยโอกาสและสร้างความปั่นป่วนทางราคาในตลาด เหมือนกรณีหน้ากากอนามัย ที่ก่อนหน้านี้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าที่ประชาชนต้องการมีไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด ส่งผลให้เกิดความต้องการสูงกว่าปริมาณผลผลิตต่อวัน ทำให้เกิดการฉวยโอกาสขึ้นราคา สร้างความปั่นป่วนด้านราคาจนกระทั่ง กกร.ต้องประกาศให้”หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม” และกำหนดราคาขาย 2.50 บาทต่อชิ้น

หน้า: 1 ... 1003 1004 [1005] 1006 1007 ... 1027