แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Naprapats

หน้า: 1 ... 1006 1007 [1008] 1009 1010 ... 1026
18127


วันนี้ (28 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 27 ส.ค. กำหนดมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ตามระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร 1 ก.ย. 2564 โดยการเดินทางข้ามจังหวัดจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะใช้วิธีขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัด ระบบขนส่งสาธารณะจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ไม่เกิน 75 % สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ห้ามรับประทานอาหาร และกำหนดมาตรการบริการขนส่งข้ามเขตพื้นที่ระดับสถานการณ์ฯ ตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดนั้น พบว่าสายการบินที่ทำการบินเส้นทางในประเทศ เริ่มประกาศทำการบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ในเดือน ก.ย.นี้

โดยสายการบินไทยสมายล์ ประกาศว่า จะกลับมาให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศบางเส้นทาง เริ่มตั้งแต่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป เพื่อรองรับผู้โดยสารที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารในเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกเที่ยวบินและมีกำหนดการเดินทางตั้งแต่ วันที่ 1 - 30 กันยายน 2564 สามารถเลือกทำรายการ เปลี่ยนวันเดินทาง เปลี่ยนเส้นทาง และขยายอายุบัตรโดยสารที่ยังไม่ได้ใช้เดินทาง (Open Ticket) ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ส่วนสำหรับผู้โดยสารที่ยังมีความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 สามารถเลือกรับข้อเสนอ เปลี่ยนวันเดินทาง เปลี่ยนเส้นทาง โดยชำระส่วนต่างค่าโดยสาร (ถ้ามี) และขยายอายุบัตรโดยสารที่ยังไม่ได้ใช้เดินทาง (Open Ticket) ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565


ด้านสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แจ้งกลับมาเปิดให้บริการเที่ยวบิน ในเส้นทางสมุย-ภูเก็ต (ไป-กลับ) ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในโครงการสมุย พลัส โมเดล และภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ รวมถึงผู้โดยสารที่มีความจำเป็นในการเดินทาง โดยจะให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (เฉพาะวันจันทร์, พุธ และศุกร์) ด้วยเครื่องบินแบบเอทีอาร์ 72-600 เที่ยวบินที่ PG253 ออกจากสนามบินสมุย เวลา 11.25 น. ถึงสนามบินภูเก็ต เวลา 12.25 น. และเที่ยวบินที่ PG254 ออกจากสนามบินภูเก็ต เวลา 13.00 น. ถึงสนามบินสมุย เวลา 14.00 น. ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการจะเดินทางต้องปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต และคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ สายการบินฯ ยังคงมีความจำเป็นต้องงดให้บริหารอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน และปิดให้บริการห้องรับรองผู้โดยสารเป็นการชั่วคราวต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง


ส่วนสายการบินนกแอร์ กลับมาให้บริการที่ดอนเมือง พร้อมเพิ่มความมั่นใจให้ผู้โดยสารด้วยการการันตีเที่ยวบิน สำหรับผู้โดยสารที่ทำการสำรองที่นั่งเข้า/ออกจากสนามบินดอนเมืองระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม 2564 – 7 กันยายน 2564 และวันเดินทางตั้งแต่ 1-7 กันยายน 2564 กรณีผู้โดยสารถูกยกเลิกเที่ยวบิน รับสิทธิ์บินฟรี ในเที่ยวบินทดแทนตามเส้นทางที่สายการบินกำหนดและให้บริการโดยสายการบินนกแอร์เท่านั้น และเลือกรับสิทธิ์ในการเก็บเครดิตวงเงินสำหรับใช้สำรองที่นั่งสายการบินนกแอร์ในครั้งถัดไป ตามมูลค่าที่ชำระค่าบัตรโดยสารในหมายเลขการจองเดิมของเที่ยวบินล่าช้า จนถึง 31 มีนาคม 2565


ขณะที่สายการบินแอร์เอเชีย ประกาศพร้อมให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป โดยจะเริ่มเปิดให้บริการ บินตรงจาก กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่ เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช เชียงราย ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี นครพนม ร้อยเอ็ด นราธิวาส พร้อมโปรโมชันลดทันที 30% ทุกที่นั่ง ทุกเส้นทางบินในประเทศ ถึงวันที่ 5 ก.ย. 2564 เดินทาง 3 ก.ย. 2564 ถึง 31 ธ.ค. 2564 เลื่อนวันเดินทางได้ไม่จำกัดครั้งทำเองได้ทันที ฟรีค่าธรรมเนียม


สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กลับมาเริ่มบินเส้นทางบินภายในประเทศจากสนามบินดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป ราคารวมเริ่มต้นที่ 800 บาทต่อเที่ยว พร้อมรับฟรีน้ำหนักกระเป๋า 10 กิโลกรัม (สูงสุดไม่เกิน 1 ใบ) ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง ล้างมือด้วยสเปรย์หรือเจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย


ส่วนสายการบินไทยเวียตเจ็ท กลับมาบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป เส้นทางบินตรงสุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี พร้อมจัดโปรโมชันราคารวมภาษีและค่าธรรมเนียม 499 บาท/เที่ยว นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางข้ามภาค ได้แก่ เส้นทางระหว่าง ภูเก็ต - เชียงใหม่ เริ่มบินตั้งแต่ 15 ก.ย. 2564 เส้นทางระหว่าง ภูเก็ต - อุดรธานี เริ่มบินตั้งแต่ 10 พ.ย. 2564 เส้นทางระหว่าง ภูเก็ต - เชียงราย เริ่มบินตั้งแต่ 1 ต.ค. 2564 เส้นทางระหว่าง เชียงราย-หาดใหญ่ เริ่มบินตั้งแต่ 1 ต.ค. 2564

18128


นางสุภาพร  ลีนะบรรจง  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้นจากปีที่แล้ว แต่การเติบโตที่สูงในปีนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานต่ำในปีก่อน หากพ้นจากช่วงที่เศรษฐกิจโลกได้รับประโยชน์จากฐานต่ำไปแล้ว  เศรษฐกิจอาจมีการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงและมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงโตต่ำ นักลงทุนจึงต้องมองหาทางเลือกการลงทุนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตให้กับพอร์ตการลงทุน”

“หุ้นเติบโตสูงถือเป็นธีมการลงทุนที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก และมีแนวโน้มเติบโตได้อีกหลายเท่าจากปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของการเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีโกล.โกรท (KFGG) ที่ลงทุนในกองทุนหลักคือ Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund และได้รับ Morningstar Rating 5 ดาว*”

“กองทุนหลักมีผลงานที่โดดเด่นมาก ด้วยการบริหารสไตล์ Baillie Gifford ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้มุมมองการลงทุนที่แตกต่างโดยเน้นการลงทุนระยะยาว เลือกลงทุนเพียงไม่กี่หลักทรัพย์ที่เชื่อมั่นในศักยภาพและจะเป็นตัวขับเคลื่อนผลตอบแทนของตลาดในระยะยาว และไม่เน้นการซื้อขายตามตลาด โดยปัจจุบันถือการลงทุนในแต่ละหลักทรัพย์เฉลี่ย 9 ปี”

“หัวใจสำคัญคือกระบวนการคัดสรรหุ้น ซึ่งจะไม่ยึดติดกับภูมิภาค อุตสาหกรรม และดัชนีชี้วัด กรอบการเลือกก็อย่างเช่น รายได้ของธุรกิจนั้นสามารถปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าภายใน 5 ปีข้างหน้าหรือไม่ อะไรคือความได้เปรียบในการแข่งขัน การบริหารจัดการเงินทุนเป็นอย่างไร รวมถึงอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ระดับราคามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 เท่าหรือมากกว่านั้น เป็นต้น ทำให้หุ้นที่ผู้จัดการกองทุนคัดสรรเข้ามาในพอร์ตนั้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่นเหนือคู่แข่ง   และเป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากแรงขับเคลื่อนของกระแสโลกาภิวัฒน์และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เช่น ธีม E-commerce ธีมเกี่ยวกับสื่อออนไลน์   ธีมรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ  และ ธีมนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ ”

“ตัวอย่างหลักทรัพย์ที่กองทุนหลักลงทุนเช่น Netflix เป็นผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง ที่สมาชิกสามารถรับชมซีรีย์โทรทัศน์  สารคดี และภาพยนตร์ต่างๆ ได้หลากหลายประเภท และหลากหลายภาษา  Coupang บริษัทด้าน E-commerce ที่มีสมญานามว่าเป็น Amazon แห่งเกาหลีใต้  Adyen แพลตฟอร์มที่ช่วยให้การชำระเงินเป็นเรื่องง่ายและสร้างการเติบโตทั่วโลก  เป็นต้น”

“กองทุน KFGG เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสร้างความเติบโตให้กับพอร์ตการลงทุนระยะยาวผ่านการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นเติบโตสูงทั่วโลก สามารถรับความผันผวนในระยะสั้นได้ และมีระยะเวลาการลงทุนในระยะกลางถึงยาวเพื่อให้หลักทรัพย์ในพอร์ตมีเวลาสร้างการเติบโตได้เป็นไปตามเป้าหมาย” นางสุภาพร กล่าว
URL
 11
 

18129
Room Fiberry รูมไฟเบอรี่ ดีท็อกซ์ชนิดผงชงดื่ม ดื่มง่าย ถ่ายคล่อง
 

สุขภาพดีเริ่มต้นที่.. " การขับถ่าย "ROOM FIBERRY (รูม ไฟเบอร์รี่)ตัวช่วยของคนรักสุขภาพ เติมเต็มส่วนที่ขาด กำจัดส่วนเกินกินทุกวันแต่ไม่ขับถ่ายทุกวัน ต้นเหตุของ "โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง"อาทิเช่น ท้องผูก ท้องเสีย มะเร็งลำไส้ใหญ่อ้วนลงพุง และโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดูดซึมของเสีย หรือสารพิษที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกายทำให้เซลล์ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระต่างๆ
 
Room Fiberry (รูม ไฟเบอร์รี่) มีส่วนช่วยในการดีท็อกซ์ร่างกายมากถึง 5 ระบบ
- ระบบลำไส้
- ระบบตับ
- ระบบไต
- ระบบเลือด
- ระบบผิวหนัง
 
•รวบรวมสารสกัดจากผักผลไม้ถึง 36 ชนิด
• อุดมไปด้วยวิตามินและใยอาหารที่จำเป็นจากผักและผลไม้ 7 สี
• เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100%
• กวาดเศษปฏิกูลของเสียออกจากส่วนที่ติดค้างในลำไส้
• ดูดสารพิษและกลิ่นเน่าเหม็น
• ขับถ่ายตามเวลาภายใน 8-12 ชั่วโมง
• ช่วยให้ผิวพรรณสดใสมากขึ้น
• ช่วยให้ร่างกานผ่อนคลายและหลับสบายยิ่งขึ้น
• รสชาติมิกซ์เบอร์รี่ หอม อร่อย ทานง่าย
 
Room Fiberry“ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค”“อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค”“ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ”ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา
 
ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-3-0002
 
บรรจุ 1 กล่อง / 14 ซอง
วิธีรับประทาน ชงน้ำเย็น 50-100 ml/1 ซอง ดื่มก่อนนอน วันละ 1 ซอง
 ราคา  590 บาท

สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ
Tel. 0846623662
Line id : teerapat999

ข้อมูลเพิ่มเติม   http://[^_^]taywa99.lnwshop.com/p/1233

 
#รูมไฟเบอรี่ดีท็อกซ์กระชับสัดส่วน#ROOMFIBERRY ดูแลผิวพรรณป้องกันความอ้วน##ดีท๊อก#ดีท๊อกลำไส้ #ดีท๊อกของเสีย #วิตามิน #เพื่อสุขภาพที่ดี #ลดพุง #ถ่ายคล่อง #สินค้าดี

18130
สำนักพรเทวะ  ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์
สนใจติดต่อ
อ.ทองเอก พรเทวะ
โทร 0846623662
Line : teerapat999

18133


น้อยคนนักจะรู้ว่า “ครีมกันแดด” นั้นมีส่วนผสมที่สามารถทำร้ายสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งหลายคนมองข้ามจุดนี้ไป เพื่อรักษาผิวกายให้สวยงามแต่หลงลืมเรื่องการรักษาธรรมชาติรอบๆ ตัว กระทั่งในปัจจุบันเริ่มมีกระแสการใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีประกาศการงดใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมทำร้ายปะการัง จึงทำให้หลายคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ เกิดความตระหนัก และเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และแบรนด์ “KAANI” ครีมกันแดดฝีมือคนไทย ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สามรถตอบโจทย์ทั้งเรื่องกันแสงแดด ดูแลผิว และรักษ์สิ่งแวดล้อม ไปพร้อมๆ กันได้

นางสาวชนิภา สารสิน (ซ้าย) นายพชร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (กลาง) นางสาวดิษย์ลดา ดิษยนันท์ (ขวา) สามเพื่อนซี้ที่ชื่นชอบการดำน้ำ ผู้ร่วมกันก่อตั้งแบรนด์ “KAANI” 
นางสาวชนิภา สารสิน (ซ้าย) นายพชร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (กลาง) นางสาวดิษย์ลดา ดิษยนันท์ (ขวา) สามเพื่อนซี้ที่ชื่นชอบการดำน้ำ ผู้ร่วมกันก่อตั้งแบรนด์ “KAANI”

นางสาวชนิภา สารสิน หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ “KAANI” (คานิ) เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า ครีมกันแดดรักษ์โลก เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันกับ นายพชร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และ นางสาวดิษย์ลดา ดิษยนันท์ ที่ได้มารู้จักและได้เป็นเพื่อนกันเนื่องจากชื่นชอบกิจกรรมดำน้ำเหมือนกัน และด้วยการเห็นความงดงามของโลกใต้ท้องทะเลที่สวยแปลกตาต่างจากโลกบนดิน ทำให้เราทั้งสามคนได้ตระหนักว่าธรรมชาติโลกใต้ท้องทะเลนั้น ก็มีชีวิตและเปราะบางเหมือนกับธรรมชาติบนพื้นดิน และในการดำน้ำและการเที่ยวทะเลในทุกๆ ครั้ง ก็ต้องมีการใช้ครีมกันแดดซึ่งส่วนใหญ่มีสวนผสมของสารที่ทำร้ายปะการัง และก่อมลพิษทางอ้อม จึงได้มีการเปลี่ยนมาใช้ครีมกันแดดสูตร Reef-safe ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่เมื่อนำมาใช้ที่ประเทศไทยกลับไม่ตอบโจทย์ในการใช้ เพราะอากาศร้อนจึงทำให้ครีมเหนียวเหนอะหนะ และด้วยเหตุนี้ครีมกันแดดรักษ์โลกฝีมือคนไทยจึงได้เกิดขึ้นในชื่อแบรนด์ “KAANI”

นางสาวชนิภา สารสิน หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ “KAANI” 
นางสาวชนิภา สารสิน หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ “KAANI”

ในช่วงแรกในการทำการตลาดนั้น ทางแบรนด์ KAANI ได้ผลิตครีมกันแดดเพื่อตอบโจทย์กลุ่มนักดำน้ำ และกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวทะเลที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม ในรุ่น “AcTive” โดยได้ได้มีการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ร้านผลิตภัณฑ์รักสิ่งแวดล้อม และในโรงแรมในพื้นที่ท่องเที่ยวชายทะเล ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเนื้อครีมของ KAANI นั้น ไม่เหนียวเหนอะหนะและกันแดดได้ดีทำให้ลูกค้าชื่นชอบ อีกทั้งยังมีประกาศจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศห้ามนำครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ จึงทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ในการเป็นครีมกันแดดรักษ์โลกที่เกิดขึ้นจากฝีมือคนไทย



และแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทำให้การท่องเที่ยวทางทะเลในหลายๆ แห่งต้องหยุดชะงัก แต่ครีมกันแดดของทางแบรนด์ก็ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากมีส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม ทำให้ไม่เกิดเป็นสารตกค้างในร่างกาย และด้วยเนื้อครีมที่สัมผัสแล้วสบายผิว จึงทำให้แบรนด์ KAANI สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ได้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่ม "แม่และเด็ก" ที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายแรกเริ่ม แต่แบรนด์สามารถตอบโจทย์ในเรื่องความอ่อนโยนของผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กได้ ซึ่งทำให้คุณแม่หลายๆ คนไว้วางใจแบรนด์ในการเป็นครีมกันแดดสำหรับลูกๆ



และด้วยการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ทางแบรนด์จึงต่อยอดด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์รุ่น “Everyday” ซึ่งทางแบรนด์ได้เน้นการตลาดในเรื่องการให้ความสำคัญในการใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว เนื่องจากในแสงแดดมีรังสีอยู่มากมาย และบางชนิดก็สามารถสร้างผลกระทบในระยะยาวให้กับผิวหนังได้ และได้ผลพลอยได้คือการได้รักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ทำให้เรื่องการดูแลผิวกายและการดูแลธรรมชาติกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว และสามารถทำได้ในทุกๆ วัน ด้วยแนวคิดนี้จึงทำให้แบรนด์ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ามากขึ้น



“หลายคนคิดว่าถ้าใช้ผลิตภัณฑ์หรือครีมกันแดดแบบรักษ์โลก จะต้องแลกกับอะไรบางอย่าง เช่น ความเหนียวเหนอะหนะไม่สบายผิว หรือกันแดดได้ไม่ดี เพราะขาดส่วนประกอบบางชนิด เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่กลัวผิวคล้ำ แต่ KAANI ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ ไม่ต้องแลกกับอะไร”  .... นางสาวชนิภา หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์กล่าวเสริม



นอกจากจุดเด่นในเรื่องการเป็นผลิตภัณฑ์รักษ์โลกแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของครีมกันแดด KAANI ที่ทำให้ลูกค้ายอมรับนั้น ก็คือส่วนผสมที่ทางแบรนด์ใช้เวลากว่า 1 ปี ในการพัฒนาส่วนผสมต่างๆ ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและวิถีชีวิตของคนไทย ด้วยสูตร Reef-safe ครีมกันแดดที่ไม่ใส่สารเคมี ในแบบ Physical sunscreen ร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นกระจกสะท้อนหรือหักเหรังสี UV ออกไปจากผิว ทำให้เนื้อครีมสัมผัสไม่เหนียวเหนอะหนะสบายผิว ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้และไม่มีสารตกค้าง ทำให้ลูกค้าที่ใช้สามารถลืมภาพครีมกันแดดที่เหนียวเหนอะหนะไปได้ และยอมรับในการใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกได้อย่างสบายใจ



อีกหนึ่งจุดเด่นของแบรนด์ก็คือ การนำมาตรฐานของ “สาธารณรัฐปาเลา” หนึ่งในประเทศที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิคที่ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล ที่ได้มีการออกกฎหมายแบนสารเคมีในครีมกันแดดมากกว่า 10 ชนิด ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สูงที่สุดในโลกมาเป็นมาตรฐานของแบรนด์ จึงทำให้ครีมกันแดด KAANI ไม่ได้ตอบโจทย์แค่เฉพาะในตลาดประเทศไทย แต่ยังตอบโจทย์และสามารถนำไปใช้ในหลายๆ ประเทศทั่วโลกได้อีกด้วย เนื่องจากในปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลก ต่างให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะวิกฤตสภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ครีมกันแดดจากฝีมือคนไทย “KAANI” จึงเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งการดูแลผิวและดูแลสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมๆ กันได้เป็นอย่างดี

18134
Room Fiberry รูมไฟเบอรี่ ดีท็อกซ์ชนิดผงชงดื่ม ดื่มง่าย ถ่ายคล่อง
 

สุขภาพดีเริ่มต้นที่.. " การขับถ่าย "ROOM FIBERRY (รูม ไฟเบอร์รี่)ตัวช่วยของคนรักสุขภาพ เติมเต็มส่วนที่ขาด กำจัดส่วนเกินกินทุกวันแต่ไม่ขับถ่ายทุกวัน ต้นเหตุของ "โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง"อาทิเช่น ท้องผูก ท้องเสีย มะเร็งลำไส้ใหญ่อ้วนลงพุง และโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดูดซึมของเสีย หรือสารพิษที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกายทำให้เซลล์ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระต่างๆ
 
Room Fiberry (รูม ไฟเบอร์รี่) มีส่วนช่วยในการดีท็อกซ์ร่างกายมากถึง 5 ระบบ
- ระบบลำไส้
- ระบบตับ
- ระบบไต
- ระบบเลือด
- ระบบผิวหนัง
 
•รวบรวมสารสกัดจากผักผลไม้ถึง 36 ชนิด
• อุดมไปด้วยวิตามินและใยอาหารที่จำเป็นจากผักและผลไม้ 7 สี
• เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100%
• กวาดเศษปฏิกูลของเสียออกจากส่วนที่ติดค้างในลำไส้
• ดูดสารพิษและกลิ่นเน่าเหม็น
• ขับถ่ายตามเวลาภายใน 8-12 ชั่วโมง
• ช่วยให้ผิวพรรณสดใสมากขึ้น
• ช่วยให้ร่างกานผ่อนคลายและหลับสบายยิ่งขึ้น
• รสชาติมิกซ์เบอร์รี่ หอม อร่อย ทานง่าย
 
Room Fiberry“ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค”“อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค”“ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ”ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา
 
ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-3-0002
 
บรรจุ 1 กล่อง / 14 ซอง
วิธีรับประทาน ชงน้ำเย็น 50-100 ml/1 ซอง ดื่มก่อนนอน วันละ 1 ซอง
 ราคา  590 บาท

สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ
Tel. 0846623662
Line id : teerapat999

ข้อมูลเพิ่มเติม   http://[^_^]taywa99.lnwshop.com/p/1233

 
#รูมไฟเบอรี่ดีท็อกซ์กระชับสัดส่วน#ROOMFIBERRY ดูแลผิวพรรณป้องกันความอ้วน##ดีท๊อก#ดีท๊อกลำไส้ #ดีท๊อกของเสีย #วิตามิน #เพื่อสุขภาพที่ดี #ลดพุง #ถ่ายคล่อง #สินค้าดี

18135


เชียงราย - ทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา อปท.ร่วมหนุน “ศิลปินขัวศิลปะ” เดินหน้าปรับโฉมเมืองเชียงราย รังสรรค์ wall art แกลเลอรี โชว์ศิลปะร่วมสมัยปั้นแลนด์มาร์กใหม่ รับเมืองแห่งศิลปะ-รอยูเนสโกประเมิน/ดันชื่อขึ้นชั้นสากล

ขณะนี้..กำแพงรอบอาคารเฉลิมพระเกียรติ 90 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ ศูนย์การเรียนรู้ เทศบาลนครเชียงราย กว้าง 2.50 เมตร ยาวประมาณ 58 เมตร ได้ถูกพลิกโฉมกลายเป็นแกลเลอรีแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย “wall art เชียงรายเมืองศิลปะ” ที่งดงาม ดึงดูดความสนใจและความประทับใจจากผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา ชนิดที่ต้องย้อนกลับมาดูซ้ำกันถ้วนหน้า

โดยเฉพาะกำแพงตั้งอยู่ติดกับถนนกลางเวียงก่อนถึงสะพานขัวพญามังรายที่มีผลงานทางศิลปะภาพวาดบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองเชียงราย ฯลฯ อยู่ตามข้างถนน ทำให้บริเวณดังกล่าวดูงดงาม รวมทั้งเริ่มมีผู้คนสนใจเข้าไปเดินเที่ยวชมอย่างต่อเนื่อง

อาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ กล่าวว่า wall art นี้ศิลปินได้ร่วมกันวาดด้วยสีอะคริลิกตั้งแต่วันที่ 22-24 สิงหาคม เป็นเวลา 3 วันเต็ม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมชื่อ “ย่านสร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัยในพื้นที่เชียงราย” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานวัฒนธรรม จ.เชียงราย โดยการประสานงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รวมทั้งทางเทศบาลนครเชียงรายได้อนุญาตหน่วยงานที่ดูแลสถานที่ด้วย

ผลงานนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการที่เชียงรายได้รับการยกให้เป็นเมืองศิลปะของประเทศไทยและเตรียมรองรับการเป็นเจ้าภาพจัดงานศิลปะระดับโลก “ไทยแลนด์อาร์ตเบียนนาเล่ เชียงราย” ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วย โดยเป็นภาพเทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อน้อมรำลึกถึงสมเด็จย่า และภาพสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ ของเชียงราย



อาจารย์สุวิทย์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมเมืองให้มีความพร้อมรับตัวแทนขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO) ที่จะเข้าไปดู จ.เชียงรายช่วงเดือน พ.ย. 2564 เพื่อประเมินการเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์อีกด้วย ซึ่งหากได้รับการคัดเลือกก็จะทำให้เชียงรายได้รับการยกระดับสู่สากลขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ ตัวแทนยูเนสโกจะสุ่มเดินทางไปดูในพื้นที่หลายจุดโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้บรรดาศิลปินชาวเชียงรายได้พยายามร่วมกับหน่วยงานต่างๆ สร้างสรรค์ผลงานไปทั่วเมืองเชียงรายเพื่อให้สมกับการเป็นเมืองที่สร้างสรรค์ของยูเนสโก โดยก่อนหน้านี้ศิลปินชาวเชียงรายเคยวาดภาพ wall art ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เชียงราย แห่งที่ 1 และ 29 สิงหาฯ นี้ศิลปินจะไปวาดภาพ wall art บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.เชียงของ รวมทั้งในอนาคตยังมีแนวทางจะร่วมกับเทศบาลนครเชียงรายวาดภาพในลักษณะเดียวกันบนถนนสิงหไคลด้วย

นายพิสันต์ สกุล จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรม จ.เชียงราย กล่าวว่าที่ผ่านมาเชียงราย ได้ปูพื้นฐานในการสร้างสรรค์ให้เป็นเมืองศิลปะมาได้กว่า 3 ปีแล้ว เพราะเราเป็นจังหวัดที่มีศิลปินจำนวนมากและหลากหลายสาขา กรณีของ wall art ถือเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะที่งดงาม



และหลังจากเสร็จกิจกรรมในเขตเทศบาลนครเชียงรายในครั้งนี้ก็จะไปสร้างสรรค์ wall art กันต่อที่ถนนเลียบแม่น้ำโขงตรงระเบียงริมโขง อ.เชียงของ ความยาวประมาณ 30 เมตร นอกจากนี้ยังแสวงหากิจกรรมทางศิลปะในจุดต่างๆ ต่อไป โดยเฉพาะในเขตนครเชียงรายที่มีย่านเมืองเก่าหลายแห่ง ส่วนหนึ่งก็เพื่อรองรับการเข้าไปประเมินของตัวแทนองค์กรยูเนสโกดังกล่าว

ด้านนายธเนศ โกมลธง รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า นายวันชัย จงสุทธนามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้ร่วมกับศิลปินในการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะในเมืองเชียงรายมาอย่างต่อเนื่อง และได้สร้างสรรค์ผลงานมาแล้วหลายสถานที่ ในอนาคตคาดว่าสถานที่ต่อไปที่จะดำเนินการคือสวนตุงและโคมนครเชียงราย ถนนธนาลัย ซึ่งอยู่กลางตัวเมืองเชียงรายด้วย

18136


หากย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน เหล่าบรรดาดาราฮอลลีวูดระดับตัวท็อปของวงการมักจะมั่นใจกับรายได้ของตนเองเมื่อภาพยนตร์ที่พวกเขาแสดงติดอันดับบนบ็อกซ์ออฟฟิศ แต่มาวันนี้เมื่อหลายๆ อย่างเปลี่ยนไป การวัดความสำเร็จของนักแสดงในปัจจุบันกลับอยู่ที่ยอดวิวใน Netflix หรือข่าวประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ดูหนังทาง HBO Max

การปฏิวัติทางดิจิทัลอาจเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างไปแบบพลิกฝ่ามือ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้กระทบค่าตัวของนักแสดงคนโปรดของคุณเลย เพราะบรรดานักแสดงตัวท็อปยังคงได้รับค่าตอบแทนเป็นตัวเลขงามๆ แถมบางทียังทำรายได้มากกว่าตอนที่ต้องละมือจากจอเงินมาสู่การสตรีมมิ่งทางจอแก้วเสียอีก

ค่าตัวต่อเรื่องราวๆ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เคยเป็นราคามาตรฐานสำหรับนักแสดงระดับตัวท็อปในปี 1996 สมัยที่ "จิม แคร์รีย์" เคยทำให้ฮอลลีวูดต้องตะลึงด้วยรายได้ดังกล่าวจากภาพยนตร์ตลกแนวดาร์กคอมเมดี้เรื่อง The Cable Guy ซึ่งค่าตัวของเขายังกลายเป็นพาดหัวข่าวดังเพื่อใช้เป็นข่าวโปรโมทภาพยนตร์ตอนที่ออกฉายด้วย

ค่าตัวดังกล่าวกลายเป็นมาตรฐานให้กับนักแสดงจากเรื่องอื่นๆ ที่ตามมาหลังจากนั้นทั้ง "แซนดรา บูลล็อก" จาก The Lost City of D ของค่าย Paramount, "แบรด พิตต์" จากเรื่อง Bullet Train ของค่าย Sony และ "คริส เฮมสเวิร์ธ" จากเรื่อง Thor : Love and Thunder ของ Disney

นอกจากนั้นมาตราส่วนของค่าธรรมเนียมก็ยังแตกต่างกันออกไปอย่าง คริส ไพน์ จะได้รับเกือบ 11.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการทำภาพยนตร์ภาคต่อซึ่งเป็นความหวังของ Paramount เรื่อง Dungeons and Dragons รวมไปถึง โรเบิร์ต แพตตินสัน ที่โกยเพิ่มไปอีก 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการกลับมารับบทใน The Batman

หากย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน เช็คค่าตัวนักแสดงในวันจ่ายเงินนับเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการบอกถึงอันดับในวงการบันเทิง แต่ตอนนี้กลายเป็นเรื่องเล็กๆ เมื่อมีรายใหญ่อย่าง Netflix หรือ Amazon รวมถึง สตรีมเมอร์รายอื่นๆมาเสนอเงินให้ในจำนวนมหาศาล

ตัวอย่างเช่น "แดเนียล เคร็ก" ที่พุ่งสู่จุดสูงสุดด้วยข้อเสนอเป็นเงินถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการแสดงภาคต่อ 2 เรื่องใน Knives Out ผลงานที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษของ ไรอัน จอห์นสัน โดยค่าตัวมหาศาลของแดเนียล เครก มาจากข้อเท็จจริงที่ว่าทาง Netflix ได้จ่ายเงินเป็นค่าชดเชยให้กับนักแสดง ที่ตามปกติมักจะได้ค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์หลังภาพยนตร์เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ งานนี้นักแสดงที่กำลังโบกมือลาบท เจมส์ บอนด์ จึงได้รับไปเต็มๆ กับรายได้ที่เป็นตัวเลขถึง 9 หลัก



สมการตัวเลขใหม่นี้ได้กำหนดเพดานค่าตัวนักแสดงให้ถีบขึ้นไปอีกสูงลิ่ว อย่างเช่น ดเวย์น จอห์นสัน หรือ เดอะร็อก ที่ค่าตัวพุ่งไปที่ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการแสดงในภาพยนตร์คริสต์มาสผจญภัย Red One ของ Amazon Studios ที่คนตั้งตารอชม ซึ่งค่าตัวอาจเพิ่มไปได้ถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากภาพยนตร์ประสบความสำเร็จ ( ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับค่าตัวของ แดเนียล เครก ที่ได้รับในการแสดง Knives Out 2 ตอน )

ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ กับค่าตัว 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ กับค่าตัว 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเรื่อง Don’t Look Up , จูเลีย โรเบิร์ต 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเรื่อง Leave the World Behind ทาง Netflix และ ไรอัน กอสลิง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเรื่อง The Gray Man ทาง Netflix

อย่างไรก็ตามข้อตกลงแบบใหม่นี้นับว่าสร้างความปวดหัวให้กับสตูดิโออย่าง Warner Bros. เป็นอย่างมาก เพราะได้ตัดสินใจที่จะปล่อยภาพยนตร์ทั้งหมดในปี 2021 ทาง HBO Max และในโรงภาพยนตร์ไปพร้อมๆกัน ซึ่งทำให้นักแสดงออกมาปฏิวัติเรียกร้องเรื่องค่าตอบแทนที่ควรจะได้อีกมากมาย

"เดนเซล วอชิงตัน" และ "วิล สมิธ" ได้ค่าตัวกันไปคนละ 40 ล้านเหรียญจากเรื่อง The Little Things และ King Richard ของ Warner Bros. ซึ่งค่าตัวที่ให้ไปได้พิจารณาจากรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศที่ลดลงเพราะมีการเปิดสตรีมมิ่งรอบปฐมทัศน์ด้วย

"คีอานู รีฟส์" มีสิทธิ์ได้รับเงินเพิ่มจากเปอร์เซ็นต์หลังหนังฉาย โดยเขยิบจาก 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นเป็น 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากภาพยนตร์ Matrix4 นอกจากนั้น Amazon Studios ยังฝากเงิน 15 ล้านดอลลาร์ไว้ในบัญชีของ ไมเคิล บี. จอร์แดน หลัง Without Remorse ทำรายได้เล็กน้อยให้ Paramount

ส่วนนักแสดงที่เอ็นจอยที่สุดก็ต้องยกให้ "ทอม ครูส" เพราะเขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ยังชอบวิถีแบบเดิมๆ ที่ต้องได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยก่อนจะได้เป็นเปอร์เซ็นต์หลังจากหนังประสบความสำเร็จ

หมายความว่า "ทอม ครูซ" จะได้เงินส่วนแบ่งแน่ๆโดยคิดเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่วันแรกที่หนังเข้าฉายไม่รอให้ค่ายหนังทำรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศ สิ่งนี้เองที่ทำให้เขาได้รับโบนัสหลายสิบล้านดอลลาร์มาตลอดสำหรับภาพยนตร์ที่เขาแสดงหลังจากที่หนังทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศมาแล้วไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง

โดยปีนี้เขาได้รับเงินเต็มๆไปแล้วจากค่าตัวในหนังเรื่อง Top Gun Maverick ถึง 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ตัวเลขจะทยานสูงขึ้นหากภาพยนตร์ประสบความสำเร็จตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายและได้รับความนิยมจากคนดูจนยอดทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศ (ที่มา : From Daniel Craig to Dwayne Johnson, Inside the Biggest Movie Stars’ Salaries)

18137
MEE SK FiR **นวัตกรรมอาหารผิว-เซลล์ ดูดซึม100%เข้าสู่เซลล์ใน5นาทีล่าสุดจากเกาหลี


อยากมีผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส่ฟังทางนี้ วิตามินบูสผิว สารสกัดเข้มข้น 18 ชนิด นวัตกรรมอาหารผิว อาหารเซลล์ ลิขสิทธิ์ระดับโลก 'หนึ่งเดียว'

ด้วยนวัตกรรม FiR FAR INFRARED...



อาหารผิวมาแรงที่สุด โมเลกุลเล็ก ดูดซึมไวเข้าสู่เซลล์ 'ภายใน 5 นาที

5 ประโยชน์ทำไม ต้องทาน ?

เสริมสร้างภูมิต้านทาน

ลดการเกิดสิวอักเสบ

ผิวเด็กกระจ่างใส

ช่วยบำรุงสายตา

ลดรอยดำ รอยแดง ริ้วรอย ฝ้า กระ

ดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

วิตามินสูงกว่า ทั่วไป 80 เท่า



โปรโมชั่นเปิดตัว   # เปิดบิล 2,699฿ เป็นตัวแทนติดบริษัท  ได้รับ 2 กล่อง



ไม่ต้องมีสต๊อกสินค้าเอง

ไม่ต้องแพ็คและส่งสินค้าเอง

ไม่มีความรู้ ก็เริ่มทำธุระกิจได้

กำไร 50-75%

มีทีมงานการตลาดสอนเทคนิคการขายฟรี

มีกลุ่มและทีมงานคอยดูแลให้คำปรึกษาตลอด

สามารถเริ่มทำงานได้ทันที

  

เติมอาหารผิวเพียงวันละ 1-2 ม็ด (30 แคปซูล )

ปลอดภัย อย. 13-1-14959-5-1478



สนใจสั่งซื้อหรือสมัครตัวแทน

ไลน์ไอดี teerapat999

โทร 0846623662

ข้อมูลเพิ่มเติม  http://[^_^]taywa99.lnwshop.com/p/1230

 กดเข้าลิ้งค์นี้  ลงทะเบียนฟรี !!! เพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมการสร้างรายได้

https://www.metang-solution.com/member/register.php...








18138


วิโอเลต วอเทียร์” ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ “ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข (This Time)” บทเพลงรักฟีลกู้ดที่ทำให้อบอุ่นหัวใจ พร้อมชวนแฟนเพลงร่วมแชร์คลิปผ่านมุมมองความรักในแบบของตัวเอง ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 20,000 บาท ตั้งแต่วันนี้- 3 ก.ย. 64

หลังจากศิลปินลูกครึ่งสาวมากความสามารถ “วี-วิโอเลต วอเทียร์” ได้ปล่อยเพลง “กักตัว” ไปในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมสร้างปรากฏการณ์สุดปังดังไกลถึงนิวยอร์ก เพราะเจ้าตัวได้ขึ้น Digital Billboard ใจกลาง Times Square ภายใต้แคมเปญ “EQUAL” โครงการที่ส่งเสริมความเท่าเทียมให้กับผู้หญิงในวงการเพลงทั่วโลก นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่เธอสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเลยก็ว่าได้ งานนี้ต้องขอขอบคุณ “Spotify” ที่มอบโอกาสดี ๆ ให้กับเธอ

วิโอเลต วอเทียร์ - ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข
วิโอเลต วอเทียร์ - ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข

ล่าสุด วี วิโอเลต ชวนสัมผัสเพลงรักดนตรีฟีลกู้ด กับมุมมองที่เราไม่ค่อยได้เห็นจากเธอ ที่จะทำให้คนฟังรู้สึกอบอุ่นหัวใจ กับซิงเกิลล่าสุดที่ชื่อว่า “ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข (This Time)” ที่จะพาแฟนเพลงหลุดเข้าไปอยู่ในภวังค์ของความรักสุดโรแมนติก

ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข (This Time) เป็นเพลงป็อปสไตล์ฟีลกู้ด ที่ วิโอเลต วอเทียร์ แต่งเนื้อร้องเองทั้งหมด ถ่ายทอดเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ และลายเซ็นทางดนตรีในแบบฉบับของเธอที่ทุกคนคุ้นเคย รวมไปถึงการเขียนเพลงในภาษาที่ไม่เหมือนใคร แต่ยังคงความเป็นตัวเธอเอง

โดย วี วิโอเล็ต กล่าวว่า “ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราไปตลอด แต่อยากให้ทุกช่วงเวลาแห่งความสุขแบบนี้อยู่กับเราไปนาน ๆ” เหมือนเนื้อเพลงที่ร้องว่า “ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข วันนี้ฉันมีความสุข เราคบกันนาน ๆ ได้ไหม”

วิโอเลต วอเทียร์ - ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข
วิโอเลต วอเทียร์ - ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข

นอกจากนี้เธอยังคงร่วมงานกับโปรดิวเซอร์คู่ใจอย่าง “โหน่ง-วิชญ วัฒนศัพท์” อีกเช่นเคย เชื่อว่าใครที่ได้ฟังจะตกหลุมรักไปพร้อม ๆ กับเพลงนี้แน่นอน

ขณะที่อีกหนึ่งจุดเด่นที่แฟนเพลงไม่ควรพลาด คือ MV ที่จัดเต็มทั้งโปรดักส์ชั่น แสง สี โดยเฉพาะมู้ดอารมณ์ในช่วงที่พระอาทิตย์ตกดิน ที่แฟนเพลงจะได้เห็นความอบอุ่นสุดละมุนของแสงจากพระอาทิตย์

งานนี้ วี วิโอเลต ลงทุนไปเรียนขับรถเกียร์กระปุกเป็นครั้งแรก เพื่อให้ภาพออกมาดูสมจริงในซีนที่เธอต้องขับรถวินเทจด้วยตัวเอง และยังได้ผู้กำกับมืออาชีพอย่าง “พี่แม้ว” ผู้ที่เคยทำ MV “Brassac” และ “I’d Do It Again” ซึ่งมีเอกลักษณ์เข้าใจง่ายสอดแทรกใน MV จากอดีตสู่ปัจจุบันที่มรความสุข

วิโอเลต วอเทียร์ - ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข
วิโอเลต วอเทียร์ - ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข

นอกจากนี้สาว วี-วิโอเลต ยังชวนแฟนเพลงร่วมสนุกในแคมเปญ “ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข” โดยผู้สนใจสามารถร่วมแชร์คลิปวิดีโอโมเม้นท์น่ารัก ๆ ไม่ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขของตัวเองนั้น จะทำอะไร หรืออยู่กับใคร (คู่รัก กลุ่มเพื่อน ครอบครัว คู่พี่น้อง สัตว์เลี้ยงตัวโปรด อาหารที่ชอบ หรือรูปแบบไหนก็ได้ที่ทำให้คุณมีความสุข) ในรูปแบบฉบับที่เป็นตัวของตัวเอง พร้อมติด Hashtag #ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข

แคมเปญนี้สามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ – 3 ก.ย. 64 เพื่อชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 20,000 บาท

ขณะที่อีกหนึ่งความพิเศษของกิจกรรมนี้คือ คลิปที่ถูกคัดเลือกจะได้เป็นส่วนหนึ่งใน Special Video Clip ประกอบเพลง “ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข (This Time)” ร่วมกับเหล่านักแสดง และศิลปินเพื่อเป็นการให้กำลังใจ พร้อมส่งต่อพลังบวกให้กับทุกคนผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปด้วยกัน โดยทุกคนสามารถร่วมสนุกผ่านกติกาง่าย ๆ ดังนี้

กติกาการร่วมสนุก

- ร่วมอัดคลิปวิดีโอความยาว 15-30 วินาที
- ใช้เพลง “ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข” ท่อนฮุกเป็นเพลงประกอบคลิปเท่านั้น
- โพสต์คลิปลง TikTok, Facebook, หรือ IG Reels พร้อมติด Hashtag #ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข และตั้งค่าโพสต์เป็นสาธารณะ (สามารถโพสต์กี่ช่องทางก็ได้)
- Tag @UniversalMusicTh @VioletteWautier
- รางวัลเงินสด 1,000 บาท สำหรับคลิปที่โดนใจกรรมการมากที่สุด (ทั้งหมด 20 รางวัล)
- สามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 กันยายน 2564
- ประกาศผลคลิปที่ได้รางวัล 6 กันยายน 2564 ผ่านทาง Violette Wautier Official Facebook Page

18139
สำนักพรเทวะ  ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์
สนใจติดต่อ
อ.ทองเอก พรเทวะ
โทร 0846623662
Line : teerapat999

18140


ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าวว่า ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ ในการกำกับดูแลของ วว.ได้เดินหน้า BCG โมเดล ในโครงการยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลางตะวันตก ในปีงบประมาณ 2564 โดยสามารถยกระดับการผลิตพืชด้วยรูปแบบเกษตรสมัยใหม่ จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาให้เกิดการทำการเกษตรที่ปลอดภัย โดยใช้สารชีวภัณฑ์เป็นหลักในการผลักดันการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของกระบวนการผลิต ช่วยให้เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการได้รับผลิตผลที่ดีขึ้นทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ลดปัญหาสุขภาพของเกษตรกร และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตรตลอดห่วงโซ่ เพิ่มแต้มต่อให้ภาคเกษตรของไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

ทั้งนี้ วว. ได้ดำเนินงานในพื้นที่ 4 จังหวัดในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลางตะวันตกเป็นพื้นที่นำร่อง BCG Model ประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกกว่า10 ล้านไร่ ใน 2 กลุ่มพืช คือ พืชไร่เศรษฐกิจหลักในพื้นที่ ได้แก่ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง พืชสวน ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอม ส้มโอ กล้วยไข่ และหน่อไม้ฝรั่ง พื้นที่ดังกล่าว

นอกจากจะมีศักยภาพเป็นฐานการผลิตพืชเศรษฐกิจที่สำคัญแล้ว ยังเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการเชื่อมโยงเส้นทางการค้าการขนส่งระหว่างทะเลตะวันตกและทะเลตะวันออก มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ขนส่ง ที่เชื่อมต่อภาคอื่นๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และยังมีสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง สามารถเป็นเครือข่ายสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าในพื้นที่ได้อีกด้วย


วว. ดำเนินโครงการ BCG Model ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1) การยกระดับการผลิตพืชรูปแบบเกษตรสมัยใหม่โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านเศรษฐกิจชีวภาพ (Biological Economy) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านกระบวนการผลิต ลดต้นทุน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 2) การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตรตลอดห่วงโซ่การผลิตตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และ 3) การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ธรรมชาติจากขยะเหลือทิ้งทางการเกษตรตามแนวทางเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) สร้างโอกาสและเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ลดความเหลื่อมล้ำเศรษฐกิจฐานราก


โดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ เช่น เทคโนโลยีข้าวเสริมซีลีเนียม การพัฒนาวัสดุเพาะเห็ดจากฟางข้าวเสริมซีลีเนียม พัฒนาวัสดุเพาะเห็ดจากกากมันสำปะหลัง บรรจุภัณฑ์ (Non Food) หน่อไม้ฝรั่งเพื่อการส่งออก การเพิ่มคุณภาพผลผลิตอ้อยด้วยปุ๋ยอินทรีย์เคมีเสริมจุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต การเพิ่มคุณภาพและเพิ่มผลผลิตพืชด้วยสารควบคุมการเจริญเติบโต (มันสำปะหลังและกล้วย) ขยายชีวภัณฑ์ทางการเกษตรอย่างง่าย เทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์เวชสำอาง และเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ ฯลฯ
 
ด้วยความร่วมมือจากเกษตรกรและเครือข่ายหน่วยงานสนับสนุนในท้องถิ่น ทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการถึง 494 คน สามารถลดค่าใช้จ่ายในการใช้สารเคมีในพื้นที่นำร่องได้ประมาณปีละ 11.5 ล้านบาท หรือราว 25% ของมูลค่าสารกำจัดศัตรูพืชทั้งหมด มีกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตอาหารสุขภาพ (Functional Food) และต้นแบบบรรจุภัณฑ์ จำนวน 163 ราย เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน สามารถผลิตสารชีวภัณฑ์ไว้ใช้เองได้จำนวน 5 ชนิด
 

นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าจำนวน 10 ผลิตภัณฑ์ สามารถสร้างต้นแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Non Food) และผสานแนวคิดเศรษฐกิจสีเขียว (Green Technology) และแนวคิดการออกแบบแบบองค์รวม (Holistic Design) ได้ 2 ต้นแบบ คือ ถาดเพาะชำกล้าอ้อยจากชานอ้อย และแผ่นกันการกระแทกจากกาบกล้วย รวมถึงได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเข้าร่วมลงทุนในด้านวิจัยและพัฒนาภายใต้ BCG โมเดลอีกจำนวน 6 ราย
 

"BCG Model เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญของ วว. ที่ผลิตภัณฑ์ชีวภัณฑ์ทางการเกษตรของสถาบัน สามารถช่วยยกระดับขีดความสามารถของเกษตรกรไทยในการพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลผลิตได้หลากหลายรูปแบบยิ่งขึ้น ช่วยให้ผลผลิตในแปลงของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้รับผลผลิตที่ดีขึ้น ทั้งในแง่ปริมาณ คุณภาพ ความปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค สร้างรายได้ให้แก่เกษตรเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเกษตรกรคุณภาพรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจ ภายใต้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของชาติด้วย BCG โมเดลอย่างยั่งยืน" ชุติมา กล่าวทิ้งท้าย

18142
ข้าวฮอร์   ข้าวกล้องหอมมะลิสุขภาพ ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ส่งทั่วไทย
  กลุ่มข้าวหอมมะลิอินทรีย์   ข้าวกล้องหอมมะลิorganic  ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ข้าวหอมสุรินทร์ ข้าวหอมอินทรีย์ คัดพิเศษ 100%
“ข้าวฮอร์ ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์”   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค เป็นผลิตผลจากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ด้วยการปลูกข้าวแบบปลอดสารพิษในทุกขั้นตอน ณ ดินแดนสุรินทร์ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดของประเทศไทย ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งดินและน้ำ เหมาะแก่การปลูกข้าวอินทรีย์คุณภาพสูง ประกอบกับกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การเตรียมพันธุ์ข้าว การหว่าน การดูแลแปลงนา และการเก็บเกี่ยว โดยครอบครัวชาวนาที่มีประสบการณ์และร่ำรวยความสุขจากการทำนาอินทรีย์แบบปลอดสารพิษ เพื่อให้เมล็ดข้าว ข้าวหอมมะลิออแกนิคคือ ที่ได้นั้น มีความหอม นุ่ม อร่อย ดีต่อสุขภาพและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบครัน การมีสุขภาพดี คือ ความสุขที่อยู่ใกล้ตัวเรา นอกจากตนเองแล้ว เราควรแบ่งปันความสุขให้กับคนที่เรารักด้วยข้าวหอมมะลิ   กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ ขัดสีไม่ขาวเพื่อคงคุณค่าและใยอาหาร มีกลิ่นหอม นุ่ม ตามเอกลักษณ์ของ ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%




 ข้าวหอมมะลิออแกนิค ได้รับมาตราฐานเกษตรอินทรีย์ -มีวิตามินและสารอาหารจากข้าวสูง -สะอาด..บริสุทธิ์..จากธรรมชาติ ทุกขั้นตอน"ข้าวอินทรีย์ (  ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิก)" ที่ผ่านกระบวนการเพาะปลูก และบำรุงรักษาทุกขั้นตอน ด้วยวิถีของเกษตรอินทรีย์ -ไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนการผลิต"เมล็ดพันธุ์" คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ แต่ละชนิด ด้วยความรัก ใส่ใจ ในรายละเอียดทุกเมล็ด -ด้วยกระบวนการปักดำ..อย่างพิถีพิถันจากธรรมชาติ"พื้นที่เพาะปลูก" ในจังหวัดสุรินทร์ - ทำการเพาะปลูก และควบคุมเองทุกขั้นตอน"แหล่งน้ำ"  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์อาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติที่ตกตามฤดูกาล"ปุ๋ยที่ใช้" ไถกลบตอซังหลังเก็บเกี่ยวทุกครั้ง และปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน, -  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ,ปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน"การกำจัดศัตรูพืช" ควบคุมด้วยระบบนิเวศน์หรือใส่สารสกัดจากพืชสมุนไพรแทนการฉีดสารฆ่าแมลง

  ข้าวหอมมะลิสุขภาพ เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิคที่แท้จริงของเรา
ข้าวฮอร์ (HOR) ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   กลุ่มข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์
Facebook : www.facebook.com/horganick/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @ Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.ข้าวหอมสุรินทร์
2.ข้าวกล้องหอมสุรินทร์
3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์)
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5.  ข้าวหอมมะลิแดงสุขภาพ
6. ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคคือ
7.  ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิค

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวหอมมะลิ #ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ #ข้าวหอมมะลิปลอดสาร #ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิก #ข้าวหอมสุรินทร์ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิค
 
 

18144


มหกรรมกีฬาพาราลิมปิก เกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เหล่านักกีฬาผู้พิการจากทั่วโลก ไม่เพียงแต่มารวมตัวกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง แต่ยังส่งต่อพลังและแรงใจแก่คนดูที่ติดตามการแข่งขันอยู่ทั้งโลก ดังเช่นนักกีฬาเทเบิลเทนนิสผู้พิการจากอียิปต์ ที่กำลังเป็นที่ฮือฮาในยามนี้

การแข่งขันเทเบิลเทนนิส พาราลิมปิก เกมส์ อิบราฮิม ฮามัตดู นักกีฬาตัวเก๋าจากอียิปต์ พิการแขนทั้งสองข้าง บรรจงใช้ขาคีบลูกปิงปองขึ้นมาเสิร์ฟ ก่อนใช้ปากที่คาบไม้ปิงปองอยู่ ตีลูกดวลกับคู่แข่งจากเกาหลีใต้ แม้จะแพ้ไป 0-3 เกม แต่ภาพการเคลื่อนไหวของเจ้าตัวที่ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ก็ทำให้คนดูรู้สึกประทับใจยิ่ง

ฮามัตดู วัย 43 ปี สูญเสียแขนทั้งสองข้างจากอุบัติเหตุทางรถไฟตั้งแต่ตอนอายุ 10 ขวบ แต่เขาก็ไม่ยอมให้ความพิการบั่นทอนจิตใจ เขาพบเจอกับกีฬาเทเบิลเทนนิส ก่อนพยายามฝึกฝนด้วยอวัยวะที่เหลืออยู่ จนในที่สุดก็ยกระดับตัวเองกลายเป็นนักกีฬาเทเบิลเทนนิส รับใช้ชาติอียิปต์ คว้าเหรียญเงิน แอฟริกัน แชมเปียนชิพ 2 สมัย และรายการในประเทศเมื่อปี 2013

"ผมเล่นเทเบิลเทนนิสแทนที่จะเล่นฟุต.เพราะมันท้าทาย ตอนแรกผมพยายามใช้วงแขนหนีบไม้แล้วตี แต่ไม่ได้ผล จนในที่สุดก็พบว่าใช้ปากดีกว่า" ฮามัตตู เปิดเผย โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวกลายเป็นไวรัลจากคลิปวีดีโอการเล่นที่เผยแพร่เมื่อปี 2014 ก่อนพัฒนาฝีมือภายใต้ข้อจำกัดที่มี จนได้ไปแข่ง พาราลิมปิก เกมส์ ครั้งแรกในชีวิตที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ปี 2016

แม้จะไม่ได้รางวัลใดๆ กลับมาจากแดนแซมบ้า แต่ก็เป็นคนที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของรายการ ก่อนกลับมาอีกครั้งที่ พาราลิมปิก โตเกียว 2020 ถึงจะแพ้ไปก่อนแมตช์แรก กระนั้นเจ้าตัวก็ยังพร้อมจะสู้ต่อจนกว่าจะจบโปรแกรมของตัวเอง "ที่ผ่านมาผมพยายามทำงานอย่างหนัก ทำเท่าที่จะทำได้ และคิดว่าผมจะได้ผลการแข่งขันที่ดีขึ้นจากนี้"

หน้า: 1 ... 1006 1007 [1008] 1009 1010 ... 1026