แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Ailie662

หน้า: 1 ... 1008 1009 [1010] 1011 1012 ... 1028
18164


มื่อวันจันทร์ที่ 16 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีมติปรับมาตรการจำหน่ายสินค้าจำเป็น/กิจการจำเป็น ในห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด โดยอนุญาตให้ธนาคารสถาบันการเงินที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ สามารถเปิดให้บริการได้ มีผลวันที่ 18 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป โดยพิจารณาข้อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค 26 ข้อ ของสมาคมศูนย์การค้าไทย

สมาคมธนาคารไทยได้ประสานกับธนาคารสมาชิกเพื่อเตรียมพร้อมในการให้บริการของสาขา โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของลูกค้าที่มาใช้บริการและพนักงานที่ปฏิบัติงาน ภายใต้การบริหารจัดการภายในสาขาและมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จำกัดจำนวนลูกค้าและช่องให้บริการเพื่อลดความแออัด อย่างไรก็ตาม ธนาคารสมาชิกแต่ละธนาคารจะพิจารณาการเปิดสาขาตามความเหมาะสม  และความเสี่ยงของแต่ละธนาคารรวมถึงประกาศของเจ้าของพื้นที่และการประกาศของจังหวัด โดยมีแนวทางในการเปิดให้บริการ ดังนี้ 

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท
1. สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด จะพิจารณากลับมาเปิดให้บริการ โดยให้บริการไม่เกิน 17.00 น.

2. สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนอกเขตพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมอื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการ แต่ไม่เกิน 17.00 น.


3. สาขาทั่วไปที่เป็นสาขา Stand Alone สามารถเปิดให้บริการตามปกติ 5 วัน หรือ 7 วันทำการ  ขึ้นกับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร แต่จะเปิดให้บริการไม่เกิน 15.30 น.

4. สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เปิดให้บริการไม่เกิน 15.00 น

ทั้งนี้ การเปิดสาขาและจำนวนวันทำการของแต่ละสาขาจะเป็นไปตามการพิจารณาของแต่ละธนาคารสมาชิก โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อสาขาที่เปิดให้บริการได้ทาง website หรือช่องทาง Call Center อย่างไรก็ตาม สมาคมธนาคารไทยขอแนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Mobile Banking  หรือตู้ ATM และติดต่อธนาคารที่ใช้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ทาง Call Center  Line@ Facebook Website เพื่อความสะดวกและลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาด ทั้งนี้ ภาคธนาคารขอแจ้งงดให้บริการแลกเหรียญ และธนบัตรย่อยเพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัส

18165
ลูกอมพระแม่ธรณี

จัดสร้างจากดินใต้ฐานพระแม่ธรณี ผงมหาจักรพรรดิ และมวลสารอื่น ๆ ช่วยในเรื่องการขายบ้าน ขายที่ดิน

18166
ส่งรูปภายนอก ภายใน พร้อมรายละเอียดของรถที่จะขายมาที่
ID Line : nopcartoday

18168


ตามที่ได้มีประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา ให้ประชาชนสามารถใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ด้วยตัวเอง เพื่อให้สามารถวินิจฉัย รักษา และป้องกันที่เหมาะสมโดยเร็ว ทำให้เกิดความต้องการอุปกรณ์ดังกล่าวมาใช้ทดสอบด้วยตัวเองอย่างแพร่หลายนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดเสวนาออนไลน์แนะวิธีใช้ชุดตรวจ COVID-19 เบื้องต้นด้วยตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสต่อโรค ย้ำให้กำจัดชุดตรวจที่ใช้แล้วด้วยจิตสำนึกที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

อ.ดร.ทนพ.เมธี ศรีประพันธ์ อาจารย์นักเทคนิคการแพทย์ ประจำภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวถึงวิธีการตรวจยืนยันการติดโรค COVID-19 ในปัจจุบันว่า ยังคงเป็นวิธี RT-PCR ซึ่งข้อดีของการใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ตรวจคัดกรอง COVID-19 ที่ประชาชนทั่วไปสามารถหาซื้อมาตรวจได้ด้วยตัวเองนั้น คือ จะช่วยในการแยก หรือคัดกรองผู้ที่มีผลบวกเบื้องต้น หรือกลุ่มเสี่ยงให้เข้ารับการรักษา หรือดูแลในระบบสาธารณสุขให้เร็วขึ้น ทั้งนี้ หากผู้ตรวจมีความจำเป็นต้องใช้หลักฐานการตรวจที่รับรองโดยแพทย์ จะต้องไปตรวจในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลเท่านั้น ซึ่งสำหรับผู้ที่ยังไม่มีความเสี่ยงก็ไม่จำเป็นที่จะต้องตรวจ และหากจำเป็นต้องตรวจเมื่อเป็นกลุ่มเสี่ยง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และซื้อจากสถานพยาบาล คลินิกเวชกรรม คลินิกเทคนิคการแพทย์ และร้านยาที่มีเภสัชกรคอยให้คำปรึกษาเท่านั้น ไม่ควรหาซื้อเองผ่านทางออนไลน์ ตลาดนัด หรือผู้ที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์

ซึ่งตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) แห่งสหประชาชาติ ข้อที่ 6 ที่ว่าด้วยน้ำและระบบสุขาภิบาลสะอาด (Clean Water and Sanitation) ควรใช้ชุดตรวจ COVID-19 ด้วยจิตสำนึกที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสก่อโรค COVID-19 โดยผู้ตรวจจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่การเลือกชุดตรวจที่ผ่านการรับรองคุณภาพ การเก็บและเตรียมตัวอย่างตรวจ การใช้งานชุดตรวจ การอ่านและแปลผล รวมถึงการกำจัดชุดตรวจที่ใช้งานแล้ว ซึ่งการเก็บตัวอย่างตรวจ ไม่ว่าจะเป็นการแหย่จมูก (swab) โดยใช้ก้านสำลีที่ให้มากับชุดตรวจ สอดเข้าไปในรูจมูกเพื่อเก็บตัวอย่าง หรือการเก็บตัวอย่างตรวจโดยใช้น้ำลาย รวมถึงการดำเนินการตรวจนั้น ควรทำด้วยตัวเอง ในพื้นที่ที่แยกจากบริเวณอื่น และควรทำตามขั้นตอน หรือคำแนะนำในเอกสารประกอบชุดตรวจ หรือ VDO Clip ของชุดตรวจแต่ละยี่ห้อ ซึ่งสามารถสแกนได้จาก QR Code ที่แนบมากับผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด ซึ่งการเพิ่มหรือลดขั้นตอนเอง อาจทำให้ผลการตรวจผิดพลาดได้ ภายหลังการตรวจและอ่านผลแล้วให้ทิ้งชุดตรวจ รวมถึงอุปกรณ์ทั้งหมดในถุงพลาสติกที่มีน้ำยาฆ่าเชื้อ โดยควรซ้อนถุง 2 ชั้น และรัดปากถุงให้แน่นก่อนทิ้ง รวมถึงเขียนข้อความติดไว้ด้วยว่า "ชุดตรวจ COVID-19 ใส่น้ำยาแล้ว" จากนั้น จึงนำไปทิ้งในถังขยะติดเชื้อ (ถังสีแดง) เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้อื่น แต่ถ้าไม่มี สามารถอนุโลมให้ใส่ถังขยะทั่วไปได้

ส่วนวิธีการแปลผลตรวจนั้นก็สามารถศึกษาจาก VDO Clip ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งผลการตรวจที่เป็นบวกจะมีแถบสีขึ้นทั้งที่ C และ T ในขณะที่ผลการตรวจที่เป็นลบจะมีแถบสีขึ้นที่ C ด้านเดียว นอกจากนี้ ในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงหากตรวจแล้วได้ผลลบ ให้เว้นช่วงและรักษาระยะห่าง รวมถึงกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน นับจากวันที่มีความเสี่ยง หรือสัมผัสผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้ จะต้องตรวจซ้ำเป็นระยะๆ เช่น ทุก 3 - 5 วัน จนครบเวลากักตัว อย่างไรก็ตามหากผลตรวจขึ้นแถบสีที่ T ด้านเดียว หรือไม่มีแถบสีใดขึ้นเลย จะไม่สามารถอ่านและแปลผลได้ ต้องตรวจซ้ำ หรือเปลี่ยนชุดตรวจใหม่

ชุดตรวจ ATK สำหรับตรวจคัดกรองด้วยตัวเองมีจำหน่ายที่ สถานปฏิบัติการเภสัชชุมชน คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ เปิดทำการทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 15.00 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.0-2644-4609

18174


The 1 ผู้นำดิจิทัลไลฟ์สไตล์และลอยัลตี้แพลตฟอร์มอันดับ 1 ของไทย ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล ตอกย้ำวิสัยทัศน์ Your Everyday Lifestyle App ดัน The 1 Today มุ่งสู่ Shopping & Deals Destination ผนึกกลยุทธ์ View-to-Purchase นำเสนอครบจบบนแอป The 1 ในเพียง 3 ขั้นตอน อ่าน-เช็ค-ช้อป พร้อมเสริมทัพ 17 คอนเทนต์พาร์ทเนอร์ด้านไลฟ์สไตล์ ช้อปแบบ Omnichannel

นางสาวมิ่งขวัญ พฤฒิสถาพร Head of Program Management, The 1 App Discovery - The 1 กล่าวว่า The 1 Today หนึ่งในฟีเจอร์หลักของแอป The 1 นั้นเป็นเหมือนเพื่อนคู่คิดที่คอยมอบคำแนะนำเรื่องการช้อปปิ้งให้กับผู้อ่านได้อย่างตรงใจ ล่าสุด เราได้เพิ่มความสะดวกสบายด้วย View-to-Purchase อ่าน-เช็ค-ช้อป โดยได้นำข้อมูลสินค้า แคมเปญโปรโมชั่นดีๆ ไปจนถึงช่องทางสั่งซื้อมารวมไว้ในแอป The 1 ที่เดียว

นอกจากสมาชิก The 1 ทั้ง 18 ล้านคนแล้ว เรายังมีเว็บไซต์ และระบบ Guest Mode ในแอป เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึง The 1 Today ได้ในวงกว้าง The 1 เชื่อว่าการนำเสนอประการณ์ครบวงจรเช่นนี้จะช่วยให้ทุกคนสามารถช้อปออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อยิ่งขึ้น

หลังจากที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2563 The 1 Today ได้กลายเป็นฟีเจอร์สำคัญที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ของแอป The 1 โดยมีผู้อ่านเพิ่มขึ้นกว่า 30% และอัตราการเข้าชมบทความเพิ่มขึ้นถึง 160% ในเดือนมิถุนายนเมื่อเทียบกับต้นปี ด้วยจำนวนผู้เข้าชมที่เพิ่มขึ้นและจำนวนบทความกว่า 1,000 บทความต่อเดือน ทีมงาน The 1 จึงพัฒนาแอปให้สามารถรองรับความต้องการที่มากขึ้นอยู่เสมอ โดยปัจจุบันนอกจากจะจัดกลุ่มบทความเป็นหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็น ช้อปปิ้ง ข่าวสาร ไลฟ์สไตล์ จัดอันดับ Top 10 ดูดวง เป็นต้น สมาชิก The 1 ยังสามารถค้นหาบทความด้วยแฮชแท็กที่สนใจได้อีกด้วย

นายศุภณัฏฐ์ โรจน์สุข Head of Content Partnerships & Content Operation - The 1 กล่าว “นอกจากการมอบแรงบันดาลใจและความเพลิดเพลินให้กับผู้อ่านแล้ว คอนเทนต์ใน The 1 Today ยังมุ่งเน้นสาระประโยชน์ โดยเฉพาะสำหรับคอนเทนต์ช้อปปิ้งที่โดดเด่นกว่าบนแพล็ตฟอร์มอื่นๆ เพราะ The 1 สามารถนำข้อมูลจาก The 1 Insight มานำเสนอสินค้าที่ได้รับความนิยมในช่วงนั้นๆ ได้แบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ เพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงใจให้กับผู้อ่านนั่นเอง โดย The 1 Today นับว่าประสบความสำเร็จแล้วในก้าวแรกด้วยการเพิ่มยอดขายให้กับเครือเซ็นทรัลได้มากขึ้นถึง 10 เท่าในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา”

นอกจากคอนเทนต์สำหรับสายช้อปที่มีทั้งคอนเทนต์รีวิวสินค้าและแคมเปญต่างๆ คอนเทนต์นำเสนอสินค้า Top 10 และคอนเทนต์ Must-Have ที่ต่างก็ได้รับความนิยมจากสมาชิก โดยมีตัวเลขผู้เข้าชมรวมสูงสุดจากทุกหมวด The 1 Today ยังนำเสนอบทความจาก 17 พันธมิตรสื่อไลฟ์สไตล์อย่างหลากหลาย ได้แก่ สายอัปเดตข่าว อาทิ เรื่องเล่าเช้านี้, Sanook! และ Infoquest สายคัลเจอร์ อาทิ The Standard Pop, Time Out Bangkok, Hello!, Soimilk, Soul4Street, Coundsheck’s Journey และ ILI.U สายกิน อาทิ Gourmet & Cuisine, Krua.co และตามล่า Fine Dining และ สายดูดวง อาทิ aดวง, Horosociety พ. พาทินี และหมอจันทรา

18175


(16 ส.ค.64) หลังสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 16 ส.ค.64 โดยรางวัลที่ 1 ได้แก่ หมายเลข 046750 ปรากฏว่าหนุ่มวัย 35 ปี ที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว เป็นคนดวงเฮงถูกรางวัลที่ 1 ถึง 12 ล้านบาท 

ต่อมาเวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ฟาร์มหมูแห่งหนึ่งใน ต.หนองหาน พบกับคนดวงเฮงรายนี้ ชื่อนายภูริพัชร หรือ “ท็อป” เจ้าของฟาร์มหมูแห่งหนึ่ง อายุ 35 ปี กำลังเดินทางมาพบกับลูกน้องที่ฟาร์มหมู ท่ามกลางความดีใจและร่วมแสดงความยินดีของลูกน้องที่รู้ข่าว พร้อมกับให้ลูกน้องได้จับลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 รวม เว็บ หวย ออนไลน์โดยทุกคนไม่นึกไม่ฝันว่าเจ้านายจะถูกรางวัล แต่เชื่อว่าเป็นเพราะผลจากการกระทำกรรมดีของเจ้านายมาตลอดนั่นเอง

นายภูริพัชร เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ถึงตอนนี้ยังตื่นเต้นไม่หาย ก่อนจะถูกหวยวันนี้ก่อนหน้านี้ตนเองขับรถตนเองหมายเลขทะเบียน 7250 ไปชนสุนัข จริงๆ แล้วก็ชนหลายครั้ง แต่ไม่มี 250 คนขายจึงหยิบ 3 ตัวท้ายคือ 750 ให้ก็เลยซื้อไว้ วันนั้นมีเงินอยู่ติดกระเป๋า 400 บาท เลยซื้อ พ.ศ.เกิดตัวเองคือ 29 อายุตัวเอง 35 และทะเบียนรถ 50 อีก 2 ใบ จริงๆ แล้วเลข 50 ตั้งใจซื้อมา 2 ปี ถูก 2 ใบ 3 ใบบ้าง

พอมาวันนี้ชวนพี่สาวไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ได้ยินโต๊ะๆ บอกว่าว่ารางวัลที่ 1 มี 750 จำได้ว่า 3 ตัวท้ายตนเองซื้อเลขนี้ไว้เช่นกัน จึงเดินไปดูในรถและให้พี่เขาที่โต๊ะข้างๆ ตรวจให้หน่อย ปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 1 แทบช็อกเลย ไม่คิดไม่ฝันว่าจะถูกรางวัลใหญ่เพียงนี้

นายภูริพัชร บอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ส่วนตัวชีวิตสู้มาตลอดเก็บขยะขายก็เคยมีเพื่อส่งตัวเองเรียนจนจบสถาปัตย์ที่กรุงเทพฯ จากนั้นก็ทำงานบริษัทโรงงานน้ำตาลเอกชน แล้วลาออกมาทำธุรกิจตนเองที่บ้านเกิด เพื่อมาอยู่ดูแลพ่อที่ป่วย ที่ผ่านมาในใจตนเองคิดยังไงจะหมดหนี้และตนเองทำฟาร์มหมูด้วย ท้อบ้างเป็นบางครั้ง เชื่อว่าสักวันหนึ่งขอให้ตนเองมีโชคกับเขาบ้างจนมาวันนี้ และช่วงที่ผ่านมาตนเองก็ช่วยคนตลอด มีน้อยก็ให้น้อย อะไรที่มีให้ได้ก็ช่วย ต่อหน้าคนหรือลับหลังตนเองช่วยไม่หวังสิ่งตอบแทนและไม่คิดร้ายกับใคร เชื่อว่าผลบุญทำให้ตนเองถูกหวย ส่วนเงินที่ได้มาก็จะใช้หนี้ที่เอามาสร้างฟาร์มหมูและต่อยอดธุรกิจฟาร์มหมูที่ตนเองทำอยู่ตอนนี้

18176
ส่งภาพภายนอก ภายใน พร้อมรายละเอียดของรถที่จะขายมาที่
ไลน์ ไอดี : nopcartoday

18177


การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 ส.ค.2564 มีการพิจารณาจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมเพื่อฉีดให้กับประชาชนหลังจากที่กรมควบคุมโรคได้ลงนามกับไฟเซอร์และไบออนเทค เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2564 เพื่อซื้อวัคซีนไฟเซอร์ให้ประชากรกลุ่มเป้าหมาย 20 ล้านโดส ในขณะที่ ครม.ล่าสุดให้กระทรวงสาธารณสุขซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มอีก 10 ล้านโดส รวมเป็น 30 ล้านโดส

แหล่งจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่ามีแผนที่จะฉีดวัคซีนให้ประชากรที่อยู่ในประเทศไทย 70% ภายในปี 2564 ซึ่งมีการเสนอแผนการจัดหาวัคซีน 168 ล้านโดส โดยมีระยะเวลาการส่งมอบตั้งแต่เดือน ก.พ.2564-มี.ค.2565 แบ่งการจัดหาเป็น 5 กลุ่ม คือ

1.วัคซีนซิโนแวค 19.5 ล้านโดส มีระเวลาการส่งมอบตั้งแต่ ก.พ.-ส.ค.2564 ใช้งบกลางจัดหา 7.6 ล้านโดส ใช้งบจาก พ.ร.ก.กู้เงินจัดหา 10.9 ล้านโดส และรับบริจาคจากจีน 1 ล้านโดส

2.วัคซีนแอสตร้า เซเนก้า 62.46 ล้านโดส มีระยะเวลาการส่งมอบตั้งแต่ ก.พ.-ธ.ค.2564 เป็นการใช้งบกลางจัดหา 26 ล้านโดส ใช้งบจาก พ.ร.ก.กู้เงินจัดหา 35 ล้านโดส รับบริจาคจากญี่ปุ่น 1.05 ล้านโดส รับบริจาคจากสหราชอาณาจักร 415,000 โดส

3.วัคซีนไฟเซอร์ 31.5 ล้านโดส มีระยะเวลาการส่งมอบตั้งแต่ ส.ค.-ธ.ค.2564 เป็นการใช้งบจาก พ.ร.ก.กู้เงินจัดหา 30 ล้านโดส และรับบริจาคจากสหรัฐ 1.5 ล้านโดส


4.วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน 5 ล้านโดส ระยะเวลาการส่งมอบ ธ.ค.2564 โดยทั้งหมดเป็นการใช้งบจาก พ.ร.ก.กู้เงินจัดหา

5.วัคซีนซิโนแวค วัคซีนแอสตร้า เซเนก้า และวัคซีนอื่นๆ 50 ล้านโดส ระยะเวลาการส่งมอบ ม.ค.-มี.ค.2565 โดยทั้งหมดเป็นการใช้งบจาก พ.ร.ก.กู้เงินจัดหา



อนุมัติซื้อไฟเซอร์30ล้านโดส

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.วันที่ 17 ส.ค.2564 มีมติเห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในไทยโดยให้มีการอนุมัติงบประมาณจากเงินกู้ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน วงเงิน 9.37 พันล้านบาทเพื่อซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส 

โดยกรอบวงเงินดังกล่าวแบ่งเป็นค่าวัคซีน 8.44 พันล้านบาท และการบริหารจัดการ 933.6 ล้านบาท มีช่วงระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ ส.ค.-ธ.ค. โดยกลุ่มเป้าหมายสามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรค โดยโครงการนี้อยู่ภายใต้โครงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติม ของกรมควบคุมโรค ตามนโยบายรัฐบาลที่จะจัดหาวัคซีนให้แก่ประชาชน 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2564 สำหรับสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค

“ขณะนี้มีผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่หลากหลาย รัฐบาลจึงเห็นควรให้มีจัดหาวัคซีนที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันให้สามารถครอบคลุมการกลายพันธุ์ของไวรัส โควิด-19 ที่มีอยู่ทั่วโลกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่คนไทยได้อย่างแท้จริง ลดอัตราการป่วย การเสียชีวิต และลดค่าใช้จ่ายภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยช่วยให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็ว”นายอนุชา กล่าว 

นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบให้มีการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติมอีก 10 ล้านโดส  พร้อมมอบให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามกับผู้แทนบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัดและไบออนเทค ทำให้การจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ซึ่งเป็นวัคซีนชนิด mRNA เพิ่มอีก 10 ล้านโดสจำนวนเป็น 30 ล้านโดส ซึ่งจะเริ่มทยอยจัดส่งในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 นี้ 

เร่งไฟเซอร์ส่งมอบเร็วขึ้น

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้รายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ให้ ครม.รับทราบว่า การพิจารณาเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2564 ได้ให้กรมควบคุมโรคเร่งปรับแผนการจัดหาวัคซีนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันทั้งประเภทและปริมาณของวัคซีน และระยะเวลาที่คาดว่าจะได้รับมอบวัคซีนในช่วงที่เหลือของปี 2564 และในช่วงปี 2565 เพื่อให้การบริหารจัดการวัคซีนได้ประสิทธิภาพสูงสุด และไม่มีปัญหาการเข้าถึงวัคซีนเหมือนที่ผ่านมา รวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประชาชนได้อย่างน้อย 70% ภายในปี 2564 ตามเป้าหมาย

นอกจากนี้ กรมควบคุมโรครายงานว่าจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ได้ในเดือน ต.ค.2564 ตามสัญญาที่ลงนามไว้กับบริษัทไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แต่กรมควบคุมโรคได้ประสานเพื่อเร่งรัดการส่งมอบวัคซีนให้เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ รวมทั้งคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ต้องการให้กรมควบคุมโรคจัดหาวัคซีนที่มีเทคโนโลยีหลากหลาย เพื่อให้ครอบคลุมการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่มีอยู่ทั่วโลกทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง

รวมทั้งต้องการให้กรมควบคุมโรควางแผนความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายตามแผนที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเงินของภาครัฐ

18180
ประกันออมทรัพย์แบบมีเงินปันผลAllianz Ayudhya ประกันสุขภาพ (ปลดล็อค อัลตร้า) ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย

ประกันออมทรัพย์แบบมีเงินปันผลAllianz Ayudhya แนะนำ ประกันสุขภาพปลดล็อคอัลตร้าAllianz  และ ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่ายรักษาตัวในรพ. สูงถึง 1.2 ล้านบาทต่อปี

ประกันออมทรัพย์แบบมีเงินปันผลAllianz Ayudhya แนะนำ แผนประกันสุขภาพ(ปลดล็อคอัลตร้า)
ประกันออมทรัพย์แบบมีเงินปันผลAllianz Ayudhya, ประกันสุขภาพปลดล็อคอัลตร้าAllianz
ประกันสุขภาพ (ปลดล็อค อัลตร้า) ขยายวงเงินความคุ้มครอง ให้เลือกสูงถึง 15 ล้านบาทต่อปี
ขยายอายุความคุ้มครองถึงอายุ90 ปี
ขยายการดูแลด้านการรักษาสุขภาพ ด้วยวงเงินค่าฉีดวัคซีนและค่าตรวจสุขภาพประจำปี
ปลดล็อคค่ารักษาพยาบาลในห้อง ICU จ่ายให้ตามจริง
ปลดล็อคค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัด จ่ายให้ตามจริง

ประกันสุขภาพปลดล็อคอัลตร้าAllianz, ประกันออมทรัพย์แบบมีเงินปันผลAllianz Ayudhya
ประกันออมทรัพย์แบบมีเงินปันผลAllianz Ayudhya ประกันออมทรัพย์ (แบบมีเงินปันผล) เพิ่มโอกาสรับเงินปันผลที่สูงขึ้น

มอบความคุ้มครองชีวิตสูงถึง 115% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ครบกำหนดสัญญารับเงินคืน 140% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ลดหย่อนภาษีเงินได้สูงสุด 100,000 บาท

ประกันสุขภาพปลดล็อคอัลตร้าAllianz
ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1 เดือน 1 วัน ถึง 10 ปี
ดูแลค่ารักษาเมื่อต้องพักรักษาตัวในรพ. สูงถึง 1.2 ล้านบาทต่อปี
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินจากอุบัติเหตุภายใน 24 ชม.
สามารถใช้บริการดูแลคุณยามพักฟื้น (Nursing Care) โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

Contact Mobile : 081-692-5514

Line ID : @life2insurance

Email : [email protected]

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kaaiduan.com/?p=9466


คำค้น

ประกันออมทรัพย์แบบมีเงินปันผลAllianz Ayudhya, ประกันสุขภาพ (ปลดล็อค อัลตร้า), ประกันออมทรัพย์ (แบบมีเงินปันผล), ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย

หน้า: 1 ... 1008 1009 [1010] 1011 1012 ... 1028