แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Jessicas

หน้า: 1 ... 1052 1053 [1054] 1055 1056 ... 1065
18955


นิตยสาร Forbes เลือก“โลกา” สตาร์ทอัพผู้ให้บริการแท็กซี่ผ่านแอพของลาว เข้าในทำเนียบ 100 บริษัทในเเอเชียที่ต้องจับตา เหตุสามารถสร้างรายได้เพิ่มแม้เจอวิกฤตโควิด-19

วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์นิตยสาร Forbes ได้เผยแพร่ทำเนียบ 100 บริษัทในเอเซียที่ต้องจับตา โดย 1 ในนั้นมีบริษัทโลก้า ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพของลาว ติดอยู่ในรายชื่อดังกล่าวด้วย ถือเป็นธุรกิจขนาดย่อมแห่งแรก ของลาวที่ได้ขึ้นมาติดทำเนียบระดับโลก

ทำเนียบ 100 บริษัทที่ต้องจับตาจัดทำโดยทีมงาน Forbes เอเซีย โดยคัดเลือกจากกิจการขนาดย่อมและบริษัทสตาร์ทอัพกว่า 900 บริษัทในเอเซีย ที่มีผลประกอบการเติบโตขึ้นท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดย Forbes จะตีพิมพ์รายละเอียดของบริษัททั้งหมดในทำเนียบนี้ลงในนิตยสาร Forbes ฉบับเดือนสิงหาคม 2564

เหตุผลที่ Forbes เลือกโลกาเข้ามาในทำเนียบ 100 บริษัทในเอเชียที่ต้องจับตา

บริษัทโลกาทำธุรกิจให้บริการแท็กซี่รับส่งผู้โดยสารโดยผ่านแอปพลิเคชั่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2561 โดยนายสุลิโย วงดาลา นักธุรกิจหนุ่มที่เติบโตมาจากสายเทคโนโลยี่และการสื่อสารในลาว ปัจจุบันโลกามีให้บริการอยู่ใน 3 แขวง คือนครหลวงเวียงจันทน์ หลวงพระบาง และจำปาสัก

เหตุผลที่ให้ Forbes เลือกโลกาเข้ามาอยู่ในทำเนียบนี้ เนื่องจากบริษัทสามารถปรับแผนการตลาดเพื่อรับมือกับวิกฤตโควิด-19 โดยตัดสินใจเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จากเดิมที่ให้บริการแก่นักนักท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นหลักในช่วง 2 ปีแรก มาให้บริการแก่คนลาว โดยใช้จุดขายเรื่องความสะดวกและปลอดภัย และให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

การตัดสินใจครั้งนั้น ทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศในลาวจะหายไปทั้ง 100% จากโควิด-19 นอกจากนี้ รายได้ของโลก้ายังเพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงที่โควิด-19 ยังไม่ระบาด จากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่

ปัจจุบัน นอกจากให้บริการแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นโดยมีรถให้บริการอยู่ประมาณ 500 คัน ใน 3 พื้นที่แล้ว โลกายังขยายกิจการออกไปอีกหลายแขนง ได้แก่ ธุรกิจโฆษณาเคลื่อนที่ โดยใช้รถแท็กซี่เป็นสื่อ ธุรกิจซื้อ-ขายสินค้าทางออนไลน์ ธุรกิจขนส่งสินค้า รวมถึงให้บริการรถรับส่งพนักงานแบบเหมาเป็นรายเดือนสำหรับองค์กร

ก่อนหน้านี้ ระหว่างวันที่ 8-9 ตุลาคม 2562 นายสุลิโย วงดาลา เคยนำโมเดลธุรกิจของโลกา มาร่วมแข่งขันในรายการ Mekong Innovative Startups in Tourism ในกรุงเทพ ซึ่งมีธุรกิจสตาร์ทอัพจากหลายประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเข้าร่วม โดยบริษัทโลกาได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1

18958


นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า  GULF ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) จำนวน 1,401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 412 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน

สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลกำไรของโครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ศรีราชา (GSRC) หน่วยที่ 1 ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 662.5 เมกะวัตต์ ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 โดยมี Load Factor เฉลี่ยเท่ากับ 88% ในไตรมาสนี้ ประกอบกับโครงการโรงไฟฟ้า 12 SPP ภายใต้กลุ่ม GMP และโครงการโรงไฟฟ้า 7 SPP ภายใต้กลุ่ม GJP ที่รับรู้ Core Profit เพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมที่สูงขึ้นในทุกภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล็ก โดย 12 SPP มี Load Factor เฉลี่ยของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมในไตรมาสนี้ เท่ากับ 63% เทียบกับ 51% ปีที่แล้ว

ขณะที่ 7 SPP มี Load Factor เฉลี่ยเท่ากับ 66% ในไตรมาสนี้ เทียบกับ 57% ในปีก่อน นอกจากนี้ โรงไฟฟ้า 2 IPP ภายใต้กลุ่ม GJP ยังมีปริมาณการขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเพิ่มขึ้น 148% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2563 ส่งผลให้โรงไฟฟ้าเดินเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้ง ในไตรมาส 2 ปี 2564 ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก PTT NGD จำนวน 63 ล้านบาท จากการที่ GULF เข้าไปลงทุนในสัดส่วน 42% ด้วย


ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2564 Core Profit ในไตรมาสนี้ลดลง 989 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41.4% เนื่องจากไม่มีการบันทึกเงินปันผลรับจาก INTUCH ในไตรมาสนี้ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล Borkum Riffgrund 2 (BKR2) มีปริมาณการขายไฟฟ้าที่ลดลงจากปัจจัยด้านฤดูกาล ซึ่งไตรมาส 2 และไตรมาส 3 นับเป็น low season เมื่อเทียบกับ ไตรมาส 1 และ ไตรมาส 4 ซึ่งถือเป็น high season ของพลังงานลมในทะเลที่ประเทศเยอรมนี

ในไตรมาส 2 ปี 2564 GULF มีรายได้รวม (Total Revenue) 11,845 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,707 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29.6% จากไตรมาส 2 ปี 2563 จากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้า GSRC หน่วยที่ 1 ที่เปิดดำเนินการในไตรมาส 1 ปี 2564 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล BKR2 ที่รับรู้รายได้ครั้งแรกในไตรมาส 4 ปี 2563

อีกทั้ง ยังรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขายไฟฟ้าและไอน้ำให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมของกลุ่ม GMP อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GTN1 และ GTN2 ที่ประเทศเวียดนาม ลดลงเล็กน้อยจากการจำกัดการรับซื้อไฟฟ้าชั่วคราว (Temporary Curtailment) เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศเวียดนาม

อัตรากำไร EBITDA Margin ในไตรมาส 2 ปี 2564 เท่ากับ 35.6% เพิ่มขึ้นจาก 31.9% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติที่ลดลง 8.7% จากปีก่อน แม้ว่าค่า Ft เฉลี่ยจะลดลงก็ตาม


นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

GULF มีกำไรสุทธิ (Net Profit) ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ซึ่งรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน เท่ากับ 1,407 ล้านบาท ลดลง 25.2% เทียบกับผลกำไรสุทธิ 1,881 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2563 เนื่องจากในปีก่อนมีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Gain) จำนวน 892 ล้านบาท เทียบกับ 6 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปีนี้

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 GULF มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Interest-Bearing Debt to Equity) เท่ากับ 1.75 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่าข้อกำหนดสิทธิสำหรับหุ้นกู้ (Bond Covenant) ที่ 3.50 เท่า

นางสาวยุพาพิน กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ GULF ได้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH แล้วเสร็จ ทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้น INTUCH ทั้งสิ้น เท่ากับ 42.25% โดย GULF ได้ทำการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในประเทศทั้งสิ้นจำนวน 48,612 ล้านบาท โดย GULF มีแผนในการออกและเสนอขายหุ้นกู้มูลค่ารวมประมาณ 20,000 ล้านบาทภายในปีนี้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ไปลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ และชำระคืนเงินกู้ที่ใช้ในการซื้อหุ้น INTUCH ในบางส่วน นอกจากนี้ บริษัทฯ จะรับรู้เงินปันผลรับทันที ประมาณ 1,600 ล้านบาทในไตรมาส 3 นี้

สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปี 2564 GULF ยังมีโครงการที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลที่ประเทศเวียดนาม (Mekong Wind) ระยะที่ 1-3 กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 128 เมกะวัตต์ ที่จะทยอยเปิดดำเนินการระหว่างไตรมาส 3-4 ปีนี้, โครงการโรงไฟฟ้า GSRC หน่วยที่ 2 กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 662.5 เมกะวัตต์ ที่กำหนดเปิดดำเนินการในเดือนตุลาคม 2564

โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ประเทศโอมาน (DIPWP) จำนวน 326 เมกะวัตต์ ระยะที่ 1 ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 40 เมกะวัตต์ ที่จะเปิดดำเนินการระหว่างไตรมาส 3-4 และโครงการ solar rooftop ภายใต้ Gulf1 กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 20 เมกะวัตต์ ที่จะทยอยเปิดดำเนินการภายในสิ้นปี ส่งผลให้ GULF มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวมทั้งสิ้น 7,922 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2564

18959
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / Hot Promotion!!!
« เมื่อ: สิงหาคม 15, 2021, 10:54:31 am »
ราคาดีมากกก!!!!!!!!

18960


ถึงนาทีนี้ธุรกิจโรงแรมยังมองไม่เห็นหนทางฟื้นจากอาการโคม่า ล่าสุดแบงก์ชาติเผยผลสำรวจผู้ประกอบการโรงแรมยังอ่วมพิษโควิด-19 ทรุดลงต่อเนื่อง สภาพคล่องหดหายอยู่ได้อีกไม่เกิน 3 เดือน ขณะที่อัตราการเข้าพักดิ่งสุดเหลือแค่ 10% ร้องขอวัคซีน-พักหนี้-พยุงการจ้างงาน 

ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม (HSI) ซึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย จัดทำขึ้นเป็นประจำทุกเดือนยังไม่มีทีท่าจะผ่านพ้นวิกฤต หนำซ้ำกลับหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ แม้รัฐบาลจะพยายามกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศและเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ด้วยโครงการนำร่อง  “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์”  เชื่อมโยงกับจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ก็ตาม

ล่าสุด ผลสำรวจฯ ในเดือนกรกฎาคม 2564 จากผู้ประกอบการที่พักแรม 304 แห่ง (เป็น ASQ 28 แห่ง Hospitel 4 แห่ง) ระหว่างวันที่ 13-26 กรกฎาคม 2564 พบว่า ผู้ประกอบการที่พักแรมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ต่อเนื่อง โดยอัตราการเข้าพักยังอยู่ในระดับต่ำมาก เฉลี่ยอยู่ที่ 10% ซึ่งทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้เกือบ 60% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่มีสภาพคล่องลดลงจากเดือนก่อน และเพียงพอในการดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 เดือน ขณะที่การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติส่งผลบวกต่ออัตราการเข้าพักโดยรวมไม่มากนัก

ทั้งนี้ หากไม่รวมกลุ่มที่ปรับตัวมารับลูกค้าต่างชาติที่ทำงานในไทย และ workation, staycation รวมถึงกลุ่มที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามโครงการ “แซนด์บ็อกซ์” ซึ่งส่วนมากเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ อัตราการเข้าพักเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคม 2564 จะอยู่ที่เพียง 6.5% เท่านั้น ส่วนคาดการณ์อัตราการเข้าพักทั้งประเทศในเดือนสิงหาคม 2564 จะปรับลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 8% โดยทุกภูมิภาคของประเทศไทยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยต่ำกว่า 10%

อัตราการเข้าพักที่ลดลงดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบทำให้ 58% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ มีสภาพคล่องลดลงมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2564 และเพียงพอในการดำเนินธุรกิจได้ไม่เกิน 3 เดือน และมีอีก 23% ที่มีสภาพคล่องเพียงพอไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ ขณะที่ 57% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ทั้งหมด รายได้ยังกลับมาไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19

จากการสำรวจสถานะกิจการของผู้ประกอบการ 272 แห่ง (ไม่รวม ASQ และฮอสพิเทล) มีโรงแรมเพียง 40.1% ที่ยังเปิดกิจการปกติ ที่เหลือ 38.2% เปิดกิจการเพียงบางส่วน และอีกกว่า 21.7% ที่ยังปิดกิจการชั่วคราว โดยสัดส่วนของโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย.เล็กน้อย 2.2%

ผลสำรวจยังบ่งชี้ว่า จากโรงแรมจำนวน 272 แห่ง (ไม่รวมโรงแรมที่เป็น ASQ และ Hospitel) พบว่า 56% ของโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวนั้น คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้อีกครั้งในไตรมาส 4/2565 และราว 13.6% คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้ในไตรมาส 1/2565 ส่วนอีก 6.8% คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้ในไตรมาส 2/2565 และอีก 11.9% จะกลับมาเปิดดำเนินกิจการได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565

 ขณะที่สถานการณ์รายได้ในเดือนกรกฎาคม พบว่าโรงแรมส่วนใหญ่ยังมีรายได้อยู่ในระดับต่ำ โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งหรือ 56.9% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ทั้งหมด มีรายได้กลับมาไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ส่วนโรงแรมที่มีรายได้ที่ระดับ 11-30% มีสัดส่วน 18.3%, โรงแรมที่มีรายได้ระดับ 31-50% มีสัดส่วน 3.6%, โรงแรมที่มีรายได้ระดับ 51-70% มีสัดส่วน 7.1% และโรงแรมที่มีรายได้ระดับมากกว่า 70% มีสัดส่วน 14.2% 

สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ส่งผลบวกต่ออัตราการเข้าพักโดยรวมไม่มากนัก โดยพบว่า 50% ของโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต มองว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมที่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นไปตามที่คาด ซึ่งมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 16% ขณะที่อีก 43% ของโรงแรมในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มองว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมที่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แย่กว่าที่คาด โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่อยู่ในระดับต่ำเพียง 6% เท่านั้น และพบว่าผู้ประกอบการโรงแรมกว่า 69% เห็นด้วยกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยส่วนใหญ่เป็นโรงแรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมกลับมาจ้างงานเฉลี่ย 53% ของช่วงก่อนเกิดโควิด-19 (หากไม่รวมกลุ่มปิดกิจการชั่วคราวจะเฉลี่ยอยู่ที่ 59%)



 นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ระบุว่า ปัจจุบันการจ้างงานในภาคการท่องเที่ยวลดลงแล้วกว่า 50% หากดูตัวเลขในภาวะปกติจะมีโรงจดทะเบียนกับสมาคม 16,282 โรงแรม มีพนักงานในระบบมากกว่า 860,000 คน แต่หลังจากโควิด-19 คาดว่ามีพนักงานตกงานมากกว่า 460,000 คน และออกจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยวไปแล้ว ที่เหลืออีกประมาณ 400,000 คน อาจได้รับเงินเดือนไม่เต็มเดือน ลดเวลาทำงาน เพราะโรงแรมไม่มีรายได้เลย

หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งระบบ สมาคมโรงแรมไทย ได้เรียกร้องต่อรัฐบาลให้เข้ามาช่วยเหลือ เช่น การจัดหาและกระจายวัคซีนให้เร็วกว่าแผน, มาตรการช่วยเหลือเงินกู้และพักชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ย เพื่อพยุงไม่ให้ผู้ประกอบการขายกิจการทิ้ง, ขอลดต้นทุนค่าไฟฟ้า รวมทั้งการสนับสนุนค่าจ้างเพื่อพยุงการจ้างงานรอวันธุรกิจฟื้นคืน

อย่างไรก็ตาม สำหรับ  “โครงการโกดังพักหนี้”  ที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมนั้น นายกสมาคมโรงแรมไทย สะท้อนว่า ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการน้อยกว่าเท่าที่ควร เนื่องจากแบงก์พาณิชย์มีเงื่อนไขมากมาย เช่น ให้เฉพาะลูกหนี้ชั้นดี มูลค่าหนี้ต่ำ ทำให้ยากเข้าถึงความช่วยเหลือ

ส่วนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินำร่อง “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” นั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ช่วง 40 วันของโครงการ นับจากวันที่ 1 กรกฎาคม – 9 สิงหาคม 25664 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมโครงการสะสม 18,654 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ 18,602 คน คัดกรองพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 52 คน

ด้านยอดจองห้องพักโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA+ พบว่าตลอดไตรมาส 3/2564 มีจำนวน 353,529 คืน แบ่งเป็นเดือนกรกฎาคม 190,843 คืน เดือนสิงหาคม 143,566 คืน และเดือนกันยายน 19,120 คืน ส่วนยอดการจองในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 – กุมภาพันธ์ 2565 มีจำนวน 9,797 คืน

แต่อย่างไรก็ตาม ความพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มียอดผู้ติดเชื้อรายวันทะลุขึ้นหลัก 2 หมื่นคนแล้วนั้น ยังยากที่จะประสบผลสำเร็จ หลายชาติมีคำเตือนต่อพลเมืองที่จะเดินทางมายังไทย โดยล่าสุดหน่วยงานป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐ หรือ ซีดีซี (U.S. Centers for Disease Control and Prevention) ยกระดับให้ไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงมากต่อการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังปรับคำเตือนสูงสุดขั้นที่ 4 สำหรับผู้ที่จะเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 70 ประเทศที่อยู่ในกลุ่มที่ 4 เช่นเดียวกับไทย เช่น บราซิล ชิลี อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ขณะที่ก่อนหน้านี้ สหภาพยุโรปได้ถอดรายชื่อประเทศไทยออกจากลิสต์ประเทศที่ปลอดภัย (EU White List) จากการระบาดของโควิด-19

 นับเป็นมหาวิกฤตของธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวที่ยังคงมืดมนอนธการ ไม่ต่างไปจากอนาคตของประเทศไทยในยามนี้ 

18962


นางสาวอรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking ธนาคารไทยพาณิชย์  กล่าวว่า  นอกจากมาตรการช่วยเหลือขั้นต่ำตามประกาศของธปท.โดยการพักชำระหนี้ 2 เดือน ที่ผ่านมา ทางธนาคารยังมีมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยได้ให้คำปรึกษาและพิจารณาร่วมกับลูกค้าในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าสามารถดำรงชีพได้ในระยะยาว

รวมถึงในช่วงที่ผ่านมา ทางธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารจะประเมินลูกค้าตามสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ เช่น ข้อมูลความเสี่ยง การคาดการณ์กระแสเงินสดใหม่ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจ จากนั้น ธนาคารจะกำหนดแพ็คเกจการช่วยเหลือที่เหมาะสมกับลูกค้า ซึ่งอาจรวมถึงการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ การปรับอัตราการผ่อนชำระหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ย การปรับดอกเบี้ยเป็นขั้นบันได (step-up rates) เป็นต้น

รายงานข่าวจากธนาคารไทยพาณิชย์ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. - 10 ส.ค. 2564 มีลูกค้าสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย (sSME) ลงทะเบียนเพื่อเข้ามาตรการพักหนี้ 2 เดือน จำนวน 262,451 ราย คิดเป็นยอดหนี้ 108,937 ล้านบาท  ทั้งนี้ ธนาคารก็ยังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้กับลูกค้าทุกกลุ่มด้วยมาตรการที่เหมาะสมอย่างตรงจุด

"แอลเอชแบงก์ คุยลูกค้าทุกราย ย้ำช่วยตรงจุด"  

รายงานข่าวจากธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH BANK พบว่า  จำนวนลูกค้าที่ขอพักหนี้ตามมาตรการล่าสุด ที่ธนาคารให้พักหนี้ 3 เดือน มากกว่ามาตรการธปท.ให้ 2 เดือน มีจำนวน 49 ราย คิดเป็นยอดหนี้ 3,400 ล้านบาท ซึ่งธนาคารอนุมัติทุกราย

ประกอบกับตอนนี้ธนาคารยังมีมาตรการช่วยเหลือตามมาตรการ premtive ของธปท. อยู่แล้ว เช่น ลดค่างวดจ่ายเท่าที่มีความสามารถจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยพักเงินต้น จ่ายดอกเบี้ยบางส่วน พักเงินต้น พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งธนาคารจะคุยกับลูกค้าทุกรายเพื่อช่วยเหลือได้ตรงประเด็นในระยะยาว 

18964


นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะสตีล จำกัด (มหาชน) หรือTHE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 2 ของปี 2564 บริษัทฯ รักษาความสามารถการเติบโตของกำไรต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยมีกำไรสุทธิ 360.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 341.22 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 1,805.40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 18.90 ล้านบาท

ในงวดไตรมาส 2 ของปี 2564 นี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 4,191.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148.92% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จำนวน 1,684.05 ล้านบาท เป็นไปตามปริมาณการขายเหล็กเพิ่มขึ้นราว 83.98% เนื่องจากการนำเข้าวัตถุดิบเหล็กจากต่างประเทศลดลง รับผลจากการขนส่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณเหล็กในประเทศขาดแคลน ราคาขายเหล็กเฉลี่ยทั้งไตรมารถเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ราว 38.84% และส่งผลให้ไตรมาสนี้ มีกำไรขั้นต้น 475.50 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้ามีกำไรขั้นต้นเพียง 38.82 ล้านบาท


เมื่อพิจารณางบ 6 เดือนแรก พบว่าบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 709.73 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 141.82 ล้านบาท และมีรายได้รวม 7,394 ล้านบาท ทำให้คาดว่ารายได้รวมในปีนี้ น่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 13,000 ล้านบาท

“ประเทศจะยังคงเผชิญปัญหาวัตถุดิบเหล็กขาดแคลน ภายหลังประเทศปรับลดกำลังการผลิตเหล็กลง และจะทำให้ราคาขายเหล็กม้วนดำ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัท ทรงตัวในระดับสูง ต่อไป ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในปี 2564 นี้ มีโอกาสจะสร้างสถิติสูงสุด (นิวไฮ)”

18965


โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสขวัญใจแฟนๆ ตลอดกาล ฉลองวันเกิดอายุ 40 ปีไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อนบอกข่าวร้ายว่ายังไม่มีกำหนดกลับคืนสังเวียนเทนนิสเร็วๆ นี้

เฟเดอเรอร์ เพิ่งลงสนามไปเพียง 13 แมตช์ ในปี 2021 หลังมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าจนต้องเข้ารับการผ่าตัด และไม่ได้ลงแข่งมหกรรมโอลิมปิก 2020 ให้กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์

ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้นแตะหลัก 4 ทำให้ "เฟดเอ็กซ์" ต้องยอมรับความจริงว่าการฟื้นฟูร่างกายนั้นไม่เร็วเท่าสมัยหนุ่ม จนไม่สามารถบอกแน่ชัดได้ว่าจะกลับมาลงสนามหวดแร็กเก็ตได้เมื่อไหร่

"ผมสบายดี ได้หยุดพักผ่อน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมาสักพักแล้วเพราะอาการที่หัวเข่า ดังนั้นผมเลยต้องหยุดทำทุกอย่างตั้งแต่จบศึกวิมเบิลดัน ซึ่งสัปดาห์นี้ต้องไปพบแพทย์และทีมงาน แล้วมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ซึ่งทุกอย่างก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน"

"ทุกอย่างมันต่างไปจากเดิม คำถามก็มีแต่เรื่องง่ายๆ อันดับโลกของผมเป้นยังไง แล้วจะกลับมาแข่งรายการไหน ผมรู้สึกอย่างไรเมื่อจะได้กลับไปซ้อม เป้าหมายคืออะไร ถึงจะกระตือรือร้นกว่าแต่ก่อน แต่ก็ตอบได้ยากอยู่เหมือนกัน"

18966
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / Hot Promotion!!!
« เมื่อ: สิงหาคม 14, 2021, 01:48:34 pm »
ราคาดีมากกก!!!!!!!!

18967


นางอาภัสรา ภาณุพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT เปิดเผยถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทั่วประเทศ ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ภาครัฐ ยังคงเข้มมาตรการลดความแออัดในที่สาธารณะและปูพรมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วประเทศ ลดโอกาสการแพร่ระบาดและติดเชื้อไวรัสโควิด-19

SVT ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจขายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ แบรนด์ SUN Vending พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันและร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อฟันฝ่าสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ไปให้ได้ โดย SVT ได้นำ Vending Machine จำนวน 4 เครื่อง ที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เครื่องดื่ม, ขนมขบเคี้ยว, อุปกรณ์เสริมสำหรับมือถือ,หน้ากากอนามัย, น้ำยาฆ่าเชื้อ และเจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น ไปติดตั้งบริการบริเวณประตูทางเข้าที่1 และ 3 สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนที่มารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้มีเครื่องดื่ม หรือขนมขบเคี้ยวรับประทาน เพิ่มความสดชื่นและมีพลังระหว่าที่รอคิดเข้ารับการฉีดวัคซีน 

โดยสินค้าทั้งหมดภายในตู้ SVT ได้ร่วมมือกับคู่ค้า นำสินค้าคุณภาพมาตรฐานมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ เพื่อลดภาระค่าครองชีพ แบ่งเบาภาระคนไทยช่วงวิกฤตโควิด-19 รวมถึงยังเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้น



สำหรับ Vending Machine ทั้ง 4 เครื่อง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เหมาะสำหรับยุค New Normal ตัวเครื่องรองรับการชำระค่าสินค้าผ่าน Cashless Payment ต่างๆ อาทิ พร้อมเพย์, TrueMoney Wallet, Rabbit Line Pay รวมถึงเงินสดทั้งเหรียญและธนบัตร เพื่อความสะดวกรวดเร็วและง่ายสำหรับการใช้บริการของผู้บริโภค โดยเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติทุกเครื่อง ผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

“SVT ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่เป็นด่านหน้า รับมือสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 และส่งเสริมให้คนไทยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 อย่างทั่วถึง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประเทศไทยก้าวผ่านสถานการณ์โควิด-19 กลับคืนสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด” นางอาภัสรา กล่าว

ขณะที่ นายพิศณุ โชควัฒนา รองผู้อำนวยการสายงานการผลิต บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT กล่าวว่า การนำ Vending Machine ทั้ง 4 เครื่อง มาติดตั้งให้บริการที่ศูนย์ฉีดวัคซีน สถานีกลางบางซื่อ ถือเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนได้เป็นอย่างดี ช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐในการจัดหาเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว มาให้บริการประชาชนที่มารับการฉีดวัคซีน

18968


หากเอ่ยชื่อของ “ณุศาศิริ” แวดวงตลาดที่อยู่อาศัยหรืออสังหาริมทรัพย์ รู้จักชื่อชั้นเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะคร่ำหวอดในวงการมานาน 25 ปี ยังมีโครงการมากมายออกสู่ตลาดทั้งโครงการแนวราบ บ้านเดี่ยวหรู โครงการแนวสูง คอนโดมเนียม แตกไลน์ไปสู่การพัฒนาโครงการห้างค้าปลีกรูปแบบคอมมูนิตี้ มอลล์ เป็นต้น

เส้นทางการเติบโตและแนวทางการพัฒนาธุรกิจ “ณุศาศิริ” ไม่หยุดอยู่แค่ตลาดที่อยู่อาศัย แต่ยังมอโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจท่องเที่ยว หวยออนไลน์ ธุรกิจทางการแพทย์ ล่าสุดยังปั้นโมเดล “Medical Technology” การเปิดแพลตฟอร์มเพื่อสุขภาพและการแพทย์ “Morhello” รุกสู้วิกฤติด้วยการตั้งศูนย์วิจัยพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทยอย่าง “กัญชา-กัญชง” เพื่อแปรรูปสู่ตลาดโลกด้วย 

ทว่า ล่าสุดชื่อของ “ณุศาศิริ” ยังปรากฏบนหน้าสื่อ ในฐานะที่ได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด เพื่อเข้าประมูลชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen self-test Test Kits : ATK)ในโครงการสปสช.ด้วย 

“ณุศาศิริ” มีทุนจดทะเบียนบริษัท 200 ล้านบาท ย้ำถึงการมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนธุรกรรมต่างๆ ขณะที่ตลอดเส้นทางธุรกิจ 25 ปี สร้างที่อยู่อาศัยมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค    

ย้อนรอย 25 ปี ของบริษัท ณุศาศิริ เดิมชื่อบริษัท อั่งเปา แอสเสท จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเกรียงกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2503 เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งทอ จากนั้นปี 2537 ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนหรือเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และลุยพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเจาะทุกทำเลทั่วทุกหัวมุมเมืองทุกภาคของประเทศไทยด้วยมูลค่านับหมื่นล้านบาท เช่น เปิดตัวบ้านกฤษณา บ้านสไตล์ Bali ที่จังหวัดอุดรธานี, 

ณุศาศิริ Flexfible Function Home บ้านที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามความต้องการ, ณุศาศิริ พระรามสอง (Nusasiri city rama2) โครงการไฮเอนด์บนเนื้อที่กว่า 350 ไร่,โรงเรียนนานาชาติ นอร์วิช (Norwich international school), คอนโดมิเนียม ณุศาศิริ (Nusasiri Grand condominium)คอนโดมิเนียมแห่งแรกในกรุงเทพ ที่มีทางเดินเชื่อมรถไฟฟ้าแห่งแรกในกรุงเทพ, ณุศา ชีวานี่ พัทยา (Nusa chivani pattaya), หมู่บ้านสุขภาพ สไตล์ ทัชคานี่ แห่งแรกของภาคตะวันออก พร้อมการออกแบบภายในแบบ Universal home  ผู้สูงอายุสามารถอยู่ได้อย่างสบาย และปลอดภัย

เมอเวนพิค มาย โฮโซน เขาใหญ่(Movenpick my ozone khaoyai) ซึ่งเป็นโครงการบ้านเพื่อสุขภาพเต็มรูปแบบ มีศูนย์บริการทางการแพทย์ ดูแลรักษาตลอด 24 ชั่วโมง(ชม.) สนามกอล์ฟมาตรฐาน 18 หลุม โดยไฮไลท์เด่นตั้งอยู่บนพื้นที่มีโอโซนอันดับ 7 ของโลก ด้วยพื้นที่ 1,200 ไร่ บนเขาใหญ่นั่นเอง นอกจากนี้ ยังมี นุศา ลากูน่า ภูเก็ต(Nusa laya phuket)


“ณุศาศิริ” ยังก้าวสู่ธุรกิจท่องเที่ยวอย่างยิ่งใหญ่ ปี 2519 เมื่อบริษัทลูกอย่าง บริษัท ณุศา เลเจนด์ สยาม จำกัด ลงทุนใหญ่ 4,000 ล้านบาท เนรมิต “เลเจนด์ สยาม พัทยา (Legend Siam Pattaya)” ให้เป็นซิกเนอร์ท่องเที่ยวของไทย บนเนื้อที่กว่า 164 ไร่ หรือใช้พื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) รวบรวมอัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นทั้ง 77 จังหวัดของประเทศไทยไว้ในพื้นที่เดียว รองรับนักท่องเที่ยวร่วม 20,000 คนต่อวัน 

ก้าวสู่ปีที่ 25 “ณุศาศิริ” ยังมุ่งสร้างการเติบโตอย่างมีศักยภาพ ภายใต้เป้าหมายที่เด่นชัดในการนำสินค้าไทยสู่ตลาดโลก  จึงผนึกพันธมิตรทางการค้า บริษัท CSR จากประเทศจีน ทุ่มกว่า 1,000 ล้านบาท รุกตลาดปั้นโมเดลธุรกิจใหม่  Medical Technology ตั้งศูนย์วิจัยนำ “กัญชา กัญชง” แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดโลก

ทั้งนี้ บริษัทมีแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม บริหารจัดการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำทั้งการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทุกหมวด ทั้งสกินแคร์ เครื่องดื่ม และ[^_^] ฯลฯที่มีสารสกัดจากกัญชา และ กัญชง ผ่านทุกช่องทาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  

“ศิริญา เทพเจริญ” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ฉายภาพ ณุศาศิริ ได้ขับเคลื่อนธุรกิจและก้าวไปสู่ความเป็นสากล ทั้งในด้านอสังหาริมทรัพย์ ท่องเที่ยว และด้านสุขภาพ ฯลฯ มีการร่วมมือกับบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อดูแลและบริหารการจัดการต่างๆ และจากประวัติอันยาวนาน บริษัทได้เติบโตคู่กับคนไทย  ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านทุกสถานการณ์ จนก้าวสู่ความสำเร็จ และเข้าสู่ปีที่ 25 อย่างมั่นคง 

“เรามุ่งมั่นสร้างแบรนด์ ณุศาศิริ ให้ก้าวไปในทิศทางใหม่อย่างยิ่งใหญ่ฉลองปีที่ 25 ของเราอีกครั้ง”

การเคลื่อนทัพสู่ธุรกิจสุขภาพ ตลอดจนเกาะเทรนด์พืชกัญชา-กัญชงที่มาแรง เพื่อสะท้อนการรุกตลาดจริงจัง บริษัทเตรียมความพร้อมด้วยการปรับพื้นที่ใน 2 โครงการ เนื้อที่i;,นับ “พันไร่” ได้แก่ พื้นที่โครงการ “เลเจนด์ สยาม พัทยา แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แลนด์มาร์ค ธีมพาร์ค และแหล่งชอปปิงที่ใหญ่สุดในภาคตะวันออก จะถูกปรับให้เป็นแหล่งปลูกกัญชา -กัญชงในเชิงงานศึกษาวิจัย เป็นศูนย์การเรียนรู้กัญชา กัญชง ของโลก เพิ่มความรู้ความเข้าใจในประโยชน์ของพืชมหัศจรรย์นี้สู่สายตานักท่องเที่ยว 

อีกทำเลคือโครงการ เมอเวนพิค มาย โอโซน เขาใหญ่ จะสร้างให้เป็นเมืองกัญชาเพื่อสุขภาพครบวงจร ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมารักษาและฟื้นฟูสุขภาพในประเทศไทยแบบระยะยาว 

 นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งใจจะสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่ ในนาม “ณุศาเทค” ลุยงานด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ(AI) เพื่องานวิจัยและเก็บข้อมูลด้านสุขภาพของคนไทย ให้เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จะเป็นศูนย์กลางในเรื่องสุขภาพ ครบจบในที่เดียว ในชื่อ “MORHELLO” แพลตฟอร์มเพื่อสุขภาพและการแพทย์ที่ผู้บริโภคจะได้ใกล้ชิดติดหมอผ่านจอโดยคุณหมอฮัลโหล จะตอบโจทย์ทุกข้อข้องใจ การรักษาเยียวยา การพึ่งพา ไม่ใช่เรื่องที่เข้าถึงยากอีกต่อไป 

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถาณะการณ์วิกฤติโควิด 19  การเปิดแพลตฟอร์ม Morhello ร่วมกับ โรงพยาบาลพานาซี ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมช่วยกู้วิกฤติเตียงล้น โดยทั้งให้คำปรึกษาและหาเตียงรองรับผู้อยู่ในระยะสีเขียว และเหลือง จัดหายาวิตามินโดสสูงที่เป็นจุดเด่นของ โรงพยาบาลพานาซี รวมทั้งจัดหาชุดตรวจโควิด ทั้งชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลายและหาเชื้อในโพรงจมูกด้วยตนเองมาให้คนสามารถสั่งได้ผ่านแพลตฟอร์มหมอฮัลโหล 

“หมอฮัลโหล จะเป็นแสงสว่างแค่ปลายนิ้ว คลิ๊กเดียว จบครบเรื่องสุขภาพ โดยในอนาคตเรายังมีโครงการต่อเนื่องเรื่องสุขภาพเข้ามาต่อยอดเพิ่มเติม“ ศิริญา กล่าว  

สำหรับ ณุศาศิริ มีรายได้ระดับ “พันล้านบาท” แต่ปี 2563 บริษัทมีรายได้กว่า 709 ล้านบาท ขณะที่บรรทัดสุดท้าย(Bottom line) ยังเผชิญภาวะ “ขาดทุน” ต่อเนื่อง โดยย้อนหลัง 5 ปีการขาดทุนเป็นดังนี้ ไตรมาส 1 ปี 2564 ขาดทุนกว่า 200 ล้านบาท ปี 2563 ขาดทุนกว่า 900 ล้านบาท ปี 2562 ขาดทุนกว่า 600 ล้านบาท ปี 2561 ขาดทุนกว่า 200 ล้านบาท ปี 2560 ขาดทุนกว่า 200 ล้านบาท 

18971
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / Hot Promotion!!!
« เมื่อ: สิงหาคม 13, 2021, 07:03:37 pm »
ราคาดีมากกก!!!!!!!!

18972


ลิโอเนล เมสซี ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์ ประเดิมซ้อมมื้อแรกกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต้นสังกัดใหม่แล้ว ก่อนพูดคุยกับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงรุ่นน้องที่จะต้องประสานงานกันในซีซั่นนี้

หลังเปิดตัวเป็นนักเตะใหม่ของ เปแอสเช เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา แข้งวัย 34 ปี ก็สวมสตั๊ดลงซ้อมกับยักษ์ใหญ่แห่ง ลีก เอิง ฝรั่งเศส เป็นมื้อแรก ที่ คัมป์ เดส ลอดจ์ ร่วมกับทีมงานใหม่ โชว์การวิ่งสปีด และมีเลี้ยง.วอร์มอัพเล็กน้อย

ถือเป็นการเคาะสนิมเพราะหลังจากพา อาร์เจนติน่า ครองถ้วยแชมป์ โคปา อเมริกา เมื่อเดือนกรกฏาคม ที่ผ่านมา เจ้าตัวก็เข้าโหมดพักผ่อนกับครอบครัว และบินมาเซ็นสัญญาที่ฝรั่งเศส โดยไม่ได้แตะลูก.เลย

นอกจากนี้ แข้งบัลลง ดอร์ 6 สมัย ได้มีโอกาสเจอกับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงรุ่นน้องเลือดเฟรนช์ ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยทำความคุ้นเคยกัน เพราะซีซั่นนี้ทั้งสองต้องลงสนามยิงประตูร่วมกัน เช่นเดียวกับ เนย์มาร์ ที่จะมาประสานพลังซัลโว

สำหรับ เมสซี มีโอกาสลงสนามนัดแรกให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส แบบทันที หากผ่านความฟิตสำหรับเกมเจอกับ สตาร์สบูร์ก วันที่ 14 สิงหาคม นี้

หน้า: 1 ... 1052 1053 [1054] 1055 1056 ... 1065