แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Jessicas

หน้า: 1 ... 1061 1062 [1063] 1064 1065 ... 1067
19117
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / Hot Promotion!!!
« เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2021, 03:12:14 pm »
ราคาดีมากกก!!!!!!!!

19118



เมื่อที่ 23 กรกฎาคม 2564 ที่บริเวณวัดหนองพังนาคตำบลเสือโฮกอำเภอเมืองจังหวัดชัยนาทคณะสงฆ์จังหวัดชัยนาทร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรกระชายขาวรวมไปถึงพืชสมุนไพรอื่นๆที่มีสรรพคุณเป็นยาเพื่อนำมาผลิตเป็นยาต้านโควิด-19และแจกจ่ายให้กับประชาชนที่สนใจใช้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นยาทางเลือกในการรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19อีกทั้งเป็นการส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้านมีรายได้จุนเจือครอบครัว
          
พระสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุวรวิหาร เปิดเผยว่า คณะสงฆ์มีโครงการปลูกสมุนไพรฟ้าทลายโจรเป็นหลักเพื่อนำไปช่วยเหลือในยามบ้านเมืองวิกฤตจากภัยโควิด-19ในตอนนี้เป็นการส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้านด้วยในวัดที่พอมีที่เหลือจะให้ปลูกกระชายขิงและพืชสมุนไพรให้ชาวบ้านช่วยกันดูแลแล้วเก็บไปขายโดยแบ่งกับทางวัดเป็นค่าน้ำค่าไฟบ้างที่เหลือให้เป็นรายได้ญาติโยมนำไปจุนเจือครอบครัว
          
ขณะนี้มีวัดในจังหวัดชัยนาทที่เข้าร่วมโครงการประมาณ20วัดแต่ละวัดมีพื้นที่ปลูกไม่ต่ำกว่า3ไร่โดยเฉพาะที่วัดหนองพังนาคมีพื้นที่กว่า10ไร่จะทำการปลูกให้เต็มพื้นที่คาดว่าโครงการนี้จะช่วยชาวบ้านได้อย่างยั่งยืนเป็นการสงเคราะห์อนุเคราะห์ญาติโยมที่ไม่มีอาชีพขาดรายได้จะทำให้คนเข้าวัดเป็นการสนองพระดำริของสมเด็จพระสังฆราชคือช่วยส่งเคราะห์อนุเคราะห์ชาวบ้านอีกทางหนึ่ง

ขอบคุณภาพจากเพจ น.ส.พ. ธรรมนำโลก

19119



จัดเป็นอีกหนึ่งนักร้องสาวเสียงดีของวงการบันเทิง ปาน ธนพร ที่ล่าสุดเจอสถานการณ์โควิดทำพิษ ทำให้ต้องออกมาโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อไม่มีงาน อายุเยอะขนาดนี้จะไปทำอะไรต่อโดยสาวปานเล่าเรื่องนี้อย่างละเอียดในรายการคุยแซ่บ Show พร้อมอัพเดทคุณแม่ที่นอนติดเตียงมาร่วม 17 ปี ด้วยอาการเส้นเลือดสมองตีบ หมดค่าใช้จ่ายกว่า 10 ล้านบาท ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ปาน เผยว่า “เรื่องโควิดตอนนี้พี่ว่าทุกชีวิตไม่ต่างกัน หนักเบาแล้วแต่ เราเองก็โดนอยู่แล้ว เพราะว่าเราเป็นนักร้องไม่ได้ร้องเพลงมาเป็นปีๆแล้ว ตั้งแต่มีโควิดไม่ได้มีงานร้องเพลงเลย จะมีก็แค่ออกรายการเล็กๆน้อยๆ พออยู่ได้ไป เราก็ยังดีกว่าอีกหลายๆชีวิตที่เขาลำบากมากที่เป็นข่าวเห็นๆกันอยู่ ที่โพสต์ไปถามว่าท้อกับชีวิตไหมก็เปล่า โพสต์ไปอย่างงั้นหาเรื่องสนุกๆไป  จริงๆเรามีความรู้สึกว่าเราเริ่มแก่แล้ว ถ้าเราคิดว่าหนึ่งวันคือชีวิตคน ตอนนี้ด้วยอายุของเรามันเลยตรงกลางมันเลยตรงเที่ยงมาแล้ว ถ้าเที่ยงมันคือชีวิตวัยรุ่น เราคือช่วงชีวิตบ่ายกำลังเข้าเย็น บ่านคล้อยเย็น เราต้องมานั่งคิดแล้วว่าชีวิตต่อจากนี้เราจะทำอะไร เราจะมีเป้าหมายอะไรต่อไปดี เราก็โพสต์เล่นๆเผื่อเพื่อนๆจะเข้ามาตอบสนุกสนาน เผื่อจะแนะนำอะไร”


“ถามว่าประโยคนั้นจะออกจากวงการไหม มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอกก็อาจจะเห็นหน้ากันตามรายการเล็กๆน้อยๆ คงไม่ได้เห็นกันเหมือนเมื่อก่อน เราก็มีเป้าหมายของเราที่เปลี่ยนไปก็คือเป้าหมายทางธรรม ซึ่งทุกวันนี้นอกจากเป็นจิตอาสาในกลุ่มบัวลอยที่ช่วยงานทางศาสนาเท่าที่เราทำได้ แต่งานพวกนี้มันเป็นงานที่ไม่ได้สตางค์ มันเป็นงานเรื่องใจ มันก็ต้องมานั่งคิดว่าชีวิตมนุษย์มันอยู่ได้ด้วยเรื่องปัจจัยก็เลยมานั่งคิดว่าเราจะทำอะไรดีแก่ป่านนี้แล้ว”

ปาน เล่าต่อว่า “เรื่องแม่ป่วยท่านก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องนอนอยู่อย่างนั้น นอนมา 17 ปีแล้ว คุณแม่เป็นเส้นเลือดตีบเมื่อปี 45 รักษามาจนเอากลับมาได้ แต่ระหว่างทางมีอยู่ช่วงหนึ่งหลังจากหายเกือบ 100% ไปล้ม พอล้มก็ทำให้สะโพกหักก็ต้องผ่าตัด พอผ่าตัดกลับออกมาก็ต้องกายภาพ คุณแม่ก็เป็นคนชอบกินโน่นกินนี่ยังกินขนมหวานอยู่ไม่ค่อยได้มีวินัยมากก็ทำให้กลับมาตีบครั้งที่ 2 ซึ่งการตีบครั้งนี้เป็นการตีบที่หมอครั้งแรกเตือนไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า กลับไปเที่ยวนี้ซีเรียสนะเพราะถ้าตีบครั้งที่ 2 เอาคืนไม่ได้แล้วนะ แล้วการตีบครั้งที่ 2 มันเป็นการตีบที่ไปมีส่วนในการควบคุมการกลืนกับการพูดแล้วทำให้ซีกขวาจะนิ่ง คุณแม่ก็นอนด้วยอาการแบบนี้ 17 ปีแล้ว 5 ปีแรกแม่พี่ทรมานมาก เพราะว่าคนเคยเที่ยว แม่เราเป็นคุณครูต้องพูดบ่น แล้ววันหนึ่งพูดไม่ได้ก็หงุดหงิดกว่าจะรับตัวเองได้ เคยชอบกินก็กินไม่ได้ อะไรที่เคยชอบกินก็ได้แต่นั่งมองทุกอย่างก็ต้องฟรีซ เขาก็จะหงุดหงิด เป็นช่วง 5 ปีแรกที่ลูกๆทุกคนต่างคนต่างทรมาน แต่วันที่พี่น้อง 5 คนมายืนร้องไห้กันเลยก็คือวันที่รู้ว่าว่าเขาพูดไม่ได้แล้ว อันนั้นหนักที่สุดในชีวิตเลย”

“ค่าใช้จ่ายตลอด 17 ปีที่ผ่านมาหนักมาก ก็น่าจะเกิน 10 ล้าน เพราะว่าโรคพวกนี้จะเป็นแบบระยะยาว จะเป็นไปเรื่อยๆ ช่วง 5 ปีแรกเป็นปีที่ร่างกายมันขึ้นลง แล้วหลายครั้งก็เหมือนกับแม่จะไป เราก็ยื้อกัน ทุกอย่างมันใช้เม็ดเงินตลอด แต่ว่าอย่างหนึ่งปานรู้สึกขอบคุณเจ้ากรรมนายเวรที่มาเอาเรื่องแม่เราตอนเราไหว เขาก็ยังเมตตาที่มาเอาเรื่องแม่เราตอนเรายังมีกำลัง ครอบครัวเราแรกๆเราก็สู้กันมาตลอด อยู่ไปๆเราก็เห็นแม่เราทรมานมากเลย เราก็คิดว่าเขาก็คงไม่อยากอยู่กับร่างที่เสื่อมขนาดนี้ คนเราไม่ใช่อยากจะตายก็ตายได้เราก็ได้แต่บอกแม่เราว่าแม่ใช้กรรมนะ ใช้ให้หมด จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกัน ก็ได้แต่ปลอบใจกันแบบนี้ วันนี้เราทำได้แค่นิมนต์พระน้องชายให้ท่านเมตตาไปรับสังฆทานให้แม่ได้มีภาพจำ ให้จิตเขาจำว่าเขาทำบุญอะไรไว้เยอะ เพราะแม่ชอบทำบุญสมัยแข็งแรง เขาทำบุญสวดมนต์ตลอด แต่อย่างว่าคนเราก็มีกรรมเป็นของตัวเอง แม่ถือว่าเป็นครูสอนธรรมะได้ใกล้ตัวที่สุด เราเลยเห็นมันเลยทำให้เราปลงอะไรได้เริ่มจากการเห็นแม่เราก่อน ต่อให้เราพยายามแค่ไหนมันไม่มีอะไรใหญ่กว่ากรรมเลย”


“จริงๆ 17 ปีมันยาวนานมากสำหรับคนๆหนึ่งที่ต้องทรมานบนนี้ จริงๆมีอยู่ช่วงหนึ่งที่คุณแม่กลับมาทานอาหารได้ เราก็ดีใจกันมากว่าแม่กินข้าวได้แล้วนะ แต่ว่าเขาสำลักด้วยความที่เขาไม่ได้กินมานาน อันนี้ก็เป็นอีกแมทช์หนึ่งที่เกือบไป พอสำลักก็ทำให้เศษข้าวเข้าไปในปอดแล้วก็เข้าไอซียู คุณหมอก็สั่งว่าห้ามกินต่อไปนี้ให้กลับไปกินแบบสายยางเหมือนเดิมก็จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ถ้าขอได้ก็อยากให้เขาพูดได้ จริงๆก็คือภูมิใจในตัวเขา เขาคือนักสู้สำหรับพี่นะ แม่เป็นนักสู้สุดๆเลย ไม่ได้แสดงอาการว่าสู้คนแต่ก็ไม่ให้ใครมารังแกได้ เป็นมนุษย์ที่ใช้ชีวิตบนความกล้าหาญ ถึงแม้จะมีทุกข์แม่ก็เผชิญ แม่จะพูดเสมอว่าจำเอาไว้เลยนะวันหนึ่งที่พวกแกไปมีลูก แกต้องเลี้ยงลูกให้เขาอยู่ให้ได้โดยที่ไม่มีแกแล้วอย่าเลี้ยงลูกให้ตัวเองรักคนเดียว ต้องเลี้ยงลูกให้คนอื่นเขารักลูกแก มันถึงจะถูก”


ปาน เล่าอีกว่า “เรื่องความรักของพี่มันเคยมีทุกอย่างแล้ว เราผ่านมาหมดแล้ว ความรักเราก็มีความรักที่ดีที่จบดี ส่วนใหญ่เราก็จะจบดีๆ ไม่ใช่เราไม่รู้จักรัก เรารู้จักมาหมดแล้ว แต่วันนี้การมีคู่ไม่ใช่สิ่งที่เราเลือก แต่เราขอเลือกที่อยากจะเรียนรู้ใจตัวเองมากกว่า มันก็เลยไม่ได้มีเรื่องนี้ให้คนเห็นมากนัก แต่ที่คนบอกเพลงพี่แต่งมามีแต่ผู้ชายไม่มีดีเลย หลายคนเลยสงสัยว่าพี่เจ็บช้ำจากผู้ชายแน่ๆหรือว่าชอบเพศเดียวกัน อันนี้ตอบก่อนว่าพี่ชอบผู้ชายปกติเลย แต่ว่าไม่ใช่ผู้หญิงในสเปคที่ผู้ชายจะวิ่งเข้าหาเหมือนกัน แต่ว่าเพื่อนจะเยอะ คนจะเข้ามาเป็นเพื่อนกับเราเยอะมาก ถ้าคนเข้ามามันต้องรู้ว่าจะไปในทิศทางเดียวกันได้ไหม เราไม่ได้มีเขาเป็นเป้าหมายหลักเรามีอย่างอื่นเป็นเป้าหมายหลัก แต่ถ้าจะเดินไปด้วยกัน มีเป้าหมายเดียวกันในทางธรรม พี่ว่ามันก็ไปด้วยกันได้ แต่ว่า ณ วันนี้มันไม่ใครเดินเข้ามาหาเราแบบนี้ส่วนใหญ่แล้วมีแต่เพื่อนจริงๆ เราอาจจะไม่เหมาะที่จะมีผู้ เพราะว่าตัวเราเองเรายังจัดการชีวิตตัวเองหรือว่าข้างในตัวเองได้ไม่ดีพอที่จะมีอีกคนหนึ่ง เรารู้สึกอย่างนั้น”

19120


เกาหลีใต้เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่บุคคลอายุระหว่าง 55-59 ปีในวันจันทร์ (26 ก.ค.) เพื่อเร่งรัดโครงการฉีดวัคซีนประชาชน สกัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในขณะที่ประเทศแห่งนี้กำลังดิ้นรนต่อสู้กับการแพร่ระบาดระลอก 4

การฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไป ประสบปัญหาติดขัดนานกว่า 1 สัปดาห์ในเดือนนี้ หลังเคสผู้ติดเชื้อใหม่ที่พุ่งสูงสุดเป็นสถิติใหม่ กระตุ้นประชาชนแห่แหนเข้ารับวัคซีน ทำให้อุปทานร่อยหรอและเว็บไซต์จองคิวฉีดวีคซีนล่ม

มีราว 6.17 ล้านคน หรือ 84% ของบุคคลที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ลงชื่อจองคิวฉีดวัคซีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเจ้าหน้าที่ต้องปรับแผนฉีดวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทคแทนโมเดอร์นา ในประชาชนบางกลุ่ม สืบเนื่องจากกำหนดการส่งมอบวัคซีนที่ไม่แน่นอน

ทางการถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อภาวะอุปทานวัคซีนไม่เพียงพอและกรณีเปลี่ยนใจนาทีสุดท้าย ขยายกรอบเวลาฉีดวัคซีนไฟเซอร์ระหว่างเข็มแรกกับเข็มสองเป็น 4 สัปดาห์ เป็นการชั่วคราว จากเดิมที่กำหนดไว้ 3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นกรอบเวลาเดียวกับวัคซีนโมเดอร์นา

เกาหลีใต้วางเป้าหมายฉีดวัคซีนแก่คนชรา กลุ่มคนอ่อนแอ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแถวหน้าเป็นลำดับแรก เวลานี้พวกเขาฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างน้อย 1 เข็มไปแล้ว 33% จากประชากรทั้งหมด 52 ล้านคน และฉีดครบแล้ว 13%

สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติเกาหลีใต้รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 1,318 คนในวันอาทิตย์ (25 ก.ค.) ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 190,166 ราย และเสียชีวิต 2,077 คน

มาตรการตรวจเชื้อหมู่และติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ช่วยให้จนถึงตอนนี้เกาหลีใต้มีอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์อย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดระลอกใหม่กระตุ้นให้รัฐบาลเมื่อวันอาทิตย์ (25 ก.ค.) ยกระดับความเข้มข้นของกฎระเบียบเว้นระยะห่างทางสังคมทั่วประเทศในสัปดาห์นี้ เพื่อสกัดการแพร่กระจายเชื้อในช่วงฤดูร้อน

(ที่มา : รอยเตอร์)

19121

ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยว่า ตามที่ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้แต่งตั้งตนเป็นประธานคณะทำงานพิจารณากฎหมายลำดับรองที่สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ..นั้น เมื่อเร็วๆนี้ คณะทำงานฯ ได้พิจารณากฎหมายลำดับรอง ที่เป็นกฎหมายหลัก 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ และ พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งก่อนหน้านี้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศธ.ได้แต่ตั้งคณะทำงานศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...ไว้จำนวน 10 คณะ โดยในส่วนการปรับปรุง พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เป็นเจ้าภาพหลัก นั้น ได้มีการพิจารณาร่างแก้ไขในเบื้องต้นไปบ้างแล้ว โดยคณะทำงานฯ ได้ตั้งข้อสังเกตให้ไปปรับปรุงในเรื่องขององค์คณะบุคคล และอำนาจการบริหารงานบุคคลบางประการมาอีกครั้ง

เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ประชุมคณะทำงานฯได้มอบหมายให้ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และกรรมการอีกชุดหนึ่ง ไปดูเรื่องโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งนางสาวตรีนุช ได้มอบนโยบายเป็นหลักการไว้ว่า ในส่วนของโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ควรมีการเปลี่ยนแปลงมาก เพื่อให้กระทบน้อยที่สุด หรือไม่กระทบได้ยิ่งดี เพราะการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจะกระทบกับบุคลากรจำนวนมาก และจะส่งผลต่อกระบวนการจัดการศึกษา โดย รมว.ศธ.มีนโยบายการจัดการศึกษาที่เน้นไปที่คุณภาพของผู้เรียน ดูเรื่องการพัฒนาการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอนของครูในโรงเรียน การดูแลความปลอดภัยของนักเรียนเป็นสำคัญ การปรับปรุงเรื่องหลักสูตร ดูแลเรื่องพัฒนาการอาชีวศึกษา การศึกษานอกโรงเรียนของผู้สูงวัย การศึกษาตลอดชีวิต การศึกษาของเอกชน และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นี้ จะทำให้การเรียนออนไลน์มีประสิทธิภาพได้อย่างไร เป็นต้น  

ดร.อำนาจ กล่าวด้วยว่า คณะทำงานฯ ยังได้หารือถึงการจัดตั้งสถาบันพัฒนาหลักสูตรและการเรียนรู้ เป็นหน่วยงานของรัฐในกำกับของรมว.ศธ. มีฐานะเป็นนิติบุคคล ที่ไม่เป็นส่วนราชการ ซึ่งในมาตรา 105 ของร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ระบุว่า ในวาระเริ่มแรกเป็นเวลาไม่เกิน 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ใช้บังคับ ให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ทำหน้าที่เป็นสถาบันพัฒนาหลักสูตรและการเรียนรู้  เพื่อทำหน้าที่พัฒนาหลักสูตรในช่วงเปลี่ยนผ่าน ดังนั้น คณะทำงานฯ จะประสานงานกับ สสวท.และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน( สพฐ.)ก่อนหารือ รมว.ศธ.ว่าอาจจะออกระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งสถาบันพัฒนาหลักสูตรและการเรียนรู้  ซึ่งจะมีการหารือในเร็วๆนี้ ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้เตรียมการปรับปรุง แก้ไข และจัดให้มีกฎหมายลำดับรองอย่างน้อย 10 ฉบับ โดยดำเนินการคู่ขนานไปกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...ซึ่งขณะนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว.

19124
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / Hot Promotion!!!
« เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2021, 12:39:09 pm »
ราคาดีมากกก!!!!!!!!

19125


สรุปผลการมอนิเตอร์ข่าวปลอมรอบสัปดาห์ พบมีข้อความที่ต้องคัดกรอง 8.2 ล้านข้อความ เปิด 3 อันดับข่าวคนสนใจมากสุด พบโควิดยังยึดพื้นที่เฟคนิวส์

นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมตลอดช่วงสัปดาห์นี้ (18-22 ก.ค. 64) โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม มีข้อความที่ต้องคัดกรองทั้งสิ้น 8,246,481 ข้อความ ในจำนวนนี้พบข้อความที่เข้าเกณฑ์ต้องดำเนินการตรวจสอบ 145 ข้อความ เป็นจำนวนเรื่องที่ต้องตรวจสอบทั้งหมด 79 เรื่อง โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับโควิด-19 มากถึง 50 เรื่อง

ทั้งนี้ เมื่อดูจากปริมาณข้อความเบาะแสข่าวปลอม พบข้อสังเกตน่าสนใจว่า ประชาชนจะเผชิญกับเนื้อหาบนโซเชียล/โลกออนไลน์ที่มีแนวโน้มอยู่ในกลุ่มข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือน เฉลี่ยวันละมากกว่า 1 ล้านข้อความต่อวัน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลฯ จะมุ่งทำงานเชิงรุกในการบูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งประสานงานตรวจสอบข้อเท็จจริง เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องสู่ประชาชนและสังคมอย่างรวดเร็ว ลดความตื่นตระหนกและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ทันการณ์

สำหรับข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 3 อันดับแรกตลอดช่วงสัปดาห์นี้ ได้แก่ 1. เตือนเฝ้าระวังใน 24 ชม. จะเกิดแผ่นดินไหว ดินถล่ม น้ำท่วม และน้ำป่า 2. เครื่องตรวจวัดออกซิเจนในเลือดที่ปลายนิ้ว ใช้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในร่างกายได้ และ 3.กองทัพบก ประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้า ก่อนประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ กทม.

นางสาวนพวรรณ กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือประชาชน เมื่อได้รับข่าวสารข้อมูลผ่านโซเชียล ควรตรวจสอบให้รอบด้าน เลือกเชื่อ เลือกแชร์ และสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter  เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 เพื่อหลีกเลี่ยงจากการเป็นเหยื่อข่าวปลอมหรือ ข่าวบิดเบือน

19128


จากยอดผู้ป่วยรายใหม่ในกทม.และปริมณฑล พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เตียง ไอซียูในโรงพยาบาลต่างๆ ไม่เพียงพอรองรับผู้ป่วยได้ 'การนำผู้ติดเชื้อโควิด 19 กลับภูมิลำเนา' จึงเป็นอีกหนึ่งมาตรการของภาครัฐที่ได้ดำเนินการขึ้น เพื่อจัดส่ง ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มที่สามารถเดินทางได้ กลับไปดูแล รักษาใน 'ภูมิลำเนา' ของตนเอง 

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าด้วยความเป็นห่วงจากรัฐบาล ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)วางแผนนำผู้ติดเชื้อโควิด 19 กลับภูมิลำเนาด้วยความปลอดภัย ไม่แพร่เชื้อระหว่างทาง เพราะหลายๆ ท่านอาจไม่มีรถส่วนตัว

การไปรถสาธารณะอาจจะไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้ จึงได้มอบหมายให้ช่วยสร้างระบบที่จะดูแลในเรื่องนี้ ภายใต้การประสานงานร่วมกันระหว่าง (สธ.) สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงคมนาคม  กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอื่นๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วทในการดูแลครั้งนี้

'ผู้ป่วยโควิด' เดินทางกลับ 'ภูมิลำเนา' แล้ว 3 หมื่นกว่าราย
จากประชากรในกทม.มีประมาณ 8 ล้านกว่าคน แบ่งเป็น ประชาชนกรที่มาจากภูมิภาคอื่นๆ ประมาณ 2.41 ล้านคน และกทม. 5.59 ล้านคน ซึ่งอัตราการย้ายถิ่นของประชากร สู่กทม. พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 43.6% ภาคกลาง 25.5% ภาคเหนือ 19.9% และภาคใต้ 5.4% ซึ่งจากอัตราการย้ายถิ่นส่วนใหญ่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้น กลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มที่มีการเดินทางกลับภูมิลำเนามากสุด

ข้อมูลผู้ลงทะเบียนขอเดินทาง กลับภูมิลำเนา เดือนก.ค.ผ่านระบบ ศบค. พบว่า มีทั้งหมด  504,241 ราย แบ่งเป็นวันที่ 19 ก.ค. จำนวน 63,512 ราย วันที่ 20 ก.ค.จำนวน 191,535 ราย วันที่ 21 ก.ค.จำนวน 150,410 ราย และวันที่ 22 ก.ค. จำนวน  98,784 ราย ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ได้มีการออกเดินทางกลับภูมิลำเนาไปเองแล้ว และคาดว่าในจำนวนนี้จะมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 ร่วมเดินทางไปด้วย ฉะนั้น นโยบายนี้เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ให้เดินทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย และหากติดเชื้อจะได้รับการรักษาอย่างเร็ว


ทั้งนี้ การส่งผู้ป่วยโควิด กลับภูมิลำเนาช่วงการระบาดระลอกใหม่ มีจำนวน ผู้ป่วยโควิด เดินทางจาก กทม.และปริมณฑล ทั้งสิ้น  31,175 ราย เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว 70.37% ผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง 21.93% และผู้ป่วยกลุ่มสีแดง 7.7%

โดยวิธีการเดินทางกลับของผู้ป่วย จะเดินทางกลับด้วยตนเองและระบบขนส่งสาธารณะ มีการประสานผ่านศูนย์ร้องทุกข์ของหน่วยงานต่างๆ อาทิ ทบ.และมท. ประสานผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด/สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประสานผ่านระบบ สปสช. สธ. และสพฉ.

สำหรับแนวทางการประสานงาน การส่งต่อ ผู้ป่วยโควิด กลับภูมิลำเนานั้น สามารถประสานได้ ดังนี้

-ประสานไปที่ สปสช. โทร 1330 กด 15  หรือผู้ป่วยติดต่อผ่านศูนย์ COVID -19 จังหวัด/รพ.ปลายทาง ซึ่งจะลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น

-หลังจากนั้น สปสช.จะส่งข้อมูลไปยังทางกระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขจังหวัด ทำหน้าที่ประสานรับส่งตัว ไปยังจังหวัดปลายทาง

-โดยจะมีทาง สพฉ. ประสานว่าจะมีการเดินทางโดยใช้นำรถยนต์ รถไฟ หรือเครื่องบิน

-จะมีเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ทำหน้าที่ประเมินอาการก่อนเดินทาง จัดรถรับส่งถึงปลายทาง และแจ้งข้อมูลกลับไปยังสปสช.

-หลังจากนั้นไปส่งยังจังหวัดปลายทาง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้ดูแล 


โดยการติดต่อประสาน คาดว่าไม่เกิน 3 วันก็จะเดินทางไปถึง ซึ่งระหว่างที่รอ ผู้ป่วยโควิด  ต้องปฎิบัติต้นตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นผู้ติดเชื้อ ระวังตัวเอง ไม่นำไปสู่การแพร่ะรบาด แต่ถ้ามีอาการหนักขึ้นให้ประสานไปที่ 1330 หรือ 1668 ทันที 

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า
ปัจจุบันในพื้นที่กทม.และปริมณฑลมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว จึงมีความจำเป็นที่ต้องเก็บเตียงให้ผู้ป่วยอาการหนัก กลุ่มผู้ป่วยสีเหลือง และสีแดง 

ดังนั้น ผู้ป่วยสีเขียวจะมีมาตรการต่างๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์พักคอย Home Isolation หรือ Community Isolation  การส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา เป้นทางเลือกอีกทางหนึ่ง ให้ผู้ป่วยได้กลับไปดูแลกับพื้นที่ปลายทาง

ปัจจุบัน ประชาชนจะสามารถเข้าทางเว็บไซต์ https://crmdci.nhso.go.th/ ของสปสช.หรือ สแกนQR code เพื่อลงทะเบียนเลือกจังหวัดปลายทาง และวันที่พร้อมเดินทาง  อีกทั้ง สามารถโทรสายด่วน 1330 กด 15 มีเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ และลงทะเบียนให้ ซึ่งอยากให้ทุกคนมั่นใจวิธีการที่ดำเนินการ เพราะเป็นระบบที่มีมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยแก่ทุกคน

19129
น้ำมันว่านเครือเขาหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยม ทุกขวด
สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา สำเร็จทุกราย


 
เครือเขาหลงจัดอยู่ในของขลังธรรมชาติ เป็นของเสน่ห์ ของเสน่ห์แรงๆ หมอเสน่ห์เขมร หมอเสน่ห์ไทยนิยมใช้กันมาก และจัดได้ว่าเป็นของเสน่ห์ที่แรงที่สุด
 
คุณของน้ำมัน
เพิ่มเสน่ห์ เพิ่มเมตตา นำพาโชคลาภ เรียกจิต เรียกใจ ประสานสัมพันธ์ ค้าขายร่ำรวย
 
คาถามหาหลง
โอม หลง หลง มหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงทั้งต้น หลงทั้งกิ่ง หลงทั้งก้าน หลงทั้งราก หลงทั้งใบ หลงทั้งดอก คนเห็นน้ำตาตก นกเห็นน้ำตาไหล ไผผู้ใดเห็นหน้ากู อยู่มิได้ร้องไห้หากู หลงทั้งหน้า หลงทั้งหลัง หลงทั้งซ้าย หลงทั้งขวา หลงทั้งต่ำ หลงทั้งสูง หลงทั้งกลางวัน หลงทั้งกลางคืน หลงทั้ง


 
วิธีใช้
เพิ่มเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย ประสานสัมพันธ์ สวดคาถาแล้วนำน้ำมันว่านแตะที่หน้าผาก นึกถึงสิ่งที่ต้องการด้วยใจมุ่งมั่น แน่วแน่ศรัทธา เป็นไปดังว่า สมปรารถนา
 
เรียกจิต เรียกใจ ให้ท่องคาถา ใช้แต้มแตะทา ลงบนวัตถุ รูปภาพหามา ของคนต้องการ เพ่งพลังจิต ลงไปแน่วแน่ ให้เกิดเป็นภาพ เคียงคู่กายา ทำได้ดังนี้นั้นหนา บอกคำว่า ได้ตามนั้นเลย
สนใจติดต่อโทร. 0846623662
id line : teerapat999

แฟนเพจ https://web.facebook.com/[^_^]taywa
เวปไซด์ http://[^_^]taywa99.lnwshop.com/p/12

lazada  https://www.lazada.co.th/products/-i1863368460-s5737984707.html?spm=a2o4m.seller.list.19.751ebb9eN8X8vA&mp=1&freeshipping=1  

19130
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / Hot Promotion!!!
« เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2021, 06:51:52 pm »
ราคาดีมากกก!!!!!!!!

19131
Website ช่องทางการตลาดออนไลน์ ให้มากกว่าที่คุณคิดhttps://www.chatstickmarket.com/single-post/websiteonlinemarketingchannelgivemorethanyouthink


19134
 
น้ำมันว่านเครือเขาหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยม ทุกขวด
สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา สำเร็จทุกราย


 
เครือเขาหลงจัดอยู่ในของขลังธรรมชาติ เป็นของเสน่ห์ ของเสน่ห์แรงๆ หมอเสน่ห์เขมร หมอเสน่ห์ไทยนิยมใช้กันมาก และจัดได้ว่าเป็นของเสน่ห์ที่แรงที่สุด
 
คุณของน้ำมัน
เพิ่มเสน่ห์ เพิ่มเมตตา นำพาโชคลาภ เรียกจิต เรียกใจ ประสานสัมพันธ์ ค้าขายร่ำรวย
 
คาถามหาหลง
โอม หลง หลง มหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงทั้งต้น หลงทั้งกิ่ง หลงทั้งก้าน หลงทั้งราก หลงทั้งใบ หลงทั้งดอก คนเห็นน้ำตาตก นกเห็นน้ำตาไหล ไผผู้ใดเห็นหน้ากู อยู่มิได้ร้องไห้หากู หลงทั้งหน้า หลงทั้งหลัง หลงทั้งซ้าย หลงทั้งขวา หลงทั้งต่ำ หลงทั้งสูง หลงทั้งกลางวัน หลงทั้งกลางคืน หลงทั้ง


 
วิธีใช้
เพิ่มเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย ประสานสัมพันธ์ สวดคาถาแล้วนำน้ำมันว่านแตะที่หน้าผาก นึกถึงสิ่งที่ต้องการด้วยใจมุ่งมั่น แน่วแน่ศรัทธา เป็นไปดังว่า สมปรารถนา
 
เรียกจิต เรียกใจ ให้ท่องคาถา ใช้แต้มแตะทา ลงบนวัตถุ รูปภาพหามา ของคนต้องการ เพ่งพลังจิต ลงไปแน่วแน่ ให้เกิดเป็นภาพ เคียงคู่กายา ทำได้ดังนี้นั้นหนา บอกคำว่า ได้ตามนั้นเลย
สนใจติดต่อโทร. 0846623662
id line : teerapat999

แฟนเพจ taywa]https://web.facebook.com/[^_^]taywa
เวปไซด์ taywa99.lnwshop.com/p/12]http://[^_^]taywa99.lnwshop.com/p/12

lazada  https://www.lazada.co.th/products/-i1863368460-s5737984707.html?spm=a2o4m.seller.list.19.751ebb9eN8X8vA&mp=1&freeshipping=1  

หน้า: 1 ... 1061 1062 [1063] 1064 1065 ... 1067