แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - deam205

หน้า: 1 ... 1076 1077 [1078] 1079 1080 ... 1125
19387
Kiddo Pacific Clearance Sale ลดเยอะ ลดแรง ลดสูงสุด 80%
สินค้าแม่และก็เด็กแบรนด์คุณภาพ มีให้ช้อปครบจบในที่เดียว ถูกขนาดนี้พลาดแล้วพลาดเลย
งานลดราคาสินค้าแม่และก็เด็ก รวมทั้งของเด็กเล่นลิขสิทธิ์แท้แบรนด์ดังมากไม่น้อยเลยทีเดียว
วันที่ 8-11 เดือนตุลาคม 2564
เวลา 10 โมง ถึง 1 ทุ่ม
สถานที่ at The Bright พระราม2
>> https://bit.ly/3uE9nJJ
ดูรายละเอียดคลิก >> https://bit.ly/3FiMTD9




เจอกับผลิตภัณฑ์แบรนด์ดัง ลิขสิทธิ์แท้ Chicco, Graco, Baby Jogger, Recaro, Vtech, LeapFrog, Skip Hop, Playgro, Fisher Price, Iimo, Scoot&Ride, Winfun, Paw Patrol, Peppa Pig, Disney Princess, Disney Baby, Disney Frozen, PJ Masks, Baby Shark, Crayola, Ben10, Batman&DC, Dragon, Toys Story, Cool Maker Go Glam, 4M, Smithsonian, Disney Cars, Disney Tsum Tsum, , Pikmi Pops, Twisty Pets,Power Puff Girls, Blume, Shopkins, Hatchimals, Fortnite, Teamsterz อาทิเช่น รถเข็นเด็ก คาร์ซีท เตียงเด็ก เบาะนอน บูสเตอร์ซีท รถยนต์ขาไถ เก้าอี้ทานข้าว กระเป๋าเด็ก กระเป๋าคุณแม่ ของใช้แม่และก็เด็ก เครื่องนึ่งขวดนม เครื่องอุ่นนม เทอร์โมมิเตอร์ โมบายติดรถเข็น โมบายเด็ก ดรีมไลท์ เพลยิม ของเด็กเล่นเสริมพัฒนาการ ของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ของเล่นราคาไม่แพง ตุ๊กตา นาฬิกาเด็ก ของเล่นสะสม ของเล่นเด็ก DIY ชุดทำเล็บเด็ก ชุดทำผมเด็ก ชุดเครื่องครัว ฟิกเกอร์ ชุดคอสตูมลิขสิทธิ์ ของเล่นเด็กแบรนด์ดัง ของเล่นลดราคา  ลิขสิทธิ์แท้ แล้วก็อื่นๆอีกมากมาย แล้วพบกันนะคะ

รับบัตรเครดิตยอด 1,000 บาทขึ้นไป
สอบถามเพิ่มเติม
• Inbox :m.me/kiddopacific
• Line : https://line.me/R/ti/p/%40kiddopacific
• โทร 02-3002565
www.kiddopacific.com

19388
ต้องการถมดิน ถมที่ นึกถึงเรา เริ่มที่เราจบที่เรา ไม่ใช่นายหน้า ติดต่อ 080-022-3804
รับทุกขนาดพื้นที่ ฟรีตรวจสอบพื้นที่ประมาณ ราคา

19389
ที่บนเขาวิวภูทับเบิก หล่มเก่า (เพชรบูรณ์) ไร่ละ140000 แบ่งขาย โทร 083-7124115

19396
ต้องการถมดิน ถมที่ นึกถึงเรา เริ่มที่เราจบที่เรา ไม่ใช่นายหน้า ติดต่อ 080-022-3804
รับทุกขนาดพื้นที่ ฟรีตรวจสอบพื้นที่ประมาณ ราคา

19397
ทุกวันนี้ คนไทยไม่ใช่แค่ต้องเผชิญกับการรุกคืบของ “ดิจิทัล” ที่แทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันและชีวิตการทำงานเท่านั้น หากแต่เรายังอยู่ท่ามกลางกับสิ่งที่ทำให้เกิด “บิ๊กแบง” นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ซัดซ้ำให้ชีวิตต้องดำเนินต่อไปกับยุคที่เรียกได้ว่าเป็น ดับเบิ้ลดิสรัปชั่น (Double Disruption) พฤติกรรมการใช้ชีวิตเดิมๆ ถูกแทนที่อย่างฉับพลันทันทีด้วย “ชีวิตวิถีใหม่” (New Normal) ที่พึ่งพา “ออนไลน์” มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การทำธุรกรรมทางการเงิน การทำงานแบบ Work From Home การเรียนออนไลน์ หรือแม้แต่กระทั่งการซื้อสินค้าเพื่อใช้อุปโภคบริโภค และไม่ใช่แค่ “คนไทย” เท่านั้นที่ต้องปรับตัว แต่แบรนด์ต่างๆ ก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างและแสวงหาช่องทางการเข้าถึง “ลูกค้า” ให้ได้ไวและครอบคลุมที่สุด

เรายิ่งเห็นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในวันที่โควิดเข้ามาแผลงอิทธิฤทธิ์ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว 2 ปี ที่ผ่านมา พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไทยและธุรกิจต่างๆ เปลี่ยนไปจากเดิม ผลพวงการล็อกดาวน์ทำให้คนทำมาหากินไปจนกระทั่งถึงแบรนด์ใหญ่ต่างหาลู่ทางใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนธุรกิจโดยอาศัยช่องทางทรงพลังอย่าง “ออนไลน์” มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับผู้บริโภคที่คุ้นชินกับการสั่งและซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ เพราะสะดวก ง่าย รวดเร็ว สามารถทำทุกอย่างผ่านมือถือ โดยจากข้อมูลของ Thailand Digital Outlook ระยะที่ 3 ที่สำรวจระหว่างเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2564 พบว่า คนไทยซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้น 76.6% จากปีก่อนอยู่ที่ 37.7% ยิ่งเป็นการชี้ชัดให้เห็นว่าช่องทางออนไลน์ จากเดิมที่เป็นทางเลือกกลับกลายเป็น “ทางหลัก” โดยอีกหนึ่งช่องทางมีมาแรงและได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดดจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย นั่นคือ อีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) ทั้งนี้จากข้อมูลของ KKP Research โดยกลุ่มการเงินเกียรนาคินภัทร นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจไว้ว่า อีคอมเมิร์ซในปี 2563 ที่ผ่านมา ขยายตัวสูงถึงกว่า 80% โดยในส่วนของปี 2564 ได้คาดการณ์ว่าหลังโควิด-19 จะขยายตัวเฉลี่ย 20% ต่อปีตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้า และจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 3 แสนล้านบาท เป็น 7.5 แสนล้านบาทในปี 2568 หรือคิดเป็น 16% ของตลาดค้าปลีกรวม


 

เหนือสิ่งอื่นใด การจะประสบความสำเร็จทางช่องทางออนไลน์ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ การมองหา “พาร์ทเนอร์” ที่มีความชำนาญเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการติดอาวุธในสมรภูมิการค้า โดย ช้อปปี้ (Shopee) ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ถือพันธมิตรอีคอมเมิร์ซที่สำคัญที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย ด้วยความโดดเด่นของ E-commerce Ecosystem ที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Shopee Mall ที่นอกจากจะเป็นศูนย์การค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ที่เป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้บริโภคแล้ว Shope Mall ยังเพียบพร้อมด้วยเครื่องมือทางการตลาดที่ทันสมัย มีฐานข้อมูลเชิงลึก (Insight) ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถวางแผนและกำหนดกลยุทธ์ในการสร้างการรับรู้ ออกแบบกิจกรรมที่หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย สร้างปฏิสัมพันธ์ในระยาวผ่าน Loyalty program หรือนำเสนอ Loyalty privilege ต่างๆ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ได้แบบไร้รอยต่อ รวมไปถึงการส่งมอบ Personalized Experience ให้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังมีแคมเปญการตลาดและส่งเสริมการขายตลอดทั้งปี ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่อทั้งการซื้อซ้ำหรือซื้ออย่างต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้าเก่า และยังสามารถสร้างยอดขายเพิ่มเติมจากการขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ (Prospect) ได้อีกด้วย


 
ADVERTISEMENT


เพื่อเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ช้อปปี้ ได้นำเสนอตัวอย่างความสำเร็จจาก 4 แบรนด์ชั้นนำ ที่สามารถทำยอดขายและยอดติดตามร้านค้าอย่างเป็นทางการบน Shopee Mall ที่พร้อมเปิดเผยกลเม็ดและทีเด็ดทางธุรกิจเพื่อพิชิตเป้าหมายด้วยอีคอมเมิร์ซ


แบรนด์ใหญ่ ยิ่งต้องขยับไว ใช้วิสัยทัศน์ ปรับแผนธุรกิจ รับทุกความท้าทาย

เริ่มต้นที่ ยูนิลีเวอร์ (Unilever) ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค ที่มีสินค้าในกลุ่ม FMCG ซึ่งเป็นตลาดที่มีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปรับแผนลุยออนไลน์อย่างเต็มขั้น โดย นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย และภาคพื้นอาเซียน ได้เปิดเผยว่า “เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายสำคัญที่จะนำมาพาแบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคในทุกๆ ที่ และส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งและบริการที่เหนือระดับให้กับผู้บริโภคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ยูนิลีเวอร์เล็งเห็นถึงศักยภาพของอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มที่จะสามารถเข้ามาเป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน จึงได้เดินหน้าแผนงานโดยเริ่มนำสินค้าเข้ามาวางขายบน Shopee Mall และทำงานร่วมกับช้อปปี้อย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่แปลกใหม่และทันสมัย”


 
“เราสามารถกล่าวได้ว่าเต็มภาคภูมิว่า ยูนิลีเวอร์ เป็นแบรนด์แรกที่กล้าและเริ่มบุกเบิกการทำแคมเปญการตลาดในรูปแบบ Collaboration โดยเริ่มต้นด้วยแคมเปญ Unilever x Shopee Super Brand Day ซึ่งเป็นครั้งแรกบน Shopee Mall ในปี 2561 โดยได้กระแสตอบรับที่ดีเกินเป้าหมายด้วยยอดขายที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 250 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ จากความสำเร็จในครั้งนั้น ทำให้เราได้เพิ่มกำลังในการทำกลยุทธ์บนอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น จวบจนถึงปัจจุบันที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาด ยูนิลีเวอร์ ยังคงเป็นแบรนด์ชั้นนำที่สามารถเข้าถึงและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ และอาหาร ให้ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย สะดวกสบาย และปลอดภัย ในทุกที่ทุกเวลา ซึ่งตอกย้ำต่อเป้าหมายหลักของยูนิลีเวอร์ ที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยในทุกๆ ด้าน เราจึงได้ใช้ประโยชน์จากระบบดิจิทัลในการเพิ่มขีดความสามารถ พร้อมเดินหน้าตามพันธกิจที่ต้องการส่งมอบผลิตภัณฑ์ แบรนด์ และบริการชั้นนำ ที่จะสามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเหล่าผู้บริโภคได้ในทุกๆ วัน”


“เชื่อ” และ “ใช้” Data สรรหากิจกรรมความบันเทิงกระตุ้นการรับรู้บนโลกออนไลน์


 
อีกหนึ่งแบรนด์ที่ปรับตัวไวและพร้อมเปิดมุมมองการตลาดแบบ 360 องศา และยกระดับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านสู่อีกขั้น นั่นคือ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (Index Living Mall) นำโดย นายเอกฤทธิ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการ สายบริหารธุรกิจออนไลน์ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) บอกเล่าเรื่องราวการนำพาสินค้าที่มีมูลค่าสูงสู่สมรภูมิอีคอมเมิร์ซให้ฟังว่า “เรามองว่า แพลตฟอร์มนี้เปรียบเสมือนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่นอกจากจะเป็นศูนย์กลางรวบรวมสินค้าทั่วประเทศมาไว้ในจุดเดียวกันแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมเหล่านักช้อปที่กว้างขวางอีกด้วย โดยตั้งแต่ที่เราได้เข้ามาเปิดร้านออฟฟิเชียลสโตร์บน Shopee Mall สามารถเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น และทำให้ผู้บริโภคกล้าที่จะซื้อสินค้าที่ต้องใช้ข้อมูลในการตัดสินใจซื้อสูง (High Involvement) ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นจากการที่ Shopee Mall สามารถการันตีผู้ใช้งานว่าจะได้รับสินค้าแท้ 100% จากแบรนด์ดัง ส่งผลให้ผู้ใช้งานเชื่อมั่น ในสินค้าและบริการของเรา” 


“และจากการทำงานร่วมกันกับ ช้อปปี้ เรายังได้นำ Data และ Insights มาปรับรูปแบบการตลาดให้ตอบโจทย์ Personalized Marketing เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคแต่ละคนมากที่สุด รวมไปถึงการใช้เครื่องมือทางการตลาดที่ออกแบบมาให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และอยู่ในความสนใจของผู้บริโภค อาทิ Shopee Live, Shopee Feed, และ Shopee Games ที่ช่วยปรับเปลี่ยนรูปแบบการช้อปปิ้งออนไลน์จากเดิมที่ เข้ามาซื้อขายแล้วออกไป มาเป็นประสบการณ์การเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัดระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค จนสามารถช่วยผลักดันให้ Index Living Mall สามารถจับกับกระแสการเติบโตบนโลกออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยยอดขาย ที่พุ่งสูงกว่าเดิมถึง 2 เท่า ในช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมา”

 
เวทีแจ้งเกิดสำหรับโลคอลแบรนด์ เทียบชั้นแบรนด์ระดับโลกได้ด้วยกลยุทธ์เอ็กซ์คลูซีฟ

ต่อด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านโลคอลแบรนด์อย่าง SMARTHOME ที่นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในโลคอลแบรนด์ที่ฉายแสงและเติบโตอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดย นายธวัช มานะวงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท สเต็ป ฟอร์เวิร์ด กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย SMARTHOME แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตอบสนองรูปแบบชีวิตแนวใหม่ กล่าวถึงการเข้ามาทำตลาดและใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซในการสร้างแบรนด์ว่า “จุดขายที่สำคัญของ SMARTHOME ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาดก็คือ การเน้นย้ำเรื่องสินค้าที่มีคุณภาพ ที่มาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้ และการรับประกันสินค้าถึง 3 ปี ซึ่งนับเป็น pain point สำคัญในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าจำนวนมาก ไม่เพียงเท่านี้สินค้าของแบรนด์ SMARTHOME ยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ซึ่งนับเป็นมูลค่าเพิ่มในฐานะเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งภายในบ้าน และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ทันต่อความต้องการ ให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายยิ่งขึ้น และด้วยจิตวิญญาณความกล้าของเราไม่ว่าจะเป็นทีมผู้บริหารไปจนถึงพนักงานทุกคน เราจึงไม่หยุดที่จะพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมไปถึงการพัฒนาช่องทางการขายให้สอดคล้องกับเทรนด์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่องทางออนไลน์”


 
“โดย Shopee Mall ถือเป็นแพลตฟอร์มแรกที่ SMARTHOME ได้เริ่มมาทำตลาดออนไลน์อย่างจริงจังเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ซึ่งในขณะนั้นช่องทางออนไลน์ถือเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับผู้บริโภคชาวไทย แต่ด้วยการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทีมงานช้อปปี้ที่มีความรู้ความชำนาญ จึงทำให้ SMARTHOME เป็นที่รู้จักและสามารถเติบโตด้านยอดขายได้อย่างก้าวกระโดด และยิ่งในช่วงสถานการณ์โรคระบาดในช่วง 2 ปีมานี้ ทำให้ช่องทางการขายออนไลน์กลายเป็นช่องทางที่คนเข้าถึงสินค้าของเรามากขึ้น การได้เข้ามามีหน้าร้านบน Shopee Mall เป็นส่วนสำคัญในการสร้างยอดขาย และสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการสร้างแคมเปญที่แปลกใหม่ และการนำเสนอสินค้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยเปิดตัวและจำหน่ายสินค้าโมเดลเอ็กซ์คลูซีฟที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ Shopee Mall เท่านั้น ซึ่งช่วยสร้างกระแสความนิยมในสินค้าของเราได้เป็นอย่างดี และเกิดเป็นเทรนด์ที่คนให้ความสนใจอย่าง สินค้าในกลุ่มหม้อทอดไร้น้ำมัน ที่เรามีมากกว่า 10 รุ่นที่ขายบน Shopee Mall เท่านั้น ทั้งนี้ในแง่ของยอดขายในปัจจุบันเรามีสัดส่วนยอดขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์คิดเป็น 50% ของยอดขายบริษัททั้งหมด โดยหนึ่งในปัจจัยสู่ความสำเร็จนี้ส่วนหนึ่งมาจากความร่วมมือที่มีความเชี่ยวชาญในอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มอย่างช้อปปี้ บน Shopee Mall”

มากกว่าแค่ยอดขาย รวมพลังร่วมสร้าง Digital Mindset ยกระดับองค์กรให้โตอย่างยั่งยืน

ปิดท้ายด้วยแบรนด์ชั้นนำของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านในเมืองไทยอย่างเอสบี โดย นางธัญญรักข์ ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ ได้ให้มุมมองต่อการเข้ามาเป็นพันธมิตรกับ Shopee Mall ว่า “เราถือเป็นหนึ่งองค์กรที่มีความยืดหยุ่นสูงและพร้อมในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที การที่เราได้พันธมิตรอย่าง ช้อปปี้ ด้วยการเข้ามาเปิดร้านค้าบน Shopee Mall ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงความสมบูรณ์และครบวงจรของ E-Commerce Ecosystem ที่ประกอบด้วยปัจจัยที่มีความหลากหลาย ระบบหลังบ้านของช้อปปี้มีความเพียบพร้อมและมีเครื่องมือที่น่าสนใจใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Shopee Chat ที่ทำให้แบรนด์สามารถพูดคุย ตอบข้อสงสัย และยังสามารถให้ข้อมูลสินค้าได้ในทันที และยังรวมไปถึงคำแนะนำของทีมงานที่มีความชำนาญ

19398


เอ็กโก กรุ๊ป ได้รับคัดเลือกเป็น “หุ้นยั่งยืน ปี 2564” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ประเภทกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร สะท้อนภาพองค์กรให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้หลัก ESG พร้อมประกาศเป้าหมายมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050

วันที่ 6 ตุลาคม 2564 บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ได้รับคัดเลือกเป็น “หุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI)” ประจำปี 2564 ประเภทกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนให้เห็นว่าเอ็กโก กรุ๊ป ตระหนักและให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างความเติบโตทางธุรกิจ ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส ตรวจสอบได้ ควบคู่กับพันธกิจในการเป็นพลเมืองที่ดีด้วยการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมอย่างเกื้อกูล (Environment, Social and Governance – ESG) เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้ ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวว่า การได้รับคัดเลือกเป็นหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 สะท้อนให้เห็นว่าเอ็กโก กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 เอ็กโก กรุ๊ป สามารถปรับการทำงานเป็นแบบ New Normal จนดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ตลอดจนดูแลสุขภาพพนักงานและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ด้านสาธารณสุขของหน่วยงานต่างๆ เพื่อดูแลผู้มีส่วนได้เสียในภาวะวิกฤตอย่างรอบด้าน

นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ได้ประกาศเป้าหมายมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเราในการเป็นบริษัทไทยชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม

อย่างไรก็ตาม บริษัทในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2564 แสดงให้เห็นถึงการมีแนวทางการบริหารจัดการภาวะวิกฤตที่ครอบคลุมถึงการรับมือสถานการณ์โควิด-19 อย่างชัดเจน รวมถึงแสดงพัฒนาการด้านสิ่งแวดล้อมที่โดดเด่น ด้วยการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

ทั้งนี้ รายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI คัดเลือกจาก บจ. ที่เข้าร่วมตอบแบบประเมินความยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยตัวชี้วัดครอบคลุมมิติเศรษฐกิจ (รวมบรรษัทภิบาล) สังคม และสิ่งแวดล้อม และตัวชี้วัดตามลักษณะของธุรกิจในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งตัวชี้วัดเหล่านี้สอดคล้องกับประเด็นที่ผู้ลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจและเป็นประเด็นที่ภาคธุรกิจสามารถใช้ศักยภาพเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมได้

นอกจากนี้ รายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI จะถูกนำมาใช้เป็นเกณฑ์คัดเลือกดัชนี SETTHSI เพื่อส่งเสริมการลงทุนในหุ้นยั่งยืน ที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ซึ่งดัชนี SETTHSI มีการทบทวนทุกครึ่งปี

19399
ขายที่นา [ลาดหลุมแก้ว] 5ไร่ ๆละ800000 บ่อเงิน โทร 083-7124115

19400
ที่บนเขาวิวภูทับเบิก หล่มเก่า (เพชรบูรณ์) ไร่ละ140000 แบ่งขาย โทร 083-7124115

19403


ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตปราการหลังทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ออกโรงเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วถึงการคาดหมายทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ไปครองมากที่สุด

     ก่อนหน้านี้ คอมเมนเตเตอร์คนดังระบุว่า เชลซี มีโอกาสครองแชมป์ลีกเมืองผู้ดีมากกว่าทุกทีมเนื่องจาก โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ชาวเมืองไส้กรอกสร้างผลานได้อย่างน่าประทับใจ

     อย่างไรก็ดี หลังจบเกมบิ๊กแมตช์ที่ แมนฯ ซิตี้ บุกไปเสมอกับ ลิเวอร์พูล อย่างสุดมันส์ 2-2 อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษก็จัดแจงเปลี่ยนทีมตัวเต็งซะใหม่ทันทีด้วยมั่นใจว่า เรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะป้องกันโทรฟี่ได้สำเร็จ

     "สี่จากห้าเกมแรกของซีซั่น ผมนั่งดูและคิดว่า เชลซี เป็นทีมที่ยากแก่การเอาชนะ" ริโอ เฟอร์ดินานด์ เผยมุมมอง

     "ถัดมาในอีกสามจากสี่เกมหลัง ผมคิดว่า แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่ยากแก่การเอาชนะ พวกเขามองดูน่าประทับใจอย่างแรงในการดวลกับทีมยักษ์ใหญ่ด้วยกัน"

     "พวกเขาคุมเกมเหนือ เชลซี ในนัดที่ออกไปเยือนเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว พวกเขาเหนือกว่า ลิเวอร์พูล ในครึ่งแรกของวันอาทิตย์ และน่าจะคว้าชัยชนะออกไปได้"

ADVERTISEMENT


     "พวกเขาผิดหวังกันนิดหน่อยจากผลเสมอ 2-2 แต่พวกเขามองดูน่าประทับใจแบบสุดๆสำหรับผม พวกเขาแลดูน่ายำเกรงมากในตอนนี้"

     "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาครองเกมได้มากถึง 99% ปัญหาคือพวกเขาจะส่ง.เข้าประตูได้หรือเปล่า แต่หากทุกอย่างลงตัว ผมคิดว่าพวกเขาเป็นทีมที่ยากแก่การเอาชนะ"

     อดีตสตาร์ทีม ผีแดง ตบท้ายถึงคู่ปรับร่วมเมืองว่า "แมนฯ ซิตี้ มีประสบการณ์ และมีนักเตะชั้นเชิงสูง ดูเหมือนว่าพวกเขาในทีมทุกคนจะเล่นได้เข้ากันในทุกๆแท็คติก"

     อนึ่ง แมนฯ ซิตี้ มีคิวเปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ เบิร์นลีย์ หลังผ่านพ้นโปรแกรมของทีมชาติ ขณะที่ เชลซี จะทำศึก ลอนดอนดาร์บี้แม็ตช์ ด้วยการบุกไปฟัดกับ เบรนท์ฟอร์ด ส่วน ลิเวอร์พูล จะออกนอกบ้านไปโม่เกือกกับ วัตฟอร์ด

หน้า: 1 ... 1076 1077 [1078] 1079 1080 ... 1125