แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 24
199
ร้านอาหารที่ดีที่สุดในกระบี่จะทำให้แขกได้มีโอกาสลิ้มลองเมนูอาหารไทยแบบต้นตำรับจากทั่วประเทศ เช่นเดียวกับจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆที่มีคนไทยย้ายมาอาศัยอยู่เพื่อหาทางทำมาหากิน และก็ได้นำเอาเมนูอาหารของตนตามติดตัวมาด้วยจากทั่วทั้งประเทศเลย ดังนั้นเราจึงสามารถพบเมนูอาหารไทยทั้งหมดได้ในจังหวัดกระบี่

ที่แน่นอนว่าในกระบี่จะมีอาหารใต้และซีฟู๊ดส์ , อาหารอีสานเช่นส้มตำไก่ย่าง ซึ่งหาทานได้ง่าย ทุกคนสามารถเช็ก รายชื่อร้านอาหารเด็ดได้ในบทความนี้ ที่จะเป็นตัวช่วยให้ทริปกระบี่ของคุณ ได้มีโอกาสพบกับรสชาติอาหารไทยแท้แน่นอน


1.ร้านอาหารไทย บุษบา – อ่าวนาง

ตั้งอยู่ตรงข้ามกระบี่ไทยวิลเลจรีสอร์ท ในพื้นที่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอ่าวนางร้านอาหารไทยบุษบาเป็นร้านอาหารเล็กๆที่มีความสะอาดและมีการตกแต่งสไตล์ไทยร่วมสมัย ซึ่งสามารถรับแขกได้ถึง 48 คนพร้อมกัน ร้านนี้จะมีความเชี่ยวชาญเรื่องเมนูอาหารไทยแบบคลาสสิค บางเมนูจะเป็นอาหารฟิวชั่นและมีเมนูอาหารแบบเป็นเซ็ตให้ด้วย

    ช่วงเวลาเปิดทำการ : เที่ยงถึงห้าทุ่ม
    สถานที่ตั้ง : ถนนคลองแห้ง
    เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0)75 661 409 หรือ +66 (0)81 894 6486

2.ชาลิตา คาเฟ่ & เรสเตอรองท์

ร้านชาลิตา คาเฟ่ & เรสเตอรองท์ เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์เป็นบ้านไม้สไตล์วินเทจตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำกระบี่ ใช้เวลาเดินทอดน่องไม่นานก็จะถึงตัวเมืองกระบี่ ตัวร้านมีการตกแต่งอย่างเรียบง่ายผู้จัดการที่ดูแลร้านเป็นชาวอิตาลีซึ่งมีความเป็นมิตรและคอยใส่ใจลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ร้านชาลิตา คาเฟ่มีบรรยากาศดีทำให้เรารู้สึกเหมือนได้อยู่บ้าน ส่วนเรื่องเมนูอาหารนั้นทางร้านมีทั้งเมนูอิตาลีและเมนูอาหารไทย ขายในราคาที่สมเหตุสมผลคุณภาพของอาหารทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในร้านยอดนิยมที่สุดในจังหวัดกระบี่

    ช่วงเวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวันตั้งแต่สี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน
    สถานที่ตั้ง : ถนนเจ้าฟ้า , ห่างจากแม่น้ำกระบี่ 50 เมตร
    เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0)80 531 4831


3.ร้านครัวธารา

ครัวธาราเป็นร้านอาหารที่เปิดให้บริการอยู่แถวหาดนพรัตน์ธารามาเป็นเวลานานมากแล้ว โดยมีทำเลอยู่ทางตอนเหนือสุดของชายหาดข้างๆท่าเรือคลองห่าง ร้านอาหารนี้มีการเสิร์ฟอาหารแบบเรียบง่ายและรอยยิ้ม เป็นกิจการครอบครัวและเจ้าของร้านก็อนุญาตให้ลูกค้าเลือกปลาได้เองด้วย ก่อนที่พวกมันจะได้ไปว่ายน้ำในกระทะแทน หากเพื่อนๆกำลังมองหาร้านอาหารซีฟู้ดส์ราคาไม่แพงในหาดนพรัตน์ธาราอยู่ล่ะก็ ร้านครัวธารานี่ล่ะคือร้านที่เราต้องไปให้ได้

    ช่วงเวลาเปิดทำการ : สิบเอ็ดโมงถึงห้าทุ่ม
    สถานที่ตั้ง : คลองห่าง , ทางตอนเหนือสุดของหาด
    เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0)75 637 361


4.ร้านต้นมะยม

ตั้งอยู่ในเส้นทางที่คนไม่ค่อยรู้จักในซอยเล็กบนถนน 4203 ร้านต้นมะยมถือว่าเป็นเพชรในตมที่ซ่อนอยู่ในอ่าวนาง แม้ว่าจะเป็นร้านเล็กแต่ก็มีที่นั่งทั้งในร้านและนอกร้าน มีการตกแต่งแบบเรียบง่ายเห็นครั้งแรกก็รู้สึกว่าไม่ค่อยมีอะไร แต่เชื่อไหมว่าร้านนี้สามารถกลายเป็นหนึ่งในร้านยอดนิยมในอ่าวนางได้อย่างรวดเร็ว เราตัดสินร้านจากภายนอกไม่ได้จริงๆ ทางร้านจะเสิร์ฟอาหารไทยแบบดั้งเดิมแถมยังให้มาเป็นจานใหญ่ในราคาไม่แพงอีกอีกด้วย จึงไม่แปลกเลยที่จะเป็นร้านดังที่มีการบอกต่อกันปากต่อปาก เห็นสภาพร้านอย่างนี้แต่ถ้าใครไปร้านโดยไม่จองไว้ก่อนก็ต้องต่อคิวกันเลยนะคะ

    ช่วงเวลาเปิดทำการ : มีสองช่วงเวลาคือแปดโมงเช้าถึงบ่ายสองโมง และ ห้าโมงเย็นถึงห้าทุ่ม – ปิดวันจันทร์
    สถานที่ตั้ง : ซอย 11 ลีลาวดี ในอ่าวนาง
    เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0)89 735 0605


5.D&E’s Jungle Kitchen

D&E’s Jungle Kitchen ถูกจัดอันดับไว้ในบรรดาร้านอาหารที่ดีที่สุดในอ่าวนางเพราะมีระดับคุณภาพของอาหารไทยที่ยอดเยี่ยม ราคารับได้และมีบริการแบบเป็นกันเอง ตั้งอยู่บนถนนหลักที่จะนำเราไปสู่ตัวเมืองจังหวัดกระบี่ (500 เมตรหลังผ่านมัสยิดในอ่าวนาง อยู่บนถนนข้างเดียวกัน) , ห่างจากชายหาด 1.5 กิโลเมตร เป็นร้านอาหารเล็กๆที่ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ไผ่และหลังคามุงจาก เป็นกิจการครอบครัวของคนในท้องถิ่น มีบรรยากาศสบายๆและมีความเป็นท้องถิ่นอย่างมาก

    ช่วงเวลาเปิดทำการ : สิบโมงเช้าถึงบ่ายสองโมงครึ่ง ส่วนรอบบ่ายจะเปิดร้านตอนบ่ายสี่โมงครึ่งถึงสี่ทุ่ม
    สถานที่ตั้ง : ซอย 11 ลีลาวดี ในอ่าวนาง
    เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0)93 762 7486


6.ร้านใบตอง

เป็นร้านอาหารไทยในหาดคลองม่วง ถ้าขับรถมาจากอ่าวนางร้านจะอยู่ในช่วง 100 เมตรก่อนจะถึงนาคามันดา รีสอร์ท ร้านนี้เค้าจะขายอาหารไทยอย่างเดียว เป็นร้านสไตล์ Outdoor ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะแก่การทานอาหารแบบโรแมนติกหรือมาสังสรรค์กับเพื่อนในตอนเย็น ขึ้นชื่อในเรื่องของแกงเผ็ด , เมนูเฉพาะของทางร้าน , อาหารทะเลสด , และความคุ้มค่าของราคา , อาหารคุณภาพดีใช้วัตถุดิบสดใหม่ , มีรายชื่อค็อกเทลมากมายหลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น Mai Tai , Long Island Iced Tea และ Mojito

    ช่วงเวลาเปิดทำการ : สิบเอ็ดโมงถึงสี่ทุ่ม             
    สถานที่ตั้ง : ตรงข้ามทางเข้านาคามันดา รีสอร์ท
    เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0)81 978 4822


7.ร้าน Mangrove Restaurant

Mangrove Restaurant เป็นร้านอาหารที่ถูกสร้างด้วยไม้ไผ่และหลังคาจาก ตั้งอยู่บนทางเดินที่สามารถพาเราไปได้ทั้งทางหาดไร่เลย์ตอนตะวันตกและตะวันออก เป็นร้านอาหารเรียบง่ายที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากมาย , มีบรรยากาศผ่อนคลาย , ราคาสมเหตุสมผล และอาหารอร่อย ภายใต้ร่มเงาของต้นอัลมอนด์ ร้าน Mangrove Restaurant นำเสนอสถานที่สำหรับทานอาหารเย็นซึ่งมีเมนูอาหารภาคใต้ให้เลือกมากมายรวมไปถึงอาหารทะเลด้วย

    ช่วงเวลาเปิดทำการ : เก้าโมงเช้าจนดึกดื่น
    สถานที่ตั้ง : ตรงกลางระหว่างหาดไร่เลย์ตะวันออกและตะวันตก บนทางเดินที่จะพาเราไปถ้ำพระนางใน


8.แล เล กริลล์

ตั้งอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่งในอ่าวนพรัตน์ธารา , บริเวณเหนือสุดของอ่าวนาง แล เล กริลล์เป็นร้านอาหารที่มีเสน่ห์มาก มีพื้นที่กลางแจ้งขนาดใหญ่เหมาะแก่การลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่ ซึ่งจะว่ายน้ำรอเราอยู่ในอ่างปลาบริเวณหน้าครัว ร้านนี้เขาเชี่ยวชาญเรื่องอาหารซีฟู๊ดส์ และยังมีเมนูอาหารไทยและอาหารสากลให้เลือกอีกมาก โดยรวมแล้วมีการตกแต่งร้านอย่างดี , อาหารอร่อย และบริการดีเยี่ยม ร้านนี้ควรอยู่ในรายการของสถานที่ซึ่งควรมาให้ได้เมื่อมาเที่ยวอ่าวนาง

    ช่วงเวลาเปิดทำการ : สิบเอ็ดโมงถึงสี่ทุ่มทุกวัน
    สถานที่ตั้ง : 9 , หมู่ 3 , อ่าวนาง
    เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0)75 661 588 , +66 (0)81 787 9799


9.ตลาดเจ้าฟ้าไนท์มาร์เก็ต

ตลาดเจ้าฟ้าไนท์มาร์เก็ตเป็นตลาดกลางคืนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดกระบี่ จุดเด่นของที่นี่คือมีแผงขายอาหารกลางแจ้งเรียงรายอยู่เต็มข้างถนน เป็นโอกาสดีที่จะได้ลิ้มลองรสชาติอาหารท้องถิ่นซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่บาร์บีคิวซีฟู๊ดส์และเนื้อ , แกงเผ็ดและอื่นๆ ในบรรยากาศตลาดแบบไทยๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้เห็นชีวิตประจำวันของคนใต้เพราะเป็นตลาดที่คนท้องถิ่นมาเดินกันเยอะมาก ตลาดจะเปิดห้าโมงเย็นในตอนที่อากาศเริ่มเย็นลง ทำให้กลายเป็นตัวเลือกในการมองหาอาหารเย็นที่ดีมาก

    ช่วงเวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวันตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงเที่ยงคืนครึ่ง
    สถานที่ตั้ง : ท่าเรือเจ้าฟ้า , ถนนคงคา


10.ร้าน Local Thai Food Restaurant

ตั้งอยู่บนเส้นทางตอนเหนือสุดที่เชื่อมกับหาดไร่เลย์ทางทิศตะวันตกและตะวันออก แค่ชื่อร้านก็บอกแล้วว่าขายอาหารท้องถิ่น ร้านนี้มีอาหารไทยคลาสสิค ปรุงด้วยความรักและทีมงานในครัวซึ่งมีความมุ่งมั่น ทางร้านมีการตกแต่งแบบเบสิค มีเสาไม้ , หลังคาสังกะสี , โต๊ะและเก้าอี้พลาสติก , ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ร้านนี้โด่งดังหากแต่เป็นการได้ลิ้มลองเมนูอาหารไทยในราคาถูกบนหาดไร่เลย์ต่างหาก

    ช่วงเวลาเปิดทำการ : เก้าโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม
    สถานที่ตั้ง : อยู่ตรงกลางระหว่างหาดไร่เลย์ทางทิศตะวันตกและตะวันออก , บริเวณใต้หน้าผา
    เบอร์โทรศัพท์ : +66(0)89 591 7760

เมื่อพูดถึงร้านอาหารไทย ไม่ว่าจะภาคไหน ก็อร่อยด้วยกันทั้งนั้น เช่นเดียวกับร้านอาหารในกระบี่ แต่ละร้านที่เรานำเสนอไป เชื่อได้เลยว่า อร่อยทุกร้าน เพียงแต่อาหารก็จะมีรสชาติ ที่เป็นเอกลักาณ์ของแต่ละร้าน หากคุณอยากรู้ว่าแต่ละร้าน จะมีอาหารจานไหนเด็ด อาหารจานไหนที่ต้องทาน ก็สามารถเข้าไปลองทานกันก่อนได้เลย


10 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในจังหวัดกระบี่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ bit.ly/3VfCErf

200
เชื้อร้าย ฝุ่น มลภาวะเปลี่ยนปอดพัง เป็นปอดปัง ตัวช่วยสำคัญ “กระชายพลัส เอ็มเมด”บรรเทาอาการนอนน้อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย

คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ สาร Pandulatin A และสาร Pinostrobin ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสได้ 100%

จากงานวิจัยกระชาย มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชาย 4 ชนิด คือสาร Pinostrobin, Pinicembrin, Panduratin A และ Alpinetin ที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาผู้ป่วย ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้

จากงานวิจัยกระชาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
✅ คุณประโยชน์ของสารสกัดกระชายขาว ที่ช่วยลดและยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ในอากาศได้
✅ เมื่อปอดแข็งแรง การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากลมหายใจเข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย ผลิตเป็นพลังงานให้กับเซลล์
✅ และกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์ จึงส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี เราจึงไม่เหนื่อยหอบง่าย ไม่อ่อนเพลีย
“กระชายพลัส เอ็มเมด” โดยมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อการมีสุขภาพดี ปอดแข็งแรง พร้อมเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่แพร่ระบาด
สุขภาพปอดดี จะวิ่ง จะเดิน จะเวท ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลีย

มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นความสำคัญของ สารสกัดกระชายขาว จึงได้วิจัย พัฒนา และ สกัดสารสำคัญของกระชายขาว ที่มีคุณภาพ
จึงเป็นที่มาของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
ด้วยมาตรฐาน MST Standard จากมหาวิทยาลัยมหิดล จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณทาน กระชายพลัส เอ็มเมดคุณจะได้คุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีคุณภาพ ในการช่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรง ปอดมีสุขภาพดี

ส่วนประกอบสำคัญ
👉 สารสกัดกระชาย 200 มก.
👉 ยีสต์ เบต้า-กลูแคน 70% 100 มก.
👉 แคลเซียม แอสคอร์เบต ไดไฮเดรต (VitC) 60 มก.
👉 วิตามิน บี1, วิตามิน บี6, วิตามิน บี12
1 ขวด บรรจุ 30 แคปซูล (470 มิลลิกรัม/แคปซูล)

ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กระปุก      199    บาท
2 กระปุก      359    บาท
3 กระปุก     499     บาท


เลข อย. 13-1-02954-5-0548
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

ปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ เชื้อโรคในอากาศ อีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
เพื่อการมี สุขภาพดี ปอดแข็งแรง ภูมิต้านทานที่ดี ของคุณและคนที่คุณรัก

สนใจสั่งซื้อ กระชายพลัส เอ็มเมด (กระชายมหิดล)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


201
การดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟัน เป็นกิจวัตรประจำวันที่เราทุกคนจะต้องปฏิบัติและให้ความเอาใจใส่ เพราะการที่เรามีสุขภาพช่องปากที่ไม่ดีก็ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเราและอาจจะก่อให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้น เราจึงควรดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟัน เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและปราศจากโรคที่เกี่ยวกับช่องปาก ซึ่งโรคที่เกี่ยวกับช่องปากที่มักจะพบได้บ่อยคือ โรคเหงือกอักเสบและอาการเหงือกร่น ซึ่งวันนี้ทางคลินิก เราจะมาพูดถึงอาการเหงือกร่นว่าเกิดจากอะไร และสามารถป้องกันได้อย่างไร สำหรับอาการเหงือกร่นนั้น คือการที่เนื้อเยื่อขอบเหงือกรอบๆ ฟันร่นออกไปจนเห็นเนื้อฟันหรือรากฟันมากขึ้น ซึ่งเกิดเป็นช่องว่างระหว่างฟันและเหงือก โดยบริเวณนี้จะกลายเป็นแหล่งสะสมของคราบสกปรกและแบคทีเรียต่างๆ หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ต้องสูญเสียฟันธรรมชาติไป


แต่อาการเหงือกร่น อาจจะไม่สามารถรักษาให้หาย หรือกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ทำได้เพียงป้องกันเหงือกร่นลงไปอีก นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังควรรักษาอาการเหงือกร่น เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้เกิดความเสียหายของกระดูกฟันได้ ทั้งนี้เราควรที่จะสังเกตอาการผิดปกติต่างๆที่เกิดขึ้น โดยอาการของเหงือกร่นที่เห็นได้คือ ลักษณะเหงือกที่เปลี่ยนไป คือเนื้อเหงือกจะร่นลงจนเห็นตัวฟันมากขึ้น หากเป็นมากๆ ก็อาจจะทำให้เห็นบริเวณคอฟันหรือรากฟันได้ชัด นอกจากนี้ ยังอาจพบอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น อาการเสียวฟัน เหงือกบวมแดง มีเลือดออกขณะแปรงฟัน ลมหายใจมีกลิ่น และอาการฟันโยก ซึ่งอาการทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า คุณกำลังมีอาการเหงือกร่น

สำหรับสาเหตุของอาการเหงือกร่นนั้น สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ที่ร้ายแรงที่สุดคือ เกิดจากโรคปริทันต์ ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดเหงือกร่นแล้วยังนำมาสู่ปัญหาอื่นๆที่ร้ายแรงตามมาได้ จนอาจทำให้สูญเสียฟันได้ ส่วนสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดเหงือกร่น ได้แก่ การดูแลรักษาความสะอาดฟันที่ผิดวิธี เกิดอาการบาดเจ็บที่เหงือก โรคปริทันต์อักเสบ การสูบบุหรี่ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดอาการเหงือกร่น อันดับแรกเราจะมาพูดเรื่องของการแปรงฟันที่ผิดวิธี เพราะการแปรงฟันด้วยการถูไปมาในแนวนอน


อาจทำให้เหงือกร่นและคอฟันสึกได้ โดยอาการเหงือกร่นที่เกิดจากการแปรงฟันมักเกิดขึ้นบริเวณฟันเขี้ยว ฟันกรามน้อย ต่อมาคือสาเหตุที่เกิดมาจากโรคปริทันต์อักเสบ เป็นโรคเกี่ยวกับการติดเชื้อแบคทีเรียที่ส่งผลให้เหงือกอักเสบ โรคนี้ถือเป็นสาเหตุหลักของอาการเหงือกร่นเลยก็ว่าได้ และถ้าหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เนื้อเยื่อเหงือกและกระดูกที่รองรับฟันเสียหาย เหงือกร่น และตามมาด้วยฟันหลุดร่วงได้ นอกจากนี้ พฤติกรรมการสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อสุขภาพปากและฟัน ทำให้เกิดคราบที่ฟัน เหงือกอักเสบ และเหงือกร่นได้ เห็นมั้ยว่าสาเหตุที่กล่าวมานั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพช่องปากและฟันมาก ซึ่งวิธีง่ายๆของการป้องกันอาการเหงือกร่นหรือปัญหาช่องปากอื่นๆ นั่นก็คือ การดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกต้อง เข้าตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน กับทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือ ทุกๆ 6 เดือน เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันอาการเหงือกร่นได้

อย่างไรก็ตาม อาการเหงือกร่นนั้น ก็สามารถรักษาและป้องกันได้ โดยทันตแพทย์จะรักษาอาการเหงือกร่นตามสาเหตุ รวมถึงการทำความสะอาดคราบหินปูนบนฟันและผิวรากฟันใต้เหงือก พร้อมกับทำให้ผิวรากฟันที่โผล่ขึ้นมาเรียบกว่าเดิม เพื่อที่แบคทีเรียจะได้เกาะตัวได้ยาก นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการรักษาอาจได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดแบคทีเรียอันตรายที่ยังหลงเหลืออยู่ด้วย ซึ่งหากมีอาการไม่รุนแรง ไม่นานเหงือกก็จะกลับมาเป็นปกติดังเดิม แต่ในกรณีที่ยังคงมีเหงือกร่นเหมือนเดิม แม้จะรักษาที่ต้นเหตุไปแล้ว หรือกรณีที่ไม่อาจทำความสะอาดคราบหินปูนได้ เนื่องจากกระดูกและเบ้าฟันที่เสียหายนั้นอยู่ลึกมาก ทันตแพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยวิธีอื่น

ทั้งนี้ ทางคลินิก เราอยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อให้มีสุขภาพช่องปากที่แข็งแรง หากสนใจเข้ารับการรักษา สามารถติดต่อหรือขอคำแนะนำจากทันตแพทย์ของทางคลินิก ได้ ทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างเต็มที่อย่างแน่นอน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

จัดฟันบางนา: เหงือกร่น มีสาเหตุมาจากอะไร อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/

202
บริการ รถรับจ้างย้ายบ้านภูเก็ต ที่ดีและให้บริการงานที่คุณภาพจาก รถหกล้อรับจ้าง รถกระบะรับจ้างภูเก็ต ราคาถูกรับจ้างขนของทุกอย่าง ทุกวันและรถขนของอื่นๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นงาน ขนย้ายบ้าน ขนย้ายของ รับจ้างขนย้ายทั่วไป ขนย้ายวัตถุดิบทางการเกษตร ย้ายออฟฟิศ ย้ายสำนักงาน ขนย้ายร้านอาหาร ย้ายที่พัก หรือ รับจ้างขนของ อื่นๆทุกชนิด ด้วยงานบริการที่ใช้รถรับจ้างที่หลากหลายประเภท และให้บริการงานมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในงานบริการขนย้ายของของเรา


ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ เคยใช้บริการแล้วก็กลับมาใช้ซ้ำ เพราะประทับใจในงานบริการของเราทั้ง รถกระบะรับจ้างจังหวัดภูเก็ต รถหกล้อรับจ้างจังหวัดภูเก็ต รถรับจ้างขนของจังหวัดภูเก็ต ขนย้ายบ้านในจังหวัดภูเก็ต รถเฮี๊ยบรับจ้างจังหวัดภูเก็ต รถสิบล้อรับจ้างจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ถ้าท่านต้องเดินทางมาจังหวัดภูเก็ต เพื่อที่จะมาประกอบธุรกิจ หรือต้องการที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว ทางทีมงาน รถรับจ้างขนของจังหวัดภูเก็ต ก็ยินดีและพร้อมรับใช้ท่านตลอด 24 ชั่วโมง อย่าลืมนะครับหากแวะมาจังหวัดภูเก็ต อย่าลืมมาเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้แก่


ย่านเมืองเก่าตึกแถวโบราณ อาคารชิโนโปรตุกีส

พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว

บ้านชินประชา

จุดชมวิวเขารัง

ตลาดปล่อยของ

นางเรือกอจ๊านชมป่าชายเลน


รถหกล้อรับจ้างย้ายบ้านของเราในภูเก็ต เราจ้างที่ไหนได้บ้างจากรถรับจ้างของเรา

รถรับจ้างอำเภอเมืองภูเก็ต

รถรับจ้างอำเภอกะทู้

รถรับจ้างอำเภอถลาง 

นี่ก็เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยว ที่เอามาฝากกันเป็นเพียงน้ำจิ้ม มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในจังหวัดภูเก็ตยังมีอีกมากมายท่านลองแวะเข้ามาชมมาเที่ยวกันลองดูนะคะ หรือถ้าหากไปไม่ถูกต้องการที่จะให้เราเข้าไปช่วยให้ข้อมูลหรือต้องการจะสอบถามสถานที่พัก ก็สามารถโทรเข้ามาปรึกษากับเราได้ หรือหากต้องการที่จะ ขนย้ายของ ขนย้ายบ้าน ย้ายสำนักงานย้ายหอพัก และร้านอาหารก็สามารถใช้บริการ รถรับจ้างจังหวัดภูเก็ต ของเราได้ตลอด 24 ชั่วโมงยินดีให้บริการโทรมาเลยค่ะที่เบอร์

บริการรับจ้างขนย้ายในภูเก็ตและต่างจังหวัดตลอด 24 ชั่วโมงราคาถูก คุณภาพดี


รถรับจ้างย้ายบ้านภูเก็ต รถหกล้อรับจ้าง รถกระบะรับจ้าง รับจ้างขนของทุกวัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/

203
ไม่ว่าจะอยู่บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ หรือว่าคอนโด ปัญหาเสียงดังก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกรูปแบบการอยู่อาศัย หากสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยเสียงรบกวน รวมไปถึงโครงสร้างผนังเดิมไม่มีความสามารถในการกันเสียงดังทะลุเข้าออกได้ดีมากพอ นั่นเองที่ทำให้การติด “แผ่นกันเสียง” เพื่อเสริมเป็นระบบ “ผนังกันเสียง” อย่างเช่นการใช้ แผ่นกันเสียงจึงเป็นหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ในการช่วยแก้ไขปัญหาเสียงดังได้เป็นอย่างดี

แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากต้นเหตุของเสียงดังที่เป็นปัญหานั้นมีสารพัด จึงทำให้หลาย ๆ คนไม่แน่ใจว่า เสียงดังแบบไหนบ้างกันแน่ ที่การติดผนังกันเสียง ช่วยแก้ได้จริง วันนี้เราจึงรวมสารพัดปัญหาเสียงดัง ที่การันตีได้ว่าจะคืนความสงบเงียบให้กับพื้นที่ได้มากขึ้นแน่นอน เมื่อติดตั้งแผ่นกันเสียง มาฝากกัน ดังต่อไปนี้

1.    เสียงพูดคุยกันดังเกินไปของเพื่อนข้างบ้านข้างห้อง ตลอดจนเสียงทะเลาะเบาะแว้ง การถูกรบกวนจะได้รับการผ่อนหนักเป็นเบาขึ้นทันทีเมื่อเสริมระบบผนังกันเสียง เข้าไปกับระบบผนังเดิม

2.    เสียงร้องเพลงปาร์ตี้คาราโอเกะ จัดเป็นหนึ่งในเสียงดังรบกวนที่ทำลายความสงบสุขของการอยู่อาศัย ซึ่งหลายคนอาจไม่กล้าที่จะไปต่อว่าเพื่อนข้างบ้านโดยตรง เพราะกลัวต้องทะเลาะกันยกใหญ่ และทำให้เกิดการอึดอัดในการอยู่ร่วมกัน การติดตั้งแผ่นกันสียง เสริมให้ผนังเดิมหนาขึ้นด้วยวัสดุที่มีคุณสมบัติฉนวนกันเสียง จะช่วยให้เสียงเพลง เสียงปาร์ตี้จากเพื่อนบ้าน เบาลงแบบรู้สึกได้

3.    เสียงทีวีโฮมเธียร์เตอร์ดูหนังแบบคึกโครม ในเมื่อเสียงปาร์ตี้คาราโอเกะยังเบาลงได้ เสียงโฮมเธียร์เตอร์เปิดดูหนังเสียงดังก็สามารถเบาลงได้เช่นกัน หากผนังห้องของเราได้รับการเสริมความสามารถให้กันเสียงดังทะลุเข้าออกได้ดีขึ้นด้วยการติดแผ่นกันเสียงที่มีคุณภาพ

4.    เสียงรถจากถนน นับเป็นหนึ่งในปัญหาเสียงดังที่ทุกคนต้องการแก้ไขมากที่สุด เพราะบ้านทำเลดี ๆ ของหลาย ๆ คนก็อยู่ติดถนนใหญ่ หรือคอนโดทำเลใจกลางเมืองก็เรียกได้ว่าอยู่กึ่งกลางล้อมรอบด้วยถนนรอบด้าน จึงทำให้การอยู่อาศัยไม่ว่าจะเช้า สาย กลางวัน เย็น กลางคืน ทุกช่วงเวลาจะถูกเสียงดังรบกวนจากเสียงรถยนต์เสมอ เพราะทุกช่วงเวลามีรถแล่นผ่านตลอด ปัญหาดังกล่าวนี้ จะได้รับการเยียวยาแก้ไขคืนความสงบให้ได้มากขึ้น เมื่อมีการวางแผนติดตั้งผนังกันเสียงให้ ผนังทุกด้านของห้องกันเสียงดังทะลุเข้ามาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.    เสียงประกาศจากแหล่งชุมชน ไม่ว่าจะเป็นเสียงรถแห่ขายของ รถแห่หาเสียง เสียงการจัดกิจกรรมทางการตลาด เสียงงานวัด งานแสดงต่าง ๆ ฯลฯ ทุกเสียงดังที่ลอยตามลมทะลุผ่านเข้ามารบกวนเราได้ในบ้าน สามารถได้รับการแก้ไขให้ดังเบาลงได้ด้วยการเสริมผนังกันเสียง

6.    เสียงน้องหมาน้องแมว ปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งเสียงดังรบกวนที่พบได้บ่อย เพราะผู้คนหันมาเลี้ยงน้องหมาน้องแมวกันมากขึ้น ซึ่งโดยรวมเผิน ๆ นั้นเหมือนว่าน้อง ๆ จะไม่ได้เห่า ไม่ได้ส่งเสียงร้องมาก แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เลย กับน้องหมาน้องแมวบางตัว แค่มีเสียงก็อกแก็กนิดเดียวก็เห่าหอนส่งเสียงกันจ้าละหวั่น ที่สำคัญคือ ตอนดึก ๆ กลางคืนที่เรานอนหลับนั้น ก็มักมีการส่งเสียงดังเสมอ ดังนั้น การเสริมผนังกันเสียงจึงเป็นหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้เราปลอดภัยได้มากขึ้นจากการถูกรบกวนของสัตว์เลี้ยงสี่ขาของเพื่อนบ้านข้างห้อง

7.    เสียงดนตรีสดจากร้านอาหารจากผับบาร์คาเฟ่ หลาย ๆ บ้านอยู่ใกล้สถานบันเทิง ใกล้ร้านอาหารดนตรีสด จึงทำให้แทบทุกอาทิตย์จะต้องเจอเสียงดังรบกวนจากการร้องเพลงที่แม้จะไพเราะ แต่ก็เพราะว่าต้องการนอนมากกว่า จึงกลายเป็นปัญหาที่สร้างความหงุดหงิดและบั่นทอนสุขภาพกายใจ ทั้งนี้ การเสริมแผ่นกันเสียงให้กับผนัง จะช่วยทำให้ผนังห้องสามารถป้องกันเสียงดังจากร้านดนตรีสดได้ดีมากขึ้น

8.    เสียงก่อสร้างบริเวณใกล้เคียง แม้จะไม่ได้สามารถทำให้เสียงดังจากการก่อสร้างเงียบสนิทไปได้เลย แต่การเสริมผนังกันเสียงก็จะช่วยทำให้เสียงดังมาก ๆ นั้นเบาลงได้ ซึ่งจะเบาลงได้มากน้อยแค่ไหน ก็อยู่ที่ว่าเราอยู่ใกล้กับแหล่งกำเนิดเสียงก่อสร้างเพียงใด และเราเลือกใช้แผ่นกันเสียงที่มีคุณภาพระดับความกันเสียงดังได้สูงมากแค่ไหน

ทั้ง 8 หมวดเสียงดังที่กล่าวมา เรียกได้ว่าครอบคลุมปัญหาเสียงยอดฮิตที่หลาย ๆ คนอยากแก้ไข แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าจะให้อธิบายเพิ่มมากขึ้นอีกนิดเพื่อความมั่นใจในการตัดสินใจติดตั้งผนังกันเสียงเพื่อแก้ไขปัญหาเสียงดังก็คือ ทุกเสียงที่ไม่ใช่เสียงที่เกิดการการเคาะ กระแทก ตอก เจาะ ที่กระทบกับโครงสร้างผนังห้อง โครงสร้างที่อยู่อาศัยของเราโดยตรงนั้น การเสริมผนังกันเสียงจะสามารถช่วยลดความดังลงได้ ช่วยคืนความสงบให้กับพื้นที่เราได้มากขึ้น และนั่นเองที่ก็เลยกลายเป็นคำตอบไปด้วยในตัวเลยว่าเสียงแบบไหนที่ผนังกันเสียงไม่สามารถแก้ไขได้


ฉนวนกันเสียง: รู้ก่อนติดผนังกันเสียง เสียงดังแบบไหนแก้ได้แก้ไม่ได้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://noisecontrol365.com/

204
โครงการ PE : LA วุฒากาศ จาก ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ ตั้งอยู่บนถนนวุฒากาศ ใกล้รถไฟฟ้า BTS วุฒากาศเพียง 180 เมตร ใกล้ตลาดพลู และ เดอะมอลล์ ท่าพระ

เพ-ลา วุฒากาศ เป็นคอนโด High Rise 21 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 1-1-51 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 190 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ Duplex ขนาดเริ่มต้น 33 – 109 ตร.ม. เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัย

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ มีให้ครบครันได้แก่ Panoramic Pool View สระว่ายน้ำชั้น 19, ห้องฟิตเนส, สวนพักผ่อน, ที่จอดรถ ประมาณ 89 คัน หรือคิดเป็น 50% พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยทันสมัยด้วยการเข้าออกโครงโครงการระบบ Easy Pass พร้อมกล้องวงจรปิด และ รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท


ชื่อโครงการ    เพ-ลา วุฒากาศ / PE:LA Wutthakat
เจ้าของโครงการ    ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์
ลักษณะห้องและขนาดห้อง    1 Bed / 33 – 54.5 ตร.ม.
2 Bed / 58 – 109 ตร.ม.
Duplex / 45.5 – 92 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด    1 ไร่ 1 งาน 51 ตร.ว.
จำนวนตึก    1 อาคาร
จำนวนชั้น    21 ชั้น
จำนวนห้อง    190 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด    89 คัน หรือคิดเป็น 50% (ไม่รวมซ้อนคัน)
โซน    วุฒากาศ, รัชดา-ท่าพระ, ตลาดพลู

ขนส่งสาธารณะ    

    รถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ : 180 เมตร

รถโดยสารที่ผ่าน    

    รถประจำทางสาย 43, 111
    รถกระป๊อ ตลาดพลู-วุฒากาศ-บิ๊กซี

ที่ตั้ง    ซอยวุฒากาศ 21 ถนนวุฒากาศ เขตจอมทอง กรุงเทพ
กำหนดการ    n/a
ปีที่สร้างเสร็จ    พ.ศ. 2559
ราคา    เริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม    เริ่มต้น 67,xxx บาท/ตร.ม.

สถานที่สำคัญใกล้เคียง    ห้างสรรพสินค้าและตลาด

    ตลาดพลู : 1.2 กม.
    เดอะมอลล์ ท่าพระ : 2.1 กม.
    Big C ดาวคะนอง : 4.0 กม.
    Platform : 4.3 กม.
    Icon Siam : 5.6 กม.
    โรบินสัน บางรัก : 7.3 กม.
    เอเชียทีค : 5.9 กม.

สถานศึกษา

    ม.สยาม : 2.4 กม.
    รร.กรุงเทพคริสเตียน : 6.8 กม.
    รร.นานาชาติ โชรส์เบอรี่ : 6.9 กม.

สถานพยาบาล

    รพ.พญาไท 3 : 2.9 กม.
    รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า : 4.5 กม.
    รพ.สมิติเวช ธนบุรี : 4.2 กม.

อื่นๆ

    วัดปากน้ำภาษีเจริญ : 2.1 กม.
    วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร : 2.7 กม.
    สำนักงานเขตธนบุรี : 2.3 กม

สิ่งอำนวยความสะดวก    

    สระว่ายน้ำ ขนาด 18 x 6 เมตร
    ฟิตเนส
    Key Card Access – Easy Pass
    CCTV
    เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.


จุดเด่นของโครงการ    

    จำนวนยูนิตน้อย ไม่แออัด ให้ความเป็นส่วนตัวสูง
    เพียง 100 เมตร จาก BTS วุฒากาศ
    ใกล้ห้างสรรพสินค้าและร้านค้า


คอนโดติดรถไฟฟ้า เพ-ลา วุฒากาศ PE-LA Wutthakat อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/condo/publictransport/

205
คุณพ่อคุณแม่หลายคนที่ไม่เคยรับมือกับฟันลูกเมื่อเกิดอุบัติเหตุจนฟันลูกหัก อาจกังวลว่าควรจัดการกับฟันน้อย ๆ ของลูกอย่างไรดี ควรทิ้งหรือเก็บไว้ยังไงดี วันนี้เรามีวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาฝากครับ


ทำไมฟันลูกถึงหักง่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

อย่างแรกคุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าฟันน้ำนมของลูกที่ขึ้นมาตั้งแต่ช่วงแรกเกิดจนถึงอายุ 12 ปีนั้นมีความแข็งแรงน้อยกว่าฟันแท้ เมื่อเกิดการกระแทกอย่างรุนแรงจนทำให้ฟันเสียหาย จึงมีโอกาสหักหรือสึกกร่อนง่ายกว่าฟันผู้ใหญ่ที่เป็นฟันแท้



สาเหตุที่ทำให้ฟันหัก

    พฤติกรรมเสี่ยงที่เกิดจากความเคยชิน เช่น นอนกัดฟัน หรือแสดงอารมณ์โกรธแล้วกัดฟันแน่น
    การใช้ฟันผิดวิธี เช่น ใช้ฟันกัดของแข็ง, ใช้ฟันเปิดขวด
    การทำความสะอาดช่องปากไม่เพียงพอ หรือทำความสะอาดไม่ถูกวิธี
    การเล่นกีฬาที่มีโอกาสปะทะกันสูง เช่น ฟุตบอล, บาสเกตบอล
    อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเอง เช่น สะดุดล้ม, อุบัติเหตุจากการขับขี่ หรือการเล่นกีฬา


ฟันหลุดเลือดไหลทำยังไงดี

หากฟันน้ำนมหลุดตามช่วงวัยของเด็กให้ใช้สำลีประคบเหงือกตรงที่ฟันหลุดเบา ๆ เนื่องจากเป็นการหลุดแบบธรรมชาติจึงมีเลือดออกไม่มาก แต่หากฟันหลุดจากอุบัติเหตุหรือใช้ฟันผิดวิธี อาจทำให้เลือดไหลรุนแรงกว่าฟันหลุดธรรมชาติ จึงต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยวิธีต่อไปนี้


วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อฟันลูกหัก

    หากฟันหักขึ้นมาควรรีบแปรงฟันอย่างเบามือและบ้วนปากด้วยน้ำสะอาด เพื่อเคลียร์เศษอาหารและเศษฟันที่อาจตกค้างออกจากช่องปากให้หมด ทั้งนี้ไม่ควรแปรงฟันแรงเกินไป เพราะอาจทำให้เซลล์เยื่อยึดกระดูกและฟันตาย
    กรณีที่ฟันหลุดออกมา ต้องหาฟันที่หลุดออกให้พบโดยเร็ว และจับตัวฟันโดยสังเกตจากตัวฟันที่มีสีขาวกว่าและไม่มีปลายแหลม ห้ามจับรากฟันเด็ดขาดเนื่องจากรากฟันมีเยื่อยึดระหว่างฟันและกระดูก ซึ่งการจับรากฟันอาจทำให้ฟันที่หลุดนั้นใส่กลับเข้าไปไม่ได้
    เมื่อเลือดออกบริเวณฟันที่หัก ให้นำผ้าก๊อซมากดห้ามเลือดและใช้ถุงน้ำแข็งประคบลดอาการบวม
    ทานยาแก้ปวดสำหรับเด็ก เช่น พาราเซตามอล หรือไอบิวพรอเฟน เพื่อบรรเทาอาการก่อนไปพบแพทย์
    รีบพาลูกน้อยไปพบหมอฟันเด็กโดยด่วนที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะต่อฟันซี่ที่หักให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม

.
ฟันหลุดแล้วรักษาได้มั้ย รักษายังไง

หลังจากฟันหลุดจากอุบัติเหตุ ควรรีบพาลูกไปหาหมอฟันเด็กทันทีเพื่อให้หมอใช้กาวต่อฟันซี่ที่หักให้กลับเป็นปกติ ทางที่ดีที่สุดควรมาก่อน 30 นาที และไม่ควรเกิน 2 ช.ม. เพราะหากเกินจากนี้ อาจลดโอกาสที่จะต่อติดให้น้อยลงกว่าเดิม กรณีที่ไปไม่ทันเวลา คุณหมอจะอุดฟันหรือครอบฟัน (ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี) โดยหากใช้วิธีอุดฟัน คุณหมอจะใช้วัสดุสีเหมือนฟัน อุดช่องว่างบริเวณฟันที่หัก แต่หากเป็นกรณีที่ต้องครอบฟัน หมอฟันเด็กจะใช้เซรามิกหรือโลหะครอบฟันส่วนที่หักเพื่อให้ฟันกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม แต่หากพบฟันโยก หมอฟันจะแนะนำให้ถอนฟันซี่นั้นเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ จนสำลักฟันและกลืนลงคอ



วิธีเก็บรักษาฟันที่หักเพื่อนำไปรักษา

อย่างแรกที่ควรทำคือทำความสะอาดฟันที่หัก ไม่ควรโยนขึ้นฟ้าหรือทิ้งทันทีตามความเชื่อของคนโบราณ เพราะอาจลดโอกาสการรักษาหรือเพิ่มค่ารักษาที่ตามมาจากการรักษาฟันอีกด้วย

    ล้างฟันที่หักด้วยน้ำสะอาด หรือนมจืด ห้ามแช่ในน้ำประเภทอื่น เพราะอาจสร้างความเสียหายต่อฟัน
    อย่าปล่อยให้ฟันที่หักแห้ง ควรแช่ในน้ำ หรือแช่ในผ้าชุ่มน้ำ
    รีบนำฟันที่หักไปหาหมอฟันเด็กโดยเร็วที่สุด

.
ขั้นตอนการวินิจฉัยจากทันตแพทย์

    หมอฟันเด็กจะใช้กาวต่อฟันที่หักกลับเป็นปกติได้ในกรณีที่ไปถึงทันเวลา
    กรณีที่ไม่พบเศษฟันที่หักไปหรือไปไม่ทันเวลา ทันตแพทย์อาจซ่อมแซมโดยการอุดหรือครอบฟัน
    กรณีที่อุดฟัน ทันตแพทย์จะใช้วัสดุสีเหมือนฟันใส่เข้าไปอุดช่องว่างในฟันที่หักแล้วฉายแสงเพื่อให้ฟันมีลักษณะเป็นปกติ
    กรณีที่ครอบฟัน ทันตแพทย์จะใช้โลหะหรือเซรามิกล้วนครอบในฟันส่วนที่หัก เพื่อให้ฟันกลับมาใช้งานได้ดังเดิม
    หากพบว่าฟันที่หักโยกผิดปกติ ทันตแพทย์จะถอนฟันซี่นั้นทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสำลักเมื่อเกิดฟันหลุดในขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้
    หลังจากนั้นแพทย์อาจนัดติดตามอาการเป็นระยะ เพื่อตรวจดูความผิดปกติของฟันที่หัก และอาจซ่อมแซมฟันด้วยวัสดุทางทันตกรรม



จัดฟันเด็ก: แนะนำวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อฟันลูกหัก อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/

206
ในยุคที่เทคโนโลยีหมุนรอบตัวเรา การซื้อขายผ่านทางออนไลน์เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ทำให้เทรนด์การตลาดออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้คนนิยมหันมาสร้างแบรนด์ตัวเองกันอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์เครื่องสำอาง แบรนด์เสื้อผ้า แบรนด์อาหาร รวมไปถึงแบรนด์[^_^] เนื่องจากผู้คนให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านี้มากขึ้น ทั้งอยากดูแลผิวพรรณแต่ก็ยังหาสูตรที่ตรงใจไม่ได้ หรืออยากใส่เสื้อผ้าแนวนี้แต่ไม่มีขนาดให้เลือกมากนัก หลาย ๆ คนจึงออกมาสร้างแบรนด์ตัวเอง คิดสูตรเอง ออกแบบเอง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีหลากหลายแบบ

สำหรับสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางนั้นกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะผู้คนต่างดูแลผิวพรรณกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียน หรือวัยผู้ใหญ่ ทำให้ความต้องการของสินค้าเหล่านี้สูงตามความต้องการในท้องตลาด รวมถึงผิวพรรณของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ทำให้ความต้องการเครื่องสำอางในแต่ละประเภทก็แตกต่างกัน หลาย ๆ คนจึงออกมาสร้างแบรนด์ตัวเอง ผลิตสูตรขึ้นมาเอง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้านั้น ๆ   


 
เลือกสินค้าที่ใช่ เหมาะกับการสร้างแบรนด์ตัวเอง

ขั้นตอนแรกสำหรับการจะสร้างแบรนด์ตัวเองนั้น เราต้องรู้ก่อนว่าเราอยากทำอะไร อยากผลิตสินค้าประเภทไหน อาจจะเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวที่เราชื่นชอบหรืออยากที่จะทำ เช่น อยากสร้างแบรนด์ครีม เพราะชอบดูแลผิวพรรณ หรืออยากผลิตแบรนด์เครื่องสำอางสักชิ้น เพราะอยากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของเรา เป็นต้น เพราะการเริ่มต้นทำในสิ่งที่ชอบจะช่วยให้เราเข้าใจผลิตภัณฑ์ได้ดี ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานตรงกับความต้องการของเรา

 
ศึกษาตลาด กำหนดกลุ่มเป้าหมาย และรู้จักคู่แข่ง

เมื่อได้สินค้าที่อยากสร้างแบรนด์ตัวเองไว้ในใจแล้ว ขั้นตอนต่อมาเราก็มาศึกษาสำรวจตลาดเพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายคร่าว ๆ ว่ากลุ่มเป้าหมายแบรนด์เครื่องสำอางเราเป็นใคร เป็นเด็กวัยเรียนมัธยม เด็กวัยมหาวิทยาลัย หรือผู้ใหญ่วัยทำงาน แล้วต้องทำสินค้าประเภทไหนออกมาขาย เช่น ทำครีมกันแดด ทำเซรั่ม ทำโลชั่น ทำสบู่ และต้องเจาะแนวสินค้าอีกว่า ควรทำสูตรไหนออกมาขายถึงจะขายดีแข่งกับแบรนด์อื่นในท้องตลาดได้ รวมถึงการประเมินราคาที่อยากขายในท้องตลาดสำหรับกลุ่มลูกค้าที่เลือก

อีกทั้งยังต้องกำหนดวัตถุดิบแบบไหนเพื่อเป็นจุดขายให้กับแบรนด์ของตัวเอง เช่น ต้องการทำครีมกันแดดสูตรเนื้อน้ำที่อ่อนโยน โดยมีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ที่จะช่วยปลอบประโลมผิว คนที่มีผิวอักเสบก็สามารถใช้ได้ เป็นต้น เพราะกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันก็จะมีรูปแบบการทำการตลาดหรือความชอบที่แตกต่างกันด้วย หากสินค้าของเราดีแต่ไม่ได้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แบรนด์ของเราก็จะมีโอกาสเติบโตน้อย

นอกจากนี้การจะสร้างแบรนด์ของตัวเองเรายังต้องรู้จักคู่แข่งในตลาดเดียวกันอีกด้วยเพื่อจะช่วยให้เรานำข้อมูลมาวิเคราะห์เปรียบเทียบได้ รวมถึงสามารถนำข้อมูลมาพัฒนาธุรกิจของเราให้โดดเด่นมากขึ้นกว่าเดิม

หากเรามีข้อมูลการตลาดเหล่านี้จะช่วยให้เราทําแบรนด์ของตัวเองง่ายขึ้น เห็นภาพโดยรวมชัดขึ้น สามารถนำข้อมูลไปปรึกษากับทางโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางได้อย่างละเอียด รอบคอบ ไม่เสียเวลาคิดกลับไปกลับมา มีทิศทางในการเลือกสูตรและผลิตภัณฑ์ที่ต้องการทำได้อย่างชัดเจน

 
สร้างคอนเซปต์ เอกลักษณ์ เสริมความแตกต่าง ให้แบรนด์ของคุณโดดเด่น

ขั้นตอนต่อมาสำหรับการสร้างแบรนด์ตัวเองคือ จะทำอย่างไรให้แบรนด์เราเป็นที่จดจำได้ง่าย เมื่อพูดถึงแล้วผู้คนต้องนึกออกทันที นั่นก็คือการสร้างคอนเซปต์ หรือสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์นั่นเอง เพื่อเสริมให้แบรนด์เราดูโดดเด่นและแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ

การจะเริ่มต้นสร้างเอกลักษณ์แบรนด์ของตนเองได้นั้น สิ่งแรกที่อยากให้ลองนึกถึงก่อนการผลิตแบรนด์เป็นของตัวเองคือ “แบรนด์จะต้องสะท้อนมาจากตัวตนเจ้าของแบรนด์” แบรนด์ที่ดีและเป็นที่น่าจดจำจะต้องแสดงออกถึงตัวตนเจ้าของแบรนด์ด้วย อาจจะเริ่มจากความชอบหรืออยากผลิตอะไรออกมาเพื่อคนกลุ่มไหน เช่น อยากขายครีม โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยเรียน เอกลักษณ์ของแบรนด์ก็จะดูสดใส น่ารัก เหมาะสมกับวัยเรียน หรืออยากจะขายครีม โดยเน้นไปที่กลุ่มผู้มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิว เอกลักษณ์ของแบรนด์ก็จะดูมีความน่าเชื่อถือ ผลิตภัณฑ์เป็นแนวเวชสำอาง เป็นต้น

โดยขั้นตอนการกำหนดเอกลักษณ์เพื่อสร้างแบรนด์ตัวเองนี้ คุณจะต้องเป็นคนกำหนดแนวทางเองว่าจะให้แบรนด์ของคุณไปในทิศทางไหน เพื่อให้แบรนด์ของคุณแตกต่าง และโดดเด่นจากแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด


เลือกช่องทางการขาย และเทคนิคการทำการตลาด

การเลือกช่องทางการขายเป็นสิ่งสำคัญเช่นในการเริ่มสร้างแบรนด์ตัวเอง เพราะช่องทางการขายในปัจจุบันมีมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทั้งการขายสินค้าหน้าร้าน หรือขายผ่านทางออนไลน์ หรือจะขายทั้งสองอย่างควบคู่กัน ซึ่งแต่ละช่องทางก็จะมีเทคนิคการขายและการตลาดแตกต่างกัน รวมถึงช่องทางการรับรู้ของลูกค้าที่แตกต่างกันด้วย เมื่อเรามีช่องทางการขาย เทคนิคการขายก็จะตามมา

ในขั้นตอนการเลือกช่องทางการขาย คุณอาจจะต้องดูกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพื่อประกอบพฤติกรรมการซื้อด้วย หากรู้ว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของเราเหมาะกับกลุ่มลูกค้าแบบไหนก็จะช่วยให้เราทำการตลาดและทำธุรกิจง่ายขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ครีมของเรามีกลุ่มลูกค้าเป็นวัยเรียนจนถึงวัยทำงาน และเราไม่มีหน้าร้านก็อาจจะเลือกช่องทางการขายแบบออนไลน์มากกว่า โดยใช้เทคนิคการตลาดแบบออนไลน์ อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเช่าร้านหรือเสียค่าเช่าพื้นที่เพื่อวางจำหน่าย เป็นต้น

 
วางแผนการเงิน และกำหนดเป้าหมายในการสร้างแบรนด์

ในการเริ่มสร้างแบรนด์ตัวเองขั้นตอนการวางแผนการเงิน และกำหนดเป้าหมายในการสร้างแบรนด์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราต้องตระหนักไว้ว่าถึงแม้เราจะมีเงินทุนในการสร้างแบรนด์ตัวเองและผลิตสินค้า แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เราต้องมองในภาพรวมธุรกิจทั้งหมดว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่เราต้องสำรองเงินทุนไว้ เช่น ค่าออกแบบโลโก้ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ค่าทำการตลาดออนไลน์ หรือออฟไลน์ที่จะทำให้คนรู้จักและเห็นแบรนด์ครีมของเรา เป็นต้น การวางแผนการเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างแบรนด์ด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากกังวลเรื่องการควบคุมค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้การกำหนดเป้าหมายในการสร้างแบรนด์ตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะกำหนดเป้าหมายของแบรนด์ (Brand Purpose) จะทำให้เราทราบว่า ควรเริ่มจากปริมาณเท่าไร ควรทำอะไรต่อไป แบรนด์ของเราจะช่วยผู้บริโภคในด้านไหนบ้าง อีกทั้งแบรนด์ของเรายังต้องสื่อสารเป้าหมายของแบรนด์ไปถึงผู้บริโภคให้ได้ การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการทําแบรนด์เป็นของตัวเองจะช่วยให้ธุรกิจของเราเป็นไปได้อย่างมั่นคง

 
เสริมสร้างทักษะการสื่อสารและความเป็นผู้นำ

กลยุทธ์การทำงานเพื่อการสร้างแบรนด์ตัวเองที่มีประสิทธิภาพ ทักษะการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าจะ

เป็นการสื่อสารกับลูกค้าและการสื่อสารภายในทีมของเราเอง ในปัจจุบันการสื่อสารแบรนด์คือการขาย เพราะการที่ลูกค้าจะซื้อผลิตภัณฑ์ครีมชิ้นใดชิ้นหนึ่งนั้นเกิดจากประโยชน์การใช้ และความพึงพอใจ แบรนด์จึงต้องสื่อสารทั้ง 2 อย่างให้ตรงกับเงื่อนไขการตัดสินใจของผู้บริโภค รวมถึงการสื่อสารแบรนด์ที่ดีจะช่วยสร้างผลดีแก่ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีความเชื่อมโยงกับสิ่งที่แบรนด์เราอยากจะสื่อ

นอกจากการสื่อสารระหว่างลูกค้าแล้ว การทำแบรนด์ตัวเองยังต้องสื่อสารกันภายในทีมอีกด้วย การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของเราสำเร็จในระยะยาว และแข็งแรง ช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการดำเนินธุรกิจ




สอนสร้างแบรนด์: สร้างแบรนด์ตัวเอง เริ่มต้นอย่างไรให้ธุรกิจมั่นคง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://businesssmarttools.com/

207
เสื้อฟอร์มพนักงานออฟฟิศของพนักงานผู้หญิง รูปแบบดีไซน์เสื้อฟอร์ม พนักงาน ดูจะไม่ได้ระบุตายตัว เสื้อจะถูกตัดเย็บโดยข้อกำหนดให้ดูเหมาะสมกับสถานที่ทำงานซึ่งส่วนใหญ่พนักงานจะเป็นผู้เลือกแบบดีไซน์เสื้อฟอร์มกันเอง  ส่วนเรื่องผ้าที่นำมาตัดเย็บทางบริษัทจะเป็นคนกำหนดและจัดหามาให้กับพนักงาน ออฟฟิศ ทำให้เสื้อฟอร์มพนักงานออฟฟิศผู้หญิงที่เห็นกันจะมีความหลากหลาย ไม่ซ้ำแบบกัน แต่ยังไงก็ตามในบางบริษัท ก็จะกำหนดดีไซน์ตัวเสื้อให้กับทางพนักงานเองด้วย เนื่องจากบริษัทเหล่านั้นอาจต้องการเน้นภาพลักษณ์ที่เป็นทางการของทางบริษัทเอง

เนื้อผ้าที่นำมาตัดเย็บเสื้อฟอร์มพนักงาน ออฟฟิศ ของพนักงานผู้หญิงนั้นจะเป็นผ้าที่มีส่วนผสมของเส้นใย Polyester ด้วยคุณสมบัติของผ้าเน้นความสวยงานที่ดูเรียบหรู ทนทาน สีสันสวยงาม ดูแลง่าย เนื่องจากผ้าที่ผสมเส้นใย Polyester นี้เป็นเนื้อผ้าที่ยับยาก ซึ่งแทบไม่ต้องรีดเลย เนื้อผ้าโปร่งทำให้ผ้าแห้งใหญ่แม้จะตากในที่ร่ม แต่ตัวเนื้อผ้านั้นระบายอากาศได้ไม่ดี จึงเหมาะกับพนักงานออฟฟิศที่ทำงานในห้องปรับอากาศเป็นส่วนใหญ่ กับพนักงานที่ต้องออกนอกสถานที่บ่อยๆอาจต้องเลือกเป็นเนื้อผ้าที่มีส่วนผสมของเส้นใยธรรมชาติอยู่ด้วยเพื่อการสวมใส่ที่สบาย ระบายอากาศได้ดีขึ้น  ผ้าที่ได้รับความนิยมในการนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อฟอร์มพนักงาน ออฟฟิศหญิงมีอะไรบ้างรวมถึงมีเคล็ดลับการดูแลอย่างไร มาเริ่มกันเลย

               
1.ผ้าเส้นใย Polyester 100% หรือ ผ้า TK ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ของเส้นใย Polyester คือยับยากรีดง่ายและมีสีสันสวยงาม ผ้าชนิดนี้จึงมีคุณสมบัตินี้ 100% แต่ถึงแม้ตัวเนื้อผ้าจะโปร่ง และมีสัมผัสที่นุ่มสบาย แต่กลับระบายอากาศได้ไม่ดีเลยและไม่ควรลงแปรงในการซักผ้าเพราะจะทำให้ผ้าขึ้นเม็ดขุย ผ้าชนิดนี้จึงเหมาะสมกับการสวมใส่ในห้องปรับอากาศมากกว่าใส่ทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง

               
2.ผ้า TC เป็นที่มีส่วนผสมของเส้นใย Polyester กับ เส้นใย Cotton ในสัดส่วนที่ เส้นใย Polyester มากกว่าส่วนใหญ่ที่ใช้คือ Poly 80% Cotton 20% คุณสมบัติของเนื้อผ้าก็จะไม่หดตัว รีดง่ายยับยาก เช่นกันที่เพิ่มขึ้นจากผ้าเส้นใย Polyester 100% คือสามารถระบายอากาศได้ดีกว่าผ้าเส้นใย Polyester 100% แต่ก็ยังคงไม่เหมาะกับการสวมใส่ทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้งอยู่ดี

               
3.ผ้า CVC เป็นผ้าที่มีสวนผสมของเส้นใย Cotton มากกว่า เส้นใย Polyester ทำให้สามารถอากาศได้ดีอยู่ในระดับปานกลาง ในส่วนเรื่องเนื้อผ้าจะมีสัมผัสที่หนากว่าและไม่โปร่งเท่า ผ้า TCและ ผ้า เส้นใย Polyester 100% เน้นการสวมใส่สบาย เนื้อผ้ามีความทนทาน แต่อาจยับง่ายกว่า ผ้าทั้ง 2 ชนิด


ส่วนใหญ่ผ้าที่นำมาตัดเสื้อฟอร์ม ของพนักงานผู้หญิงก็จะเน้นเรื่องความสวยงามและความเรียบหรู มากกว่าการระบายอากาศ เนื่องจากการทำงานของพนักงานออฟฟิศผู้หญิงโดยมากจะอยู่ในห้องปรับอากาศเป็นหลักอยู่แล้ว


ชุดพนักงาน เสื้อฟอร์มพนักงานออฟฟิศ ของพนักงานผู้หญิง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://uniformdeluxe.com/

208
ปัญหาห้องเหม็นอับนอกจากจะสร้างความรำคาญแล้ว ยังกระทบไปถึงสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในระยะยาวได้ วันนี้เราจึงมีไอเท็มตามแบบธรรมชาติมาแนะนำ นอกจากจะมีสรรพคุณช่วยกำจัดกลิ่น ยังเป็นมิตรต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในบ้านได้อีกด้วย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย


1. น้ำส้มสายชู

ขอเริ่มกันที่น้ำส้มสายชู เพราะมีส่วนประกอบของกรดซึ่งมีกลิ่นที่ฉุน แต่ในขณะเดียวกันกลับมีคุณสมบัติที่ช่วยดูดกลิ่นต่าง ๆ ทำให้กลิ่นเหม็นอับไม่พึงประสงค์ในบ้านหมดไป ช่วยแก้ปัญหาห้องเหม็นอับได้เป็นอย่างดี วิธีการคือ เทน้ำส้มสายชูลงบนภาชนะแล้วนำไปวางไว้ในมุมที่อับชื้น หรือมีกลิ่น อย่างห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า หรือตู้รองเท้า เป็นต้น เพียงเท่านี้กลิ่นอับในห้องก็จะจางหายไปเองในที่สุด


2. ใบเตย

เพราะใบเตยขึ้นชื่อในเรื่องของคุณสมบัติที่ช่วยลดกลิ่นห้องเหม็นอับได้ดี โดยสามารถใช้ใบเตยหั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดประมาณ 1 นิ้ว นำไปใส่ภาชนะตั้งไว้ในห้องที่มีกลิ่นอับชื้น หรือตามมุมห้องต่างๆ เพียงเท่านี้กลิ่นเหม็นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็จะค่อยๆ หมดไป นอกจากนี้ใบเตยยังมีกลิ่นเฉพาะตัวที่หอมอ่อน ๆ ช่วยให้บรรยากาศในห้องดีและสดชื่นขึ้นอีกด้วย


3. ถ่านไม้

วิธีดับกลิ่นห้องเหม็นอับในห้องแอร์ด้วยถ่านไม้สีดำ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยกำจัดกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ชั้นยอดที่หาได้จากธรรมชาติ เพราะในถ่านไม้สีดำมีคุณสมบัติช่วยดูดซับกลิ่น เพียงแค่นำถ่านไปวางในห้องเหม็นอับ หรือพื้นที่มีกลิ่นเหม็นอับ เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนอน หรือแม้แต่ในตู้เย็น ถ่านไม้ก็สามารถช่วยกำจัดกลิ่นอับได้ ที่สำคัญหาง่ายและราคาไม่แพงอีกด้วย


4. เปลือกส้ม

เปลือกส้มถือเป็นไอเท็มจากธรรมชาติที่มีประโยชน์มาก ทั้งปรุงยา ไล่ยุง ทำเครื่องหอม หรือจะนำมากำจัดห้องเหม็นอับไม่พึงประสงค์ก็ได้ เพราะในเปลือกส้มนั้นมีกรดที่สามารถกำจัดเชื้อโรค ดับกลิ่นอับในห้อง ทั้งยังช่วยเพิ่มความหอมสดชื่นอีกด้วย วิธีดับกลิ่นอับในห้องแอร์ด้วยเปลือกส้มให้เรานำเปลือกส้มแห้งมาฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปใส่ถุงผ้าที่มีลักษณะโปร่ง จะทำให้กลิ่นของเปลือกส้มระเหยออกมาจากถุงผ้า และดูดซับกลิ่นเหม็นอับจนหายไป


5. มะกรูด

เชื่อว่าใครที่เริ่มมองหาตัวช่วยแก้ปัญหาห้องเหม็นอับ มักต้องนึกถึงมะกรูดก่อนเป็นอันดับแรกๆ เพราะเป็นอีกหนึ่งวิธีกำจัดกลิ่นอับในห้องที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก และหาได้ง่ายใกล้ครัว เพียงแค่ฝานมะกรูดออกเป็นชิ้น ๆ แล้วนำไปใส่ภาชนะวางเอาไว้ในห้องน้ำ หรือจะนำไปวางตามชักโครก ก็ดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยลดปัญหาห้องเหม็นอับให้หายไปได้เพราะในมะกรูดมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยดูดซับกลิ่น และช่วยให้บรรยากาศภายในห้องสดชื่นขึ้นได้นั่นเอง


6. ตะไคร้

เนื่องจากตะไคร้มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นหอมสดชื่น จึงช่วยดับกลิ่นอับในห้องได้ดี โดยการนำตะไคร้มาหั่น และตำให้ละเอียดก่อนนำมาใส่ผ้าขาวบาง แล้วนำไปวางตามจุดต่าง ๆ ในห้อง เพียงเท่านี้กลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องจะถูกแทนที่ด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของตะไคร้ แถมยังช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้ตะไคร้ยังมีประโยชน์อีกมากมาย ทั้งช่วยในเรื่องการไหลเวียนของโลหิต ฆ่าแบคทีเรียและเชื้อรา ไล่แมลงต่าง ๆ


7. ผงฟู (Braking Soda)

ใครที่ชื่นชอบการเข้าครัว ทำอาหาร หรือทำขนมคงไม่พลาดที่จะมีผงฟูเก็บไว้ในครัวอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นส่วนประกอบร่วมในการทำอาหารแล้ว ยังช่วยลดปัญหาห้องเหม็นอับ หรือกลิ่นอับในห้องได้ แค่นำผงฟูใส่ถ้วยหรือขวดโหล แล้วไปวางไว้ตามมุมต่างๆ ของบ้าน กลิ่นอับที่เคยรบกวนก็จะค่อยๆ หายไป


8. หัวหอม

แม้กลิ่นฉุนจะเป็นจุดเด่นของหัวหอมแต่อย่าละเลยมองข้ามการแก้ปัญหาห้องเหม็นอับด้วยไอเท็มนี้เป็นอันขาด เพราะหัวหอมมีคุณสมบัติช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี นำหัวหอมมาหั่นเป็น 4 ส่วน หรืออาจทุบนำไปใส่ภาชนะแล้วไปวางไว้ในห้อง นอกจากนั้นหัวหอมยังช่วยลดกลิ่นสีทาบ้านได้ดีอีกด้วย เรียกได้ว่ามีประโยชน์รอบด้านสุดๆ


9. การบูร

การบูรไม่เพียงเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับสมุนไพรที่ใช้ในการนวดประคบเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนผสมของเครื่องหอมนานาชนิดที่ช่วยแก้ปัญหาห้องที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี สามารถนำการบูรวางตามบริเวณต่างๆ ของบ้านหรือในตู้เสื้อผ้าได้ นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติช่วยทำให้จิตใจปลอดโปร่ง บรรเทาอาการปวดหัววิงเวียน รวมถึงช่วยไล่ยุงและแมลงได้อีกด้วย


10. ใบชา

ใบชาถือเป็นวัตถุดิบใกล้ตัวที่ดับกลิ่นห้องได้ดีเลยทีเดียว โดยขอแนะนำให้เอาใบชาที่มีในบ้านของคุณไม่ว่าจะเป็นใบชาสด ใบชาตากแห้ง หรือถุงชาแบบสำเร็จรูปจำนวนไม่มากไม่น้อยจนเกินไป มาวางทิ้งไว้ในห้องเพียงข้ามคืนก็สามารถช่วยลดห้องเหม็นอับได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว


บริหารจัดการอาคาร: 10 วิธีเปลี่ยนห้องเหม็นอับ ปลุกบรรยากาศบ้านสดชื่น อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/

209
การฝังรากฟันเทียม เป็นการรักษาปัญหาฟันที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ทดแทนการใส่ฟันปลอมที่นิยมในสมัยก่อน ซึ่งการฝังรากฟันเทียมเป็นทดแทนฟันที่มีประสิทธิภาพมากและมีการใช้งานที่เหมือนฟันธรรมชาติมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อทำการฝังรากฟันเทียมแล้ว อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นหลังจากที่ฝังรากฟันเทียมแล้ว ขณะที่กลับไปพักฟื้นอาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา

แต่หากผู้เข้ารับการรักษาทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ก็อาจจะทำให้มีอาการที่ดีขึ้น แต่หากไม่ทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อนได้ เพราะฉะนั้นการทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์จะเป็นการป้องกันปัญหาที่จะตามมาภายหลังได้

อย่างเช่นการรับประทานอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หลังจากทำการฝังรากฟันเทียม หรือผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ และสูบบุหรี่ขณะการพักฟื้น ก็อาจจะทำให้แผลหายช้ากว่าเดิม และเกิดการอักเสบติดเชื้อได้ เพราะการสูบบุหรี่ส่งผลโดยตรงต่อช่องปาก อาจจะทำให้รากฟันเทียมที่ทำการติดตั้งภายในช่องปากเกิดหลุดออกมาได้ การหลุดของรากฟันเทียมเกิดขึ้นได้จากที่ผู้เข้ารับการรักษารับประทานอาการที่แข็งและเหนียว ในขณะที่รากฟันยังไม่เข้าที่และยังไม่ประสานตัวกันอย่างสนิท หรืออาจจะมีการอักเสบติดเชื้อ ทำให้รากฟันหลุดได้ และปัญหาดังกล่าวนี้ ทำให้ทันตแพทย์ทำการแก้ไขได้ยาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องการการฝังรากฟันเทียมใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาการแก้ไขที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ดังนั้นการป้องกันและระมัดระวังในเรื่องของการรับประทานอาหารที่จะทำให้เกิดปัญหาที่จะทำให้รากฟันเทียมหลุดจึงมีความจำเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับการรักษาควรทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ระมัดระวังเรื่องของการรับประทานอาหาร ควรงดรับประทานอาหารที่แข็งและเหนียว ขณะที่รากฟันเทียมยังประสานตัวกันยังไม่สนิท รวมไปถึงผู้เข้ารับการรักษาที่มีประวัติการสูบบุหรี่ ก็ควรงดสูบตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และอักเสบของแผลและเหงือก และการดื่มแอลกอฮอล์ ก็ควรหลักเลี่ยงหลังจากที่ทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เพราะแอลกอฮอล์จะส่งผลแผลหายช้า และอาจจะทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกและแผลตามมาได้ และอาจจะส่งให้รากฟันเทียมหลุดได้ หากอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ที่คลีนิคได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ


วิธีการรักษา ด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด !

การผ่าตัดด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เป็นการรักษาทางทันตกรรม ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องของการทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป เพื่อจะช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษามีรอยยิ้มที่มั่นใจ และการใช้งานฟัน รับประทานอาหารอย่างมีความสุข ซึ่งหลายคนมีอาการหวาดกลัว เมื่อต้องเข้ารับการรักษาเกี่ยวกับทางทันตกรรม เพราะการรักษาฟัน อาจจะทำให้มีอาการเสียว และเจ็บปวดมาก เนื่องจากฟันนั้นมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกันเส้นประสาท อาจจะทำให้เกิดอาหารเสียวและอาการปวดไปถึงสมอง หลายคนกังวลเรื่องของความเจ็บปวด จึงไม่กล้าที่เข้ารับการแก้ไขปัญหาฟัน บางรายอาจจะละเลย จนทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมามากมาย

การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ฟังจากชื่อแล้ว ก็น่าจะเจ็บอยู่พอสมควร แต่การรักษาด้วยการฝังรากฟันเทียมนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด กลับกัน อาจจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้นหลังจากการฝังรากฟันเทียม การฝังรากฟันเทียม เป็นการทดแทนฟันธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพมากพอสมควร หากเทียบกับแต่ก่อนก็คือการใส่ฟันปลอมนั่นเอง แต่การผ่าตัดด้วยการฝังรากฟันเทียมนั้น เป็นการทดแทนฟันรูปแบบใหม่ ที่มีความสะดวกสบายมากกว่าใส่ฟันปลอม สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพราะทางทันตแพทย์ได้ทำการฝังรากฟันเทียมลงไปบนกระดูกขากรรไกร จึงทำให้รู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่าการใส่ฟันปลอมนั่นเอง



นอกจากนี้ยังสามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพียงแค่แปรงฟันหลังจากรับประทานอาหารและก่อนเข้านอน ซึ่งไม่ต้องถอดเครื่องมือออกมาทำความสะอาดนั่นเอง จึงทำให้เรารู้สึกเป็นธรรมชาติเหมือนเป็นฟันจริงๆ ทั้งนี้หากคุณต้องการเข้ารับบริการการรักษาด้วยการผ่าตัดรากฟันเทียม สามารถเข้ามาปรึกษาทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เกี่ยวกับรากฟันเทียมมาอย่างยาวนาน เรามีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษา มีสถานที่ที่สะอาดปลอดภัย ได้มาตรฐาน จึงมั่นใจได้ว่า หากเข้ามารับการบริการหรือปรึกษาปัญหาฟัน คุณจะได้รับความประทับใจไปอย่างแน่นอน



จัดฟันบางนา: ควรทำอย่างไร เมื่อรากฟันเทียมหลุด ?  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/

210
วิธีสร้างแบรนด์ สินค้าในปัจจุบัน สิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ ก็คือการตลาดซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะทำให้สินค้าหรือแบรนด์นั้นๆประสบความสำเร็จ แข็งแรง และ ติดตลาด ในการสร้างแบรนด์ให้ติดตฃาดก็มีกลยุทธ์ มีวิธีการต่างๆมากมาย ดังนั้นเราก็ต้องมาหาวิธีกันสักหน่อยว่า จะทำอย่างไรดีให้สินค้าของเราติดลมบนเป็นที่นิยมในท้องตลาด


1.สร้างจุดขายให้กับแบรนด์

การจะทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่นิยมในท้องตลาดที่มีการแข่งขันสูง สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือการหาจุดขายเพื่อนำมาใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการนำเสนอแบรนด์ของเรา แบรนด์ที่มีจุดขายที่โดดเด่น และแตกต่างจะสามารถเรียกความสนใจจากผู้บริโภคได้ และยังเป็นการสร้างพื้นที่ในตลาดให้กับแบรนด์ โดยจุดขายอาจมาจากตัวสินค้าที่มีความแตกต่างทั้งในส่วนของรูปแบบ สูตร ลักษณะการใช้งาน หรือบรรจุภัณฑ์ที่สวย เก๋ แปลกตา ใช้งานง่ายก็สามารถนำมาเป็นจุดขายได้เช่นเดียวกัน


2.ทำการตลาดอย่างสม่ำเสมอ

หากเราต้องการให้สินค้าของเราเป็นที่รู้จักในวงการ และเป็นที่พูกถึงในกลุ่มผู้บริโภค เราก็ต้องทำการตลาดอย่างสมั่นเสมอ หมั่นโฆษณาสินค้าและบริการของเราให้เป็นที่พูกถึง ทำการโฆษณาให้เป็นที่รู้จัก สร้างพื้นที่สื่อให้มีการกล่าวถึง ลงทุนกับการทำโฆษณาในตลาดสินค้าออนไลน์ เพื่อให้คนได้เห้นสินค้าของเราบ่อยๆในหน้าฟีด และเพื่อให้คนจดจำสินค้าของเราได้


3.เจาะกลุ่มเป้าหมาย

การหากลุ่มเป้าหมายให้กับสินค้าของเราก็เป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้สินค้าของเราติดตลาด อย่างการที่ตลาดผู้บริโภคของเราคือกลุ่มนักเรียนนักศึกษา เราก็ต้องทำความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายนั้น เพื่อที่เราจะได้รู้ว่ากลุ่มเป้สหมายของเราต้องการอะไร แล้วเราจะขายสินค้าของเราในระยะยาวได้อย่างไร


4.พัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ

การพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ทำได้หลายทาง อาจเป็นการปรับบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยตามกาลเวลา ปรับเปลี่ยนสูตรผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามความต้องการในท้องตลาด ไม่ให้สินค้าของเราหยุดนิ่ง เช่นหากสินค้าของเราคือเครื่องสำอางการผลิตคอลเล็กชั่นใหม่ๆออกมาก็ถือเป็นการทำการตลาดที่ดี เพราะจะทำให้มีการพูดถึงสินค้าของเราเรื่อยๆ และมีสินค้าชนิดใหม่ๆมาให้คนเลือกซื้อ ทำให้เกิดการขาย และเราสามารถนำส่วนนั้นมาต่อยอดในการรีวิวเพื่อเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย


5.คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์

ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องลบเอกลักษณ์ทิ้งไ ป การคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ถือเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ของเราได้ เราสามารถสร้างเอกลักษณ์ได้ด้วยการสร้างรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น ชื่อแบรนด์ที่จำง่าย การเลือกใช้สีในตัวบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปในรูปแบบใดคนก็จะยังจำได้ว่าสีนี้คือแบรนด์เรา


6.ติดต่อลูกค้าอยู่เสมอ

การที่เรามีปฎิสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เราเป็นที่จดจำ อย่างการเข้าถึงลูกค้าโดยใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียก็ถือเป็นอีกช่องทางที่ดีที่จะทำให้เราติดต่อลูกค้าได้ง่ายขึ้น อาจะเป็นการตอบข้อความ คำถาม ข้อสงสัยของลูกค้าในกล่องข้อความ ซึ่งการทำเช่นนี้จะเป็นการสร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับแบรนด์ของเรา ว่าเราสามารถตอบคำถาม และอธิบายข้อสงสัยของลูกค้าได้ แบรนด์เราใจดียินดีช่วยเหลือลูกค้าเสมอ ซึ่งชื่อเสียงในด้านดีนี้เองที่จะใก้ลูกค้ากล่าวถึงแบรนด์เราอย่างสม่ำเสมอ


วิธีการสร้างแบรนด์ อย่างไรให้แข็งแรง ติดตลาดไม่มีร่วง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://businesssmarttools.com/

211
ปัญหาเบสิกของทุกเช้าวันทำงานที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักพบเจอ นั่นก็คือการยืนงงอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า พร้อมกล่าวสบถในใจว่า "ไม่มีอะไรจะใส่" แม้จะคอยติดตามเทรนด์อยู่เสมอ หรือซื้อเสื้อผ้าใหม่มาจนแน่นตู้เสื้อผ้าก็ตาม เราเข้าใจปัญหานี้ดีค่ะ เราจึงนำทิปส์ง่ายๆ ที่เมื่อแต่งปุ๊บ ก็สามารถเปลี่ยนชุดทำงานแสนจำเจของคุณให้สนุกขึ้นปั๊บได้ทันทีมาฝากกัน ซึ่ง 7 วิธีนี้ทำเพียงข้อใดข้อหนึ่งก็ช่วยชุบชีวิตวันทำงานของคุณให้ดูพิเศษขึ้นได้แล้ว ลองดูค่ะ


1. เข็มขัดทำให้หุ่นเพรียวขึ้น

ไม่ว่าคุณจะแต่งตัวจำเจ หรือแม้แต่การสวมใส่ชุดธรรมดาอย่างเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ การเพียงเข็มขัดเข้าไปให้กับการแต่งตัวนั้น ลุคของคุณจะดูน่าสนใจขึ้นมาทันที เพราะมันคืออุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้คุณดูมีเอว สรีระดูมีส่วนเว้า ส่วนโค้ง ดูน่ามองกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยให้การแต่งตัวมีสไตล์และแพงขึ้นอีกด้วย



2. เติมเครื่องประดับลงไปหนึ่งชิ้นหรือมากกว่า

การเติมเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ อย่างสร้อย แหวน กำไล หรือต่างหูในพ.ศ. นี้มันเบสิกเกินไปแล้วค่ะ และเพื่อให้การแต่งตัวไปทำงานของเราดูสนุกขึ้น MIRROR แนะนำให้เติมเครื่องประดับชิ้นใหญ่ๆ ชนิดที่ว่าชิ้นเดียวแต่เอาอยู่ อย่างหมวกสีสันสดใส หรือกระเป๋าพิมพ์ลายหลายสีค่ะ เพราะไอเทมชิ้นนี้ต่อให้คุณแต่งตัวเรียบ มันก็ช่วยให้ลุคดูพิเศษขึ้นได้ทันที

ลองเพิ่มความสนุกด้วยการนำผ้าพิมพ์ลายผืนใหญ่มาโบกศีรษะ หรือผูกที่ผมดูสิ


3. แค่เติมสีการแต่งตัวก็สนุกขึ้น

เห็นดีเห็นงามเหมือนกันกับเรามั้ยคะ ว่าสีสันสามารถช่วยทำให้ชีวิตดูสดใสขึ้นได้ ฉะนั้นหากวันทำงานวันไหนรู้สึกเบื่อหน่าย หยิบเสื้อผ้าสีสันที่มีอยู่ในตู้มาสวมใส่เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการรวมสีที่อยู่ในโทนเดียวกัน หรือสีตัดแบบคัลเลอร์บล็อกก็ตาม การเพิ่มสีสันเข้าไปจะทำให้ลุคทำงานของคุณสนุกขึ้นกว่าที่เคยได้ทันที


4. เพิ่มไอเทมวินเทจลงไป

ช่วงนี้เทรนด์เสื้อผ้าวินเทจกำลังกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง หากสาวๆ ไม่อยากให้การแต่งตัวไปทำงานของคุณเกิดความรู้สึกจำเจ MIRROR แนะนำหยิบไอเทมวินเทจที่ชอบสักชิ้น มาผสมผสานกับความทันสมัยของเสื้อผ้าที่มีอยู่ในตู้ดูค่ะ รับรองว่าคุณจะได้เห็นการแต่งตัวที่ดูแตกต่างและน่าสนใจขึ้นกว่าที่ผ่านมาแน่นอน เริ่มจากกระเป๋าสักใบ หรือรองเท้าสักคู่ก่อนก็ได้นะคะ แล้วค่อยอัปสกิลไปยังชิ้นที่ใหญ่ขึ้นตามลำดับ


5. ลองใส่เสื้อผ้าดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร

อยากบอกว่าข้อนี้ MIRROR เลิฟและทำบ่อยมาก ซึ่งไม่ใช่การให้ทุกคนไปหาซื้อเสื้อผ้าที่มีชิ้นเดียวในโลกและมีราคาแสนแพงมาสวมใส่แน่นอนค่ะ แต่เป็นการใส่ใจในส่วนของงานดีไซน์ นำมามิกซ์แอนด์แมตช์ให้แตกต่าง หรือ DIY ใหม่ด้วยตัวเองต่างหากค่ะ เช่น การสวมเสื้อเกาะอกไว้ด้านนอกทับเสื้อชิ้นธรรมดา, การหยิบเสื้อยืดตัวเก่ามาทำเป็นเสื้อมัดย้อม หรือแม้กระทั่งเพ้นท์ลายลงบนกางเกงยีนส์ตัวเดิม เพียงเท่านี้เพื่อนๆ ก็จะได้สวมใส่เสื้อผ้าชิ้นใหม่ที่ไม่เหมือนใครอีกต่อไป


6. สวมใส่เสื้อผ้าพิมพ์ลายยังไงก็เวิร์ก

การมีเสื้อผ้าพิมพ์ลายไว้ในตู้เสื้อผ้าถือเป็นความง่ายต่อการแต่งตัวมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ลายทาง, ลายตาราง หรือลายพิมพ์สีสันสดใส การหยิบเสื้อผ้าลวดลายเหล่านี้มาสวมใส่จะช่วยให้การแต่งตัวของคุณโดดเด่นและสนุกขึ้นมาทันที ลองเริ่มต้นจากลายจุด หรือลายขวางก่อนก็ได้ค่ะ แล้วค่อยไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ จนไปถึงการแมตช์แบบลายชนลาย ลองดูสักครั้งค่ะแล้วคุณจะหลงรักลายพิมพ์


7. สวมใส่เนื้อผ้าใหม่ๆ

นอกจากการสวมใส่ยีนส์ หรือเนื้อผ้าแบบเดิมๆ เราแนะนำให้ลองหา texture ใหม่ๆ ดูบ้างค่ะ อย่างตอนนี้กงานหนังมาแรงมากๆ จากที่เคยหยิบยีนส์ไปแมตช์กับท่อนบน ลองเปลี่ยนเป็นการหยิบกางเกงหรือกระโปรงหนังมาแทน การแต่งตัวง่ายๆ ก็จะกลายเป็นความความรู้สึกและสไตล์ที่แปลกใหม่ขึ้นมาทันที ลบความจำเจได้ชัวร์ค่ะ 



วิธีเพิ่มความสนุกให้กับชุดทำงาน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://uniformdeluxe.com/

212
บัตรเครดิตไทเทเนียม โรงพยาบาลปิยะเวท ธนาคารกรุงเทพ – ไร้ความกังวลเรื่องของสุขภาพ

    รายได้ขั้นต่า  15,000 บาท/เดือน
    ดอกเบี้ย 18% ต่อปี
    ค่าธรรมเนียมแรกเข้า ฟรี !!
    ค่าธรรมเนียมรายปี ฟรี !!
    ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 45 วัน

จุดเด่นของบัตรเครดิต

    ส่วนลดจากโรงพยาบาลปิยะเวท
    ส่วนลด 40% โปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี
    ส่วนลด 30% สำหรับห้องพักผู้ป่วยใน (ยกเว้น ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล และค่าบริการโรงพยาบาล)
    ส่วนลด 10% อาทิ
    – ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก (ยกเว้น ค่าแพทย์ เครื่องมือพิเศษ ค่าแล็ปพิเศษ ยารายการพิเศษ และรายการเหมาจ่ายทุกรายการ)
    – ค่าบริการทันตกรรม 9 รายการ ดังนี้ อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน รักษาโรคเหงือก เคลือบฟลูออไรด์ การผ่าตัด-ถอนฟันคุด การรักษาฟันในเด็ก การรักษารากฟัน การฟอกฟัน (ยกเว้น การจัดฟัน การใส่ฟัน การฝังรากเทียม)
    – ค่าสมัครบัตรสมาชิกโรงพยาบาลปิยะเวท และการต่ออายุบัตรสมาชิกทุกประเภท
    – ค่าสมัครสมาชิก Fitness Member ที่ศูนย์สุขภาพคืนชีวิตชีวา ตรัยญา 1 ปี
    – ค่า SPA ที่ศูนย์สุขภาพคืนชีวิตชีวา ตรัยญา
    รับเงินคืนสูงสุด 2% จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตตามยอดรวมค่าใช้จ่ายผ่านบัตรต่อรอบบัญชี ดังนี้
    ไม่เกิน 25,000 บาท รับเงินคืน 0.50%
    ส่วนที่เกิน 25,000 – 100,000 บาท รับเงินคืน 0.75%
    ส่วนที่เกิน 100,000 – 200,000 บาท รับเงินคืน 1%
    ส่วนที่เกิน 200,000 บาทขึ้นไป รับเงินคืน 2%
    ฟรี! บัตรกำนัลด้านสุขภาพ และความงาม มูลค่า 3,850 บาท
    บัตรกำนัล TRIA One Day Pass ณ สถาบันศูนย์สุขภาพคืนชีวิตชีวา ตรัยญา มูลค่า 750 บาท
    ตรวจสุขภาพดวงตาโดยจักษุแพทย์ มูลค่า 1,200 บาท
    ตรวจสุขภาพช่องปากและฟันโดยทันตแพทย์ มูลค่า 400 บาท
    ตรวจวิเคราะห์เม็ดเลือด (LBA) มูลค่า 1,500 บาท
    บริการพิเศษผ่าน Piyavate Hotline โทร. (66) 0-2625-6500
    บริการให้คำแนะนำ และช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ ตลอด 24 ชั่วโมง
    บริการนัดหมายแพทย์ล่วงหน้าและแจ้งกลับภายใน 24 ชั่วโมง
    บริการรถพยาบาลสายด่วน
    รับสิทธิ์เข้าร่วมสัมมนาเฉพาะกลุ่มและสำรองที่นั่งก่อนใคร
    บริการสำรองที่จอดรถ
    ผู้ถือบัตรไทเทเนียม โรงพยาบาลปิยะเวท ธนาคารกรุงเทพ รับบริการสำรองที่จอดรถ ความสะดวกสบายอีกระดับ ในทุกครั้งที่มาใช้บริการที่โรงพยาบาลปิยะเวท
    ร่วมทำบุญกับธนาคารกรุงเทพ
    ธนาคารจะร่วมสมทบเงินบริจาค 0.2% จากทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในแต่ละรอบบัญชี ให้แก่มูลนิธิปิยะเวท
    สิทธิประโยชน์อื่นๆ จากบัตรไทเทเนียม ธนาคารกรุงเทพ
    ในฐานะผู้ถือบัตรเครดิตไทเทเนียม ธนาคารกรุงเทพ ท่านจะได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย


สิทธิพิเศษ

    รับเงินคืนสูงสุด 2% ทุกรอบบัญชี
    ส่วนลดสูงสุดถึง 40% จากจากโรงพยาบาลปิยะเวท
    ธนาคารจะร่วมสมทบเงินบริจาค 0.2% จากทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรให้แก่มูลนิธิปิยะเวท
    บริการให้คำแนะนำ และช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ ตลอด 24 ชม.

เงื่อนไขการสมัคร
คุณสมบัติของผู้สมัคร

    อายุ 20 ปีขึ้นไป
    มีสัญชาติไทย15,000บาทขึ้นไป สำหรับพนักงานประจำ และ15,000 บาทขึ้นไป สำหรับเจ้าของกิจการ
    อายุงานไม่น้อยกว่า 1 ปี สำหรับพนักงานประจำ และดำเนินธุรกิจมาไม่น้อยกว่า 3 ปี สำหรับเจ้าของกิจการ
    มีหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์มือถือที่สามารถติดต่อได้
    ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์และเงื่อนไขของธนาคารฯ


เอกสารประกอบการสมัคร

สำหรับผู้มีรายได้ประจำ

    สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ
    สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน
    สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3 เดือน หรือ 6 เดือนสำหรับ อาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอน
    หนังสือรับรองเงินเดือน หรือ สลิปเงินเดือน เดือนล่าสุด (ฉบับจริง)
    สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ของผู้สมัคร

   
สำหรับเจ้าของกิจการ

    สำเนาบัตรประชาชน
    หนังสือรับรองบริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด
    ทะเบียนการค้า หรือ หนังสือบริคณห์สนธิ (คัดสำเนาไม่เกิน 3 เดือนล่าสุดนับจากวันที่ออก)
    สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน ของกิจการหรือของผู้กู้
    สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ของผู้สมัคร




สมัครบัตรเครดิตไทเทเนียม โรงพยาบาลปิยะเวท ธนาคารกรุงเทพ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/creditcard/

213
ระบบ Smart Living ที่เป็นมากกว่า Home Automation ที่ดูแลการเปิด-ปิดไฟ ภายในบ้านแต่สามารถช่วยยกระดับการดูแลสังคมผู้สูงวัยได้ด้วย

Smart Home คืออะไร

Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะ คือ การนำเอาระบบเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาใช้ภายในบ้านเพื่อยกระดับการอยู่อาศัยให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะจากการสั่งการด้วยเสียงหรือผ่านแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์พกพาที่สะดวกง่ายแค่ปลายนิ้ว

นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงระบบ Home Automation ที่ช่วยให้อุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้านทำงานด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องออกคำสั่ง ยกตัวอย่างเช่น ระบบเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ภายในบ้านที่คอยเปิดประตู เปิดไฟ หรือเปิดเครื่องปรับอากาศให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งในปัจจุบันหลาย ๆ บ้านก็เริ่มคุ้นเคยกับเทคโนโลยีข้างต้นกันแล้ว

แต่นอกเหนือจากการเปิด-ปิดไฟหรือผ้าม่านแล้ว อีกขั้นของการทำ Smart Home และ Home Automation คือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อหรือ Integrate กับชีวิตมากขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีภายในบ้านเพื่อช่วยดูแลความปลอดภัยและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยในประเทศไทยก็มีผู้ประกอบการรายหนึ่งที่เล็งเห็นถึงความสำคัญตรงนี้ พร้อมกับตระหนักถึงการรองรับสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) จึงได้นำเทคโนโลยีเข้ามา ช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ


DoCare และเทคโนโลยี Home Automation ที่ช่วยดูแลผู้สูงวัย

DoCare คือ ผู้ช่วยในการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยให้กับคนในครอบครัว ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำให้การใช้ชีวิตดียิ่งขึ้น ตามสโลแกนที่ว่า “Smart Technology for Healthy Living” ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะของผู้สูงอายุ โดยจุดเริ่มต้นของ DoCare เกิดขึ้นจากการเล็งเห็นถึงปัญหาความปลอดภัยและสุขภาพของผู้สูงอายุ จากการที่ผู้สูงอายุในหลายบ้านอาจเกิดอุบัติเหตุพลัดตก หกล้ม ภายในบ้าน ในขณะที่ลูกหลานออกจากบ้านไปทำงาน ไม่มีคนดูแล

ผลเสียของการที่ผู้สูงอายุอยู่เพียงลำพังแล้วเกิดอุบัติเหตุนั้น นอกจากผู้สูงอายุจะบาดเจ็บแล้ว ยังมีเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาต่าง ๆ ที่ตามมา ที่เป็นความรับผิดชอบของสมาชิกในครอบครัวอีก DoCare เล็งเห็นความสำคัญของการป้องกันปัญหา และพยายามแก้โจทย์ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ทำให้บ้านมีความ Smart มากขึ้น ให้ตอบโจทย์ทั้งตัวผู้สูงอายุและสมาชิกครอบครัวที่เป็นผู้ดูแล

DoCare เล็งเห็นว่า ประเทศไทยควรมีเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยผู้สูงอายุที่ทัดเทียมกับต่างประเทศ ประกอบกับปัจจุบันเทคโนโลยีมีความพร้อมที่สามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ อีกทั้ง ราคาของอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ พวกเราที่เป็นลูกหลานที่ต้องการดูแลพ่อแม่จึงได้มารวมตัวกัน ก่อตั้งทีม DoCare ซึ่งเป็นสตาร์ตอัปขนาดเล็กขึ้น เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา ให้บริการ เพื่อยกระดับการดูแลผู้สูงอายุในสังคมไทย

นอกจากนี้ ยังมองว่า วันหนึ่ง พวกเราเองในฐานะผู้ที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงสูงวัยในอนาคต ก็ต้องได้ใช้เอง และสิ่งนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์จำเป็นภายในบ้านที่ต้องมีเฉกเช่นในหลายประเทศที่เริ่มมีอุปกรณ์ Smart Home สำหรับแจ้งเตือนอุบัติเหตุที่เกิดกับผู้สูงอายุและเทคโนโลยีดูแลสุขภาพอื่น ๆ ที่มีติดตามบ้านทั่วไป


เทคโนโลยีจาก DoCare ช่วยยกระดับการดูแลผู้สูงอายุได้อย่างไรบ้าง

เทคโนโลยี Smart Home ของ DoCare จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักด้วยกัน ได้แก่ โซลูชันที่ช่วยแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน และโซลูชันที่ช่วยดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัย


1. เทคโนโลยี Smart Home สำหรับแจ้งเตือนกรณีฉุกเฉิน (Emergency)

จากปัญหาหลักของผู้สูงอายุระหว่างที่ลูกหลานไม่อยู่ สิ่งที่น่ากังวลคืออุบัติเหตุจากการพลัดตกหกล้มภายในบ้านขณะที่อยู่เพียงลำพัง DoCare จึงได้ออกแบบอุปกรณ์ที่คอยช่วยแจ้งเตือนและขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุเพื่อป้องกันและลดความสูญเสียขึ้น

● Home safety ชุดอุปกรณ์เซนเซอร์ เพื่อติดตามสุขภาพและขอความช่วยเหลือ คล้ายกับปุ่มฉุกเฉินเรียกพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาล สำหรับในกรณีที่ผู้สูงอายุต้องการความช่วยเหลือหรือเกิดเหตุอะไรขึ้น ช่วยให้ครอบครัวทราบสถานการณ์ทันที พร้อมกับบริการ Care Center ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชม.

● Anywhere Safety ปุ่มกด SOS ขอความช่วยเหลือแบบพกพาสำหรับผู้สูงอายุที่ยังออกมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายนอกบ้านด้วยตัวเอง (Active Elder) ผู้ใช้สามารถกด SOS ขอความช่วยเหลือได้ หรือในกรณีหมดสติ ก็มีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับการล้มอัตโนมัติและส่งข้อความให้กับครอบครัวทราบทันที พร้อมบริการทีมฉุกเฉินให้ความช่วยเหลือ

● Smart Fall Detection Radar เรดาร์ตรวจจับการล้มภายในบ้าน สำหรับติดตั้งในพื้นที่ปิด เช่น ห้องน้ำ ห้องนอนส่วนตัว ช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย เมื่อเกิดการหกล้มหรือหมดสติขึ้นภายในบ้าน ระบบจะแจ้งเตือนไปยังสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวและ Care Center ของ DoCare โดยทันที


2. เทคโนโลยีที่ช่วยดูแลสุขภาพ DoCare Wellness Home Hub

นอกจากอุปกรณ์สำหรับแจ้งเตือนอุบัติเหตุแล้ว DoCare ยังมีอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) ที่ช่วยดูแลสุขภาพให้กับผู้สูงอายุหรือผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ที่ต้องการการดูแลสุขภาพแบบต่อเนื่องด้วย โดยในเซ็ตอุปกรณ์จะประกอบไปด้วย

● เครื่องวัดความดัน
● เครื่องวัดออกซิเจน
● เครื่องวัดน้ำตาล
● เครื่องวัดอุณหภูมิ
● เครื่องชั่งน้ำหนัก
● เครื่องแท็บเล็ตสำหรับทำหน้าที่เก็บข้อมูลสุขภาพจากอุปกรณ์วัดค่าสุขภาพดังกล่าวข้างต้นเข้าสู่ระบบ

โซลูชัน DoCare Wellness Home Hub มีระบบเก็บข้อมูลสุขภาพอัตโนมัติส่งตรงถึงแพทย์ โรงพยาบาล หรือศูนย์ดูแลสุขภาพต่าง ๆ ได้ และสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Tele-Medicine ให้ผู้อาศัยติดต่อกับแพทย์จากที่บ้านได้ ช่วยให้ไม่เสียเวลาเดินทางและลดการรับเชื้อโรคจากสถานที่เสี่ยง

ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ต้องคอยติดตามข้อมูลสุขภาพอย่างใกล้ชิด เช่น ผู้มีปัญหาความดันโลหิต ผู้ป่วยเบาหวาน รวมถึงผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดเลือดสมอง (Post-Stroke)

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มอุปกรณ์สำหรับสวมใส่ (Smart Wearable) ที่เข้ามาติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ นับจำนวนก้าวเดิน หรืออุปกรณ์ที่ใส่ที่นิ้วซึ่งสามารถวัดคุณภาพการนอนหลับได้ เพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งทั้งหมดนี้ จะเห็นว่า Home Automation นอกจากจะอำนวยเรื่องความสะดวก อำนวยเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังสามารถใช้ดูแลสุขภาพต่อเนื่องและการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันได้อีกด้วย

เนื่องจากต้นเหตุสำคัญของปัญหาสุขภาพมักมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวัน หากข้อมูลสุขภาพผิดปกติ แพทย์หรือผู้ให้บริการทางการแพทย์ (Healtcare Provider) ที่แลกเปลี่ยนข้อมูลกับระบบของ DoCare ก็จะทราบได้ทันที และให้คำแนะนำหรือให้ความช่วยเหลือผ่านฟีเจอร์ Tele-medicine ได้


ประโยชน์ของเทคโนโลยี Smart Home จาก DoCare

ด้วยเทคโนโลยี Smart Home for Healthy Living จาก DoCare ทั้งในกลุ่มของ Smart Home แจ้งเตือนเหตุและในกลุ่มส่งเสริมสุขภาพ มีกลุ่มคน 3 กลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วยกัน

● ประโยชน์ต่อผู้สูงอายุหรือผู้ใช้งาน เทคโนโลยี Smart Home ของ DoCare เข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความสูญเสียเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น การหมดสติและการหกล้มเพียงลำพังได้
● ประโยชน์ต่อครอบครัว ช่วยให้ครอบครัวและผู้ดูแลอุ่นใจว่า เมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นจะทราบทันที พร้อมกับมี Care Center ที่ให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญ (Professional Partner) คอยให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น รวมไปถึงการมีอุปกรณ์ช่วยดูแลสุขภาพให้กับผู้สูงอายุ
● ประโยชน์ต่อสังคมในภาพรวม เมื่อสามารถป้องกันเหตุอุบัติเหตุและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุลงได้ ก็จะช่วยลดต้นทุนในการดูแลรักษาผู้ป่วยในระดับประเทศได้ นอกจากนี้ Smart Home จาก DoCare ยังมีส่วนช่วยยกระดับการดูแลผู้สูงอายุในสังคมผู้สูงอายุให้ดีขึ้นอีกด้วย


การผลักดัน Smart Home for Healthy Living สู่ Smart City

การผลักดันและส่งเสริมให้เกิด Smart Home โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย เนื่องจากหลายครอบครัวไม่เข้าใจว่า อุปกรณ์แจ้งเตือนภัยหรือเทคโนโลยีที่เข้ามาส่งเสริมสุขภาพมีความจำเป็นอย่างไร จนกระทั่งเมื่อเกิดเหตุขึ้น จึงค่อยเริ่มมองหาอุปกรณ์เหล่านี้มาใช้งาน

สิ่งที่ DoCare กำลังทำ คือ การพยายามสร้างการรับรู้ถึงความจำเป็นในเชิงการป้องกันเหตุก่อนสาย โดย DoCare มองว่า โซลูชันเหล่านี้ คล้ายกับระบบตัดไฟอัตโนมัติหรือ Safety Cut ที่เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ป้องกันเหตุไฟไหม้จากไฟฟ้ารั่วไหล ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มีบ้านไหนที่อยากให้ระบบทำงาน แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยป้องกันความสูญเสียได้


ในปัจจุบัน DoCare พยายามผลักดันเทคโนโลยีและโซลูชัน Smart Technology for Healthy Living ให้เข้าถึงกลุ่มคนในวงกว้างมากขึ้น โดยลูกค้าสำคัญของ DoCare จะมีลูกค้าใน 3 กลุ่มด้วยกัน ดังนี้

1) โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Residence) ของเอกชน ที่ใช้ระบบ Home safety สำหรับแจ้งเตือนเหตุต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับผู้อยู่อาศัย รวมถึงมี “มุมสุขภาพ” ตรวจวัดค่าสุขภาพต่าง ๆ เป็นประจำ
2) โรงพยาบาลและผู้ให้บริการทางการแพทย์ (Healthcare Provider) ที่คอยติดตามสุขภาพของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการผ่านระบบ Tele-medicine และอุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพต่าง ๆ
3) กลุ่มลูกค้าทั่วไป ที่ติดตั้งระบบ Smart Home แจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินให้กับพ่อแม่หรือผู้สูงอายุในบ้าน พร้อมกับอุปกรณ์ตรวจวัดค่าสุขภาพที่เปรียบเสมือนตัวช่วยดูแลสุขภาพให้กับผู้อยู่อาศัย

เทคโนโลยี Smart Home ที่ช่วยยกระดับการดูแลผู้สูงอายุ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://techwealth99.com/

214
เราพร้อมให้ราคาค่ารถรับจ้างที่ถูกให้บริการคนยกของฟรีรถรับจ้างที่เหมาะสมและคู่ควรกับการขนย้ายขนของคนโดยรถรับจ้างขนย้ายของ ย้ายบ้านด้วย รถกระบะรับจ้างอ่างทอง บริการถึงที่ ถึงใจ  และมอบคุณภาพด้านการใส่ใจในการขนย้าย ลูกค้าที่อยากจะขนย้ายห้องพัก ห้องนอน ห้องโถง ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องเก็บของ ย้ายสำนักงาน ย้ายร้านอาหาร ย้ายร้านขายของชำ ย้ายร้านก๋วยเตี๋ยว ย้ายออฟฟิศ ย้ายห้องเช่า ทางเรายินดีให้บริการ ทุกท่าน เพียงโทรแจ้งมา ทางเรามีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการรับสาย ให้ข้อมูล อย่างตรงไปตรงมา เราคือรถรับจ้างที่มีขนาดใหญ่พอสมควรที่จะขนย้ายของทุกชนิดได้นั่นเอง ไม่เล็กเกินไป



จุดบริการ ของรถกระบะรับจ้าง อ่างทอง มีตามนี้

 
อำเภอเมืองอ่างทอง

อำเภอไชโย

อำเภอป่าโมก

อำเภอโพธิ์ทอง

อำเภอวิเศษชัยชาญ

อำเภอสามโก้

อำเภอแสวงหา

อ่างทองเมืองแห่งการท่องเที่ยว จะไปเที่ยวแต่ละทีก็ต้องมีการขนย้ายสัมภาระ ถ้าไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากเสียเวลาการยกของ จ้างรถกระบะขนย้ายของแบบเช่าเหมาคันกับทางเราได้ ทางเราบริการให้ ทุกท่านจะได้มีเวลาในการท่องเที่ยว และไม่ต้องมานั่งกังวล หรือเหนื่อยต่อการขนย้ายของ ของคุณลูกค้านั่นเองจ้า

บริการเน้นการให้คุณภาพและสร้างคุณค่าแก่การให้บริการโดยทีมงานขนส่ง บริการทันใจ เน้นเรื่องการขนย้ายปลอดภัย และมีประกันสินค้าให้เมื่อลูกค้าต้องการ การขนย้ายของที่ดีควรเลือกรถรับจ้างที่มีคุณภาพและมีพนักงานขับรถที่สุภาพ ขับขี่รถด้วยความปลอดภัยไม่ว่าจะใช้รถขนส่งประเภทไหนก็ตาม อาทิเช่น รถกระบะรับจ้าง กระบะรับจ้างย้ายบ้าน รถย้ายหออ่างทอง ขนส่ง รถส่งของ รถย้ายร้าน บริษัทรถรับจ้างอ่างทอง รถกระบะรับจ้างราคาย่อมเยา  ซึ่งการเลือกใช้บริการรถรับจ้างอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายของคุณลูกค้าทุกคนเพราะคุณลูกค้าทุกคนอาจจะคิดว่าเราควรหันมาเลือกใช้บริการรถกระบะรับจ้างเพราะรถรับจ้างสามารถช่วยเหลือในเรื่องของการขนย้าย ทั้งงานย้ายไซส์ งานขนเฟอร์นิเจอร์ งานเคลื่อนย้ายไก่ชน นก ผลไม้ ได้นั่นเอง


การหารถกระบะรับจ้างอ่างทอง จะหาจากที่ไหนดีหรือรถรับจ้างที่ไหนเป็นรถกระบะบรรทุกสินค้าที่มีคุณภาพบ้าง เพราะลูกค้ายังไงก็ต้องชอบคุณภาพมาตรฐานของรถหรือความปลอดภัยของการขับขี่ขณะขนย้ายและการพูดคุยของคนขับกับพนักงานด้วย ซึ่งการขับรถรับจ้าง กระบะส่งของ ของเราบริการรถรับจ้างขับขี่อย่างปลอดภัย ไม่ขับโดยเร็ว การเลือกใช้บริการรถรับจ้างของคุณลูกค้า ลูกค้าอาจจะคิดว่าเราควรจะเลือกใช้รถรับจ้างแบบไหนดี ซึ่งทางเราก็มีบอกนะคะ ถ้าเป็นรถกระบะรับจ้างหรือรถกระบะตู้ทึบรับจ้าง รถกระบะมีคอกรับจ้าง สามารถขนย้าย หอพัก คอนโด บ้าน ย้ายรถมอเตอร์ไซค์ ย้ายเฟอร์นิเจอร์ที่ขนาดไม่ใหญ่มากนักและไม่หนักมากนั่นเอง ซึ่งคุณลูกค้าจะชอบความสะดวกสบายอย่างแน่นอน


ถ้าเรามีความต้องการรถรับจ้าง รถส่งของ รถขนย้ายของ พร้อมพนักงานยกของเรามีบริการให้กับคุณลูกค้าบริการถึงหน้าบ้านยกของทั้งขาขึ้นและขาลงให้กับคุณลูกค้า บริการในราคาที่ถูกสะดวกและประหยัดโดยคุณลูกค้าไม่ต้องมาเสียแรงเหนื่อยยกของขึ้น เรามีบริการดีๆพนักงานพูดจาไพเราะสุภาพแถมทั้งลูกค้าสามารถติดรถไปกับพนักงานขับรถได้อีกด้วย เราบริการรถขนของในอ่างทอง หรือจะขนย้ายออกไปยังต่างจังหวัดอื่น เราก็พร้อมที่จะไปกับคุณลูกค้า


เรายินดีให้บริการรถรับจ้างแก่ลูกค้าทุกคนสนใจหรือต้องการใช้บริการรถรับจ้างก็ติดต่อมาได้ที่เบอร์ตามด้านล่างนี้ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงไม่เว้นวันหยุดราชการพร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำกับลูกค้าทุกคนยินดีให้บริการจากทีมงานระดับแนวหน้าของอ่างทองหรือในภาคใต้ของเราเรา รถส่งของ ขนของ ย้ายของ ไปไหนไปกัน เรายินดีไปทุกที่ ที่ลูกค้าได้ใช้บริการรถกระบะรับจ้าง บริษัทรถรับจ้างขนย้ายของทั่วประเทศไทยจ้า

โดยตามหลักความจริงแล้วรถรับจ้างมีหลากหลายแบบเช่นรถโดยสารขนส่งผู้โดยสารแต่รถรับจ้างของเราเป็นรถรับจ้างบริการขนย้ายของ ย้ายบ้าน ห้องเช่า หอพัก คอนโดเฟอร์นิเจอร์ บ้าน รถ ตู้เย็น สิ่งของทุกชนิดที่คุณลูกค้าต้องการให้ขนย้ายรถรับจ้างของเราได้รับการดูแลตรวจเช็คสภาพเครื่องรถบ่อยครั้งเพราะมีการวิ่งไปในระยะไกลเพราะเราบริการขนย้ายของทั่วประเทศไทยและทั่วอ่างทอง โดยคุณลูกค้าสามารถบอกข้อมูลการขนย้ายของสถานที่และสิ่งของที่จะขนย้ายว่าเป็นประเภทไหนนั่นเองซึ่งทางบริษัทของเราไม่เกี่ยงงานขนย้ายของให้กับคุณลูกค้า


รถกระบะส่งของ ขนของย้ายของ เป็นรถกระบะขนส่งในหรือต่างจังหวัด เรายินดีมากกว่าที่ลูกค้าไว้ใจและมาเลือกใช้บริการรถรับจ้างกับททางบริษัทขนส่งของเรามีรถ 4 ล้อหรือ 4 ล้อใหญ่รถกระบะรับจ้าง รถกระบะคอกรับจ้างในอ่างทองหรือรถกระบะตู้ทึบรับจ้างที่ในอ่างทอง ผู้คนใช้กันอย่างมากมายนั่นเองหรือมีรถรับจ้างอื่นๆให้กับคุณลูกค้าเลือกซึ่งถ้าคุณลูกค้าต้องการใช้บริการรถรับจ้างที่สะดวกปลอดภัยขอให้คุณลูกค้านึกถึงทีมงานขนส่งของเรา



รถรับจ้างอ่างทอง ย้ายบ้านด้วย รถกระบะรับจ้างอ่างทอง บริการถึงที่ ถึงใจ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/

215
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจจำนวนมากมีการนำเอาสินค้าขอตนเองลงขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ กันพอสมควร ซึ่งถ้าพูดถึงช่องที่ได้รับความนิยมสูงสุดต้องยกให้กับ “Facebook” ทว่าตลอดระยะเวลาที่เปิด Facebook Page เคยสังเกตเกี่ยวกับยอดการเข้าถึงของผู้ชมว่าเป็นอย่างไร ดีขึ้น ลดลงไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเมื่อลองเช็คดูแล้วปรากฏกำลังพบเจอปัญหายอดเข้าถึงตกแบบน่าใจหาย อยากให้มีกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงโพสต์ต่าง ๆ มากกว่านี้ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ Reach Facebook ยิ่งกว่าเดิม ว่าแต่Reach Facebook คืออะไร มีความสำคัญต่อธุรกิจออนไลน์แค่ไหน ทำไมต้องใช้มาศึกษากัน


ตอบคำถามให้หายสงสัย Reach Facebook คืออะไร?

Reach Facebook คือ จำนวนผู้ใช้งานที่มองเห็นคอนเทนต์ต่าง ๆ ของธุรกิจได้ทุกครั้งที่มีการโพสต์ใหม่ลงไป โดยค่าตัวเลขมาจากการกดไลก์, การ Comment, การตอบรับในเชิงลบ, จำนวนการคลิก รวมถึงบรรดายอด Engagement ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในส่วนของ Reach Facebook เองก็มีรูปแบบหลากหลายทั้ง Page, Post, Viral, Organic รวมถึง Paid โดยทุกยอดที่กล่าวมาเมื่อรวมกันแล้วก็จะเป็นยอด Reach ทั้งสิ้น

ตรงนี้อยากให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Facebook ว่านี่คือช่องทางออนไลน์แห่งหนึ่งที่พยายามสร้างลูกเล่นแปลกใหม่ให้กับผู้ใช้งานอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือธุรกิจ เพื่อสร้างความสะดวกสบาย ดังนั้นการมี Facebook Page ขึ้นมาก็เป็นลูกเล่นที่ระบบได้พัฒนาไปอีกระดับ แต่เมื่อสร้าง Facebook Page แล้ว มีหลาย ๆ ครั้งยังไม่ตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะบรรดาธุรกิจที่หันมาใช้ช่องทางนี้เพื่อสร้างรายได้จริงจัง วิธีที่ Facebook ช่วยได้ล่าสุดจึงเป็นการสร้าง Facebook Reach นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม บางคนอาจเกิดความสับสน เพราะคำว่า Reach บน Facebook เองก็มีอยู่เยอะมาก อาทิ Page Reach คือ จำนวนผู้เข้าใช้ Facebook แล้วเห็นโพสต์ที่มาจาก Page ของคุณเองในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ไม่ว่าจะเป็นช่วงระหว่างวัน ระหว่างเดือน เป็นปี หรืออย่าง Post Reach คือจำนวนผู้ใช้ Facebook ที่แค่ผ่านมาเห็นโพสต์ของคุณบน New Feed เท่านั้น


วิธีช่วยวัด Reach Facebook ที่ดีที่สุดคืออะไร?

ปัจจุบันผู้ดูแลสามารถแจ้งจำนวนผู้ติดตามแบบออนไลน์ในช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งได้ ผ่าน Facebook Insight ดังนั้น การเลือกนำ Post Reach มาเปรียบเทียบจำนวนแฟนเพจที่กำลังออนไลน์ในช่วงเวลาเหล่านี้จะทำให้เห็นภาพมากขึ้น ยกตัวอย่าง

    มีผู้ติดตามของ Facebook Page ออนไลน์กันมากในช่วงเวลา 15.00 น. จากผู้ติดตาม 9,500 จะออนไลน์ 3,500 ในช่วงเวลาดังกล่าว
    หากเราได้โพสต์คอนเทนต์ลงช่วงเวลา 15.00 น. โดยมียอด Post Reach ประมาณ 600 ครั้ง เมื่อมีการเปรียบเทียบแล้วการเข้าถึงคอนเทนต์จะเป็น 600 จาก 3,500 ผู้ติดตามไม่ใช่ 600 จาก 9,500 ผู้ติดตามนั่นเอง


Reach Faecbook มีความสำคัญต่อธุรกิจออนไลน์แค่ไหน ทำไมต้องใช้?

หลังจากที่รู้กันแล้วว่า Reach Facebook คืออะไร รวมถึงทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีช่วยวัดค่าที่ดีที่สุด ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหลายคนที่อยากได้เหตุผลมารองรับการใช้งาน Reach Facebook ซึ่งความสำคัญต่อธุรกิจออนไลน์มากทีเดียว

เพราะการใช้ Reach Facebook ทำให้รู้ถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสเข้ามาเห็นคอนเทนต์บน Facebook Page ซึ่งจะส่งผลต่อการโพสต์เนื้อหาต่าง ๆ ที่อยากให้กลุ่มคนเหล่านั้นพบเห็นได้ถูกเวลา ยิ่งมีการทำคอนเทนต์ประเภทดึงดูดใจ ยิ่งเพิ่มการมองเห็นออกไปได้สูงมากขึ้น นำมาซึ่งยอดขายสินค้าได้รับการตอบสนอง เป็นตามเป้าที่วางไว้

นอกจากนี้ ยังทำให้ธุรกิจสามารถวางแผนการขายได้ เปิดโอกาสกำไรเข้ามาไม่ขาดสาย แม้หลายคนจะบอกว่าการขายของออนไลน์สามารถโพสต์ได้ตลอด 24 ชม. แต่การรู้ถึงช่วงเวลาเจาะจงจะทำให้โพสต์เข้าถึงลูกค้าและมีผลตอบรับดีเยี่ยม


Reach จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

    Organic Reach ได้จากการที่มีผู้เข้ามาเห็นคอนเทนต์ของเพจทั้งแบบตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจ บางคนแค่เลื่อนผ่าน News Feed
    Paid Reach คือ การเลือกลงโฆษณาบน Facebook ซึ่งเป็นอีกตัวช่วยให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพราะโฆษณาจะขึ้นหน้า New Feed เพื่อคนที่กำลังค้นหาสินค้า บริการนั้น ๆ พบเห็นได้ทันที

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Reach Facebook คือตัวแปรสำคัญในการศึกษาข้อมูลและรู้ถึงกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาดูคอนเทนต์ทางออนไลน์ของเพจ สามารถวางแผนในการลงคอนเทนต์และทำการตลาดออนไลน์ได้เป็นอย่างดี ใครที่ต้องขายของแพลตฟอร์ม Facebook ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ของคนที่เข้ามาเห็นโพสต์ผ่าน Reach Facebook กันด้วยนะ



สอนทำธุรกิจออนไลน์: Reach Facebook คืออะไร มีความสำคัญต่อธุรกิจออนไลน์แค่ไหน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://businesssmarttools.com/

216
ด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่ร้อนขึ้นทุกวัน แต่บ้านส่วนใหญ่ยังคงถูกสร้างโดยไม่ได้คำนึงถึงสภาพอากาศที่ร้อน มีการออกแบบบ้านที่ไม่ดีพอและเลือกใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสม ทำให้ตัวบ้านเกิดการสะสมความร้อน อากาศภายในบ้านไม่ถ่ายเท รู้สึกร้อนอบอ้าว ทำให้ผู้อยู่อาศัยต่างหาวิธีที่จะทำให้บ้านเย็นขึ้นโดยส่วนใหญ่มักจะแก้ปัญหาโดยการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ซึ่งความร้อนจากการทำงานของเครื่องปรับอากาศส่งผลให้อากาศโดยรอบบ้านร้อนขึ้น  นับเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานและทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

อีกทั้งทำให้โลกร้อนมากยิ่งขึ้นด้วย วิธีที่จะลดการใช้พลังงานในบ้าน คือ ปรับวิถีชีวิต พฤติกรรม ให้สามารถอยู่อาศัยได้โดยมีการใช้พลังงานน้อยที่สุด หรือหากต้องใช้พลังงาน ก็ใช้อย่างมีประโยชน์ มีประสิทธิภาพมากที่สุด


1. บ้านที่ใช้พลังงานน้อย

ที่เห็นได้ทั่วไปเช่นในบ้านเราเช่น บ้านเรือนไทย สถาปัตยกรรมที่สะท้อนภาพชีวิตแบบไทย ทั้งในด้านความเป็นอยู่ ทัศนคติ และค่านิยม รูปแบบบ้านทรงไทยหลังคาจะเป็นทรงสูง เพื่อให้อากาศภายในเบาลอยตัวอยู่

ขณะที่ความร้อนจะถ่ายเทสู่ตัวบ้านหรือภายในห้องได้อย่างช้า ๆ เนื่องจากระยะความสูงของหลังคาทำให้ภายในตัวบ้านเย็นสบาย แม้จะมีห้องและฝากั้น แต่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นชานเปิดโล่ง ทำให้ลมพัดผ่านได้สะดวก

ทั้งลมจากใต้ถุนสูงที่พัดขึ้นมาข้างบนทำให้บ้านเย็นตลอดเวลา ลักษณะอีกอย่างหนึ่งของบ้านไทยที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาในการแก้ปัญหาอากาศร้อนคือ การสร้างชายคา ให้ยื่นยาวออกคลุมตัวบ้านมากกว่าบ้านทรงยุโรป

เป็นการป้องกันแดดไม่ให้เผาฝาบ้านให้ร้อน ป้องกันฝนสาด แดดส่อง และโดยรอบบ้านจะต้องมีสภาพแวดล้อมที่ดี เช่นมีต้นไม้ให้ร่มเงา มีแหล่งน้ำเพื่อช่วยลดอากาศร้อนก่อนที่จะเข้ามาในตัวบ้าน ถ้าสภาพแวดล้อมและการออกแบบตัวบ้านดีการใช้พลังงานก็จะน้อยลง


2. บ้านที่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะพื้นที่ในเมือง ที่มีความแออัด ไม่มีที่โล่ง ไม่มีต้นไม้  มีแต่ฝุ่นและควันรถ ไม่สามารถเปิดบ้านให้โล่งได้ เป็นผลให้จำเป็นต้องปิดหน้าต่างแล้วเปิดแอร์เพื่อปรับอากาศ

ดังนั้นบ้านจึงต้องออกแบบให้มีการรั่วซึมของอากาศน้อย ใช้วัสดุที่ช่วยป้องกันความร้อนไม่ให้เข้าสู่ภายในบ้าน เช่น การใช้ฉนวนกันความร้อน หรือใช้กระจกที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อน เพื่อให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพ และการออกแบบวางตัวบ้านต้องสอดคล้องกับทิศทางแดดลม


3. บ้านผลิตพลังงาน

บ้านสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ในระดับนึงผ่านทางแผง Solar Cell และนำพลังงานไฟฟ้านั้นมาใช้ในเรื่องของการระบายความร้อนในตัวบ้านผ่านทางเครื่อง Invertor(ไม่ใช่เครื่องปรับอากาศ)

โดยการออกแบบตัวบ้านต้องคำนึงถึงทิศทางของการวางแผง Solar Cell เพื่อให้ได้รับแสงมากที่สุด และที่สำคัญบริเวณรอบบ้านที่ร่มรื่นจะช่วยให้บ้านเย็นสบายขึ้น เมื่อบ้านได้รับการออกแบบวางทิศทางตัวบ้านที่ดี ใช้วัสดุที่เหมาะสม พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านก็จะน้อยลงเนื่องจากบ้านไม่มีความร้อน



4. บ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เมื่อบ้านถูกออกแบบให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถผลิตไฟฟ้าไว้ใช้ในการระบายความร้อนในบ้านได้ แนวคิดเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมจะถูกเสริมเพิ่มเข้ามาในการออกแบบบ้านด้วย


เทคนิคประหยัดพลังงานที่คุณเองก็ทำได้

1.หันบ้านให้ถูกทาง

ภาพแวดล้อมรอบๆบ้านมีส่วนช่วยทำให้บ้านเย็นสบาย การวางตำแหน่งบ้านที่ดีจะทำให้ภายในบ้านได้รับประโยชน์จากธรรมชาติมากที่สุด ความร้อนที่เกิดในบ้านส่วนใหญ่มาจากดวงอาทิตย์

ซึ่งดวงอาทิตย์จะขึ้น ทางทิศตะวันออกแล้วเคลื่อนตัว อ้อมไปทางทิศใต้ จนไปตกทางด้านทิศตะวันตก ดังนั้นการวางตำแหน่งของบ้าน อาจใช้หลัก “เปิดรับแสงด้านเหนือ” และ “กันแดดด้านตะวันตกและใต้


2.ปลูกต้นไม้

การปลูกต้นไม้บริเวณรอบๆบ้าน ต้นไม้จะมีส่วนช่วยปกป้องแสงแดดที่ส่องลงมาให้น้อยลง โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านครอบคลุมไปทั่วพื้นที่บ้าน จะทำให้บรรยากาศรอบๆ เย็นสบายนอกจากนี้ต้นไม้มีการดูดน้ำจากพื้นใต้ดินและเกิดการคายน้ำบริเวณปากใบ จึงทำให้เกิดความชุ่มชื้นขึ้นในอากาศ ทำให้อากาศรอบๆต้นไม้เย็นลง


3.ยอมให้ลมพัดผ่าน

การวางบ้านหรือช่องหน้าต่างที่เหมาะสมกับทิศ บ้านก็มีโอกาสที่จะรับลมได้มีทางให้ลมเข้า ต้องมีทางให้ลมออก การให้แต่ละห้องมีหน้าต่างอยู่ด้านตรงข้ามกัน จะทำให้อากาศถ่ายเทในห้องได้มาก รวมถึงอย่าวางเฟอร์นิเจอร์ขวาง หรือบังทางลมเข้าออกด้วย


4.แสงจากธรรมชาติ

การที่แต่ละห้องมีช่องแสงหรือหน้าต่างให้แสงธรรมชาติส่องสว่างเข้ามาในห้องได้นั้น ทำให้ไม่เสียค่าไฟฟ้าน้อยลง การรับแสงธรรมชาติเข้าบ้านที่ดีนั้นควรอยู่ในทิศทางที่ไม่มีแสงแดดเข้ามา

การที่มีช่องแสงหรือหน้าต่างทางทิศเหนือนั้น จะรับแสงสว่างจากธรรมชาติได้ดีที่สุด หรือทางทิศตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือที่ช่วงบ่ายจะไม่โดนแดด


สรุป

ในปัจจุบันบ้านประหยัดพลังงานในเมืองไทยที่เจ้าของบ้านทั่วไปสามารถจะก่อสร้างเพื่ออยู่อาศัยได้ พัฒนาขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก มีการนำระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มาประยุกต์ใช้

รับสร้างบ้าน บ้านประหยัดพลังงาน นวัตกรรมที่มิตรเป็นกับสิ่งแวดล้อม อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://luxuryhomesdesigns.com/

หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 24