แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - kdidd

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 9
62

มะขามป้อม ผลไม้สมุนไพรที่ก้องไกลระดับโลก
            ในบรรดาสมุนไพรทั้งหมดนั้น มีไม่กี่ประเภททีเป็นผลไม้สมุนไพรกล่าวคือ มีการนำมาบริโภคในรูปแบบผลสดแบบผลไม้ และอาจนำมาใช้แปรรูปเป็นยาสมุนไพรได้ด้วย  โดยชนิดหลักๆที่ผู้เขียนคิดขึ้นมาได้ก็จะมีอาทิเช่น สมอไทย ทับทิม กระเจี๊ยบ มะขาม ฯลฯ แต่ที่จะกล่าวถึงในที่นี้ก็คือ "มะขามป้อม" สมุนไพรที่พบได้ในไทย(ซึ่งจริงๆแล้วไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่เป็น 1 ในหลายๆประเทศที่ถูกระบุว่าเป็นถิ่นกำเนิดของมะขามป้อมเช่นกัน) สำหรับมะขามป้อมนี้นับได้ว่าเป็นสมุนไพรที่มีประวัติอันยาวนานมาก เพราะมีปรากฏในพระไตรปิฎก เล่มที่ 33 พระสุตันตปิฎก เล่มที่ 25 ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ มุสสพุทธวงศ์ ได้กล่าวว่า "พระพุทธเจ้า ปุสสพุทธเจ้าได้ประทับเพื่อตรัสรู้ ณ.ควงไม้มะขามป้อม หลังจากบำเพ็ญเพียรมาได้ 7 วัน (รวมถึงในตำราของพระภิกษุ ก็ยังระบุไว้ว่า มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีโอสถในตัว อาจเก็บไว้ฉันได้ยามวิกาลและโดยถือเป็นปรมัตถ์(หรือยา) และเมื่อนำมาดองกับน้ำมูตรก็จะเป็นยา รักษาโรคต่างๆและเป็นอายุวัฒนะได้เช่นเดียวกับสมอไทยดองน้ำมูตร เช่นกัน) "ซึ่งคาดเดาได้ว่า ในประเทศแถบเอเชียใต้ เช่น อินเดีย ศรีสังกา บังคลาเทศ นั้นอาจจะมีการใช้คุณสมบัติจากมะขามป้อมกันมาช้านานแล้ว ซึ่งก็มีข้อมูลสอดคล้องกับข้อสันนิษฐานดังกล่าวคือ ว่ากันว่า มะขามป้อมนี้ เป็นสมุนไพรที่คนในอินเดียใช้กันมาเป็นพันๆปีแล้ว โดยใช้ในสรรพคุณที่เป็นยาอายุวัฒนะ และคนอินเดียยังเรียกชื่อมะขามป้อมว่า Amla (อัมรา) หรือ Amalaka ซึ่งแปลว่า พยาบาล หรือ แม่ ซึ่งความหมายนี้สะท้อนให้เห็นว่า มะขามป้อม เปรียบได้ดังพยาบาลหรือแม่ของผู้ที่ใช้หรืออุปโภคมะขามป้อม เพราะมะขามป้อมก็จะช่วยดูแลสุขภาพของผู้อุปโภคเช่นกัน และเมื่อประมาณ 100 กว่าปีที่ผ่านมานี้ในสหรัฐอเมริกา ได้มีการศึกษาเกี่ยวกับมะขามป้อมอย่างจริงจัง โดยเริ่มตั้งแต่ในปี 1901 หน่วยงานเกษตรในสหรัฐอเมริกาได้นำเมล็ดมะขามป้อมไปเพาะที่รัฐฟลอริดา ตามสวนสาธารณะทั่วๆไปจนถึงปี 1945 ที่มีรายงานจากประเทศอินเดียว่ามะขามป้อม 1 ลูกนั้นให้วิตามินซีสูงกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ถึง 12 เท่า และมากกว่านี้ส้มคั้นสด ถึง 20 เท่าเลยทีเดียวและในสหรัฐอเมริกา มะขามป้อมได้กลายเป็นส่วนประหลักของยา Shawket ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาอาการของผู้ที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี รวมถึงยา Livzon ซึ่งใช้สารสกัดด้วยน้ำของสมุนไพร 5 ลักษณะ (มีมะขามป้อมรวมอยู่ในนั้นด้วย) เป็นยาป้องกันและรักษาโรคจากสภาวะ เอดส์ ไข้หวัดใหญ่ วัณโรค ตับอักเสบ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนผสมของยา Livad เยียวยาตับอักเสบและยา Glufac รักษาเบาหวาน ซึ่งยาทั้งหมดนี้ได้รับการจดสิทธิบัตรในอเมริกาแล้ว จะเห็นได้ว่ามะขามป้อม ผลไม้ผลเล็กๆ นี้มีสิ่งที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ข้างใน ซึ่งน่าจะเหมาะกับฉายา "เล็กพริกขี้หนู" จริงๆ

Tags : มะขามป้อม

64

ประโยชน์มากมี สรรพคุณมากมายในมะรุม
            หากกล่าวถึงพืชผักสมุนไพรที่มีประโยชน์และสรรพคุณในทุกๆส่วนแล้ว หลายท่านคงนึกถึงพืชผักสมุนไพรหลายๆคุณสมบัติ เช่น กล้วย ขิง กระชาย ข่า ฯลฯ ที่กล่าวมานี้สามารถมาใช้คุณสมบัติได้ในทุกๆส่วนไม่ว่าจะนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอาหารหรือเป็นเครื่องใช้ไม้สอยอื่นๆ รวมถึงยังมีคุณสมบัติทางยาอีกด้วย แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้หากไม่มีชื่อ "มะรุม" รวมอยู่ในนั้นด้วยก็คงจะเป็นการไม่ยุติธรรมกับพืชสมุนไพรประเภทนี้เพราะว่ามะรุมนั้นเป็นพืชที่มีความหัศจรรย์ กล่าวคือมะรุมสามารถนำมาใช้ทำอาหารและยังมีประโยชน์ทางยาอาจใช้รักษาโรคต่างๆได้หลายโรค อีกทั้งเป็นที่ชอบใช้ในหลายๆประเทศส่วนการแพร่กระจายพันธุ์ของมะรุมนั้นก็ยังอาจขึ้นได้ดีในดินทุกสภาพและทนทานต่อความแห้งแล้งตามที่ได้นำเสนอมาแล้วนั้น ในที่นี้เราจะกล่าวถึง ประโยชน์และสรรพคุณของมะรุมพืชผักสมุนไพรใกล้บ้านกันนะครับ แน่นอนว่ามะรุมนั้นคนไทยนิยมนำมาใช้สรรพคุณโดยเรานำมาเป็นอาหารกันตั้งแต่ช้านานแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่ามะรุมมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก โดยในใบมะรุมมีโปรตีนสูงกว่านมสดถึง 2 เท่า และยังมีธาตุอาหารที่สามารถป้องกันโรคต่างๆในคุณภาพที่สูง เช่น มิวิตามินเอ มากกว่าแครอทถึง 3 เท่า มีวิตามินซี 7 เท่าของส้ม  มีแคลเซียมมากว่า 3 เท่าของนมสด มีโพแทสเซียม 3 เท่าของกล้วย รวมถึงเป็นอาหารที่มีพลังงานไม่มาก เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนัก ส่วนประโยชน์ในด้านอื่นๆคือ เมล็ดของมะรุมใช้ทำน้ำมันมะรุมเพื่อใช้ปรุงอาหารแทนน้ำมันพืช ช่วยบำรุงรักษาผิวชะลอความเหี่ยวย่นของผิว ลดอาการผื่นผ้าอ้อมในเด็ก บรรเทาอาการอักเสบของรูขุมขนและสิว ช่วยชะลอจุดด่างดำบนใบหน้า รักษาอาการผมร่วง คันศีรษะ ส่วนสรรพคุณทางยาของมะรุมนั้นก็มีมากมายโดยแยกตามส่วนต่างๆของมะรุมได้ดังนี้ รากของมะรุมมีสรรพคุณแก้อาการบวม บำรุงไฟธาตุ เยียวยาโรคไขข้อ เปลือกลำต้นมีประโยชน์ใช้แก้โรคปวดหลังปวดเอว ปวดกล้ามเนื้อ ใบของมะรุมมีประโยชน์เยียวยาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง ลำไส้อักเสบ ท้องเสีย โรคทางเดินหายใจ รักษาโรคตาต่างๆ ดอกมีคุณสมบัติแก้ไข้หัวลม  ใช้เป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ ฝักมีสรรพคุณแก้ไข้ ป้องกันมะเร็ว ลกความดันโลหิต เมล็ดมีสรรพคุณใช้แก้ไอ เพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย และใช้ทำน้ำมันมะรุมโดยมีประโยชน์ต่างๆตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นแล้ว รวมถึงมีการศึกษาของคณะแพทย์ศิริราชพยาบาล ได้พบว่าสารสกัดน้ำของมะรุมน่าจะเป็นสมุนไพรที่ลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ส่วนในต่างประเทศนั้นก็มีการใช้ประโยชน์จากมะรุมเช่นกัน เช่น ชาวญี่ปุ่นผลิตใบชาจากใบมะรุมออกจำหน่าย โดยระบุว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับโรคปากนกกระจอก หอบหืด ปวดศีรษะ บำรุงสายตา และระบบทางเดินอาหาร และในอินเดีย ผู้หญิงตั้งครรภ์จะทานใบมะรุมเพื่อเสริมธาตุเหล็ก ส่วนฟิลิปปินส์สตรีที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรจะกินแกงจืดใบมะรุมเพื่อเพิ่มแคลเซียมในน้ำนมและเพิ่มคุณภาพน้ำนมอีกด้วย

65

ประโยชน์มากมี สรรพคุณมากมายในมะรุม
            หากกล่าวถึงพืชผักสมุนไพรที่มีประโยชน์และสรรพคุณในทุกๆส่วนแล้ว หลายท่านคงนึกถึงพืชผักสมุนไพรหลายๆลักษณะ เช่น กล้วย ขิง กระชาย ข่า ฯลฯ ที่กล่าวมานี้อาจมาใช้ประโยชน์ได้ในทุกๆส่วนไม่ว่าจะนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอาหารหรือเป็นเครื่องใช้ไม้สอยอื่นๆ รวมถึงยังมีประโยชน์ทางยาอีกด้วย แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้หากไม่มีชื่อ "มะรุม" รวมอยู่ในนั้นด้วยก็คงจะเป็นการไม่ยุติธรรมกับพืชสมุนไพรประเภทนี้เพราะว่ามะรุมนั้นเป็นพืชที่มีความหัศจรรย์ กล่าวคือมะรุมอาจนำมาใช้ทำอาหารและยังมีคุณสมบัติทางยาสามารถใช้รักษาโรคต่างๆได้หลายโรค อีกทั้งเป็นที่นิยมใช้ในหลายๆประเทศส่วนการแพร่กระจายพันธุ์ของมะรุมนั้นก็ยังสามารถขึ้นได้ดีในดินทุกสภาพและทนทานต่อความแห้งแล้งตามที่ได้นำเสนอมาแล้วนั้น ในที่นี้เราจะกล่าวถึง ประโยชน์และสรรพคุณของมะรุมพืชผักสมุนไพรใกล้บ้านกันนะครับ แน่นอนว่ามะรุมนั้นคนไทยนิยมนำมาใช้ประโยชน์โดยเรานำมาเป็นอาหารกันตั้งแต่ช้านานแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่ามะรุมมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก โดยในใบมะรุมมีโปรตีนสูงกว่านมสดถึง 2 เท่า และยังมีธาตุอาหารที่สามารถป้องกันโรคต่างๆในจำนวนที่สูง เช่น มิวิตามินเอ มากกว่าแครอทถึง 3 เท่า มีวิตามินซี 7 เท่าของส้ม  มีแคลเซียมมากว่า 3 เท่าของนมสด มีโพแทสเซียม 3 เท่าของกล้วย รวมถึงเป็นอาหารที่มีพลังงานไม่มาก เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนัก ส่วนคุณสมบัติในด้านอื่นๆคือ เมล็ดของมะรุมใช้ทำน้ำมันมะรุมเพื่อใช้ปรุงอาหารแทนน้ำมันพืช ช่วยบำรุงเยียวยาผิวชะลอความเหี่ยวย่นของผิว ลดอาการผื่นผ้าอ้อมในเด็ก ลดอาการอักเสบของรูขุมขนและสิว ช่วยชะลอจุดด่างดำบนใบหน้า เยียวยาอาการผมร่วง คันศีรษะ ส่วนคุณสมบัติทางยาของมะรุมนั้นก็มีมากมายโดยแยกตามส่วนต่างๆของมะรุมได้ดังนี้ รากของมะรุมมีสรรพคุณแก้อาการบวม บำรุงไฟธาตุ รักษาโรคไขข้อ เปลือกลำต้นมีสรรพคุณใช้แก้โรคปวดหลังปวดเอว ปวดกล้ามเนื้อ ใบของมะรุมมีคุณสมบัติรักษาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง ลำไส้อักเสบ ท้องเสีย โรคทางเดินหายใจ เยียวยาโรคตาต่างๆ ดอกมีประโยชน์แก้ไข้หัวลม  ใช้เป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ ฝักมีประโยชน์แก้ไข้ ป้องกันมะเร็ว ลกความดันโลหิต เมล็ดมีสรรพคุณใช้แก้ไอ เพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย และใช้ทำน้ำมันมะรุมโดยมีคุณสมบัติต่างๆตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นแล้ว รวมถึงมีการศึกษาของคณะแพทย์ศิริราชพยาบาล ได้พบว่าสารสกัดน้ำของมะรุมน่าจะเป็นสมุนไพรที่ลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ส่วนในต่างประเทศนั้นก็มีการใช้สรรพคุณจากมะรุมเช่นกัน เช่น ชาวญี่ปุ่นผลิตใบชาจากใบมะรุมออกจำหน่าย โดยระบุว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับโรคปากนกกระจอก หอบหืด ปวดศีรษะ บำรุงสายตา และระบบทางเดินอาหาร และในอินเดีย ผู้หญิงตั้งครรภ์จะกินใบมะรุมเพื่อเสริมธาตุเหล็ก ส่วนฟิลิปปินส์ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมลูกจะกินแกงจืดใบมะรุมเพื่อเพิ่มแคลเซียมในน้ำนมและเพิ่มปริมาณน้ำนมอีกด้วย

Tags : มะรุม

66

ถังเช่าหรือ ตังถังเช่า สุดยอดยาโดปในปัจจุบัน

68
ใช้คู่กวาวเครือแดงเวิร์คสุดๆ

69
ใช้คู่กวาวเครือแดงเวิร์คสุดๆ

71

พริกไทยดำ อัพเดท

72

ถังเช่าหรือ ตังถังเช่า สุดยอดยาโดปในปัจจุบัน

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 9