สูทสูทหญิงเสื้อสูทชุดสูทซาฟารีสูทThe suit is the modern gentlemans armour คำพูดนี้ในหนังเรื่อง Kingsman คงไม่พ้นจริงนัก ก็เพราะว่าการเลือกเสื้อสูทที่ยุติธรรมนั้นจะทำให้คุณดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม น่าเสียดายที่คนไทยมากคนยังไม่ค่อยประณีตบรรจงกับการเลือกใส่ชุดสูทมากนัก ดังนั้นวันนี้ เราจะชี้นำวิธีเลือกใส่ชุดสูทที่ถูกต้องมาให้ศึกษากัน
1. จงตัดชุด
สูทยันเต:
อาทิเช่นในหนังเรื่อง Kingsman รับสั่งไว้ ซึ่งถือว่าไม่ได้เหลือจริง เพราะชุดสูทมีความหมายว่า คล้องจอง โดยมาจากภาษาฝรั่งเศสว่า Suite ที่สืบทอดมาจากภาษาลาติน Sequor ที่แปลว่า I Follow เพราะฉะนั้นการใส่
เสื้อสูทหมายถึงทุกๆชิ้นของเสื้อผ้าตั้งแต่เสื้อกางเกงหรือกระโปรงและอื่นๆจะต้องคล้องจองกันหมด ดังนั้นการตัด
ชุดสูทจึงเป็นโอกาสเดียวที่จะก่อให้เกิดความสอดคล้องได้ดีที่สุด และนอกจากความคล้องจองในตัวเสื้อผ้าแล้ว ยังมีความพอดีกับขนาดเค้าโครงของคุณอีกด้วย ซึ่งจะทำให้รูปร่างคุณออกมาดูดีขึ้น
สูทมีความหมายว่า พ้อง มาจากภาษาลาติน Sequor ที่ถอดความว่า I Follow ดังนั้นการใส่ชุดสูทหมายความว่าทุกๆชิ้นของเสื้อผ้าตั้งแต่เสื้อกางเกงหรือกระโปรงและอื่นๆจะต้องคล้องจองกันหมด
2. เลือกสีและเนื้อผ้าให้เป็นชุดเดียวกัน:
โดยกลางๆแล้วชุดสูทแบบกฏเกณฑ์จะมีอยู่ 3 สีได้แก่ดำ เทา และน้ำเงิน ในชีวิตจริงคุณทำได้เจอสีอื่นๆเช่นสีขาว สีครีม และสีอื่นๆตามแฟชั่น แต่อย่างไรก็ดี คุณควรใส่ส่วนบนกับส่วนล่างให้มีสีเดียวกัน นอกจากนี้คุณควรลงทุนเลือกเนื้อผ้าที่ดีที่สุดในการตัดแต่ละครั้ง คุณไม่ควรชะม้ายตาว่าการตัดเสื้อสูทคือค่าใช้สอย แต่มันคือการลงทุนเพื่อสถานะทางวงการของคุณ ทั้งนี้มีหลายการวิจัยที่ยืนยันแล้วว่าการใส่เสื้อสูทที่ดูดีสัมภาษณ์งานมักทำให้คุณมีจังหวะได้งานมากกว่าคนอื่นที่มีความสามารถแนวเดียวกัน
สูทหญิง3. เลือกและตัดให้พอดีตัว:
ให้คุณวาดภาพได้ว่าหากใส่เสื้อสูทไม่พอดีตัวแล้วจะทำให้สถานการณ์คุณออกมาเป็นยังไง ดังนั้นคุณควรจะจินตนาการก่อนที่จะไปสั่งตัดหรือซื้อชุดสูทจากร้าน หากใส่เสื้อสูทไม่พอดีตัวแล้วจะทำให้สภาพคุณออกมาเป็นอย่างที่เห็นในรูปด้านขวา
ไหล่ไม่ควรหล่นหรือฟิตไปจนเห็นเป็นลอนๆ ก้นไม่ควรฟิตไปจนดูแบนหรือหลวมไปดูเซ่อซ่า แจ็คเก็ตไม่ควรฟิตไปจนดูจุกหรือหลวมไปดูเป็นลุง ชายขาไม่น่าลอยหรือหล่นไปกองกับพื้น แขนเสื้อควรจะเปรยเสื้อเชิ้ตข้างในเพียงขี้ผงเท่านั้น ต้องมั่นใจว่าไหล่ลาดตรง ไม่ย่นย่อไปมา จะต้องไม่มีเว้นวรรคระหว่างแจ็คเก็ตกับพอเสื้อเชิ้ต ต้องแน่ใจว่าตรงเมื่อติดกระดุมแล้วไม่มีลายย่นที่พุง ต้องแน่ใจว่าแขนเสื้อไม่ย่นย่อ
4. เลือกเนคไทให้เหมาะกับเสื้อสูท: หากคุณใส่ชุดสูทลาย คุณไม่เหมาะสมเลือกเนคไทที่มีลายถมเพราะมันจะตีกันหรือคงจะใช้ลายเนคไทที่สอดคล้องกับลายเสื้อสูท แต่หากคุณใส่เสื้อสูทเสมอ คุณสามารถเลือกเนคไทที่มีลายได้ นอกจากนี้คุณควรเลอกใช้วิธีผูกไท ที่เหมาะสมในกาละเทศะต่างๆ
5. เลือกรองเท้าให้ถึงที่กะไว้กับชุดสูท: รองเท้าที่เหมาะสมที่สุดคือ Oxford Shoe สีดำเพราะเว้นแต่ว่าสุภาพแล้วยังดูดีและมีคลาส คุณไม่จงเลือกรองเท้าแฟชั่นแบบแปลกๆหากมันไม่เข้ากับเสื้อสูท เช่นนี้หากคุณเจนในการ Mix & Match แล้วคุณค่อยขยับไปเลือกรองเท้าแบบอื่นรองเท้าที่เหมาะสมกับเสื้อสูทที่สุดคือ Oxford Shoe สีดำเพราะเว้นแต่ว่าสุภาพแล้วยังดูดีและมีคลาสรองเท้าที่เหมาะกับชุดสูทที่สุดคือ Oxford Shoe สีดำเพราะนอกจากสุภาพแล้วยังดูดีและมีคลาส
6. เลือกเข็มขัดให้เหมาะสมกับชุดสูท: ข้อบังคับคือคุณต้องใส่เข็มขัดเสมอไป แต่คุณอาจไม่จำเป็นต้องใส่เข็มขัดสีเดียวกับรองเท้า (คนไทยมักเข้าใจผิดในข้อนี้) จนถึงที่สีที่ต่างมันยังเข้ากัน คุณเป็นได้ใส่เข็มขัดกับรองเท้าคนละสีได้
7. เลือกถุงเท้าให้เหมาะกับชุดสูท: คุณไม่ถูกต้องตกม้าตายตอนจบด้วยการใส่ถุงเท้าแบบเสล่อ กฎคือคุณเลือกสีถุงเท้าแบบละเมียดให้เข้ากับชุดสูทเสมอไป เช่นใส่สีดำเมื่อเสื้อสูทสีดำ หรือเทาเมื่อเสื้อสูทสีเทา และเตือนใส่ถุงเท้ากีฬาเด็ดขาด
8. เลือกติดกระดุมให้ถูก: หากคุณต้องติดกระดุม กฎคือคุณต้องติดกระดุมตรงกลางเสมอไป อาจติดตัวบนสุดได้บางที แต่ขัดขวางติดตัวล่างสุดเข้มแข็ง
9. รู้ Dress Code ในงานหลาย: มันไม่ใช่ว่าคุณใส่ชุดสูทก็หมายถึงสุภาพในทุกๆงาน แต่โดยจริงในแต่ละงานหมาย Dress Code ที่ต่างกัน เช่นอาจจะเป็นชุดสูทสีขาวแค่นั้น หรือบางทีอาจจะไม่งกให้คุณใส่เสื้อสูท แต่เป็นเพียง Business Casual หรือ Smart Casual เหตุฉะนี้หากคุณใส่ชุดโย้กับคำเชิญไปคุณอาจขายหน้าได้