[^_^]ตัวแรกที่เรารู้จักและก็รับประทานมาตั้งแต่เด็กก็น่าจะเป็น
"วิตามินซี" นี่แหละ แล้วจำเป็นต้องไหมจำต้องทาน[^_^] ในเมื่อในผักรวมทั้งผลไม้ก็มีวิตามินซีแล้วพวกเราจะรับประทานเพียงแค่ผักผลไม้ได้หรือไม่?
คำตอบเป็นได้! แม้กระนั้นก็จำเป็นต้องกินให้บ่อย ให้ได้วันละราวๆ 60 มก. (สำหรับวิตามินซีจากของกิน) ทดลองฝึกฝนรับประทานมะละกอหรือกล้วยทุกเมื่อเชื่อวันก็จะได้วิตามินซีพอเพียงกับที่ร่างกายอยากได้ แม้กระนั้นถ้าเกิดเป็น[^_^] ควรจะกินตั้งแต่ 500 มก. จนกระทั่งจำนวนที่แพทย์เสนอแนะ แล้วก็ 15 ข้อนี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรต้องทราบเกี่ยวกับวิตามินซี
- ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงไม่จำเป็นที่ต้องมีรสเปรี้ยวเสมอ
- เนื้อสัตว์ก็มีวิตามินซีเหมือนกัน แม้จะไม่เท่าไรนัก ที่มากมายสุดเป็น ไตดิบ (วิตามินซี12 กรัม/ 100 กรัม) ด้วยเหตุดังกล่าวจำเป็นต้องรับประทานไตดิบสักแทบๆครึ่งกก.นะคะ ไหวไหม?
-วิตามินซีจะช่วยไปยั้งสารก่อโรคมะเร็ง คนไหนกันแน่กลัวเป็นโรคมะเร็งให้รับประทานวิตามินซีทุกวี่วัน
- ผู้ที่เป็นโรคทาลัสซีเมีย ไม่สมควรรับวิตามินซีในจำนวนมาก
-วิตามินซีไปช่วยสร้างคอลลาเจนไปซ่อมร่างกาย ต้องการผิวสวยก็จะต้องรับประทานวิตามินซี
-วิตามินซีดีต่อตับ เนื่องจากว่าเป็นสารต้านทานพิษ รวมทั้งช่วยสลายพิษภายในร่างกายด้วย นอกเหนือจากนี้ยังช่วยบำรุงรักษาตับด้วย
- สร้างภูมิต้านทานที่แข็งแรง ไม่ต้องการเป็นหวัดจะต้องกินผักและผลไม้ ใหม่ๆบ่อยๆ
-วิตามินซีละลายได้ดิบได้ดีร่วมกับธาตุเหล็ก
- เก็บวิตามินซีให้พ้นจากแสงอาทิตย์ เพื่อไม่ให้วิตามินซีถูกทำลาย
- การสูบยาสูบจะทำลายวิตามินซีรวมทั้งคาร์บอนมอนน็อกไซด์ เพราะฉะนั้นคนดูดบุหรี่รวมทั้งคนกรุงควรต้องรับประทานวิตามินซีให้มากหน่อย
- ผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวาน เมื่อตรวจค่าน้ำประปาตาลในเลือด ค่าบางทีอาจพลาดได้ถ้าเกิดรับประทานวิตามินซีบ่อยๆ
- รับประทานวิตามินซีมากมายๆเสมอๆ เมื่อไปตรวจโรคมะเร็งปากมดลูก บางทีอาจกำเนิดข้อผิดพลาดสำหรับในการวิเคราะห์ เพราะฉะนั้นควรจะบอกแพทย์ด้วยตอนไปตรวจ
- คนเป็นหวัดวิตามินซีบางทีอาจไม่ช่วยทำให้หายหวัด แม้กระนั้นการกินในจำนวน 1,000 มก. วันละสองครั้ง จะช่วยลดน้ำมูกได้
-วิตามินซีจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
- ศัตรูของวิตามินซีเป็น ความร้อน อ๊อกซิเจน น้ำ การสูบยาสูบ
ยังมีเรื่องมีราวดีๆอีกเพียบเลยเกี่ยวกับวิตามินซีแต่เพียงเท่านี้ก็พอเพียงเอาชีวิตรอดได้แล้วหละ สำหรับผู้ที่คิดจะรับประทานวิตามินซีเสมอๆ ส่วนจำนวนที่สมควรสำหรับแต่ละคน ควรต้องให้ท่านแพทย์ชี้แนะจะเหมาะสมที่สุด
ที่มา : วิตามินซี