ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ครบทุกเรื่องเกี่ยวกับการ “อุดฟัน”  (อ่าน 169 ครั้ง)

ออฟไลน์ ptrosn_1995

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 55
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
รู้ครบทุกเรื่องเกี่ยวกับการ “อุดฟัน”
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2020, 09:03:34 pm »
การอุดฟันเป็นการแก้ไขปัญหาการสูญเสียเนื้อฟันที่เกิดขึ้นมาจากต้นสายปลายเหตุต่างๆเช่น ฟันผุ ฟันสึก ฟันแตกหัก หรือบิ่นจากอุบัติเหตุ แล้วก็เคยอุดฟันมาสุดแต่วัสดุที่ใช้นั้นเกิดเสีย หมดอายุ หรือซี่ฟันแตกไป จุดม่งหมายเพื่อให้สามารถใช้งานฟันซี่นั้นได้ปกติสูงที่สุดและก็มีรูปทรงเหมือนเดิมที่สุด


 
การอุดฟันเป็นการรักษาเบื้องต้นซึ่งพบบ่อยที่สุดในฟันของผู้คนส่วนมาก ผู้ที่ได้รับการอุดฟันควรรักษาฟันที่อุด และรักษาสุขภาพช่องปากของตัวเองเพื่อคุ้มครองฟันผุซ้ำต่อไป

การอุดฟันคืออะไร?
การอุดฟันเป็น การดูแลรักษาฟันที่ผุ ผุกร่อน หรือหัก โดยเพิ่มวัสดุสังเคราะห์เข้าไปที่ตัวฟัน ทดแทนเนื้อฟันที่สูญเสียไป เพื่อฟันสามารถกลับมาทำหน้าที่ได้ทั้งการบด กลืน พูด แล้วก็มีทรงคล้ายกับรูปทรงเดิม

ขั้นตอนอุดฟันจะเริ่มทำภายหลังที่ทันตแพทย์ได้กรอ ขูด หรือกำจัดเนื้อฟันส่วนที่ผุออกไป ในขั้นตอนนี้เองที่บางทีอาจสร้างความเจ็บปวดได้ เหตุเพราะตำแหน่งที่ฟันผุบางทีอาจอยู่ใกล้โพรงประสาท หรือมีสัดส่วนฟันผุออกจะมาก หมอฟันจึงมักพินิจให้ยาชาเฉพาะที่เพื่อคุ้มครองปกป้องความเจ็บที่อาจเกิดขึ้น

ภายหลังจากกรอเนื้อฟันที่เสียออกไปกระทั่งหมด ทันตแพทย์จะตกแต่งเนื้อฟันส่วนที่เหลือ และชำระล้างจัดเตรียมไว้สำหรับในการอุดฟันถัดไป

อย่างไรก็ดี แม้ว่าการอุดฟันจะเป็นการรักษาโรคฟันผุ แต่ต่อมาถ้าหากคนไข้ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายช่องปากได้ไม่ดี ฟันซี่เดิมก็สามารถกลับมาผุซ้ำได้ในบริเวณขอบของวัสดุอุดเดิม หรือแม้แต่บริเวณอื่นในฟันซี่เดียวกัน

การอุดฟันมีกี่แบบ?
แม้แบ่งตามลักษณะของวัสดุอุดฟัน จะแบ่งได้เป็น 2 แบบ ตัวอย่างเช่น

1.วัสดุสีโลหะ (อะมัลกัม)
อะมัลกัมเป็น โลหะผสมระหว่าง เงิน (22-65%) แร่ดีบุก (14-30%) ทองแดง (6-30%) ปรอท (3%) รวมทั้งสังกะสี (2%) มีการใช้อะมัลกัมเป็นวัสดุอุดฟันมานานกว่า 100 ปี

* ข้อดีคือ มีความแข็งแรงทนทานต่อแรงบดเคี้ยว ราคาถูก แล้วก็มีขั้นตอนสำหรับเพื่อการอุดไม่ยาก
* ข้อเสียคือ การใช้อะมัลกัมอุดฟันจะแลเห็นเป็นสีเงิน หรือสีเทาดำ ก็เลยไม่นิยมใช้ในรอบๆที่แลเห็นได้ง่าย เป็นต้นว่า ฟันหน้า เนื่องจากไม่สวยงาม ทั้งสีของอะมัลกัมยังสามารถซึมไปเลอะเทอะเนื้อฟันบริเวณอื่น เหงือก รวมทั้งกระพุ้งแก้ม ซึ่งขจัดออกได้ยากมาก ตอนนี้จึงใช้อะมัลกัมอุดในฟันซี่หลังๆหรือฟันขนาดใหญ่ อาทิเช่น ฟันกราม

ยิ่งกว่านั้นใน 24 ชั่วโมงแรกหลังการอุดฟันด้วยอะมัลกัม ยังไม่สมควรเคี้ยวอาหารเนื่องจากเสี่ยงต่อการแตกหักได้

2.วัสดุสีเหมือนฟัน (เรซินคอมโพสิต)
วัสดุสีคล้ายฟันเป็นวัสดุอุดสังเคราะห์ที่มีสีใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ จึงมักใช้ในบริเวณที่อยากความงาม ยกตัวอย่างเช่น ฟันหน้า

แม้กระนั้น วัสดุสีเหมือนฟันนี้แม้ว่าจะมีความแข็งแรงพอสมควร


* ข้อบกพร่องเป็น ความสามารถในรับแรงบดเคี้ยวได้น้อยกว่าวัสดุอุดโลหะ หรืออะมัลกัม จึงไม่นิยมใช้อุดฟันขนาดใหญ่ ตัวอย่างเช่น ฟันกราม เพราะว่าได้โอกาสเกิดการบิ่น หรือแตกหักได้ง่าย นอกเหนือจากนี้วัสดุสีเหมือนฟันยังราคาแพงแพงกว่าวัสดุอุดโลหะ ก็เลยบางทีอาจเป็นความจำกัดสำหรับผู้ใช้บริการบางกรุ๊ปได้

ในระยะยาววัสดุสีคล้ายฟันเหล่านี้ยังได้โอกาสติดสีรอยเปื้อนจากกาแฟ ชา บุหรี่ และก็โลหะ ได้แก่ ลวดรีเทนเนอร์ ตะขอของฟันปลอมได้

* ข้อจำกัดในกรรมวิธีการอุดด้วยวัสดุสีเหมือนฟันเป็น จำต้องปราศจากการปนเปื้อนจากความชุ่มชื้นจึงไม่สามารถที่จะอุดได้ในเรื่องที่ไม่สามารถกันน้ำลายผู้ป่วยช่วงเวลาที่อุดได้ ยกตัวอย่างเช่น ในผู้ป่วยเด็กที่ไม่ให้ความร่วมมือ

วิธีการอุดฟันเป็นอย่างไร ใช้เวลานานหรือเปล่า?
ก่อนจะมีการอุดฟัน หมอฟันจะตรวจวิเคราะห์ก่อนว่า ฟันซี่นั้นสามารถอุดได้หรือไม่และเหมาะสมกับวัสดุจำพวกใด มีข้อพิจารณาโดยธรรมดาดังนี้

ฟันซี่ที่ผุต้องไม่ลุกลามเข้าไปในโพรงประสาทฟัน

* ฟันจะต้องมีที่เหลือพอเพียงต่อการยึดของวัสดุที่ใช้สำหรับการอุด
* ภาวะเหงือกบริเวณฟันซี่ที่จะอุดควรอยู่ในสภาพปกติ

อุดฟันแล้วเจ็บไหม
อุดฟันแล้วเจ็บไหม คงเป็นคำถามที่ผู้ยังไม่เคยผ่านกระบวนการนี้ต้องการทราบเยอะที่สุดเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจ

* คำตอบเป็น มีโอกาสเจ็บ หรือเสียวฟันได้ในขั้นตอนที่ทันตแพทย์กรอ ขูด หรือกำจัดเนื้อฟันส่วนที่เสียออกไป ส่วนต้นสายปลายเหตุที่เจ็บ หรือเสียวฟันนั้นอาจมาจากตำแหน่งที่ฟันผุบางทีอาจอยู่ใกล้โพรงประสาท หรือฟันผุออกจะมาก


ฉะนั้นหมอฟันก็เลยมักพิเคราะห์ให้ยาชาเฉพาะที่ก่อนที่จะมีการกรอฟันเพื่อคุ้มครองป้องกันความเจ็บปวดที่บางทีอาจเกิดขึ้น แม้กระนั้นบางบุคคลอาจไม่ขอฉีดยาชา แต่ระหว่างที่กรอฟันหากมีอาการเจ็บ หรือเสียวฟัน สามารถยกมือบอกทันตแพทย์เพื่อขอให้ใช้ยาชาเฉพาะที่ได้

https://www.honestdocs.co/know-everything-about-filling-teeth
 

Tags :  สุขภาพช่องปาก