ผู้เขียน หัวข้อ: โครงการก่อสร้างรัฐแห่ดูดงบกลาง ทัพเรือขออีก 400 ล้านสายไฟ้ลงดิน  (อ่าน 168 ครั้ง)

ออฟไลน์ Joe524

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 16,724
    • ดูรายละเอียด


โครงการนำสายไฟลงดินของกองทัพเรือโผล่อีก 400 กว่าล้านบาท หลังยอมถอดถอนงบเรือดำน้ำจากกระแสคัดค้านของประชาชน ขณะที่โครงการจัดจ้างหลายหน่วยงานของภาครัฐยังคงยื่นประมูลช่วงชิงงบกลางฝุ่นตลบ สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจในต่างประเทศ คาดปีนี้โตติดลบ และหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้เศรษฐกิจปีหน้าหมดหวังฟื้นตัว

หลังจากที่ก่อนหน้านี้กองทัพเรือได้ถูกคัดค้านจากสังคม ในการซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน วงเงิน 900 ล้านบาทที่ต้องจ่ายในปีงบประมาณ 2565 จนในที่สุดก็ต้องขอถอนออกไป

รายงานล่าข่าวระบุว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้กองทัพเรือได้จัดทำโครงการนำสายไฟลงดินเพื่อส่งเสริมสภาพพื้นที่สำหรับเมืองการบินภาคตะวันออก และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2564 มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพิ่มเติม งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 451.36 ล้านบาท ให้กองทัพเรือ (ทร.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการนำสายไฟลงใต้ดินเพื่อส่งเสริมสภาพพื้นที่สำหรับเมืองการบินภาคตะวันออก (โครงการฯ) ในส่วนของงานจ้างนำสายไฟลงใต้ดิน จำนวน 3 เส้นทาง ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ ประกอบด้วย1. ปากทางเข้าสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา

2. แยกวงเวียนอู่ตะเภา

3. แยกอู่ราชนาวีมหิดล รวมระยะทางทั้งสิ้น 5.2 กิโลเมตร

โดยงบดังกล่าวอยู่ภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรี ในปี 2564 ที่จัดสรรไว้ถึง 6 แสนล้าน มีวัตถุประสงค์เพื่อไว้ใช้ในกรณีที่วิกฤติฉุกเฉิน หรือจำเป็นเท่านั้น เช่นกรณีสถานการณ์โควิด- 19 ในขณะนี้

ก่อนหน้านี้รัฐบาลออกมาเปิดเผยว่า มีเงินหน้าตักใช้เพื่อแก้สถานการณ์โควิดไม่มาก และในทางการเมืองก็เรียกร้องให้มีการพิจารณาจัดสรรงบประมาณใหม่ โดยเฉพาะงบกลาง ซึ่งจากการตรวจสอบ ณ สิ้น ก.ค. งบกลางยังคงเหลืออยู่ราว 2 แสนล้านบาทเท่านั้น

แต่ปรากฎว่ามีโครงการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะงานก่อสร้างหลาย ๆ ของหน่วยงานภาครัฐยื่นขอประมูลเข้ามาเป็นจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นก็คือ โครงการนำสายไฟลงดินของกองทัพเรือที่ครม.อนุมัติไป หลายฝ่ายจึงมองว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนมากน้อยเพียงใด ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองลำบากเช่นนี้

ขณะที่สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจในต่างประเทศ ได้คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2564 ของประเทศไทยน่าจะต่ำกว่า 0 % หรือติดลบ และหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็ไม่มีความหวังว่าปีหน้า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวโดยเร็ว

ข้อมูลอ้างอิง : http://www.phuketlocal.go.th/files/com_news_law/2019-10_ea4372f6817c38e.pdf

https://govspending.data.go.th/dashboard/3

:: ศูนย์ข้อมูลจัดซื้อ จัดจ้าง สอบราคา ประกวดราคา :: (navy.mi.th)