ผู้เขียน หัวข้อ: เมลเบิร์น  (อ่าน 121 ครั้ง)

ออฟไลน์ deam205

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 20,232
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
เมลเบิร์น
« เมื่อ: กันยายน 24, 2021, 01:54:17 pm »


รอยเตอร์ - ตำรวจเมืองเมลเบิร์นสำหรับการประท้วงล็อกดาวน์ของชาวเมืองวันที่ 4 ในวันพฤหัสบดี(23 ก.ย)ขณะที่ศูนย์ฉีดวัคซีนของเมืองต้องปิดลงหลังมีผู้ประท้วงปฎิบัติอย่างไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ท่ามกลางเคสโควิด-19พุ่งทั่วทั้งรัฐวิคตอเรียของออสเตรเลีย

รอยเตอร์รายงานวันนี้(23 ก.ย)ว่า กลุ่มผู้ประท้วงชาวออสเตรเลียจำนวนหลายร้อยคนได้ออกมารวมตัวประท้วงที่ถนนในเมืองเมลเบิร์นซึ่งมีประชากรอาศัย 5 ล้านคนนับตั้งแต่เจ้าหน้าที่ออกคำสั่งเมื่อต้นสัปดาห์ปิดเขตก่อสร้างเป็นเวลา 2 สัปดาห์พร้อมกับบังคับให้แรงงานก่อสร้างทุกคนต้องฉีดวัคซีนโควิด-19เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัส

ศูนย์การฉีดวัคซีนโควิด-19ที่ตั้งอยู่ที่ทำการเมืองเมลเบิร์นจะปิดไปจนถึงวันจันทร์(27) เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ถูกกลุ่มผู้ประท้วงทำร้ายทางกายและทางวาจาระหว่างการเดินทางมาทำงานตามปกติ อ้างอิงจากแถลงการณ์ที่ออกมาในวันนี้(23)

นายกรัฐมนตรีประจำรัฐวิคตอเรีย แดเนียล แอนดรูว์ส( Daniel Andrews)แถลงในงานแถลงข่าวเป็นเชิงตั้งคำถามว่า “ทำไมพวกคุณถึงปฎิบัติอย่างไม่เหมาะจากที่ผมได้รับรายงาน ทำไมพวกคุณจึงถ่มน้ำลายใส่คนอื่นที่ทำงานประเภทนั้น” และเสริมต่อว่า “นั่นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ มันไม่เหมาะสม”

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจในย่านใจกลางเมลเบิร์นในวันพฤหัสบดี(23)กำลังตรวจผู้คนในเหตุผลของคนเหล่านี้ที่ออกนอกบ้านพักอ้างอิงภาพการรายงานจากโซเชียลมีเดียระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังป้องกันการเกิดการประท้วงขึ้นใหม่ในเมลเบิร์นโดยมีตัวเลขผู้ถูกจับในวันพุธ(22)อยู่ที่กว่า 200 คน

ตำรวจเมลเบิร์นใช้สเปรย์พริกไทยและกระสุนยางเป็นอาวุธการควบคุมฝูงชนในวันพุธ(22)เพื่อขับไล่ผู้ประท้วงที่อนุสรณ์สถานสดุดีทหารในสมรภูมิรบ ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์เป็นวงกว้างไปยังผู้ชุมนุมที่ใช้สถานที่สำคัญในการต่อต้านนโยบายล็อกดาวน์โควิด-19

“ถือเป็นการไม่ให้เกียรติต่อชาวออสเตรเลียทั้งหลายที่ได้สร้างเกียรติคุณสูงสุดในการสละชีพและผมหวังว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้องในการกระทำที่น่ารังเกียจนี้สมควรต้องละอายใจ” นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสสัน แถลงต่อนักข่าวในกรุงวอชิงตัน ดีซี วันพฤหัสบดี(23)

รอยเตอร์รายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมสำหรับการประท้วงที่จะเกิดขึ้นพบว่ารัฐวิคตอเรียมีเคสใหม่ที่ติดเชื้อในพื้นที่เพิ่ม 766 คนทำลายสถิติเดิมที่เคยเกิดขึ้นจำนวน 725 คนเมื่อวันที่ 5 ส.ค ปีนี้และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มใหม่อีก 4 คน

ซึ่งในเวลานี้ออสเตรเลียกำลังต่อสู้การระบาดของไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตาที่เกิดขึ้นใน 2 เมืองใหญ่คือเมืองซิดนีย์และเมืองเมลเบิร์นและกรุงแคนเบอร์ราเมืองหลวง ส่งผลให้ประชากรเกือบครึ่งประเทศของออสเตรเลียต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดต้องอยู่แต่ในที่พัก

เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียสัญญาจะผ่อนคลายกฎล็อกดาวน์หลังจากที่ประชากรกลุ่มวัยผู้ใหญ่ 70% ได้รับวัคซีนโควิด-19ครบโดสแล้วซึ่งคาดว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้ในเดือนถัดไป โดยในเวลานี้พบว่าจำนวน 55.5% ของกลุ่มประชากรอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนโควิด-19ครบโดสในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และที่รัฐวิคตอเรียอยู่ที่ 45%