ผู้เขียน หัวข้อ: TNR ฝันไกลธุรกิจกัญชงกัญชา-กระท่อมสร้างรายได้ 5 หมื่นลบ.ใน 10 ปีข้างหน้า  (อ่าน 73 ครั้ง)

ออฟไลน์ hs8jai

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 17,488
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
TNR ฝันไกลธุรกิจกัญชงกัญชา-กระท่อมสร้างรายได้ 5 หมื่นลบ.ใน 10 ปีข้างหน้า
 
นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ (TNR) คาดว่า ธุรกิจกัญชงกัญชาและกระท่อม ภายใต้ บริษัท ทีเอ็นอาร์ ไบโอไซเอินซ์ จำกัด จะสร้างรายได้ถึง 5 หมื่นล้านบาทภายใน 10 ปีข้างหน้ารับเทรนด์โลก หลังจากโรงงานสกัดของบริษัทคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.65 ก่อนจะเริ่มผลิตได้ในเดือน มิ.ย.65 โดยอยู่ระหว่างการรอใบอนุญาตจากทางการ

บริษัทมองว่าหลังจากรัฐบาลปลดล็อกกัญชง กัญชา และ กระท่อม ไม่ผิดกฎหมาย ทำให้พืชดังกล่าวกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่รัฐบาลส่งเสริม ซึ่งน่าจะทำให้เป็นอุตสาหกรรมใหญ่ระดับโลก เนื่องจากผลิตภัณฑ์กัญชงกัญชา และกระท่อม ในปัจจุบันจำหน่ายเป็นที่แพร่หลายในยุโรปและสหรัฐ เนื่องจากมีสารที่ทำให้ผู้ใช้มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงวัย และสตรี

"สาร CBD สามารถช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ลดการอักเสบในช่องคลอด ป้องกันมะเร็งปากมดลูก กัญชามี THC ลดความเจ็บปวดของมะเร็งบางชนิด อย่างมะเร็งปอด ช่วยให้อาการอัลไซเมอร์ดีขึ้น ลดอาการซึมเศร้า ส่วนกระท่อมเติบโตได้ดีในไทย มีสาร Mitragynine จากการวิจัย คือคุณสมบัติดีต่อผู้สูงอายุช่วยให้กระชุ่มกระชวย ลดการปวดเมื่อย ลดเบาหวาน ความดัน และยังช่วย[^_^] เชื่อว่าเราจะส่งขายได้ทั่วโลก"นายอมร กล่าว
ขณะนี้ TNR วางแผนเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ แบ่งเป็น 3 เฟส คือ กัญชง กระท่อม และ กัญชา โดย 2 เฟสแรกเน้นสาร CBD ที่สกัดจากกัญชง และสาร Mitragynine ที่สกัดจากกระท่อม โดยในส่วนของต้นน้ำ ได้มีความร่วมมือด้านการวิจัยและการเพาะปลูกกัญชงร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และการพัฒนาสายพันธุ์กัญชงกับบริษัท ฟรอนเทียร์ เจเนติก พาร์ทเนอร์ จำกัด (FGP) เพื่อไปสู่เป้าหมายการปลูกพืชกัญชงที่ให้สารสกัด CBD สูง แต่ต้นทุนไม่สูง เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงได้ง่าย

ขณะที่กระท่อมปลูกไม่ยากเพราะสามารถเติบโตได้ดีในประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคใต้ที่ขณะนี้ปลูกกันเป็นจำนวนมาก ในอนาคตน่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจคล้ายกับยางพาราได้

สำหรับกลางน้ำ ขณะนี้โรงงานใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งจะสามารถสกัดสารจากพืชดังกล่าว และผลิตยาสมุนไพรจำหน่วยทั้งในประเทศและอาเซียน ในอนาคตมีแผนจะผลิตยาแผนปัจจุบัน โดยได้วางแบบก่อสร้างส่วนขยายโรงงานเผื่อไว้แล้วพร้อมสร้างเพิ่มเติม ส่วนเครื่องจักเข้ามาจากสหรัฐสามารถสกัดสาร CBD รวมถึงแยกให้บริสุทธิ์ เพื่อนำไปใช้ในอาหารและเครื่องสำอาง รวมถึงยาสมุนไพรที่บริษัทจะผลิตตามอาเซียน จีเอ็มพี

ส่วนปลายน้ำจะเน้นการส่งออก เพราะบริษัทส่งออกสินค้าไปขายในต่างประเทศมานานแล้ว มีความรอบรู้ในตลาดต่างประเทศเป็นอย่างดี

นายสุเมธ มาสิลีรังสี ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน TNR กล่าวว่า บริษัทวางงบลงทุนในธุรกิจดังกล่าวรวม 200 ล้านบาทในช่วง 2 ปีแรก โดยจะมาจากทุนจดทะเบียนของทีเอ็นอาร์ ไบโอไซเอินซ์ 50 ล้านบาท ส่วนอีก 150 ล้านบาทมาจากสถาบันการเงิน โดยจะแบ่งใช้เงินลงทุนในปี 65 ซึ่งเป็นปีแรก 150 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบสร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักร และห้องแล็บ 100 ล้านบาทและเงินทุนหมุนเวียน 50 ล้านบาท ส่วนอีก 50 ล้านบาทจะใช้เป็นทุนหมุนเวียนในปี 66 ที่จะมีการขยายตัวสินค้าไปในวงกว้างขึ้น

บริษัทได้วางเป้าหมายรายได้จากธุรกิจใหม่ในช่วง 3 ปีแรกรวม 1 พันล้านบาท ซึ่งในปี 65 คาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้เข้ามา 100 ล้านบาทในช่วงครึ่งหลังของปี ก่อนจะเพิ่มเป็น 400 ล้านบาทในปี 66 และ 500 ล้านบาทในปี 67 โดยสัดส่วนรายได้จากธุรกิจดังกล่าวจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจาก 5% ในปีนี้ เป็ฯ 20% ในปี 66 และ 25% ในปี 67

สำหรับรายได้หลักในช่วง 2-3 ปีแรก จะมาจากสารสกัด CBD ทั้งประเภทผงและน้ำเพื่อใช้กับอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง [^_^] ยาสมุนไพร หลังจากปี 67 จะพัฒนาผลิตภัณฑ์แบรนด์ของตัวเอง จะทำให้รายได้เติบโตมากกว่านี้ โดยขณะนี้บริษัทได้เซ็ฯ MOU กับพันธมิตรที่เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารเครื่องดื่ม ผู้ผลิตยา และจะมีอีกหลายบริษัทในเร็ว ๆ นี้ที่จะส่งมอบผลิตให้โดยได้มีการตกลงปริมาณการซื้อขายและราคาไว้เบื้องต้นแล้ว

นายอมร กล่าวถึงการส่งออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าวไปจำหน่วยในต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มส่งออกได้ในปี 66 ประเทศแรกจะเป็นสหรัฐ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกกฎหมายในมลรัฐส่วนใหญ่ โดยอยู่ระหว่างศึกษาสารสกัดกัญชง รวมถึงกระท่อมที่ปัจจุบันสหรัฐนำเข้าจากอินโดนีเซียหลายหมื่นล้านบาท เชื่อว่าผลิตภัณฑ์จากไทยน่าจะแข่งขันได้ดี เพราะมีสารที่มีคุณค่ามากที่สุดและคุณภาพดีกว่าประเทศอื่น

"อุตสาหกรรมนี้ยังใหม่มากสำหรับไทย เป้าหมายเราในปี 65 คือทำผลิตภัณฑ์เราให้เหมาะกับมาตรฐานประเทศปลายทางที่จะส่งออกไป เราได้ว่าจ้างบริษัทในสหรัฐศึกษาระเบียบและข้อบังคัยต่าง ใน สหรัฐ ออสเตเลีย ยุโรป และแคนาดาว่าประเทศปลายทางต้องการสารสกัดแบบไหน คุณสมบัติผลิตภัณฑ์อย่างไร

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์กลุ่มถุงยางและเจลหล่อลื่นอยู่แล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถนำสารสกัดและกลิ่นมาผสมในผลิตภัณฑ์ทีมีอยู่ อาจจะผลิตเป็นถุงยางกลิ่นกัญชง และเจลหล่อลื่นผสม CBD เพื่อใช้ในการสปา และหล่อลื่นระหว่างการมีเพศสัมพันธ์เพื่อช่วยลดการอักเสบของผู้หญิงและป้องกันโอกาสการเกิดมะเร็งปากมดลูก

นายสุเมธ กล่าวอีกว่า ภาพรวมผลประกอบการของ TNR ในปีนี้คาดว่าจะทำรายได้ราว 2 พันล้านบาท ซึ่งจะมาจากธุรกิจเดิม 1,700 ล้านบาท กล่องบรรจุภัณฑ์ 200 ล้านบาท และธุรกิจกัญชงกัญชา-กระท่อม 100 ล้านบาท โดยเชื่อว่าการไม่มีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เพลย์บอยอีกต่อไปจะไม่ได้สร้างผลกระทบให้บริษัทมากนัก เพราะได้เตรียมออกสินค้าแบรนด์ คัสตอม มาแทนที่ภายในเดือน พ.ค.65 ขณะที่ธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ที่สร้างรายได้หลักกว่า 85% ยังสามารถขยายงานขึ้นอีกได้

นอกจากนั้น ผลประกอบการในปีนี้จะไม่มีรายจ่ายที่เกิดขึ้นจากคดีฟ้องร้องระหว่างบริษัทกับทางเพลย์บอยแล้ว หลังจากในปี 64 ได้ตั้งสำรองเผื่อการด้อยค่าและรายจ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปทั้งหมดแล้ว ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษและชั่วคราว และมีโอกาสบันทึกกลับมาเป็นรายได้ในอนาคตหากชนะคดี

"เรารับผลกระทบไปในปี 64 แล้ว ขอให้รอดูไตรมาส 1 นี้ เพื่อตอบทุกคำถามว่าทั้งปีจะเป็นอย่างไร ผู้บริหารเองก็มั่นใจว่าค่อนข้างออกมาในแง่บวก เป็นที่น่าพอใจกว่า 5 ปีที่ผ่านมา ดีที่สุดในรอบ 5 ปี "นายอมร กล่าว