ผู้เขียน หัวข้อ: Sakura Gluta Universe  (อ่าน 237 ครั้ง)

ออฟไลน์ smartgoge

  • LCD TV member
  • **
  • กระทู้: 133
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Sakura Gluta Universe
« เมื่อ: ตุลาคม 09, 2014, 07:27:32 am »
Sakura Gluta Universe

ผิวสวย ขาว ด้วยนวัตกรรมเพื่อ สุขภาพ และ ผิวพรรณ ผสานพลัง ALA Q10 Collagen ทำให้คุณมีสุขภาพที่ดี ผิวขาว เคล็ดลับความสวยของสาวญี่ปุ่น กับ L-Glutathione สารอาหารที่มีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพ เพิ่ม Enzyme Glutathione Peroxidase ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย ลดการเกิดของอนุมูลอิสระ และลดอาการเสื่อมของเซลต่างๆ

เรามีเรื่องดีๆ มาแนะนำ

สนใจคลิก  >>>>>>http://goo.gl/OWU8Tc<<<<<<

"กลูต้าไธโอน" สิ่งดีๆ ที่คนมองข้าม

L-Glutathione เป็นสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้ตามธรรมชาติจากกรดอะมิโน 3 ชนิด คือ ซิสเทอีน (Cysteine) ไกลซีน (Glycine) กลูตามิกแอซิด (Glutamic Acid) แต่เนื่องจากสิ่งแวดล้อมและการดำเนินชีวิตปัจจุบัน ทำให้กระบวนการสร้างกลูต้าไธโอนในร่างกายอาจไม่เพียงพอในการนำไปสร้างเป็น Enzyme Glutathione Peroxidase ซึ่งเป็นสาร Antioxidants ลดการเกิดของอนุมูลอิสระ และลดอาการเสื่อมของเซลต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์ตับ

นอกจากนี้ ยังมีส่วนสำคัญในการขับล้างสารพิษในกระแสเลือด ให้กลายเป็นสารที่ไม่อันตราย และ ขับออกจากร่างกายทางตับ (Detoxification) อย่างไรก็ตาม เราสามารถเพิ่มระดับของกลูตาไธโอนในร่างกายได้ง่ายๆ โดยการรับประทาน L-Glutathione เข้าไปโดยตรง

 

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกลูต้าไธโอน

ทานกลูต้าไธโอนต่อเนื่อง เป็นอันตรายกับร่างกาย

ณ ปัจจุบันนี้ยังไม่มีรายงานผลข้างเคียง หรือ ปฏิกิริยาระหว่างยาของกลูต้าไทโอนชนิดรับประทานที่เป็นอันตราย แต่มีรายงานนึงกล่าวว่าหากรับประทานกลูต้าไธโอนเกินวันละ สองหมื่นมิลลิกรัม (80 เม็ดต่อวัน) จะทำให้เกิดการทำลาย DNA ส่วนผลข้างเคียงต่างๆ ที่ร้ายแรง เช่น เกิดอาการช็อค ความดันเลือดตก เกิดอาการแพ้รุนแรง ตาบอด สามารถเกิดขึ้นได้ แต่สำหรับแบบฉีดเท่านั้นนะคะ กลูต้าไธโอนชนิดรับประทาน หากเกิดผลข้างเคียงเกิดขึ้น ระบบย่อยอาหารก็จะคัดกรองไม่ให้สารนั้นๆ ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเข้าไปอีก ต่างจากแบบฉีด เพราะการฉีดจะเข้าสูร่างกายโดยตรงเลย ไม่ผ่านการคัดกรองจากระบบทางเดินอาหาร จึงทำให้อาจเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ ทาง อย.ก็เลยออกมาห้ามไม่ให้ฉีดกลูต้าไธโอนค่ะ

หน้าที่หลักของกลูต้าไธโอน

1. Detoxification : กลูต้าไธโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยดูแลตับ1 จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ

2. Antioxidant : กลูต้าไธโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่

3. Immune Enhancer : ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย2 โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอม รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้กลูตาไธโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ prostaglandin

หากทานปริมาณที่พอดี ในช่วงเวลาที่เหมาะสม แล้วล่ะก็ จะได้รับประโยชน์มากมายจากสารตัวนี้เลยล่ะค่ะ

ประโยชน์ของ L-Glutathione

ของแท้วัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น

    1. ยับยั้งการสร้างเม็ดสี เมลานิน ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส เพิ่มความขาวจากภายใน
    2. มีฤทธิ์เป็น Antioxidant ช่วยป้องกันแสง UV ที่มาทำลายผิวชั้นนอก
    3. ขจัดของเสีย ขับล้างสารพิษ ที่ตกค้างจากกระบวนการเมตาบอลิซึ่มของสารพิษในตับ
    4. ช่วยลดเลือนริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำที่เกิดจากอนุมูลอิสระมาทำลายเซลผิวหนัง
    5. ช่วยชะลอวัย เป็น Antioxidant ที่มีประสิทธิภาพช่วยชะลอความเสื่อมของเซลผิว

 

การรับประทานให้ได้ผลสูงสุด

       ปริมาณการทานกลูต้าไธโอน ของแต่ละคนไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว (ถ้ารูปร่างใหญ่ก็จะมีเม็ดสีผิวเยอะกว่าคนรูปร่างเล็ก จึงต้องทานมากกว่าคนรูปร่างเล็ก น้ำหนักมากทานมาก น้ำหนักน้อยทานน้อย นั่นเอง)

       ตัวอย่างเช่น ถ้าคนหนัก 50 กิโลกรัม ถ้าจะทานเพื่อให้ผิวขาวจะต้องทานวันละ 1000 - 2000 mg. ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายบานปลาย แต่เราก็มีวิธีที่จะประหยัดลงได้ก็คือ ให้รับประทานเพียงวันละ 10 mg/kg/day แล้วให้ทานสาร antioxidize อื่นๆ คู่กันด้วย เช่น Acerola Cherry Vitamin C 1,000 mg. หรือ Vitamin E ซึ่งถ้าหากเราไม่ทานวิตามินซีคู่กับกลูต้าไธโอน จะต้องรับประทานกลูต้าไธโอนเพิ่มเป็น 2 เท่า ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอย่างมาก



เทียบน้ำหนักต่อการทานกลูต้าไธโอน

    น้ำหนักไม่เกิน 50 กก. ให้ทานกลูต้าไธโอนตอนท้องว่างวันละ 2 เม็ด คู่กับ Vitamin C หรือ Vitamin E 1 เม็ด
    น้ำหนักตัว 51 - 75 กก. ให้ทานกลูต้าไธโอนตอนท้องว่างวันละ 3 เม็ด คู่กับ Vitamin C หรือ Vitamin E 2 เม็ด
    น้ำหนักตัว 76 - 100 กก. ก็ให้ทานกลูต้าไธโอนตอนท้องว่างวันละ 4 เม็ด คู่กับ Vitamin C หรือ Vitamin E 2 เม็ด


ช่วงที่ทานกลูต้าไธโอนแล้วถูกดูดซึมดีที่สุด ก็คือ ช่วงท้องว่าง เช่น ตอนตื่นนอนใหม่ๆ อาจจะตอนก่อนนอน หรือก่อน - หลังทานอาหารมากกว่า 30 นาทีขึ้นไป

ไม่ว่าจะเลือกทานกลูต้าไธโอนแบบไหน สิ่งแรกที่ควรคำนึงคือ ฉลาก อย. ว่าได้รับการรับรองมาแล้วหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ถ้าจะดูดีก็ต้องเลือกดูดีแบบมีคุณภาพและสุขภาพดีด้วยนะคะ

เรามีเรื่องดีๆ มาแนะนำ
สนใจคลิก  >>>>>>http://goo.gl/OWU8Tc<<<<<<