มนุษย์ในอดีตสมัย จะตั้งศาล
ตี่จู้ไว้ในอาณาเขตบ้านกันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเชื่อกันว่าแต่ละพื้นที่ที่เราไปปลูกบ้านนั้นล้วนแล้วมีเจ้าที่เจ้าทางดูแลรักษาอยู่ ดังนั้นหากเราไปปลูกบ้านตรงพื้นที่นั้นแล้วทำการตั้งศาลตี่จู้เชิญเจ้าที่เจ้าทางขึ้นสถิตย์อยู่ คนในครอบครัวในบ้านนั้นก็ย่อมที่จะอยู่ดีมีสุขได้รับการปกปักรักษาคุ้มครองจากเจ้าที่นั่นเอง
แต่ทว่าหากทำความเข้าใจจากภายในตำนานคติพราหมณ์แล้วพระภูมิเจ้าที่นั้นก็คือเทวดา เป็นเจ้าที่ที่มีภาระหน้าที่รักษาคุ้มครองพื้นที่ของมนุษย์ทั่วไป ถ้าบ้านเรือนใดตั้งศาลศาล
ตี่จู้อัญเชิญเจ้าที่เจ้าทางไปสถิตย์อยู่ก็จะเป็นไปในทำนองเดียวกันหมายถึง ผู้อยู่อาศัยก็จะได้รับความสุขความเจริญ มีเคราะห์เหตุเภทภัยใดๆ เจ้าที่ก็จะนิมิตบอกให้ป้องกันภัยอันตรายได้ทัน ตั้งศาลบนบริเวณพื้นดิน ถ้าไปตั้งศาลศาลตี่จู้ไว้บนชั้นอื่นๆ ก็จะกลายเป็นศาลที่อาศัยของวิญญาณอื่นๆ ขนาดของตัวศาล ต้องเหมาะสมกับตัวบ้าน ไม่ใช่ว่าบ้านหลังใหญ่โต แต่ศาลมีขนาดเล็ก หรือว่าว่าบ้านหลังเล็ก แต่ว่าตั้งศาลซะขนาดใหญ่โต ที่ตั้งของศาลควรอยู่ให้ห่างไกลจากที่ตั้งของห้องส้วม อย่าหันหน้าศาลพระภูมิเข้าไปยังตำแหน่งที่ตั้งห้องอาบน้ำ
การตั้งศาลศาล
ตี่จู้ ไม่ว่าจะที่ที่พัก หรือสำนักงานห้างร้าน ควรหาฤกษ์งามยามดีก็เพราะว่าถ้าตั้งศาลวันฤกษ์ไม่ดี ก็จะทำเอาเกิดเหตุเภทภัยได้ เจ้าที่ก็มิได้เชิญมาสถิตย์ที่ศาลเพื่อปกปักรักษา ศาลศาลตี่จู้ต้องได้รับการเอาใจใส่ อย่างสม่ำเสมอ ไม่เช่นนั้นเจ้าที่จะหนีหาย ศาลจะกลับเป็นที่อยู่ของพวกสัมภเวสี ดวงวิญญาณเร่ร่อน และสิ่งโชคร้ายทั้งหลาย อย่าปล่อยให้เกิดความมัวหมอง คราบฝุ่นจับหนา บ้าน หรือ สำนักงานร้านใดที่ไม่ดูแลศาลตี่จู้ ให้ดูสกปรกหรือว่าเก่าทรุดโทรม ดูได้เลยว่าพื้นที่แห่งนั้นจะมีแต่เสื่อมโทรมไม่เจริญ และดูชำรุดทรุดโทรมไปด้วย
