ผู้เขียน หัวข้อ: บ้านประหยัดพลังงาน ... ประหยัดเงินเติมต่อความสุข  (อ่าน 943 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirao2015

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 79
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์

การมีที่อยู่สักหลังในยุคปัจจุบันนี้ที่ทรัพยากรมีอยู่อย่างจำกัด และ อุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้น ทำให้บ้าน ในสมัยนี้ต้องทำทุกอย่าง เพื่อให้ข้างในบ้านเย็นลง คนในบ้านพักอาศัยจะได้มีความสุข แต่ความจริงสิ่งเหล่านั้นกลับต้องแลกมาด้วยรายการจ่ายในแต่ละเดือนที่ยิ่งขึ้น แต่เราสามารถที่จะลดค่าใช้จ่ายข้างในอาคารบ้านเรือนลงได้ด้วยการออกแบบจัดการระบบในตัวอาคารบ้านเรือนให้ถูกวิธี ก็จะช่วยลดค่าสูญเสียที่เราต้องจ่ายออกไปได้อย่างมากมาย เลยทีเดียวนะคะ วันนี้เราจึงมีแนวทางดีๆ ในการทำ บ้านประหยัดพลังงาน มาให้ได้ไปลองแปรเปลี่ยนบ้านช่องของเรากันดูค่ะ
 
ปลูกต้นไม้สูง เพื่อบดบังแสงอาทิตย์
เราควรจะคัดสรรปลูกต้นไม้ทรงสูง เพื่อที่ร่มเงาของต้นไม้จะช่วยเป็นเงาคอยปิดบังแสงอาทิตย์ที่ส่องแสงเข้าตัวบ้านช่องตรงๆ เพื่อลดความร้อนในตัวบ้าน แต่มีข้อจำกัดว่าตัวต้นไม้ต้องสูงพอที่จะให้กระแสลมสามารถพัดผ่านใต้พุ่มใบด้วยความเร็วที่พอเหมาะที่จะพัดสายลมเข้าบ้านเรือนเรา แต่ไม่ถึงกับมากเกินไป ซึ่งควรจะปลูกในทิศตะวันออก และ ตะวันตก และ เราสามารถเลือกต้นไม้ทรงสูงที่หาได้ตามท้องถิ่นมาปลูกได้ เช่น ต้นปีบ, อินทนิล, ต้นสัตบัน หรือ ต้นสุพรรณิกา เพื่อลดปัญหาเรื่องการช่วยดูแลรักษา และ ยากำจัดแมลง
 
จัดบ้านตามภูมิสถาปัตย์
ถ้านำหลักภูมิสถาปัตยกรรมศาสตร์มาร่วมใช้อีกก็สามารถจัดแต่งสวน เพื่อให้สิ่งแวดล้อมภายในที่อยู่เย็นสบายด้วยแบบปลูกพืชคลุมดิน หรือ ทำน้ำตกจำลอง อีกทั้งยังช่วยเสริมความสวยเด่นให้กับที่อยู่อาศัยเราอีกด้วย
 
ถมดินรอบที่อยู่อาศัย
บางที่พักอาศัยอาจจะใช้แบบถมดินบริเวณรอบที่อาศัยให้สูงขึ้น เพื่อให้พื้นและผนังบางส่วนต่ำกว่าดิน ทำให้บ้านหลังนั้นสามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ลดอุณหภูมิในที่อยู่ และ เสริมด้วยการปลูกไม้พุ่มบริเวณผนังบ้าน เพื่อเป็นการเกาะเนื้อดินให้แน่นติดกัน แต่ถ้าบ้านช่องมีเนื้อที่จำกัดก็ใช้ทางปลูกไม้ดัด  หรือ ไม้เลื้อยตามระเบียงเสริมด้วยก็จะดีขึ้น
 
ใช้รางน้ำ และ ท่อระบายน้ำให้เป็นประโยชน์
เราควรทำรางน้ำและท่อระบายน้ำที่มาจากหลังคาให้เหมาะสม เพื่อป้องกันความชื้นของน้ำฝน หรือ น้ำขังซึมเข้าไปในบ้านเรือน และ ยังสามารถนำท่อรางน้ำที่ได้จากรางน้ำหลังคา หรือ ท่อระบายน้ำไปเป็นทางรดต้นไม้ เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรน้ำในบ้านเรือนให้เกิดประโยชน์มากที่สุดก็ได้
 
ทำที่จอดรถช่วยบังแสงแดด
ถ้าต้องทำที่จอดรถก็ควรทำที่จอดรถในทิศทางของแดด คือ ทางทิศตะวันออก หรือ ตะวันตก เพื่อลดแสงแดดที่จะส่องมาถึงตัวอาคารบ้านเรือนตรงๆ
 
ฉนวนกันความร้อนลดบ้านร้อน
การที่เราบุฉนวนกันความร้อนที่บริเวณหลังคาและฝาบ้าน จะยิ่งช่วยให้ข้างในอาคารบ้านเรือนมีอุณหภูมิลดลงเป็นอย่างมาก ส่วนความหนานั้นขึ้นอยู่กับความร้อนของที่อาศัยนั้นๆ ซึ่งโดยมากก็จะใช้ที่ความหนาประมาณ 2 - 3 นิ้ว ซึ่งลักษณะของฉนวนก็มีให้เลือกหลายแบบตามแต่ราคาและการใช้งาน ควรศึกษาข้อดี- ข้อเสียสักนิด ซึ่งหากต้องเสียมากว่าเดิมสักนิดแต่ได้ของที่เหมาะกับเราที่สุดก็ควร เพื่อผลที่ระยะยาว
 
ใช่สีและความมันวาวช่วยสะท้อนความร้อน
การทาสีข้างนอกที่อาศัยให้มีสีอ่อนจะช่วยสะท้อนแสงแดดที่ตกกระทบอาคารบ้านเรือนได้อย่างมาก อีกทั้งการใช้วัสดุที่มีผิวมันและกันความชื้น รวมทั้งใช้หลังคาที่มีสีอ่อนและมันเงาจะยิ่งสะท้อนความร้อนได้เป็นอย่างดี
 
ประตูบานพลิกก็ช่วยได้
กำแพงบ้านช่องด้านที่มีระเบียงยื่นออกมา เราควรหันมาใช้ทางเข้าออก หรือ หน้าต่างแบบบานพลิกมาใช้ ซึ่งทำให้เราสามารถควบคุมปริมาณลมเข้าบ้านช่องได้ดีกว่าการใช้ทางเข้าออก หรือ หน้าต่างชนิดอื่น
 
กระจกเพิ่มบ้านร้อน
ถึงแม้การใช้กระจกจะช่วยให้ที่พักอาศัยดูโปร่งโล่ง และ ช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในที่อาศัย แต่ก็ควรใช้ให้พอดี รับแสงได้ ไม่ควรนำมาใช้ในทิศตะวันตก หรือ ตะวันออกมากเกินไป
 
ทำกันสาดบังแดด
หากบ้านพักอาศัยเรามีหน้าต่างกระจกก็ควรทำกันสาดแนวราบที่เหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทางทิศเหนือและทิศใต้ เพื่อช่วยสะท้อนแสงแดด และ บังแสงอาทิตย์ได้ดีในช่วงเที่ยงและบ่าย ส่วนหน้าต่างด้านตะวันออกและตะวันตกให้ใช้แบบแนวดิ่งก็จะช่วยบังความสว่าง และ ลดความร้อนภายในบ้านพักอาศัย ซึ่งจะช่วยให้ที่อยู่ประหยัดพลังงานในการลดความร้อนได้ดีมาก
 
มู่ลี่บังความร้อน
เราลดความร้อนภายในที่อยู่ได้ด้วยการติดผ้าม่าน หรือ มู่ลี่ ที่บริเวณหน้าต่างกระจก เพื่อคุ้มกันความร้อนเข้าบ้านพักอาศัย ถึงแม้การติดฟิล์มกรองแสงจะดีกว่าแต่ค่าใช้จ่ายก็สูงมากกว่าเยอะนัก และ การติดม่าน และ มูลี่ถ้าหาแบบดีๆ หรือ ดีไซน์เก๋ๆ ก็จะช่วยเสริมความน่าอยู่ของอาคารบ้านเรือนขึ้นไปอีกได้
 

นอกจากนี้เพื่อให้บ้านประหยัดพลังงาน เราควรจะเรียนรู้เรื่องไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสักนิด เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง และ เหมาะสมกับ อาคารบ้านเรือนของคุณ แรกที่ควรรู้จักก็คือคำว่า วัตต์ (WATT) หรือ ตัวอักษร W ที่เรามักเห็นอยู่บนตัวอุปกรณ์ไฟฟ้าข้างในอาคารบ้านเรือน ซึ่งถ้าค่าวัตต์ (w) มาก อุปกรณ์ไฟฟ้านั้นก็จะใช้พลังงานมากกินกระแสไฟสูง และ เวลาการไฟฟ้ามาคิดค่าไฟบ้านเราจะมีคำหนึ่งที่เราได้ยินบ่อยมากก็คือ หน่วยไฟฟ้าที่เขียนลงบนบิลค่าไฟ ซึ่ง 1 หน่วย จะมีค่าเท่ากับ 1,000 วัตต์ หรือ 1 กิโลวัตต์ ซึ่งถ้าหน่วยในค่าไฟมากก็เพราะค่ากำลังวัตต์ในการใช้ไฟสูง ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากเครื่องไฟฟ้าที่จะลดความร้อนภายในที่อาศัย เช่น แอร์ พัดลม และ ตู้เย็น ซึ่งเมื่อเรามาเปรียบกับแล้ว พัดลมจะกินไฟแค่ 60 - 80 วัตต์เท่านั้น แม้หลายตัวแต่ก็จะไม่เทียบเท่าแอร์เพียง 1 ตัว อย่างนั้น การปรับภูมิสถาปัตย์ในที่อาศัยให้เย็นขึ้นจะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น ซึ่งเพราะเราไม่ต้องไปติดตั้งแอร์หลายๆ ตัวให้ใช้ค่าไฟฟ้า แม้ว่าจะเหนื่อย และ ฟุ่มเฟือยในการdesignจัดสร้าง แต่ในระยะยาวจะคุ้มค่ามากกว่ามาก
 

ดังนั้น การซ่อมอาคารบ้านเรือนให้พึ่งพาการใช้พลังงานจากไฟฟ้าให้น้อยที่สุดนอกจากจะเป็นประโยชน์แก่การทำบ้านประหยัดพลังงานเป็นอย่างมากแล้ว ยังจะช่วยให้เรามีเงินเหลือเก็บในแต่ละเดือนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยนะคะ
 

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.scgexperience.co.th/tag/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99

Tags : บ้านประหยัดพลังงาน,แบบบ้านประหยัดพลังงาน,ไอเดียบ้านประหยัดพลังงาน