ผู้เขียน หัวข้อ: ควรใช้ผ้าคลุมรถแบบไหนเพิ่มความเงา กับรถ  (อ่าน 254 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dragon007

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 15
    • ดูรายละเอียด
ด้วยสภาวะอากาศในปัจจุบันของประเทศไทย ร้อนชื้นทั้งฝนทั้งแดดจีงเป็นสาเหตุหลักของการเล่นงาน
สีรถยนต์ อีกทั้งฝุ่นผงฝุ่นละอองต่างๆ ที่มีอยู่เยอะในอากาศสังเกตุได้จากการที่เราทำความสดใส
รถล้างรถเสร็จทิ้งไว้ไม่เกิน10-15นาที ก็จะสังเกตุได้อย่างชัดเจนว่าจะมีฝุ่นบางๆ
เริ่มมาเกาะตามผิวสีรถซึ่งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้นี่เป็นสาเหตุที่เราต้องมองหาผ้าคลุมรถไว้ป้องซึ่งกันและกันขี้เถ้า
 หรือบางท่านอาจจอดรถนอกบ้าน เพียงข้ามคืนหลังจากที่ท่านเสียเงินค่าล้างรถไปแล้ว150-300บาท ท่านจะพบกับคราบน้ำ ที่มาจากน้ำค้างยามเช้า ขี้นก มูลนก ยางไม้
จึงทำให้เราต้องใช้ผ้าคลุมรถเพื่อที่จะรักษาสภาพความสะอาดของผิวสีรถเรา ในกรณีที่ไม่มีโรงจอดรถ ยิ่งถ้าเราจอดรถตากแดด
ยิ่งส่งผลเสีย ผลกระทบกับสีรถ ทั้งภายในของรถยนต์ และภายนอกรถยนต์ ยิ่งมีคราบน้ำ รอยสกปรกโสโครก
 มูลนก ที่เป็นกรดเป็นด่าง จะส่งโดยตรง
เมื่อโดนแดด และความร้อน สีรถยนต์จะเป็นคราบ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สีรถของเราเริ่มหมอง ไม่เงาดีงาม
เหมือนรถใหม่ เราควรเลือกใช้ผ้าคลุมรถ
ที่ถูกต้องกับการใช้งานของเรา ผ้าคลุมรถมีเหลือแหล่แบบ
ให้เลือก มีทั้งถูกและแพง เนื้อผ้าหลายชนิด แต่ถ้าเลือกไม่ดี หรือคุณภาพไม่ดีก็อาจส่งผลร้าย
ให้กับสีรถยนต์ได้เช่นกัน หรือการใช้งานผ้าคลุมรถที่ผิดวิธี การเก็บผ้าคลุมรถ การคลุมผ้าคลุมรถ ที่ผิดวิธี ล้วนแล้วขึ้นอยู่ผู้ใช้งานที่ควรศึกษาแนวทางชำระคืน
ก่อน
การใช้ผ้าคลุมรถควรคำนึงการใช้งานเป็นหลักของเรา เช่น เรามุ่ง
ใช้ผ้าคลุมรถลักษณะไหน คลุมแป๊ปเดียวข้ามคืน เพราะต้องใช้รถไปทำงานทุกวัน
หรือ คลุมทั้งวันไม่มีที่จอดที่เข้าทำงาน
แดดร้อนจัง สงสาร รถ หรือรถไม่ได้ใช้เลยอาทิตย์นึงขับแค่1-2ครังเลยขี้เกลียดเช็ดฝุ่นปัดฝุ่นบ่อยเลยต้องหาผ้าคลุมรถ
ไว้คลุมเพื่อกันฝุ่นในบ้านธรรมชาติ
 ผ้าคลุมรถส่วนใหญ่ที่แถมมากับรถยนต์ ก็ไม่กันน้ำ แถมฉีกขาดก็ง่าย ถ้าคลุมตากแดดตากฝนไม่นานก็พัง แถมหลังฝนตกก็
ต้องมาเช็ดรถเพราะผ้าคลุมรถกันน้ำไม่ได้ ก็เป็นคราบน้ำทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก ถ้าจอดกลางแจ้ง ควรคัด
ใช้เนื้อผ้าที่กันน้ำได้ ด้านในต้องไม่แข็งกระด้าง
ไม่ขูดขีดสีรถทำให้รถเป็นรอย เปล่าตรึงถูรถยนต์
 ในปัจจุบันมีจำหน่ายอยู่หลายที่ ซึ่งถ้าเราใช้ผ้าคลุมรถที่ไม่มีคุณภาพ สิ่งที่ตามมาคือ เสียความรู้สึก ไม่รู้จะคลุมทำไม เปลืองเงิน
แต่แท้ที่จริงแล้วเราใช้ผ้าคลุมรถที่ไม่ตรงกับการใช้งานเรา ในกรณีที่เราจอดรถในบ้านที่ไม่โดนแดด โดนฝน กระผมเก่ง
ใช้ผ้าแบบบางเบาได้ เนื่องจากไม่ได้โดนแดดและฝน ผ้าคลุมรถ
เพียงแค่กันฝุ่นละอองธรรมดา แต่สิ่งที่เราควรทำยังมีชีวิตอยู่ปกติ
คือการหมั่นทำการเคลือบสีรถเพื่อให้การปกป้องได้ที่สุด โดยใช้น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ที่ไม่มีส่วนผสมของผงขัด
หลังล้างรถเช็ดรถให้แห้ง แล้วลงน้ำยาทาขัดวนเป็นก้นหอยบางๆ ทิ้งให้แห้งแล้วเช็ดออกด้วยผ้านุ่มๆ ควรทำเป็นส่วนๆไป แล้วเช็ดออกเลยไม่ต้องทิ้งไว้นาน
การเคลือบสีรถเป็นวิธีกรุณารักษา
ไม่ให้สีรถเป็นรอย ช่วยทำให้สีรถไม่หมอง ยืดอายุสีรถได้ดีมาก ทำให้สีมันเงาลื่นช่วนกันน้ำกันฝุ่นได้ดีมาก เสร็จแล้งจึง
ใช้ผ้าคลุมรถเพื่อที่จะอภิบาล
สภาพความสะอาดความเงาไว้ ไม่ต้องล้างรถบ่อยเกินความจำเป็น ควรหมั่นทำความสะอาดผ้าคลุมรถอยู่เสอเพื่อยืดอายุการใช้งาน     [[image]]
หลังจากผ้าคลุมรถเปียกน้ำควรผึ่งให้แห้งหรือเช็ดให้แห้งก่อนก่รนำมาใช้คลุมรถในครั้งต่อไป กระบวนการ
คลุมผ้าคลุมรถ ควรคลุมให้ถูกต้อง อย่าใช้วิธีลากผ้าคลุมรถบนรถ
เพราะอาจทำให้เกิดรอยได้ บางคนบอกว่าใช้ผ้าคลุมรถแล้วรถเป็นรอย นี่คือต้นเหตุเด่น
 คือการใช้งานไม่ถูกวิธี หลักสำคัญอีกอย่างคือการพับเก็บผ้าคลุมรถให้ถูกต้อง
เพื่อจะได้มาหวานคอแร้ง
ต่อการใช้งานในครั้งต่อไป เช่นขณะเก็บผ้าคลุมรถเราควรจะ
ปลดยางยืดด้านหน้า-หลังออกก่อน แล้วจึงพับด้านข้างขึ้นไปไว้บนหลังคารถ ทั้งซ้าย-ขวา
ด้านในของผ้าจะพลิกออกมา จากนั้นพับซ้ำอีกให้เล็กลง จะเป็นเส้นพลาดยาวจากหน้ารถไปท้ายรถขนาดความกว้างสัก1ฟุต แล้วค่อยๆม้วนหรือพับให้แคบเต็มที่
จากท้ายรถมาที่หน้ารถ เพื่อง่ายต่องานดอง
 อาจมีถุงหรือกระเป๋าไว้เก็บผ้าคลุมรถ เวลาจะนำผ้าคลุมรถออกมาใช้ เราก็นำม้วนผ้าที่เราพับเก็บไว้ มาวางไว้ที่หน้ารถ
แล้วกลิ้งผ้าไปที่ท้ายรถ จะเป็นเส้นพลาดยาวเหมือนตอนก่อนที่จะม้วนเก็บ จากนั้นค่อยๆขลี่ผ้าคลอดเสด็จพระราชดำเนิน
ทั้งซ้ายและขวา ใส่หูกระจกมองข้างก่อน จะได้ล็อคผ้าไว้ง่ายขึ้น
จากนั้นดึงด้านหน้า -หลังลงให้ยางรัดเรียบร้อย จัดระเบียบผ้าอีกทีให้สวยงาม แค่นี้เป็นอันเสร็จ ไม่แนะนำให้คลุมขณะที่รถเลอะ เพราะจะทำให้ผ้าเลอะไปด้วย อีกทั้ง
ยังมีเม็ดกรวด เม็ดทราย อาจทำให้รถเป็นรอยได้ อย่าคาดหวังว่าผ้าคลุมรถจะมีอายุการใช้งานที่ทนทาน
 นานจนคุ้มค่า เพราะทุกอย่างมีอายุการใช้งาน ซึ่งอยู่กับการใช้งาน
ที่ไม่เท่ากัน โดยเฉลี่ยควรเปลี่ยนผ้าคลุมรถทุก1-2ปี ขอขอบคุณครับ

เครดิต : http://www.carcover2you.com

Tags :  ผ้าคลุมรถertiga