ผู้เขียน หัวข้อ: สปันไมโครไพล์ ตอกเสาเข็ม ต่อเติมบ้าน บริการก่อสร้าง หอพัก ควบคุมโดยวิศวกร  (อ่าน 413 ครั้ง)

ออฟไลน์ ManUThai2017

  • Full LED TV member
  • ****
  • กระทู้: 2,881
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
รับตอกเสาเข็มไมโครไพล์ Micropile และ สปันไมโครไพล์ทุกชนิด
ซึ่งควมคุมโดยวิศวกร เสาเข็มไมโครไพล์มีขนาดเล็ก เหมาะสมเป็นเสาเข็มของการ ต่อเติมบ้าน ต่อเติมโรงงาน ปรับเปลี่ยนอาคาร
รับต่อเติมบ้าน ก่อสร้าง ตอกเสาเข็มเจาะ แห้ง แฉะ สปันไมโครไพล์ ไมโครไพล์ เสาเข็มสำหรับเพิ่มเติม

 
ข้อคิดก่อนต่อเติมบ้าน
การเพิ่มเติมบ้านเป็นสิ่งที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านในโครงการจัดสรรทั่วไป ด้วยเหตุว่าผู้ประกอบการจะต้องลดค่าใช้จ่ายสำหรับเพื่อการก่อสร้างให้สูงที่สุด โดยเหตุนี้ พื้นที่บ้านก็เลยมักไม่เป็นที่พอใจของผู้บริโภค โดยเฉพาะชาวไทยที่จำเป็นต้องปรุงอาหารไทย ซึ่งมักจะจำเป็นต้องทำต่อเติมห้องครัวเพิ่มเสมอ ซึ่งมักทำให้เกิดปัญหาตามมาอย่างมากมาย โดยเหตุนี้ ก่อนจะมีการต่อเติมบ้าน อยากให้คุณเจ้าของบ้านพิจารณาถึงเรื่องดังจะกล่าวต่อไปนี้
แบบทางด้านสถาปัตยกรรม
1 พื้นที่ส่วนต่อเติม ควรมีแบบสอดคล้องกับตัวบ้านเดิม ทั้งด้านสิ่งของรวมทั้งหน้าตาของอาคาร โดยสามารถให้ผู้ออกแบบทำรูป 3 มิติ เพื่อชี้ให้เห็นว่าหลังจากเพิ่มเติมแล้วแบบอย่างบ้านจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร เจ้าของบ้านพึงพอใจไหม เนื่องจากว่าถ้าหากเจ้าของบ้านมองแบบไม่เป็น เมื่อเพิ่มเติมแล้วบางทีอาจจำเป็นต้องทนอยู่ในบ้านที่เพิ่มเติมจนน่ารังเกียจไปอีกชั่วชีวิต
2 จำเป็นต้องคิดถึงการระบายอากาศในบ้านหลังเพิ่มเติม โดยมากการเพิ่มเติมชอบไปปิดช่องทางระบายอากาศของตัวบ้าน โดยเฉพาะตึกประเภททาวน์เฮ้าส์รวมทั้งตึกแถว เมื่อต่อเติมข้างหลังบ้านแล้ว ลมไม่อาจจะพัดจากหน้าบ้านไปออกหลังบ้านได้ ทำให้อากาศข้างในบ้านร้อนจัด จนไม่สามารถอยู่ได้ ถ้าเกิดว่าไม่มีระบบปรับอากาศ ฉะนั้น การเพิ่มเติมต้องพยายามหาช่องให้ลมสามารถถ่ายเทได้ ซึ่งจะต้องหารือผู้ออกแบบ
3 แสงไฟจากธรรมชาติ การเพิ่มพื้นที่ชอบไปปิดช่องแสงที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้ทางเดินศูนย์กลางและก็ช่องบันไดมืดตลอดระยะเวลา ทำให้ต้องเปิดไฟทั้งวัน เพราะฉะนั้น การเพิ่มเติมแต่งจะต้องพิจารณาถึงการเปิดช่องแสงสว่างไว้ด้วย
ปัญหาเรื่องกฎหมายแล้วก็ผลกระทบกับบ้านข้างเคียง
โดยธรรมดาการต่อเติมบ้าน สำหรับอาคารการค้า, ทาวน์เฮ้าส์ หรือแม้กระทั้งบ้านเดี่ยว ที่มีพื้นที่ไม่มากสักเท่าไรนัก ผิดกฎหมายดูเหมือนจะทุกข้างหลัง เหตุเพราะโดยชอบด้วยกฎหมายได้กำหนดพื้นที่ว่างไว้สำหรับอาคารแต่ละประเภท ซึ่งการก่อสร้างก็มักจะก่อสร้างเต็มพื้นที่ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วแล้ว ฉะนั้น ท่านเจ้าของบ้านต้องระมัดระวังเรื่องดังที่ได้กล่าวมาแล้วไว้บ้าง ซึ่งปกติข้าราชการก็ทราบถึงความจำเป็นดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วก็เลยชอบไม่เข้ามาวุ่นวาย เว้นเสียแต่ในกรณีที่มีผู้ร้องเรียน ด้วยเหตุดังกล่าวก่อน ที่ท่านจะต่อเติมก็ควรบอกบ้านข้างเคียงให้รู้ดีว่าท่านจะต่อเติม แล้วก็จะต่อแบบใด เพื่อไม่ให้ กระทบกับการดำรงชีวิตของบ้านใกล้กัน อาทิเช่น อย่าเพิ่มเติมจนกระทั่งชิดกับข้างบ้าน หรือต่อเติมแล้วเปิดหน้าต่าง หรือช่องสำหรับเพื่อระบายลมไปชิดข้างบ้านกระทั่งเสียง, แสงสว่าง หรือกลิ่นในห้องครัวไปก่อกวนข้างบ้าน การระบายน้ำฝนจากส่วนต่อเพิ่มก็ต้องมีรางน้ำ อย่าให้น้ำตกไปฝั่งข้างบ้าน โดยการเอาจิตใจเขามาเอาใจใส่เราบ้างว่า หากข้างบ้านทำกับเราแบบนี้ เราจะรับได้หรือเปล่า
แบบสำหรับการต่อเติม
ก่อนหาผู้รับเหมา หากท่านเจ้าของบ้านไม่มีความรู้ทางด้านวิศวกรรมเลย ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าหาข้อมูลไว้บ้าง หรือทางที่ดีหาวิศวกรเป็นที่ปรึกษาซักคน ต่อจากนั้นก็หาผู้ออกแบบงานสถาปัตยกรรมและงานโครงสร้างให้เรียบร้อย ทำแบบและรายละเอียดของงานให้ครบสมบูรณ์ เพื่อให้เป็นแถวทางให้ผู้รับเหมาก่อสร้างคิดราคา และก่อสร้างไปตามแบบที่ท่านอยากได้
การหาผู้รับเหมา
การเลือกผู้รับเหมา ไม่ใช่ดูเพียงแค่ราคาที่เสนอแค่นั้น ด้วยเหตุว่าบ่อยมากผู้รับเหมาก่อสร้างจะใช้แนวทางเสนอราคาที่ต่ำเพื่อได้งาน แล้วอุตสาหะลดคุณภาพงาน, คิดราคาเพิ่มหรือร้ายสุดคือทิ้งงาน ด้วยเหตุนั้น หนทางสำหรับการหาผู้รับเหมาก่อสร้าง คือหาที่พบเจอผลงาน เป็นถามจากคนรู้จักชี้แนะ แล้วตามไปดูผลงาน สอบถามจากเจ้าของบ้านว่าผู้รับเหมาก่อสร้างรายนี้คืออะไรบ้าง การคุยต่อราคา รวมถึงการแบ่งงวดงาน ต้องอาศัยวิศวกรมาช่วยคุยเพื่อไม่ให้โดนหลอก
ส่วนประกอบแบบไหนต้องใช้เสาเข็ม?
นอก เหนือไปจากตัวบ้านแล้ว ส่วนประกอบบ้านส่วนที่ต้องลงเสาเข็ม คือส่วนที่ไม่อยากให้ทรุดตัวเร็วเหลือเกิน ดังเช่น พื้นคอนกรีตรอบบ้าน ลานชะล้าง ลานจอดรถ ฯลฯ
ถ้าอยากให้ทรุดช้า จะต้องให้วิศวกรวางแบบ ให้ตอกเสาเข็มสั้น รองรับไว้เพื่อให้ทรุด ในระดับใกล้เคียงกันกับตัวบ้าน แต่ถ้าเกิดยอมพื้นที่นั้นยุบพร้อมทั้งดินได้ ก็ไม่จำเป็นที่ต้องลงเสาเข็มได้
กรณี ที่ควรต้องให้วิศวกรคำนวณดีไซน์เสาเข็มรองรับไว้ เป็นพื้นที่ในส่วนที่ต้องรองรับน้ำหนักมากมายๆยกตัวอย่างเช่น บริเวณที่วางแท็งค์น้ำบนดิน, สระว่ายน้ำ หากไม่ลงเสาเข็มรองรับไว้ น้ำหนักปริมาณมากมายก่ายกอง จะส่งผลให้พื้นที่นั้นทรุดลงเร็วกว่าธรรมดา
สร้างบ้านใหม่จำต้องใช้เสาเข็มแบบไหน ?
หาก เป็นบ้านสร้างใหม่ไม่เกิน 2 ชั้น ชอบใช้เสาเข็มคอนกรีตแบบเข็มตอก เพราะประหยัดที่สุด มักใช้เป็นแบบเสาเข็มหน้าตัดรูปตัวไอ (I) ความยาวปานกลาง ระหว่าง 12 - 16 เมตร ซึ่งเข็มระดับนี้ จำนวนมากจะยังคงอาศัยแรงฝืดของดินเป็นตัวรองรับน้ำหนักอยู่
ถ้าเป็น อาคารใหญ่มากขึ้น ต้องใช้เสาเข็มยาวขึ้น ตั้งแต่ 18 - 24 เมตร ให้ถ่ายน้ำหนักลงสู่ชั้นดินแข็งโดยตรง แม้กระนั้นหากเป็นพื้นที่ภาคอีสานรวมทั้งภาคใต้ ที่ดินมีความหนาแน่นสูง หรือมีชั้นดินแข็งที่อยู่ตื้นมากมาย วิศวกรบางทีก็อาจจะวางแบบให้เสาเข็ม ตอกลงไปเพียง 6 - 8 เมตร ก็สามารถถ่ายน้ำหนักสู่ชั้นดินแข็งได้เลย
เสาเข็มอีกชนิดที่ใช้ใน บ้านพักอาศัย ทั้งยังก่อสร้างบ้านใหม่ และก็งานต่อเติมบ้าน คือ เข็มเจาะ ซึ่งจะเป็นเข็มเจาะระบบเล็ก สามารถเปลี่ยนที่อุปกรณ์เข้าไปดำเนินงานในพื้นที่แคบๆดำเนินงานเจาะดิน หล่อเข็มได้โดยไม่สร้างแรงกระเทือน กับองค์ประกอบตึก/โครงสร้างรองรับใต้ดิน ของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง (กฎหมายในบางพื้นที่กำหนดให้ใช้ระบบเข็มเจาะกรณีที่อาคารที่สร้างใหม่ห่างจากตึกเดิม/เพื่อนบ้านน้อยกว่า 30 เมตร)
ราคาของเสาเข็ม ?
เข็ม ตอกจะแพงประหยัดกว่าเข็มเจาะถึง 2 - 3 เท่า ได้แก่ ถ้าหากเข็มตอกราคา 8,000 บาท/ต้น เข็มเจาะจะราคาแพงถึง 20,000 - 25,000 บาท/ต้น เพื่อรับน้ำหนักได้ในระดับเดียวกัน
แม้กระนั้นการเลือกใช้เข็มตอก หรือเข็มเจาะ ควรปลดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ วิศวกรที่จะประสานงาน กับคนเขียนแบบผู้ออกแบบ ซึ่งจะด้วยกันเปฌนผู้กำหนด ด้วยเหตุว่าอาจมีหลายๆต้นสายปลายเหตุ อาทิเช่น อาจติดปัญหาเพื่อนบ้านใกล้เคียง หากใช้เข็มเจาะแล้วไปสะเทือนส่วนประกอบเพื่อนบ้าน หรือปัญหา ถนนหนทาง ตรอก แคบมากจนถึงไม่สามารถใช้เข็มตอกได้
 
การทดสอบการรับน้ำหนักเสาเข็ม : Pile Load Test
การทดลองการรับน้ำหนักเสาเข็ม (Pile Load Test) โดยเป็นการประเมินน้ำหนักบรรทุกประลัย (Qu) จากพลังงานหรือ Momentum ที่เครื่องไม้เครื่องมือตอกได้ถ่ายทอดให้แก่เสาเข็มเพื่อส่งลงสู่ดินโดยการคำนวณจากสูตรการตอกเสาเข็ม
เสาเข็มเจาะส่วนใหญ่การตรวจความสมบูรณ์ของเสาเข็มนั้นมีมากมากมายหลากหลายแนวทางโดยส่วนมากจะนิยมใช้ทดลองนั้นมีอยู่สำคัญๆ3 แนวทางเป็น Seismic Test, Static load Test และก็ Dynamic load Test
Seismic Test กรรมวิธีการทดลองนี้จะกระทำได้ง่ายสามารถกระทำการทดลองเสาเข็มทุกต้น เนื่องจากว่าราคาถูกยิ่งกว่าวิธีอื่นๆค่าที่ได้มาอาจมีความคลาดเคลื่อนสูงเพราะว่าใช้การเคาะที่หัวเข็มเพื่อส่งคลื่นไปตามความยาวของเข็มแล้วสะท้อนกลับมาที่ศีรษะเข็มเหมือนเดิมรวมทั้งตรงหัวเข็มจะมีเครื่องรับสัญญาณคลื่นที่กลับมาเครื่องนี้จะแสดงออกมาเป็นกราฟ และก็บันทึกด้วยคอมพิวเตอร์แล้วเอามาอ่านค่าก็จะได้รู้ว่าความยาวของเข็มตรงที่ตำแหน่งไหนที่เกิดรอยร้าวหรือเกิดรูพรุนจะได้ปฏิบัติการปรับปรุงแก้ไขเสาเข็มนั้น
Static load Test ขั้นตอนการทดลองนี้ทั่วไปมี 2 แนวทางคือ
1. Static load Test แบบเสาเข็มสมอเป็นการทดสอบเสาเข็มที่ตอกเสาเข็มเป็นสมอยึดคานรับแม่แรง (Hydroulic Jack) โดยอาศัยแรงฝืดของดินเป็นตัวต้านทานแรงถอนตัวจากแรงที่กดลงเสาเข็มทดลอง การตอกเข็มสมอลงบประมาณนดินควรจะตอกในชั้นดินเหนียวเพราะเหตุว่าจะมีความฝืดมากกว่าดินจำพวกอื่นๆ
2. Static load Test แบบสิ่งของถ่วง การทดลองของระบบจะใช้ในกรณีที่เสาเข็มเสมอใช้การไม่ได้เนื่องด้วยชั้นดินที่ทำงานตอกเข็มสมอมีแรงฝืดไม่พอที่จะรับแรงถอนของแม่แรง(Hydroulic Jack) ฉะนั้นของหันมาใช้แนวทางแบบนี้วิธีการของ Static load Test แบบอุปกรณ์ถ่วง คือวางอุปกรณ์หนักๆลงบนคานรับนำหนักโดยใต้คานนั้นจะมีหมอนรองรับน้ำหนักกันการโยกของคาน จากนั้นก็ติดตั้งแม่แรง (Hydroulic Jack) ลงทดลองเสาเข็มนั้นจะมีความแม่นยำสูงเพราะใช้ระยะเวลาการทดสอบมากกว่าการทดลองวิธีอื่นๆการเก็บค่าของการยุบตัวเมื่อเพิ่มหรือลดให้ละเอียด
เช่นการทดลองเสาเข็มต้นหนึ่งโดยการทดสอบนั้น ต้องเพิ่มน้ำหนักเป็นขั้นๆดังต่อไปนี้ 20% , 50% , 75% รวมทั้ง 100% ในแต่ละขั้นของน้ำหนักที่เพิ่มให้ใช้อัตราการเพิ่มราว 1 มม.ต่อนาที อ่านค่าทรุดของเข็มที่ 1, 2, 4, 8, 15, 30, 60, 90, 120, 180, 240 นาทีและก็ ทุกๆ2 ชั่วโมง ความละเอียดสำหรับในการอ่านควรจะมีความละเอียดถึง 0.02 มิลลิเมตร(โดยมากนิยมใช้ นาฬิกาวัดการเคลื่อนที่ (Dial gage) อย่างน้อย 2ตัวสำหรับในการอ่านค่าหรือใช้กล้องวัดระดับที่สามารถอ่านได้ละเอียด 1.00 มิลลิเมตร) การเพิ่มน้ำหนักแต่ละขั้นจะทำได้ก็ต่อเมื่ออัตราการทรุดตัวต่ำลงถึง 0.30 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง จะต้องมีเวลาของการบรรทุกน้ำหนักชั้นนั้นๆไม่น้อยกว่า 60 นาที เมื่อเพิ่มน้ำหนักทดสอบถึง 100% จะต้องรักษานำหนักที่บรรทุกไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 24 ชั่งนาฬิกาหลังจากนั้นก็ลดน้อยหนักทุกๆชั่งน้ำหนักนาฬิกา เป็นขั้นๆดังนี้ 40% , 25% , 0% โดยบันทึกค่าคืนตัวของเข็มที่เวลา 1, 2, 4, 8, 15, 30, 45, 60 นาที และที่นำหนัก 0% ให้บันทึกต่อไปทุกๆชั่วโมง จนตราบเท่าค่าของการคืนตัวคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นต้น การทดสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็มอีกทั้ง 2 แบบมีลักษณะดังต่อไปนี้
Dynamic load Test เป็นการทดลองเสาเข็มหลายๆต้นด้วยวงเงินและเวลาที่จำกัด การรับน้ำหนักของเสาเข็มที่มีปัญหาและไม่สามารถทดสอบแบบธรรมดาได้ อย่างเช่น เสาเข็มที่ร้าว หรือสงสัยจะหัก หรือเสาเข็มที่เอียงมากยิ่งกว่าที่ระบุ หรือ เสาเข็มที่มีประวัติการตอกหรือกระบวนการทำไม่ดียังไง ก็ดีแล้ว ไม่ควรใช้การทดสอบด้วยแนวทางนี้แทนการทดสอบแบบ Static load Test ทั้งปวง หลักคือ ใช้ ปั้นจั่นยกตุ้มสำหรับมีไว้ถ่วงน้ำหนัก แล้วปลดปล่อยให้ปล่อยลูกตุ้มลงมากระแทกเสาเข็ม พลังงานจากการกระทบ จะทำให้กำเนิดคลื่นความสั่นซึ่งเมื่อสะท้อนเข้าเครื่อง Oscilloscope ก็จะแปลงเป็นกราฟ แสดงความเกี่ยวเนื่องระหว่างแรงแล้วก็ความเร็วกับเวลา
การเลือกใช้กรรมวิธีการทดสอบเสาเข็มนั้นขึ้นอยู่กับผู้รับเหมาว่าจะใช้ขั้นตอนการอะไรที่อยู่ในการทดลองหรืออาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีในหลักเกณฑ์ของแบบก่อสร้างที่ผู้ว่าจ้างอยากได้ใช้แนวทางทดสอบ แบบใดผู้รับเหมาก่อสร้างจะต้องเสนอรายละเอียดของเครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบให้กับวิศวกรผู้คุมงานดูซิการทดลองวิธีการทดลองเสาเข็ม แล้วก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณสำหรับเพื่อการก่อสร้าง ช่วงเวลาสำหรับเพื่อการทดลอง
 
ปัญหาแล้วก็แนวทางแก้ไขในงานตอกเสาเข็ม
- ในกรณีที่ไม่อาจจะขนส่งเสาเข็มเข้าหน่วยงานได้เพราะเหตุว่าถนนหนทางแคบ อาจขจัดปัญหาโดยการใช้เสาเข็มหลายท่อน หรือเปลี่ยนไปใช้เสาเข็มเจาะแทน หรือใช้เสาเข็มหล่อในที่ ระยะทางตรงและก็/หรือทางราบไม่พอสำหรับเพื่อการตอกเสาเข็ม อาจจำเป็นต้องหมุนปั้นจั่นเอาตุ้มเข้าหาเครื่องกีดขวาง หรือแปรไปใช้เสาเข็มเจาะแทน
 ความสั่นจากการตอกเสาเข็ม อาจแก้ปัญหาโดยใช้ปั้นจั่นระบบน้ำมันดีเซลหรือไอน้ำ(Diesel or Steam Hammer) แทน หรือขุดคลองน้ำตามแนวที่จะคุ้มครองปกป้องการสั่นสั่นสะเทือน หรือใช้เสาเข็มกลมแรงเหวี่ยง (Spun Pile) หรือแปรไปใช้เสาเข็มเจาะ นอกเหนือจากนั้นวิศวกรผู้ควบคุมงานจำเป็นต้องดูภาวะอาคารข้างๆอย่างสม่ำเสมอ
- ดินเคลื่อนจากการตอกเสาเข็ม แบ่งได้ 2 กรณีเป็น
-- ดินขับเคลื่อนจากการตอกเสาเข็มต้นหลังไปดันเสาเข็มที่ตอกก่อนกระทั่งเสียหาย บางทีอาจปรับแก้โดยวางแผนตอกเสาจากรอบๆดินแข็งไปหาดินอ่อน หรือเปลี่ยนไปใช้เสาเข็มเจาะ
-- ตึกใกล้กันเสียหายเนื่องด้วยดินขับเคลื่อนจากการตอกเสาเข็ม บางทีอาจปรับแก้โดยการวางแผนการตอกเสาเข็มไล่จากด้านที่อยู่ใกล้อาคารใกล้กันออกไป หรือเปลี่ยนเสาเข็มเป็นเสาเข็มที่แทนที่ดินน้อยกว่าเพื่อลดการแทนที่ของเสาเข็มในดิน หรือแปรไปใช้เสาเข็มเจาะ
- เสาเข็มหนีศูนย์ ปัญหานี้สามารถปกป้องได้โดยการเอาใจใส่เอาไว้ภายในขั้นตอนของการตรวจตราแนวตั้งของเสาเข็มและก็ปั้นจั่นก่อนตอก ในเรื่องที่พบปัญหานี้ภายหลังตอกแล้วบางทีอาจทดลองกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม แม้เสาเข็มไม่สามารถที่จะรับน้ำหนักได้ตามที่ออกแบบ จะต้องตอกเสาเข็มแซมรวมทั้งดีไซน์ครอบหัวเสาเข็ม (Pile Cap) ใหม่
 เสาเข็มหัก ปัญหานี้สามารถคุ้มครองปกป้องได้โดยเอาดวงใจใส่เอาไว้ข้างในขั้นตอนของการตรวจดูแนวดิ่งของเสาเข็มแล้วก็ปั้นจั่นก่อนตอก เลือกปลายเสาเข็มให้เหมาะสมกับภาวะดิน ใช้ลูกตุ้มที่ไม่ใหญ่เกิน และไม่เข่นเสาเข็มระหว่างตอก แม้พบว่าเสาเข็มหัก ต้องตอกเสาเข็มแซมและก็ออกแบบครอบหัวเสาเข็ม (Pile Cap) ใหม่
 ตอกเสาเข็มจนถึงจมลงในดินจนกระทั่งหมดความยาวแล้วยังไม่ได้จำนวนนับ (Blow Count) ตามที่กำหนด ปัญหานี้คุ้มครองป้องกันได้ถ้ามีการเจาะตรวจสอบชั้นดินที่มีคุณภาพ ในทางปฏิบัติ มักบากบั่นตอกถัดไปโดยใช้เหล็กส่งหัวเสาเข็มให้จมลงไปในดินซึ่งบางคราวก็ทำให้ได้จำนวนนับที่อยาก แต่ว่าไม่สมควรส่งลึกเกินไปเพราะเหตุว่าจะมีปัญหาสำหรับการขุดดินลงไปทำครอบหัวเข็มถ้าพบปัญหานี้ควรเจาะสำรวจชั้นดินใหม่เพื่อรู้ดีว่าความยาวเสาเข็มที่แท้จริงเป็นมากแค่ไหน
- อุบัติเหตุสำหรับเพื่อการทำงานปั้นจั่น แบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ
-- ปั้นจั่นล้ม ปรับพื้นให้เรียบ ยืนบนพื้นที่แข็งแรงทนทาน รองไม้หมอนให้เพียงพอ และไม่หนุนไม้หมอนสูงหลายชั้น ควรจะหลีกเลี่ยงการดึงเข็มจากข้างหลัง ตั้งปั้นจั่นให้ได้ตรง
-- อุบัติเหตุทางร่างกาย มักมีสาเหตุจากความเลินเล่อของผู้ควบคุมปั้นจั่นรวมทั้งผู้ช่วย บางทีอาจเนื่องจากความใกล้ชิดกับการกระทำงานจนกระทั่งไม่ระแวดระวังตัว ผู้ทำหน้าที่ที่ปั้นจั่นไม่ควรไปผลัก ดัน ดึงเสาเข็มขณะปั้นจั่นดำเนินงาน และไม่ควรไปยืนในแนวตั้งเสาเข็ม ดังนี้วิศวกรพึงจะทราบว่า ในตอนนี้มีกฎกระทรวงออกมาบังคับให้ผู้ควบคุมปั้นจั่นต้องผ่านการอบรมจากสถาบันที่น่าเชื่อถือก่อน

 งานตอกเสาเข็มสะพานด้วยสปันไมโครไพล์
แม้ในพื้นที่จะแคบ เราตอกเสาเข็มชิดได้
เสาเข็มต้นในรูปนี้ตอกลงไป ลึก 19.5 เมตร ได้ Blow count 2mm ตามวิศวกรกำหนด ไม่ต้องกลัวทรุด

รูปจากหน้างานสุวินทวงค์ #งานต่อเติมครัวหลังบ้าน

เสาเข็มไมโครสปัน ควมคุมโดยทีมวิศวกร
(ต่อเติมบ้านกลัวไม่ทรุด และ รับแก้ไขบ้านทรุดตัว รับแก้ไขส่วนต่อเติมทรุด)

เสาเข็ม สำหรับงาน"ต่อเติมบ้าน" และอาคาร
หลังนี้ลง10ต้น ถนนกาญจนาภิเษก
งานพร้อม! คนพร้อม! ลุยครัช!

ทำไมลูกค้าถึงเลือกเรา!



 Specialist - Expert

เราคือผู้เชียวชาญเสาเข็มไมโครไพล์ทุกชนิด ทั้งไมโครไพล์ และ สปันไมโครไพล์




Tel: 08-4644-6655

www.completemicropile.com

Tags : เสาเข็มไมโครไพล์