พระขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม เนื้อกระยาสารท มีกลิ่นน้ำมันพระเจ้าตาก ตะกรุดสองดอก (680)

[keekimaru]

พระขุนแผนผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม เนื้อกระยาสารท มีกลิ่นน้ำมันพระเจ้าตาก ด้านหลังฝังตะกรุด 2 ดอก

พระขุนแผนผงพรายกุมารองค์นี้ เป็นพระขุนแผนปี พ.ศ. 2515 พิมพ์ใหญ่ เนื้อกระยาสารท ซึ่งภายในเนื้อยังมีส่วนผสมของว่านเถาวัลย์หลง ซึ่งเราจะเห็นสีเขียวๆปะปนอยู่บ้างในเนื้อขององค์พระ พื้นผิวขององค์พระมีความขรุขระเนื่องจากใช้ข้าวเหนียวหยาบ มาใช้ในการกดพิมพ์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเนื้อขนมกระยาสารท ชาวบ้านจึงนิยมเรียกว่า พระขุนแผนผงพรายกุมารเนื้อกระยาสารท

ที่พื้นผิวขององค์พระถูกทาด้วยบอรนทองเป็นประกาย แต่ถ้าดูในรูปแล้วจะคิดว่าพระเนื้อชุม แต่ถ้าได้ดูองค์จริงแล้วที่เห็นว่าบริเวณพื้นผิวที่เห็นว่าชุ่มฉ่ำนั้นคือบรอนซ์ทองที่เกิดการสะท้อนแสงของหลอดไฟที่ใช้ในการถ่ายรูปพระเครื่อง และเนื่องจากสีทองของบรอนทองนั้น มีสีเหลืองทองใกล้เคียงกับสีของข้าวเหนียวที่ออกเหลืองๆในเนื้อพระเครื่องเลยทำให้ดูกลืนกัน และหากดูผิวเผินจะคิดว่าพระเนื้อชุมฉ่ำ แต่หากได้มาดูองค์จริงแล้วจะเห็นว่าพระมีเนื้อแห้งพอสมควร ซึ่งสามารถสังเกตได้จากรูป ภาพที่ซูมกล้องลงไปใกล้ๆ

พระขุนแผนผงพรายกุมารเนื้อกระยาสารท พิมพ์ใหญ่ องค์นี้ มีสภาพแม่พิมพ์ที่มีความสมบูรณ์ รูปองค์ทรงพระ สวยงาม ประกอบกับเนื้อพระที่มีความคลาสสิคเฉพาะเนื้อกระยาสารทนี้ ซึ่งหากเป็นเนื้อข้าวเหนียวอื่นๆ เนื้อพระก็จะมีความละเอียดกว่านี้และเป็นเนื้อเดียวกัน

ความคลาสสิคของเนื้อกระยาสารททำให้เราเห็นเม็ดข้าวเหนียวและการ ประกอบกันของมวลสารต่างๆที่ชัดเจน เราสามารถมองเห็นจุดที่เนื้อมวลสารประกอบการไม่สมบูรณ์ เช่นรอยพรุนต่างๆ
ทำให้เราสามารถวิเคราะห์และดูองค์ประกอบได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

พระขุนแผนผงพรายกุมารองค์นี้ ค่อนข้างมีกลิ่นน้ำมันพระเจ้าตากสิน ซึ่งเป็นน้ำมันที่ใช้ทาพิมพ์ ในการสร้างและกดพิมพ์พระเครื่อง ซึ่งกลิ่นของน้ำมันพระเจ้าตากจะมีความเป็นเอกลักษณ์ โดยลักษณะของกลิ่นจะคล้ายๆกับน้ำมันมะพร้าวเก่า มีกลิ่นหืนหื่นพอประมาณ ซึ่งมีกับพระของหลวงปู่ทิมเท่านั้น ส่วนพิมพ์อื่นๆก็มีการทาน้ำมันพระเจ้าตากเช่นกัน แต่บางครั้งกลิ่นก็ได้เลือนหายไป ตามกาลเวลา แต่ส่วนมากแล้วที่ผมสังเกตดูพระขุนแผนผงพรายกุมารที่มีเนื้อกระยาสารทจะสามารถ คงกลิ่นน้ำมันพระเจ้าตาก ให้คงอยู่ ทำให้เราสามารถรับรู้กลิ่นของน้ำมันพระเจ้าตากได้อย่างชัดเจน

หากพลิกมาดูที่ด้านหลังขององค์พระ พระขุนแผนผงพรายกุมารองค์นี้ฝังตะกรุด 2 ดอกซึ่งเรียกว่าตะกรุดสาริกาคู่ เป็นตะกรุดที่มีเมตตามหานิยมในด้านการพูดจาอย่างมีเสน่ห์ - พูดจาแล้วทำให้ผู้คนรู้สึกคล้อยตามเชื่อถือ จึงทำให้มีประโยชน์อย่างมาก ในการประกอบอาชีพค้าขาย หรือพูดจาติดต่อธุรกิจต่างๆ หลวงปู่ทิมท่านได้เล็งเห็นว่าสิ่งเหล่านี้มีประโยชน์ในการช่วยเหลือชาวบ้านและมนุษย์ทั้งหลายเพื่อการประกอบอาชีพที่สุจริต และสามารถมีชีวิตเป็นอยู่ ที่มั่นคงมีกินมีใช้ไม่เดือดร้อน

เราจึงเห็นโดยมากว่าพระขุนแผนผงพรายกุมารมักจะฝังตะกรุดสาริกาคู่ 2 ดอก และสามารถพบเห็นได้มากกว่าตะกรุด 1 ดอก หรือที่เรียกว่าตะกรุดมหาปราบ เป็นต้น

ส่วนด้านหลังนี้เนื่องจากถูกสร้างจากเนื้อข้าวเหนียวหยาบจนทำให้เนื้อขององค์พระคล้ายกับเนื้อกระยาสารทจึงทำให้รายละเอียดของตัวอักษรและอักขระยันต์ ดูเลือนลางมองเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก

นอกจากนี้สำหรับพระเครื่ององค์นี้ บริเวณตะกรุด 2 ดอกยังมีคราบของสนิมเก่าที่เปรอะเปื้อนอยู่ทางด้านหลังขององค์พระอีกด้วย

คุณอาจจะเคยสงสัยหรือไม่ว่าพระขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม ทำไมผู้คนจึงนิยมกันมาก ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นชาวต่างชาติมากมายต่างก็ให้ความสำคัญและมีความสนใจมากเกี่ยวกับพระขุนแผนผงพรายกุมาร

ก็เนื่องด้วยจากพระขุนแผนผงพรายกุมารนั้น ผู้ใดที่นำไปบูชา ก็จะสามารถนำพาความโชคดี นำพาให้ชีวิตการงานเดินไปสู่เส้นทางที่ดีขึ้นโดยพุทธคุณของพระเครื่องและภูตพรายกุมารที่คอยช่วยเหลืออยู่เสมอ

หากผู้ใดบูชาพระขุนแผนผงพรายกุมารและประกอบอาชีพที่สุจริตตรงไปตรงมา ไม่คดโกง ยิ่งส่งผลให้พระเครื่องมีความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้นประกอบกับการรักษาศีล 5 อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ชีวิตของคุณไม่ตกต่ำอย่างแน่นอน

กุมารที่สถิตอยู่ในพระขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมนี้ เป็นจิตวิญญาณของเด็กน้อยที่มีความสามารถในการช่วยเหลือเกื้อกูลผู้บูชาพระเครื่อง พวกเขาคอยช่วยเหลือในด้านการค้าขาย และช่วยเหลือในด้านอื่นๆเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างดีเยี่ยม

แต่เนื่องด้วยในโลกของวิญญาณนั้นบุญกุศลเป็นสิ่งจำเป็นมาก เราจึงควรทำบุญและอุทิศบุญกุศลต่างๆให้กับภูตพรายกุมาร เพื่อที่พวกเขาจะได้มีความสุข เช่นเดียวกับคุณที่ได้รับความสุขจากการค้าขายหรือการประสบความสำเร็จในอาชีพทางการงาน สำเร็จในด้านเรื่องเงินทอง มีชีวิตมั่นคงและ การดำเนินชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ดังนั้นหากคุณเข้าใจเจตนารมณ์ของหลวงปู่ทิม คุณจะเห็นได้ว่าหลวงปู่ทิมท่านมีความเมตตา ซึ่งท่านช่วยเหลือวิญญาณเหล่านั้นเพื่อให้ได้รับบุญได้รับกุศล จากผู้ที่บูชาพระขุนแผนผงพรายกุมาร เพราะเนื่องจากบุญกุศลในโลกของวิญญาณนั้นไม่สามารถสร้างบุญได้ด้วยตนเองในภพภูมิที่เขาอาศัยอยู่ (แต่พวกเขาจำเป็นต้องใช้อย่างมาก)

แต่ภพภูมิของมนุษย์นั้น สามารถสร้างกุศลสร้างผลบุญต่างๆได้ ด้วยการให้ทาน-ทำบุญตักบาตร , รักษาศีล , การภาวนาสวดมนต์ไว้พระ และสามารถนำบุญเหล่านั้นอุทิศกรวดน้ำอุทิศส่งให้กับดวงวิญญาณภูตพรายกุมาร ซึ่งก็เช่นเดียวกับที่เรากรวดน้ำเพื่อให้บุญกุศลส่งผลถึงญาติมิตรสหายที่ตายจากไปแล้วและไปสู่โลกวิญญาณนั่นเอง

หากเราสังเกตดีๆก็จะเข้าใจได้ว่าเป็นการเกื้อหนุนกันระหว่างสองภพภูมิ  โดยภพภูมิของวิญญาณก็จะมาคอยช่วยเหลือเราให้สามารถมีชีวิตการดำเนินอยู่กับเลี้ยงชีพอย่างสุจริตและมีเงินทองมั่นคงส่งผลให้มีชีวิตสุขสบาย และเมื่อเราดีขึ้นแล้วเราก็จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้วิญญาณของภูตพรายกุมารเหล่านั้น เพื่อให้เขามีความสุขเหมือนกับเราเช่นเดียวกัน

พระขุนแผน ผงพรายกุมาร ของหลวงปู่ทิม นั้นสร้างขึ้นด้วยจากความเมตตาของหลวงปู่ทิม ซึ่งท่านปลุกเสกพระเครื่องด้วยสมาธิและอภิญญาขั้นสูง ซึ่งไม่ใช่ว่าใครๆก็จะทำได้ง่ายๆ ดังนั้นผู้ที่บูชาพระขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมจึงจัดได้ว่าเป็นผู้ที่มีความโชคดีเป็นอย่างมากซึ่งนอกจากเราจะได้วัตถุมงคลที่มีความศักดิ์สิทธิ์แล้วเรายังได้มีโอกาสทำบุญให้กับดวงวิญญาณ และในขณะเดียวกันเราก็ได้รับการช่วยเหลือจากดวงวิญญาณภูตพรายกุมารอีกด้วย

สุดท้ายนี้หากท่านใดประสบผลสำเร็จ จากการบูชาพระขุนแผนผงพรายกุมารไม่ว่าจะเป็นในด้านอาชีพการงาน การดำเนินชีวิต ตลอดจนมีความมั่นคงในชีวิต หากมีโอกาสผมก็ขอเชิญชวนให้ทุกท่านไปทำบุญที่วัดละหารไร่ของหลวงปู่ทิม เพื่อที่จะได้นำปัจจัยมาสร้างโบสถ์วิหารลานวัด และให้พระพุทธศาสนาสืบทอดต่อไป ตลอดจนรุ่นลูกรุ่นหลาน


ดูเพิ่มเติม : http://moviestom.com/pra/detail.php?id_detail=501