ผู้เขียน หัวข้อ: คนรุ่นใหม่ใส่ใจโรคเอดส์  (อ่าน 175 ครั้ง)

ออฟไลน์ Thanitanitan

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 54
    • ดูรายละเอียด
คนรุ่นใหม่ใส่ใจโรคเอดส์
« เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2019, 10:14:11 pm »
โรคเอดส์ เป็นโรคที่เกิดขึ้นมาจากการได้รับเชื้อไวรัส ที่เรียกว่า HIV ซึ่งเชื้อไวรัสประเภทนี้จะมีผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ติดเชื้อปฏิบัติงานไม่ปกติ ในปัจจุบันยังไม่มีทางรักษาให้กลับมาเป็นปกติ ทำได้เพียง ควบคุมอาการและก็รักษาแบบประคับประคอง ก็เลยทำให้โรคเอดส์ เป็นโรคที่ใครๆต่างกลัว เพราะว่ามีความรู้สึกว่าเป็นแล้วจะต้องเสียชีวิต แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วมีหนทางประคับประคองให้ผู้ติดโรคสามารถมีชีวิตยืนยาวได้นานนับสิบปี วันนี้เราจึงนำความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องโรคเอดส์มาฝาก เพื่อที่เราจะได้ทำความรู้จักโรคเอดส์อย่างถ่องแท้ และก็วางแผนป้องกันโรคเอดส์ได้อย่างถูกวิธี


โรคเอดส์ คืออะไร?
 

โรคเอดส์เป็น ลักษณะของโรคภูมิต้านทานขาดตกบกพร่อง (AIDS : Acquired Immune Deficiency Syndrome) โดยมีเหตุมาจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ฮิวแมนอิมมิวโนเดฟีเชียนซีไวรัส (Human Immunodeficiency Virus : HIV) หรือเรียกง่ายๆว่า เชื้อเอชไอวี (HIV) เมื่อเชื้อเอชไอวีไปสู่ร่างกาย จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งปฏิบัติหน้าที่กำจัดสิ่งปลอมปนหรือเชื้อโรคที่ไปสู่ร่างกาย เมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวถูกทำลายเยอะขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้คนไข้มีภูมิคุ้มกันต่ำลง จนถึงสุดท้ายร่างกายไม่มีสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆที่ไปสู่ร่างกายได้ ก็เลยทำให้คนเจ็บที่ติดเชื้อเอชไอวีนั้นสามารถติดเชื้อได้ง่ายขึ้นนำมาซึ่งการทำให้เป็นโรคติดเชื้อโรคอื่นๆตามมา เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ เชื้อรา ฯลฯ โดยส่วนมากคนเจ็บโรคเอดส์มักเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนต่างๆ

 

โรคเอดส์มีกี่สายพันธุ์
เชื้อไวรัสเอชไอวีมีหลายสายพันธุ์โดยปัจจุบันนี้ค้นพบมากยิ่งกว่า 10 สายพันธุ์ กระจายอยู่ทั่วทั้งโลก แต่ว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมเป็น เอชไอวี 1 (HIV-1) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดอยู่ในยุโรป แอฟริกากลาง และก็สหรัฐอเมริกา ส่วนเอชไอวี 2 (HIV-2) แพร่ระบาดในแถบแอฟริกาตะวันตก
เชื้อไวรัสเอชไอวีถูกศึกษาค้นพบครั้งแรกที่แอฟริกา โดยค้นพบมานานกว่า 70 ปีแล้ว และปัจจุบันนี้ยังเป็นแหล่งที่พบเชื้อไวรัสเอชไอวีหลายสายพันธุ์ที่สุดด้วย
สายพันธุ์เอชไอวีที่พบได้มากที่สุดในโลกคือ สายพันธุ์ซี โดยมีสูงถึง 40% สำหรับพื้นที่ที่เจอคือ ทวีปแอฟริกา ประเทศอินเดีย จีนและพม่า ส่วนในประเทศไทยนั้นเจอเชื้อเอชไอวี 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ เออี (A/E) หรือ (E) พบได้มากถึง95% โดยแพร่ระบาดจากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิง แล้วก็สายพันธุ์บี (B) มักเกิดการแพร่ระบาดในกลุ่ม LGBT หรือคนที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน (ในกลุ่มผู้ใช้สารเสพติด)
สำหรับสายพันธุ์ที่ไม่เคยเจอในประเทศไทยคือ สายพันธุ์ซี แต่ว่ามีการพบสายพันธุ์ระหว่าง อี-ซี ที่เป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์อีในประเทศไทยกับสายพันธุ์ซี ซึ่งมีถิ่นเกิดในทวีปแอฟริกา และเมื่อเร็วๆนี้ ได้ศึกษาค้นพบเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์ใหม่ ที่ไม่เคยตรวจพบที่ใดในโลกมาก่อน เป็นการผสมระหว่าง 3 สายพันธุ์ เป็น เอ อี แล้วก็จี เรียกว่า เอ อี จี(AE/G)
 

การติดต่อของโรคเอดส์มี 3 ทางดังต่อไปนี้
- การร่วมเพศกับผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี
การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดโรคเอชไอวีเป็นสาเหตุหลักของการได้รับเชื้อไม่ว่าจะเป็นการร่วมเพศกับเพศใดก็ตาม ดังนี้จากข้อมูลของทางกองระบาดวิทยาระบุว่า 83% ของผู้ติดเชื้อโรคเอชไอวีนั้น ได้รับเชื้อมาจากการร่วมเพศทั้งสิ้น

- การได้รับเชื้อทางเลือด
การติดเชื้อโรคเอดส์เจอได้ใน 2 กรณี เป็น
2.1 ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือแม้แต่การใช้กระบอกสำหรับฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อโรคเอชไอวี ซึ่งมักพบในกลุ่มผู้เสพยาเสพติด หรือฉีดยาเข้าเส้น
2.2 รับเลือดมาจากการผ่าตัด หรือเพื่อรักษาโรคเลือดบางชนิด ในสมัยก่อนมีการติดเชื้อโรคเอชไอวีจากช่องทางนี้ค่อนข้างจะเยอะ เพราะยังไม่มีการตรวจเลือดที่ละเอียดนัก แต่ปัจจุบันได้มีการนำเลือดที่รับบริจาคไปทำการตรวจหาเชื้อก่อนทุกครั้ง ทำให้อัตราการรับเชื้อจากการรับเลือดน้อยลงอย่างมาก
 

- การติดต่อผ่านแม่สู่ลูก
เกิดขึ้นจากแม่ที่มีเชื้อเอชไอวีอยู่แล้ว โดยเชื้อเอชไอวีจะถ่ายทอดสู่ลูกขณะคลอด แต่ปัจจุบันนี้ได้ศึกษาค้นพบวิธีการป้องกันการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกได้แล้วโดยวิธีการรับประทานยาต้านไวรัสในช่วงตั้งท้อง จะช่วยลดการเสี่ยงจากการรับเชื้อของทารกลงได้

 

นอกจากนี้ เชื้อเอชไอวียังสามารถติดต่อได้อีกหลายวิธี แต่ก็มีโอกาสน้อยมาก เช่นการเจาะหูโดยการใช้เข็มร่วมกับผู้ติดเชื้อโรค หรือแม้แต่การสัก ไม่ว่าจะเป็นการสักผิวหนังสักขนคิ้ว นอกเหนือจากเลือดแล้ว เชื้อเอสไอวียังสามารถติดต่อกันผ่านทางน้ำเหลืองได้ด้วย โดยบางทีอาจติดเชื้อโรคจากการที่บาดแผลของพวกเราสัมผัสกับรอยแผลของผู้ติดโรค แต่ว่าก็นับว่ามีโอกาสต่ำมากมาย โดยจะติดเชื้อโรคได้ก็เมื่อเป็นแผลเปิด แผลสด และก็มีเลือดหรือน้ำเหลืองที่มีเชื้อไหลเข้าไปจำนวนมากเท่านั้น

 
สาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อโรคเอดส์
สาเหตุที่ทำให้ติดโรคเอชไอวีมีหลายประการ คือ
จำนวนเชื้อเอชไอวี ถ้าเกิดได้รับเชื้อเอชไอวีในจำนวนมากก็จะมีผลให้เสี่ยงต่อการรับเชื้อสูงตามไปด้วย โดยเชื้อเอชไอวีพบมากที่สุดในเลือด รองลงมาคือ น้ำกามและน้ำในช่องคลอด
มีรอยแผล ถ้าเกิดมีรอยแผลบริเวณผิวหนังหรือโพรงปาก ย่อมทำให้ได้โอกาสติดเชื้อโรคสูงมากขึ้น (จากการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องปาก) เพราะว่าเชื้อเอชไอวีสามารถเข้าสู่บาดแผลได้
ความบ่อยสำหรับการสัมผัสเชื้อ หากมีการสัมผัสเชื้อไวรัสบ่อยโอกาสเสี่ยงที่จะติดโรคก็มีสูงขึ้น เช่น นักค้นคว้าที่จะต้องกระทำการทดสอบ ศึกษาเกี่ยวกับเชื้อไวรัสเอชไอวี ฯลฯ
การติดเชื้อแบบอื่นๆอาทิเช่น แผลเริม ซึ่งแผลชนิดนี้จะมีเม็ดเลือดขาวอยู่ที่บริเวณแผลจำนวนมากทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อได้ง่าย
 

การป้องกันโรคเอดส์
โรคเอดส์เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้เพียงแต่ทำความเข้าใจให้ถูก แล้วก็ทำตามหลักดังต่อไปนี้

-ใช้ถุงยางทุกครั้งที่ร่วมเพศ
-มีคู่นอนเพียงคนเดียว
-ก่อนสมรส หรือมีบุตร ควรมีรับการตรวจร่างกาย และตรวจเลือด
-งดเว้นใช้สิ่งเสพติดทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เข็ดหลาบฉีดยาร่วมกับคนอื่นๆ
ขอบคุณบทความจาก https://www.honestdocs.co/aids-hiv-infection-and-prevention

Tags : ติดเชื้อเอชไอวี