ผู้เขียน หัวข้อ: โรคหนองในแท้ และหนองในเทียมต่างกันยังไง  (อ่าน 828 ครั้ง)

ออฟไลน์ Thanitanitan

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 54
    • ดูรายละเอียด
โรคหนองใน (Gonorrhea)


หนองใน เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่นับว่าอันตราย แม้ผู้ป่วยมิได้รับการรักษาที่ถูกวิธี แม้ผู้ติดโรคจะออกอาการเพียงนิดหน่อยหรือไม่แสดงอาการเลยก็ตาม


ทั้งนี้จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยาระบุว่า ในปีพุทธศักราช 2555 มีจำนวนผู้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งสิ้น32,972 คน โดยเป็นผู้ติดเชื้อโรคโรคหนองในทั้งสิ้น 7,312 คน (ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในบรรดาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด)

แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มลดลง แต่ก็จัดว่ายังมีจำนวนมากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆโดยข้อมูลที่เราจะนำเสนอนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ในการช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการติดโรคโรคหนองในได้มากขึ้น

 

โรคหนองในคืออะไร
โรคหนองใน (Gonorrhea) หรือเรียกอีกชื่อว่าโรคหนองในแท้ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่งที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า Neisseria gonorrhoeae ซึ่งเชื้อดังกล่าวสามารถแพร่จากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือปากโดยที่ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย โดยผู้ติดเชื้อโรคบางทีอาจไม่แสดงอาการอะไรเลยก็ได้

นอกจากนั้น เชื้อหนองในยังสามารถแพร่จากแม่สู่ทารกระหว่างการคลอด แต่ว่าเชื้อไม่สามารถแพร่ได้ผ่านการใช้สิ่งของร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นผ้าเช็ดตัวลูกบิดประตู หรือฝานั่งชักโครก

ลักษณะของโรคหนองในจะปรากฏขึ้นเมื่อไหร่
อาการโรคมักปรากฏให้เห็นประมาณ 2-7 วันหลังจากได้รับเชื้อ แต่ส่วนใหญ่บางทีอาจไม่มีการแสดงอาการใด โดยหญิงอาจออกอาการช้ากว่าผู้ชาย

สัญญาณและก็อาการของโรคหนองใน ในหญิง
- หญิงที่ติดโรคหนองในส่วนมากมักจะไม่มีการแสดงอาการใดๆของโรค หรือหากมีอาการก็จะเป็นไม่เท่าไรนักจนกระทั่งบางทีอาจไม่สามารถพิจารณาได้ จนกระทั่งโรคจะอยู่ในระดับรุนแรงแล้ว ในบางรายอาจมีอาการปวดแสบขณะปัสสาวะ มีตกขาว สีเหลืองหรือสีเขียวไม่ปกติ เจ็บอุ้งเชิงกราน หรืออาจมีเลือดไหลจากช่องคลอดในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน หรือมีรอบเดือนผิดปกติ
- หากเชื้อมีการแพร่ไปไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆอย่างมดลูกหรือท่อนำไข่ เชื้อจะทำให้มีอาการอักเสบในอุ้งเชิงกราน ซึ่งจะมีผลให้ผู้ติดโรคมีอาการปวดบริเวณท้องน้อย จับไข้ รวมทั้งเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
 

สัญญาณและก็อาการหนองใน ในผู้ชาย

- สำหรับผู้ชายที่ติดโรคจะแสดงอาการให้เห็นเด่นชัดมากกว่าสตรี แต่ว่าบางทีอาการก็แสดงเพียงเล็กน้อย กระทั่งไม่รู้ว่าตนเองกำลังติดเชื้อโรค โดยอาการซึ่งสามารถพิจารณาได้เป็น ปวดแสบขณะปัสสาวะแล้วก็มีมูกสีขาวขุ่นไหลออกมาทางอวัยวะเพศ บริเวณรอบๆรูองคชาติเป็นสีแดงๆ
 

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นข้างหลังการได้รับเชื้อโรคหนองใน
- สำหรับเพศหญิง เชื้อสามารถแพร่กระจายไปยังมดลูก ท่อนำไข่ แล้วก็รังไข่ ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบที่อุ้งเชิงกรานและก็อาจทำให้เกิดแผลในส่วนต่างๆที่เชื้อเข้าถึง
ทั้งอาจทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากด้วย หรือบางทีอาจมีท้องนอกมดลูก ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
- ยิ่งกว่านั้นการติดเชื้อระหว่างมีท้อง อาจก่อให้เกิดปัญหากับเด็กแรกเกิด โดยอาจจะส่งผลให้ทารกเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบแล้วก็โรคติดเชื้อที่ดวงตาจนถึงอาจจะเป็นผลให้เด็กตาบอดได้ถ้าเกิดมิได้รับการรักษา
- สำหรับผู้ชาย เชื้อโรคหนองในสามารถกระจายไปยังหลอดเก็บน้ำเชื้อ ก่อให้เกิดลักษณะของการปวดและก็บวมรอบๆอัณฑะ การรับเชื้อนี้จะมีผลให้เยื่อส่วนที่ติดเชื้อเป็นแผล ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะมีลูกยาก
- นอกเหนือจากนั้นโรคหนองในอาจส่งผลต่ออวัยวะแล้วก็ส่วนต่างๆของร่างกายอีกทั้งเพศชายและเพศหญิงได้ไม่ว่าจะเป็นหลอดลม ดวงตา หัวใจ สมอง ผิวหนัง แล้วก็ข้อต่อต่างๆแต่จะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
 

หนองในแท้ VS หนองในเทียม
หลายคนคงได้ยินชื่อโรคหนองในแท้แล้วก็โรคหนองในเทียมกันมาบ้าง ซึ่งแม้ว่าจะมีชื่อคล้ายคลึงกันแต่มีสาเหตุการได้รับเชื้อ อาการ และการรักษาที่ต่างกัน ดังนี้
 

โรคหนองในแท้
- สาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียNeisseria gonorrhea
- มีระยะการฟักตัวของโรคประมาณ 1 – 10 วัน
- อาการของเพศชาย มีอาการปัสสาวะแสบขัด รวมทั้งมีหนองสีขาวขุ่นข้นไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ ซึ่งในช่วงแรกๆหนองอาจจะไม่ขุ่นเยอะแค่ไหน แต่ว่าถ้าหากไม่ได้รับการรักษาตะทำให้หนองขุ่นขึ้น
- ลักษณะของสตรี มีอาการปัสสาวะแสบขัด มีตกขาวปริมาณมากรวมทั้งมีกลิ่นเหม็นแรง มีการอักเสบที่ปากมดลูกและก็ท่อปัสสาวะหากไม่ได้รับการรักษาจะก่อให้โรคลุกลามจนกระทั่งส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ สภาวะตันในท่อรังไข่ทำให้เป็นหมันหรือมีการท้องนอกมดลูก
- การรักษาหนองในเทียม ใช้เซฟาโลสปอรินเป็นยาฉีดและให้ยายาปฏิชีวนะ อาทิเช่นเซฟิซีม (Cefixime) 400 มิลลิกรัม ครั้งเดียว
 

หนองในเทียม
- มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียChlamydia trachomatis
- มีระยะการฟักไข่ตัวของโรคมากกว่า 10 วันขึ้นไป
- อาการของผู้ชาย ระยะเริ่มต้นอาจจะแค่เพียงรู้สึกคันที่ท่อปัสสาวะ หรือมีน้ำใสๆต่อมาจะเริ่มข้นขึ้นแล้วไหลออกมาทางท่อปัสสาวะ โดยหนองของโรคนี้จะไม่ข้นเท่าหนองในแท้
- ลักษณะของเพศหญิง บางทีอาจจะไม่มีอาการแสดงออกมาให้เห็นอย่างเห็นได้ชัด แต่มีแค่เพียงอาการคันและก็มีตกขาว อาจมีลักษณะของการปวดแสบร้อนขณะปัสสาวะร่วมด้วยซึ่งตรวจวิเคราะห์และก็รักษาได้ยาก
การรักษา ใช้ยาปฏิชีวนะกลุ่ม doxycyclin azithromycin แล้วก็ยากลุ่มควิโนโลนซึ่งใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างจะนาน
 

การป้องกันการได้รับเชื้อโรคหนองใน

- การป้องกันการได้รับเชื้อที่ดีที่สุด คือการงดมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด (ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือปาก)
- ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพราะว่ายิ่งเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อโรคเยอะขึ้น ที่สำคัญคุณควรใช้ถุงยางทุกครั้ง เพราะว่าถุงยางอนามัยเป็นวิธีการเดียวที่จะสามารถป้องกันคุณจากโรคหนองในรวมทั้งการตั้งครรภ์ได้
ขอบคุณสาระดีๆเกี่ยวกับโรคหนองในจาก https://www.honestdocs.co/gonorrhea-disease