ผู้เขียน หัวข้อ: 4 เคล็ดลับเลือกธนาคารเพื่อขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยทำอย่างไรให้ผ่าน  (อ่าน 113 ครั้ง)

ออฟไลน์ jbtsaccount

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 232
    • ดูรายละเอียด
        ปัจจุบันการขอ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สามารถทำได้ง่ายขึ้นเพราะมีการแข่งขันระหว่างสถาบันทางการเงินออกโปรโมชันต่าง ๆ มากมาย เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด ส่งผลให้ลูกค้าได้มีทางเลือกและเปรียบเทียบข้อมูลมากขึ้น ตลอดจนเงื่อนไขที่บรรดาสถาบันการเงินเหล่านั้นหยิบยกมาให้เพื่อเป็นข้อต่อรองในการขอ สินเชื่อที่อยู่อาศัย และน้อยคนนักจะรู้เคล็ดลับในการเลือกสินเชื่อที่ดีที่สุดให้กับตนเอง ดังนั้นทางเรามี 4 เคล็ดลับในการเลือกธนาคารเพื่อขอสินเชื่อมาแชร์ข้อมูลให้ทุกคนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อบ้านได้เป็นแนวทางดังนี้

1.   อัตราดอกเบี้ย
   เป็นที่รู้กันว่าแต่ละสถาบันการเงินมักมีโปรโมชันการให้สินเชื่อ กู้ปลูกบ้าน มี วิธีคิดดอกเบี้ยบ้าน ที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่, อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นหรืออัตราดอกเบี้ยลอยตัว สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ผู้กู้ควรใส่ใจและฝึกคํานวนค่างวดบ้านและวิธีคำนวณดอกเบี้ยบ้านเพื่อผลประโยชน์ของตัวท่านเอง เนื่องจากบางครั้งแม้อัตราดอกเบี้ยโดยเฉลี่ยจะเท่ากันแต่รู้หรือไม่ว่า หากอัตราดอกเบี้ยทบต้นในปีแรกที่ได้ต่ำสุดก็จะช่วยให้ผู้กู้ลดการจ่ายอัตราดอกเบี้ยลง ไปเพิ่มในส่วนของเงินต้นและที่สำคัญการรีไฟแนนซ์บ่อย ๆ ก็จะช่วยทำให้ผู้กู้ได้รับโปรโมชันในอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (เพิ่มเติม: https://krungthai.com/th/rates/viewdetail/4) ใหม่ด้วยเช่นกัน

2.   เงื่อนไขต่าง ๆ ที่ธนาคารยอมให้กู้
   โดยปกติแล้วการ กู้ปลูกบ้าน หรือ สินเชื่อบ้านแลกเงิน มักจะมีเงื่อนไขพ่วงในการขอสินเชื่อทุกครั้ง ซึ่งผู้กู้จะต้องพิจารณาและเปรียบเทียบให้ดี มิเช่นนั้นแล้วอาจเสียผลประโยชน์และเป็นข้อผูกมัดในระยะยาวก็เป็นได้ เพราะบางครั้งการที่ผู้กู้จะสามารถกู้เงินได้อย่างสะดวกและโดยง่ายนั้นอาจมีเงื่อนไขให้ต้องลำบากใจ นั่นคือการทำประกันชีวิตเพราะโดยลำพังค่างวดบ้านก็สูงพออยู่แล้วสถาบันการเงินยังให้ต้องทำประกันชีวิตอีกซึ่งถือว่าเป็นภาระของผู้กู้เป็นอย่างมาก

3.   ค่าใช้จ่ายในการกู้
   ทุกธนาคารจะต้องมีค่าธรรมเนียมเรียกเก็บในการขอสินเชื่อ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายในการกู้เงินสร้างบ้าน เช่น ค่าประเมินมูลค่าหลักประกัน, ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้, ค่าธรรมเนียมการไถ่ถอน เป็นต้น ซึ่งผู้กู้จะต้องเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ด้วยตัวเองทั้งหมดและนำเสนอต่อรองกับทางธนาคารได้

4.   หลักประกันในการใช้กู้เงิน
   ในการขอสินเชื่อต่าง ๆ สถาบันการเงินจะทำการสำรวจและประเมินสินทรัพย์ราคาพร้อมที่ดิน ซึ่งผู้กู้จำเป็นจะต้องนำโฉนดที่ดินหรือบัญชีเงินฝากอื่นมาใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ เพราะหากผู้กู้ไม่มีเอกสารหรือหลักทรัพย์ในการค้ำประกันอาจส่งผลให้การกู้เงินเป็นไปอย่างล่าช้าหรือพิจารณาไม่ผ่านก็เป็นได้

   นอกจาก 4 เคล็ดลับที่กล่าวมาข้างต้นที่ผู้กู้สามารถนำไปประยุกต์ใช้และเปรียบเทียบข้อมูลการขอสินเชื่อของแต่ละธนาคาร อย่าลืมที่จะประเมินความสามารถของตนเองในการผ่อนชำระเงินคืนด้วย อย่ากู้เงินที่เกินความสามารถของตนเองเพราะมักจะมีปัญหากู้ไม่ผ่านอยู่เสมอ ในขณะที่ใครมีอาชีพรับราชการ เครดิตดี ไม่มีปัญหาทางการเงิน การยื่นขอ สินเชื่อบ้านข้าราชการ ก็จะสามารถทำได้ง่ายและวงเงินกู้มักจะได้มากกว่าคนธรรมดาทั่วไปอีกด้วย


ที่มาข้อมูล
-   https://www.ddproperty.com/กู้เงินสร้างบ้าน-กู้กับธนาคารไหน-ให้ผ่านง่าย-6608
-   https://www.thaihometown.com/loans/5918/