ประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำมันงามีมากมาย ประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็น สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอและอี แมกนีเซียม แคลเซียม เหล็ก สังกะสี ซีลีเนียม ฟอสฟอรัส ทองแดง และไทอามีน สารอาหารเหล่านี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ รวมถึงสุขภาพของหัวใจ สุขภาพของผิวหนัง การทำงานของสมอง และแม้กระทั่งการป้องกันมะเร็ง นอกจากนี้ น้ำมันงายังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่อาจช่วยลดอาการปวดและบวมที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบและอาการอักเสบอื่นๆ
น้ำมันงายังมีคุณสมบัติต้านจุลชีพที่สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อบางชนิดที่เกิดจากแบคทีเรียหรือเชื้อรา การศึกษาพบว่าสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ Staphylococcus aureus (แบคทีเรียชนิดหนึ่ง) และ Candida albicans (เชื้อราชนิดหนึ่ง) นอกจากคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียแล้ว น้ำมันงายังมีฤทธิ์ต้านไวรัสอีกด้วย ตัวอย่างเช่น การศึกษาพบว่าสามารถยับยั้งไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคไข้หวัดได้ [^_^]
ucore ในด้านคุณประโยชน์ด้านการดูแลผิว น้ำมันงาสามารถช่วยบำรุงผิวที่แห้งกร้าน ปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดด ลดริ้วรอยและร่องลึก ต่อสู้กับแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ลดจุดด่างดำบนผิวเนื่องจากแสงแดดทำร้ายหรือแก่ก่อนวัย ช่วยบรรเทาอาการของโรคสะเก็ดเงิน เช่น อาการคันและผื่นแดง และยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวกระชับขึ้น
น้ำมันงายังเป็นที่ทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติในการรักษาเมื่อทาเฉพาะที่ สามารถใช้รักษาบาดแผลและรอยถลอกเล็กๆ น้อยๆ ตลอดจนแมลงกัดหรือต่อย เพราะช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมการรักษา นอกจากนี้บางคนยังใช้เป็นส่วนผสมในการทำมาสก์ผมแบบโฮมเมดเพราะช่วยบำรุงหนังศีรษะและเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผมที่หมองคล้ำ
น้ำมันงาสามารถใช้ในการบำบัดด้วยกลิ่นหอมเพื่อส่งเสริมการผ่อนคลายและบรรเทาความเครียด
โดยสรุปแล้วน้ำมันงามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายทั้งภายในและภายนอก อุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นและสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ คุณสมบัติต้านการอักเสบยังมีประโยชน์ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น โรคข้ออักเสบ ในขณะที่ฤทธิ์ต้านจุลชีพจะช่วยป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ประการสุดท้าย ประโยชน์ของการดูแลผิว ได้แก่ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแห้งในขณะที่ลดเลือนริ้วรอยและรอยแผลเป็นจากสิว บวกกับกลิ่นที่ผ่อนคลายทำให้เหมาะสำหรับการบำบัดด้วยกลิ่นด้วย/
[^_^]
