คุณคิดว่าจะได้เริ่มวัยเกษียณและใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง? อยู่ท่ามกลางลูกหลาน ทำงานอดิเรกที่ชอบ เดินทางท่องเที่ยว หรือได้พักผ่อนตามที่หวัง ไม่ว่าคุณปรารถนาจะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างไร สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับนั่นคือการดำเนินชีวิตมักจะถูกขับเคลื่อนด้วยเงินเสมอ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับปัจจัยสี่ที่ต้องมีเพื่อการดำรงชีวิต การ วางแผนเกษียณ ตั้งแต่เริ่มต้นทำงานเมื่ออายุยังน้อย ๆ จะช่วยให้เราออกแบบชีวิตบั้นปลายได้อย่างมั่นคงตามต้องการ เพราะเวลาผ่านไปเร็วจึงควรแพลนอนาคตไว้ล่วงหน้าในขณะที่ยังมีแรงและมีโอกาสในการทำงาน โดย
1. กำหนดอายุที่ตั้งใจจะเกษียณ แล้วคำนวณดูว่ามีเวลาทำงานอีกกี่ปีจนกว่าจะได้เกษียณตามเป้าหมาย ประเมินอายุขัยของตนเองเพื่อคำนวณจำนวนปีที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังจากเกษียณ ซึ่งพิจารณาได้จากประวัติของคนในครอบครัว สุขภาพและโรคประจำตัว ยกตัวอย่างเช่น ปัจจุบันอายุ 35 ปี อยากเกษียณตอนอายุ 60 ปี และคาดว่าตนเองน่าจะมีชีวิตอยู่จน 80 ปี นั่นแสดงว่าคุณมีเวลาทำงานอีก 25 ปี และต้องมีค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ 20 ปี
2. ประเมินค่าใช้จ่ายหลังเกษียณจากไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วค่าใช้จ่ายต่อเดือนหลังเกษียณจะลดลงกว่าเดิมประมาณ 20 - 30% แต่ก็ต้องรวมค่ารักษาพยาบาลที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคตและภาวะเสี่ยงจากเงินเฟ้อด้วย โดยคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนและรายปี
3. สำรวจเงินออมและการลงทุนที่มีในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นกองทุนต่าง ๆ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันสังคม หรือ
ประกันเงินออม ของ SCB Protect เป็นต้น
4. เปรียบเทียบเงินออมที่มีอยู่ (ข้อ 3) กับค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ (ข้อ 2) หากจำนวนเงินยังไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายตามแพลน ควรต้องวางแผนเก็บเงินออมเพิ่ม เช่น ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น วางแผนรายรับรายจ่ายอย่างรอบคอบ พร้อมลงทุนเพิ่มเพื่อต่อยอดเงินออมให้ครบตามเป้าหมายที่ได้ วางแผนเกษียณ ไว้
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้เลือกลงทุนมากมาย ทั้งพันธบัตร หุ้นกู้ หรือกองทุนรวมต่าง ๆ ซึ่งก่อนลงทุนควรทำความเข้าใจในรายละเอียดพร้อมศึกษาระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เช่น
- การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แม้จะมีความผันผวนมากแต่ก็ให้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน ได้แก่ กองทุนรวมหุ้น หุ้นสามัญ กองทุนรวมต่างประเทศ หุ้นกู้เอกชน เป็นต้น
- การลงทุนที่มีความเสี่ยงปานกลาง จะมีความผันผวนระยะสั้นระหว่างลงทุน แต่สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าได้ในระยะยาว ทั้งยังมีกระแสเงินสดหมุนเวียนสม่ำเสมอ เช่น พันธบัตรรัฐบาลระยะปานกลาง ตราสารหนี้ภาคเอกชน กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาว หุ้น หรือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
- การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าสองแบบแรกแต่มีความปลอดภัยสูงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความเสี่ยง เช่น เงินฝากประจำ หรือกองทุนรวมพันธบัตรระยะสั้น เป็นต้น
เพื่อให้ภาวะทางการเงินมั่นคงและเห็นผลชัดเจน ควรกระจายลงทุนทั้ง 3 แบบ โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ เราขอแนะนำทางเลือกที่คุ้มค่าน่าสนใจสำหรับคนที่ไม่ชอบความเสี่ยง นั่นคือ ประกันออมทรัพย์ หรือ
ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ซึ่งเป็นการออมเงินพร้อมคุ้มครองชีวิตและได้รับดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทนที่แน่นอนโดยเมื่อครบกำหนดบริษัทประกันจะจ่ายเงินก้อนให้ตามแผนประกัน
ธนาคารไทยพาณิชย์ มี SCB Protect Easy E-SAVE 10/5
ประกันออมทรัพย์ออนไลน์ที่คุ้มค่าเนื่องจากจ่ายเบี้ยระยะสั้นเพียง 5 ปี แต่ให้ความคุ้มครองถึง 10 ปี ทั้งยังเลือกวางแผนได้ตามต้องการด้วยเบี้ยประกัน 20,000 - 400,000 บาทต่อปี ได้รับเงินคืนทุกปี โดยปีที่ 1 - 5 ได้รับเงินคืน 4% ของทุนประกัน และเพิ่มเป็น 5% ในปีที่ 6 - 9 เมื่อครบสัญญาจะได้รับเงินก้อนคืน 350% ของทุนประกัน ให้การคุ้มครองชีวิตตลอดสัญญาและสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท เริ่มการออมตั้งแต่วันนี้เพื่อความมั่นคงในอนาคต
