ติดต่อได้ทางไลน์ (ไอดี) phorn_
จะมาให้รายละเอียดต่อครับ
เคยสังเกตบ้างไหมว่า iPad, iPhone...... ที่ให้ภาพที่ใสดีเวลาดูภาพตอนกลางวันท่ามกลางแสงธรรมชาติ แต่พอเราเปิดไฟนีออนช่วยเพิ่มความสว่างรอบๆ iPad, iPhone......ก็พบว่าความใสของหน้าจอลดลง และสังเกตว่าหน้าจอจะให้สีที่ออกชมพูๆ มากขึ้น ครั้นดูภาพตอนกลางคืนก็ให้ภาพเป็นอีกแบบหนึ่ง
ทีวีก็เหมือนกัน แสดงอาการแบบเดียวกัน เพียงแต่บางทีเราอาจจะดูไม่ค่อยออก เพราะทีวีโดยมากมักจะปรับสีมาอย่างค่อนข้างหยาบ
แม้ว่า ทางโรงงานที่ผลิตทีสีเหล่านั้นจะปรับภาพโดยมีมาตรฐานที่ดี (พอสมควร) ใกล้เคียงกันทุกๆ ยี่ห้อ ทุกๆ รุ่น
ที่โหมด ทีวีที่ normal ที่โหมดอุณหภูมิสี ที่ normal (ที่เหลือ cool, warm) โดยมากมักจะปรับให้อุณหภูมิสีที่โหมดนี้ให้แสดงอุณหภูมิสีที่สูงกว่าธรรมชาติเล็กน้อย (อ้างอิงว่าอุณหภูมิสีแสงในธรรมชาติอยู่ที่ 6500k ถ้าค่าสูงกว่า 6500k มากขึ้นเท่าไหร่ สีของภาพก็จะเกินจริงมากขึ้นเท่านั้น จะออกฟ้าๆ มากขึ้น / ฟ้าๆ มากที่สุดที่ cool ถ้าค่าต่ำกว่า 6500k สีจะออกเหลืองๆ มากขึ้นค่ายิ่งต่ำจะยิ่งออกแดงๆ /ค่าที่ warm จะออกแดงๆ )
แต่น่าแปลกเหมือนกัน ที่พบว่า ทีวีส่วนใหญ่มักจะปรับอุณหภูมิสีที่ค่า warm (ของทีวีเครื่องนั้นๆ) ได้ค่าอุณหภูมิสีที่ใกล้ 6500k (แต่ติดตรงที่มักจะปรับสมดุลสีให้ค่อนไปทางแดงๆ มากไปหน่อย)
และ ทีว่ามาทั้งหมดนี้ อ้างอิงขณะใช้งานทีวีเหล่านั้นท่ามกลางแสงธรรมชาติ (หรือในห้องมืดก็นับว่าใช้ได้)
ทีนี้ ส่วนใหญ่เราก็ไม่ค่อยมีใครทำการคาลิเบรตจอภาพกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวกันสักเท่าไหร่ (หมายถึงลงทุนจ้างร้านปรับแต่งระบบภาพทางโฮมเธียเตอร์มาปรับจูนสีให้)
มาอย่างไรก็ดูมันอย่างนั้น
ทีนี้ อย่างที่บอก โรงงานผู้ผลิตเครื่องทีวีเหล่านั้นจะปรับจูนสีมาค่อนข้างหยาบ อุณหภูมิสีก็ยังไม่ได้ ไอ้ค่าที่ได้ก็สมดุลสีไม่โอเคออกแดงๆ มากไป (และภาพดูทึมๆ มาก)
ไม่เพียงเท่านั้น ทีวีต่างๆ จะดูพอใช้ได้เวลาดูภาพกลางวันไม่เปิดไฟนีออน แต่ครั้นพอเปิดไฟนีออนภาพก็เปลี่ยนไป
ปัญหาที่พบมากคือ ความลึกภาพไม่ดี (เรียกว่าแย่น่าจะดีกว่า) เช่น ถ้าดูพอใช้ได้เวลาไม่เปิดไฟนีออนหากเปิดไฟนีออนจะยิ่งแย่ลงไปอีก (หรือถ้าเปิดไฟนีออนดูดี พอปิดไฟนีออนใช้แสงธรรมชาติอ้าวภาพดูแดงๆ ไม่ดี)
ต่างๆ เหล่านี้คือ เรื่องของอุณหภูมิสีและสมดุลสีเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว
หลายท่านเคยรับรู้มาว่า เรื่องอุณหภูมิสี สำคัญ ไม่รู้เรื่องอะไรมากหรอกนะ แต่เข้าใจว่า ในเมื่อ 6500k คือที่อ้างอิงแสงธรรมชาติ งั้นถ้าปรับจอภาพให้ได้อุณหภูมิสี 6500k มันก็ต้องดีสิ นั่นหมายถึงทำให้หน้าจออยู่กับค่าธรรมชาติ มันก็ต้องดีกว่าค่าที่ผิดไปจากธรรมชาติสิ ตรรกง่ายๆ
อันนี้จริงนะ แต่ ไม่ทั้งหมด
เพราะอะไร?
เพราะว่า มันต้องปรับสมดุลสีให้สมดุลถูกต้องหรือดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ณ black level นั้นๆ) ด้วย นี่เป็นเรื่องสำคัญอย่างไม่อาจจะปล่อยปละละเลยได้ (แต่บังเอิญว่า เรื่องสมดุลสีนี่ทางโรงงานจะปรับมาหยาบกว่าเรื่องอุณหภูมิสีเสียอีก)
ประกอบกับจอภาพสมัยใหม่แม้ ณ ปัจจุบันนี้ ก็ยังอยู่ที่เดิม ไม่ได้ไปไหน (มีจอภาพ OLED มีจอภาพ 4K ไม่เกี่ยวกัน ผมกล่าวถึงการปรับสีจอภาพครับยังอยู่ที่เดิม)
การไล่โทนสี การไล่โทนสีเทาคืออุปสรรคอย่างใหญ่หลวง ใช่ contrast และ brightness ก็มีส่วน แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ การไล่โทนสีแสงของทีวีต่างๆ ที่คุณใช้งานอยู่ตอนนี้ มันยังแย่กว่า .CRT TV ดีๆ ที่เราโยนทิ้ง ไม่ใส่ใจไปเมื่อกีอนหน้านี้
นั่น อย่าไปไขว่หามันเลยครับ CRT TV ปล่อยให้มันเป็นอดีตไป สู้เรามาใส่ใจปรับจูน ปรับแต่ง LCD TV, LED (LCD TV) Plasma TV ให้มันสามารถถ่ายทอดรายละเอียดความลึก ความใส ความเป็นตัวตนของวัตถุในภาพ ตลอดทั้งสีสันที่ถูกต้องเป็นธรรมชาติ (มากกว่า) ไล่โทนสี ไล่โทนแสงดีขึ้น (อย่างไม่น่าเชื่อ) และที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เรื่องรายละเอียดภาพ และความเนียนนวลดูเป็นธรรมชาติ (อารมณ์แบบอนาล็อกจากจอดิจิตอล) สิ่งต่างๆ ที่ว่ามาเหล่านี้ ด้วยการปรับจูนสมดุลสีและอุณหภูมิสี (มาด้วยกัน) ให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ของจอภาพนั้นๆ เพราะทุกจอภาพจะมีข้อจำกัดไม่เหมือนกัน บางจอบางช่วงแสงหรือ IRE ของแสง เช่นตรงช่วง IRE สูงๆ ปรับยังไงก็ออกเหลืองๆ หรือ ก่อน IRE สูงๆ ปรับยังไงก็ติดฟ้าอมม่วงนิดๆ หรือ IRE ต่ำๆ จะออกเขียวนิดๆ และที่พบมาก IRE ช่วงต่ำสุดจะออกสีน้ำเงินม่วงๆ )
/ ยังมีต่อ / phorn_ (ไอดีของไลน์ผมครับ)