ผู้เขียน หัวข้อ: 'ธุรกิจเครื่องคำนวณพื้นที่'ดันสมาชิกเลือดใหม่ขยายฐานธุรกิจ  (อ่าน 268 ครั้ง)

ออฟไลน์ tobe4421

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 33
    • ดูรายละเอียด
    • à¤Ã×èͧ¤Ó¹Ç³¾×é¹·Õè
    • อีเมล์

การดัดตน "ธุรกิจเครื่องคำนวณพื้นที่" ภายใต้การนำทัพของ พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ด้วยวิถีทางดำเนินธุรกิจที่เต็มไปด้วย วิธีพลิกแพลง จนวันนี้ "ธุรกิจเครื่องคำนวณพื้นที่" สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มแมส กลายเป็นวงจรข่ายธุรกิจขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไทยที่ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด สามารถแก่งแย่งส่วนแบ่งจากแบรนด์ต่างชาติได้ ด้วยยอดขายอันดับ 2 ในธุรกิจขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หลายชั้น ในวันนี้ ธุรกิจเครื่องคำนวณพื้นที่ ตั้งเป้าเจริญงอกงามอย่างท้าทายว่ารายได้จะทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ใน 5 ปี นับจากปี 2555 ที่ปิดตัวเลขไปที่ 5,878 ล้านบาท การจะก้าวไปถึงจุดมุ่งหมายดังกล่าว ธุรกิจเครื่องคำนวณพื้นที่ ได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดไว้อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ การวางสินค้าใหม่ โปรโมชั่น การนำระบบซีอาร์เอ็ม รวมถึงการทำตลาดที่เข้มข้น พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ ธุรกิจเครื่องคำนวณพื้นที่ กล่าวว่าด้วยความที่เป็นแบรนด์ไทย ดังนั้นสนามแข่งจึง"ไม่ธรรมดา" โจทย์ที่ต้องหาคำตอบ คือ การหาจุดต่าง (Differentiation) ในการวาง Positioning ของสินค้า จุดต่างจึงต้องมีใน 2 ส่วน คือผลิตภัณฑ์ที่เสนอต่อลูกค้า และระบบบริหารเครือข่าย เริ่มจากสินค้า ซึ่งกลยุทธ์ไม่เน้นการออกของซื้อของขายใหม่มากนัก ปีนี้จะมีสินค้าใหม่ประมาณ 10 รายการ และยังเน้นไปที่กลุ่มเฮลท์แอนด์บิวตี้ ตามเทรนด์ผู้บริโภค แม้สินค้าใหม่จะเป็นตัวสนับสนุนยอดขาย แต่ต้องบริหารให้ดี ดูเวลาให้เข้าที อย่างเช่น เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่นิยมการมีผิวขาวมาแรงไม่ขาดระยะ จึงได้มีการออกผลผลิตเครื่องดื่ม อะบาโลน คอลลาเจน มาตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งทำยอดขายแล้วถึง 13 ล้านขวด "ในแง่การบริหารการจัดการ หากป้อนสินค้าใหม่เข้าไปมากเกินไป สมาชิกนักธุรกิจ อาจโฟกัสไม่ถูก ยังไม่ทันได้เรียนรู้หรือเข้าใจในผลิตภัณฑ์ที่ดีพอ ก็มีตัวใหม่เข้ามาอีก อาจทำให้ทำงานไม่มีอำนาจ" พญ.นลินี บอกว่าการไต่ไปสู่ระดับยอดขาย 1 หมื่นล้าน "เราต้องเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 10-15% การบริหารเครือข่ายถือเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญ" จากแนวโน้มกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่อายุต่ำกว่า 30 ปี เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกเพิ่มมากขึ้น และยังมีรุ่นเจเนอเรชั่น 2 ของนักธุรกิจอิสระที่เริ่มเข้ามาทำธุรกิจต่อจากรุ่นพ่อแม่มากขึ้น คิดเป็นสัดส่วนแค่ 5% จากเมื่อ 3-5 ปีที่แล้ว ขึ้นมาถึง 20% ในปัจจุบันของจำนวนสมาชิกกว่า 6 ล้านรหัส เป็นนักธุรกิจ 5 แสนรหัส ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะเป็นแรงหนุนยอดขายของบริษัทในอนาคต