ความเสื่อมโทรมเป็นปกติของสรรพสิ่ง บ้านเองก็เหมือนกัน ย่อมมีสภาพการใช้แรงงานตามอายุ ยิ่งเป็นบ้านเก่าสร้างมานาน ก็ยิ่งจำต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการตรวจเช็คก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อ โดยยิ่งไปกว่านั้นบ้านที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขั้นไป เนื่องจากเป็นช่วงในช่วงเวลาที่ส่วนประกอบของบ้านอาจจะเริ่มต้นมีปัญหาให้เห็น ได้แก่ คาน พื้น และก็ฝาผนังฉาบปูนอาจมีรอยร้าวซึ่งรอยร้าวบางจำพวกนั้นเป็นสัญญาณที่ช่วยทำให้พวกเรารู้ถึงภัยอันตรายที่ส่งผลต่อความแข็งแรงของส่วนประกอบบ้าน แม้กระนั้นอย่างไรก็ตาม ระหว่างวิธีการตรวจเช็คสภาพองค์ประกอบบ้าน เราควรจะหาวิศวกรหรือสถาปนิกผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบด้วยทุกครั้ง สำหรับเพื่อการวิเคราะห์สภาพความแข็งแรงของบ้าน แบ่งเป็นหัวข้อจากด้านนอกสู่ข้างในบ้านตามลำดับดังต่อไปนี้
1. ตรวจภาวะด้านนอกบ้าน
วิเคาระห์ภาวะบริเวณรอบๆบ้านว่ามีการทรุดมากน้อยแค่ไหนบางทีอาจสังเกตได้จากที่จอดรถหรือลานล้าง
สังเกตว่าน้ำฝนจากตึกใกล้กันสามารถไหลเข้ามาในบริเวณบ้านได้ไหม
มีต้นไม้ใหญ่ยื่นเข้ามาบังแดดหรือมีระบบรากชอนไชที่สามารถดันกำแพงบ้านเสียหายไหม
เช็คที่ตั้งของบ้านว่าอยู่ในที่ลุ่มน้ำท่วมไหมรวมทั้งมีระดับน้อยกว่าถนนหนทางหน้าบ้านแค่ไหน
ตรวจเช็คว่าอาคารใกล้กันมีการขุดบ่อหรือสระใกล้บ้านจนอาจจะทำให้บ้านทรุดพังทลายได้ไหม
ตรวจเช็คหลังคาบ้านว่ามีน้ำฝนรั่วซึมเข้าบ้านหรือไม่
ตรวจเช็คภาวะสีบนผนังของบ้านว่ามีร่องรอยด่างบวมหรือเปล่า
2. ตรวจสอบงานระบบ
ตรวจระบบน้ำประปาว่ามีการรั่วซึมของน้ำรอบๆฝาผนังและใต้น้ำหรือไม่
ตรวจเช็คระบบไฟฟ้า พินิจสายไฟว่าหมดสภาพหรือไม่
3. ตรวจเช็คสภาพโครงสร้างอาคาร
พินิจภาวะรวมของตัวบ้านว่าอยู่ในแนวตั้งตั้งฉากกับพื้นหรือไม่
องค์ประกอบเสาและคานรับน้ำหนักบ้านต้องไม่แอ่นหรือเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
ตรวจค้นรอยร้าวในคานและเสาเพราะเหตุว่าเสาและก็คานเป็นส่วนประกอบหลักที่รับน้ำหนักบ้าน
ดูลักษณะรอยแตกร้าวบนพื้นด้านในภายว่าเป็นรอยร้าวที่มีผลต่อความแข็งแรงขององค์ประกอบตึกหรือไม่
มีรอยแตกร้าวเป็นเพียงแต่รอยร้าวของผิวอุปกรณ์ตกแต่งพื้น หรือมีเหตุที่เกิดจากพื้น
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
ซื้อขายบ้านที่มา :
http://www.bangkokassets.com/Tags : ขายบ้าน